ค้นหา :
รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
รวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
หมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
มหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
มหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
ท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
ล่องเรือชมฟยอร์ดไกแรงเกอร์ เมืองโอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
ไกแรงเกอร์ฟยอร์ด (Geirangerfjord) หนึ่งในฟยอร์ดที่สวยที่สุดในโลก และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วยภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์ของหน้าผาสูงชัน น้ำตกที่ตกลงมาจากหน้าผา และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมฟยอร์ด ทำให้ไกแรงเกอร์ฟยอร์ดเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความงามของธรรมชาติอันบริสุทธิ์แห่งนอร์เวย์
ท่าเรือสำราญโอเลซุนด์ เมืองโอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
เมืองโอเลซุนด์ (Alesund) เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนเกาะแก่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศนอร์เวย์ เป็นหนึ่งในเมืองที่มีความงดงามที่สุดในประเทศ และเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวหลายคนไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางมาถึงนอร์เวย์ โดยเฉพาะผู้ที่มาถึงด้วยเรือสำราญที่ Alesund Cruise Port
มหาวิหารเบอร์เกน เมืองเบอร์เกน ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารเบอร์เกน (Bergen Cathedral) ตั้งตระหง่านอยู่ในเมืองเบอร์เกน ประเทศนอร์เวย์ ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานร่วม 900 ปี มหาวิหารแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนพยานแห่งกาลเวลาที่บันทึกเรื่องราวของเมืองและผู้คน
ภูเขาเฟลเยน เมืองเบอร์เกน ประเทศนอร์เวย์
ภูเขาเฟลเยน (Mt. Floyen) เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเมืองเบอร์เกน ประเทศนอร์เวย์ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางขึ้นไปบนภูเขาด้วยรถรางไฟฟ้า เพื่อชมวิวอันตระการตาของเมืองเบอร์เกนและฟยอร์ดที่รายล้อม
บริกเกน เมืองเบอร์เกน ประเทศนอร์เวย์
บริกเกน (Bryggen) คือย่านประวัติศาสตร์ริมทะเลของเมืองเบอร์เกน ประเทศนอร์เวย์ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปีค.ศ. 1979 ย่านนี้มีความโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมไม้สีสันสดใสเรียงรายกันเป็นแถวยาวริมท่าเรือ
ท่าเรือเบอร์เกน เมืองเบอร์เกน ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือเบอร์เกน (Port of Bergen) เป็นหนึ่งในท่าเรือที่สำคัญที่สุดในนอร์เวย์ ตั้งอยู่ในเมืองเบอร์เกน ซึ่งเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในฐานะประตูสู่ฟยอร์ดที่งดงามและธรรมชาติอันหลากหลาย ท่าเรือแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีบทบาทสำคัญในการค้าและการท่องเที่ยวของประเทศ
8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจาง – ดาลัด ประเทศเวียดนาม
หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองชายทะเลสุดคึกคักอากาศอบอุ่น แล้วไปผ่อนคลายในเมืองแห่งภูเขาอากาศเย็นสบายที่เวียดนามใต้ ญาจางและดาลัดคือคำตอบ! สองเมืองนี้จะพาคุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมที่หลากหลาย Palanla ได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจางและดาลัดมาให้แล้วในบทความนี้
อาสนวิหารญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
อาสนวิหารญาจาง (Christ the King Cathedral Nha Trang) หรือ โบสถ์หินญาจาง สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม อายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง ด้วยผนังหินสีน้ำตาลเข้มที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง และหลังคาสูงชะลูดที่ดูอลังการ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว
หาดญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หาดญาจาง (Nha Trang Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศเวียดนาม ด้วยชายรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ความยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่โอบล้อมอ่าวญาจาง ในจังหวัดหวัดคั้ญฮวา ท่ามกลางภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญๆ มากมาย
หอคอยแตร่มเฮือง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หอคอยแตร่มเฮือง (Tram Huong Tower) สัญลักษณ์และจุดเช็กอินยอดนิยมของหาดญาจางในปัจจุบัน
วินเพิร์ลแลนด์ เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วินเพิร์ลแลนด์ (Vinpearl Land) เป็นสวนสนุกและรีสอร์ตหรูครบวงจรระดับโลกที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่สวยงามติดทะเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของการไปเที่ยวที่นี่คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก
วัดลองเซิน เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระใหญ่” เป็นวัดพุทธมหายานเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม นอกจากความสวยงามอลังการของตัววัดแล้ว จากยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของเมืองญาจางและทะเลได้อย่างสวยงาม
วัดตั๊กลัม เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
วัดตั๊กลัม (Truc Lam Monastery of Da Lat) เป็นวัดพุทธในนิกายเซนบนยอดเขาเฟืองฮว่าง นอกจากภายในบริเวณวัดจะมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม ยังมีการจัดตกแต่งภูมิทัศน์โดยรอบด้วยสวนดอกไม้สดสวย ถือเป็นวัดที่งดงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในดาลัด
น้ำตกดาตันลา เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) ไม่เพียงแต่เป็นน้ำตกที่สวยงาม แต่ยังซ่อนเรื่องราวตำนานพื้นเมืองของดาลัดที่น่าสนใจเอาไว้ นอกจากสัมผัสความเย็นฉ่ำของละอองน้ำที่กระเซ็นจากม่านน้ำตกแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ คือการนั่งรถรางลัดเลาะไปตามเส้นทางที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันเขียวขจี
เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก (Linh Phuoc Pagoda) วัดศาสนาพุทธนิกายเซนในดาลัด โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ตัวอาคารทำจากเศษกระเบื้องเคลือบงดงามวิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่ที่พันรอบองค์พระเจดีย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัด
อุทยานเมืองเก่าพิจิตร จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
อุทยานเมืองเก่าพิจิตร (Pichit Historical Park) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด เชื่อกันว่าเดิมทีบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของเมืองพิจิตรเก่า
สะพานอันชุน...เส้นทางข้ามกาลเวลากว่า 300 ปี | เมืองเฉิงตู ประเทศจีน
สะพานอันชุน (Anshun Bridge) เป็นสะพานโบราณที่ตั้งตระหง่านเหนือแม่น้ำจินเจียง ใจกลางเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน นอกจากสะพานหินโค้งแห่งนี้จะเป็นทางข้ามที่เชื่อมต่อสองฝั่งแม่น้ำเข้าหากันแล้ว ยังเป็นสถาปัตยกรรมอันงดงามที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองเฉิงตูที่ยาวนา เพราะในอดีตสะพานอันชุนเคยเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม (Silk Road) เส้นทางการค้าโบราณที่เชื่อมต่อจีนกับตะวันตกด้วย
อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย เมืองจางเจียเจี้ย ประเทศจีน
อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie National Forest Park) เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของจีน ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมณฑลหูหนาน ประเทศจีน สวรรค์บนดินแห่งนี้เผยให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ด้วยความสวยงามตระการตาของภูเขาหินทรายที่สูงตระหง่านกับป่าไม้เขียวชอุ่ม จางเจียเจี้ยจึงกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพยนตร์เรื่อง Avatar จนได้รับการขนานนามว่า "แพนโดร่าแห่งโลกมนุษย์"
ภูเขาเทียนเหมินซาน เมืองจางเจียเจี้ย ประเทศจีน
ภูเขาเทียนเหมินซาน (Tianmen Shan) เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในจางเจียเจี้ย มณฑลหูหนาน ประเทศจีน ด้วยสถานที่มหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ถูกขนานนามว่า "ประตูสวรรค์" บวกกับความสวยงามของธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ใจระดับ 5 A ที่นี่จึงได้รับยกย่องให้เป็นภูเขาที่สวยที่สุด 1 ใน 4 ของจีน และยังได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ให้เป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 1992 อีกด้วย
แกรนด์แคนยอนจางเจียเจี้ย เมืองจางเจียเจี้ย ประเทศจีน
แกรนด์แคนยอนจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie Grand Canyon) เป็นที่ตั้งของสะพานกระจกข้ามเขาที่ยาวและสูงที่สุดในโลกกับ สะพานแก้วจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie Glass Floor Bridge) ทางเดินลอยฟ้าเหนือแกรนด์แคนยอนอันตระการตา
ตึก 72 ชั้น เมืองจางเจียเจี้ย ประเทศจีน
แม้จางเจียเจี้ยจะขึ้นชื่อเรื่องภูเขาหินทรายสูงตระหง่าน ป่าเขียวขจี และธรรมชาติอันงดงาม แต่เมืองนี้ก็มีการพัฒนาไปพร้อมๆ ตึกสูง 72 ชั้น Xiangyin Tianmen Yihao หรือที่รู้จักในชื่อ 72 Qi Lou แลนด์มาร์กแห่งล่าสุดของจางเจียเจี้ยก็เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงนี้ ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวที่ถูกกล่าวถึงอย่างมาก ด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและวิวทิวทัศน์อันตระการตาของเมืองจางเจียเจี้ย
สะพานอันชุน เมืองเฉิงตู ประเทศจีน
สะพานอันชุน (Anshun Bridge) เป็นสะพานโบราณที่ตั้งตระหง่านเหนือแม่น้ำจินเจียง ใจกลางเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน นอกจากสะพานหินโค้งแห่งนี้จะเป็นทางข้ามที่เชื่อมต่อสองฝั่งแม่น้ำเข้าหากันแล้ว ยังเป็นสถาปัตยกรรมอันงดงามที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองเฉิงตูที่ยาวนา เพราะในอดีตสะพานอันชุนเคยเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม (Silk Road) เส้นทางการค้าโบราณที่เชื่อมต่อจีนกับตะวันตกด้วย
ศูนย์กลางการเงินโลกเซี่ยงไฮ้ เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
ศูนย์กลางการเงินโลกเซี่ยงไฮ้ (Shanghai World Financial Center) อาคารความสูง 492 เมตร ซึ่งเคยเป็นตึกสูงที่สุดในประเทศจีน ก่อนที่จะถูกเซี่ยงไฮ้ ทาวเวอร์ (Shanghai Tower) ชิงตำแหน่งนี้ไปครองในปี ค.ศ.2015
วัดเต๋าฉินชี่ หยางเตี้ยน เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
วัดเต๋าฉินชี่ หยางเตี้ยน (Shanghai Qinci Yangdian Taoist Temple) แห่งเมืองเซี่ยงไฮ้ เป็นวัดลัทธิเต๋าที่เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดในเซี่ยงไฮ้ สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 3
เซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์ เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
เซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์ (Shanghai Tower) เป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศจีน กับความสูง 632 เมตร (2,073 ฟุต) ในย่านธุรกิจ Lujiazui ของเมืองเซี่ยงไฮ้
สวนหลิวหยวน เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
สวนหลิวหยวน หรือ สวนสิงโต (Lion Forest Garden) เป็นสวนจีนโบราณที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน สวนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของและชื่อหลายครั้งตลอดหลายศตวรรษ สวนหลิวหยวน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสวนคลาสสิกที่สำคัญที่สุดของซูโจว และเป็นส่วนหนึ่งของ "สวนคลาสสิกของซูโจว" ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ.2000
สวนจัวเจิ้ง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
สวนจัวเจิ้ง (Humble Administrator’s Garden) เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในซูโจวและได้ชื่อว่าเป็นสวนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีนตอนใต้ สวนแห่งนี้ถูกใช้เป็นฉากหลังของภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์จีนหลายเรื่องด้วยกัน และได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1997
เนินเขาเสือ เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
เนินเขาเสือ หรือเนินหู่ชิว (Tiger Hill) ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในซูโจว นักท่องเที่ยวนิยมปีนขึ้นไปชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่มีเสน่ห์และโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าของซูโจว ไม่ว่าจะเป็นหลุมศพโบราณ บ่อน้ำ เจดีย์ และห้องสมบัติ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสความสวยงามของทิวทัศน์ในวรรณคดีจีนโบราณ โดยที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย
ทะเลสาบจินจี เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
ทะเลสาบจินจี (Jinji Lake) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในซูโจว ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสวนสาธารณะริมทะเลสาบ ศูนย์จัดแสดงสินค้า พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ฯลฯ ถือเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองซูโจว
ถนนซานถัง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
ถนนซานถัง (Shantang Street) ถนนโบราณที่มีความเก่าแก่เกือบ 1,200 ปี ครั้งหนึ่งถนนสายนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ปัจจุบันซานถังยังคงเป็นถนนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยได้รับการยกย่องว่าเป็น “ภาพย่อของซูโจวเก่า” และยังถูกจัดอันดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAA ของประเทศ
อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น (Grand Canal National Culture Park) เป็นส่วนหนึ่งของคลองต้ายุ่นซึ่งทอดตัวยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร และเป็นแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรมสำคัญในประเทศจีนมานานกว่า 2,500 ปี ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองซูโจว
12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปราก | สาธารณรัฐเช็ก
ปราก (Prague) เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลนี้ ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปยุโรป ในอดีต เมืองปรากเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองอันยิ่งใหญ่ของทวีปยุโรป ซึ่งอารยธรรมแห่งความยิ่งใหญ่ และเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานนั้น ก็ยังคงสะท้อนอยู่ในวิถีชีวิตของชาวเมือง วัฒนธรรมประเพณี สถาปัตยกรรม ฯลฯ ราวกับมรดกที่สืบทอด และรักษากันมาอย่างดี จนถูกยกให้เป็นเมืองที่มีความน่าหลงใหล ควรค่าแก่การไปสัมผัสความเป็นยุโรปมากที่สุด โดยเมืองปรากยังได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย ปัจจุบันเมืองนี้นับเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญ ของบรรดานักท่องเที่ยวที่มาเยือนทวีปยุโรป ไปชม 12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปรากพร้อมๆ กันกับ Palanla!
หมู่บ้านน้ำอูเจิ้น เมืองถงเซียง มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน
หมู่บ้านน้ำอูเจิ้น (Wuzhen Water Town) ฉายา "เวนิสแห่งตะวันออก" เป็นเมืองโบราณอายุกว่า 7,000 ปีที่เหมือนย้อนเวลาพากลับไปในอดีต ด้วยบ้านเรือนบรรยากาศแบบจีนโบราณ มีคลองน้ำล้อมรอบ สะพานหินทรงโค้ง และผู้คนที่ยังคงใช้เรือในการสัญจรไปมา
วัดหลิงอิ่น เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน
วัดหลิงอิ่น (Lingyin Temple) เป็นวัดพุทธโบราณอายุมากถึง 1,600 ปี โอบล้อมไปด้วยเนินเขาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุและงานแกะสลักทางพุทธศาสนามากมายที่มีประวัติยาวนาน เชื่อมโยมกับจุดกำเนิดของพระอรหันต์ “จี้กง” วัดแห่งนี้จึงเป็นวัดพุทธที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน
ทะเลสาบซีหู เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน
ทะเลสาบซีหู หรือ ทะเลสาบตะวันตก (Xi Hu West Lake) เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องความงามตามธรรมชาติ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และต้นกำเนิดตำนานความรักของนางพญางูขาวอันโด่งดัง
ถนนเก่าเหอฟาง เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน
ถนนเก่าเหอฟาง (Hefang Old Street) ถนนเก่าเหอฟาง ถนนอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการค้าที่คึกคักของหางโจว ถนนเส้นนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตและสัมผัสเสน่ห์แบบดั้งเดิมของเมืองนี้ ได้ซึมซับกับวัฒนธรรมท้องถิ่น และลิ้มรสอาหารพื้นเมืองอร่อยๆ
เจดีย์เหลยเฟิง เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน
เจดีย์เหลยเฟิง (Leifeng Pagoda) สถาปัตยกรรมงามสง่าบนเนินเขา ริมทะเลสาบซีหู ในหางโจว ประเทศจีน สถานที่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เชื่อมโยงกับตำนานนางพญางูขาว และมีความสวยงามจนได้รับการเรียกขานว่า “อาทิตย์อัสดงที่เหลยเฟิง”
8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อิสตันบูล (Istanbul) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นนคร 2 ทวีป ซึ่งมีช่องแคบบอสฟอรัสเป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรปและเอเชียแห่งนี้ คือเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมานับพันๆ ปี จึงไม่น่าแปลกใจหากอิสตันบลูจะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่และงดงามทรงคุณค่ามากมายที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นยุโรปและเอเชียจากอดีตจนถึงปัจจุบัน Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูลที่หากมีโอกาสไปเยือนประเทศตุรกีไม่ควรพลาด
ล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ช่องแคบบอสฟอรัส เป็นช่องแคบเล็กๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของตุรกี เคยเป็นทั้งเส้นทางการค้าที่สำคัญ และยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาจนถึงปัจจุบัน การล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) จึงเป็นวิธีที่ดีที่จะได้สัมผัสบรรยากาศ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมที่หลากหลายของอิสตันบูล
อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Sarnici) คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของตุรกี ดินแดนที่เต็มไปด้วยประวัติความเป็นมามากกว่าพันปี อุโมงค์เก่าแก่ขนาดใหญ่แห่งนี้คือสถานที่เก็บน้ำในสมัยโบราณที่ยังคงความยิ่งใหญ่และงดงาม กับเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างเสากรีกที่ค้ำเรียงรายมากถึง 336 ต้น และเสาเมดูซ่าพร้อมตำนานที่เล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคน รวมถึงซากโบราณของพระราชวังใต้ดินแห่งกรุงคอนสแตนติโนเปิลสมัยไบเซนไทน์อีกด้วย
ตลาดเครื่องเทศ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ตลาดเครื่องเทศ (Historical Spice Bazaar / Egyptıan Spıce Bazaar) ในอิสตันบูล เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก ตลาดแห่งนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ในสมัยจักรวรรดิออตโตมัน เดิมทีเป็นจุดแลกเปลี่ยนเครื่องเทศ ผ้าไหม และสินค้าอื่นๆ จากเอเชียมาสู่ยุโรป
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
บูดาเปสต์ (Budapest) เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี ตัวเมืองถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง ด้วยแม่น้ำดานูบที่ไหลผ่านกลางเมือง ทำให้ในเมืองเต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกจากสถาปัตยกรรมอันสวยงาม เปี่ยมเสน่ห์ที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือน Palanla ได้รวบรวมเอา 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์มาให้แล้วในคลิปนี้ค่ะ
เชสกี้ ครุมลอฟ เมืองมรดกโลกสุดโรแมนติก | สาธารณรัฐเช็ก
เชสกี้ ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) เมืองมรดกโลกจากยุคกลางที่มีเสน่ห์และงดงามราวภาพวาดซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาชื่นชม กับภาพของถนนคดเคี้ยวที่ปูด้วยหิน ปราสาทเชสกี้ ครุมลอฟ (Cesky Krumlov Castle) อันยิ่งใหญ่ และบ้านเรือนที่มีลักษณะเป็นเอกลักษณ์ซึ่งยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี
มหัศจรรย์นาฬิกาดาราศาสตร์ ณ อาคารศาลาว่าการเมืองเก่า | ปราก สาธารณรัฐเช็ก
ศาลาว่าการเมืองเก่า (Old Town Hall) แลนด์มาร์กสำคัญแห่งหนึ่งของย่านเมืองเก่า ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1338 ประกอบไปด้วยกลุ่มอาคารสไตล์โกธิค (Gothic) กับเรอเนสซองส์ (Renaissance) ปัจจุบันศาลาว่าการแห่งนี้เหลืออยู่เพียง 5 หลัง และมีหอคอยประจำศาลาว่าการที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และสิ่งประดิษฐ์ทรงคุณค่าระดับโลกอย่างนาฬิกาดาราศาสตร์ (Astronomical Clock) อันน่าทึ่งมากที่สุดชิ้นหนึ่ง
12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
ปราก (Prague) เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลนี้ ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปยุโรป ในอดีต เมืองปรากเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองอันยิ่งใหญ่ของทวีปยุโรป ซึ่งอารยธรรมแห่งความยิ่งใหญ่ และเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานนั้น ก็ยังคงสะท้อนอยู่ในวิถีชีวิตของชาวเมือง วัฒนธรรมประเพณี สถาปัตยกรรม ฯลฯ ราวกับมรดกที่สืบทอด และรักษากันมาอย่างดี จนถูกยกให้เป็นเมืองที่มีความน่าหลงใหล ควรค่าแก่การไปสัมผัสความเป็นยุโรปมากที่สุด โดยเมืองปรากยังได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย ปัจจุบันเมืองนี้นับเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญ ของบรรดานักท่องเที่ยวที่มาเยือนทวีปยุโรป ไปชม 12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปรากพร้อมๆ กันกับ Palanla!
ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ (Fashion Street Budapest) เป็นถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงในใจกลางเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ถนนสายนี้เป็นที่รู้จักในด้านร้านค้าแฟชั่นชั้นนำจากแบรนด์ระดับโลก อาทิ Gucci, Louis Vuitton, Dior, Armani, Prada และ Chanel ถนนสายนี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่มากมาย จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองบุดาเปสต์เองด้วย
ล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ (Dinner Cruise Budapest) เป็นวิธียอดเยี่ยมในการชมความสวยงามของเมืองบูดาเปสต์ โดยขณะที่เรือล่องไปตามแม่น้ำดานูบ (Danube River) นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงามของสะพาน พระราชวัง และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ รวมทั้งอิ่มอร่อยกับอาหารรสเลิศและเครื่องดื่มแสนอร่อย
ศาลาว่าการเมืองเก่าและนาฬิกาดาราศาสตร์ เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
ศาลาว่าการเมืองเก่า (Old Town Hall) แลนด์มาร์กสำคัญแห่งหนึ่งของย่านเมืองเก่า ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1338 ประกอบไปด้วยกลุ่มอาคารสไตล์โกธิค (Gothic) กับเรอเนสซองส์ (Renaissance) ปัจจุบันศาลาว่าการแห่งนี้เหลืออยู่เพียง 5 หลัง และมีหอคอยประจำศาลาว่าการที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และสิ่งประดิษฐ์ทรงคุณค่าระดับโลกอย่างนาฬิกาดาราศาสตร์ (Astronomical Clock) อันน่าทึ่งมากที่สุดชิ้นหนึ่ง
กำแพงเลนนอน เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
กำแพงเลนนอน (Lennon Wall) แลนด์มาร์คอีกแห่งหนึ่งของเมืองปรากที่ถูกปกคลุมไปด้วยกราฟิตี้หลากลวดลายสีสันและข้อความต่างๆ กลายเป็นเหมือนอนุสรณ์แห่งเสรีภาพและสัญลักษณ์อันทรงพลังของการประท้วงต่อต้านระบอบคอมมิวนิสต์ในเชโกสโลวาเกีย
พระใหญ่หลิงซาน เมืองอู๋ซี มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
พระใหญ่หลิงซาน (หลิงซานต้าฝอ , 灵山大佛) หนึ่งในพระพุทธรูปที่สูงที่สุดในโลก และสวยงามที่สุดในประเทศจีน อีกทั้ง ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวประจำชาติระดับสูงสุดที่ 5A (National AAAAA Tourist Attraction) อีกด้วย
หอชมเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย
หอชมเมืองนครสวรรค์ (Nakhon Sawan Observation Tower) เป็นหอชมเมืองที่ตั้งอยู่บนเขาคีรีวงศ์ จุดชมวิวจะตั้งอยู่บริเวณชั้น 10 ของหอชมเมืองซึ่งสามารถชมวิวเมืองนครสวรรค์จากมุมสูงได้โดยรอบ และมองเห็นทิวทัศน์ของธรรมชาติที่อยู่ไกลออกไปได้อย่างเต็มตา นอกจากนี้บริเวณชั้น 1 ยังมีร้านขายของที่ระลึกซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่นให้เลือกซื้ออีกด้วย หอชมเมืองนครสวรรค์จึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองปากน้ำโพที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
13 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
ซิดนีย์ เมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและสีสัน ทั้งสถาปัตยกรรมที่สวยงามแบบคลาสสิก บรรยากาศชายหาดอันผ่อนคลายๆ แบบออสซี่ ย่านช้อปปิ้ง ห้างหรู ไปจนถึงพื้นที่สีเขียวริมอ่าว และตลาดปลาที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลกก็รวมกันอยู่ ณ มหานครแห่งนี้อย่างกลมกล่อมและครบทุกมิติ Palanla จะพาไปชม 13 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมืองที่ได้ชื่อว่าน่าอยู่ที่สุดในโลกติดอันดับ 4 จากการจัดอันดับของ Economist Intelligence Unit (EIU) ประจำปี 2023
ปราสาทเบลฟาสต์ เมืองเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ
ปราสาทเบลฟาสต์ (Belfast Castle) เป็นคฤหาสน์เก่าแก่หลังใหญ่ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบสกอตต์บารอนอย่างงดงาม ถือเป็นแลนด์มาร์กขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นบนเนินเขาเคฟฮิลล์ในเมืองเบลฟาสต์ นอกจากปราสาทเบลฟาสต์จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ที่นี่ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญต่างๆ เช่น งานแต่งงานและการประชุมทางธุรกิจ นอกจากนี้ ด้วยพื้นที่เนินเขาที่อยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 120 เมตร จึงทำให้ที่นี่เป็นจุดชมวิวเมืองเบลฟาสต์จากมุมสูงอีกด้วย
ตลาดเซนต์จอร์จ เมืองเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ
ตลาดเซนต์จอร์จ (St George’s Market) เป็นตลาดในร่มสไตล์วิคตอเรียนแห่งสุดท้ายที่ยังเปิดทำการอยู่ในเมืองเบลฟาสต์ ตลาดแห่งนี้เปิดทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ช่วงสายถึงบ่ายสอง โดยมีแผงขายอาหาร สินค้าแฮนด์เมด และสินค้าหลากหลายประเภท ท่ามกลางดนตรีสดและบรรยากาศที่คึกคัก ตลาดแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองในทุกสุดสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดเซนต์จอร์จยังได้รับรางวัลทั้งระดับท้องถิ่นและระดับประเทศทางด้านผลผลิตสดใหม่ในท้องถิ่นและบรรยากาศที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งยังได้รับการเสนอชื่อให้เป็นตลาดในร่มขนาดใหญ่ที่ดีที่สุดของสหราชอาณาจักรประจำปี 2023 จาก NABMA Great British Market Awards อีกด้วย
กำแพงเมืองเดอร์รี เมืองลอนดอนเดอร์รี่ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ
กำแพงเมืองเดอร์รี (The Derry Walls) เป็นอนุสรณ์สถานที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไอร์แลนด์เหนือ และเป็นกำแพงเมืองที่ยาวที่สุดและมีความสมบูรณ์ที่สุดในบรรดาเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบที่เหลืออีก 30 เมืองในไอร์แลนด์อีกด้วย กำแพงเมืองเดอร์รี่อยู่ใกล้กับแม่น้ำฟอยล์ มีประตูเมือง 7 ประตู ภายในกำแพงเมืองเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น ปราสาท ศาลากลาง และโบสถ์ ไฮไลท์ของกำแพงเมืองแห่งนี้คือปืนใหญ่จำนวน 22 กระบอกที่เรียงรายไปตามป้อมปราการของกำแพงเมือง ปืนเหล่านี้เป็นปืนโบราณจากศตวรรษที่ 16, 17 และ 18 โดยมีปืนโรริงเมกอันโด่งดังตั้งอยู่ที่ป้อมปราการที่อยู่ใกล้ประตูบิชอป กำแพงเมืองเดอร์รี่จึงถือเป็นแหล่งมรดกที่มีความสำคัญระดับชาติและเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ควรแวะเที่ยวชม
เมืองโบราณตริโปลิส จังหวัดเดนิซลี ประเทศตุรกี
เมืองโบราณตริโปลิส (Tripolis Ancient City) เป็นเมืองประวัติศาสตร์ ในจังหวัดเดนิซลีของตุรกี สถานที่แห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่สมัยโบราณ โดยก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในฐานะชุมชนชาวกรีกโบราณ นับเป็นหนึ่งในสามเมืองสำคัญของภูมิภาค เช่นเดียวกับเมืองเลาดีเซีย (Laodicea) และเมืองเฮียราโพลิส (Hierapolis) ที่มีชื่อเสียง
สะพานสตอรี่ เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย
สะพานสตอรี่ (Story Bridge) สะพานเหล็กอันเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของเมืองบริสเบน ที่ทอดข้ามแม่น้ำบริสเบน (Brisbane River) ประเทศออสเตรเลีย สตอรี่บริดจ์ไม่ได้เป็นเพียงเส้นทางคมนาคมเท่านั้น ทว่ายังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของบริสเบนอีกด้วย
อาสนวิหารแองกลิกันเซนต์จอห์น เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย
อาสนวิหารแองกลิกันเซนต์จอห์น (Saint John’s Anglican Cathedral) เป็นอาสนวิหารงามสง่าในรูปแบบฟื้นฟูกอธิคในเมืองบริสเบนที่สร้างมานานกว่า 122 ปี
อนุสรณ์สถานจัตุรัสแอนแซค เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย
อนุสรณ์สถานจัตุรัสแอนแซค (Anzac Square Memorial) เป็นสถานที่สำคัญในเมืองบริสเบนและเป็นสัญลักษณ์แห่งความเคารพต่อผู้ที่เสียสละชีวิตรับใช้ประเทศออสเตรเลียในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
ตลาดเซาธ์ แบงค์ เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย
ตลาดเซาธ์ แบงค์ (South Bank Market) เป็นตลาดที่คึกคัก มีชีวิตชีวา ละลานตาไปด้วยร้านค้าต่างๆ รวมถึงอาหารอร่อยๆ กับบรรยากาศแสนผ่อนคลายและทัศนียภาพที่สวยงามริมแม่น้ำบริสเบน
เซาธ์ แบงค์ พาร์คแลนด์ เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย
เซาธ์ แบงค์ พาร์คแลนด์ (South Bank Parklands) 1 ใน 7 สวนสาธารณะของออสเตรเลียที่ได้รับรางวัล Green Flag Award (ปี ค.ศ.2016) ซึ่งเป็นรางวัลด้านความเป็นเลิศในเรื่องพื้นที่สีเขียว มีเส้นทางเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน และท่าเรือเลียบไปกับแม่น้ำบริสเบนที่ไหลผ่านกลางเมือง
8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม
เว้ (Thua Thien Hue) เป็นหนึ่งในเมืองอันดับต้นๆ ของเวียดนามที่รวบรวมเอาสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเป็นชาติเวียดนามเอาไว้มากมาย ผ่านสถาปัตยกรรมที่สวยงามและมีนัยยะสำคัญทางความหมาย ทั้งจากอดีตและในปัจจุบัน หากต้องการรู้จักเวียดนาม แน่นอนว่าเราจึงไม่อาจปฏิเสธการมาเยี่ยมชมเมืองเว้ไปได้ Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเว้ ประเทศเวียดนามพร้อมๆ กัน
หมู่บ้านเมืองฮัว จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
หมู่บ้านเมืองฮัว (Muong Hoa Village) เป็นหมู่บ้านชาวม้งที่ตั้งอยู่ในหุบเขาเมืองฮัวของเมืองซาปา ไฮไลท์ของที่นี่คือทิวทัศน์ทางธรรมชาติอันสวยงามของนาข้าวขั้นบันไดท่ามกลางภูเขาและป่าไม้ โดยจะมีความสวยงามที่สุดในช่วงเดือนกันยายนซึ่งเป็นช่วงที่รวงข้าวสุกงอมเป็นสีทองอร่ามไปทั้งไหล่เขาท่ามกลางภูเขาที่โอบล้อม และในบางช่วงเวลาจะมีสายหมอกปกคลุม เป็นจุดชมวิวธรรมชาติที่สวยงามและมีบรรยากาศที่เงียบสงบ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีร้านอาหารท้องถิ่นและที่พักแบบโฮมสเตย์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
ฮองไก จังหวัดกว๋างนิญ ประเทศเวียดนาม
ฮองไก (Hong Gai) เป็นย่านหนึ่งในเมืองฮาลองที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งของอ่าวฮาลอง เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องบรรยากาศที่เงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน และมีธรรมชาติที่สวยงาม รวมทั้งมีร้านอาหารทะเลอร่อยๆ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนอ่าวฮาลองและชอบความสงบนิยมไปพักผ่อนบริเวณชายหาดของฮองไก นอกจากนี้ ในพื้นที่ของฮองไกยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งอีกด้วย เช่น พิพิธภัณฑ์กว๋างนิญ ภูเขาไป่โถ ตลาดฮาลอง และศูนย์การค้าวินคอมพลาซ่าฮาลอง
Harbour Bridge : สะพานโครงเหล็กแห่งเมืองซิดนีย์
ฮาร์เบอร์บริดจ์ (Harbour Bridge) หรือที่คนซิดนีย์มักเรียกชื่อเล่นด้วยความรักใคร่ว่า “ไม้แขวนเสื้อ” (Coat hanger) เป็นสะพานโครงเหล็กที่มีช่วงกลางระหว่างตอม่อสองข้างยาวที่สุดในโลก ที่ทอดยาวเชื่อมเมืองฝั่งเหนือ และฝั่งใต้ของซิดนีย์เข้าหากัน สะพานแห่งนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซิดนีย์ก่อนที่จะมีการสร้างโอเปร่าเฮ้าส์ (Opera House) และแม้กระทั่งในปัจจุบันก็ยังเป็นที่จดจำ และคุ้นตาชาวโลกเมื่อนึกถึงออสเตรเลีย โดยเฉพาะภาพของพลุอันงดงามที่ถูกจุดขึ้นเหนือน่านน้ำในอ่าวซิดซีย์และโค้งสะพานเหล็กขนาดมหึมาแห่งนี้ในคืนส่งท้ายปี
สวนสัตว์ซูริค เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
สวนสัตว์ซูริค (Zurich Zoo) สวนสัตว์ขนาดใหญ่ในเมืองซูริค ที่ขึ้นชื่อเรื่องการจัดแสดงและอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ต่างๆ ในระบบใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุดแห่งหนึ่ง ภายในสวนสัตว์แห่งนี้ทำหน้าที่เป็นบ้านให้กับสัตว์น้อยใหญ่ ตั้งแต่สัตว์ที่อาศัยในเทือกเขาสูงเขตหนาวไปจนถึงสัตว์ป่าเขตร้อนในแอฟริกา นอกจากนี้ยังมีช้างไทยใน “สวนช้างแก่งกระจาน” ด้วย
พิพิธภัณฑ์สมาคมฟุตบอลโลก เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
พิพิธภัณฑ์สมาคมฟุตบอลโลก (FIFA World Football Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงนิทรรศการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันฟุตบอลโลก และวิวัฒนาการของฟุตบอลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งจะมอบประสบการณ์อันล้ำค่าให้กับแฟนฟุตบอลตัวยงที่เข้ามาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้
พิพิธภัณฑ์ศิลปะ เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
พิพิธภัณฑ์ศิลปะ (Kunsthaus) เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ โดยเป็นที่ตั้งของคอลเล็กชันงานศิลปะที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ ตั้งแต่ยุคกลางไปจนถึงงานศิลปะร่วมสมัย ถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับผู้รักศิลปะและผู้มาเยือนที่สนใจประวัติศาสตร์ศิลปะของสวิตเซอร์แลนด์
ทะเลสาบซูริค เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ทะเลสาบซูริค (Lake Zurich) ทะเลสาบบรรยากาศสวยงามในเมืองซูริค ซึ่งถือเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
โรงละครโอเปร่าซูริค เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
โรงละครโอเปร่าซูริค (Zurich Opera House) โรงละครโอเปร่าที่มีชื่อเสียงในเมืองซูริค เป็นหนึ่งในโรงอุปรากรหลักในประเทศที่ดึงดูดผู้ชื่นชอบการแสดงโอเปร่าและดนตรีจากทั่วทุกมุมโลก และมีประวัติศาสตร์อันยาวนานเกือบ 200 ปี กับตัวอาคารซึ่งถือได้ว่าเป็นผลงานทางสถาปัตยกรรมชิ้นเอกที่ผสมผสานองค์ประกอบแบบดั้งเดิมและสมัยใหม่เข้าด้วยกันอย่างลงตัว
ศาลาว่าการเมืองโฮจิมินห์ เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
ศาลาว่าการเมืองโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh City Hall) อาคารสีเหลืองนวลที่มีสถาปัตยกรรมงามสง่าใจกลางเมืองโฮจิมินห์ ล้อมรอบด้วยสวนเขียวชอุ่มขนาดย่อมแห่งนี้ คือสถานที่ที่ทำหน้าที่เป็นสำนักงานใหญ่ของโฮจิมินห์ซิตี้ และยังเป็นสัญลักษณ์ของการบริหารเมืองโฮจิมินห์ด้วย
อนุสาวรีย์ประธานโฮจิมินห์ เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
อนุสาวรีย์ประธานโฮจิมินห์ (President Ho Chi Minh Statue) ในนครโฮจิมินห์เป็นสถานที่สำคัญและเป็นเกียรติแก่ผู้นำอันเป็นที่รักของเวียดนาม
มหาวิหารน็อทร์-ดามแห่งไซง่อน เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
มหาวิหารน็อทร์-ดามแห่งไซง่อน (Notre-Dame Cathedral Basilica of Saigon) เป็นโบสถ์คาทอลิกที่มีชื่อเสียงในเมืองโฮจิมินห์ หนึ่งในสถานที่สำคัญอันโดดเด่นของเมืองที่ดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยว
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์นครโฮจิมินห์ เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์นครโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh The Museum of History) เป็นสถานที่อันยอดเยี่ยมสำหรับการเรียนรู้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับมรดกอันยาวนานของโฮจิมินห์ซิตี้
จุดชมวิวไซ่ง่อนสกายเดค เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
จุดชมวิวไซ่ง่อนสกายเดค (Saigon Skydeck) เป็นจุดชมความงามของโฮจิมินห์ซิตี้จากมุมสูง ที่จะเผยให้เห็นทัศนียภาพอันงดงามของเมืองและบริเวณโดยรอบแบบพาโนรามา 360 องศา จากชั้นที่ 49 ของตึกสูงตระหง่านใจกลางเมืองโฮจิมินห์
ถนนจอร์จ เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
ถนนจอร์จ (George Street) เป็นถนนสายหลักใจกลางซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย โดยนอกจากจะเป็นทางสัญจรอันคึกคักที่เรียงรายไปด้วยอาคารเก่าแก่ ห้างสรรพสินค้า ร้านแบรนด์ดังต่างๆ ร้านอาหาร และสถานบันเทิงมากมาย บนถนนสายนี้ยังเป็นที่ตั้งของบรรดาบริษัทจดทะเบียนที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียกว่า 100 แห่งด้วย
พิพิธภัณฑ์เมืองโฮจิมินห์ เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
พิพิธภัณฑ์เมืองโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh City Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเมือง ภายในแสดงโบราณวัตถุในสมัยก่อนประวัติศาสตร์และเรื่องราวความเป็นมาเกี่ยวกับนครไซง่อนในอดีต
ถนนหนังสือในนครโฮจิมินห์ เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
ถนนหนังสือในนครโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh City Book Street) ไม่เพียงสร้างความประทับใจให้กับคนรักหนังสือเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนักท่องเที่ยวที่มาเยือน และนอกจากดื่มด่ำไปกับโลกแห่งหนังสือแล้ว ยังสามารถจิบเครื่องดื่มในบรรยากาศสงบๆ ได้อีกด้วย
ถนนคนเดินบุยเวียน เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
ถนนคนเดินบุยเวียน (Bui Vien Walking Street) หรือมีอีกชื่อว่า “ย่านแบ็คแพ็คไซ่ง่อน ฟามงูเหลา” (Pham Ngu Lao) เป็น "ถนนยุโรป" ที่เรียกได้ว่ามีชื่อเสียงที่สุดในเวียดนาม เป็นสถานที่ที่ต้องแวะเยี่ยมชมเมื่อมาเยือนเมืองไซ่ง่อนหรือโฮจิมินห์
โรงละครโอเปร่า โฮจิมินห์ เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
โรงละครโอเปร่า โฮจิมินห์ (Ho Chi Minh City Opera House) สถาปัตยกรรมยุคอาณานิคมฝรั่งเศสในเวียดนาม ที่มีอายุกว่า 300 ปี ในอดีตเคยมีบทบาทเป็นสำนักงานใหญ่ของสภาแห่งชาติเวียดนามใต้ ปัจจุบันยังคงทำหน้าที่เป็นโรงละครและสถานที่จัดแสดงงานต่างๆ
โบสถ์ทันดินห์ เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
โบสถ์ทันดินห์ (Tan Dinh Church) โบสถ์สีชมพูอ่อนหวาน ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมันโดยมีส่วนผสมของศิลปะโกธิกและเรอเนซองส์เป็นหลัก และยังเป็นโบสถ์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของนครโฮจิมินห์
เจดีย์บู้ล่อง เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
เจดีย์บู้ล่อง (Buu Long Pagoda) ในเมืองโฮจิมินห์เป็นเจดีย์ที่สวยที่สุดในเวียดนาม โดยมีองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมจากไทย พม่า อินเดีย และเวียดนามเอง เจดีย์ชนิดนี้มีเอกลักษณ์และไม่ค่อยพบในเวียดนาม คนท้องถิ่นตั้งชื่อเรียกให้ที่นี่ว่า “วัดไทย”
7 สถานท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์
เมืองกลาสโกว์ เป็นเมืองท่าริมแม่น้ำไคลด์ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของสกอตแลนด์ มีชื่อเสียงทางด้านสถาปัตยกรรมแบบวิกตอเรียน และศิลปะสไตล์อาร์ตนูโว ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากความรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 18-20 ของเมืองอันเนื่องมาจากการค้า และการต่อเรือ ปัจจุบัน เมืองกลาสโกว์เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมแห่งชาติ และเป็นที่ตั้งของสถาบันสำคัญต่างๆ และสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่น่าเที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 7 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองกลาสโกว์มาฝากทุกท่านกันค่ะ
13 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
เอดินเบอระ เป็นเมืองหลวงของประเทศสกอตแลนด์ และเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,000 ปี อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในเรื่องของสถาปัตยกรรมยุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีจนได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งในเมืองมรดกโลกในสหราชอาณาจักรที่ควรค่าแก่การไปเที่ยวชมเป็นอย่างมาก ไฮไลท์ของการท่องเที่ยวเมืองเอดินเบอระคือการเที่ยวชมเมืองเก่า ปราสาท พระราชวัง และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ วันนี้ทาง Palanla จึงได้คัดสรร 13 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวเมืองเอดินเบอระมาฝากทุกท่านค่ะ
Edinburgh Bus Tours : นั่งรถบัสเที่ยวชมรอบเมืองเอดินเบอระ
นั่งรถบัสเที่ยวชมรอบเมืองเอดินเบอระ (Edinburgh Bus Tours) เป็นบริการทัวร์รอบเมืองเอดินเบอระด้วยรถบัสสองชั้นสีแดง ที่จะพานักท่องเที่ยวไปสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ และชมแลนด์มาร์กอันยิ่งใหญ่ไปรอบๆ เมือง พร้อมหูฟังที่สามารถเลือกเสียงบรรยายได้ถึง 9 ภาษา โดยเริ่มต้นการเดินทางที่จัตุรัสเซนต์แอนดรูว์ และสามารถขึ้นลงได้ถึง 13 ป้าย
ปราสาทสเตอร์ลิง เมืองสเตอร์ลิง ประเทศสกอตแลนด์
ปราสาทสเตอร์ลิง (Stirling Castle) เป็นหนึ่งในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในสกอตแลนด์ และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และทางสถาปัตยกรรมมากที่สุดอีกด้วย ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมยุคเรอเนซองส์กับสถาปัตยกรรมโกธิกตอนปลาย ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในอาคารที่มีสถาปัตยกรรมน่าประทับใจที่สุดในสกอตแลนด์ และควรค่าแก่การเที่ยวชมเป็นอย่างมาก โดยไฮไลท์ของการเที่ยวชมปราสาทแห่งนี้คือการเดินชมบริเวณโดยรอบอาคารต่างๆ บริเวณห้องโถงใหญ่ ชมพรมทอมือเจ็ดผืนบนผนังห้องโถงชั้นใน สำรวจห้องใต้ดินของพระราชวัง และสวนควีนแอนน์ นอกจากนี้ยังมีส่วนของนิทรรศการปราสาท แกลเลอรี และพิพิธภัณฑ์การทหารให้เที่ยวชมอีกด้วย
7 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์
เมืองกลาสโกว์เป็นเมืองท่าริมแม่น้ำไคลด์ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของสกอตแลนด์ เมืองกลาสโกว์มีชื่อเสียงทางด้านสถาปัตยกรรมแบบวิกตอเรียนและศิลปะสไตล์อาร์ตนูโว ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากความรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 18-20 ของเมืองอันเนื่องมาจากการค้าและการต่อเรือ ปัจจุบันเมืองกลาสโกว์เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมแห่งชาติ และเป็นที่ตั้งของสถาบันสำคัญต่างๆ และสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่น่าเที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 7 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองกลาสโกว์มาฝากทุกท่านกันในบทความนี้
สุสานกลาสโกว์ เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์
สุสานกลาสโกว์ (Glasgow Necropolis) เป็นสุสานสไตล์วิกตอเรียนที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ ทางทิศตะวันออกของมหาวิหารกลาสโกว์ สุสานแห่งนี้เป็นที่ฝังศพของคนราวห้าหมื่นคน โดยมีทั้งสุสานธรรมดาไปจนถึงสุสานที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบอนุสรณ์ เช่น อนุสาวรีย์จอห์น เฮนรี อเล็กซานเดอร์ และอนุสาวรีย์ชาร์ลส์ เทนแนนต์ สุสานแห่งนี้เป็นหนึ่งในสุสานไม่กี่แห่งที่เก็บบันทึกข้อมูลผู้เสียชีวิต เช่น อาชีพ อายุ เพศ และสาเหตุการเสียชีวิต ปัจจุบันสุสานกลาสโกว์เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองกลาสโกว์ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากไปเยือนในแต่ละปี เพราะเป็นสุสานเก่าที่มีสถาปัตยกรรมในรูปแบบอนุสรณ์สถานให้เที่ยวชมมากมายซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของสุสานแห่งนี้นั่นเอง
มหาวิหารกลาสโกว์ เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์
มหาวิหารกลาสโกว์ (Glasgow Cathedral) เป็นมหาวิหารเก่าแก่ที่มีอายุราวหนึ่งพันปี สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับนักบุญเซนต์เคนไทเกอร์ ปัจจุบันเป็นอาสนวิหารยุคกลางที่สมบูรณ์ที่สุดของประเทศสกอตแลนด์ที่รอดพ้นจากการปฏิรูปนิกายโปรเตสแตนต์ ไฮไลท์การท่องเที่ยวที่นี่คือการลงไปเที่ยวชมห้องใต้ดินที่เป็นสุสานของเซนต์เคนไทเกอร์ ชมธรรมาสน์ซึ่งเป็นภาพแกะสลักด้วยหินอันงดงาม และเที่ยวชมความสวยงามโดยรอบมหาวิหาร
มหาวิทยาลัยกลาสโกว์ เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์
มหาวิทยาลัยกลาสโกว์ (University of Glasgow) เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยเก่าแก่ของประเทศสกอตแลนด์ และเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ภายในบริเวณมีความสวยงามจากสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของตัวอาคารขนาดใหญ่ที่มีลักษณะเหมือนปราสาทยุคกลางและมีหอคอยสูงซึ่งสามารถมองเห็นได้จากในระยะไกลท่ามกลางทิวทัศน์ที่สวยงามของพื้นที่ และยังมีส่วนของพิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้เข้าชมได้ฟรีอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์
พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ (Gallery of Modern Art (GoMA)) เป็นหอศิลป์หลักในเมืองกลาสโกว์ที่เปิดให้เข้าชมฟรี พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้ตั้งอยู่ภายในอาคารสไตล์นีโอคลาสสิก ด้านหน้าเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ดยุคแห่งเวลลิงตัน ภายในอาคารจัดแสดงผลงานของศิลปินทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนมีการจัดนิทรรศการเพื่อส่งเสริมการแก้ปัญหาสังคมร่วมสมัยผ่านโครงการสำคัญปีละสองครั้ง ถือเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ระดับโลกที่รวบรวมและจัดแสดงคอลเล็กชั่นผลงานศิลปะจากทั่วโลก และมีผู้มาเที่ยวชมแล้วกว่าล้านคน
พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์เคลวินโกรฟ เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์
พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์เคลวินโกรฟ (Kelvingrove Art Gallery & Museum) ตั้งอยู่ภายในอาคารสไตล์บาโรกอันโอ่อ่า ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ที่เปิดให้เข้าชมฟรี ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงคอลเล็กชั่นหลากหลายสาขาวิชาตั้งแต่ทางด้านชีววิทยาไปจนถึงประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจจากทั่วโลก ในส่วนของหอศิลป์นั้นเป็นที่เก็บรักษาและจัดแสดงศิลปะยุโรปและเรอเนสซองส์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นมากมาย ที่นี่จึงเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่น่าสนใจและเหมาะกับทุกคนในครอบครัว
ถนนบูคานัน เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์
ถนนบูคานัน (Buchanan street) เป็นถนนชอปปิงที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองกลาสโกว์ โดยเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และร้านค้ามากมายทั้งร้านสินค้าแบรนด์เนมหรู และร้านค้าแบบเอาท์เล็ทต่างๆ ซึ่งมีสินค้ามากมายหลากหลายประเภทให้เลือกซื้อ นอกจากนี้ ด้วยทิวทัศน์ของอาคารพาณิชย์สไตล์วิกตอเรียที่ตกแต่งอย่างหรูหรา ถนนบูคานันจึงเป็นถนนที่มีชีวิตชีวาและน่าเดินเล่นเป็นอย่างมาก
จัตุรัสจอร์จ เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์
จัตุรัสจอร์จ (George Square) เป็นจัตุรัสหลักของเมืองกลาสโกว์ที่รายล้อมด้วยอาคารสำคัญของเมือง เช่น อาคารสภาเทศบาลเมืองกลาสโกว์ จัตุรัสแห่งนี้เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมของเมืองตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมทางการเมืองไปจนถึงงานคริสต์มาสประจำเมืองกลาสโกว์ ด้วยเอกลักษณ์ของจัตุรัสที่รายล้อมไปด้วยอาคารที่มีความสวยงามทางสถาปัตยกรรม รวมถึงรูปปั้นและอนุสาวรีย์ของบุคคลสำคัญต่างๆ ที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณ ที่นี่จึงถูกใช้เป็นฉากหนึ่งในการถ่ายทำทีวีซีรีย์เรื่อง Outlander ในตอนที่แฟรงก์ขอแคลร์แต่งงานซึ่งเป็นฉากที่เป็นที่จดจำของแฟนซีรีย์เป็นอย่างมาก
13 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
เอดินเบอระเป็นเมืองหลวงของประเทศสกอตแลนด์ และเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,000 ปี อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในเรื่องของสถาปัตยกรรมยุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีจนได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งในเมืองมรดกโลกในสหราชอาณาจักรที่ควรค่าแก่การไปเที่ยวชมเป็นอย่างมาก ไฮไลท์ของการท่องเที่ยวเมืองเอดินเบอระคือการเที่ยวชมเมืองเก่า ปราสาท พระราชวัง และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ วันนี้ทาง Palanla จึงได้คัดสรร 13 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวเมืองเอดินเบอระมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้
อนุสาวรีย์สกอตต์ เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
อนุสาวรีย์สกอตต์ (The Scott Monument) เป็นแลนด์มาร์กขนาดมหึมาที่ตั้งอยู่กลางสวนปริ๊นซ์สตรีทการ์เดนซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่นักเขียนชื่อดังของสกอตแลนด์นามว่าเซอร์วอลเตอร์ สกอตต์ อนุสาวรีย์แห่งนี้มีเอกลักษณ์จากหอคอยสูงสไตล์โกธิกที่สามารถมองเห็นได้จากในระยะไกล ด้านบนหอคอยมีจุดชมวิวใจกลางเมืองเอดินเบอระ และด้านล่างเป็นที่ตั้งของรูปปั้นของสกอตต์และสุนัขคู่ใจของเขา
หอศิลป์แห่งชาติสกอตแลนด์ เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
หอศิลป์แห่งชาติสกอตแลนด์ (National Gallery of Scotland) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้าชมฟรีที่น่าสนใจของสกอตแลนด์ ที่นี่เป็นที่เก็บรักษาและจัดแสดงคอลเล็กชันผลงานศิลปะแห่งชาติของสกอตแลนด์ตั้งแต่ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาตอนต้นจนถึงศตวรรษที่ยี่สิบ รวมทั้งผลงานศิลปะระดับนานาชาติตั้งแต่ผลงานศิลปะของราฟาเอล เบลัซเกซ และแวร์เมียร์ ไปจนถึงโมเนต์ เซซาน และแวนโก๊ะ เป็นอีกหนึ่งสถานที่คุ้มค่าต่อการเที่ยวชมเป็นอย่างมาก
สวนปริ๊นซ์สตรีทการ์เดน เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
สวนปริ๊นซ์สตรีทการ์เดน (Princes Street Gardens) เป็นสวนสาธารณะประจำเมืองเอดินเบอระ ซึ่งถือเป็นจุดที่อยู่ตรงกลางระหว่างพื้นที่ของเมืองเก่าและเมืองใหม่ สวนแห่งนี้ได้รับการดูแลให้มีความสวยงามตลอดทั้งปี และใช้เป็นที่พบปะและพักผ่อนของชาวเมือง โดยเฉพาะบริเวณน้ำพุรอส (Ross Fountain) ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์ที่เป็นแลนด์มาร์กของสวนสาธารณะแห่งนี้ นอกจากนี้สวนปริ๊นซ์สตรีทการ์เดนยังเป็นสถานที่จัดงานคริสต์มาสประจำเมืองเอดินเบอระในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปีอีกด้วย
รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เป็นรูปปั้นหมาที่เป็นแลนด์มาร์กเล็กๆ ของเมือง แต่มีเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ที่สร้างความซาบซึ้งใจให้กับชาวเอดินเบอระ หมาบ็อบบี้เป็นหมาพันธุ์สกายเทอร์เรียที่เจ้าของเสียชีวิตลงอย่างกะทันหันในปีค.ศ.1858 และในทุกๆ วันหมาบ็อบบี้ก็จะมาเฝ้าหลุมศพของเจ้านายอันเป็นที่รักของมันด้วยความภักดี มันทำเช่นนี้อยู่เป็นเวลา 14 ปีจนเสียชีวิตลง และร่างของมันก็ได้รับการฝังไว้เป็นกรณีพิเศษที่สุสานเดียวกันกับเจ้าของ อีกทั้งยังมีการสร้างรูปปั้นนี้ไว้ใกล้กับสุสานเพื่อเป็นที่ระลึกถึงเจ้าบ็อบบี้ หมาผู้ซื่อสัตย์แห่งเมืองเอดินเบอระ
มหาวิหารเซนต์ไจลส์ เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
มหาวิหารเซนต์ไจลส์ (St Giles’ Cathedral) เป็นมหาวิหารเก่าแก่กลางย่านเมืองเก่าที่มีอายุราว 900 ปี สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมโกธิกอย่างงดงาม ผ่านการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์ของสกอตแลนด์มาหลายยุคหลายสมัย นอกจากความเก่าแก่ที่เป็นเอกลักษณ์ของมหาวิหารแห่งนี้แล้ว สิ่งที่น่าสนใจคือภายในยังเป็นที่ตั้งของโบสถ์ธิสเซิลอีกด้วย ซึ่งภายในโบสถ์ธิสเซิลนี้ตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่น่าเที่ยวชม นอกจากนี้มหาวิหารเซนต์ไจลส์ยังได้รับการขนามนามว่าเป็นมหาวิหารที่สวยที่สุดในเมืองเอดินเบอระอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติสกอตแลนด์ เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติสกอตแลนด์ (National Museum of Scotland) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเอดินเบอระ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดให้เข้าชมฟรี ภายในจัดแสดงเรื่องราวที่น่าสนใจทั้งของสกอตแลนด์เองและจากทั่วทุกมุมโลก ผู้เข้าชมจะได้ค้นพบความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ตื่นตาตื่นใจกับงานศิลปะ การออกแบบ และแฟชั่นอันวิจิตรงดงามจากหลายศตวรรษ รวมทั้งได้ศึกษาเที่ยวชมตั้งแต่สิ่งมีชีวิตที่เล็กที่สุดไปจนถึงเทคโนโลยีทางอวกาศสุดล้ำ และนวัตกรรมตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน
พระราชวังโฮลีรูด เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
พระราชวังโฮลีรูด (Palace of Holyroodhouse) เป็นพระราชวังที่ประทับอย่างเป็นทางการของราชวงศ์อังกฤษเมื่อเสด็จมาพำนักที่สกอตแลนด์ โดยคำว่า Holyrood มาจากคำว่า Haly Ruid ในภาษาสกอตที่แปลว่ากางเขนศักดิ์สิทธิ์อาคารปราสาทมีอายุหลายร้อยปี สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมคลาสสิกดั้งเดิม โดดเด่นด้วยหอคอยทรงกระบอกที่มีหลังคาเหมือนหมวกยอดแหลม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเอดินเบอระที่น่าจะถูกใจผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมเก่าแก่ในยุโรป
ปราสาทเอดินเบอระ เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
ปราสาทเอดินเบอระ (Edinburgh Castle) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเอดินเบอระบริเวณเนินเขาทางด้านตะวันตก ปราสาทแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยเป็นหนึ่งในป้อมปราการที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป และยังเป็นที่ประทับของราชวงศ์สกอตแลนด์ รวมทั้งมีพื้นที่ของกองทหารรักษาการณ์อีกด้วย ปัจจุบันปราสาทแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก และยังเป็นโบราณสถานสำคัญที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกในฐานะเมืองมรดกโลกแห่งเอดินเบอระอีกด้วย
นั่งรถบัสเที่ยวชมรอบเมืองเอดินเบอระ เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
นั่งรถบัสเที่ยวชมรอบเมืองเอดินเบอระ (Edinburgh Bus Tours) เป็นบริการทัวร์รอบเมืองเอดินเบอระด้วยรถบัสสองชั้นสีแดง ที่จะพานักท่องเที่ยวไปสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ และชมแลนด์มาร์กอันยิ่งใหญ่ไปรอบๆ เมือง พร้อมหูฟังที่สามารถเลือกเสียงบรรยายได้ถึง 9 ภาษา โดยเริ่มต้นการเดินทางที่จัตุรัสเซนต์แอนดรูว์ และสามารถขึ้นลงได้ถึง 13 ป้าย
ถนนวิกตอเรีย และ ตลาดแกรสมาร์เก็ต เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
ถนนวิกตอเรีย (Victoria Street) เป็นถนนที่อยู่ใจกลางย่านเมืองเก่าเอดินเบอระ สองข้างทางเรียงรายด้วยอาคารเก่าแก่ที่มีเอกลักษณ์และหน้าร้านสีสันสดใส เป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองนี้และที่นี่ยังเป็นจุดกำเนิดของซีรีย์แฮร์รี่ พอตเตอร์อีกด้วย เพราะเป็นย่านที่เจ.เค.โรว์ลิ่งเคยอาศัยอยู่ขณะที่เขียนหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่ร้านกาแฟในย่านนี้ กล่าวกันว่าตรอกไดแอกอนได้แรงบันดาลใจมาจากถนนเส้นนี้ โดยเฉพาะบริเวณหัวโค้งที่เชื่อมต่อกับทางไปตลาดแกรสมาร์เก็ต ซึ่งหากใครเป็นแฟนซีรีย์แฮร์รี่ พอตเตอร์แล้วล่ะก็ ที่นี่ก็มีทัวร์ชมถนนและอาคารร้านค้าที่เกี่ยวข้องกับแฮร์รี่ พอตเตอร์ ให้บริการด้วยเช่นกัน ใกล้กันเป็นที่ตั้งของตลาดแกรสมาร์เก็ต (Grassmarket) ซึ่งเป็นย่านชอปปิงที่เรียงรายด้วยอาคารร้านค้า และจะมีการตั้งแผงตลาดนัดทุกวันเสาร์
ถนนเมืองเก่ารอยัลไมล์ เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
ถนนเมืองเก่ารอยัลไมล์ (Royal Mile – Edinburgh Old Town) เป็นถนนสายหลักในย่านเมืองเก่าที่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน เพราะมีความสวยงามจากสถาปัตยกรรมของอาคารเก่าแก่ที่เรียงรายอยู่สองข้างทางซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของถนนเส้นนี้ อีกทั้งยังเป็นเส้นทางประวัติศาสตร์ของเมืองเอดินเบอระอีกด้วยเพราะเคยเป็นถนนที่ราชวงศ์สกอตแลนด์ใช้เป็นเส้นทางเสด็จเมื่อในอดีต นอกจากนี้ ถนนเส้นนี้ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเพราะสามารถเดินไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงได้ และยังเป็นถนนที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟหลักของเมืองอีกด้วย
จุดชมวิวเขาคาลตัน เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
จุดชมวิวเขาคาลตัน (Calton Hill) เป็นจุดชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจของเมืองเอดินเบอระ เพราะจากชุดชมวิวบนเขาสามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองเอดินเบอระได้แบบพาโนรามา ท่ามกลางอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ที่กระจายตัวอยู่บนเขา เช่น อนุสาวรีย์แห่งชาติสกอตแลนด์ และอนุสาวรีย์เนลสัน ที่มีสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่และมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ทำให้เขาคาลตันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก จุดชมวิวบริเวณนี้จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่มีความสวยงามน่าประทับใจอีกแห่งหนึ่งของเมืองอีกด้วย
จัตุรัสเซนต์แอนดรูว์ เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
จัตุรัสเซนต์แอนดรูว์ (St.Andrew Square) เป็นจัตุรัสที่เป็นสวนสาธารณะขนาดย่อม บริเวณใจกลางจัตุรัสโดดเด่นด้วยอนุสาวรีย์เมลวิลล์ที่มีลักษณะเป็นเสาหินสูงทรงกลมซึ่งมองเห็นได้จากในระยะไกล รอบอนุสาวรีย์ล้อมรอบด้วยสวนอันร่มรื่นและสนามหญ้ากว้าง พื้นที่โดยรอบจัตุรัสเซนต์แอนดรูว์เป็นย่านการค้าที่มีความคึกคักเป็นอย่างมากอีกแห่งหนึ่งของเมืองเอดินเบอระ เพราะเต็มไปด้วยโรงแรม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และจุดบริการทัวร์รถบัสชมเมือง อีกทั้งยังใกล้กับสถานีรถไฟที่เชื่อมระหว่างเมืองและสนามบินอีกด้วย
12 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองดานังและฮอยอัน ประเทศเวียดนาม
ดานัง (Da Nang) และ ฮอยอัน (Hoi An) จังหวัดกว๋างนาม ถือเป็น 2 เมืองที่ชื่อคุ้นหูนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ทั้งสองเมืองนี้ได้รวบรวมเอาสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเป็นเวียดนามเอาไว้มากมาย ทั้งสถาปัตยกรรมที่สวยงามของเมืองเก่า ทั้งธรรมชาติทางทะเลและภูเขา ทั้งแหล่งช้อปปิ้งของกินของฝาก หากต้องการรู้จักเวียดนาม แน่นอนว่าเราจึงไม่อาจปฏิเสธการมาเยี่ยมเยือนดานัง และฮอยอันไปได้
อุโมงค์กู๋จี เมืองโฮจิมินห์ เวียดนาม
อุโมงค์กู๋จี (Cu Chi Tunnels) เป็นเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินขนาดใหญ่ที่ถูกใช้เป็นที่ตั้งของกองทัพและฐานปฏิบัติการของเวียดกง จนกระทั่งสหรัฐต้องถอนกำลังทหารออกจากเวียดนามใต้ในที่สุด
วัดวินห์เงียม เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
วัดวินห์เงียม (Vinh Nghiem Pagoda) เป็นวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของนครโฮจิมินห์ โดดเด่นด้วยเจดีย์ 7 ชั้นสูง 40 เมตร ปัจจุบันนอกจากจะเป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจทางด้านพุทธศาสนา ยังเป็นสถานที่เก็บป้ายบูชาบุคคลสำคัญของประเทศเวียดนามอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์สงคราม เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
พิพิธภัณฑ์สงคราม (War Remnants Museum) คือสถานที่ที่สามารถบอกเรื่องราวอันโหดร้ายของสงครามเวียดนาม ตั้งแต่สงครามได้เริ่มขึ้น จนถึงสงครามนั้นได้จบลง ภายในอาคารของพิพิธภัณฑ์จัดแสดงภาพถ่าย เครื่องมือการรบ และอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ในสมัยสงครามเวียดนามให้ได้ชม
ทำเนียบประธานาธิบดี เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
ทำเนียบประธานาธิบดี (Independence Palace) อาคารบรรยากาศน่าเกรงที่ในอดีตเคยเป็นที่พำนักของประธานาธิบดีเวียดนามใต้ ก่อนที่เวียดนามเหนือจะชนะเวียดนามใต้และเข้ายึดทำเนียบแห่งนี้ ยึด ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชม
ตลาดเบนถั่น เมืองโฮจิมินห์ เวียดนาม
ตลาดเบนถั่น (Ben Thanh Market) ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของไซ่ง่อนหรือโฮจิมินห์ คือหนึ่งในอาคารยุคแรกสุดที่ยังหลงเหลืออยู่จากสมัยไซ่ง่อน อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองนี้ด้วย
ไปรษณีย์กลางไซ่ง่อน เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
ไปรษณีย์กลางไซ่ง่อน (Saigon Central Post Office) เป็นไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ฝรั่งเศสกับอาคารสีเหลืองนวลใจกลางเมืองโฮจิมินห์
เจดีย์จักรพรรดิหยก เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
เจดีย์จักรพรรดิหยก (Jade Emperor Pagoda) หนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญที่สุด และโด่งดังที่สุดของโฮจิมินห์ ที่ชาวเวียดนามนิยมมาเผาเครื่องหอมขอพรและปล่อยเต่าเพื่อให้อายุยืนและเป็นสิริมงคล
Basket Boat : ล่องเรือกระด้ง เมืองฮอยอัน ประเทศเวียดนาม
เรือกระด้ง เป็นเรือที่ทำมาจากการสานไม้ไผ่เข้าด้วยกัน มีลักษณะเป็นรูปทรงกลม แล้วเคลือบด้วยน้ำมันสนทั้งลำเพื่อกันน้ำเข้า มีความแข็งแรง และสามารถรองรับน้ำหนักได้มากเป็นตัน จุดเริ่มต้นของเรือกระด้งนั้นมาจากในสมัยก่อนที่เวียดนามถูกปกครองโดยฝรั่งเศสซึ่งต้องมีการเสียภาษีเรือที่แพงมาก คนเวียดนามจึงดัดแปลงเรือให้รูปร่างดูไม่เหมือนเรือทั่วไปเพื่อไม่ต้องเสียภาษีเรือนั่นเอง
Golden Bridge : สะพานมือ เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม
สะพานมือ (Golden Bridge) อุ้งมือหินขนาดยักษ์ที่เหมือนกับกำลังยกตัวสะพานไว้ในอุ้งมือท่ามกลางเทือกเขาอันอุดมสมบูรณ์ภายในบาน่าฮิลส์ สถานที่เที่ยวยอดฮิตของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม
13 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) เมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ (Netherlands) เป็นเมืองที่สวยงาม น่ารัก เป็นที่ตั้งของสถาปัตยกรรมและพิพิธภัณฑ์อันทรงคุณค่า เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่น่าสนใจของผู้คนซึ่งอาศัยอยู่ในดินแดนแห่งกังหันลม รองเท้าไม้ และทุ่งดอกทิวลิป ประเทศซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลแห่งนี้
ศาลาว่าการเมืองสตอกโฮล์ม กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน
ศาลาว่าการเมืองสตอกโฮล์ม (Stockholm City Hall) เป็นอาคารเก่าแก่ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของกรุงสตอกโฮล์ม ที่นี่มีเอกลักษณ์จากหอคอยสูงที่จะเปิดให้ขึ้นชมได้ในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น โดยบริเวณด้านบนหอคอยสามารถชมทัศนียภาพอันงดงามจากใจกลางกรุงสตอกโฮล์มได้แบบพาโนรามา และยังสามารถเดินชมสถาปัตยกรรมและประติมากรรมต่างๆ ได้โดยรอบอาคารอีกด้วย
12 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองดานัง และฮอยอัน จังหวัดกว๋างนาม ประเทศเวียดนาม
ดานัง (Da Nang) และ ฮอยอัน (Hoi An) จังหวัดกว๋างนาม ถือเป็น 2 เมืองที่ชื่อคุ้นหูนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ทั้งสองเมืองนี้ได้รวบรวมเอาสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเป็นเวียดนามเอาไว้มากมาย ทั้งสถาปัตยกรรมที่สวยงามของเมืองเก่า ทั้งธรรมชาติทางทะเลและภูเขา ทั้งแหล่งช้อปปิ้งของกินของฝาก หากต้องการรู้จักเวียดนาม แน่นอนว่าเราจึงไม่อาจปฏิเสธการมาเยี่ยมเยือนดานังและฮอยอันไปได้
หาดหมีเค เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม
หาดหมีเค (My Khe Beach) เมืองดานัง ถือเป็นชายหาดที่ยาวที่สุดในเอเชีย และไม่เพียงแต่ความยาวเท่านั้น ทรายของหาดแห่งนี้ยังขาวสะอาดและเนียนนุ่ม บวกกับน้ำทะเลใสๆ ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองท่าอย่างดานัง
สะพานมือ เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม
สะพานมือ (Golden Bridge) อุ้งมือหินขนาดยักษ์ที่เหมือนกับกำลังยกตัวสะพานไว้ในอุ้งมือท่ามกลางเทือกเขาอันอุดมสมบูรณ์ภายในบาน่าฮิลส์ สถานที่เที่ยวยอดฮิตของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม
ตลาดฮาน เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม
ตลาดฮาน (Han Market) เป็นตลาดเก่าแก่ที่สุดและเป็นตลาดโบราณที่ใหญ่ที่สุดในดานัง นอกจากนี้ยังเป็นตลาดที่นักท่องเที่ยวจะต้องไปช้อปปิ้งของฝากก่อนกลับ
ตลาดกลางคืนเซินตรา เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม
ตลาดกลางคืนเซินตรา (Son Tra Night Market) เป็นตลาดที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสะพานมังกร ใครมาเที่ยวดานังก็ต้องไม่พลาดแวะมาเที่ยวที่นี่ เพราะครบจบในที่เดียว ทั้งเดินเล่น หาของกินอร่อยๆ หรือซื้อหาของฝาก
คาร์ฟดาร์ก้อน เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม
คาร์ฟดาร์ก้อน (Ca Chep Hoa Rong) อีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเช็กอิน ถ่ายรูปเมื่อไปเที่ยวดานัง
BA NA HILLS : บาน่าฮิลส์ เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม
บาน่าฮิลส์ ตั้งอยู่ที่เมืองดานัง (Da Nang) อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 40 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมมากที่สุดของเวียดนาม โดยการก่อสร้างนั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากหมู่บ้านของฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 19 แต่เดิมนั้นบาน่าฮิลส์เป็นเมืองตากอากาศของเวียดนามมากกว่าร้อยปีแล้ว นับตั้งแต่สมัยที่เวียดนามยังเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ชาวฝรั่งเศสไม่สามารถเดินทางกลับประเทศตนเองได้ ข้าหลวงฝรั่งเศสจึงมีแนวคิดที่จะสร้างที่พักตากอากาศสำหรับชาวฝรั่งเศสรวมทั้งทหารที่ประจำการอยู่ที่นั่น จนกระทั่งปี ค.ศ. 1901 จึงได้ค้นพบเทือกเขาบานาและเลือกที่นี่สำหรับสร้างวิลล่าขึ้นมา ตามด้วยโรงแรม รีสอร์ต และสาธารณูปโภคที่ทันสมัย จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในสมัยนั้น
Dragon Bridge | สะพานมังกร เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม
สะพานมังกร (Dragon Bridge) คือ สะพานข้ามแม่น้ำฮัน ที่สุดของแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาดเมื่อแวะไปเยือนเมืองดานัง สะพานแห่งนี้เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ออกแบบโดยที่ปรึกษาวิศวกรรม Ammann & Whitney และกลุ่มหลุยส์ เบอร์เกอร์ (Louis Berger Group) ช่วงสะพานหลักเสร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555 สะพานมังกรมีความยาว 666 เมตร กว้าง 37.5 เมตร มีถนน 6 ช่องจราจร ใช้งบประมาณการสร้างร่วม 1.5 ล้านล้านดง (88 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และเปิดให้บริการสู่ประชาชนเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556 เพื่อฉลองครบรอบ 38 ปีของอิสรภาพเมืองดานัง
Linh Ung Bai But Pagoda : เจ้าแม่กวนอิมวัดหลินอึ๋ง เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม
เจ้าแม่กวนอิมวัดหลินอึ๋ง เป็นรูปแกะสลักหินอ่อนสีขาว ความสูงเท่ากับตึกขนาด 30 ชั้นที่ตั้งตระหง่านอยู่ที่เจดีย์ Linh Ung Pagoda บริเวณแหลมซอนทรา (Son Tra Peninsula) เมืองดานัง โดยห่างจากใจกลางเมืองไปประมาณ 10 กิโลเมตร ด้วยที่ตั้งที่มีชัยภูมิโดดเด่นที่ตั้งอยู่บนระดับความสูงเหนือน้ำทะเลถึง 200 เมตร โดยหันหน้าออกสู่ทะเล และเมืองดานัง จึงทำให้เจ้าแม่กวนอิมองค์นี้กลายเป็นจุดรวมสายตาของชาวดานังจากมุมเมืองต่างๆ และที่นี่จึงเป็นอีกจุดชมวิวที่สวยงามของเมืองดานังอีกด้วย
สโตนเฮนจ์ เมืองซอลส์บรี ประเทศอังกฤษ
สโตนเฮนจ์ (Stonehenge) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1986 กลุ่มก่อนหินขนาดใหญ่นี้ ตั้งอยู่บนพื้นที่ราบซอลส์บรี (Salisbury Plain) ประเทศอังกฤษ
ถนนฌ็องเซลิเซ่ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ถนนฌ็องเซลิเซ่ (Champs Elysees) เป็นหนึ่งในถนนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในฝรั่งเศสและเป็นสวรรค์ของนักช้อปของปารีส
Louvre Museum : พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ พิพิธภัณฑ์ซึ่งรวบรวมผลงานศิลปะสำคัญแห่งหนึ่งของโลก ทำหน้าที่ต้อนรับผู้คนมากมายจากทั่วทุกมุมโลกที่หลั่งไหลมาชมงานศิลปะที่นี่ รวมถึงผลงานชื่อก้องโลกอย่าง ภาพวาดโมนาลิซ่า ของศิลปินลีโอนาโด ดาวินซี หรือ รูปปั้นเทพีวีนัสค่ะ นอกจากนี้พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ยังเป็นหนึ่งในฉากสำคัญของภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลกอย่าง รหัสลับดาวินซี
อนุสรณ์สถาน ดัตช์ ฮอโลคอสต์ เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
อนุสรณ์สถาน ดัตช์ ฮอโลคอสต์ (Dutch Holocaust Memorial of Names) ในเมืองอัมสเตอร์ดัม ที่โดดเด่นด้วยเขาวงกตกำแพงอิฐและกระจกแห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ฮอโลคอสต์ หรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีเหยื่อชาวดัตช์ผู้เคราะห์ร้ายจำนวน 102,000 คนถูกขับไล่ออกจากประเทศและถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมในค่ายกักกันนาซีเยอรมัน
หมู่บ้านชาวประมงโวเลนดัม เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
หมู่บ้านชาวประมงโวเลนดัม (Volendam) หรือฉายา "ไข่มุกแห่งซุยเดอร์ ซี" (The Pearl Of The Zuiderzee) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศเนเธอร์แลนด์ ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวอันมีเสน่ห์โวเลนดัมได้ดึงดูดบรรดาจิตรกรเอกในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 อย่างเรอนัวร์และปีกัสโซให้เดินทางมาที่นี่ เพื่อสัมผัสกับบรรยากาศและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผลงานของพวกเขามาแล้ว
กังหันลมแอเดรียน (1779) เมืองฮาร์เลม ประเทศเนเธอร์แลนด์
กังหันลมแอเดรียน (1779) (Windmill De Adriaan (1779)) เป็นกังหันลมขนาดใหญ่ริมแม่น้ำสปาร์เนอร์ และยังเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองฮาร์เลมอีกด้วย กังหันลมแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.1779 ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน และมีการบูรณะซ่อมแซมให้ใช้งานได้จริงอยู่เสมอจนถึงปัจจุบัน ภายในอาคารด้านล่างของกังหันลมเป็นพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงนิทรรศการกังหันลมที่น่าสนใจ และยังสามารถขึ้นไปชมวิวความสวยงามริมแม่น้ำจากระเบียงอาคารด้านบนได้อีกด้วย
ศาลากลางเมืองฮาร์เลม เมืองฮาร์เลม ประเทศเนเธอร์แลนด์
ศาลากลางเมืองฮาร์เลม (Town Hall Haarlem) เป็นอีกหนึ่งอาคารเก่าแก่สไตล์โกธิคที่ตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณจัตุรัสตลาดกลางของเมืองฮาร์เลม อาคารแห่งนี้มีอายุหลายร้อยปีและยังใช้เป็นที่ทำการปกครองเมืองฮาร์เลมอยู่จนถึงปัจจุบัน เป็นอีกหนึ่งมุมถ่ายภาพสวยๆ ของเมือง และหากมาเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะได้เห็นคู่บ่าวสาวมาทำพิธีแต่งงานกันที่นี่อีกด้วย
มหาวิหารเซนต์บาโวฮาร์เลม เมืองฮาร์เลม ประเทศเนเธอร์แลนด์
มหาวิหารเซนต์บาโวฮาร์เลม (St. Bavo Haarlem) เป็นมหาวิหารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมโกธิคอย่างวิจิตรงดงาม โดดเด่นด้วยหอคอยสูง เป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฮาร์เล็มใกล้กับจตุรัสตลาดกลาง และยังเป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศเนเธอร์แลนด์อีกด้วย ภายในประดับด้วยกระจกสี ภาพเขียน และโบราณวัตถุต่างๆ ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวเมืองฮาร์เลม
จัตุรัสตลาดกลาง เมืองฮาร์เลม ประเทศเนเธอร์แลนด์
จัตุรัสตลาดกลาง (Grote Markt) เป็นจัตุรัสที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้กับมหาวิหารเซนต์บาโวฮาร์เลมและศาลากลางเมืองฮาร์เลม บริเวณนี้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองเพราะรายล้อมด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถเดินถึงกันได้ บริเวณจัตุรัสตลาดกลางจะเปิดเป็นตลาดนัดในวันเสาร์โดยมีสินค้าหลากหลายประเภทจำหน่าย เช่น อาหาร ขนม ผักผลไม้ ดอกไม้ และของใช้ทั่วไป นอกจากการเดินชมตลาดแล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดถ่ายภาพที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองฮาร์เลมอีกด้วย
บ้านลูกบาศก์ เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
บ้านลูกบาศก์ (Cube Houses) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานกับศิลปะการออกแบบภายในที่น่าสนใจ มีลักษณะเป็นบ้านทรงลูกบาศก์ที่ตั้งเอียงอยู่บนเสาทรงหกเหลี่ยม ด้านในแสดงให้เห็นถึงการออกแบบห้องต่างๆ และการจัดวางพื้นที่ใช้สอยอย่างคุ้มค่าและลงตัวเหมาะกับการใช้ชีวิตในเมืองตามแนวคิดของ Piet Blom ซึ่งเป็นผู้ออกแบบบ้านลูกบาศก์เหล่านี้
โบสถ์เซนต์ลอว์เรน เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
โบสถ์เซนต์ลอว์เรน (Grote of Sint-Laurenskerk) เป็นโบสถ์ประจำเมืองรอตเตอร์ดัม สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมโกธิคที่ผ่านประวัติศาสตร์มายาวนานกว่าห้าร้อยปี โดดเด่นด้วยหอคอยสูงที่ด้านบนประดับด้วยนาฬิกา บริเวณโดยรอบตกแต่งด้วยสนามหญ้าและสวนอันร่มรื่น ที่นี่จึงเป็นแลนด์มาร์กอีกแห่งหนึ่งของเมืองที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว โดยทางโบสถ์จะเปิดให้ขึ้นไปชมวิวด้านบนหอคอยได้ในช่วงเดือนมีนาคมถึงตุลาคมของทุกปี
สะพานอีรามัส เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
สะพานอีรามัส (Erasmus Bridge) หรือสะพานหงส์ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองรอตเตอร์ดัม สะพานแห่งนี้เป็นสะพานที่ด้านบนขึงด้วยสายเคเบิลทอดข้ามแม่น้ำ Nieuwe Maas เพื่อเชื่อมพื้นที่ทางด้านทิศเหนือและทิศใต้ของเมืองรอตเตอร์ดัมเข้าไว้ด้วยกัน บริเวณนี้เป็นจุดชมวิวริมแม่น้ำที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งที่สามารถชมวิวสะพานและแม่น้ำได้แบบพาโนรามา เป็นจุดแวะเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
สถานีรอตเตอร์ดัมบลาค เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
สถานีรอตเตอร์ดัมบลาค (Rotterdam Blaak) เป็นสถานีรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดินที่มีเส้นทางวิ่งภายในเมืองรอตเตอร์ดัม และระหว่างเมืองต่างๆ ในประเทศเนเธอร์แลนด์ อาคารสถานีออกแบบอย่างทันสมัย โดยมีลักษณะเหมือนจานที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 35 เมตรที่มีโครงหลังคาตาข่ายโค้งอยู่ด้านบน เป็นอีกหนึ่งสถานีของเนเธอร์แลนด์ที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามแปลกตา และเป็นอีกหนึ่งมุมแวะถ่ายภาพสวยๆ เมื่อเดินทางท่องเที่ยวภายในเมืองรอตเตอร์ดัม
สถานีกลาง เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
สถานีกลาง (Central Station) เป็นสถานีรถไฟหลักของเมืองรอตเตอร์ดัมที่มีความพลุกพล่านอันดับต้นๆ ของเนเธอร์แลนด์ โดยมีผู้โดยสารเฉลี่ยราวหนึ่งแสนคนต่อวันเลยทีเดียว เนื่องจากมีเส้นทางรถไฟที่ครอบคลุมเส้นทางในประเทศและระหว่างประเทศภายในยุโรป นอกจากสถานีกลางจะเป็นศูนย์กลางการเดินทางของเมืองแล้ว ที่นี่ยังเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่มีลักษณะเป็นอาคารทรงสามเหลี่ยม และภายในยังมีศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว รวมถึงร้านค้าและร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย
รอตเตอร์ดัมเซ็นทรัล เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
รอตเตอร์ดัมเซ็นทรัล (Rotterdam Central) เป็นย่านชอปปิงของเมืองรอตเตอร์ดัมที่อยู่ใจกลางเมือง พื้นที่บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ร้านอาหาร และอาคารสำนักงาน ย่านชอปปิงบริเวณนี้มีสินค้าหลากหลายให้เลือกซื้อและสามารถเดินชมได้อย่างเพลิดเพลิน มีร้านค้าและร้านอาหารมากมาย อีกทั้งยังเดินทางได้อย่างสะดวกสบายเพราะอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ
มาร์เก็ตฮอล เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
มาร์เก็ตฮอล (Markthal) เป็นอาคารที่มีรูปทรงคล้ายเกือกม้าขนาดใหญ่ ภายในมีทั้งที่อยู่อาศัย สำนักงาน ร้านค้า ร้านอาหาร และตลาดในร่มขนาดใหญ่ที่ชั้นใต้ดิน ไฮไลต์ของมาร์เก็ตฮอลอยู่ที่ผลงานศิลปะที่ชื่อว่า Hoorn des Overvloeds ซึ่งเป็นภาพขนาดใหญ่ของผักผลไม้สีสันสดใสภายใต้หลังคาโค้งของอาคารที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก
เมืองจำลองมาดูโรดัม กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์
เมืองจำลองมาดูโรดัม (Madurodam) เป็นเมืองที่จำลองสถาปัตยกรรมสำคัญต่างๆ ภายในประเทศเนเธอร์แลนด์ออกมาให้เที่ยวชมได้อย่างใกล้ชิดเสมือนย่อเนเธอร์แลนด์มาไว้ในเมืองจำลองแห่งนี้ ภายในบริเวณตั้งอยู่ท่ามกลางสวนขนาดใหญ่และแบ่งเป็นโซนต่างๆ เช่นโซนสนามบิน ท่าเรือ ขนส่งสาธารณะ อาคารทางประวัติศาสตร์ บ้านเรือน และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถใช้เวลาได้ทั้งวัน และสามารถเพลิดเพลินได้ทั้งครอบครัว
ห้างสรรพสินค้าบอง มาร์เช่ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ห้างสรรพสินค้าบอง มาร์เช่ (Bon Marche) เป็นห้างสรรพสินค้าแห่งแรกในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากห้องรับแขกเล็กๆ ในบ้านเท่านั้น ห้างสรรพสินค้าเก่าแก่แห่งนี้เดิมเป็นเพียงร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าจำพวกลูกไม้ ริบบิ้น ผ้าปูที่นอน ที่นอน กระดุม ร่ม และสินค้าเบ็ดเตล็ดอื่นๆ ทว่าด้วยแนวคิดที่ต้องการเติมเต็มความต้องการให้ผู้หญิงได้มากที่สุด ทำให้ที่นี่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วกระทั่งกลายมาเป็นห้างใหญ่สุดหรูหราจนถึงปัจจุบัน
ห้างสรรพสินค้าแพรงตองค์ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ห้างสรรพสินค้าแพรงตองค์ (Printemps) เป็นห้างสรรพสินค้าหรูหราที่ชื่อแปลความหมายได้ว่า "ฤดูใบไม้ผลิ" ในภาษาฝรั่งเศส ห้างนี้มีอายุเก่าแก่กว่า 150 ปี โดดเด่นด้วยโดมแก้วสวยงามใจกลางกรุงปารีส
หอคอย มงต์ปาร์นาส เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
หอคอย มงต์ปาร์นาส (Montparnasse Tower) ตึกระฟ้าความสูง 210 เมตรที่ตั้งอยู่ในย่านมงต์ปาร์นาสของกรุงปารีส เคยครองตำแหน่งตึกที่สูงที่สุดของประเทศฝรั่งเศส และสูงเป็นอันดับ 13 ของยุโรป หอคอยแห่งนี้คือจุดชมวิวเมืองชั้นเยี่ยมของปารีส
สะพานปงต์เนิฟ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
สะพานปงต์เนิฟ (Pont Neuf) แปลความหมายตรงตัวว่า “สะพานใหม่” ทว่าเป็นสะพานเก่าแก่ที่สุดในกรุงปารีส เริ่มสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพระเจ้าอ็องรีที่ 3 ทำหน้าที่เชื่อมต่อเมืองรวมถึงสองฝากฝั่งแม่น้ำแซน (Seine River) เข้าหากัน
สะพานต์ปงเดซาร์ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
สะพานปงต์เดซาร์ (Pont des Art) เป็นสะพานคนเดินเท้าข้ามแม่น้ำแซน ถือเป็นสะพานเหล็กแห่งแรกในปารีส สร้างขึ้นตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1800 หลายปีที่ผ่านมามีคู่รักจำนวนมากนิยมนำแม่กุญแจสลักชื่อ หรือ Love Lock มาคล้องไว้บนราวสะพานเพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนความรักที่ยั่งยืน
ถนนริโวลี เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ถนนริโวลี (Rue de Rivoli) หนึ่งในถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงปารีส ที่ตั้งชื่อตามชัยชนะในช่วงแรกของจักรพรรดินโปเลียนเมื่อครั้งเอาชนะกองทัพออสเตรียที่สมรภูมิริโวลี (Battle of Rivoli)
ถนนแซ็ง-โตโนเร่ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ถนนแซ็ง-โตโนเร่ (Rue Saint Honore) เป็นถนนความยาว 2 กิโลเมตรใจกลางกรุงปารีสที่เต็มไปด้วยร้านบูติกลักชัวรี่ ร้านอาหารชั้นเลิศ และโรงแรมสุดหรูที่ดีที่สุดของปารีส
จัตุรัส ปลาส ว็องโดม เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
จัตุรัส ปลาส ว็องโดม (Place Vendome) ถือเป็นย่านสุดหรูของกรุงปารีสที่เริ่มสร้างมาตั้งแต่สมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 รอบๆ จัตุรัสเป็นที่ตั้งของร้านนาฬิกาแบรนด์เนมหรูหรามากมาย และยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมที่มีชื่อเสียงอย่าง Hotel Ritz Paris ที่บรรดาราชวงศ์ต่างๆ จากทั่วโลกเคยมาประทับและโปรดปราน
กีธูร์น หมู่บ้านไร้ถนน เมืองสตีนวิกเกอร์แลนด์ ประเทศเนเธอร์แลนด์
กีธูร์น (Giethoorn) หมู่บ้านไร้ถนนของชาวดัตช์ อดีตเหมืองขุดถ่านหินเลน ที่มีความเงียบสงบ สวยงาม ดุจดั่งหมู่บ้านในเทพนิยาย หนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวใฝ่ฝัน และต้องการมาพักตากอากาศ ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ในบ้านพักกระท่อมสไตล์ยุโรปตะวันตก ท่ามกลางอากาศอันบริสุทธิ์ ไร้มลพิษ
อามาโนะฮาชิดาเตะ วิวแลนด์ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
อามาโนะฮาชิดาเตะ วิวแลนด์ (Amanohashidate View Land) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสันทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน และมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี โดยมีชื่อปรากฏอยู่ในบทกวีโบราณตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1020 ด้านบนของจุดชมวิวแห่งนี้ยังมีสวนสนุกเล็กๆ อยู่ด้วย
หมู่บ้านโบราณมิยามะ คายาบุกิโนะซาโตะ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
หมู่บ้านโบราณมิยามะ คายาบุกิโนะซาโตะ (Miyama Kayabuki no Sato) เป็นหมู่บ้านเกษตรกรรมท้องถิ่นเล็กๆ ในชนบทเมืองมิยามะ (Miyama) เกียวโต (Kyoto) บ้านเรือนมีลักษณะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยหลังคาทรงสูงและมุงหลังคาด้วยหญ้าคายะ (Kaya) และมีของขึ้นชื่อคือไข่ไก่และถั่วดำ นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปรอบๆ และเพลิดเพลินกับบรรยากาศอันน่าทึ่งของหมู่บ้านโบราณแห่งนี้ที่มีฉากหลังเป็นภูเขา และสัมผัสวิถีชีวิตของคนในหมู่บ้านได้อย่างแท้จริง
วัดนาริอาอิจิ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดนาริอาอิจิ (Nariaiji Temple) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดหากมีโอกาสได้ไปเยือนแถบอามาโนะฮาชิดาเตะ จุดน่าสนใจที่เป็นไฮไลต์ของวัดแห่งนี้คือเจดีย์ห้าชั้น งามสง่า และโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
วัดเบียวโดอิน เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple) สถานที่สำคัญและมีชื่อเสียงโด่งดังของเมืองอุจิ จังหวัดเกียวโต ซึ่งมีวิหารปรากฏอยู่บนเหรียญ 10 เยนของญี่ปุ่น และยังได้รับคัดเลือกจากองค์การยูเนสโก (Unesco) ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกของญี่ปุ่นด้วย
เที่ยว 3 เกาะสเปน + เมืองบาร์เซโลนา ด้วยเรือเฟอร์รี่
สเปน เป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนคาบสมุทรไอบีเรีย ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป แดนกระทิงดุแห่งนี้เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสถาปัตยกรรมสุดอลังการซึ่งทำหน้าที่บอกเล่าภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ได้เป็นอย่างดี สีสันทางวัฒนธรรมของสเปนก็เรียกว่าจัดจ้านมีเสน่ห์เย้ายวนใจไม่หยอก และด้วยที่ตั้งอันมีลักษณะเฉพาะนี้ประเทศสเปนจึงภูมิทัศน์หลากหลาย ตั้งแต่เทือกเขาพิเรนีส พื้นที่คล้ายทะเลทราย ไปจนถึงชายหาดขาวกับน้ำทะเลสีฟ้าใสราวกับคริสตัล และหากเอ่ยถึงสถานที่ท่องเที่ยวบรรยากาศชายหาดสุดผ่อนคลายหรือเมืองตากอากาศยอดนิยม ชื่อของเกาะไอบิซา (Ibiza) หนึ่งในหมู่เกาะแบลีแอริก (Balearic Islands) ก็น่าจะถูกจัดไว้ให้เป็นลำดับต้นๆ ซึ่งหากไปเที่ยวไอบิซาแล้วแนะนำว่าอีกสองเกาะที่อยู่ไม่ไกลกันนักอย่างเกาะฟอร์เมนเตรา (Formentera) และปาลมา เกาะมารยอร์ก้า (Palma, Mallorca) ก็ควรค่าอย่างยิ่งแก่การนั่งเรือข้ามไปเที่ยว และไม่เพียงเท่านั้น เพราะจากปาลมายังสามารถนั่งเรือเฟอร์รีไปยังเมืองชายฝั่งชื่อดังที่สวยงามและมีชีวิตชีวาอย่างบาร์เซโลนา (Barcelona) ได้ด้วย… ทริปนี้ Palanla จะพาเที่ยว 3 เกาะตากอากาศ และนั่งเรือเฟอร์รีข้ามฟากไปสำรวจ 1 เมืองใหญ่ของสเปนพร้อมๆ กัน!
อนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง จังหวัดพะเยา ประเทศไทย
อนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง (Pho Khun Ngam Muang Monument) เป็นอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่หน้ากว๊านพะเยา สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงพ่อขุนงำเมือง กษัตริย์ลำดับที่ 9 แห่งเมืองภูกามยาวหรือพะเยาในปัจจุบัน โดยในสมัยที่พ่อขุนงำเมืองปกครองอาณาจักรพะเยานั้นทำให้พะเยาเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก จนกลายเป็นอาณาจักรใหญ่ 1 ใน 3 อาณาจักรของชนเผ่าไทยในแถบนี้ ได้แก่ อาณาจักรล้านนา อาณาจักรสุโขทัย และอาณาจักรพะเยา นั่นเอง เมื่อพะเยาได้รับการยกฐานะให้เป็นจังหวัดที่ 72 ในปีพ.ศ.2520 ชาวพะเยาจึงร่วมใจกันสร้างอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมืองขึ้น บริเวณสวนสาธารณะริมกว๊านพะเยา และกลายเป็นศูนย์รวมใจของชาวพะเยานับแต่นั้นเป็นต้นมา
ศาลหลักเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ประเทศไทย
ศาลหลักเมือง (City Pillar Shrine) เป็นศาลคู่บ้านคู่เมืองของจัดหวัดกำแพงเพชร ภายในเป็นที่ประดิษฐานเสาหลักเมืองเก่าแก่ที่มีอายุหลายร้อยปี ศาลหลักเมืองกำแพงเพชรเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวเมืองเป็นอย่างมาก เนื่องจากเชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักรักษาให้บ้านเมืองมีความอยู่เย็นเป็นสุข นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นที่นิยมในการขอพรเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย อาชีพ และความมั่นคงอีกด้วย
7 สะพานสวยเมืองไทย น่าไปเช็กอิน
หากเอ่ยถึงสะพานสวยๆ ในประเทศไทย แน่นอนว่าคงมีสะพานหลายๆ แห่งที่เคยได้ผ่านหูผ่านตาปรากฏขึ้นมาในจินตภาพของเรา บ้างชัดเจน บ้างเพียงรางๆ… Palanla จะพาไปชม 7 สะพานสวยในประเทศไทยแบบใกล้ๆ ซึ่งนอกจากความสวยงามแล้ว แต่ละแห่งยังมีที่มาที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
ชม UNSEEN เมืองอุทัยฯ สัมผัสวิถี SLOW LIFE ริมแม่น้ำสะแกกรัง 2 วัน 1 คืน
จังหวัดอุทัยธานีเป็นจังหวัดในภาคกลางที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวจากวิถีชีวิตท้องถิ่นท่ามกลางธรรมชาติของแม่น้ำและป่าไม้ ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่นักท่องเที่ยวมักจะนึกถึงเมื่อต้องการมาพักผ่อนเพื่อสัมผัสธรรมชาติและบรรยากาศแบบสโลว์ไลฟ์แบบไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ซึ่งหากใครพอมีเวลาอยากให้ลองมาเที่ยวอุทัยธานีดูสักครั้ง โดยวันนี้ทาง Palanla จะพาทุกท่านไปเที่ยวอุทัยธานีกันแบบ 2 วัน 1 คืน เพื่อเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดอุทัยธานีกันในทริปนี้
จันทบุรี...เที่ยวท่องมองเมืองจันท์ 2 วัน 1 คืน
จันทบุรี เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ตอบโจทย์การท่องเที่ยวได้อย่างครบถ้วน และอยู่ห่างจากกรุงเทพเพียงประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้น ด้วยธรรมชาติที่หลากหลายทั้งทะเล ป่าเขา ไปจนถึงวิถีชีวิตชุมชนริมน้ำ และสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนาที่มีสถาปัตยกรรมงดงามตราตรึงทั้งพุทธและคริสต์ ทำให้จังหวัดเล็กๆ ทางภาคตะวันออกแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับใครที่อาจจะมีวันหยุดไม่มากแต่อยากเที่ยวแบบหลบไปนอนพักชิลๆ สักคืน… ทริปจันทบุรี 2 วัน 1 คืนก็น่าจะตอบโจทย์ใครหลายๆ คน
10 อันดับพระใหญ่สูงตระหง่านที่สุดในเมืองไทย
เมืองไทย นอกจากจะมีวัดวาอารามสวยๆ อยู่ทั่วทุกจังหวัด ทั่วทุกภูมิภาคแล้ว วัดหลายๆ แห่งยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ งดงาม สูงตระหง่าน สะท้อนถึงความศรัทธาของผู้คนที่มีต่อพระพุทธศาสนาอันเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจมายาวนาน…Palanla ได้รวบรวม 10 อันดับพระใหญ่สูงตระหง่านที่สุดในเมืองไทยมาไว้ในบทความนี้ ส่วนจะมีที่ไหนบ้างนั้น ไปติดตามกันได้เลย
ซุ้มประตูเมืองและพิพิธภัณฑ์เมืองลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ประเทศไทย
ซุ้มประตูเมืองและพิพิธภัณฑ์เมืองลับแล (City Gate & Mueang Lab Lae Museum) หนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองลับแลที่ทำหน้าที่คอยต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง และบอกเล่าเรื่องราว วิถีชีวิต และขนบธรรมเนียมการใช้ชีวิตของผู้คนในเมืองลับแลในอดีตเชื่อมโยงมาจนถึงปัจจุบัน
วนอุทยานแพะเมืองผี จังหวัดแพร่ ประเทศไทย
วนอุทยานแพะเมืองผี (Phae Mueang Phi Forest Park) สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติแลนด์มาร์กสำคัญของจังหวัดแพร่ เป็นบริเวณที่มีเสาดินรูปร่างประหลาดซึ่งเกิดจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยา และมีเรื่องเล่าลึกลับที่คนโบราณเล่าสืบต่อกันเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้
คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ประเทศไทย
คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ (Khum Chao Luang Mueang Phrae) สถานที่เก่าแก่โบราณอายุนับร้อยปีที่อยู่คู่เมืองแพร่มายาวนาน เป็นอาคารที่ทรงคุณค่า ด้วยความโดดเด่นของสถาปัตยกรรม “ทรงขนมปังขิง” ที่มีรูปทรงเป็นแบบสถาปัตยกรรมไทยผสมยุโรป
วัดมิ่งเมือง จังหวัดน่าน ประเทศไทย
วัดมิ่งเมือง (Wat Ming Muang) เป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของเมืองน่าน ภายในวัดมีพระอุโบสถทรงล้านนาร่วมสมัยที่มีความงดงามจากลวดลายปูนปั้นบริเวณผนังด้านนอกและจิตรกรรมฝาผนังด้านในที่ถ่ายทอดเรื่องราวของวิถีชีวิตเมืองน่าน นอกจากนี้วัดแห่งนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานเสามิ่งเมืองซึ่งเป็นเสาหลักเมืองของจังหวัดน่านอีกด้วย
วังศิลาแลง (แกรนด์แคนยอนเมืองปัว) จังหวัดน่าน ประเทศไทย
วังศิลาแลง (แกรนด์แคนยอนเมืองปัว) (Wang Sila Laeng (Grand Canyon Muang Pua)) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยงามแปลกตาจากธารน้ำที่ไหลผ่านซอกหิน และกัดเซาะซอกหินจนเป็นริ้วตามกระแสน้ำจนได้รับสมญานามว่าเป็นแกรนด์แคนยอนเมืองปัว ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวในอำเภอปัวที่ไม่ควรพลาด
ถนนคนเมือง จังหวัดน่าน ประเทศไทย
ถนนคนเมือง (Thanon Kon Muang Night Market) เป็นตลาดอีกแห่งหนึ่งของเมืองน่านที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว โดยภายในเต็มไปด้วยร้านอาหารและร้านค้าที่จำหน่ายของฝากและของที่ระลึกจากผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่น นอกจากนี้ในช่วงห้าโมงเย็นไปจนถึงสี่ทุ่มยังเปิดเป็นถนนคนเดิน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสีสันของเมืองน่านที่ในบางคืนจะมีการแสดงทางวัฒนธรรมต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนได้เที่ยวชมอีกด้วย
ถนนคนเดินกาดข่วงเมืองน่าน หน้าวัดภูมินทร์ จังหวัดน่าน ประเทศไทย
ถนนคนเดินกาดข่วงเมืองน่านหน้าวัดภูมินทร์ (Kad Khuang Muang Nan Walking Street in front of Wat Phumin) เป็นสีสันยามค่ำคืนของเมืองน่านที่จะเปิดทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ช่วงห้าโมงเย็นไปจนถึงสี่ทุ่ม ภายในมีแผงสินค้าและอาหารจำหน่ายมากมาย ซึ่งสามารถซื้ออาหารมานั่งทานบริเวณลานขันโตกภายในวัด พร้อมชมความสวยงามของวัดและชมการแสดงทางวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไปในแต่ละวัน ทั้งการแสดงพื้นบ้านและการร่ายรำในชุดพื้นเมือง ถนนคนเดินแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของเมืองน่านที่ไม่ควรพลาดชม
วัดกลางมิ่งเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย
วัดกลางมิ่งเมือง (Wat Klang Ming Muaeng) วัดเก่าแก่ที่สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นก่อนตั้งเมืองร้อยเอ็ด บริเวณผนังรอบพระอุโบสถมีลวดลายภาพวาดสวยงาม และมีคุณค่าทางศิลปะ
อนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ ประเทศไทย
อนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมือง (Pho Khun Pha Muang Memorial) เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเพชรบูรณ์ให้ความเคารพศรัทธากันมาอย่างช้านาน อนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงวีรกรรม ความกล้าหาญ และความเสียสละของพ่อขุนผาเมืองที่ร่วมกับพ่อขุนบางกลางหาวขับไล่ขอม “สบาดโขลญลำพง” ออกจากเมืองสุโขทัยจนนำไปสู่การสถาปนากรุงสุโขทัยขึ้นเป็นราชธานีแห่งแรกของไทย
อนุสรณ์สถานเมืองราดพ่อขุนผาเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ ประเทศไทย
อนุสรณ์สถานเมืองราดพ่อขุนผาเมือง (Muang Rad Pho Khun Pha Mueang Memorial) เป็นอนุสรณ์สถานเนื้อที่ 8 ไร่ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงพ่อขุนผาเมืองซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเมืองราดเมื่อในอดีต ภายในบริเวณมีพื้นที่สักการะพระบรมรูปพ่อขุนผาเมือง และมีส่วนของอาคารนิทรรศการจัดแสดงพระราชประวัติของพ่อขุนผาเมือง รวมถึงเรื่องราวความเป็นมาของเมืองราดและโบราณวัตถุอย่างเครื่องมือเครื่องใช้ในสมัยโบราณให้ได้เที่ยวชมอีกด้วย
สะพานพ่อขุนผาเมือง (สะพานห้วยตอง) จังหวัดเพชรบูรณ์ ประเทศไทย
สะพานพ่อขุนผาเมือง (สะพานห้วยตอง) (Pho Khun Pha Muang Bridge (Huai Tong Bridge)) เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กที่มีตอม่อสูงที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่กลางหุบเขาในอำเภอหล่มสัก เป็นทางเชื่อมการเดินทางระหว่างภาคอีสานและภาคเหนือเข้าไว้ด้วยกัน และถือเป็นประตูสู่ภาคเหนืออีกด้วย โดยทัศนียภาพระหว่างสองข้างทางระหว่างที่รถแล่นผ่านสะพานแห่งนี้จะรายล้อมด้วยทิวเขาและป่าไม้ที่มีความสวยงามน่าประทับใจเป็นอย่างมาก
ศาลหลักเมืองนครบาลเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ ประเทศไทย
ศาลหลักเมืองนครบาลเพชรบูรณ์ (Nakhonban Phetchabun City Pillar Shrine) เป็นอาคารทรงไทยจตุรมุขสีแดงตัดทอง ภายในเป็นที่ตั้งของเสาหลักเมือง ซึ่งถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดเพชรบูรณ์ อีกทั้งยังเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอีกแห่งหนึ่งที่ชาวเมืองให้ความเคารพศรัทธามาอย่างช้านาน
วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง จังหวัดเลย ประเทศไทย
วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง (Wat Somdet Phu Ruea Ming Mueang) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของอำเภอภูเรือ ภายในโดดเด่นด้วยโบสถ์ไม้สักและเรือนไม้สักที่สลักเสลาลวดลายศิลปะอย่างวิจิตรงดงาม เป็นวัดบนเขาที่มีความสวยงามและมีบรรยากาศอันร่มรื่นท่ามกลางขุนเขาที่โอบล้อม ไฮไลท์ของการท่องเที่ยววัดแห่งนี้คือการสักการะองค์พระประธานด้านในที่มีนามว่า พระพุทธเจ้าไภสัชยาคุรุไวฑูรยประภาจอมแพทย์ หรือพระกริ่งปวเรศเพื่อความเป็นสิริมงคล
ภูป่าเปาะ (ฟูจิเมืองเลย) จังหวัดเลย ประเทศไทย
ภูป่าเปาะ (Phu Pa Poh) ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมฟูจิเมืองเลย ด้วยทิวทัศน์ที่มองเห็น “ภูหอ” ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิของญี่ปุ่นนั่นเอง ภูป่าเปาะมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 910 เมตร ด้านบนสามารถเห็นวิวได้รอบด้าน นอกจากภูหอแล้วยังเห็นภูเขาอื่นๆ ที่อยู่โดยรอบ เช่น ภูหินร่องกล้า ภูหลวง ภูกระดึง สวนหินผางาม และเขาค้อ เป็นต้น และในช่วงฤดูหนาวยังบริเวณนี้ยังเป็นจุดชมทะเลหมอกได้แบบ 360 องศาอีกด้วย
๙ วัดคู่บ้านคู่เมืองราชวงศ์จักรี ประเทศไทย
พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีไทย ทุกพระองค์ทรงเป็นองค์อัครราชูปถัมภกในทุกศาสนา รวมถึงศาสนาพุทธ ซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติ จึงทรงโปรดให้มีการสร้างวัดประจำพระองค์ขึ้น ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 เป็นต้นมา โดยบางวัดพระมหากษัตริย์อาจไม่ได้เป็นผู้สร้าง ทว่าทรงเกี่ยวข้องกับการบูรณะวัด หรือทรงรับวัดไว้ในพระอุปถัมภ์ และมีความผูกพันกับวัดนั้นเป็นพิเศษ ก็ถือเป็นวัดประจำรัชกาลเช่นเดียวกัน
ปราสาทเมืองสิงห์ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
ปราสาทเมืองสิงห์ (Prasat Muang Sing) เป็นปราสาทโบราณที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมขอมแบบบายน มีอายุราวหนึ่งพันปี ตั้งอยู่กลางเมืองสิงห์ซึ่งเป็นเมืองโบราณอายุราวสองพันปี โดยปัจจุบันโบราณสถานแห่งนี้อยู่ในพื้นที่ของอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ในความดูแลของกรมศิลปากร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สะท้อนให้เห็นถึงอารยธรรมในอดีตที่ยังคงเหลือเหลือให้คนรุ่นหลังได้เที่ยวชมศึกษาในปัจจุบัน
ประตูเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
ประตูเมืองกาญจนบุรี (Kanchanaburi Town Gate) เป็นแลนด์มาร์กและอนุสรณ์สถานที่สำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี มีลักษณะเป็นประตูเมืองสีขาวที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2374 เมื่อครั้งย้ายเมืองกาญจนบุรีเก่าจากตำบลลาดหญ้า มาสู่ปากแพรกด้วยเหตุผลทางด้านยุทธศาสตร์ทางการรบที่มีชัยภูมิที่ดีกว่า บริเวณซุ้มประตูเป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวเมืองเป็นอย่างมาก
หอชมเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ ประเทศไทย
หอชมเมืองสมุทรปราการ (Samut Prakan City Observatory) เป็นหอคอยสำหรับชมทัศนียภาพเมืองสมุทรปราการ ซึ่งชั้นบนสุดของหอชมเมืองเป็นห้องกระจกใสสามารถมองเห็นพื้นที่ฝั่งปากน้ำ ทั้งพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ศาลากลางจังหวัด ทะเลอ่าวไทย และฝั่งพระสมุทรเจดีย์ ทั้งป้อมผีเสื้อสมุทร ป้อมพระจุลฯ รวมไปถึงฝั่งบางกะเจ้าอีกด้วย นอกจากนี้ภายในอาคารหอชมเมืองยังแบ่งพื้นที่เป็นพิพิธภัณฑ์เด็ก พิพิธภัณฑ์สมุทรปราการ และห้องสมุด แต่ปัจจุบันยังไม่เปิดให้เข้าชมภายใน นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมภายนอกได้ โดยในช่วงเทศกาลและวันสำคัญต่างๆ จะมีการเปิดไฟสีสันสวยงาม เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กแห่งจังหวัดสมุทรปราการ
เมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ ประเทศไทย
เมืองโบราณ (Ancient City) เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่จำลองสถานที่สำคัญทั่วไทยมาไว้บนพื้นที่กว่า 800 ไร่ ด้วยโครงสร้างของที่ดินที่เป็นรูปขวานคล้ายกับแผนที่ประเทศไทย จึงแบ่งออกเป็น 4 ภาค คือ ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ แต่ละภาคก็จะมีสถานที่จำลอง เช่น พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในกรุงเทพฯ พระปรางค์สามยอดในจังหวัดลพบุรี ปราสาทหินพนมรุ้งในจังหวัดบุรีรัมย์ เจดีย์เจ็ดยอดในจังหวัดเชียงใหม่ และพระบรมธาตุไชยาในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นต้น ภายในมีจุดบริการรถและเรือรับส่งไปยังจุดต่างๆ ของเมืองโบราณ นอกจากนี้ยังมีบริการให้เช่าชุดไทยไว้ใส่ถ่ายภาพสวยๆ กันด้วย
ศาลหลักเมือง จังหวัดกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
ศาลหลักเมือง (City Pillar Shrine) กรุงเทพมหานคร สถานที่อันเป็นหลักบ้านหลักเมืองและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คนมายาวนาน สร้างขึ้นมาพร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี สถานที่แห่งนี้ในแต่ละวันมีประชาชนหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันมากราบไหว้ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างไม่เคยขาดสาย
5 สถานที่ชมดอกไม้บานตามธรรมชาติที่สวยและใหญ่ที่สุดในเมืองไทย
ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปกี่ยุคกี่สมัย และสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ จะเกิดขึ้นตามเทรนด์อยู่เรื่อยๆ แต่ก็ไม่มีใครปฏิเสธได้เลยว่า ความสวยงามที่ธรรมชาติเป็นผู้รังสรรค์ขึ้นนั้นไม่มีสิ่งใดจะมาทดแทนได้จริงๆ โดยเฉพาะความงามของดอกไม้ตามธรรมชาติที่ใครได้ชมก็ชื่นใจ แม้บางสถานที่การเดินทางอาจไม่ได้ง่ายแต่เมื่อถึงฤดูกาลที่มวลดอกไม้เบ่งบานผู้คนที่ใฝ่หาความงามและสีสันสวยๆ จากธรรมชาติก็ยินยอมพร้อมใจที่จะเดินทางไปหา ไม่ว่าจะอยู่บนดอย ในป่า หรือกลางบึงใหญ่ วันนี้ Palanla จะพาไปรู้จักกับ 5 สถานที่ชมดอกบานตามธรรมชาติ ที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ถนนคนเดินเมืองปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประเทศไทย
ถนนคนเดินเมืองปาย (Pai Night Market) เป็นตลาดกลางคืนที่ค่อนข้างคึกคักในอำเภอปาย โดยพ่อค้าแม่ค้าจะตั้งแผงขายของในช่วงแดดร่มลมตกไปจนถึงตอนกลางคืนบริเวณถนนชัยสงคราม เป็นตลาดที่มีทั้งอาหาร สินค้า และของที่ระลึก ให้นักท่องเที่ยวได้เดินเล่น กินของอร่อย และซื้อของฝาก อีกทั้งยังมีตู้ไปรษณีย์และร้านขายโปสการ์ดให้ส่งเป็นที่ระลึกอีกด้วย
ศาลหลักเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย
ศาลหลักเมืองอุบลราชธานี (Ubon Ratchathani City Pillar Shrine) เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอุบลราชธานี และเป็นสถานที่ที่ชาวอุบลให้ความเคารพนับถือ อีกทั้งยังเป็นเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวมักจะแวะเข้าไปสักการะเพื่อเป็นศิริมงคลให้กับตนเองและเพื่อให้เดินทางอย่างแคล้วคลาดปลอดภัย
ต้นเทียนเฉลิมพระเกียรติ ทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย
ต้นเทียนเฉลิมพระเกียรติ ทุ่งศรีเมือง (Ton Thien Chalerm Phrakiat at Thung Sri Mueang) ถือเป็นแลนด์มาร์กแห่งจังหวัดอุบลราชธานี โดยทุ่งศรีเมืองเป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด ภายในสวนมีอภิมหาเทียนพรรษาเฉลิมพระเกียรติที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542 และเป็นที่หล่อหลอมจิตศรัทธาของชาวอุบลราชธานีให้เป็นหนึ่งเดียว
ศาลหลักเมือง จังหวัดสุรินทร์ ประเทศไทย
ศาลหลักเมืองสุรินทร์ (City Pillar Shrine) เป็นอาคารที่มีสถาปัตยกรรมสวยงาม ขนาดกะทัดรัด เป็นเทวสถานที่สถิตขององค์เจ้าพ่อหลักเมือง สถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองของชาวสุรินทร์
ศาลหลักเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย
ศาลหลักเมืองบุรีรัมย์ (City Pillar Shrine) ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์รวมขวัญและกำลังใจของชาวจังหวัดบุรีรัมย์เท่านั้น แต่ด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ซึ่งเลียนแบบมาจากปราสาทหินพนมรุ้ง ที่นี่จึงถือเป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเยี่ยมชมและสักการะเมื่อมาเที่ยวบุรีรัมย์
ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช ประเทศไทย
ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช (City Pillar Shrine) อาคารศาลหลักเมืองหลังสีขาว สร้างด้วยด้วยสถาปัตยกรรมแบบศิลปะศรีวิชัยที่ตั้งโดดเด่นอยู่บนถนนราชดำเนิน จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญซึ่งเป็นที่ยึดเหนี่ยว และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวนครฯ มาอย่างยาวนาน
ศาลหลักเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ประเทศไทย
ศาลหลักเมืองขอนแก่น (Khon Kaen City Pillar Shrine) หรือ "ศาลเทพารักษ์หลักเมือง" อันงามสง่านี้เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนเมืองขอนแก่น รวมถึงนักท่องเที่ยวที่มักจะมาสักการะศาลหลักเมืองแห่งนี้เมื่อมีโอกาสแวะเวียนมาที่จังหวัดขอนแก่น
ปราสาทเมืองต่ำ จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย
ปราสาทเมืองต่ำ (Mueng Tam Stone Sunctuary) เป็นศาสนสถานที่สร้างตามคติความเชื่อทางศาสนาฮินดู โดยสันนิษฐานว่าปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อบูชาพระศิวะ ซึ่งเป็นข้อสันนิษฐานเดียวกันกับการสร้างปราสาทพนมรุ้ง
ศาลหลักเมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
ศาลหลักเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (Ayutthaya City Pillar Shrine) ถือเป็นอีกหนึ่งศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองเก่า เมืองที่เต็มไปด้วยร่องรอยทางประวัติศาสตร์มากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศแห่งนี้
เมืองรัตติยา จังหวัดนครปฐม ประเทศไทย
เมืองรัตติยา (Muang Rattiya) เมืองที่จำลองมาจากรูปแบบของเมืองในสมัยกรุงศรีอยุธยาได้อย่างสวยงามและสมจริง เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ผู้คนนิยมไปเที่ยวชมและแต่งชุดไทยถ่ายภาพสวยๆ ในบรรยากาศย้อนยุค
ศาลหลักเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประเทศไทย
ศาลหลักเมือง เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองสุราษฎร์ เพราะถือเป็นหลักชัยคู่บ้านคู่เมืองทำให้ประชาชนอยู่ร่มเย็นเป็นสุข ศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานีตั้งอยู่บนถนนดอนใกล้กับตลาดบ้านดอนบริเวณริมแม่น้ำตาปี ต.ตลาด อ.เมือง ศาลหลักเมืองแห่งนี้สร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงครองราชย์สมบัติครบ 50 ปี ในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2539 และเพื่อเป็นสิริมงคล เป็นหลักชัย และมิ่งขวัญ รวมทั้งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวสุราษฎร์ธานี โดยมีคณะช่างจากกรมศิลปากรเป็นผู้ออกแบบก่อสร้างตามศิลปกรรมศรีวิชัยด้วยการเน้นรูปลักษณ์ศิลปกรรมท้องถิ่นเดิม ได้รับอิทธิพลมาจากชวา ลังกา และเขมร ผสมกลมกลืนกัน เพื่อแสดงถึงความมั่นคงและเป็นปึกแผ่นของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมืองเก่าที่มีร่องรอยทางประวัติศาสตร์สมัยศรีวิชัย และมีความความรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยโบราณกาลจวบจนกระทั่งปัจจุบัน
น้ำตกหน้าเมือง เกาะสมุย จังหวัดสุราษฏร์ธานี ประเทศไทย
น้ำตกหน้าเมือง เป็นน้ำตกขนาดกลางบนเกาะสมุย มีความสูง 15 เมตร ถือเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศจากชายหาดและทะเล มาเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามและอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติรอบด้าน ตั้งอยู่บนเกาะสมุย จ.สุราษฏร์ธานี ประเทศไทย
ย่านเมืองเก่าภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย
เมื่อมาเที่ยวภูเก็ต กิจกรรมท่องเที่ยวอย่างหนึ่งที่จะพลาดไปไม่ได้คือ การตระเวนชมอาคารบ้านเรือน ตึกสวยๆ แบบชิโนโปรตุกีสที่ย่านเมืองเก่า ซึ่ง ณ พ.ศ.นี้ ไม่ว่าใครไปเที่ยวภูเก็ตก็จะต้องไปเดินเล่นถ่ายรูปอาคารบ้านเรือนสวยๆ ที่นี่ การเดินชมย่านเมืองเก่าอันเป็นเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ของเมืองภูเก็ต นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมสถาปัตยกรรมดั้งเดิมอันงดงามตระการตาแล้ว ในขณะเดียวกันยังได้สัมผัสถึงวิถีชีวิตของผู้คน และได้เรียนรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของภูเก็ต อีกทั้งยังมีโอกาสได้ลิ้มรสอาหารพื้นเมืองซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่มีเฉพาะถิ่นอีกด้วย
เทศกาลตรุษจีนย้อนอดีตเมืองภูเก็ต ครั้งที่ 19
ในช่วงเทศกาลตรุษจีน เป็นเวลาของการจัด “เทศกาลตรุษจีนย้อนอดีตเมืองภูเก็ต” ที่จัดกันมาอย่างยาวนาน โดยปีนี้ได้จัดขึ้นเป็นปีที่ 19 แล้ว เป็นงานใหญ่อีกงานหนึ่งของเทศบาลนครภูเก็ตที่จัดขึ้นในย่านเมืองเก่า เพื่อเผยแพร่วิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่นให้คนรุ่นใหม่รวมทั้งนักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสและเรียนรู้อย่างรื่นรมย์ โดยแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาร่วมชมงานกันอย่างคับคั่ง
เมืองบาดาล (วัดใต้น้ำ) จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
การล่องเรือเพื่อชมวัดใต้น้ำหรือเมืองบาดาล เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์อีกหนึ่ง อย่างเมื่อมายังเมืองสังขละบุรี ไม่แพ้ไปกับการถ่ายรูปที่สะพานมอญเลยก็ว่าได้ เนื่องด้วยประวัติอันน่าสนใจ ของเมืองสังขละบุรีเกี่ยวกับวัดเก่าทั้ง 3 อันเป็นตัวแทน ของ 3 เชื้อชาติ ประกอบด้วย วัดวังก์วิเวการาม วัดของชาวมอญ, วัดศรีสุวรรณ วัดของชาวกระเหรี่ยง, และวัดสมเด็จ วัดของชาวไทย โดยในบรรดาวัดของทริป ล่องเรือนั้น มี 2 วัดที่จมอยู่ใต้น้ำหรือโผล่พ้นเหนือน้ำ นั่นก็คือวัดวังก์วิเวการามเก่า หรือวัดหลวงพ่ออุตตมะ และวัดศรีสุวรรณ ส่วนวัดสมเด็จเก่า จะประดิษฐานอยู่บน เนินเขา และสังเกตุได้ว่า วัดทั้ง 3 ทำมุมเป็น 3 เหลี่ยมครอบจุดบรรจบของแม่น้ำทั้ง สามสาย หรือที่เรียกว่า "สามประสบ" บริเวณเนินที่มีแม่น้ำสามสายมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำบิคลี่ ซองกาเลีย และรันตี แม่น้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิตชาวบ้านท้องถิ่นมาช้านาน
10 คาถามงคล ขอพร 10 พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง
ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ไหว้ 10 พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง พร้อมคาถาบูชา เสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
เมืองมัลลิกา ร.ศ.124 จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124 ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของอำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เมืองแห่งวัฒนธรรมและวิถีชนแห่งแรกในไทยและแห่งเดียวในโลก โดยจำลองเมืองโบราณในช่วงยุคสมัยรัชกาลที่ 5 มาไว้ ณ ที่แห่งนี้ เพราะในร.ศ. 124 เป็นยุคที่เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายขึ้นในแผ่นดินสยาม ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลต่อรูปแบบการดำเนินชีวิตของคนยุคนั้น ตั้งแต่การประกาศเลิกทาส การแผ่ขยายอิทธิพลจากโลกตะวันตกเข้ามาในแผ่นดินสยาม และนำไปสู่การผสมผสานทางวัฒนธรรม ระหว่างรากเหง้าของวิถีชีวิตคนไทยดั้งเดิมกับวัฒนธรรมตะวันตก จนได้รับการนิยามว่าเป็นยุคทองแห่งความศิวิไลซ์
พระพุทธชินราช พระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองพิษณุโลก
พระพุทธชินราช หรือที่นิยมเรียกกันว่า หลวงพ่อใหญ่ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย หมวดพระพุทธชินราช หน้าตักกว้าง 5 ศอก 1 คืบ 5 นิ้ว สูง 7 ศอก องค์พระเมื่อแรกสร้างขึ้นจากสำริด ก่อนจะลงรักปิดทองในสมัยต่อมา
พระพุทธไตรรัตนนายก (หลวงพ่อโต) พระศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองกรุงเก่า
พระพุทธไตรรัตนนายก หรือที่คนนิยมเรียกกันมาตั้งแต่อดีตว่า หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย กว้าง 20 เมตร สูง 19 เมตร เป็นหนึ่งในพระพุทธรูปปูนปั้นที่งดงามคู่บ้านคู่เมืองอยุธยามาตั้งแต่ครั้งอดีต
พระพุทธโสธร พระศักดิ์สิทธิ์ศูนย์รวมศรัทธาแห่งเมืองฉะเชิงเทรา
พระพุทธโสธร หรือที่ประชาชนเรียกด้วยความศรัทธาว่า หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ศิลปะอยุธยา หน้าตักกว้าง 5 ฟุต 6 นิ้ว สูง 6 ฟุต และเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแปดริ้ว หรือจังหวัดฉะเชิงเทรามาช้านาน
หลวงพ่อบ้านแหลม ตำนานพระศักดิ์สิทธิ์ลอยน้ำคู่เมืองสมุทรสงคราม
หลวงพ่อบ้านแหลม เป็นพระพุทธรูปยืนปางอุ้มบาตร ศิลปะสุโขทัย องค์พระทำด้วยทองเหลือง สูงใกล้เคียงกับคนจริง (ประมาณ 170 เซนติเมตร) เป็นหนึ่งในพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ถึงขนาดมีคำกล่าวว่า หากไปถึงเมืองสมุทรสาครแล้วไม่ได้ไปกราบหลวงพ่อบ้านแหลม ก็เหมือนไม่ได้ไปเมืองสมุทรสาคร
เอเวอร์แลนด์ เมืองยงอิน ประเทศเกาหลีใต้
เอเวอร์แลนด์ (Everland) เป็นสวนสนุกกลางแจ้งขนาดใหญ่ที่มีทั้งรีสอร์ต และสวนสัตว์ เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจได้ทั้งครอบครัว ภายในตกแต่งอย่างสวยงาม มีมุมถ่ายรูปน่ารักๆ มากมาย อีกทั้งยังมีอาคารร้านค้า ร้านอาหาร และร้านของที่ระลึกให้แวะเที่ยวชม นอกจากนี้ในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายนจะมีไฮไลท์เป็นเทศกาลทุ่งดอกทิวลิปสีสันสดใสสวยงาม และขบวนพาเหรดอันสนุกสนานท่ามกลางบรรยากาศของหุบเขาอีกด้วย
เที่ยว 3 เกาะสเปน + เมืองบาร์เซโลนา ด้วยเรือเฟอร์รี
สเปน เป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนคาบสมุทรไอบีเรีย ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป แดนกระทิงดุแห่งนี้เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสถาปัตยกรรมสุดอลังการซึ่งทำหน้าที่บอกเล่าภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ได้เป็นอย่างดี สีสันทางวัฒนธรรมของสเปนก็เรียกว่าจัดจ้านมีเสน่ห์เย้ายวนใจไม่หยอก และด้วยที่ตั้งอันมีลักษณะเฉพาะนี้ประเทศสเปนจึงภูมิทัศน์หลากหลาย ตั้งแต่เทือกเขาพิเรนีส พื้นที่คล้ายทะเลทราย ไปจนถึงชายหาดขาวกับน้ำทะเลสีฟ้าใสราวกับคริสตัล และหากเอ่ยถึงสถานที่ท่องเที่ยวบรรยากาศชายหาดสุดผ่อนคลายหรือเมืองตากอากาศยอดนิยม ชื่อของเกาะไอบิซา (Ibiza) หนึ่งในหมู่เกาะแบลีแอริก (Balearic Islands) ก็น่าจะถูกจัดไว้ให้เป็นลำดับต้นๆ ซึ่งหากไปเที่ยวไอบิซาแล้วแนะนำว่าอีกสองเกาะที่อยู่ไม่ไกลกันนักอย่างเกาะฟอร์เมนเตรา (Formentera) และปาลมา เกาะมารยอร์ก้า (Palma, Mallorca) ก็ควรค่าอย่างยิ่งแก่การนั่งเรือข้ามไปเที่ยว และไม่เพียงเท่านั้น เพราะจากปาลมายังสามารถนั่งเรือเฟอร์รีไปยังเมืองชายฝั่งชื่อดังที่สวยงามและมีชีวิตชีวาอย่างบาร์เซโลนา (Barcelona) ได้ด้วย… ทริปนี้
7 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองคามาคุระ ประเทศญี่ปุ่น
คามาคุระเป็นเมืองชายฝั่งของจังหวัดคานางาวะ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของโตเกียว ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวเพียงประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น คามาคุระเป็นเมืองที่มีบทบาทสำคัญในอดีต ในยุคสมัยคามาคุระเป็นยุคแรกที่ใช้ระบบศักดินา แม้จักรพรรดิญี่ปุ่นจะเป็นผู้ปกครองสูงสุด แต่โชกุนโยริโมโตะนั้นมีอำนาจไม่แพ้กัน รัฐบาลของโชกุนโยริโมโตะอยู่ที่เมืองคามาคุระนั่นเอง ในยุคนี้ยังมีการเผยแผ่พระพุทธศาสนานิกายโจโดะ นิจิเรน และเซนเข้ามาในญี่ปุ่น ที่เมืองคามาคุระมีวัดสำคัญอยู่มากมายให้ไปสักการะ และยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 7 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในคามาคุระมาเป็นออร์เดิร์ฟก่อนแพ็คกระเป๋าตามรอยกันในบทความนี้
วัดฮาเสะเดระ เมืองคามาคุระ ประเทศญี่ปุ่น
วัดฮาเสะเดระ (Hasedera Temple) หรือที่รู้จักกันในชื่อ วัดฮาเสะคันนง (Hase Kannon) เป็นวัดพุทธนิกายโจโดะ ภายในประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม 11 เศียร ซึ่งแกะสลักจากไม้การบูรขนาดใหญ่ สูงถึง 9.18 เมตร นับเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปไม้ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นเลยทีเดียว ใกล้กับโถงหลักเป็นโถงพิพิธภัณฑ์เจ้าแม่กวนอิม (Kannon Museum) ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของเจ้าแม่กวนอิม วัดฮาเสะเดระมีพื้นที่กว้างขวาง ภายในบริเวณวัดยังมีสวนไฮเดรนเยียอันขึ้นชื่อของเมืองคามาคุระ โดยเฉพาะช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมที่นักท่องเที่ยวนิยมมากันมากเป็นพิเศษ และอย่าพลาดชมถ้ำเบนเทนคุทสึ ที่สักการะพระเบนไซเทน หนึ่งในเทพเจ้าแห่งโชคลาภทั้งเจ็ดของญี่ปุ่น
วัดโอฟุนะคันนงจิ เมืองคามาคุระ ประเทศญี่ปุ่น
วัดโอฟุนะคันนงจิ (Ofuna Kannon-ji) เป็นวัดพุทธที่สักการะพระโพธิสัตว์กวนอิม โดดเด่นด้วยรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมสีขาวที่เรียกว่า เบียคคุอิคันนง ซึ่งมีความสูงถึง 25 เมตร มองเห็นเด่นชัดตั้งแต่บนสถานีรถไฟ Ofuna แต่ที่จริงแล้วรูปปั้นนี้มีเพียงครึ่งตัวเท่านั้น วัดโอฟุนะคันนงจิยังเป็นอนุสรณ์สถานรำลึกถึงเหยื่อในสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย การทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโรชิมะและนางาซากิในครั้งนั้นคร่าชีวิตชาวญี่ปุ่นหลายแสนคน เจ็บป่วยจากสารกัมมันตรังสีอีกมากมาย ภายในรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมมีห้องนิทรรศการที่มีพระพุทธรูปนับพันองค์ สร้างขึ้นเพื่ออธิษฐานให้กับเหยื่อสงครามและให้โลกสงบสุข
บ่อนรกจิโกกุเมืองเบปปุ จังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น
บ่อนรก หรือ จิโกกุ (Jigoku) อยู่ที่เมืองเบปปุ (Beppu) ในจังหวัดโออิตะ (Oita) ภูมิภาคคิวชู ประเทศญี่ปุ่น (Japan) เป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่เกิดขึ้นภายหลังการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อ 1,200 ปีที่แล้ว จิโกกุเรียกได้ว่าเป็นแหล่งออนเซนที่มีชื่อเสียงลำดับต้นๆ ของญี่ปุ่น และที่นี่ยังถูกยกให้เป็นแหล่งทิวทัศน์แห่งชาติในวันที่ 23 กรกฎาคม ค.ศ.2009 อีกด้วย
เมืองเก่าปาลมา ประเทศสเปน
เมืองเก่าปาลมา (Palma Old Town) ที่ซึ่งเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ สวยงาม และสะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ในอดีตของเมืองหลวงแห่งเกาะมายอร์ก้า (Mallorca) ได้เป็นอย่างดี
พระราชวังลาอัลมูไดนา เมืองปาลมา ประเทศสเปน
พระราชวังลาอัลมูไดนา (Royal Palace of La Almudaina) พระราชวังอันงามสง่า เป็นหนึ่งในที่ประทับอย่างเป็นทางการของราชวงศ์สเปน ในเมืองปาลมา เมืองหลวงของเกาะมายอร์ก้า
เมืองเก่าไอบิซา เกาะไอบิซา ประเทศสเปน
เมืองเก่าไอบิซา (Ibiza Old Town) เมืองเก่าที่มีภูมิหลังทางวัฒนธรรมประวัติศาสตร์มายาวนาน ที่แม้ปัจจุบันบิซาจะมีชื่อเสียงในฐานะของเมืองแห่งการพักผ่อนบนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แต่กลิ่นอายจากประวัติศาสตร์ยังคงปรากฏเด่นชัดผ่านสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี บวกกับความน่าตื่นตาตื่นใจของทิวทัศน์รอบๆ ย่านเมืองเก่าและกำแพงเมือง คือสิ่งที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาดไปได้อย่างแท้จริง
อาสนวิหารลาเซโย เมืองซาราโกซา ประเทศสเปน
อาสนวิหารลาเซโย (La Seo de Zaragoza) โบสถ์โรมันคาทอลิกทรงคุณค่า ซึ่งเป็นการผสมผสานกันระหว่างสถาปัตยกรรมแบบโกธิก บาโรก และมูเดฆาร์ ได้อย่างลงตัวสวยงาม จนได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ให้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกยุคใหม่
รถบัสท่องเที่ยว เมืองซาราโกซา ประเทศสเปน
รถบัสท่องเที่ยว (Hop on Hop off / Tourist Bus) ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะชมเมืองซาราโกซาในปัจจุบัน เนื่องจากสถานที่ที่เป็นจุดหมายปลายทางหลายๆ แห่งอยู่ในระยะที่ไม่สามารถเดินถึง ซึ่งนอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ชมสถานที่ต่างๆ และทัศนียภาพที่สวยงามของเมืองซาราโกซาผ่านมุมมองจากบนรถแล้ว ยังจะเรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่สำคัญต่างๆ ไปในขณะเดียวกัน
มหาวิหารพระแม่มารีย์ เมืองซาราโกซา ประเทศสเปน
มหาวิหารพระแม่มารีย์ (Basilica de Nuestra Senora del Pilar) มหาวิหารงามอลังการด้วยศิลปะแบบบาโรก (Baroque) ที่มียอดโดมแปดเหลี่ยมขนาบข้างด้วยหอระฆังทั้งสี่ เด่นตระหง่านริมฝั่งแม่น้ำเอโบร (Ebro) เมืองซาราโกซา ประเทศสเปน
พระราชวังอัลฆาเฟเรีย เมืองซาราโกซา ประเทศสเปน
พระราชวังอัลฆาเฟเรีย (Aljaferia Palace) ปราสาทสุดอลังการพร้อมป้อมปราการอันยิ่งใหญ่ที่สร้างขึ้นในสมัยแขกมัวร์ยังคงเรืองอำนาจในประเทศสเปน จึงไม่น่าแปลกใจที่ตัวปราสาทจะดูเป็นสถาปัตยกรรมแบบอิสลาม บริเวณรอบๆ ตกแต่งภูมิทัศน์ด้วยสวนดอกไม้สวยงามตามฤดูกาล ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ปักหมุดของสเปนที่นักท่องเที่ยวจะต้องไม่พลาดไปเยือน
จัตุรัสพลาซา เดล พิลาร์ เมืองซาราโกซา ประเทศสเปน
จัตุรัสพลาซา เดล พิลาร์ (Plaza Del Pilar) จัตุรัสคนเดินที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสเปนอันเป็นศูนย์รวมของผู้คนในเมือง รายล้อมไปด้วยอาคารประวัติศาสตร์และคาเฟ่จำนวนมาก จัตุรัสแห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับจัดกิจกรรมและงานเฉลิมฉลองต่างๆ อยู่เสมอ
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองมาดริด ประเทศสเปน
มาดริด (Madrid) เมืองหลวงของประเทศสเปนได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก มีชื่อเสียงในด้านการเป็นแหล่งรวมผลงานศิลปะของยุโรป สถาปัตยกรรมอันเกี่ยวกับกษัตริย์และราชวงศ์ ตลอดจนถนนสายสำคัญที่งดงามยิ่งใหญ่ ไปจนถึงตลาดสุดคึกคัก เมืองที่เปี่ยมเสน่ห์แห่งนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งบรรยากาศงามสง่าหรูราและร่าเริงสนุกสนานอยู่ในที Palanla ได้รวบรวมเอา 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองมาดริดมาไว้ในบทความนี้
6 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน
บาร์เซโลนา (Barcelona) ถือเป็นเมืองท่าและเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศสเปน เต็มไปด้วยที่เที่ยวหลากสีสันและประวัติศาสตร์น่าค้นหา สถาปัตยกรรมอันน่าทึ่งหลายๆ แห่งซึ่งเป็นที่เที่ยวเด่นๆ ในเมืองนี้ยังมาจากฝีมือการรังสรรค์ของสถาปนิกชื่อก้องโลกอย่างอันโตนี เกาดี (Antoni Gaudí) ด้วย Palanla จะพาไปชม 6 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองบาร์เซโลนา ที่บอกได้เลยว่าไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น
โยโกฮามา (Yokohama) เป็นเมืองท่าในจังหวัดคานากาว่า ที่มีความสำคัญของแดนอาทิตอุทัยมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ในอดีตเป็นเพียงหมู่บ้านประมงขนาดเล็ก กระทั่งกลายมาเป็นเมืองท่าขนาดใหญ่ และด้วยความที่พิกัดอยู่ติดกับมหานครโตเกียวเพียง 1 ชั่วโมง เมืองท่าติดทะเลแห่งนี้จึงเป็นที่ที่ผู้คนนิยมมาอยู่อาศัย จนได้รับตำแหน่งเมืองใหญ่อันดับสองรองจากโตเกียวไปโดยปริยาย โดยนอกจากจะเป็นเมืองใหญ่ที่มีทุกอย่างครบครันแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ของโยโกฮาม่าก็เรียกว่าครบเครื่อง มีตั้งแต่สถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ สวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ แหล่งช้อปปิ้ง ไปจนถึงสวนสนุกที่พร้อมจะให้ความเพลิดเพลินอย่างเต็มอิ่ม
6 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองนารา ประเทศญี่ปุ่น
นารา (Nara) เขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ติดกับโอซาก้าและเกียวโต เป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน กรุ่นไปด้วยกลิ่นอายแห่งอดีต ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติที่เปี่ยมเสน่ห์ ในอดีตนาราเคยเจริญรุ่งเรืองในฐานะที่เป็นจุดหมายปลายทางของเส้นทางสายไหมและเคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น จึงไม่น่าแปลกใจที่จังหวัดแห่งนี้จะเป็นแหล่งรวมสถาปัตยกรรมสมบัติของชาติมากที่สุดในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปไดบุทสึ รวมถึงวัดและศาลเจ้าที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานอีกหลายแห่ง... Palanla จะพาไปชม 6 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองนาราที่เมื่อใครมาคงไม่อาจพลาดไปได้
คาซา มิลา เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน
คาซา มิลา (Casa Mila) สิ่งก่อสร้างหน้าตาประหลาดสไตล์อาร์ตนูโว ผลงานการออกแบบของสถาปนิกชื่อก้องโลก อันโตนี เกาดี (Antoni Gaudí) กับเอกลักษณ์โดดเด่นสะดุดตาด้วยตัวอาคารที่มีผนังโค้งซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกลียวคลื่น และระเบียงลักษณะคล้ายถ้ำ ไปจนถึงภายในที่แบ่งออกเป็นห้องต่างๆ อย่างมีชั้นเชิง อาคารแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1984 ถือเป็นหนึ่งในจุดเช็กอินยอดฮิตของคนที่ไปเที่ยวบาร์เซโลนา
มหาวิหารบาร์เซโลนา เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน
มหาวิหารบาร์เซโลนา (Barcelona Cathedral) คือมหาวิหารงดงามเด่นสง่าด้วยสถาปัตยกรรมเเบบโกธิคซึ่งใช้เวลาก่อสร้างยาวนานถึง 150 ปี และกลายมาเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองนี้จวบจนปัจจุบัน
มหาวิหารซากราดา แฟมิเลีย เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน
มหาวิหารซากราดา แฟมิเลีย (Sagrada Familia) สิ่งก่อสร้างระดับโลกที่มีชื่อเสียงที่สุดของบาร์เซโลนา ผลงานการออกแบบของ อันโตนี เกาดี (Antoni Gaudí) สถาปนิกชื่อดัง คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดในสเปน ซึ่งองค์การยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทั้งที่ยังสร้างไม่เสร็จ
เนินเขามองต์คูอิก เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน
เนินเขามองต์คูอิก (Montjuic Hill) เป็นเนินเขาความสูง 184.8 เมตรในบาร์เซโลนา ถือเป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงของเมืองนี้ที่เป็นเหมือนเเลนด์มาร์กอีกเเห่งหนึ่ง นอกจากเป็นจุดชมวิวแล้วเนินเขามองต์คูอิกยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่งของบาร์เซโลนาด้วย
ถนนคนเดินลารัมบลาส เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน
ถนนคนเดินลารัมบลาส (La Ramblas) ถนนที่มีชื่อเสียงที่สุดของบาร์เซโลนา โดยว่ากันว่านี่คือถนนที่มีความคึกคักมากที่สุด
ตลาดโบเกเรีย เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน
ตลาดโบเกเรีย (Mercado de La Boqueria) เป็นตลาดขายอาหารสดที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในบาร์เซโลนา รวมถึงติดอันดับ 1 ของโลกมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2012
หอสมุดแห่งชาติสเปน เมืองมาดริด ประเทศสเปน
หอสมุดแห่งชาติสเปน (Biblioteca y Museos Nacionales) เป็นหลักห้องสมุดประชาชนที่ใหญ่ที่สุดในสเปน และยังเป็นหนึ่งในหอสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลก
สวนสาธารณะเรติโร เมืองมาดริด ประเทศสเปน
สวนสาธารณะเรติโร (El Retiro) สวนสาธารณะที่เป็นดังปอดขนาดใหญ่ใจกลางกรุงมาดริด ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่พักผ่อนของราชวงศ์ และเป็นที่ตั้งของพระราชวังขนาดใหญ่ด้วย จึงไม่น่าแปลกใจที่สถาปัตยกรรมต่างๆ ภายใจสวนสาธารณะแห่งนี้จะมีความหรูหรา คลาสสิก
ศาลาว่าการเมืองมาดริด เมืองมาดริด ประเทศสเปน
ศาลาว่าการเมืองมาดริด (Palacio de Comunicaciones) อาคารหลังงดงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ถูกเปลี่ยนผ่านหน้าที่มาหลายบทบาท ก่อนที่จะกลายมาเป็นศาลาว่าการเมืองมาดริดในปัจจุบัน
วิหารอัลมูเดนา เมืองมาดริด ประเทศสเปน
วิหารอัลมูเดนา (Cathedral de la Almudena) เป็นหนึ่งในสถานที่ที่อลังการที่สุดในสเปนซึ่งใช้เวลาก่อสร้างยาวนาน และยังเป็นสถานที่ประกอบพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าชายฟิลิเปแห่งสเปนในปีค.ศ. 2004 ด้วย
พลาซา เมเยอร์ เมืองมาดริด ประเทศสเปน
พลาซา เมเยอร์ (Plaza Mayor) เป็นพื้นที่สาธารณะที่สำคัญใจกลางกรุงมาดริด บริเวณรอบๆ จัตุรัสที่เป็นศูนย์กลางสำหรับประชาชน ทั้งในช่วงเวลาปกติ และช่วงเทศกาลงานต่างๆ แห่งนี้ รายล้อมไปด้วยร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านของที่ระลึก และร้านค้าอื่นๆ อีกมากมาย ตลอดจนเป็นพื้นที่ที่เหล่าศิลปินมาแสดงผลงานให้ได้ชมอย่างเพลิดเพลิน
พลาซา เดอ เอสปานา เมืองมาดริด ประเทศสเปน
พลาซา เดอ เอสปานา (Plaza de Espana) จัตุรัสขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงมาดริด อันเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ มิเกล เด เซร์บันเตส นักเขียนชาวสเปน มีผลงานที่มีชื่อเสียงทั่วโลกอย่าง “ดอนกิโฆเต้ แห่งลามันชา” รวมถึงประติมากรรมสำริดตัวละครในเรื่อง
พระราชวังหลวงแห่งมาดริด เมืองมาดริด ประเทศสเปน
พระราชวังหลวงแห่งมาดริด (Royal Palace of Madrid) เป็นหนึ่งในพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก ภายในพระราชวังแห่งนี้ตกแต่งอย่างงดงามหรูหราด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคตอนปลาย โดยเน้นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมอิตาเลียนเเละฝรั่งเศส จึง มีลักษณะคล้ายๆ กับพระราชวังเเวร์ซายน์ ประเทศฝรั่งเศส
น้ำพุไซเบเลส เมืองมาดริด ประเทศสเปน
น้ำพุไซเบเลส (Cybele Fountain) เป็นน้ำพุที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงมาดริด และเป็นจุดที่ทีมฟุตบอลเรอัลมาดริดจะใช้เฉลิมฉลองการแข่งขันชิงแชมป์ด้วย
ถนนแกรนเวีย เมืองมาดริด ประเทศสเปน
ถนนแกรนเวีย (Gran Via) ถนนอายุเก่าแก่กว่าร้อยปี เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามของอาคารสองฝั่งถนน และเรียงรายไปด้วยร้านค้าแบรนด์เนม ถือเป็นถนนสายยอดนิยมอีกเส้นหนึ่งที่นักท่องเที่ยวที่ไปมาดริดจะต้องไม่พลาด
ตลาดซานมิเกล เมืองมาดริด ประเทศสเปน
ตลาดซานมิเกล (Mercado San Miguel) ถือเป็นหนึ่งในตลาดที่เก่าแก่ที่สุดในมาดริดที่บรรยากาศแสนคึกคัก และเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมอาหาร เรียงรายไปด้วยแผงขายอาหาร ผลผลิตทางการเกษตรสดใหม่ โดยมีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งรับประทานได้ตามสะดวก
หอระฆังเมืองบรูจส์ เมืองบรูจส์ ประเทศเบลเยียม
หอระฆังเมืองบรูจส์ (Belfry & Halle) เป็นหอระฆังยุคกลางตั้งตระหง่านใจกลางเมืองบรูจส์ ประเทศเบลเยียม เป็นหนึ่งในจุดชมวิวเมืองบรูจส์ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองนี้ได้อย่างชัดเจน กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา
ศาลาว่าการมืองบรูจส์ เมืองบรูจส์ ประเทศเบลเยียม
ศาลาว่าการมืองบรูจส์ (Bruges City Hall) อาคารหลังงดงามด้วยสถาปัตยกรรมรูปแบบโกธิกที่ตั้งตระหง่านใจกลางเมืองบรูจส์แห่งนี้ คือหนึ่งในอาคารเก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป
โบสถ์อาวร์เลดี้ เมืองบรูจส์ ประเทศเบลเยียม
โบสถ์อาวร์เลดี้ (Church of Our Lady) คือมหาวิหารของศาสนาคริสต์อายุกว่า 800 ปีที่ตั้งตระหง่านอย่างยิ่งใหญ่อยู่ทางทิศใต้ของเมืองบรูจส์ นอกจากจะเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในเมืองแล้ว ยังเป็นหอก่ออิฐที่สูงเป็นอันดับสองของโลก รองจากโบสถ์เซนต์มาร์ตินในประเทศเยอรมนีด้วย
ทะเลสาบมินนีวอเตอร์ เมืองบรูจส์ ประเทศเบลเยียม
ทะเลสาบมินนีวอเตอร์ (Minnewater) ทะเลสาบขนาดย่อมในเมืองบรูจส์ เป็นทั้งจุดชมวิวขนาดใหญ่ จุดปิกนิกริมน้ำ และเป็นสถานที่พักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ จากภูมิทัศน์แวดล้อมที่ยังคงไว้ซึ่งคุณค่าทางสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ของเมืองที่ได้รับตำแหน่งเมืองมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโกด้วย
หอระฆังเมืองมอนส์ เมืองมอนส์ ประเทศเบลเยียม
หอระฆังเมืองมอนส์ (Belfry of Mons) เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมท้องถิ่น และเป็นหอระฆังสไตล์บาโรกเพียงแห่งเดียวที่ยังคงมีอยู่ หอระฆังอันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองมอนส์แห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกมาตั้งแต่ปี 1999
หอระฆังเมืองทัวร์เน เมืองทัวร์เน ประเทศเบลเยียม
หอระฆังเมืองทัวร์เน (Belfry of Tournai ) เป็นหอระฆังสูง 72 เมตร ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศเบลเยียมและต่อมาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกร่วมกับมหาวิหารโนเทรอดามแห่งทัวร์เน ด้านบนสุดของหอระฆังสามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองทัวร์เนได้อย่างชัดเจน ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของผู้ที่มาเที่ยวเมืองทัวร์เน
มหาวิหารทัวร์เน เมืองทัวร์เน ประเทศเบลเยียม
มหาวิหารทัวร์เน (Tournai Cathedral) เป็นมหาวิหารขนาดใหญ่จากยุคกลางที่เป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์และกอทิกอย่างงดงาม พร้อมด้วยหอคอยขนาดใหญ่จำนวนห้าหอ อันเป็นเอกลักษณ์สำคัญและเป็นที่มาของชื่อเล่นของทัวร์เนว่า "เมืองแห่งหอระฆังทั้งห้า"
หอระฆังเมืองเกนต์ เมืองเกนต์ ประเทศเบลเยียม
หอระฆังเมืองเกนต์ (Belfry of Ghent) หอระฆังความสูง 91 เมตร ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 14 เป็นอาคารที่สูงที่สุดของเมืองและยังเป็น Belfry สูงที่สุดของเบลเยียมด้วย
ล่องเรือชมเมืองเกนต์ เมืองเกนต์ ประเทศเบลเยียม
เมืองเกนต์ (Ghent) คือเมืองลูกผสมระหว่างยุคเก่ากับยุคใหม่ที่มีเอกลักษณ์ และความน่าสนใจทางประวัติศาสตร์ ประกอบกับพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ติดแม่น้ำใหญ่ หนึ่งกิจกรรมน่าทำเมื่อมาเที่ยวเมืองเกนต์ที่ไม่อาจพลาดไปได้นั่นก็คือการล่องเรือในแม่น้ำเลอิ (Leie River) เพื่อชมเมืองที่เต็มไปด้วยความรุ่มรวยทางประวัติศาสตร์แห่งนี้
แม่น้ำเลอิ เมืองเกนต์ ประเทศเบลเยียม
แม่น้ำเลอิ (Leie River) แม่น้ำสายสำคัญที่มีต้นกำเนิดในประเทศฝรั่งเศส และไหลผ่านประเทศเบลเยียมที่เมืองเกนต์ เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่มีบรรยากาศสวยงาม เหมาะแก่การเดินเล่นกินลมชมวิวเมื่อมาเยือนเกนต์
มหาวิหารเซนต์บาโว เมืองเกนต์ ประเทศเบลเยียม
มหาวิหารเซนต์บาโว (St. Bavo Cathedral) แห่งเมืองเกนต์ เป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมงดงาม นับเป็นสถาปัตยกรรมทางศาสนาที่ดีที่สุดในเบลเยียม และยังเป็นสถานที่เก็บรักษาผลงานศิลปะชิ้นเอกหลายๆ ชิ้นของประเทศ
โบสถ์เซนต์นิโคลัส เมืองเกนต์ ประเทศเบลเยียม
โบสถ์เซนต์นิโคลัส (St. Nicholas Church) โบสถ์ขนาดใหญ่และสวยงามวิจิตรที่ตั้งตระหง่านเหนือใจกลางเมืองของเกนต์แห่งนี้ ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่เก่าแก่และโดดเด่นที่สุดในเกนต์ ประเทศเบลเยียม
7 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม
เมืองแอนต์เวิร์ป (Antwerp) เมืองท่าสำคัญที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเบลเยียมแห่งนี้ คือเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเยี่ยมเยือนกันไม่ขาดสาย เพราะเปี่ยมไปด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรมเก่าแก่ มีสถานที่ท่องเที่ยวระดับแลนด์มาร์กที่โดดเด่นไม่แพ้เมืองบรัสเซลส์หลายแห่ง และด้วยความที่เป็นเมืองท่า ทำให้ต้องมีการติดต่อค้าขายกับคนต่างชาติตลอดเวลา เกิดเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และแอนต์เวิร์ปยังถือตำแหน่งศูนย์กลางการค้าเพชรระดับโลก ควบเมืองไอคอนแฟชั่นสมัยใหม่ที่มีแบรนด์ดีไซเนอร์ระดับโลกมาตั้งหลักแหล่งอยู่ที่นี่มากมาย
สวนสัตว์แอนต์เวิร์ป เมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม
สวนสัตว์แอนต์เวิร์ป (Zoo Antwerp) สวนสัตว์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศเบลเยียม ที่ส่งเสริมด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่ามาอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับสัตววิทยากับพฤกษศาสตร์ด้วย
สถานีรถไฟกลางเมืองแอนต์เวิร์ป เมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม
สถานีรถไฟกลางเมืองแอนต์เวิร์ป (Antwerpen Centraal) สถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่า และงดงามที่สุดหลังหนึ่งของเมืองแอนต์เวิร์ป จนถูกยกให้เป็นต้นแบบที่นำไปใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสถานีรถไฟอีกหลายแห่งทั่วประเทศเบลเยียม
ศาลาว่าการเมืองแอนต์เวิร์ป เมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม
ศาลาว่าการเมืองแอนต์เวิร์ป (Antwerp City Hall) อาคารยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ (Renaissance) ที่เข้ามาทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการดำเนินงานหลังจากแอนต์เวิร์ปก้าวขึ้นมาเป็นท่าเรือการค้าที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในแถบยุโรปตอนเหนือช่วงศตวรรษที่ 16 ซึ่งยังคงบทบาทสำคัญในปัจจุบัน รวมถึงเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและสวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองนี้
ปราสาทหิน เมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม
ปราสาทหิน (Het Steen Castle) ปราสาทหินอันงดงามและโดดเด่นริมแม่น้ำสเกลต์ที่ในอดีตเคยมีบทบาทเป็นด่านหน้าหลักของแนวรบและเคยถูกใช้เป็นคุกสำหรับขังนักโทษ ก่อนที่จะถูกปรับให้เป็นพิพิธภัณฑ์โบราณคดี และอนุสรณ์สถานจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เช่นในปัจจุบัน
โบสถ์อาวร์เลดี้ เมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม
โบสถ์อาวร์เลดี้ (Cathedral of Our Lady) โบสถ์สูงที่สุดในประเทศเบลเยียมอายุกว่า 169 ปี ซึ่งถือเป็นโบสถ์ที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่สุดหลังหนึ่งของประเทศ และเปิดต้อนรับผู้มาเยือนกว่า 360,000 คนต่อปี
เดอะวีล แอนต์เวิร์ป เมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม
เดอะวีล แอนต์เวิร์ป (The View Antwerp) ชิงช้าสวรรค์ขนาดมหึมา คือแลนด์มาร์กอันโดดเด่นริมฝั่งท่าเรือแม่น้ำสเกลต์ (Scheldt) ที่จะเผยให้เห็นทัศนียภาพมุมสูงอันสวยงามของเมืองแอนต์เวิร์ป
จัตุรัสกลางเมืองแอนต์เวิร์ป เมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม
จัตุรัสกลางเมืองแอนต์เวิร์ป (Grote Markt) คือจัตุรัสทรงสามเหลี่ยมปูด้วยหินที่แวดล้อมไปด้วยอาคารสำคัญที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 คือศูนย์กลางทางสถาปัตยกรรม การดำเนินงาน วัฒนธรรม ตลอดจนการใช้ชีวิตที่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวาของคนในเมืองแห่งนี้
ศาลากลางเมืองเลอเวน เมืองเลอเวน ประเทศเบลเยียม
ศาลากลางเมืองเลอเวน (Leuven Town Hall) อาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่โด่งดังไปทั่วโลก ด้วยความงดงามหรูหรา ลวดลายอ่อนช้อย มียอดแหลมสวยสง่าสามารถมองเห็นจากระยะไกล และมีจุดเด่นคือรูปปั้นกว่าสองร้อยตัวที่ยืนรายล้อมอยู่ตามเสาและซอกผนังอาคาร สถานที่แห่งนี้จึงเป็นหนึ่งความภูมิใจของเมืองเลอเวนอย่างเต็มภาคภูมิ
โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ เมืองเลอเวน ประเทศเบลเยียม
โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ (St. Peter’s Church) โบสถ์โรมันคาทอลิกที่สร้างขึ้นสร้างในศตวรรษที่ 15 งดงามโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคซึ่งแตกต่างจากสถาปัตยกรรมแบบโกธิคทั่วๆ ไปที่ต้องมียอดปลายแหลม แต่แม้ว่าจะไร้ยอดแหลมสูงตระหง่าน โบสถ์แห่งนี้ก็มีความสวยงามโดดเด่นเฉพาะตัวและยังถูกรวมอยู่ในรายชื่อหอระฆังที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) แม้ว่าหอคอยจะยังไม่สร้างเสร็จก็ตาม
15 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
บรัสเซลส์ (Brussels) เมืองหลวงขนาดกะทัดรัด แต่คุณภาพเต็มล้นของประเทศเบลเยียมแห่งนี้ คือหนึ่งในเพชรเม็ดงามของทวีปยุโรป เพราะเปี่ยมไปด้วยความรุ่มรวยทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม งานศิลป์ ที่มีความยิ่งใหญ่ น่าค้นหา ส่วนในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการปกครอง บรัสเซลส์ยังถือเป็นศูนย์กลางการดำเนินงานของสหภาพยุโรป (EU) เพราะเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป (Council of the European Union), คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ทำให้เมืองนี้ เป็นเหมือนบ้านหลังใหญ่ที่ทำหน้าที่ต้อนรับผู้มาเยือนได้อย่างเต็มภาคภูมิ
เดอะ ไจแอนท์ วีล เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
เดอะ ไจแอนท์ วีล (The Giant Wheel) แลนด์มาร์กแห่งใหม่ในเมืองบรัสเซลส์ ที่รู้จักกันในนาม “The View” ได้รับการออกแบบและสร้างขึ้นโดยได้แรงบันดาลใจมาจากชิงช้าสวรรค์ “The Budapest Eye”
สะพานมูเลสเตก เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
สะพานมูเลสเตก (Mühlesteg Bridge) สะพานเล็กๆ ข้ามแม่น้ำลิมมัตใจกลางเมืองซูริค โดดเด่นด้วยแม่กุญแจหรือ Love Lock จำนวนหลานพันตัวที่คู่รักนำมาคล้องไว้เพื่อเป็นสัญญารัก
อาสนวิหารโลซาน เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
อาสนวิหารโลซาน (Lausanne Cathedral) คือสถาปัตยกรรมทางศาสนาสุดล้ำค่าที่งดงามและถือเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากสถาปัตยกรรมที่งดงามและยิ่งใหญ่นี้แล้ว บริเวณยอดของปราสาทยังมีจุดชมวิวเมืองโลซานที่เป็นจุดเด่นของการมาเที่ยวโบสถ์แห่งนี้
เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
เมืองโลซาน (Lausanne) เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานของสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่บนฝั่งเหนือของทะเลสาบเจนีวาและมีพรมแดนติดกับประเทศฝรั่งเศส ด้วยสภาพภูมิทัศน์ที่โอบล้อมด้วยภูเขา และมีทิวทัศน์สวยงามใกล้ชิดธรรมชาติ โลซานจึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดนิยมของผู้คนเสมอมา
หอนาฬิกาดาราศาสตร์และเมืองเก่า กรุงเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
กรุงเบิร์น (Bern) เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเมืองเก่าที่สร้างขึ้นตั้งแต่ยุคกลางและตั้งอยู่ใจกลางของประเทศ ซึ่งยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
ลินเดนฮอฟ เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ลินเดนฮอฟ (Lindenhof) เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ จุดนัดพบ และจุดชมวิวเมืองชั้นเยี่ยมจุดหนึ่งของเมืองซูริค ตั้งอยู่บนยอดเนินเขาที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์กว้างไกลของตัวเมือง และทัศนียภาพมุมสูงอันสวยงามของแม่น้ำลิมมัต (Limmat) ที่ไหลผ่านเมืองซูริคได้ด้วย
ย่านเมืองเก่าซูริค เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ซูริค หนึ่งในเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางทั่วโลกใฝ่ฝัน เพียงได้เดินเล่นไปตามถนนหินกรวดคดเคี้ยวซึ่งเป็นที่ตั้งของสถาปัตยกรรมเก่าแก่ อาคารบ้านเรือนเก่าๆ สวยๆ ที่มีรูปแบบเฉพาะตัวและร้านค้า คาเฟ่ ที่เรียงรายอยู่ตามถนนหนทาง ผนวกกับบรรยากาศแสนผ่อนคลายริมแม่น้ำลิมมัต คือมนต์เสน่ห์ของย่านเมืองเก่าซูริค (Zurich Old Town) ที่ใครได้ไปเยือนก็ประทับใจ
โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumünster) เป็นหนึ่งในสี่โบสถ์หลักของเมืองซูริคที่มีความสวยงาม โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบกอธิค (Gothic) กับยอดปลายแหลมสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล และโบสถ์เก่าแก่แห่งนี้ยังสร้างขึ้นจากซากปรักหักพังของวิหารสำหรับสตรีชนชั้นขุนนางในสมัยก่อน
โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ (St. Peter’s Church) เป็นโบสถ์คาทอลิกที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองซูริค สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 และยังเป็น 1 ใน 4 โบสถ์หลักของเมือง จุดเด่นของโบสถ์แห่งนี้คือหน้าปัดนาฬิกาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป
โบสถ์กรอสมุนสเตอร์ เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
โบสถ์กรอสมุนสเตอร์ (Grossmünster / Grossmunster Church) เป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามอีกหนึ่งแห่งริมฝั่งแม่น้ำลิมมัต (Limmat) ถือเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ และยังเป็น 1 ใน 4 โบสถ์หลักของเมืองซูริค
ถนนบานโฮฟซตราเซอร์ เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ถนนบานโฮฟซตราเซอร์ (Bahnhofstrasse) เป็นถนนการค้าเก่าแก่ของเมืองซูริกมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ตลอดสองข้างทางเรียงรายด้วยร้านค้าแบรนด์เนมระดับโลกมากมาย จนได้ชื่อว่าเป็น “ถนนช้อปปิ้งที่แพงที่สุดในโลก”
หอนาฬิกาเมืองซุก เมืองซุก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
หอนาฬิกาเมืองซุก (Zytturm Zug) แลนด์มาร์กสำคัญประจำเมืองซุกที่สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13
เมืองเก่าซุก เมืองซุก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
เมืองซุก (Zug) เป็นเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 800 ปี ปัจจุบันเมืองเล็กๆ แห่งนี้เป็นเมืองที่รวยที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และยังเป็นเมืองที่เรียกเก็บค่าภาษีในอัตราต่ำที่สุดในโลกอีกด้วย แม้จะผ่านกาลเวลามาเนิ่นนานแต่ยุคสมัยก็ได้ทิ้งร่องรอยไว้ให้เราได้ชื่นชมและเก็บเกี่ยวความประทับใจอย่างไม่สิ้นสุด โดยเฉพาะในเขตเมืองเก่าซุก (Zuger Altstadt)
อนุสาวรีย์สิงโตแห่งลูเซิร์น เมืองลูเซิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
อนุสาวรีย์สิงโตแห่งลูเซิร์น (Lion Monument) เป็นประติมากรรมแกะสลักหินผารูปสิงโตที่มีความประณีตงดงามซึ่งได้รวมเอาศิลปะและประวัติศาสตร์เข้าไว้ด้วยกันอย่างแยบยล โดยใบหน้าของสิงโตนั้นแสดงถึงความเจ็บปวดก่อนจะสิ้นใจ นักเขียนชื่อดังอย่างมาร์ก ทเวน (Mark Twain) ได้กล่าวถึงอนุสาวรีย์สิงโตแห่งนี้ว่าเป็น “หินที่ดูเศร้าและสะเทือนใจที่สุดในโลก” อนุสาวรีย์แห่งนี้ถือเป็นอนุสาวรีย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นหนึ่งในประติมากรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดของยุโรป
สะพานชาเพล เมืองลูเซิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
สะพานชาเพล (Chapel Bridge) เป็นสะพานไม้เก่าแก่อายุกว่า 700 ปีมีหอคอยกลางน้ำ ทอดตัวพาดผ่านแม่น้ำซึ่งไหลผ่านตัวเมืองลูเซิร์น สะพานแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์
ทะเลสาบลูเซิร์น เมืองลูเซิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ทะเลสาบลูเซิร์นที่สวยงามแห่งนี้ อยู่ใจกลางเมืองลูเซิร์น เมืองเก่าแก่ซึ่งเคยปกครองตนเองก่อนจะรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์เมื่อปี ค.ศ.1332 ลูเซิร์นถือเป็นเมืองตากอากาศยอดนิยมติดอันดับต้นๆ ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยนอกจากทัศนียภาพอันสวยงามและความเก่าแก่ของสถาปัตยกรรมในเมืองนี้แล้ว ลูเซิร์นยังมีธรรมชาติที่สวยงาม โดยเฉพาะทะเลสาบความยาว 38 กิโลเมตร ที่มีน้ำเป็นสีฟ้าใส โอบล้อมด้วยอ้อมกอดแห่งเทือกเขาและอาคารบ้านเรือนรูปทรงสีสันน่ารักสะดุดตา อันเป็นเอกลักษณ์และมนต์เสน่ห์ของเมืองนี้ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวชมบรรยากาศรอบทะเลสาบที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ หรือล่องเรือชมความงามของทะเลสาบลูเซิร์นก็ได้เช่นกัน เส้นทางล่องเรือที่น่าสนใจ เช่น Lucerne – Hergiswil – Alpnachstad
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
เมืองฟลอเรนซ์ (Florence) เป็นเมืองเล็กๆ ทางตอนกลางของประเทศอิตาลีที่มีแม่น้ำอาร์โนไหลผ่านกลางเมืองและโอบล้อมด้วยทิวเขา อาคารบ้านเรือนมักเป็นสีเหลืองส้มน้ำตาลไหม้ และมีความสำคัญคือเป็นศูนย์กลางศิลปะยุคเรอนาสซองส์ ที่จะเห็นได้จากประติมากรรม จิตรกรรม ภาพเฟรสโก ภาพโมเสกที่ประดับอยู่ภายในศาสนสถาน พระราชวัง และตามจัตุรัสต่างๆ ของเมืองฟลอเรนซ์ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าหรือขึ้นรถโดยสารประจำทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ เมืองฟลอเรนซ์ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ.1982 เริ่มจากการที่ตระกูลเมดิซีได้เข้ามามีบทบาททางการเมืองการปกครองระหว่างศตวรรษที่ 13 -16 แล้วอุปถัมภ์ศิลปินที่มีชื่อเสียงมากมาย อาทิ มิเคลันเจโล เจ้าของผลงาน David, บอตติเชลลี, กาลิเลโอ กาลิเลอี, ลีโอนาโด ดาวินซี, วาซารี, บอตติเชลลี ฯลฯ เมื่อตระกูลเมดิซีหมดอำนาจลง ผลงานศิลปะอันทรงคุณค่าจึงตกเป็นของเมืองฟลอเรนซ์ ซึ่งต่อมาได้ทำเป็นพิพิธภัณฑ์กว่า 70 แห่ง และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะจากทั่วโลก
ถ้ำหินหลงเหมิน เมืองลั่วหยาง ประเทศจีน
ถ้ำหินหลงเหมิน (Longmen Grottoes) 龙门石窟 หรือ หลงเหมินสือคู เป็นกลุ่มถ้ำบนหน้าผา อันเป็นที่ตั้งของศิลปะพุทธศาสนาสุดประณีตยุคแรกในจีน ความมหัศจรรย์ถ้ำผาหลงเหมินอยู่ที่จำนวนถ้ำยิบย่อยถึง 2,345 คูหา ประติมากรรมพุทธรูปอีก 100,000 กว่าองค์ ศิลาจารึก 2,500 แผ่น และเจดีย์ถึง 60 แห่ง ถ้ำหินแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของรูปสลักหินใบหน้าพระนางบูเช็กเทียนขนาดยักษ์หนึ่งเดียวในเมืองจีนด้วย
ถ้ำหินม่ายจีซาน เมืองเทียนสุ่ย ประเทศจีน
ถ้ำหินม่ายจีซาน (Maijishan Grottoes) 麦积山石窟 เป็นถ้ำหินอายุเก่าแก่กว่า 1,600 ปี มีประติมากรรมอันงดงามและโดดเด่นด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนัง นับเป็นถ้ำหินแกะสลักที่มีส่วนสำคัญต่อวัฒนธรรมเส้นทางสายไหมในอดีต
องค์พระใหญ่แห่งคามาคุระ เมืองคามาคุระ ประเทศญี่ปุ่น
องค์พระใหญ่แห่งคามาคุระ (Kamakura Daibutsu /The Great Buddha) เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิเนื้อสำริดองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่บริเวณลานกว้างของวัดโคโตะคุอิน (Kotoku-in Temple) องค์พระใหญ่นี้มีความสำคัญเพราะเป็นองค์พระพุทธรูปเก่าแก่ที่มีอายุกว่าแปดร้อยปีที่มีความยิ่งใหญ่ สง่างาม และน่าเลื่อมใส และยังเชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก โดยนอกจากจะเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองคามาคุระแล้วยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติญี่ปุ่นอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ ที่นี่จึงกลายเป็นแลนด์มาร์กที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชนเป็นจำนวนมาก
ศาลเจ้าสึรุงะโอะกะฮะจิมัง เมืองคามาคุระ ประเทศญี่ปุ่น
ศาลเจ้าสึรุงะโอะกะฮะจิมัง (Tsurugaoka Hachimangu) เป็นศาลเจ้าเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของเมืองคามาคุระที่มีอายุเก้าร้อยกว่าปี เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กของเมืองที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้ชมความสวยงามของศาลเจ้าที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นโบราณที่เรียกว่าอิชิโนะมะซุคุริ (Ishi-no-ma-zukuri) และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายใน และยังมีส่วนของพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงโบราณวัตถุที่ส่วนใหญ่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติญี่ปุ่นไว้ให้ผู้ที่สนใจได้เที่ยวชมและศึกษาเพิ่มเติมอีกด้วย นอกจากนี้บริเวณสวนภายในศาลเจ้ายังได้รับการตกแต่งไว้อย่างสวยงาม และมีจะการประดับตกแต่งไปตามงานเทศกาลท้องถิ่นต่างๆ ตลอดทั้งปี
วัดโฮโคะคุจิ เมืองคามาคุระ ประเทศญี่ปุ่น
วัดโฮโคะคุจิ (Hokokuji Temple) เป็นวัดเก่าแก่ของนิกายรินไซ (Rinzai) ตั้งอยู่บนเนินเขาทางด้านตะวันออกของเมืองคามาคุระ วัดนี้เป็นที่รู้จักเพราะมีป่าไม้ไผ่อันเขียวขจีร่มรื่นขนาดใหญ่อยู่ภายในวัด และยังมีชื่อเสียงด้านการสอนทำสมาธิที่เรียกว่าซาเซ็นไค (Zazenkai) นอกจากนี้นักท่องเที่ยวต้องไม่พลาดการแวะดื่มชาเขียวท้องถิ่น และชมสวนโดยรอบ รวมถึงสวนสไตล์เซนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยเหตุนี้วัดโฮโคะคุจิจึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือนเมืองคามาคุระ
วัดเคนโชจิ เมืองคามาคุระ ประเทศญี่ปุ่น
วัดเคนโชจิ (Kenchoji Temple) เป็นวัดเซนที่มีอายุแปดร้อยกว่าปี มีความเก่าแก่และยิ่งใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของเมืองคามาคุระ และยังเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนาของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย โดยนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้ชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของศาลา หอระฆัง และหอปฏิบัติธรรม รวมถึงสวนสไตล์เซน และพลาดไม่ได้กับการสักการะพระพุทธรูปพระกษิติครรภโพธิสัตว์จิโซ โบซัตสุ (Jizo Bosatsu / Bodhidattava) ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือกันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ซึ่งชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่าสามารถช่วยปกป้องคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย
ชายหาดยูอิกาฮามะ เมืองคามาคุระ ประเทศญี่ปุ่น
ชายหาดยูอิกาฮามะ (Yuigahama Beach) เป็นสถานตากอากาศริมชายฝั่งทะเลที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิ เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจและจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมในเมืองคามาคุระ โดยเฉพาะในฤดูร้อนช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคมของทุกปีจะเป็นสถานที่เล่นน้ำยอดนิยมที่จะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นชายหาดที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองโตเกียวจึงมีความสะดวกในการเดินทาง และยังมีร้านค้า ร้านอาหาร และที่พักรองรับอย่างครบครัน อีกทั้งด้วยสภาพของชายหาดที่เป็นหาดน้ำตื้นบริเวณกว้างทำให้ค่อนข้างปลอดภัยสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก และชายหาดนี้ยังใช้จัดงานแข่งขันพลุดอกไม้ไฟประจำเมืองคามาคุระที่จัดขึ้นทุกปีในเดือนกรกฎาคมอีกด้วย นอกจากนี้ในช่วงปลายฤดูหนาวที่แม้จะลงเล่นน้ำไม่ได้ แต่สามารถเดินชมทัศนียภาพที่สวยงามของชายฝั่งทะเลและภูเขาไฟฟูจิในวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่งได้อย่างชัดเจน
อาสนวิหารฟลอเรนซ์ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
อาสนวิหารฟลอเรนซ์ (Florence Cathedral) อาคารที่สูงที่สุดในเมืองฟลอเรนซ์ที่มีหลังคาโดม (Capola) สีส้มอิฐสวยงาม โดดเด่นด้วยศิลปะเรอเนสซองส์และนีโอโกธิก ตัวอาคารเป็นหินอ่อนสีขาว เขียว และชมพูกุหลาบ ภายในโดมเป็นภาพเขียนสีปูนเปียกขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกและมีพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมผลงานของศิลปินที่มีชื่อเสียงในยุคกลางจนถึงยุคเรอเนสซองส์ รวมถึงเป็นที่เก็บรักษาประตูสวรรค์ของจริงด้วย ด้านข้างวิหารมีหอระฆังคัมปานีเล่ที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดในอิตาลี ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวเมืองฟลอเรนซ์และชมยอดโดมได้อย่างใกล้ชิด
คาคสเลาท์ทาแนน อาร์กติก รีสอร์ท เมืองซาริเซลก้า ประเทศฟินแลนด์
คาคสเลาท์ทาแนน อาร์กติก รีสอร์ท (Kakslauttanen Arctic Resort) เป็นที่พักที่มีชื่อเสียงที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเห็นแสงเหนือวาดลีลาบนท้องฟ้าในยามค่ำคืนผ่านหลังคากระจกใสของที่พักแบบกระท่อมน้ำแข็งเรือนกระจก (Glass Igloo) ด้วยบรรยากาศโดยรอบที่โอบล้อมด้วยทุ่งน้ำแข็งกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา
หอศีลจุ่มนักบุญเซนต์จอห์น เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
หอศีลจุ่มนักบุญเซนต์จอห์น (Baptistery of St. John) อาคารทรงแปดเหลี่ยมคาดลายหินอ่อนสีเขียว ขาว และชมพูกุหลาบ ศิลปะโรมาเนสก์ฟลอเรนทีน หนึ่งในโบราณสถานที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองฟลอเรนซ์ มีชื่อเสียงจากประตูสำริด 3 ประตู โดยเฉพาะประตูด้านทิศตะวันออกที่สวยงามจนได้รับยกย่องจากประติมากรเอกของโลกอย่างมิเคลันเจโลให้เป็นประตูสวรรค์ หรือ Gates of Paradise นอกจากนี้ภายในโดมยังมีภาพโมเสกขนาดใหญ่รูปพระเยซูประทานพรที่สวยงามระดับโลกอีกด้วย
หอศิลป์อุฟฟีซี เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
หอศิลป์อุฟฟีซี (Uffizi Gallery) พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของอิตาลีที่มีผู้สนใจเข้าชมเป็นจำนวนมากทุกวัน เพราะที่นี่เป็นที่รวมงานศิลปะตระกูลช่างฟลอเรนทีนและเรอนาสซองส์ที่มากที่สุดในโลก โดยเป็นของสะสมของตระกูลเมดิซี ภายในแบ่งเป็นห้องต่างๆ ตามยุคสมัยและห้องศิลปิน และภาพวาดที่นักท่องเที่ยวสนใจเข้าชมกันมากคือ The Birth of Venus (กำเนิดวีนัส) และ Primavera (ฤดูใบไม้ผลิ) ผลงานของซานโดร บอตติเชลลี (Sandro Botticelli) นอกจากนี้ยังมีผลงานของศิลปินในยุคเรอนาสซองส์ให้ได้เลือกชมอีกถึง 45 ห้องทีเดียว
สะพานเวคคิโอ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
สะพานเวคคิโอ (Ponte Vecchio) สะพานที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุดของเมืองฟลอเรนซ์ เพราะเป็นสะพานเดียวที่รอดพ้นจากการทำลายในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นจุดชมวิวที่สวยงามยามพระอาทิตย์ตกเมื่อเงาสะพานทอดลงบนแม่น้ำอาร์โน ประกอบกับอาคารร้านค้าบนสะพานสีเหลืองส้มอิฐสดใส มีบานหน้าต่างสี่เหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ จึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดมาเยือน
มหาวิหารซานตา มาเรีย โนเวลลา เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
มหาวิหารซานตา มาเรีย โนเวลลา (Basilica di Santa Maria Novella) เป็นมหาวิหารที่มีลวดลายฝาผนังหรือ Façade ที่งดงามที่สุดในฟลอเรนซ์และอิตาลี ฝีมือช่างสกุลฟลอเรนทีน ประดับด้วยหินอ่อนสีขาว สีเขียว และชมพูศิลปะโกธิกและเรอนาสซองส์ ภายในมีจิตรกรรม Fresco ของศิลปินชื่อดังแห่งยุคเรอนาสซองส์ตาม Chapels (โบสถ์น้อยหรือที่ฝังศพ) ของผู้มีชื่อเสียง และที่โดดเด่นคือพระเยซูถูกตรึงไม้กางเขน (Crucifix) ผลงานของโดเมนิโก กีร์ลันดายโย (Domenico Ghirlandaio) และฟิลิปโป บรูเนลเลสกี (Filippo Brunelleschi) รวมถึงภาพเขียนสี The Holy Trinity ของมาซัซโซ (Masaccio) ที่มีชื่อเสียงมาก
มหาวิหารซาน โลเร็นโซ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
มหาวิหารซาน โลเร็นโซ (Basilica di San Lorenzo) มหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งและเก่าแก่ที่สุดของเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี มีอายุกว่า 300 ปี นักท่องเที่ยวจะได้เห็นสถาปัตยกรรมภายนอกที่แม้ดูเรียบง่ายเนื่องจาก Façade ที่สวยงามไม่ได้ถูกประดับ แต่ภายในเป็นที่ฝังศพของบุคคลสำคัญในตระกูลเมดิซี โดยเฉพาะ Chapel of the Princes ที่ฝังศพแกรนด์ดยุคแห่งทัสคานี Cosimo III de' Medici ที่ตกแต่งด้วยหินอ่อนอย่างหรูหรา รวมถึงสถาปัตยกรรมภายในมหาวิหาร ห้องสมุด ห้องเก็บสมบัติเก่า และห้องเก็บสมบัติใหม่ เป็นดั่งที่รวมผลงานของยอดฝีมือทางสถาปัตยกรรมและจิตรกรรมยุคเรอนาสซองส์ไว้ จึงเป็นอีกสถานที่ไม่ควรพลาดมาชมอีกแห่งหนึ่ง
มหาวิหารซันตา โกรเช เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
มหาวิหารซันตา โกรเช (Basilica di Santa Croce) เป็นมหาวิหารที่สร้างขึ้นโดยนักบุญฟรานซิสและเป็นโบสถ์ฟรานซิสกัน (โบสถ์ที่ก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มนักบวชคาทอลิกของนักบุญฟรานซิส) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ออกแบบโดยสถาปนิกอาร์นอลโฟ ดิ แคมบิโอ (Arnolfo di Cambio) โดดเด่นด้วย 16 Chapels หรือโบสถ์น้อยสำหรับฝังศพบุคคลที่มีชื่อเสียงของเมืองฟลอเรนซ์ โดยแต่ละ Chapel มีสถาปัตยกรรม ประติมากรรม และภาพจิตรกรรมศิลปะปูนเปียก (Fresco) โดยศิลปินเอกแห่งยุค ที่นี่จึงเป็นเหมือนที่รวมงานศิลปะอันทรงคุณค่าให้นักท่องเที่ยวได้มาชมอยู่มากมาย
พระราชวังปาลาซโซ ปิตติ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
พระราชวังปาลาซโซ ปิตติ (Palazzo Pitti) พระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในเมืองฟลอเรนซ์ ด้วยความอลังการของตัวอาคารที่สร้างโดยตระกูลปิตติพ่อค้าผู้ร่ำรวย ต่อมาได้ตกเป็นของตระกูลเมดิซีแห่งเมืองฟลอเรนซ์ได้ใช้เป็นที่พักและที่เก็บสะสมของมีค่าของตระกูล เมื่อหมดอำนาจลงสมบัติทั้งหมดจึงตกเป็นของเมืองฟลอเรนซ์ ที่นี่จึงเป็นดั่งที่รวมภาพวาด รูปปั้น งานศิลปะ สิ่งของเครื่องใช้และเครื่องประดับมีค่าของชนชั้นสูงในศตวรรษที่ 16 ซึ่งเป็นยุครุ่งเรืองของเมืองฟลอเรนซ์ให้นักท่องเที่ยวได้ชมอยู่ถึง 5 พิพิธภัณฑ์เลยทีเดียว
เปียซซาเล มิเคลันเจโล เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
เปียซซาเล มิเคลันเจโล (Piazzale Michelangelo) ลานรูปปั้น David (จำลอง) อีกแห่งหนึ่งที่ยืนตระหง่านอยู่บนเนินเขาอันเป็นจุดชมวิวเมืองฟลอเรนซ์ที่มีชื่อเสียง จากจุดนี้สามารถมองเห็นไฮไลท์ของเมืองได้เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโดมอิฐสีส้มของมหาวิหารฟลอเรนซ์ พระราชวังปิตติ พระราชวังเวคคิโอ สะพานเวคคิโอ สะพานเก่าแก่ที่สุดที่รอดพ้นจากการทำลายในสงครามโลกครั้งที่ 2 ทอดข้ามแม่น้ำอาร์โนที่ไหลผ่านกลางเมืองโดยมีทิวเขาอยู่เบื้องหลัง เป็นภาพที่สวยงามน่าประทับใจทั้งเวลากลางวันและกลางคืน
จัตุรัสเปียซซา ดิ ซานตา มาเรีย โนเวลลา เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
จัตุรัสเปียซซา ดิ ซานตา มาเรีย โนเวลลา (Piazza di Santa Maria Novella) จัตุรัสสำคัญใจกลางเมืองฟลอเรนซ์ เป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟกลาง Firenze Santa Maria Novella ศูนย์กลางการคมนาคมของเมือง ห่างจากมหาวิหารซานตา มาเรีย โนเวลลา (Basilica di Santa Maria Novella) ที่ได้ชื่อว่ามี Façade หน้ามหาวิหารที่สวยงามที่สุดในอิตาลีเพียง 290 เมตร ตัววิหารทำจากหินอ่อนสีขาว เขียว และชมพู ภายในมีแท่นบูชา Crucifix ที่มีชื่อเสียง ผลงานของฟิลิปโป บรูเนลเลสกี (Filippo Brunelleschi) และจ๊อตโต (Giotto), ภาพเขียนสีปูนเปียก The Holy Trinity ของมาซัซโซ (Masaccio) และภาพ Life of the Virgin ของโดเมนิโค กิลันดายโย (Domenico Ghirlandaio) อีกด้านของจัตุรัสเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์การถ่ายภาพ Museo Nazionale Alinari della Fotografia ที่จัดแสดงประวัติศาสตร์ภาพถ่ายและกล้องถ่ายรูปให้ได้ชมด้วย
แกลลอรี่ เดลลัคคาเดเมีย เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
แกลลอรี่ เดลลัคคาเดเมีย (Galleria dell'Accademia) พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลกที่มีผู้สนใจเข้าชมเป็นจำนวนมากทุกวัน เพราะที่นี่เป็นที่ตั้งประติมากรรมแกะสลักหินอ่อน David (ของจริง) เด็กหนุ่มรูปงามผู้ปราบยักษ์โกไลแอธด้วยก้อนหินเพียงก้อนเดียว ผลงานศิลปินเอกของโลก มิเคลันเจโล บัวนารอตติ (Michelangelo Buonarroti) และภายในพิพิธภัณฑ์ยังมีภาพวาดของศิลปินเอกยุคเรอนาสซองส์อีกมากมาย อาทิ ซานโดร บอตติเชลลี (Sandro Botticelli), โดเมนิโค กีร์ลันดายโย (Domenico Ghirlandaio) และผลงานที่ยังไม่เสร็จของมิเคลันเจโล The Prisoners ให้ชมด้วย
หมู่บ้านซานต้า เมืองโรวาเนียมี ประเทศฟินแลนด์
เมื่อเอ่ยถึงซานตาคลอส เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จักเป็นอย่างดี แต่หลายๆ คนอาจยังไม่ทราบว่าประเทศฟินแลนด์คือถิ่นกำเนิดของซานตาคลอส ซึ่งบ้านซานตาคลอส (Santa Village) ที่ว่านี้ตั้งอยู่ที่เมืองโรวาเนียมิ (Rovaniemi) ทางตอนเหนือของประเทศฟินแลนด์แห่งนี้นี่เอง
ปราสาทหิมะเมืองเคมิ ประเทศฟินแลนด์
ปราสาทหิมะเมืองเคมิ (Kemi Snow Castle) ได้ชื่อว่าเป็นปราสาทหิมะที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองเคมิที่จะสร้างขึ้นมาเฉพาะช่วงฤดูหนาวเท่านั้น โดยแต่ละปีนั้นจะใช้เวลาในการสร้างมากกว่า 5 สัปดาห์ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวแลปแลนด์จึงไม่อาจพลาดไปได้ด้วยประการทั้งปวง
ไวล์เดอร์เนส โฮเทล อินาริ เมืองอินาริ ประเทศฟินแลนด์
โรงแรม ไวลเดอร์เนส อินาริ (Wilderness Hotel Inari) เป็นรีสอร์ตท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติของป่าแบบฟินแลนด์ผสมผสานความเป็นที่พักคุณภาพกับธรรมชาติอันบริสุทธิ์และกิจกรรมอาร์กติกได้อย่างลงตัว
ลูว์สโต เมืองโซดันคีล่า ประเทศฟินแลนด์
ลูว์สโต สกี (Luosto Ski) รีสอร์ทที่ตั้งอยู่ท่ามกลางภูมิทัศน์ฤดูหนาวของแลปแลนด์ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะได้ใกล้ชิดกับสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติในศูนย์กลางที่เงียบสงบทางตอนเหนือของฟินแลนด์ซึ่งแวดล้อมด้วยป่าโบราณ ทุ่งหิมะบริสุทธิ์ราวกับอัญมณีที่เปล่งประกาย และความสนุกในช่วงฤดูหนาวจากกิจกรรมต่างๆ และบริการที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักเล่นสกีทุกระดับได้จากที่นี่
ล่าแสงเหนือกับสุนัขฮัสกี้ เมืองอิวาโล ประเทศฟินแลนด์
แสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปี ทว่าช่วงเวลาที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดและสามารถเห็นได้ง่ายคือในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเดือนมีนาคม ภูมิภาคแลปแลนด์ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศฟินแลนด์นับเป็นจุดหมายหลักสำหรับนั่งท่องเที่ยวที่ต้องการจะได้ชมปรากฏการณ์ธรรมชาตินี้ แม้ว่าวันเวลาที่จะเกิดแสงเหนือนั้นค่อนข้างคาดการณ์ลำบากแต่นักท่องเที่ยวจำนวนมากก็ยินดีที่จะออกเดินทางไปเสี่ยงโชคและตามล่าหาความสวยงามจากธรรมชาตินี้ ซึ่งการล่าแสงเหนืออีกหนึ่งรูปแบบที่สนุก ตื่นเต้น และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเมื่อมาแลปแลนด์ก็คือการล่าแสงเหนือกับสุนัขฮัสกี้ (Aurora Hunting with Huskies)
โรงแรมโนวาสกายแลนด์ เมืองโรวาเนียมี ประเทศฟินแลนด์
โรงแรมโนวาสกายแลนด์ (Nova Skyland Hotel) เป็นโรงแรมขนาดเล็กที่มีที่ตั้งดีเยี่ยมเพราะอยู่ในบริเวณหมู่บ้านซานต้า เป็นที่พักที่เหมาะสำหรับครอบครัวที่มาใช้เวลาท่องเที่ยวพักผ่อนในโรวาเนียมี ท่ามกลางบรรยากาศของป่าสนและทุ่งหิมะขาวโพลนที่โอบล้อมที่พักแห่งนี้อย่างเป็นเอกลักษณ์
เรือตัดน้ำแข็งแชมโป เมืองเคมิ ประเทศฟินแลนด์
เรือตัดน้ำแข็งแชมโป (Icebreaker Sampo) เป็นเรือตัดน้ำแข็งที่โด่งดังที่สุดในโลก เป็นเรือที่มีน้ำหนักมากกว่าเรือตัดน้ำแข็งทั่วไปในขนาดเดียวกันถึง 3 เท่า ในอดีตเคยเป็นเรือตัดน้ำแข็งของรัฐบาลฟินแลนด์ซึ่งใช้ล่องในอ่าวบอธเนีย (Bothnia) ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของการมาเที่ยวเมืองเคมิซึ่งจะพลาดไปไม่ได้
พิพิธภัณฑ์ซีดา ซามิ และศูนย์ศึกษาธรรมชาติ เมืองอินาริ ประเทศฟินแลนด์
พิพิธภัณฑ์ซีดา ซามิ (Siida Sami Museum) และศูนย์ศึกษาธรรมชาติ (Nature Centre) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่สนใจในเรื่องของวัฒนธรรมท้องถิ่น ความเป็นมาของชาวซามิ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือเรื่องเกี่ยวกับแสงเหนือหรือแสงออโรร่าที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงไว้ได้อย่างครบถ้วนและน่าสนใจอย่างยิ่ง
นั่งเลื่อนเทียมกวางเรนเดียร์และเยี่ยมชมหมู่บ้านชาวซามิ เมืองอิวาโล ประเทศฟินแลนด์
นั่งเลื่อนเทียมกวางเรนเดียร์ (Reindeer Sleigh Ride) เป็นรูปแบบการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวจะมีโอกาสได้รื่นรมย์กับบรรยากาศและทัศนียภาพอันสวยงามของแลปแลนด์ระหว่างทางที่กวางเดินลากเลื่อนไป รวมถึงเป็นโอกาสที่จะได้ไปเยี่ยมชมหมู่บ้านชาวซามิ ชนพื้นเมืองที่ตั้งรกรากอาศัยอยู่ในพื้นที่บริเวณนี้ของฟินแลนด์มานานกว่าหมื่นปี
ซาริเซลกา สกี และ สปอร์ต รีสอร์ท เมืองซาริเซลก้า ประเทศฟินแลนด์
ซาริเซลกา สกี และ สปอร์ต รีสอร์ท (Saariselka Ski & Sport Resort) เป็นสกีรีสอร์ตที่ล้อมรอบด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม ท่ามกลางเนินเขาหิมะที่ขาวโพลนสุดลูกหูลูกตา เป็นสวรรค์อีกแห่งหนึ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นสกี และสำหรับผู้ที่ไม่สันทัดกีฬาประเภทนี้แต่ต้องการดื่มด่ำกับบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน
ซานต้า พาร์ค เมืองโรวาเนียมี ประเทศฟินแลนด์
ซานต้า พาร์ค (Santa Park) เป็นคริสต์มาสธีมพาร์คในร่ม (Indoor Christmas theme park) ที่ได้รับการโหวตให้เป็นจุดหมายในฝันอันดับต้นๆ ของเทศกาลคริสต์มาสทั่วโลก สิ่งนี้จึงเป็นเครื่องการันตีได้เป็นอย่างดีว่าหากนักท่องเที่ยวต้องการสัมผัสกับบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของเทศกาลแห่งความสุขและลุงซานต้าผู้ใจดีแล้ว การเดินทางมาเที่ยวที่สถานที่แห่งนี้จะไม่ทำให้ต้องผิดหวังอย่างแน่นอน
แองกรี้ เบิร์ด เมืองซาริเซลก้า ประเทศฟินแลนด์
สวนสนุกแองกรี้ เบิร์ด (Angry Birds) เป็นสวนสนุกในธีมแองกรี้ เบิร์ด ซึ่งเป็นแอพลิเคชันเกมชื่อดังที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก ภายในสวนสนุกเต็มไปด้วยเครื่องเล่นนานาชนิดที่พร้อมสร้างความสุข ความเพลิดเพลินให้แก่แฟนคลับของคนรักเกมนี้ทุกเพศทุกวัย
คาคสเลาท์ทาแนน อาร์ต แกลเลอรี เมืองซาริเซลก้า ประเทศฟินแลนด์
คาคสเลาท์ทาแนน อาร์ต แกลเลอรี (Kakslauttanen Art Gallery) เป็นแกลเลอรีศิลปะขนาดย่อมที่ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ของ Kakslauttanen Arctic Resort ทว่าผลงานต่างๆ ที่จัดแสดงอยู่ภายในล้วนมีความน่าสนใจและสามารถบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตและวัฒนธรรมการดำเนินชีวิตของผู้คนในแถบนี้เป็นอย่างดี จึงไม่เลวนักหากจะแบ่งเวลาในช่วงกลางวันของทริปแลปแลนด์มาเดินเที่ยวชมแกลลอรีแห่งนี้สักชั่วโมงสองชั่วโมง
ขับสโนวโมบิลและตกปลาน้ำแข็ง เมืองเคมิ ประเทศฟินแลนด์
ฟินแลนด์เป็นประเทศที่มีพื้นที่ขนาดพอๆ กับประเทศไทย ทว่ามีทะเลสาบอยู่มากมายกว่า 188,800 แห่ง จนอาจเรียกว่าเป็นประเทศที่มีทะเลสาบมากที่สุดในโลกก็ได้ และด้วยความที่มีทะเลสาบอยู่มากมายนี้ฟินแลนด์จึงมีปลาประเภทต่างๆ เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ประเทศฟินแลนด์ก็ขึ้นชื่อในเรื่องของอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปีด้วยเช่นกัน เมื่อน้ำในทะเลและทะเลสาบต่างๆ กลายเป็นน้ำแข็งชาวฟินแลนด์ก็มีวิธีที่จะสามารถตกปลาในน้ำแข็งอย่างชาญฉลาด การขับสโนวโมบิลไปบนทุ่งหิมะและตกปลาน้ำแข็ง (Snowmobile Safari & Ice Fishing) แบบคนท้องถิ่น ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเมื่อมาเยือนภูมิประเทศในแถบนี้
ฮาวิส อแมนด้า เมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์
ฮาวิส อแมนด้า (Havis Amanda) หรือน้ำพุธิดาแห่งทะเลบอลติก เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ใจกลางกรุงเฮลซิงกิที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยว เพราะเป็นสถานที่ที่เปี่ยมด้วยความหมายเเละตำนานเรื่องเล่า น้ำพุแห่งนี้จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจแวะเวียนมาเยี่ยมชมและถ่ายภาพอยู่เป็นประจำ
โอลด์ มาร์เก็ต ฮอลล์ เมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์
ตลาดที่เป็นศูนย์รวมอาหารในเฮลซิงกิมีอยู่สามแห่งด้วยกัน แต่ละแห่งต่างก็ตั้งอยู่ในอาคารเก่าและสวยงามใกล้กับชายทะเล แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมด้านอาหารของประเทศฟินแลนด์ได้เป็นอย่างดี ซึ่ง โอลด์ มาร์เก็ต ฮอลล์ (Old Market Hall) ก็เป็นหนึ่งในนั้น เป็นสถานที่อีกหนึ่งแห่งที่เมื่อนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่เฮลซิงกิต่างก็ไม่พลาดที่จะต้องแวะมาเยี่ยมชมและหาอาหารอร่อยๆ ลิ้มลอง
อาสนวิหารอุสเพนสเก้ เมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์
อาสนวิหารอุสเพนสเก้ (Uspenski Cathedral) เป็นโบสถ์ออร์ธอดอกซ์รัสเซียที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก ตั้งอยู่บนเนินเขาในเขตประวัติศาสตร์กาตายานอกกา (Katajanokka) ของเฮลซิงกิ สถาปัตยกรรมเก่าแก่อันยิ่งใหญ่ งดงามแปลกตานี้สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของรัสเซียที่มีต่อเฮลซิงกิ และสิ่งที่หลงเหลืออยู่ของจักรวรรดิรัสเซียที่เคยปกครองฟินแลนด์อยู่นานกว่า 100 ปี
อาคารรัฐสภา เมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์
อาคารรัฐสภา (The Parliament) อาคารสีอิฐความสูงหกชั้นอันงามสง่าใจกลางเมืองเฮลซิงกิ นอกจากจะมีความสำคัญด้านการเมืองการปกครองแล้ว ยังเป็นสิ่งก่อสร้างที่ได้รับยกยกว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดสถาปัตยกรรมของฟินแลนด์ในขณะนั้นอีกด้วย
อนุสาวรีย์ซิเบลิอุส เมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์
อนุสาวรีย์ซิเบลิอุส (Sibelius Monument) เป็นอนุสาวรีย์ร่วมสมัยขนาดย่อมทว่าที่มีความหมายต่อความเป็นชาติฟินแลนด์ และเป็นหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของนักท่องเที่ยวเมื่อมาเฮลซิงกิ
ห้องสมุดแห่งชาติฟินแลนด์ เมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์
ห้องสมุดแห่งชาติฟินแลนด์ (National Library of Finland) เป็นห้องสมุดวิจัยที่สำคัญที่สุดของประเทศ มีสถาปัตยกรรมที่งดงามคลาสสิกทั้งภายนอกและภายใน โดยเป็นสถานที่ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมแห่งชาติของชาวฟินแลนด์และยังเป็นห้องสมุดซึ่งรวบรวมหนังสือที่ตีพิมพ์ในยุคจักรวรรดิรัสเซียไว้มากที่สุดแห่งหนึ่งในโลกอีกด้วย
สถานีรถไฟกลางเฮลซิงกิ เมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์
สถานีรถไฟกลางเฮลซิงกิ (Helsinki Central Station) ไข่มุกเม็ดงามท่ามกลางอาคารสถาปัตยกรรมแบบอาร์ตนูโว (Art Nouveau) หลายๆ แห่งในเมืองเฮลซิงกิแห่งนี้ เคยได้รับการคัดเลือกโดย BBC ให้เป็นหนึ่งในสถานีรถไฟที่สวยที่สุดในโลกในปี ค.ศ. 2013
เมืองเก่าปอร์วู เมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์
เมืองเก่าปอร์วู (Old Town of Porvoo) เป็นเมืองที่เก่าแก่เป็นอันดับสองของประเทศฟินแลนด์ มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นคือบ้านไม้หลากสีสวยงามที่ปลูกเรียงรายอยู่ริมแม่น้ำ ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายและบรรยากาศเมืองเก่าของประเทศซึ่งเป็นดินแดนซานตาคลอสแห่งนี้
มาร์เก็ตสแควร์ เมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์
มาร์เก็ต สแควร์ (Market Square) หรือ เคาป์ปาโตรี (Kauppatori) เป็นตลาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของเฮลซิงกิซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้ามานานหลายศตวรรษ เป็นศูนย์รวมของร้านค้านานาชนิด ทั้งอาหารพื้นเมือง อาหารทะเลสดๆ สินค้าวินเทจ สินค้าแฮนด์เมด และสินค้าที่ระลึกก็สามารถเลือกซื้อเลือกหาได้จากที่นี่
มหาวิหารเฮลซิงกิ เมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์
มหาวิหารเฮลซิงกิ (Helsinki Cathedral) เป็นโบสถ์ศาสนาคริสต์นิกายลูเธอร์รัน (Lutheran) ของฝ่ายโปรเตสแตนต์ สร้างด้วยสถาปัตยกรรมรูปแบบนีโอคลาสสิก (Neo Classic) ถือเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่งดงามและโดดเด่นที่สุดของเฮลซิงกิที่นักท่องเที่ยวจะต้องไม่พลาดแวะไปเยี่ยมชมเมื่อมาถึงเมืองหลวงของประเทศฟินแลนด์แห่งนี้
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติฟินแลนด์ เมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติฟินแลนด์ (The National Museum of Finland) เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะสามารถหาชมโบราณวัตถุน่าทึ่งและศึกษาประวัติศาสตร์ฟินแลนด์ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์มาจนถึงปัจจุบัน
ป้อมซัวเมนลินนา เมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์
ป้อมซัวเมนลินนา (Suomenlinna) หรือ Sveaborg เป็นป้อมปราการกลางทะเลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมพิพิธภัณฑ์และอาคารในบริเวณรอบๆ ที่มีบรรยากาศสวยงาม เงียบสงบ ป้อมซัวเมนลินนาได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลก (UNESCO World Heritage site) จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปีค.ศ. 1991
โบสถ์เทมเป ลิโอ คิโอ เมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์
โบสถ์เทมเป ลิโอ คิโอ (Temppeliaukio) หรือ โบสถ์หิน (Rock Church) ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเฮลซิงกิ ด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่สร้างโดยการขุดเจาะเข้าไปในหิน และมีชื่อเสียงเกี่ยวกับความเชื่อว่าหากใครที่มาจุดเทียนอธิษฐานเรื่องความรักจะสมหวัง และคู่รักที่มาแต่งงานกันที่โบสถ์แห่งนี้ก็จะครองรักกันยืนยาว ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมโบสถ์แห่งนี้กว่า 500,000 คน
จัตุรัสเซเนท เมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์
จัตุรัสเซเนท หรือ เซเนทสแควร์ (Senate Square) เป็นจัตุรัสกลางเมืองของเฮลซิงกิที่มีความสำคัญและคึกคักทั้งกลางวันและกลางคืน บริเวณรอบๆ รายล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่สวยงามจำนวนหลายแห่ง ลานกว้างแห่งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งจุดนัดพบที่มีชื่อเสียงและป็นสถานที่จัดกิจกรรมต่างๆ ของชาวเฮลซิงกิมาโดยตลอด
น้ำพุเกฟิออน เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
น้ำพุเกฟิออน (Gefion Fountain) น้ำพุขนาดใหญ่รูปทรงแปลกตา มองเผินๆ คล้ายธารน้ำตกจำลองแห่งนี้คือหนึ่งในอนุสรณ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเดนมาร์ก สร้างขึ้นตามตำนานความเชื่อเกี่ยวกับเทพเจ้าและการสร้างประเทศเดนมาร์ก ตั้งโดดเด่นอยู่ไม่ไกลจากรูปปั้นเงือกน้อย (Little Mermaid)
ทัวร์ล่องเรือชมเมืองโคเปนเฮเกน เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
Canal Tour โคเปนเฮเกนเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการท่องเที่ยวอันยอดเยี่ยมและได้รับความนิยมสำหรับการการชมหลวงที่สวยงามของประเทศเดนมาร์กแห่งนี้ เป็นโอกาสที่นักท่องเที่ยวจะได้ชมสถานที่ต่างๆ ของโคเปนเฮเกนในมุมมองที่สวยงามจากบนเรือที่ค่อยๆ แล่นไปตามสายน้ำของเมืองโคเปนเฮเกน
ป้อมคาสเทลเลท เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
ป้อมคาสเทลเลท (Kastellet) เป็นป้อมรูปดาวที่สภาพค่อนข้างสมบูรณ์ไม่กี่แห่งที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในยุโรปเหนือ ข้างในเป็นอาคารสีแดงๆ หลายตึกด้วยกัน รอบๆ ป้อมปราการล้อมรอบด้วยน้ำอย่างอุดมสมบูรณ์และมีทัศนียภาพที่สวยงาม
โบสถ์เซนต์อัลบัน เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
โบสถ์เซนต์อัลบัน (St. Alban's Church) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า English Church ตั้งอยู่ข้างๆ กับน้ำพุ Gefion และป้อม Kastellet โบสถ์ St. Alban's Church เป็นโบสถ์ในศาสนาคริสต์นิกาย Anglican แห่งเดียวในกรุงโคเปนเฮเกน
หอสังเกตการณ์ราวด์ทาวเวอร์ เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
หอสังเกตการณ์ราวด์ทาวเวอร์ (Round Tower) เป็นหอสังเกตการณ์เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 ปัจจุบันกลายเป็นศูนย์วัฒนธรรมและจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามของเมืองโคเปนเฮเกนได้อย่างกว้างไกล
ห้องสมุดแห่งชาติเดนมาร์ก เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
ห้องสมุดแห่งชาติเดนมาร์ก (Royal Danish Library) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นอกจากจะเป็นคลังความรู้สำคัญใจกลางเมืองหลวงของประเทศเดนมาร์กแล้ว ยังเป็นสถานที่ที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามริมแม่น้ำ ควรค่าแก่การไปเยี่ยมชมอีกแห่งหนึ่งของเมืองโคเปนเฮเกน
สวนสนุกทิโวลี เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
สวนสนุกทิโวลี (Tivoli Gardens) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดที่หนึ่งของประเทศเดนมาร์ก (Denmark) สวนสนุกเก่าแก่อายุกว่า 200 ปีแห่งนี้คือสถานที่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่สวนสนุกอีกหลายแห่งทั่วโลก รวมถึงดิสนิย์เวิลด์ (Disney World) ที่ผู้ก่อตั้งก็ได้รับแรงบันดาลใจจากสวนสนุกแห่งนี้เช่นกัน
ศาลาว่าการเมืองโคเปนเฮเกน เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
ศาลาว่าการเมืองโคเปนเฮเกน (Copenhagen City Hall) อาคารเก่าแก่อายุกว่า 100 ปีใจกลางเมืองหลวงของประเทศเดนมาร์กที่ยังคงความงดงาม ดึงดูดสายตาของนักท่องเที่ยว และยังเป็นสถานที่สำหรับจัดงานแต่งงานสุดแสนโรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศอีกด้วย
ลิตเทิลเมอร์เมด เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
สิ่งหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเดนมาร์ก ที่เมื่อนักท่องเที่ยวมาเที่ยวโคเปนเฮเกนแล้วไม่พลาดที่จะต้องเดินทางมาเยี่ยมชมก็คือรูปปั้นนางเงือกน้อยหรือลิตเทิลเมอร์เมด (Little Mermaid) รูปปั้นซึ่งมีที่มาจากเทพนิยายเรื่องเด่นของฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน (Hans Christian Andersen) ที่ตั้งอยู่บนหินบริเวณท่าเรือหลักของเมืองโคเปนเฮเกน
มหาวิหารแห่งโคเปนเฮเกน เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
มหาวิหารแห่งโคเปนเฮเกน (Copenhagen Cathedral) มหาวิหารงดงามในสถาปัตยกรรมรูปแบบนีโอคลาสสิก (Neo - Classic) อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวเดนมาร์ก
พิพิธภัณฑ์แห่งเมืองโคเปนเฮเกน เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
พิพิธภัณฑ์แห่งเมืองโคเปนเฮเกน (Museum of Copenhagen) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ครอบคลุมประวัติศาสตร์ยุคต่างๆ ของเดนมาร์ก และเป็นสถานที่ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้รู้จักความเป็นมาของโคเปนเฮเกน เมืองหลวงของเดนมาร์กก็ถูกยกให้เป็น “หนึ่งในเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก”ภายในระยะเวลาที่ไม่นาน
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเดนมาร์ก เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเดนมาร์ก (National Museum of Denmark) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติศาสตร์เกี่ยวความเป็นมาของเดนมาร์ก ประเทศซึ่งถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก จากผลสำรวจของสหประชาชาติ (World Happiness Report) ถึง 3 ปีซ้อน รวมถึงได้ทำความรู้จักกับศิลปวัฒนธรรมที่น่าสนใจของชาวเดนมาร์กจากอดีตถึงปัจจุบัน
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งชาติเดนมาร์ก เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งชาติเดนมาร์ก (National Aquarium Denmark) หรือ เดน โบละ แพลเน็ต (Den Blå Planet) เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปตอนเหนือ และเป็นแหล่งรวบรวมสิ่งมีชีวิตทางทะเลมากกว่า 1,000 ชนิดจากทั่วทุกมุมโลก
พิพิธภัณฑ์ นี คาลส์เบิร์ก กริปโตเทค เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
พิพิธภัณฑ์นี คาลส์เบิร์ก กริปโตเทค (Ny Carlsberg Glyptotek) พิพิธภัณฑ์เก่าแก่ที่ในอดีตเคยเป็นป้อมเก่าของเมืองแห่งนี้ คือสถานที่เก็บรวบรวมคอลเล็คชั่นผลงานศิลปะโบราณที่สวยงาม ทรงคุณค่า และได้รับการยกย่องว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรูปปั้นโบราณไว้ครอบคลุมที่สุดในทวีปยุโรปเหนือ ซึ่งจุดเด่นของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือรูปปั้นจำนวนมาก และผลงานบางชิ้นนั้นมีอายุมากถึง 8,000 ปี
พระราชวังอมาเลียนบอร์ก เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
พระราชวังอมาเลียนบอร์ก (Amalienborg Palace) หรือพระราชวังฤดูหนาวของราชวงศ์เดนมาร์กแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศ โดยเฉพาะการเปลี่ยนเวรทหารที่เลื่องชื่อ เป็นที่ตั้งของพระบรมรูปทรงม้าที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ทั้งยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับราชวงศ์ที่จัดแสดงเรื่องราวและข้าวของสำคัญต่างๆ จากในอดีตกว่า 150 ปีอีกด้วย
พระราชวังคริสเตียนบอร์ก เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
พระราชวังคริสเตียนบอร์ก (Christiansborg Palace) หนึ่งในพระราชวังที่สวยงามและยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศเดนมาร์ก สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างอยากไปเยือน ทั้งยังเป็นที่ตั้งของสถานที่ราชการที่สำคัญๆ ของประเทศหลายแห่ง
ปราสาทโรเซนเบิร์ก เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
ปราสาทโรเซนเบิร์ก (Rosenborg Palace) หรือพระราชวังโรเซนเบิร์กเป็นพระราชวังฤดูร้อนของราชวงศ์เดนมาร์กที่ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองโคเปนเฮเกน เป็นสถานที่เก็บรักษาสมบัติล้ำค่าของราชวงศ์ และเป็นสถานที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งที่น่าไปเยี่ยมชมของเมืองหลวงแห่งนี้
โบสถ์เฟรเดอริก (โบสถ์หินอ่อน) เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
โบสถ์เฟรเดอร์ริก (Frederik’s Church) หรือที่เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อเรียกว่าโบสถ์หินอ่อน (Marble Church) หรือ Marmorkirken ในภาษาเดนมาร์ก เป็นโบสถ์ทรงโดมสีเขียวงดงาม สร้างด้วยวัสดุหลักคือหินอ่อน เรียกได้ว่าเป็นโบสถ์ที่มีความสำคัญที่สุดในโคเปนเฮเกน และยังเป็นโบสถ์รูปทรงโดมที่ใหญ่ที่สุดในสแกนดิเนเวียอีกด้วย
โบสถ์เซ็นต์ซาร์เวียร์ เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
โบสถ์เซ็นต์ซาร์เวียร์ (Church of Our Saviour) หรือ โบสถ์วอร์ ฟรัลเซอร์ เคียร์กือ (Vor Frelsers Kirke) โบสถ์เก่าแก่ที่มีความสวยงามและมีเอกลักษณ์ประจำเมืองโคเปนเฮเน ด้วยหอคอยเกลียวสว่านที่ตั้งตระหง่านเหนือเมืองและหอระฆังขนาดใหญ่ โบสถ์แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาโคเปนเฮเกน
ท่าเรือนูฮาวน์ เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
ท่าเรือนูฮาวน์ (Nyhavn) หรือเป็นภาษาอังกฤษคือ New Harbour ซึ่งหมายถึงท่าเรือใหม่ เป็นเขตท่าเรือเก่าแก่ของเมืองโคเปนเฮเกน เมืองหลวงของประเทศเดนมาร์กที่มีบรรยากาศที่สวยงาม กอปรกับตึกรามสีสันสดใส และรายล้อมด้วยร้านอาหารหลากหลาย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองโคเปนเฮเกนที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเยี่ยมเยือน
ท้องฟ้าจำลอง เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
The Planetarium หรือท้องฟ้าจำลองของโคเปนเฮเกน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่มีสถาปัตยกรรมของตัวอาคารที่สวยงามแบบสมัยใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะได้รับทั้งความรู้เกี่ยวกับดาราศาสตร์ ดื่มด่ำกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว และได้รับความบันเทิงไปในขณะเดียว
ถนนสตรอยก์ เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
ถนนสตรอยก์ (Stroget Street) แหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของโคเปนเฮเกนซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และยังเป็นถนนคนเดินที่ยาวและเก่าแก่ที่สุดในโลกซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองโคเปนเฮเกนอีกด้วย
ชุมชนอิสระคริสเตียเนีย เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
ชุมชนคริสเตียเนีย (Christiania) เป็นชุมชนเสรีที่ปกครองตนเองไม่ขึ้นตรงต่อประเทศเดนมาร์ก สิ่งหนึ่งซึ่งเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในเมืองเล็กๆ แห่งนี้คือกัญชาไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งขัดต่อหลักการของประเทศที่ชุมชุนแห่งนี้ตั้งอยู่ บ้านเรือนของผู้คนที่นี่สร้างด้วยสีสันสดใส ผนังและกำแพงเพ้นท์ด้วยลวดลายกราฟิตี้ละลานตา เป็นเอกลักษณ์และเสน่ห์ของชุมชนแห่งนี้ที่ดึงดูดให้ผู้คนจากที่อื่นๆ อยากมาเยี่ยมชม
จัตุรัสศาลาว่าการเมืองโคเปนเฮเกน เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
จัตุรัสศาลาว่าการเมืองโคเปนเฮเกน (Copenhagen City Hall Square) หรือ Radhusplasden ในภาษาเดนิช เป็นอีกหนึ่งสถานที่ใจกลางเมืองโคเปนเฮเกนที่คึกคักไปด้วยกิจกรรมต่างๆ ทั้งกลางวันและกลางคืน
จัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โค และ หอระฆังซานมาร์โค เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
จัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โค หรือ จตุรัสเซนต์มาร์ค (Piazza San Marco / St. Mark’s Square) เป็นจัตุรัสที่เป็นศูนย์กลางของเมืองเวนิส บริเวณจัตุรัสล้อมรอบด้วยแลนด์มาร์กสำคัญของเมือง อย่างเช่น มหาวิหาร หอนาฬิกา พระราชวัง พิพิธภัณฑ์ ศูนย์นิทรรศการ และหอสมุด และมีด้านที่ติดกับชายฝั่งทะเล ซึ่งจักรพรรดินโปเลียน (Napoleon) อดีตจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งฝรั่งเศสเคยกล่าวไว้ว่าที่นี่เป็นดั่งห้องรับรองที่สวยที่สุดในโลก นอกจากนี้ บริเวณจัตุรัสยังโดดเด่นด้วยหอระฆังซานมาร์โค หรือ หอระฆังเซนต์มาร์ค (San Marco Campanile / St. Mark’s Campanile) ความสูง 99 เมตรซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมทัศนียภาพอันน่าประทับใจของเมืองเวนิสและชายฝั่งทะเลได้จากด้านบน ด้วยเหตุนี้ จัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โคและหอระฆังซานมาร์โค จึงได้รับนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามของสถาปัตยกรรมเก่าแก่โดยรอบ และยังมีทัศนยีภาพอันสวยงามของเมืองริมฝั่งทะเลให้เที่ยวชม
เกาะมูราโน่ เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
เกาะมูราโน่ (Murano) ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองเวนิส โดดเด่นด้วยอาคารบ้านเรือนหลากสีเรียงราย และโบราณสถานซึ่งสร้างด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่อย่างเช่น โบสถ์ หอนาฬิกา และพระราชวังเก่า อีกทั้งยังเป็นแหล่งผลิตเครื่องแก้วที่มีความวิจิตรบรรจงและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่นี่จึงเป็นแหล่งของช่างฝีมือเครื่องแก้วที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของโลก และเป็นศิลปาชีพท้องถิ่นที่สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านบนเกาะ รวมถึงยังเป็นอีกหนึ่งจุดขายในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวด้วยการจัดทัวร์ชมการผลิตเครื่องแก้วในโรงงานอย่างใกล้ชิด ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองเวนิสที่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้ชมกระบวนการผลิตเครื่องแก้ว และยังได้เที่ยวชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่บนเกาะที่มีประวัติศาสตร์หลายร้อยปีอีกด้วย
10 มุมสวยถ่ายภาพเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
เมืองเวนิส (Venice) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งสายน้ำและความโรแมนติก เพราะเป็นเมืองที่มีทัศนียภาพอันสวยงามของท้องทะเล และมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่มากมายให้เที่ยวชมและถ่ายภาพเป็นที่ระลึก โดยทาง Palanla.com ได้คัดสรรมุมสวยถ่ายภาพเมืองเวนิสรวมถึงแลนด์มาร์กต่างๆ มาฝากผู้ที่รักการเดินทางท่องเที่ยวและการถ่ายภาพไว้ดังต่อไปนี้
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
เมืองเวนิส (Venice / Venezia) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี (Italy) ในพื้นที่ของแคว้นเวเนโต (Veneto Region) ซึ่งเป็นแคว้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 8 ของประเทศอิตาลี แคว้นนี้มีเกาะเล็กเกาะน้อยภายในอาณาบริเวณอยู่ราวหนึ่งร้อยกว่าเกาะ โดยเมืองเวนิสนั้นเป็นเมืองเอกของแคว้นเวเนโตและยังเป็นเมืองที่คนทั่วโลกขนานนามว่าเป็น “เมืองแห่งสายน้ำและความโรแมนติก” เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่เป็นหมู่เกาะที่มีกระแสน้ำทะเลไหลเซาะเข้าไปในฝั่งจนเกิดเป็นคลองสีเขียวอมฟ้าขนาดใหญ่ใจกลางเมืองที่มีชื่อว่า “คลองแกรนด์คาแนล (Grand Canal)” ซึ่งเป็นคลองสายหลักที่ใช้สัญจรไปมาโดยเรือหลากหลายประเภทอย่างเช่น “Water-bus” ซึ่งเป็นเรือขนส่งสาธารณะหลักของเมือง และ “เรือกอนโดล่า (Gondola)” ซึ่งเป็นเรือท้องถิ่นประจำเมืองเวนิส ประกอบกับทิวทัศน์บริเวณสองฝั่งคลองที่เรียงรายด้วยอาคารและสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่หลายแห่ง เกิดเป็นทัศนียภาพอันสวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของวิถีชีวิตแห่งเวนิสที่สร้างความประทับใจให้กับเหล่านักท่องเที่ยวที่มาเยือน
เทศกาลเวนิสคาร์นิวัล เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
เวนิส คาร์นิวัล (Venice Carnival) เป็นเทศกาลระดับโลกที่จัดขึ้นทุกปีในเมืองเวนิส เป็นเทศกาลที่ผู้คนจากทั่วสารทิศจะสวมหน้ากากที่ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงและแต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองโบราณของชาวเวเนเชียนออกมาเดินพาเหรด เต้นรำเฉลิมฉลอง สนุกสนานเพลิดเพลินกับดนตรีสดบริเวณจัตุรัส และสถานที่สำคัญต่างๆ ภายในเมือง โดยเทศกาลนี้จะจัดขึ้นประมาณช่วงปลายเดือนมกราคมหรือต้นเดือนกุมภาพันธ์ และกินระยะเวลาประมาณสองสัปดาห์ และจะจบลงในวัน Shrove Tuesday ซึ่งเป็นวันฉลองก่อนถึงเทศกาลถือศีลอดของศาสนาคริสต์ โดยพื้นที่ยอดนิยมที่ผู้คนนิยมมารวมตัวกันคือบริเวณจัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โค เพราะเป็นมุมถ่ายรูปยอดนิยมที่เต็มไปด้วยแลนด์มาร์กโบราณสถานอันสวยงามประจำเมืองเวนิส
เกาะซานจิออร์จิโอแม็กจิออเร่ เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
เกาะซานจิออร์จิโอแม็กจิออเร่ (San Giorgio Maggiore) เป็นเกาะเล็กๆ ที่อยู่ทางตอนใต้ของเมืองเมืองเวนิส ตรงข้ามกับจตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โค โดดเด่นด้วยโบสถ์หินอ่อนเก่แก่สีขาวที่มีโดมขนาดใหญ่ด้านบน และหอระฆังความสูง 63 เมตรที่ด้านบนเป็นหอชมเมืองซึ่งสามารถชมทัศนียภาพอันสวยงามของเมืองเวนิส และเห็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองเวนิสได้หลายแห่ง อาทิเช่น หอระฆังซานมาร์โคและพระราชวังปาลัซโซ่ดูคาเลที่ตั้งอยู่ในฝั่งตรงข้าม อีกทั้งยังสามารถชมทิวทัศน์อันน่าประทับใจของท้องทะเลและหมู่เกาะต่างๆ ในบริเวณใกล้เคียงได้โดยรอบ เกาะนี้จึงเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กของเมืองเวนิสที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากอีกแห่งหนึ่ง
เกาะบูราโน่ เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
เกาะบูราโน่ (Burano) เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมงอันสงบสุข โดดเด่นด้วยอาคารบ้านเรือนสีสันสดใสเรียงรายอยู่บนเกาะ และหอเอียงแห่งบูราโน่ (Burano's Leaning Bell Tower) ซึ่งเป็นหอระฆังความสูง 53 เมตรที่มีความเอียงจากการทรุดตัวของพื้นดินด้านล่าง นอกจากทัศนียภาพอันสวยงามบนเกาะแล้ว ที่นี่ยังมีชื่อเสียงด้านงานหัตถศิลป์ในการถักทอผ้าลูกไม้ ซึ่งจัดเป็นศิลปาชีพท้องถิ่นของเกาะแห่งนี้ที่สร้างรายได้จำนวนมากให้กับชาวบ้าน โดยนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ผ้าลูกไม้เมอร์เล็ตโต (Museo del Merletto) ที่จัดแสดงความเป็นมาของการผลิตผ้า และยังมีร้านค้าและร้านขายของที่ระลึกให้ซื้อสินค้าติดมือกลับไปได้อีกด้วย นอกจากนี้ เนื่องด้วยเป็นหมู่บ้านชาวประมง ของขึ้นชื่อของที่นี่จึงเป็นความสดของปลาทะเลที่นักท่องเที่ยวสามารถลิ้มลองรสชาติได้จากร้านอาหารต่างๆ ที่อยู่บนเกาะ เกาะบูราโน่จึงเป็นหนึ่งในหมู่เกาะของเวนิสที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
คลองแกรนด์คาแนล เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
คลองแกรนด์คาแนล (Grand Canal / Canalazzo) เป็นคลองใหญ่ใจกลางเมืองเวนิส และยังเป็นเส้นทางคมนาคมสายหลักของเมืองอีกด้วย ในคลองแกรนด์คาแนลมีเรือสัญจรไปมามากมาย ทั้งเรือสาธารณะอย่าง Water-bus เรือแท็กซี่เฟอร์รี่ และ และเรือกอนโดล่าซึ่งเป็นเรือพายท้องถิ่นที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้บริการเพื่อที่จะได้ล่องเรือเที่ยวชมความสวยงามของทัศนียภาพสองฝั่งคลองอย่างใกล้ชิด บริเวณริมคลองสองฝั่งโดดเด่นด้วยอาคารบ้านเรือนที่มีความหลากหลายทางด้านสถาปัตยกรรมในยุคต่างๆ ด้วยเหตุนี้ คนทั่วโลกจึงมักจะนึกถึงภาพคลองแกรนด์คาแนลเป็นอันดับแรกเมื่อกล่าวถึงเมืองเวนิส เพราะเป็นภาพสะท้อนบรรยากาศและวิถีชีวิตของเมืองแห่งสายน้ำและความโรแมนติกที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเมืองแห่งนี้
พระราชวังปาลัซโซ่ดูคาเล เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
พระราชวังปาลัซโซ่ดูคาเล หรือพระราชวังโดจ (Palazzo Ducale / Doge's Palace) เป็นพระราชวังเก่าที่มีอายุราวหนึ่งพันปี ตั้งอยู่ในบริเวณของจัตุรัสซานมาร์โคที่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวแห่งเมืองเวนิส แต่เดิมพระราชวังแห่งนี้เป็นที่ประทับของเจ้าเมืองเวนิสที่เรียกว่า “โดจ (Doge)” และยังเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการในสมัยนั้นอีกด้วย ปัจจุบันที่นี่กลายเป็นเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้สาธารณะเข้าชม โดยตั้งแต่แรกสร้างจนถึงช่วงศตวรรษที่ 18 ได้มีการปรับโครงสร้าง เพิ่มอาคารส่วนต่อขยาย รวมถึงสร้างขึ้นใหม่อยู่หลายครั้ง ด้วยเหตุนี้ พระราชวังแห่งนี้จึงเป็นแลนด์มาร์กเชิงประวัติศาสตร์ทั้งในด้านสถาปัตยกรรมเก่าแก่ในรูปแบบผสมผสานทั้งแบบเวเนเชียน ไบเซนไทน์ เรเนซอง และโกธิก รวมถึงการตกแต่งภายในและภายนอกอันสวยงามทรงคุณค่าที่สะท้อนให้เห็นถึงศิลปะสมัยนิยมในยุคนั้น ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองเวนิสอีกแห่งหนึ่งที่ควรค่าต่อการเข้าชม
มหาวิหารซานมาร์โค และ พิพิธภัณฑ์ซานมาร์โค เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
มหาวิหารซานมาร์โค หรือ มหาวิหารเซนต์มาร์ค (Basilica di San Marco / St. Mark's Basilica) ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของจัตุรัสเปียซซาซานมาร์โค หรือ จตุรัสเซนต์มาร์ค (Piazza San Marco / St. Mark's Square) มหาวิหารแห่งนี้เป็นมหาวิหารประจำเมืองเวนิส ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานร่างของนักบุญซานมาร์โค หรือ นักบุญมาร์ค อัครสาวกของพระเยซูคริสต์ ที่นี่จึงเป็นมหาวิหารเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี เป็นศูนย์รวมใจของคริสตศาสนิกชน และเป็นแลนด์มาร์กที่มีสถาปัตยกรรมผสมผสานที่สวยงามล้ำค่า โดดเด่นด้วยรูปปั้นนักบุญมาร์คที่ด้านบนจั่วและสัญลักษณ์สิงโตทองมีปีก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเวนิส นอกจากนี้ยังมีส่วนของพิพิธภัณฑ์ซานมาร์โค หรือ พิพิธภัณฑ์เซนต์มาร์ค (Museo di San Marco / St. Mark’s Museum) ที่เก็บรักษาและจัดแสดงโบราณวัตถุ และศิลปะเชิงประวัติศาสตร์มากมายที่หาดูได้ยาก ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองเวนิสที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชม
พิพิธภัณฑ์ศิลปะเป็กกี้ กุกเกนไฮม์ คอลเลคชั่น เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
พิพิธภัณฑ์ศิลปะเป็กกี้ กุกเกนไฮม์ คอลเลคชั่น (Peggy Guggenheim Collection) ตั้งตามชื่อของเป็กกี้ กุกเกนไฮม์ (Peggy Guggenheim) บุคคลสำคัญผู้มีใจรักและให้การสนับสนุนในด้านผลงานศิลปะร่วมสมัยที่มีชีวิตอยู่ในช่วงค.ศ.1898 – ค.ศ.1979 พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้ตั้งอยู่ริมคลองแกรนด์คาแนลใกล้กับสะพานแอคคาเดเมีย (Ponte dell'Accademia) อาคารพิพิธภัณฑ์แต่เดิมคือพระราชวังเก่าปาลัซโซ่เวนิเยร์เดอีลีโอนี (Palazzo Venier dei Leoni) ที่เป็กกี้ได้ซื้อไว้ในปี ค.ศ. 1949 และปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายนอกและการตกแต่งภายในเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยและเปิดเป็นศูนย์จัดแสดงผลงานศิลปะชิ้นเอกต่างๆ ทั้งภาพเขียนและผลงานประติมากรรมมากมายที่ได้สะสมเอาไว้ เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีความสำคัญที่สุดของยุโรปอีกแห่งหนึ่งในยุคศตวรรษที่ 20 ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของเมืองเวนิสที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและผู้หลงใหลในผลงานศิลปะ
มหาวิหารซานตามารียา กลอริโอซา เดอี ฟรารี เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
มหาวิหารซานตามารียา กลอริโอซา เดอี ฟรารี (Basilica di Santa Maria Gloriosa dei Frari) มักเรียกสั้นๆ ว่าโบสถ์ฟรารี เป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมโกธิกแบบเรียบง่าย ตั้งอยู่บริเวณใกล้กับจัตุรัสแคมโปเดอีฟรารี (Campo dei Frari) ในพื้นที่ของเขตซานโปโล (San Polo) สถานที่แห่งนี้เป็น ศาสนสถานเชิงประวัติศาสตร์ที่มีอายุหลายร้อยปี ปัจจุบันเป็นทั้งโบสถ์นิกายโรมันคาทอลิก และสถานที่เก็บรักษาและจัดแสดงผลงานศิลปะสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคริสตศาสนาจำนวนหลายชิ้น โดยเฉพาะงานศิลปะที่เกี่ยวข้องกับพระแม่มารี ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจอีกแห่งหนึ่งในเมืองเวนิส
มหาวิหารซานตามารียา เดลล่า ซาลูเต เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
มหาวิหารซานตามารียา เดลล่า ซาลูเต (Basilica di Santa Maria della Salute / Basilica of Saint Mary of Health) มักเรียกกันสั้นๆ ว่าโบสถ์ซาลูเต เป็นโบสถ์เก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของเมืองเวนิส โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมบาโรกที่มีหลังคาโดมขนาดใหญ่ และมีรูปปั้นพระแม่มารีประดิษฐานอยู่ด้านบน มหาวิหารแห่งนี้เป็นดั่งศรัทธาของเมืองเวนิส เพราะสร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่พระแม่มารีที่ช่วยพิทักษ์รักษาเมืองเวนิสให้รอดพ้นจากโรคระบาดในช่วงศตวรรษที่ 16 มหาวิหารแห่งนี้จึงเป็นแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงประจำเมืองเวนิสอีกแห่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี อีกทั้งด้วยตำแหน่งที่ตั้งของมหาวิหารที่อยู่ริมชายฝั่งติดกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะปันตาเดลล่าโดกานา (Punta della Dogana) ซึ่งเป็นบริเวณที่คลองแกรนด์คาแนล (Grand Canal) และคลองจิวเดคก้า (Giudecca Canal) มาบรรจบกันที่อ่าวซันมาร์โก (San Marco Basin) เกิดเป็นความสวยงามทางธรรมชาติของสายน้ำที่มีเรือแล่นผ่านไปมาโดยมีฉากหลังเป็นมหาวิหารอันยิ่งใหญ่
สะพานบริดจ์ออฟไซส์ เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
สะพานบริดจ์ออฟไซส์ (Bridge of Sighs / Ponte dei Sospiri) เป็นสะพานประวัติศาสตร์ของเมืองเวนิส สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 16 เป็นสะพานหินโค้งเก่าแก่ที่มีลักษณะปิดทึบรอบด้าน ทอดข้ามคลองข้ามคลองริโอเดลปาลัซโซ่ (Rio del Palazzo)เชื่อมระหว่างพระราชวังปาลัซโซ่ดูคาเล่ (Palazzo Ducale) กับคุกที่อยู่อีกฟากของฝั่งคลอง ชื่อของสะพานมีความหมายว่า สะพานแห่งเสียงถอนหายใจ เพราะเมื่อนักโทษถูกพิจารณาคดีและนำตัวไปยังที่คุมขังจะต้องผ่านสะพานนี้เพื่อข้ามไปยังคุก ซึ่งนักโทษจะมองเห็นอิสรภาพของโลกภายนอกครั้งสุดท้ายได้จากช่องหน้าต่างเล็กๆ บนสะพานแห่งนี้ ซึ่งนำมาสู่ความเศร้าและเสียงถอนใจ จึงกลายเป็นชื่อเรียกของสะพานนับแต่นั้นมา ในปัจจุบัน สะพานบริดจ์ออฟไซส์และคุกกลายส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ในความดูแลของพระราชวัง และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ให้กับคนรุ่นหลังได้เที่ยวชมและศึกษา ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองเวนิสอีกแห่งหนึ่ง
การเดินทางโดยขนส่งสาธารณะในเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
การเดินทางมายังเมืองเวนิส (Venice) ที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี (Italy) นั้นสามารถมาได้ทั้งทางเครื่องบินและรถไฟ โดยทางเครื่องบินนิยมลงที่สนามบินเวนิสมาร์โคโปโล (Venice Marco Polo Airport) และต่อรถบัสเข้าไปยังตัวเมืองเวนิส สำหรับทางรถไฟจะเป็นการเดินทางจากเมืองต่างๆ ในยุโรป มาลงยังสถานีรถไฟเวเนเซียซานตาลูเซีย (Stazione di Venezia Santa Lucia) ซึ่งเป็นสถานีรถไฟหลักของเมืองเวนิสที่มีเส้นทางเดินรถเชื่อมต่อกับเมืองต่างๆ ในประเทศอิตาลี รวมถึงเมืองหลักต่างๆ ในประเทศแถบยุโรป
สะพานริอัลโต เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
สะพานริอัลโต (Ponte di Rialto / Rialto Bridge) เป็นสะพานหินซุ้มโค้งเก่าแก่ที่มีอายุหลายร้อยปี ทอดข้ามคลองแกรนด์คาแนล (Grand Canal) เชื่อมพื้นที่ระหว่างเขตซานมาร์โค (San Marco) และเขตซานโปโล (San Polo) เข้าไว้ด้วยกัน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของเมืองเวนิสที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือน เพราะเป็นแลนด์มาร์กที่ตั้งอยู่กลางแหล่งช้อปปิ้ง และเป็นจุดชมวิวคลองแกรนด์คาแนลบริเวณโค้งน้ำที่มีทัศนียภาพอันสวยงามอีกจุดหนึ่งของลำคลอง สะพานนี้จึงเป็นอีกหนึ่งในภาพจำของเมืองเวนิสที่คนทั่วโลกนึกถึง
โอลิมเปียปาร์ค เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
โอลิมเปียปาร์ค (Olympiapark) ตั้งอยู่ทางเหนือของเมืองมิวนิค บนพื้นที่ราว 3 ตารางกิโลเมตรที่มีสภาพเป็นเนินเขาสูงต่ำสลับกันไปซึ่งก่อให้เกิดทัศนียภาพอันสวยงามของเนินเขาสีเขียวที่ลาดโค้งขึ้นลงท่ามกลางต้นไม้และทะเลสาบ โดดเด่นด้วยโอลิมปิกสเตเดียม (Olympic Stadium) ซึ่งเป็นสนามฟุตบอลล้อมรอบด้วยอัฒจรรย์ขนาดใหญ่ที่มีหลังคาโครงเหล็กรูปทรงคล้ายเต็นท์หลายหลัง และหอชมเมืองโอลิมปิกทาวเวอร์ (Olympic Tower) ซึ่งจัดเป็นอีกสองแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงของเมืองมิวนิค เพราะที่นี่เคยใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปีค.ศ. 1972 มาก่อน ปัจจุบันเป็นทั้งสวนสาธารณะ ศูนย์กีฬา และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองและนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองมิวนิค
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองมิวนิคและพื้นที่ใกล้เคียง ประเทศเยอรมนี
เมืองมิวนิค (Munich ชื่อภาษาเยอรมันคือ München) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนี ในพื้นที่ของรัฐบาวาเรีย (The State of Bavaria) เป็นเมืองที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของประเทศเยอรมนี รองจากเมืองเบอร์ลิน (Berlin) และเมืองแฮมเบิร์ก (Hamburg) ทางด้านสภาพภูมิประเทศตั้งอยู่บนพื้นที่ราบสูงตอนเหนือของรัฐบาวาเรีย แม่น้ำสายหลักของเมืองคือแม่น้ำอีซาร์ (Isar River) ทางด้านสภาพภูมิอากาศในฤดูร้อนมีอากาศอบอุ่น แต่จะมีอากาศร้อนจัดในช่วงกลางปีที่มีฝนตกหนัก และในฤดูหนาวมีอากาศหนาวเย็น โดยจะหนาวที่สุดในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคมและมีหิมะตกในบางพื้นที่
หมู่บ้านโอเบอแรมเมอร์เกา เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
หมู่บ้านโอเบอแรมเมอร์เกา (Oberammergau Village) ตั้งอยู่ในเมืองโอเบอแรมเมอร์เกาบริเวณเทือกเขาแอมเมอร์เกาแอลป์ (Ammergau Alps) ห่างจากเมืองมิวนิคลงมาทางใต้ประมาณ 90 กิโลเมตร เป็นเมืองที่มีบรรยากาศทางธรรมชาติที่สวยงามของหุบเขา และยังเป็นหมู่บ้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยการตกแต่งผนังอาคารบ้านเรือนด้วยภาพเขียนทางศาสนา และวิถีชีวิตชนบท มีศิลปาชีพท้องถิ่นเป็นงานแกะสลักไม้ที่มีความสวยงามขึ้นชื่อ และเป็นสถานที่จัดแสดงอุปรากรระดับโลกที่ชื่อว่า The Passion Play ซึ่งเป็นอุปรากรที่ถ่ายทอดเรื่องราวทางศาสนาคริสต์ที่จะจัดขึ้นสิบปีต่อหนึ่งครั้ง โดยจะจัดขึ้นที่โรงละคร The Passion Play Theater ซึ่งมีผู้เข้าชมนับแสนคนจากทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ โอเบอร์แรมเมอร์เกาจึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กับเมืองมิวนิคที่ควรมาแวะชมสักครั้งเมื่อมาท่องเที่ยวในบริเวณนี้
ร้านอาหารแฮ็กซินเบาเวอร์ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
ร้านอาหารแฮ็กซินเบาเวอร์ (Haxnbauer Restaurant / Haxnbauer im Scholastikahaus) ตั้งอยู่ใกล้กับจัตุรัสมาเรียนปลาทซ์ เป็นร้านอาหารเก่าแก่ในเขตเมืองเก่าที่มีอายุนับร้อยปี ปัจจุบันเป็นหนึ่งในร้านอาหารชื่อดังของเมืองมิวนิคที่ได้รับความนิยมจากชาวมิวนิคและนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยอาหารขึ้นชื่อของที่นี่คือ Haxengrill เป็นขาหมูเยอรมันที่หมักด้วยเกลือและสมุนไพรสูตรพิเศษไว้ 24 ชั่วโมงก่อนนำไปย่างด้วยถ่านไม้บีช ขาหมูจึงมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์และมีรสชาติอร่อยแบบกรอบนอกนุ่มใน ด้วยเหตุนี้ร้านอาหารแฮ็กซินเบาเวอร์จึงเป็นร้านอาหารยอดนิยมในเมืองมิวนิคที่นักท่องเที่ยวควรลองไปชิมสักครั้งเมื่อไปเยือนเมืองมิวนิค
จัตุรัสมาเรียนปลาทซ์ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
จัตุรัสมาเรียนปลาทซ์ (Marienplatz) เป็นจุดแลนด์มาร์กอันยิ่งใหญ่ใจกลางเมืองมิวนิค โดดเด่นด้วยอนุเสาวรีย์พระแม่มารีทองคำความสูง 11 เมตรใจกลางจตุรัส และสถาปัตยกรรมโกธิกอันสวยงามและยิ่งใหญ่ของศาลากลางสองหลังทางด้านเหนือและด้านตะวันออก เป็นจตุรัสที่สะท้อนประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมือง และยังเป็นศูนย์กลางทางด้านการท่องเที่ยว ศาสนา และวัฒนธรรม เป็นสถานที่ที่สมเด็จพระสันตะปาปาเคยเสด็จมาเยือนถึงสามพระองค์ (สมเด็จพระสันตะปาปาปีโอที่ 6 ในปีค.ศ. 1782 สมเด็จพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ในปีค.ศ. 1980 และสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ในปีค.ศ. 2006) และยังเป็นสถานที่จัดตลาดคริสต์มาสประจำปี และเป็นที่เฉลิมฉลองวันครบรอบต่างๆ ของเมือง นอกจากนี้จัตุรัสมาเรียนปลาทซ์ยังเป็นสถานที่ฉลองแชมป์ของสโมสรฟุตบอลบาเยิร์นมิวนิคอีกด้วย ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงระดับโลกและเป็นหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองมิวนิค
มหาวิหารเฟราเอน เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
มหาวิหารเฟราเอน (Frauenkirche) เป็นโบสถ์นิกายโรมันคาทอลิก และเป็นโบสถ์คู่บ้านคู่เมืองของเมืองมิวนิคและรัฐบาวาเรีย โดดเด่นด้วยหอคอยคู่ที่มีโดมทรงหัวหอมอยู่ที่ด้านบน เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กของเมืองมิวนิคที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนในย่านเมืองเก่า โดยเฉพาะบริเวณจัตุรัสมาเรียนปลาทซ์ที่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของเมืองมิวนิค ด้านในมหาวิหารตกแต่งอย่างเรียบง่าย บริเวณหอคอยทิศใต้นั้นเป็นหอชมเมืองความสูงราว 99 เมตรที่สามารถมองเห็นภาพมุมกว้างของเมืองมิวนิคอันน่าประทับใจ และสามารถมองเห็นเทือกเขาแอลป์ที่อยู่กลออกไปทางทิศใต้ได้อีกด้วย ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเมื่อมาเยือนเมืองมิวนิค
พิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยู เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
พิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยู (BMW Museum) และอาคารบีเอ็มดับเบิลยูเวลท์ (BMW Welt) ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโอลิมเปียปาร์ค ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยูเป็นอาคารทรงกลมสีเงินซึ่งเรียกกันว่าพิพิธภัณฑ์ทรงถ้วย (the museum bowl) ส่วนอาคารบีเอ็มดับเบิลยูเวลท์มีความโดดเด่นด้วยอาคารทรงนาฬิกาทรายที่ตกแต่งด้วยกระจกรูปทรงเรขาคณิต ทั้งสองอาคารอยู่ใกล้กับสำนักงานใหญ่ของบีเอ็มดับเบิลยูกรุ๊ป จัดเป็นสองแลนด์มาร์กอีกแห่งหนึ่งของเมืองมิวนิคที่นักท่องเที่ยวและผู้ที่ชื่นชอบด้านยานยนต์ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ด้านในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงข้อมูลและยานยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน มีรอบเข้าชมที่มีบรรยายภาษาอังกฤษและภาษาเยอรมันให้เลือกได้ตามต้องการ ผู้เข้าชมจะได้เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกว่าทำไมแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยูถึงเป็น หนึ่งในแบรนด์รถยนต์ชั้นนำของโลก นอกจากในส่วนของพิพิธภัณฑ์แล้ว ในละแวกเดียวกันยังเป็นพื้นที่ของบีเอ็มดับเบิลยูสำนักงานใหญ่ (BMW Headquarter) และฐานการผลิต BMW Group Plant อีกด้วย ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองมิวนิคที่ไม่ควรพลาดชม
พระราชวังลินเดอร์ฮอฟ และสวนลินเดอร์ฮอฟ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
พระราชวังลินเดอร์ฮอฟ และสวนลินเดอร์ฮอฟ (Linderhof Palace and Park) ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ทางตอนใต้ของรัฐบาวาเรีย (Bavaria) ไม่ไกลจากเมืองมิวนิค มีความสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมร็อคโคโค ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากพระราชวังแวร์ซายน์ในประเทศฝรั่งเศส ในส่วนของสวนก็ได้จำลองมาจากสวนของแวร์ซายน์เช่นกัน พระราชวังแห่งนี้ยังเป็นหนึ่งในปราสาทของกษัตริย์ลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย (Ludwig II of Bavaria) ที่มีความสวยงามจนกลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กใกล้กับปราสาทนอยชวานสไตน์ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองมิวนิค
พระราชวังมิวนิคเรสซิเดนซ์ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
พระราชวังมิวนิคเรสซิเดนซ์ (Munich Residence / Residenz München) ตั้งใจอยู่ใจกลางเมืองมิวนิค แต่เดิมนั้นเป็นเขตพระราชฐานของราชอาณาจักรบาวาเรียและรัฐสภาบาวาเรียในช่วงปีค.ศ. 1508 ถึง ค.ศ.1918 ปัจจุบันเป็นพระราชวังเก่าและพิพิธภัณฑ์หลวงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ศิลปะการตกแต่งภายในอันวิจิตรบรรจง และของสะสมโบราณของราชวงศ์ที่เคยครองอาณาจักรบาวาเรีย โดยพระราชวังประกอบด้วยสนามหญ้า 10 สนาม และห้องจัดแสดงอีกจำนวน 130 ห้อง ในทุกรายละเอียดภายในได้สะท้อนให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ และศิลปะวัฒนธรรมอันงดงามและล้ำค่าของอาณาจักรบาวาเรียที่ครั้งหนึ่งเคยรุ่งโรจน์มาก่อนในประวัติศาสตร์ของเยอรมนี ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดชมเมื่อมาเยือนเมืองมิวนิค
พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก และสวนนิมเฟนเบิร์ก เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก และสวนนิมเฟนเบิร์ก (Nymphenburg Palace and Park) ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองมิวนิค แต่เดิมเป็นพระราชวังฤดูร้อนของราชวงศ์บาวาเรียมาหลายศตวรรษ ภายในแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ บริเวณพระราชวังและพิพิธภัณฑ์ (Nymphenburg Palace with Marstallmuseum) พิพิธภัณฑ์เครื่องลายคราม (Nymphenburg Porcelain Museum) และบริเวณสวนของพระราชวัง (Nymphenburg Park Pavilions) ตัวพระราชวังและสวนได้รับการออกแบบและตกแต่งแบบผสมผสานในสไตล์ฝรั่งเศสและอังกฤษ จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในศูนย์รวมแบบอย่างงานศิลป์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป จึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กยอดนิยมของเมืองมิวนิคที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชม
ปราสาทนอยชวานสไตน์ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) ตั้งอยู่บนหน้าผาความสูง 200 เมตรเหนือพื้นหุบเขาบนเทือกเขาแอลป์ที่อยู่บริเวณตอนใต้ของประเทศเยอรมนีใกล้กับเมืองมิวนิค เป็นพระราชวังของกษัตริย์ลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย (King Ludwig II of Bavaria) ตัวปราสาทสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมฟื้นฟูโรมาเนสก์ (Romanesque Revival architecture) ซึ่งมีความสวยงามโอ่อ่าอลังการในแบบสถาปัตยกรรมในยุคกลาง และถอดแบบความงดงามที่บรรยายไว้ในบทประพันธ์จากอุปรากรเรื่องอัศวินหงส์ (The Swan Knight) ของริชาร์ด วากเนอร์ (Richard Wagner) คีตกวีเอกชาวเยอรมันในยุคนั้น และยังเป็นคีตกวีเอกคนโปรดของกษัตริย์ลุดวิกที่ 2 อีกด้วย ความสวยงามของปราสาทแห่งนี้ยังได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับวอลท์ ดิสนีย์ (Walt Disney) นำไปเป็นต้นแบบปราสาทของเจ้าหญิงนิทรา (Sleeping Beauty Castle) ที่ดิสนีย์แลนด์อีกด้วย ด้วยเหตุนี้ปราสาทนอยชวานสไตน์จึงถูกขนานนามว่าเป็นปราสาทแห่งเทพนิยายนับแต่นั้นมา ที่นี่จึงจัดเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญที่มีชื่อเสียงอันโด่งดัง ซึ่งนักท่องเที่ยวแทบทุกคนที่มาเยือนเมืองมิวนิคมักจะต้องแวะมาเที่ยวชมปราสาทแห่งนี้
การเดินทางโดยขนส่งสาธารณะ และยานพาหนะประเภทต่างๆ ในเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
ขนส่งสาธารณะในเมืองมิวนิคมีเส้นทางที่ครอบคลุมทั้งเมือง โดยมีทั้งรถไฟฟ้า (S-Bahn) และรถไฟใต้ดิน (U-Bahn) ของบริษัท DB ที่เป็นรถไฟสายหลักของประเทศเยอรมนี และยังมีรถราง (tram) และรถประจำทาง (bus) ของบริษัท MVG ซึ่งเป็นบริษัทเดินรถท้องถิ่นในเมืองมิวนิค
โบสถ์เซนต์ไมเคิล เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
โบสถ์เซนต์ไมเคิล (St. Michael Kirche) ตั้งอยู่ในย่านจัตุรัสคาร์ลปลาทซ์และจตุรัสมาเรียนปลาทซ์ แต่เดิมเป็นโบสถ์พระเยซูอิตซึ่งเป็นนิกายเก่าแก่นิกายหนึ่งของศาสนาคริสต์ ปัจจุบันเป็นโบสถ์คาทอลิค โบสถ์เซนต์ไมเคิลเป็นโบสถ์ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมเรเนซองที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่ของเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือ และเป็นโบสถ์ที่มีอิทธิพลทางด้านสถาปัตยกรรมในสมัยนั้นในการนำไปต่อยอดสร้างโบสถ์ต่างๆ ด้วยสถาปัตยกรรมบาโรกในพื้นที่ของเยอรมนีใต้ ภายในตกแต่งอย่างสวยงาม โดดเด่นด้วยไม้กางเขนขนาดใหญ่ และแท่นบูชาสูง จึงเป็นอีกหนึ่งศาสนสถานที่ควรแวะเที่ยวชมความสวยงามเมื่อไปเที่ยวเมืองมิวนิค
ตลาดวิคทัวเลียน เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
ตลาดวิคทัวเลียน (Viktualienmarkt) เป็นตลาดเก่าที่เปิดมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ตั้งอยู่ใกล้กับจัตุรัสมาเรียนปลาทซ์ ปัจจุบันเป็นตลาดสดที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองมิวนิค เพราะมีทุกอย่างให้เลือกสรร ทั้งสินค้าท้องถิ่นและสินค้านำเข้า บนพื้นที่ราว 22,000 ตารางเมตร มีแผงและร้านค้าประมาณร้อยกว่าร้าน โดยมีสินค้าวางจำหน่ายมากมาย อย่างเช่น ผัก ผลไม้ ดอกไม้ พันธุ์พืช เนื้อสัตว์ประเภทต่างๆ ไข่ เนย น้ำผึ้ง อาหารแปรรูป สมุนไพร เครื่องเทศ ไวน์ และชา นอกจากนี้ที่นี่ยังสะท้อนวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชาวมิวนิคด้วยสัญลักษณ์เสาเต้นรำเก่าแก่ ที่เรียกว่า Maibaum หรือในภาษาอังกฤษเรียกว่า Maypole ซึ่งเป็นเสาที่ใช้ตั้งในวันที่ 1 พฤษภาคม เพื่อเต้นรำเฉลิมฉลองวันแรงงาน (May Day) ซึ่งเป็นประเพณีดั้งเดิมและเก่าแก่ของประเทศแถบยุโรป
จัตุรัสคาร์ลสปลาทซ์ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
จัตุรัสคาร์ลสปลาทซ์ (Karlsplatz) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมิวนิค เป็นหนึ่งในจัตุรัสที่มีชื่อเสียงของเมืองอีกแห่งหนึ่ง บริเวณจัตุรัสมีลานน้ำพุที่มักใช้เป็นจุดนัดพบ และมีจุดแลนด์มาร์กเก่าแก่คือประตูเมืองเก่าที่มีชื่อว่าประตูเมืองคาร์ลสเตอร์ (Karlstor Gate) ซึ่งเป็นหนึ่งในสามประตูเมืองเก่าที่ยังคงหลงเหลืออยู่บริเวณกำแพงเมืองมิวนิคที่ถูกรื้อไปในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 นอกจากนี้ จัตุรัสคาร์ลสปลาทซ์ยังเป็นย่านถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมือง และยังทอดยาวเชื่อมต่อไปยังจตุรัสมาเรียนปลาทซ์ที่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของเมืองมิวนิคอีกด้วย ด้วยเหตุนี้จัตุรัสคาร์ลปลาทซ์จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองมิวนิค
เดอะร็อคส์ เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
เมื่อมาเยือนซิดนีย์แล้ว สถานที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดคือ เดอะร็อคส์ (The Rocks) เดอะร็อคส์ หรือที่มักรู้จักกันในนามของย่านอุตสาหกรรมเก่า ซึ่งตั้งอยู่บนถนน จอร์จ (Greoge) ทางด้านทิศตะวันตกของเซอร์คูลาร์คีย์ (Circular Quay) ย่านนี้เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะได้ดื่มด่ำไปกับร่องรอยทางประวัติศาสตร์ในยุคอาณานิคมของประเทศออสเตรเลีย ซึ่งไม่เพียงแต่อาคารเก่าแก่ เพราะที่เดอะร็อคส์ยังมีทั้งพิพิธภัณฑ์ ภัตตาคาร ร้านอาหาร คาเฟ่มากกว่า 50 แห่ง รวมถึงผับที่เก่าแก่ที่สุดในซิดนีย์อีกด้วย
เปียซซาเดลลาซิญญอเรีย เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
เปียซซาเดลลาซิญญอเรีย (Piazza della Signoria) จัตุรัสกลางเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ที่ล้อมรอบด้วยอาคารสถาปัตยกรรมยุคเรอเนสซองส์และประติมากรรมเอกของโลกอย่าง David (จำลอง) น้ำพุเนปจูน (Fountain of Neptune) และหอศิลป์กลางแจ้ง Loggia dei Lanzi ซึ่งผลงานแต่ละชิ้นบ่งบอกถึงประวัติศาสตร์การเมืองและการฟื้นฟูศิลปวิทยาการของทวีปยุโรปได้เป็นอย่างดี เมืองฟลอเรนซ์จึงได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1982
ไวท์ วอเตอร์ เวิลด์ เมืองโกลด์โคสต์ ประเทศออสเตรเลีย
ไวท์ วอเตอร์ เวิลด์ (White Water World) เป็นสวนน้ำที่อยู่เชื่อมต่อกันกับสวนสนุกดรีมเวิลด์ (Dream World) ที่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นสุดตื่นเต้นที่ระทึกใจยิ่งกว่าที่ใดในออสเตรเลีย ไม่ว่าจะเป็นสไลเดอร์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย พร้อมทั้งโรลเลอร์โคสเตอร์น้ำด้วย สวนน้ำไวท์ วอเตอร์ เวิลด์ เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปีค.ศ.2006 นับตั้งแต่นั้นมาสวนน้ำแห่งนี้ก็กลายเป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งครอบครัว ที่สวนน้ำมีหอคอยสไลเดอร์หลักอยู่ 3 แห่งซึ่งเป็นที่รวมเครื่องเล่นหลัก โดยแต่ละแห่งก็จะแบ่งกลุ่มตามระดับความตื่นเต้น
8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองโกลด์โคสต์ ประเทศออสเตรเลีย
โกลด์โคสต์เป็นเมืองชายฝั่ง ในรัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งมีอาณาบริเวณครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 70 กิโลเมตรจากแนวชายฝั่ง เมืองแห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในซีกโลกใต้ และที่สำคัญคือโกลด์โคสต์เป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของออสเตรเลีย เมืองที่เสียงคลื่นไม่เคยหลับไหลและเต็มไปด้วยสีสันแห่งนี้จึงมีกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่จะสร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน
วอเนอร์ บราเธอร์ มูฟวี่เวิลด์ เมืองโกลด์โคสต์ ประเทศออสเตรเลีย
วอร์เนอร์ บราเธอร์ มูฟวี่เวิลด์ (Warner Bros. Movie World) เป็นสวนสนุกที่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นน่าตื่นตาตื่นใจ มีการแสดงโลดโผน และแน่นอนคือเหล่าดาราในภาพยนตร์การ์ตูนและซุปเปอร์ฮีโร่ที่แต่งตัวเหมือนในภาพยนตร์และตัวละครในการ์ตูนที่เดินตะลอนไปทั่วสวนสนุกและมอบการแสดงตลอดทั้งวัน ซึ่งไม่เพียงแต่เครื่องเล่นชวนตื่นเต้นหวาดเสียวสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น สำหรับเด็กก็มีเครื่องเล่นโรลเลอร์โคสเตอร์ Road Runner ที่เหมาะสำหรับทั้งครอบครัวให้ได้สนุกด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ สิ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลยก็คือ การถ่ายภาพกับเหล่าตัวเอกของ Looney Tunes ซึ่งเป็นกิจกรรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยวเมื่อมาเที่ยวที่นี่ นอกจากนี้ ที่วอเนอร์ บราเธอร์ มูฟวี่เวิลด์ยังเป็นที่ที่นักท่องเที่ยวจะได้ชม Hollywood Stunt Driver ซึ่งเป็นการซ้อมการไล่ล่าด้วยรถยนต์ในภาพยนตร์แอ๊คชั่นที่จัดขึ้นทุกวันอีกด้วย
เกาะค็อกคาทู เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
เกาะค็อกคาทู (Cockatoo Island) เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ใจกลางอ่าวซิดนีย์และเป็นเกาะที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 2010 เกาะแห่งนี้จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางประวัติศาสตร์จากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
บรอดบีช และสวนสาธารณะคูร์ราวา เมืองโกลด์โคสต์ ประเทศออสเตรเลีย
บรอดบีช และสวนสาธารณะคูร์ราวา (Broadbeach & Kurrawa Park) เป็นพื้นที่สาธารณะชายฝั่งใจกลางเขตบรอดบีช เมืองโกลด์โคสต์ ชื่อของชายหาดแห่งนี้อาจไม่ได้คุ้นหูนักท่องเที่ยวทั่วไปนัก แต่เป็นหาดที่คนท้องถิ่นและนักเล่นกระดานโต้คลื่นนิยมมา เนื่องจากเป็นชายหาดที่กว้างขวาง มีเกลียวคลื่นที่พอเหมาะ และน้ำทะเลใสสะอาด เหมาะสำหรับการเล่นกีฬาทางน้ำ เอนกายอาบแดดสบายๆ หรือปั่นจักรยานบนถนนทางเท้าเลียบหาดคูร์ราวาไปพร้อมๆ กับชมทัศนียภาพอันงดงามโดยรอบทะเลโกลด์โคสต์ก็ได้เช่นกัน
เซอร์คูลาร์คีย์ เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
เซอร์คูลาร์คีย์ (Circular Quay) เป็นศูนย์กลางการเดินทางด้วยเรือของซิดนีย์ รวมถึงยังเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟ Circular Quay Station และยังเป็นจุดเปลี่ยนรถประจำทางที่จอแจที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง ซึ่งหากนักท่องเที่ยวเดินทางเพื่อที่จะมาเที่ยวโอเปร่าเฮ้าส์ด้วยรถไฟก็จะต้องลงที่สถานีนี้ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้ที่สุดนั่นเอง
สวนสนุกดรีมเวิลด์ เมืองโกลด์โคสต์ ประเทศออสเตรเลีย
สวนสนุกดรีมเวิล์ด (Dream World) สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลียที่มีทุกสิ่งทุกอย่างที่น่าตื่นเต้น เป็นศูนย์รวมของเครื่องเล่นระดับคุณภาพนานาประเภท ตั้งแต่ระดับเบสิกอย่างม้าหมุน ไปจนถึงรถซูเปอร์คาร์ V8 รุ่นลายคราม เครื่องเล่นผาดโผนอย่างรถไฟเหาะ รวมถึงตัวละครต่างๆ ในทีวี นอกจากนี้ พื้นที่ส่วนอื่นๆ ของสวนสนุกดรีมเวิลด์ยังเต็มไปด้วยเครื่องเล่นและกิจกรรมสนุกๆ อีกมากมายสำหรับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย และมีร้านค้าน่าสนใจที่กระจายตัวอยู่ทั่วสวนสนุก
อาคารธนารักษ์ เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย
อาคารธนารักษ์ (Treasury Building) เป็นอาคารที่มีสถาปัตยกรรมสวยงาม สร้างในรูปแบบอิตาเลียนยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ และยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกแห่งรัฐควีนส์แลนด์ ปัจจุบันอาคารแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันในนาม Treasury Building Casino ปัจจุบัน อาคารแห่งนี้ครอบครองโดย Treasury Casino ซึ่งเป็นของ Star Entertainment Group ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเยี่ยมชมภายในได้ ซึ่งนอกจากจะเป็นคาสิโนแล้วยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายอาทิ ศูนย์ออกกำลังกาย, ซาวน่า, บริการนวด, ความบันเทิงยามเย็น, ร้านค้า, ร้านอาหารชั้นเยี่ยม, ฟิตเนส, การแสดงดนตรีสด, การถ่ายทอดสดกีฬา รวมถึงไนต์คลับดีเจ
สถานีรถไฟกลาง (เซ็นทรัล สเตชั่น) เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
สถานีรถไฟกลาง หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าเซ็นทรัล สเตชั่น (Central Station) เป็นสถานีรถไฟที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของย่านธุรกิจกลางซิดนีย์ นับเป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดและคึกคักที่สุดในนิวเซาธ์เวลส์ (New South Wales) และที่นี่ยังทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อการคมนาคมขนส่งที่สำคัญสำหรับรถไฟในซิดนีย์และเมืองต่างๆ ของรัฐนิวเซาธ์เวลส์
สวนพฤกษศาสตร์บริสเบน เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย
สวนพฤกษศาสตร์บริสเบน (The Brisbane Botanic Gardens) ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา Mount Coot-tha มีพื้นครอบคลุมพื้นที่ 350 ไร่ สวนแห่งนี้สร้างขึ้นขณะที่สภาเมืองบริสเบนตัดสินใจปรับปรุงต่อเติมสวนพฤกษศาสตร์ของเมืองให้มีขนาดกว้างขึ้นรวมทั้งง่ายต่อการขยายขนาดในอนาคต สวนอันกว้างขวางแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนปอดขนาดใหญ่ของเมืองบริสเบนที่ผู้คนรักใคร่ แวะเวียนมาพักผ่อน ทำกิจกรรมบนพื้นที่สีเขียวอันร่มรื่นและหลากหลายไปด้วยพืชพันธุ์แห่งนี้อยู่เสมอๆ
ศูนย์อนุรักษ์โคอาลาโลนไพน์ เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย
บริสเบน ศูนย์อนุรักษ์โคอาล่า, ศูนย์อนุรักษ์โคอาลาแห่งแรก, ศูนย์อนุรักษ์โคอาลาใหญ่ที่สุดในโลก, บริสเบนแลนด์มาร์ก, เที่ยวบริสเบน, เที่ยวควีนส์แลนด์, เที่ยวออสเตรเลีย
สกายบัส บริการรถรับส่งจากสนามบิน – ตัวเมืองโกลด์โคสต์ ประเทศออสเตรเลีย
Sky Bus คือรถชัตเทิลบัสบริการรับส่งจากสนามบินโกลด์โคสต์ไปยังโรงแรมที่พัก สถานที่ท่องเที่ยวจุดต่างๆ ที่ได้รับความนิยมในเมืองโกลด์โคสต์ (Airport Transfer) และสวนสนุกต่างๆ (Theme Park Transfers) โดยรถสกายบัสนี้มีให้บริการทุกวัน ทุกเที่ยวบิน บนรถยังมีการอำนวยความสะดวกสบายแก่นักท่องเที่ยวด้วยการเชื่อมต่อ WiFi ฟรี และมีพื้นที่วางสัมภาระสำหรับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่เพียงพอและสะดวกสบาย
ศูนย์การค้าควีนสตรีทมอลล์ เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย
ศูนย์การค้าควีนสตรีทมอลล์ (Queen Street Mall) เป็นห้างสรรพสินค้าที่ตั้งอยู่บนถนนควีนส์ในใจกลางเมืองบริสเบน ซึ่งประกอบด้วยศูนย์การค้าหลักถึง 6 แห่งและมีร้านค้าปลีกกว่า 700 ร้าน ศูนย์การค้าแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นหัวใจหลักของเมืองบริสเบรน เนื่องจากเป็นสถานที่ที่เป็นศูนย์รวมของทุกสิ่งอย่างที่ผู้คนต้องการ ทั้งการช้อปปิ้ง กิน ดื่ม เที่ยว และยังเป็นสถานที่นัดพบปะสังสรรค์ยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมือง
ศาลาว่าการนครบริสเบน เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย
ศาลาว่าการนครบริสเบน (Brisbane City Hall) สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1920 ศาลาว่าการนครบริสเบนแห่งนี้ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในมรดกแห่งชาติของประเทศออสเตรเลียและยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์บริสเบน (Brisbane) อีกด้วย ภายในอาคารศาลาว่าการเมืองบริสเบน เป็นห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีบันไดหินอ่อนงดงาม พื้นปูด้วยกระเบื้องโมเสก และบนเพดานตกแต่งอย่างวิจิตรด้วยโคมไฟระย้าแบบโบราณ ส่วนที่เป็นหอประชุมหลักนั้นเป็นพื้นที่สำหรับจัดการแสดงคอนเสิร์ตอยู่บ่อยครั้ง และภายในหอประชุมนี้เองที่เป็นที่อยู่ของเครื่องออร์แกนฟาเธอร์ เฮนรี วิลลิส (Father Henry Willis) ขนาดมหึมาที่สร้างขึ้นในปีค.ศ.1892 ผนังมีการตกแต่งด้วยศิลปะปูนปลาสเตอร์ที่งดงา
โรมา สตรีท พาร์คแลนด์ เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย
โรมา สตรีท พาร์คแลนด์ (Roma Street Parkland) เป็นสวนสาธารณะใจกลางเมืองบริสเบน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 100 ไร่ ในอดีตสวนสาธารณะแห่งนี้เคยทำหน้าที่เป็นอู่จอดรถไฟหลักของเมือง ปัจจุบันพื้นที่แห่งนี้คือปอดผืนใหญ่ของเมืองบริสเบน
เดอะวีล ออฟ บริสเบน เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย
เมื่อมาเที่ยวบริสเบน สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดคือการลองสัมผัสประสบการณ์ขึ้นชิงช้าสวรรค์ซึ่งมีชื่อเรียกว่า เดอะวีลออฟบริสเบน ( The Wheel of Brisbane) ที่เซาธ์แบงค์ เพื่อชมทัศนียภาพอันสวยงามและน่าประทับใจของเมืองบริสเบนแบบพานาโรมาที่ความสูง 60 เมตรจากพื้นดิน
จุดชมวิวเมาท์คูตทา เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย
จุดชมวิวเมาท์คูตทา (Mount Coot-tha Lookout) ตั้งอยู่ในพื้นที่เส้นทางชมธรรมชาติเซอร์ ซามูเอล กริฟฟิธไดรฟ์ (Sir Samuel Griffith Drive) ซึ่งมีความสูง 287 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับชมวิวมุมสูงของตัวเมืองบริสเบน โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองบริสเบนไปทางด้านทิศตะวันตกประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นสถานที่ที่ ได้รับความนิยมมากสำหรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะการชมวิวตัวเมืองบริสเบนในยามค่ำคืน จนมีคำพูดที่ว่า "ใครมาบริสเบนแล้ว ไม่ได้มา Mt Coot-tha ก็เหมือนมาไม่ถึง"
จัตุรัสกษัตริย์จอร์จ เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย
จัตุรัสกษัตริย์จอร์จ (King George Square) เป็นจัตุรัสสาธารณะซึ่งเป็นชื่อที่ชาวบริสเบรนและนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวบริสเบนจะต้องคุ้นหูกับชื่อนี้อย่างแน่นอน เนื่องจากจัตุรัสแห่งนี้เป็นศูนย์รวมของกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งยังเป็นจุดนัดหมายที่สำคัญอีกจุดหนึ่งของเมืองบริสเบนด้วยเช่นกัน
8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี
เมืองแฟรงค์เฟิร์ต (Frankfurt มีชื่อทางการว่า Frankfurt am Main) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับห้าของประเทศเยอรมนี แฟรงค์เฟิร์ตตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศ มีแม่น้ำไมน์ (Main River) เป็นแม่น้ำสายหลักไหลผ่านกลางตัวเมือง มีประชากรประมาณ 5.5 ล้านคน
ศูนย์การค้ามายเซล เมืองแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี
ศูนย์การค้ามายเซล (MyZeil Shopping Center) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองแฟรงค์เฟิร์ตใกล้กับย่านฮอพวอช เป็นศูนย์รวมร้านค้าแบรนด์ดังมากมาย และเป็นหนึ่งในศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศเยอรมนี โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ดูล้ำสมัยด้วยสถาปัตยกรรมยุคใหม่ที่ผสมผสานการตกแต่งด้วยแผ่นกระจกที่มีขนาดแตกต่างกันมาประกอบเข้าด้วยกันทั้งบริเวณส่วนหลังคาและผนัง เพื่อเน้นความโปร่งใสและให้ความรู้สึกมีมิติ เมื่อมองจากด้านนอกห้าง บริเวณด้านบนจะมีรูปร่างเหมือนอวกาศที่มีคลื่นหมุนวนอยู่ การตกแต่งด้านในยังโดดเด่นด้วยเสากระจกขนาดใหญ่บริเวณตรงกลางห้าง ซึ่งนอกจากมีความสวยงามแปลกตาแล้ว ยังให้แสงสว่างจากด้านนอกเข้าสู่ด้านในตัวอาคารได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้จุดขายอีกอย่างของที่นี่คือ บันไดเลื่อนความยาว 42 เมตร จากชั้นล่าง (ชั้น Ground) ไปสู่ชั้นสี่ ด้วยความเร็วประมาณ 120 วินาที ซึ่งนอกจากเป็นบันไดเลื่อนด่วนแล้ว ยังจัดเป็นบันไดเลื่อนภายในอาคารที่มีความยาวที่สุดในยุโรปอีกด้วย ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวและแลนด์มาร์กที่ได้รับความนิยมเมื่อมาเที่ยวเมืองแฟรงค์เฟิร์ต
สะพานเหล็กไอเซิร์นเนอร์เสต็ก เมืองแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี
สะพานเหล็กไอเซิร์นเนอร์เสต็ก (Eiserner Steg / Iron Bridge) เป็นสะพานคนเดินอันเก่าแก่ของเมืองแฟรงค์เฟิร์ตที่ทอดข้ามแม่น้ำไมน์ (Main River) เชื่อมพื้นที่ระหว่างบริเวณศูนย์กลางเมืองและพื้นที่ริมแม่น้ำฝั่งใต้เข้าไว้ด้วยกัน ตัวสะพานทำจากโครงเหล็กสีเขียวเข้ม ทางเดินปูด้วยคอนกรีต ที่นี่นอกจากจะเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของเมืองเพราะมีทัศนีภาพอันสวยงามบริเวณริมฝั่งแม่น้ำแล้ว แต่ยังเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมในการคล้องกุญแจแห่งความรักที่บริเวณรั้วด้านข้างของสะพานอีกด้วย
สถานีรถไฟกลางแฟรงค์เฟิร์ต เมืองแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี
สถานีรถไฟกลางแฟรงค์เฟิร์ต (Frankfurt (Main) Hauptbahnhof / Frankfurt Central Station) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองแฟรงค์เฟิร์ต เป็นสถานีรถไฟที่มีความทันสมัย มีร้านค้า และร้านอาหารมากมาย รวมถึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างเช่น ที่จอดรถ เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว บริการตู้ล็อคเกอร์ฝากกระเป๋า เคาน์เตอร์แลกเงิน ศูนย์รับแจ้งคืนของหาย ห้องน้ำ อินเตอร์เน็ต ตู้เอทีเอ็ม และตู้โทรศัพท์สาธารณะ เป็นหนึ่งในสถานีรถไฟที่สำคัญที่สุดและพลุกพล่านที่สุดในประเทศเยอรมนี มีรถไฟเป็นพันสายวิ่งเข้าออกทุกวัน มีทั้งสายที่ให้บริการในเมืองแฟรงค์เฟิร์ต และสายที่วิ่งไปยังประเทศต่างๆ มีนักท่องเที่ยวมากกว่าสามแสนต่อคนคนเดินทางผ่านสถานีรถไฟแห่งนี้ นอกจากนี้ยังมีบริการรถไฟด่วน ICE เชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟกลางแฟรงค์เฟิร์ตและสนามบินแฟรงค์เฟิร์ต และมีเส้นทางที่วิ่งไปยังเมืองต่างๆ ในเยอรมนีอย่างเช่นเมืองเบอร์ลิน และเส้นทางต่างประเทศอย่างเช่น กรุงโคเปนเฮเกนในเดนมาร์ก กรุงอัมสเตอร์ดัมในเนเธอร์แลนด์ และกรุงปรากในสาธารณรัฐเช็กอีกด้วย
ศาลากลางโรเมอร์ เมืองแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี
ศาลากลางโรเมอร์ (Romer City Hall) เป็นบ้านหลังใหญ่ที่สร้างขึ้นในสมัยยุคกลาง และทางสภาเทศบาลเมืองได้ทำการซื้อต่อจากเจ้าของเดิมมาเพื่อใช้เป็นศาลากลางประจำเมือง ต่อมาได้มีการสร้างอาคารที่มีสถาปัตยกรรมแบบเดียวกันขึ้นอีกหลายหลังในละแวกนั้น ปัจจุบันเรียกว่าย่าน Romerberg เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด และยังเป็นสถานที่จัดตลาดคริสต์มาสและงานประจำปีอื่นๆ ของเมืองแฟรงค์เฟิร์ต
ย่านฮอพวอช เมืองแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี
ฮอพวอช (Hauptwache) เป็นชื่อป้อมปราการเก่าแก่ของเมืองแฟรงค์เฟิร์ตที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 17 แต่ปัจจุบันกลายเป็นแลนด์มาร์กใจกลางเมือง แฟรงค์เฟิร์ตเคียงคู่กับโบสถ์เซนต์แคทเธอรีน (St. Catherine's Church) พื้นที่บริเวณนี้ถูกเรียกว่าย่านฮอพวอช โดยเรียกตามชื่อของป้อมปราการแห่งนี้นั่นเองสถานที่เชิงประวัติศาสตร์แห่งนี้รายล้อมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ถนนคนเดิน และสถานีรถไฟ นอกจากนี้ ที่นี่ยังนิยมใช้เป็นจุดนัดพบของนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นอีกด้วย ฮอพวอชจึงจัดเป็นอีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์คยอดนิยมของเมืองแฟรงค์เฟิร์ต ปัจจุบันบริเวณป้อมปราการเป็นที่ตั้งของร้านอาหารเก่าแก่ที่มีชื่อว่า คาเฟ่ฮอพวอช (Cafe Hauptwache) ที่เปิดมานานกว่าร้อยปี
มหาวิหารเซนต์บาร์โธโลมิว เมืองแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี
มหาวิหารเซนต์บาร์โธโลมิว (St. Bartholomew’s Cathedral) เป็นมหาวิหารที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมโกธิก มีความสูง 95 เมตร เดิมทีเมื่อแรกสร้างเสร็จจัดเป็นสถาปัตยกรรมที่สูงที่สุดในเมือง แต่เมื่อมหานครแฟรงค์เฟิร์ตกลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศเยอรมนี จึงมีตึกสูงเสียดฟ้าเกิดขึ้นมากมาย ด้วยเหตุนี้ในปัจจุบันมหาวิหารเซนต์บาร์โธโลมิวจึงไม่ได้ติดอันดับอาคารที่สูงที่สุดอีกต่อไป แต่ยังคงมีความสำคัญ เนื่องจากเป็นศูนย์รวมใจของคริสตศาสนิกชน และยังเป็นแลนด์มาร์กสะท้อนประวัติศาสตร์อันสำคัญและยิ่งใหญ่ของเมือง เพราะมหาวิหารเซนต์บาร์โธโลมิวยังมีอีกชื่อหนึ่งอย่างเป็นทางการว่า Imperial Cathedral of Saint Bartholomew (ชื่อภาษาเยอรมันคือ Kaiserdom St. Bartholomäus) ซึ่งนอกจากจะเป็นที่ประดิษฐานของพระธาตุส่วนกระโหลกหน้าผากของนักบุญบาร์โธโลมิว ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบสองอัครสาวกรุ่นแรกของพระเยชูคริสต์ และยังเป็นสถานที่ที่ใช้ประกอบพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษกให้กับจักรพรรดิโรมันในช่วงศตวรรษที่ 12 ถึง ศตวรรษที่ 17 ด้วยเหตุนี้ที่นี่จึงได้รับการสถาปนาเป็นมหาวิหารหลวงแม้จะไม่มีพระอัครสังฆราชประทับอยู่ก็ตาม บริเวณพื้นที่ของมหาวิหารยังมีส่วนของพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงโบราณวัตถุทางศาสนา และในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม สามารถเดินขึ้นบันไดจำนวน 324 ขั้นขึ้นไปยังด้านบนหอคอยเพื่อชมทัศนีภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจได้อีกด้วย
โบสถ์เซนต์ปอล เมืองแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี
โบสถ์เซนต์ปอล (St Paul's Church / ภาษาเยอรมันคือ Paulskirche) เป็นโบสถ์นิกายโปรเตสแตนต์ตั้งอยู่ใจกลางเมืองแฟรงค์เฟิร์ต ไม่ไกลจากย่านศาลากลางโรเมอร์ และเป็นโบสถ์คริสต์ลูเธอร์แรนที่เป็นสมาชิกสมาคมโบสถ์อีวานเจลิคัลแห่งชาติในประเทศเยอรมนี นอกจากนี้ที่นี่ยังเคยเป็นรัฐสภาแฟรงค์เฟิร์ตในปีค.ศ. 1848 ที่นี่จึงเป็นที่รู้จักกันในนาม "แหล่งกำเนิดประชาธิปไตยในเยอรมนี" และได้รับการยกย่องว่าเป็นอนุสรณ์สถานของประเทศด้านเสรีภาพและประชาธิปไตยอีกด้วย
ตึกยูโรทาวเวอร์ เมืองแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี
ตึกยูโรทาวเวอร์ (Eurotower) เป็นอาคารสี่สิบชั้นที่มีความสูง 148 เมตร ตั้งอยู่ใจกลางเมืองแฟรงค์เฟิร์ต ที่นี่เคยเป็นที่ตั้งสำนักใหญ่ของธนาคารกลางแห่งยุโรป (European Central Bank (ECB)) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1998 - ค.ศ. 2014 แต่ปัจจุบันสำนักงานใหญ่ได้ย้ายไปยังตึก Main Building ในเขต Ostend ทางตะวันออกของเมือง แต่สาขาธนาคารที่ตึกยูโรทาวเวอร์ยังเปิดให้บริการตามปกติ บริเวณด้านนอกของตึกยูโรทาวเวอร์ จะมีจุดแลนด์มาร์กขนาดใหญ่เรียกว่า อนุเสาวรีย์สกุลเงินยูโร (Euro mounument) มีลักษณะเป็นสัญลักษณ์ของสกุลเงินยูโรสีน้ำเงิน และมีดาวสีทองล้อมรอบอยู่ ซึ่งเป็นจุดแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
ตึกไมน์ทาวเวอร์ เมืองแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี
ตึกไมน์ทาวเวอร์ (Main Tower) เป็นอาคาร 56 ชั้น มีความสูง 200 เมตร ตั้งอยู่ในเขต Innenstadt ของเมืองแฟรงค์เฟิร์ต ได้รับการตั้งชื่อตามแม่น้ำไมน์ (Main River) ที่เป็นแม่น้ำสายหลักของเมือง ตัวอาคารประกอบไปด้วยสำนักงานให้เช่า ศูนย์ออกกำลังกาย และหอชมเมืองบริเวณชั้นดาดฟ้า ที่นี่เป็นหนึ่งในจุดชมวิวเมืองแฟรงเฟิร์ตที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะสามารถชมทัศนียภาพเมืองจากด้านบนได้โดยรอบสามร้อยหกสิบองศา และยังมีส่วนของภัตตาคารให้นักท่องเที่ยวได้รับประทานอาหารพร้อมชมวิวที่น่าประทับใจได้อีกด้วย จัดเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กยอดนิยมของเมืองแฟรงค์เฟิร์ต
ตลาดกลางเคลนมาร์คแทล เมืองแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี
ตลาดกลางเคลนมาร์คแทล (Kleinmarkthalle Market Hall) เป็นตลาดภายในอาคาร มีพื้นที่ประมาณ 1,500 ตารางเมตร เป็นตลาดยอดนิยมของเมือง แฟรงค์เฟิร์ตที่เปิดมายาวนานกว่าหกสิบปี เป็นดั่งสวรรค์ของผู้ที่รักการทำอาหาร เพราะเป็นแหล่งขายวัตถุดิบคุณภาพดีทั้งวัตถุดิบท้องถิ่น และวัตถุดิบนำเข้าจากนานาชาติ ที่นี่มีสินค้าให้เลือกหลากหลายประเภท มีแผงขายของประมาณร้อยกว่าแผงซึ่งถูกจัดสรรพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วนและเป็นระเบียบเรียบร้อย ประกอบด้วยแผงขายของสดอย่างเช่น เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ แผงขายอาหารแปรรูปอย่างเช่น ไส้กรอก ชีส เส้นสปาเก็ตตี และแผงขายดอกไม้ นอกจากนี้ยังมีร้านค้าและร้านอาหารประมาณอีกประมาณหกสิบกว่าร้าน ให้นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นได้เลือกซื้อสินค้ากันอย่างเพลิดเพลิน ตลาดกลางเคลนมาร์คแทลจึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด
การเดินทางโดยการใช้ขนส่งสาธารณะในเมืองแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี
เมืองแฟรงค์เฟิร์ตมีขนส่งสาธารณะที่ครอบคลุมทั่วทั้งเมือง และมีเส้นทางเดินรถแต่ละประเภทที่ไม่ทับซ้อนกัน โดยขนส่งสาธารณะหลักในเมืองจะเป็นการเดินทางโดยรถไฟสาย S-Bahn กับ U-Bahn และมีรถประจำทางให้บริการในเขตพื้นที่รอบนอกเส้นทางเดินรถไฟ และผ่านจุดที่ให้ผู้โดยสารสามารถเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟได้ อีกทั้งยังมีความสะดวกด้วยระบบตั๋วโดยสารที่เชื่อมต่อกันทั้งระบบ โดยซื้อบัตรโดยสารใบเดียวในการเดินทางก็สามารถใช้ได้ทั้ง รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน และรถประจำทาง อีกทั้งยังอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ใช้จักรยานเป็นยานพาหนะโดยสามารถนำจักรยานขึ้นรถสาธารณะได้อีกด้วย
สวนสาธารณะเคแอลซีซีพาร์ก เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
สวนสาธารณะเคแอลซีซีพาร์ก (KLCC Park) เป็นสวนสาธารณะใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของตึกแฝด Pitronas สร้างขึ้นเพื่อเป็นพื้นที่สีเขียวให้กับคนเมืองในการพักผ่อน ออกกำลังกาย มีทั้งสระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น และทะเลสาบขนาดใหญ่ที่จะมีการแสดงแสงสีเสียงของน้ำพุ Lake Symphony ทุกวัน ที่นี่จึงเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชมความงามของตึกแฝดอีกแห่งหนึ่ง
อาคารรัฐสภารัฐวิคตอเรีย เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
อาคารรัฐสภาแห่งรัฐวิคตอเรีย (Victoria’s Parliament House) สถานที่ทางประวัติศาสตร์การเมืองของออสเตรเลียที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามและมีเหตุการณ์สำคัญมากมายเกิดขึ้นที่นี่ และยังเป็นหนึ่งในอาคารที่อยู่ในทะเบียนมรดกของรัฐวิคตอเรีย (Victorian Heritage Register)
สนามเมลเบิร์นคริกเก็ต (เอ็มซีจี) เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
สนามเมลเบิร์นคริกเก็ต ( Melbourne Cricket Ground) หรือ MCG เป็นสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรเลีย, เป็นสนามคริกเก็ตที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นสนามกีฬาที่ใหญ่เป็นอันดับ 10 ของโลก ด้วยความจุถึง100,000 คน
วิหารเซนต์แพทริก เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
วิหารเซนต์แพทริก (St Patrick's Cathedral) เป็นวิหารที่สูงที่สุดของประเทศออสเตรเลียและมีความโดดเด่นด้วยตัวอาคารสีดำที่เด่นชัด วิหารแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อรองรับประชากรคาธอลิกของเมลเบิร์นในระหว่างศตวรรษที่ 19
เมลเบิร์น เรคแทงกูลาร์ สเตเดียม (เอเอเอ็มไอ พาร์ก) เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
เมลเบิร์น เรคแทงกูลาร์ สเตเดียม (Melbourne Rectangular Stadium) หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ AAMI Park เป็นสนามกีฬารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ากลางแจ้งขนาดใหญ่และโดดเด่นของเมลเบิร์น ด้วยอัฒจันทร์ความจุขนาด 30,000 ที่นั่ง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยทำหน้าที่เป็นสนามกีฬาหลักของกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 16 ที่ออสเตรเลียเป็นเจ้าภาพ
โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ อีสเทิร์น ฮิลล์ แองกลิกัน เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
เซนต์ปีเตอร์ อีสเทิร์น ฮิลล์ แองกลิกัน (St Peter’s Eastern Hill Anglican Church) คือโบสถ์คริสต์นิกายแองโกลคาทอลิกของเมืองเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย เป็นโบสถ์ซึ่งสมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย (Queen Victoria) ได้ทรงใช้เป็นสถานที่ประกาศสถานะเมืองเมลเบิร์นในปี ค.ศ. 1848
10 ที่เที่ยวบนเส้นทางของรถ Free Tram เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
เมืองเมลเบิร์นมีรถรางสายต่างๆ ที่ให้บริการฟรี วิ่งวนรอบๆ เขตตัวเมืองผ่านสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญหลายแห่ง โดยเส้นทางของ Free Tram Zone นั้นจะเริ่มตั้งแต่ถนน Spring Street, Flinders Station และ La Trobe Street รวมถึงเส้นทางเลียบ Victoria Street , William Street และ Elizabeth Street ซึ่งเป็นพื้นที่รอบๆ Victoria Market และครอบคลุมไปถึงบริเวณ Docklands ด้วย
สวนสาธารณะไฮพาร์ค เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
สวนสาธารณะไฮพาร์ค (Hyde Park ) สวนสาธารณะที่มีชื่อเสียงขนาด 16.2 เฮกตาร์ใจกลางเมืองซิดนีย์ และเป็นสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศออสเตรเลีย มีพื้นที่สีเขียวสำหรับนั่งนักผ่อนและทำกิจกรรมผ่อนคลาย แวดล้อมไปด้วยสวนดอกไม้ปลูกประดับสวยงาม น้ำพุ อนุสรณ์สถาน และต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาใจกลางกรุง
ศาลาว่าการนครซิดนีย์ เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
ศาลาว่าการนครซิดนีย์ (Sydney Town Hall) เป็นอาคารหินทรายที่ตั้งอยู่ใจกลางนครซิดนีย์มีความโดดเด่นด้วยหอนาฬิกาที่งดงามและสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล นอกจากศาลาว่าการแห่งนี้จะเป็นสถานที่ที่สำคัญทางการเมืองการปกครองของนครซิดนีย์แล้ว ที่นี่แล้วยังเป็นสถานที่พบปะยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งเนื่องจากตั้งอยู่ใจกลางเมือง เป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟสถานีใหญ่ และแวดล้อมด้วยศูนย์การค้าและแหล่งช้อปปิ้งหลากหลายของเมืองซิดนีย์
ม้าหินมิสซิสแมคควอรี่ เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
ม้าหินมิสซิสแมคควอรี่ (Mrs Macquarie’s Chair) คือหินทรายแกะสลักรูปม้านั่งที่ตั้งอยู่ในสวนพฤกษศาสตร์หลวง (Royal Botanic Gardens) เป็นหินที่มีประวัติความเป็นมาน่าสนใจ และยังเป็นอีกหนึ่งจุดที่สามารถมองเห็นโอเปร่าเฮ้าส์ได้อย่างชัดเจนและสวยงาม
สวนพฤกษศาสตร์หลวง เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
สวนพฤกษศาสตร์หลวง ซิดนีย์ (Royal Botanic Gardens) สวนพฤกษศาสตร์อายุกว่า 200 ปี บนพื้นที่ขนาด 74 เอเคอร์ ใจกลางเมืองซิดนีย์ คือสถานที่ท่องเที่ยวชั้นดีที่นักท่องเที่ยวจะพบกับความรื่นรมย์จากธรรมชาติใจกลางเมือง และได้เรียนรู้เกี่ยวกับออสเตรเลียผ่านพืชพันธุ์ท้องถิ่นนานาชนิดไปในขณะเดียวกัน
การเดินทางจากสนามบินซิดนีย์สู่ตัวเมือง
ซิดนีย์มีสนามบินคือ ท่าอากาศยานนานาชาติซิดนีย์ คิงส์ฟอร์ด สมิธ (Sydney Kingsford Smith International Airport) นับเป็นเป็นท่าอากาศยานที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยสนามบินนั้นอยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางตอนใต้ประมาณ 8 กิโลเมตร จากสนามบินนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าเมืองได้ทั้งโดยรถไฟ ชัตเทิลบัส รถประจำทาง และบริการรถแท็กซี่สนามบิน
13 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) เมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ (Netherlands) เป็นเมืองที่สวยงาม น่ารัก เป็นที่ตั้งของสถาปัตยกรรมและพิพิธภัณฑ์อันทรงคุณค่า เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่น่าสนใจของผู้คนซึ่งอาศัยอยู่ในดินแดนแห่งกังหันลม รองเท้าไม้ และทุ่งดอกทิวลิป ประเทศซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลแห่งนี้
สกายบัส บริการรถรับส่งจากสนามบิน – ตัวเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
Sky Bus คือ รถชัตเทิลบัสบริการรับส่งจากสนามบินไปยังเมืองเมลเบิร์น, เซาท์แบงค์ ด็อกแลนด์ส (Southbank Docklands) และเซนต์กิลดา (St. Kilda) ที่อำนวยความสะดวกสบายแก่นักท่องเที่ยวด้วยการเชื่อมต่อ WiFi บนรถฟรี และมีพื้นที่วางสัมภาระสำหรับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่เพียงพอและสะดวกสบาย โดยรถจะออกทุกๆ ประมาณ 20 นาที
ถนนคอลลินส์ เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
ถนนคอลลินส์ (Collins Street) เป็นถนนเส้นแรกของเมลเบิร์น ถือเป็นถนนสายประวัติศาสตร์ของเมืองหลวงแห่งรัฐวิคตอเรียแห่งนี้ สองข้างทางเรียงรายไปด้วยอาคารเก่าแก่เคียงข้างกับตึกสูงสมัยใหม่ และร้านค้ามากมายของดีไซน์เนอร์ชื่อดัง
เมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม
เมืองท่าสำคัญที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเบลเยียมแห่งนี้ คือเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเยี่ยมเยือนกันไม่ขาดสาย เพราะเปี่ยมไปด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรมเก่าแก่ มีสถานที่ท่องเที่ยวระดับแลนด์มาร์กที่โดดเด่นไม่แพ้เมืองบรัสเซลส์หลายแห่ง และด้วยความที่เป็นเมืองท่า ทำให้ต้องมีการติดต่อค้าขายกับคนต่างชาติตลอดเวลา เกิดเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และแอนต์เวิร์ปยังถือตำแหน่งศูนย์กลางการค้าเพชรระดับโลก ควบเมืองไอคอนแฟชั่นสมัยใหม่ที่มีแบรนด์ดีไซเนอร์ระดับโลกมาตั้งหลักแหล่งอยู่ที่นี่มากมาย
เมืองบรูกส์ ประเทศเบลเยียม
เมืองขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยความสวยงาม เรียบง่าย ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ จากภูมิทัศน์ที่แวดล้อมไปด้วยแม่น้ำลำคลอง และวิถีชีวิตที่ไม่เร่งรีบของชาวเมือง แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งคุณค่าทางสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และยังได้รับตำแหน่งเมืองมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโกด้วย
เมืองเกนต์ ประเทศเบลเยียม
เมืองเกนต์ (Ghent) คือเมืองลูกผสมระหว่างยุคเก่ากับยุคใหม่ที่มีเอกลักษณ์ และความน่าสนใจทางประวัติศาสตร์ และด้วยการวางผังเมืองที่รอบคอบ ทำให้ทุกอย่างอยู่ในระยะเดินได้อย่างสะดวกสบาย ประกอบกับพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ติดแม่น้ำใหญ่ ทำให้นักท่องเที่ยวจะได้ชมทิวทัศน์ที่งดงามของสายน้ำที่ตัดกับสถาปัตยกรรมของเมืองได้อย่างลงตัว
หมู่บ้านกังหันลมซานส์สคันส์ เมืองซานดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
หมู่บ้านกังหันลมซานส์สคันส์ (Zaanse Schans) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของเนเธอร์แลนด์ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาถึงอัมสเตอร์ดัมแล้วต่างใฝ่ฝันที่อยากจะเดินทางไปชมความสวยงามและบรรยากาศน่ารักๆ ของหมู่บ้านกังหันลมท่ามกลางทุ่งสีเขียวและแม่น้ำที่โอบล้อมแห่งนี้ ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมหมู่บ้านกังหันลมซานส์สคันส์ร่วม 2 ล้านคน
สถานีกลางอัมสเตอร์ดัม เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
สถานีกลางอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam Central Station) เป็นศูนย์กลางการคมนาคมของกรุงอัมสเตอร์ดัม ที่ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์กลางการคมนาคมซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองอัมสเตอร์ดัมเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานีที่ใหญ่สมชื่ออย่างไม่ต้องสงสัย โดยในแต่ละวันมีผู้ใช้บริการคนเข้าออกสถานีแห่งนี้กว่า 250,000 คนเลยทีเดียว
ย่านโคมแดง เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
ย่านโคมแดง (Red Light District) แหล่งท่องเที่ยวยามราตรีที่ผู้เยือนเมืองอัมสเตอร์ดัม ไม่ควรพลาด แสงสียามค่ำคืนและบรรยากาศของสาวงามตู้กระจกที่ให้บริการแบบถูกกฎหมายตลอดเส้นทาง และร้านค้าที่ขายอุปกรณ์ต่างๆ ทางเพศที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมได้อย่างอิสระ และไม่รู้สึกเคอะเขิน
แม็กนา พลาซ่า เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
แม็กนา พลาซ่า (Magna Plaza) เป็นห้างสรรพสินค้าที่มีสถาปัตยกรรมอันงดงามโดดเด่นในแบบนีโอโกธิค (Neo-Gothic) ให้ความรู้สึกคล้ายกับเป็นพระราชวังมากกว่าห้างสรรพสินค้า โดยห้างแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากพระราชวังหลวง Koninklijk Palace
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเนเธอร์แลนด์ เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเนเธอร์แลนด์ (Rijksmuseum) หรือพิพิธภัณฑ์เร็กซ์เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวดินแดนกังหันลมแห่งนี้ เพราะที่นี่คือพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศที่รวบรวมวัตถุโบราณ งานศิลปะเก่าแก่และทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ไว้มากมาย โดยในแต่ละปีนั้นมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้กว่าล้านคน
พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะห์ เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะห์ (Van Gogh Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์สไตล์โมเดิร์นที่เก็บรวบรวมผลงานจำนวนมากที่สุดของศิลปินเอกชาวดัตช์ผู้นี้ ผู้ซึ่งขายภาพของตัวเองได้เพียงชิ้นเดียวขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ และไม่เคยได้มีโอกาสได้รับรู้ถึงความโด่งดังและมูลค่าอันมหาศาลของผลงานตัวเองในเวลาต่อมาเลย
พระบรมมหาราชวัง เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
พระบรมมหาราชวัง (Royal Palce, Koninklijk Paleis) คืออาคารที่หรูหราและโอ่โถงที่สุดของประเทศเนเธอแลนด์ สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 17 โดยพระเจ้าหลุยส์ผู้ซึ่งเป็นพระอนุชาของจักรพรรดินโปเลียน ในอดีตอาคารนี้เคยมีบทบาทเป็นศาลาว่าการมาก่อน ปัจจุบันถูกใช้สำหรับกิจกรรมในพระราชสำนักและกิจกรรมระดับประเทศ ทว่ายังคงเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเยี่ยมชมความงดงามได้
โบสถ์เซนต์นิโคลัส เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
โบสถ์เซนต์นิโคลัส (Basilica of St Nicholas) เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่มีสถาปัตยกรรมแบบกอธิคที่งดงาม ด้วยความโดดเด่นของบานหน้าต่างที่ประดับกระจกสี ยอดโดม และหอคอยที่งามสง่าน่าประทับใจ โบสถ์หลักของเมืองแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเยี่ยมชมเมื่อมาเยือนอัมสเตอร์ดัม
บ้านแอนน์ แฟร้งค์ เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
บ้านแอนน์ แฟร้งค์ (Anne Frank House) เป็นที่หลบซ่อนของ "แอนน์ แฟรงค์" เด็กสาวชาวยิวผู้เขียนบันทึกสมัยสงครามที่โด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งตั้งอยู่บนถนนปรินเซนกรัคต์ (Prinsengracht) ริมคลองในกรุงอัมสเตอร์ดัม สถานที่ซึ่งเป็นที่มาของหนังสือที่ทรงอิทธิพลที่สุดเล่มหนึ่งของโลก
ตลาดดอกไม้บลูเมนมาร์ค เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
ตลาดดอกไม้บลูเมนมาร์ค (Flowers Market / Bloemenmarkt) มีลักษณะเป็นแผงขายดอกไม้ 15 แผงที่เรียงรายกันในตลาดดอกไม้ซึ่งมีโครงสร้างอยู่บนโป๊ะของคลองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในอัมสเตอร์ดัมจากศตวรรษที่ 15 โดยฝั่งที่เป็นหน้าร้านยื่นออกมาบนถนน Singel ถนนสายเดียวกันกับตึกซึ่งเป็นที่ตั้งบ้านของแอนน์ แฟร้งค์ (Anne Frank House)
ดามสแควร์ เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
ดามสแควร์ (Dam Square) หรือจัตุรัสดาม เป็นสัญลักษณ์ของอัมสเตอร์ดัมที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ โดยเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์แห่งชาติเพื่อเป็นการระลึกถึงผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นย่านที่รายล้อมไปด้วยอาคารเก่าแก่ เป็นศูนย์รวมห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ ทั้งยังเป็นสถานที่รวมตัวอันมีชีวิตชีวาไม่ว่าในโอกาสงานเฉลิมฉลองหรือการประท้วงต่างๆ
อ่าวมาเทอร์ส เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
อ่าวมาเทอร์ส (The Bay of Martyrs) เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานชายฝั่ง Bay of Islands ซึ่งเป็นเขตสงวนชายฝั่งทะเลครอบคลุมพื้นที่ยาว 32 กิโลเมตรในรัฐวิกตอเรียเลียบไปกับถนนสายเกรท โอเชี่ยน โรด (Great Ocean Road) ภูมิภาคนี้ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามที่สุดในประเทศออสเตรเลีย มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ผสมผสานกับวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา และทิวทัศน์ที่สวยงามชวนประทับใจ
ลอนดอน บริดจ์ เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
London Bridge (ลอนดอนบริดจ์) เสาหินกลางทะเลที่มีลักษณะเป็นเนินลาดและมีซุ้มโค้งกลางทะเลคล้ายสะพาน London Bridge ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของการท่องเที่ยวเกรท โอเชียน โรด (Great Ocean Road) เส้นทางรถยนต์ที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกที่ตั้งอยู่ในประเทศออสเตรเลีย
ล็อก อาร์ด จอร์จ เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
ล็อก อาร์ด จอร์จ (Loch Ard Gorge) เป็นจุดท่องเที่ยวที่มีประวัติน่าสนใจเกี่ยวกับเหตุการณ์เรืออับปางและผู้ที่รอดชีวิต ด้วยลักษณะโดดเด่นของโตรกผาที่ถูกกัดเซาะจนแยกออกจากกันเป็นสองส่วน มีช่องให้น้ำทะเลไหลเข้ามา เกิดเป็นทะเลสาบเล็กๆ ที่มีทัศนียภาพสวยงาม รวมถึงยังเป็นจุดที่เหมาะสำหรับการชมพระอาทิตย์ตกที่งดงามอีกแห่งหนึ่งด้วย
พอร์ท แคมป์เบล โฟร์ชอร์ เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
พอร์ท แคมป์เบล โฟร์ชอร์ (Port Campbell Foreshore) เป็นชายหาดขนาดย่อมที่บรรยากาศดี ทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อน ดื่มกาแฟ และปิกนิกกันบริเวณนี้ของเมืองพอร์ท แคมป์เบล
เดอะกรอตโต้ เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
ว่ากันว่านอกจากกลุ่มเสาหิน Twelve Apostles อันมีชื่อเสียงยอดนิยมแล้ว เดอะกรอตโต้ (The Grotto) อาจจะเป็นสิ่งที่มีเสน่ห์และควรค่าแก่การมาเยี่ยมชมมากที่สุดอีกแห่งหนึ่ง ท่ามกลางบรรดาเสาหินก่อตัวทั้งหมดในบริเวณนี้ของประเทศออสเตรเลีย
เกรท โอเชียน โรด เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
เกรท โอเชียน โรด (Great Ocean Road) เป็นถนนสายที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหนึ่งในเส้นทางรถยนต์ที่สวยที่สุดในโลก ฉะนั้น จึงไม่น่าแปลกใจหากถนนที่มีทิวทัศน์อันสวยงาม ลดเลี้ยวทอดยาวไปตามชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกแห่งนี้จะเป็นหนึ่งในจุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวเมื่อมาออสเตรเลีย
หาดเซนต์คิลด้า เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
หาดเซนต์คิลดา (St.Kilda Beach) เป็นชายหาดชานเมืองเมลเบิร์นที่มีบรรยากาศผ่อนคลายและมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม สองข้างทางของถนนเลียบชายหาดเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่มากมาย รวมถึงเป็นที่ตั้งของลูนา พาร์ก (Luna Park) สวนสนุกที่มีชื่อเสียงของออสเตรเลีย
สวนสนุกลูน่า พาร์ก เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
สวนสนุกลูน่า พาร์ก (Luna Park) สวนสนุกริมทะเลยอดนิยมประจำเมืองเมลเบิร์น สถานที่ที่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนทุกเพศทุกวัยมานานกว่า 107 ปี สวนสนุกแห่งนี้เต็มไปด้วยเครื่องเล่นทันสมัยหลากหลายชวนตื่นเต้น รวมถึงยังเป็นสวนสนุกที่มีรถไฟเหาะตีลังกาไม้ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลกอีกด้วย
ศูนย์การค้าไฮพ้อยท์ เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
ศูนย์การค้าไฮพ้อยท์ (Highpoint Shopping Centre) เป็นศูนย์การค้าระดับภูมิภาคที่ตั้งอยู่ใน Maribyrnong ซึ่งเป็นย่านชานเมืองด้านตะวันตกของเมลเบิร์น และเป็นศูนย์การค้าที่ใหญ่เป็นอันดับหกของประเทศออสเตรเลีย โดยมีร้านค้ากว่า 500 ร้าน รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั้ง Myer, David Jones, Harris Scarfe, Targe, Big W และ Woolworths
พัฟฟิ่ง บิลลี่ เรลเวย์ เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
พัฟฟิ่ง บิลลี่ เรลเวย์ (Puffing Billy Railway) เป็นรถจักรไอน้ำโบราณขบวนที่นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินไปกับการนั่งห้อยขาชมทิวทัศน์ผ่านป่าฝนอันเขียวชอุ่มและงดงามของเทือกเขา Dandenong แห่งรัฐวิคตอเรีย (Victoria) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญที่หลายๆ คนอยากสัมผัสเมื่อมาเที่ยวเมลเบิร์น
พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลต เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลต (Choco Story Museum) สวรรค์ของคนรักช็อกโกแลตกับพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงพัฒนาการตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ของพืชเศรษฐกิจหลักประจำเมืองบรัสเซลส์อย่างต้นโกโก้ ต้นน้ำของผลิตผลยอดนิยมในเบลเยียมที่แปรรูปมาเป็นโกโก้ ช็อกโกแล็ต รสชาติเยี่ยม ซึ่งนักท่องเที่ยวยังสามารถชิมช็อกโกแลตจากเชฟคุณภาพที่มาสาธิตวิธีทำช็อกโกแลตให้เราชมกันในพิพิธภัณฑ์ด้วย
ถนนอเวนิวหลุยส์ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
ถนนอเวนิวหลุยส์ (Avenue Louise Street) คือเส้นทางสัญจรสำคัญสายแรกๆ ของเมือง และเป็นย่านที่เปี่ยมไปด้วยความหรูหรา มีรสนิยม ซึ่งสัมผัสได้ผ่านสถาปัตยกรรมของอาคารสำนักงาน ร้านแบรนด์ระดับไฮเอนด์ ร้านอาหารชั้นเลิศ ฯลฯ นับเป็นถนนที่มีชื่อเสียงอีกแห่งของเมืองบรัสเซลส์
อาคารอะโตเมียม เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
อาคารอะโตเมียม (Atomium Building) แลนด์มาร์กสำคัญประจำเมืองบรัสเซลส์ ที่แสดงถึงความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีของเมืองได้เป็นอย่างดี นับเป็นสถาปัตยกรรมสำหรับงานเวิลด์เอ็กโป (World Expo) ที่ประสบความสำเร็จที่สุดหลังหนึ่งของโลก ปัจจุบันอาคารแห่งนี้เป็นจุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวทุกคนที่มาเยือนเมืองบรัสเซลส์
สวนสาธารณะจูบิลี่ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
สวนสาธารณะจูบิลี่ (Jubilee Park) พื้นที่สีเขียวขนาด 74 เอเคอร์แห่งนี้ คือสวนสาธารณะที่แวดล้อมไปด้วยพิพิธภัณฑ์ อนุสรณ์สถาน สถาปัตยกรรม อันโดดเด่นในเมืองบรัสเซลส์ มีลานกิจกรรมที่ใช้สำหรับจัดงานเทศกาลสำคัญของเมือง นับเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของนักท่องเที่ยว ที่เหมาะต่อการมาเดินเล่นชมสถานที่น่าสนใจ ท่ามกลางบรรยากาศชวนสบายใจของสวนสาธารณะ
ศูนย์การค้าแกลเลอรี รอยัล แซ็ง อูแบร์ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
ศูนย์การค้าแกลเลอรี รอยัล แซ็ง อูแบร์ (Galeries Royales Saint Hubert) แหล่งช้อปปิ้งที่เก่าแก่ และมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ เป็นสถานบันเทิงหลักที่รองรับวิถีชีวิตอันหรูหราของเหล่าบุคคลชั้นสูงในเมืองบรัสเซลส์มาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 19 โดยปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถมาเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมอันสวยงาม หาซื้อสินค้าแฟชั่น อาหาร งานดีไซน์ จากบรรดาร้านยอดนิยมของเมือง และเพลิดเพลินกับการแสดงจากโรงละครที่อยู่ในศูนย์การค้าแห่งนี้ได้อย่างเต็มอรรถรส
ศาลาว่าการเมืองบรัสเซลส์ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
ศาลาว่าการเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Town Hall) สถาปัตยกรรมทรงคุณค่าที่สุดหลังหนึ่งของเมืองที่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 15 เป็นศาลาว่าการเมืองที่บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ศิลปะของบรัสเซลส์ผ่านงานสถาปัตยกรรม ประติมากรรม งานศิลป์ของตัวอาคาร ที่ทำให้ผู้ศึกษาเห็นภาพความยิ่งใหญ่ของพัฒนาการด้านศิลปกรรมของเมืองบรัสเซลส์ได้แบบครบถ้วนที่สุด
ประติมากรรมแมนเนเกน พิส และพิพิธภัณฑ์เสื้อผ้าแมนเนเกน พิส เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
ประติมากรรมแมนเนเกน พิส และพิพิธภัณฑ์เสื้อผ้าแมนเนเกน พิส (Manneken Pis & Garderobe Manneken Pis) แลนด์มาร์กยอดนิยมแห่งนี้ คือประติมากรรมเด็กชายกำลังยืนปัสสาวะ ที่กลายมาเป็นภาพแทนทางวัฒนธรรมของเมืองบรัสเซลส์ ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมกันหนาแน่นที่สุดจุดหนึ่งของเมือง และบริเวณใกล้เคียงกันยังมีพิพิธภัณฑ์เสื้อผ้าของเด็กชายที่รวบรวมเครื่องแต่งกายตามประเพณีพื้นเมืองและเทศกาลของบรัสเซลส์ และของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ที่จัดแสดงเป็นคอลเลกชั่นกว่า 1,000 ชุด
เมาท์ เดส อาร์ต เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
เมาท์ เดส อาร์ต (Mont des Arts) หรือเนินเขาแห่งศิลปะแห่งนี้ คือพื้นที่ทางวัฒนธรรมที่สำคัญ ของเมืองบรัสเซลส์ เพราะเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ หอจดหมายเหตุแห่งชาติ ศูนย์การประชุมบรัสเซลส์ โรงภาพยนตร์เก่าแก่ของเมือง สวนสาธารณะ และยังเป็นจุดชมวิวเมืองบรัสเซลส์ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง
มินิ ยุโรป เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
มินิ ยุโรป (Mini Europe) สถานที่ซึ่งรวบรวมแบบจำลองสำคัญทางประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และเทคโนโลยีของสหภาพยุโรปไว้มากมาย ในรูปแบบจำลองขนาดย่อส่วน และมีระบบอินเทอร์แอคทีฟที่ถอดมาจากต้นแบบอย่างสมจริง พร้อมป้ายแสดงข้อมูลอย่างละเอียด เรียกว่าเป็นการทัวร์ยุโรปฉบับมินิไซส์ที่สร้างความสนุกสนาน และจะได้สาระดีๆ เกี่ยวกับสหภาพยุโรปกลับไปแบบเต็มที่แน่นอน
มหาวิหารเซนต์ไมเคิลและเซนต์กูดูลา เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
มหาวิหารเซนต์ไมเคิลและเซนต์กูดูลา (St. Michael and St. Gudula Cathedral) ศาสนสถานหลักประจำนิกายโรมันคาทอลิกแห่งนี้ คือมหาวิหารในสถาปัตยกรรมกอธิคที่อยู่คู่กับเมืองบรัสเซลส์มาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 13 ถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญของเหล่าเชื้อพระวงศ์ และบุคคลสำคัญของประเทศในหลากหลายวาระ ทั้งยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเยี่ยมชมสถาปัตยกรรม ประติมากรรม ฯลฯ ภายในมหาวิหารได้ด้วย
พิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์หลวงแห่งเบลเยียม เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
พิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์หลวงแห่งเบลเยียม (Royal Museum of Fine Arts of Belgium) เครือข่ายพิพิธภัณฑ์ที่เป็นศูนย์รวมองค์ความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมขนาดใหญ่ของประเทศ ภายในมีงานศิลป์ที่จัดแสดงรวมกว่า 20,000 ชิ้น ซึ่งรวบรวมมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 15 จนถึงปัจจุบัน มีคอลเลกชั่นผลงานของศิลปินชื่อดังระดับโลกหลายคน และเป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการถาวร นิทรรศการชั่วคราว ตลอดจนงานอีเว้นท์ทางศิลปะที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมกันหนาแน่นทุกวัน
พิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
พิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์ (Brussels City Museum) สถานที่ซึ่งตั้งอยู่ภายในสถาปัตยกรรมมรดกโลกอย่างอาคารแมซง ดูว์ รัว แห่งนี้ คือพิพิธภัณฑ์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเมืองบรัสเซลส์ผ่านมรดกทางวัฒนธรรมกว่า 7,000 ชิ้น ทั้งงานประติมากรรม, ภาพวาด, สิ่งทอ, เครื่องแต่งกาย ฯลฯ ที่จะช่วยให้นักท่องเที่ยวเห็นภาพความยิ่งใหญ่ และเสน่ห์ชวนหลงใหลของเมืองได้แบบชัดเจน
โบสถ์นอทเทอร์ดัมซาบอน เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
โบสถ์นอทเทอร์ดัมซาบอน (Notre Dame du Sablon) โบสถ์โรมันคาทอลิคที่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 13 ที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์กอธิค ซึ่งมีความสวยงาม และมีรายละเอียดด้านการออกแบบที่แสดงถึงความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมของบรัสเซลส์ จนถูกยกให้เป็นมรดกทางศาสนาคริสต์ที่สำคัญที่สุดหลังหนึ่งของเมือง
10 มุมสวยถ่ายภาพมหาวิหารโคโลญ เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
เมืองโคโลญเป็นเมืองเล็กๆ อยู่ทางตะวันตกของประเทศเยอรมนี มีสภาพภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่ม มีแม่น้ำไรน์เป็นแม่น้ำสายหลักไหลผ่านกลางตัวเมือง ทำให้เกิดพื้นที่ริมแม่น้ำขึ้นสองฝั่ง เมืองโคโลญไม่เพียงแค่มีทัศนียภาพทางธรรมชาติอันสวยงามแต่ยังมีความยิ่งใหญ่และมีเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมของแลนด์มาร์กประจำเมือง อย่างมหาวิหารโคโลญที่มีหอคอยคู่ตั้งตระหง่านตัดกับสีของท้องฟ้าที่ต่างกันไปในแต่ละช่วงวัน และสะพานโฮเอินซอลเลิร์นที่ทอดข้ามแม่น้ำไรน์เชื่อมพื้นที่สองฝั่งเข้าไว้ด้วยกัน ปัจจัยเหล่านี้ทำให้มีบรรยากาศที่เหมาะแก่การพักผ่อนและเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีมุมถ่ายภาพที่สวยงามมากมายให้เก็บภาพความประทับใจอีกด้วย และ Palanla.com ได้รวบรวมมุมสวยถ่ายภาพแลนด์มาร์กยอดนิยมแห่งเมืองโคโลญมาฝากผู้ที่รักการเดินทางท่องเที่ยวและการถ่ายภาพไว้ดังต่อไปนี้
โบสถ์เซนต์นิโคลัส เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
โบสถ์เซนต์นิโคลัส (St. Nicholas Church) คือโบสถ์ทางศาสนาคริสต์แห่งแรกๆ ที่สร้างขึ้นมาในเมืองบรัสเซลส์ ตั้งแต่ปี 1125 ตัวโบสถ์เป็นส่วนผสมของสถาปัตยกรรมโรมัน และกอธิค ทำให้มีความเป็นเอกลักษณ์ และภายในยังเปี่ยมไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรมที่สะสมกันมาหลายร้อยปี จากบรรดาคริสต์ศาสนิกชนในเมืองบรัสเซลส์
จัตุรัสกร็อง ปลัส เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
จัตุรัสกร็อง ปลัส (Grand Place) คือจัตุรัสกลางเมืองบรัสเซลส์ เป็นศูนย์กลางด้านประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม วัฒนธรรม ประจำเมืองที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นจัตุรัสที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของทวีปยุโรป และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1998
จัตุรัสเพลส โรเยลเล่ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
จัตุรัสเพลส โรเยลเล่ (Place Royale Square) จัตุรัสที่เคยถูกใช้เป็นศูนย์กลางการปกครองของเบลเยียมมาเกือบ 700 ปี แห่งนี้ คือพื้นที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของพระราชวังหลวง พิพิธภัณฑ์ โบสถ์ ฯลฯ ในรูปทรงสถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิก และใจกลางจัตุรัสยังเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์พระบรมรูปทรงม้าของกอดฟรีย์แห่งบูยง หนึ่งในประติมากรรมที่งดงามที่สุดชิ้นหนึ่งของเมืองบรัสเซลส์
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
เมืองโคโลญ (Cologne / ชื่อภาษาเยอรมันคือ Köln) เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับที่สี่ของประเทศเยอรมนี รองจากเมืองเบอร์ลิน แฮมเบิร์ก และมิวนิค เมืองโคโลญตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศเยอรมนีในเขตลุ่มแม่น้ำไรน์ จึงมีสภาพภูมิประเทศเป็นพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำ
การเดินทางโดยการใช้ขนส่งสาธารณะในเมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
การเดินทางโดยการใช้ขนส่งสาธารณะในเมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี Traveling by Public Transportation in Berlin, Germany
การเดินทางโดยการใช้ขนส่งสาธารณะในเมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
เมืองโคโลญเป็นเมืองเล็กๆ ที่มีเส้นทางของระบบขนส่งสาธารณะครอบคลุมทั่วเมืองทั้งรถไฟและรถประจำทาง โดยการเดินทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจะเป็นรถไฟ เพราะมีความสะดวกสบายและมีสถานีใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ โดยสถานีหลักของเมืองโคโลญคือ สถานีรถไฟกลางโคโลญ (Cologne Central Station)
หอชมเมืองโคโลญไทรแองเกิล เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
หอชมเมืองโคโลญไทรแองเกิล (Cologne Triangle / ชื่อภาษาเยอรมันคือ KölnTriangle) ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามมหาวิหารโคโลญ บริเวณด้านบนอาคารชั้นดาดฟ้าเป็นที่ตั้งของหอชมเมืองที่สามารถชมทัศนียภาพเมืองโคโลญอันสวยงามตราตรึงใจได้ในแบบพาโนรามา ผ่านรั้วกระจกที่มีชื่อสถานที่และภาพสัญลักษณ์กำกับไว้ให้นักท่องเที่ยวรู้จักสถานที่ที่เห็นผ่านกระจกบริเวณนั้นได้อย่างเข้าใจง่ายและรวดเร็ว จัดเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กและสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองโคโลญ
แหล่งช้อปปิ้งชิลเดอร์กัส เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
แหล่งช้อปปิ้งชิลเดอร์กัส (Schildergasse Shopping Centre)เป็นถนนช้อปปิ้งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเมืองโคโลญ และยังเป็นหนึ่งในแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมของประเทศเยอรมนีอีกด้วย โดยอาคารที่เป็นจุดเด่นของที่นี่คือห้าง Weltstadthaus ที่ตัวตึกล้อมรอบด้วยกระจกทั้งหลัง และถ้ามองจากด้านบนจะมีรูปทรงเหมือนปลาวาฬแหวกว่ายอยู่ท่ามกลางแหล่งช้อปปิ้ง ด้านในเป็นที่ตั้งของร้านเสื้อผ้า Peek & Cloppenburg นอกจากนี้ยังมีห้างร้านของสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำมากมายตั้งอยู่ในแหล่งช้อปปิ้งชิลเดอร์กัส อาทิเช่น Galeria Kaufhof, H&M, Zara, Adidas, Tommy Hilfiger และที่พลาดไม่ได้คือ The House of 4711 Original Eau De Cologne แหล่งต้นกำเนิดน้ำหอมชื่อดัง No. 4711 ที่นี่จึงเป็นถนนคนเดินที่ถูกใจนักช้อปปิ้งอีกแห่งหนึ่งของประเทศเยอรมนี
สะพานโฮเอินซอลเลิร์น เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
สะพานโฮเอินซอลเลิร์น (Hohenzollern Bridge / ชื่อภาษาเยอรมันคือ Hohenzollernbrücke) เป็นสะพานข้ามแม่น้ำไรน์ (Rhine River) และเป็นแลนด์มาร์กของเมืองโคโลญเคียงคู่กับมหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) สะพานแห่งนี้นอกจากจะเชื่อมพื้นที่กลางเมืองทั้งสองฝั่งแม่น้ำเข้าไว้ด้วยกัน แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของเหล่าคู่รักที่นิยมมาคล้องกุญแจแห่งความรัก (love locks) บริเวณรั้วบนสะพานแห่งนี้อีกด้วย ปัจจุบันมีแม่กุญแจหลากสีหลายขนาดคล้องไว้บริเวณรั้วบนสะพานโฮเอินซอลเลิร์นหลายพันชิ้น บางชิ้นมีการสลักชื่อ ติดสติ๊กเกอร์ และตกแต่งในแบบที่แตกต่างกันจากนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลก เป็นอีกสีสันหนึ่งของการท่องเที่ยวเมืองโคโลญในปัจจุบัน
สวนสัตว์เมืองโคโลญ เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
สวนสัตว์เมืองโคโลญ (Cologne Zoological Garden / ชื่อภาษาเยอรมันคือ Zoologische Garten Köln / Kölner Zoo) เป็นสวนสัตว์ที่มีสัตว์มากกว่าหนึ่งหมื่นชีวิตและมากกว่าแปดร้อยสายพันธุ์จากทั่วโลกอาศัยอยู่บนพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่ได้รับการจัดสรรให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมตามถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ชนิดต่างๆ และยังเป็นศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่าที่หายากและใกล้สูญพันธุ์อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีส่วนจัดนิทรรศการและการแสดงจากสัตว์แสนรู้ เป็นหนึ่งในสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวเมื่อมาเยือนเมืองโคโลญ
รถไฟเล็กวอลเตอร์บิมเมลบาเนนชมเมืองโคโลญ เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
รถไฟเล็กวอลเตอร์บิมเมลบาเนน (Wolters Bimmelbahnen) เป็นรถไฟขนาดเล็กสีเขียวคาดเหลืองขับเคลื่อนบนถนนแบบไม่ต้องใช้ราง เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย เพราะมีความสะดวกสบายในการเดินทางเที่ยวชมทัศนียภาพสองข้างทางของเมือง มีบรรยายภาษาอังกฤษ และแวะจอดที่สถานที่ท่องเที่ยวหลักในเมืองโคโลญอย่างมหาวิหารโคโลญ พิพิธภัณฑ์ช็อคโกแลต และสวนสัตว์โคโลญ โดยมีสองเส้นทางให้เลือกคือ เส้นทางไปพิพิธภัณฑ์ช็อคโกแลต (Chocolate-Express) ผ่านทางย่านเมืองเก่า และเส้นทางไปสวนสัตว์ (Zoo-Express) โดยทางเลียบแม่น้ำไรน์ โดยทั้งสองเส้นทางจะมีจุดเริ่มต้นที่เดียวกันคือมหาวิหารโคโลญ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อตั๋วรถไฟได้ทั้งแบบเที่ยวเดียวและแบบไปกลับ โดยจุดซื้อตั๋วและขึ้นรถไฟนี้อยู่ที่ศูนย์บริการการท่องเที่ยวเมืองโคโลญ (Cologne Tourist Board Service Centre / ชื่อภาษาเยอรมันคือ KölnTourismus GmbH) ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามมหาวิหารโคโลญ
สถานีรถไฟกลางโคโลญ เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
สถานีรถไฟกลางโคโลญ (Cologne Central Station / ชื่อภาษาเยอรมันคือ Köln Hauptbahnhof) เป็นสถานีหลักของเมืองโคโลญ และเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการรถไฟที่สำคัญที่สุดอีกแห่งหนึ่งในยุโรป เป็นจุดเชื่อมต่อขนส่งสาธารณะหลักที่มีเส้นทางครอบคลุมเมืองหลักๆ ในประเทศเยอรมนี และประเทศอื่นๆ ในแถบยุโรป ในทุกๆ วันจะมีรถไฟมากกว่า 1,300 ขบวนวิ่งให้บริการในเส้นทางระหว่างเมืองโคโลญไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ ในประเทศเยอรมนีและในประเทศที่อยู่รอบนอก จุดเด่นของสถานีรถไฟนี้คือมีรถไฟความเร็วสูงให้บริการไปมายังสนามบินโคโลญบอนน์ (Cologne/Bonn Airport station) และเมืองแฟรงค์เฟิร์ตที่สถานี Köln-Deutz railway station ในส่วนของขนส่งสาธารณะท้องถิ่นในก็มีความสะดวกสบายไม่แพ้กัน โดยมีเส้นทางครอบคลุมเขตต่างๆ ของเมืองโคโลญ และมีเวลาเดินรถให้เลือกได้ตามความต้อง
ย่านเมืองเก่าโคโลญ เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
ย่านเมืองเก่าโคโลญ (Cologne Old Town / ชื่อภาษาเยอรมันคือ Altstädter Köln) เป็นเมืองเก่าที่มีอาคารบ้านเรือนเรียงรายอยู่ในตรอกทางเดินที่ปูด้วยหินใกล้กับสวนริมแม่น้ำไรน์และโบสถ์เกรทเซนต์มาร์ติน ด้านในมีโรงเบียร์ ผับ และร้านอาหารมากมายให้นักท่องเที่ยวได้มาลิ้มลองเครื่องดื่มขึ้นชื่ออย่างดราฟท์เบียร์ Kölsch หรืออาหารท้องถิ่นอย่างแซนด์วิช Halver Hahn นอกจากนี้ในบริเวณย่านเมืองเก่าโคโลญยังมีพิพิธภัณฑ์ อนุเสาวรีย์ อนุสรณ์สถานและประติมากรรมอันสวยงามและแปลกตาของน้ำพุ และรูปปั้นต่างๆ อีกด้วย
มหาวิหารโคโลญ เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
มหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral / ชื่อภาษาเยอรมันคือ Kölner Dom) ตั้งอยู่กลางเมืองโคโลญ ริมแม่น้ำไรน์ (Rhine River) เป็นโบสถ์นิกายโรมันคาทอลิก สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิก โดดเด่นด้วยหอคอยคู่ตั้งตระหง่านอย่างยิ่งใหญ่ด้วยความสูง 157.38 เมตร ตัดกับเส้นขอบฟ้าที่เป็นฉากหลัง จัดเป็นแลนด์มาร์กของเมืองโคโลญคู่กับสะพานโฮเอินซอลเลิร์น (Hohenzollern Bridge) ที่ทอดข้ามแม่น้ำไรน์ นอกจากนี้มหาวิหารโคโลญยังเป็นที่ประดิษฐานหีบสามกษัตริย์ จึงเป็นหนึ่งในสถานที่แสวงบุญที่สำคัญที่สุดในยุโรป อีกทั้งยังเป็นสถานที่เก็บรวมรวมทรัพย์สมบัติทางประวัติศาสตร์อีกมากมาย และมีจุดชมวิวพาโนรามาบนหอคอยสูงอันน่าตื่นตาตื่นใจ มหาวิหารโคโลญได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) World Heritage Sites ในปี ค.ศ. 1996
พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเมืองโคโลญ เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเมืองโคโลญ (Cologne Chocolate Museum / ชื่อภาษาเยอรมันคือ Schokoladenmuseum Köln) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งเมืองโคโลญ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ (Rhine River) บริเวณท่าเรือไรโน (Rheinau harbour) ไม่ไกลจากมหาวิหารโคโลญ พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติของช็อกโกแลตตั้งแต่แรกเริ่มจากการปลูกเมล็ดโกโก้ไปจนถึงกระบวนการผลิตช็อกโกแลตในโรงงาน รวมถึงวัฒนธรรมและของสะสมของแต่ละท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับช็อกโกแลตตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน และที่เป็นจุดเด่นที่สุดของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็คือ น้ำพุช็อคโกแลตความสูงราวสามเมตรนอกจากนี้ยังมีส่วนของคาเฟ่และร้านขายช็อกโกแลต ให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองรสชาติของช็อคโกแลตและขนมที่ทำจากช็อคโกแลตอันแสนอร่อยอีกด้
โบสถ์เกรทเซนต์มาร์ติน เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
โบสถ์เกรทเซนต์มาร์ติน (Great St. Martin Church / ชื่อภาษาเยอรมันคือ Kath. Kirche Groß St. Martin) เป็นโบสถ์นิกายโรมันคาทอลิกตั้งอยู่ย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำไรน์มาตั้งแต่ยุคกลาง ด้วยสถาปัตยกรรมที่มีลักษณะโดดเด่น มีหอคอยสี่ทิศล้อมรอบหลังคาโบสถ์ยอดแหลมประดับด้วยไม้กางเขนที่ด้านบน สามารถมองเห็นได้จากริมแม่น้ำไรน์ จึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กยอดนิยมของเมืองโคโลญ
กระเช้าลอยฟ้าโคโลญ เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
กระเช้าลอยฟ้าโคโลญ (Cologne Cable Car / ชื่อภาษาเยอรมันคือ Rhein-Seilbahn) เป็นกระเช้าลอยฟ้าข้ามแม่น้ำไรน์ (Rhine River) ไปมาระหว่างฝั่งสวนสัตว์โคโลญทางด้านตะวันตก กับฝั่งสวนสาธารณะไรน์พาร์ค (Rheinpark) ทางด้านตะวันออกเพื่อชมวิวเมืองโคโลญอันน่าประทับใจจากด้านบนกระเช้า เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทุกวัย โดยสามารถเลือกได้ว่าจะขึ้นเที่ยวเดียวหรือไปกลับ กระเช้าเปิดบริการทุกวันตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคมของทุกปี
พิพิธภัณฑ์ลุดวิก เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
พิพิธภัณฑ์ลุดวิก (Museum Ludwig) ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1976 เป็นสถานที่จัดแสดงผลงานศิลปะสมัยใหม่ (modern art) และยังเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกในเมืองโคโลญที่จัดแสดงศิลปะสมัยใหม่ นอกจากนี้ที่นี่ยังจัดแสดงงานศิลปะแนว Pop art และมีการจัดแสดงภาพเขียน Russian Avant-garde ที่มีอายุอยู่ในช่วงค.ศ. 1906 - ค.ศ. 1930 อีกทั้งยังมีผลศิลปะงานนับร้อยชิ้นของ Pablo Picasso อีกด้วย
ย่านเมืองเก่าทาคายาม่า จังหวัดกิฟุ ประเทศญี่ปุ่น
ย่านเมืองเก่าทาคายาม่า (Takayama Old Town) ย่านเมืองเก่าที่ยังคงเอกลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม วัฒนธรรม จากยุคเอโดะไว้ได้อย่างสมบูรณ์ และแวดล้อมไปด้วยพื้นที่ทางธรรมชาติทั้งแม่น้ำ ภูเขา ป่าไม้ ท่ามกลางความเงียบสงบตามสไตล์ชนบท เป็นสถานที่ซึ่งเหมาะสำหรับการมาสัมผัสวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นที่สุด
7 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองนาโกย่า จังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น
อดีตเมืองที่เคยถูกใช้เป็นฐานที่มั่นสำคัญของบรรดาโชกุนที่เคยปกครองประเทศญี่ปุ่นในสมัยเอโดะ และเป็นจุดบัญชาการการรบสำคัญในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แห่งนี้ ถือเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคชูบุ มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ของประเทศ ปัจจุบันเมืองนาโกย่าเป็นฐานการผลิต และส่งออกอุตสาหกรรมด้านรถยนต์, เครื่องจักร, ยาวอวกาศ, ฯลฯ ที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น และมีท่าเรือสำคัญที่มีมูลค่าการส่งออกสูงที่สุดของประเทศ
อาคารเจอาร์ เซ็นทรัล เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
อาคารเจอาร์ เซ็นทรัล ทาวเวอร์ (JR Central Building) อาคารทรงแฝดที่สูงที่สุดอันดับ 7 ของประเทศญี่ปุ่นนี้ ถือเป็นศูนย์กลางคมนาคมทางรถไฟที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาคชูบุ และยังเป็นที่ตั้งของบริษัทรถไฟญี่ปุ่นตอนกลาง ศูนย์การค้า โรงแรม และจุดชมวิวยอดนิยมของเมืองนาโกย่าอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่า เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่า (Nagoya Science Museum) แหล่งเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ภายในมีส่วนจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ธรรมชาติวิทยา ฯลฯ เป็นที่ตั้งของท้องฟ้าจำลองที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของสถาปัตยกรรมรูปโลกสีเงินขนาดใหญ่ที่มีนักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปกันตลอดทั้งวัน
ห้างสรรพสินค้าซันไชน์ ซาคาเอะ เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
ห้างสรรพสินค้าซันไชน์ ซาคาเอะ (Sunshine Sakae) อาคารพาณิชย์ขนาด 6 ชั้น ที่รวมความบันเทิง และแหล่งช้อปปิ้งเอาไว้มากมาย โดยไฮไลท์ของที่นี่จะเป็นเธียเตอร์จัดแสดงคอนเสิร์ตของวง SKE48 ซึ่งยังมีร้านคาเฟ่ ร้านขายของที่ระลึกเกี่ยวกับวงตั้งอยู่ด้วย มีชิงช้าสวรรค์ด้านหน้าอาคารที่สามารถชมทัศนียภาพสวยๆ ของเมืองนาโกย่าได้แบบกว้างไกล
หอคอยนาโกย่า ทีวี ทาวเวอร์ เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
หอคอยนาโกย่า ทีวี ทาวเวอร์ (Nogoya TV Tower) แลนด์มาร์กสำคัญที่โดดเด่นที่สุดของเมืองนาโกย่าแห่งนี้ คือหอคอยที่ถูกใช้เป็นเสาส่งสัญญาณโทรทัศน์แห่งแรกของประเทศญี่ปุ่น และเป็นสถาปัตยกรรมที่กลายมาเป็นภาพจำของประเทศในสายตาของคนทั่วโลก โดยพื้นที่ภายในหอคอยยังเปิดให้เข้าไปเยี่ยมชม และมีจุดชมวิวที่ความสูงถึง 100 เมตรด้วย
สวนสนุกเลโก้แลนด์ เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
สวนสนุกเลโก้แลนด์ (Legoland Japan) แลนด์มาร์กสำคัญที่แสดงถึงความยอดนิยมจากของเล่นระดับโลกที่ใครๆ ก็รู้จัก กับตัวต่อเลโก้ และเป็นสวนสนุกที่สร้างขึ้นมาจากบริษัทผู้ผลิตเลโก้โดยตรง ทำให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพ และความสนุกสนานในสถานที่ซึ่งเนรมิตให้อยู่ในธีมปาร์คเลโก้แบบทุกตารางนิ้ว
อาคารโอเอซิส 21 เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
อาคารโอเอซิส (Oasis 21 Building) แลนด์มาร์กขวัญใจนักท่องเที่ยวที่มีทั้งศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ร้านอาหาร พื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมรื่นเริง ฯลฯ โดยมีสถาปัตยกรรมรูปทรงสะดุดตาที่ทำให้อาคารแห่งนี้มีเอกลักษณ์ และความน่าสนใจที่สุดหลังหนึ่งของเมือง
ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู (Atsuta Jingu Shrine) ศาลเจ้าเก่าแก่ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดหลังหนึ่งของศาสนาชินโตแห่งนี้ ถือเป็นศาลเจ้าที่มีความโดดเด่นทั้งด้านประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม วัฒนธรรม และยังแวดล้อมไปด้วยป่าไม้ร่มรื่นของเมืองนาโกย่า ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาสักการะขอพรที่ศาลเจ้ากันหนาแน่นทุกวัน
วัดโอสึ คันนง เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
วัดโอสึ คันนง (Osu Kannon Temple) สถาปัตยกรรมสีแดงสดที่ตั้งอยู่กลางเมืองนาโกย่าแห่งนี้ ถือเป็นวัดพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองนาโกย่า ภายในวัดมีประติมากรรมองค์เทพเก่าแก่ที่ชาวญี่ปุ่นนับถือหลายองค์ และพื้นที่ด้านหลังยังมีย่านการค้ายอดนิยมที่มีร้านค้าให้ไปเดินช้อปปิ้ง และหาของอร่อยกินกันได้ทั้งวัน
วิธีเดินทางเข้าเมืองนาโกย่าจากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์
สนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ (Chubu Centrair International Airport) คือสนามบินที่สร้างบนพื้นที่ถมทะเลซึ่งตั้งอยู่ห่างออกมาจากตัวเมืองนาโกย่า เมืองหลวงของจังหวัดไอจิที่อยู่ในเขต ภูมิภาคชูบุ ประมาณ 38 กิโลเมตร โดยชูบุเป็นภูมิภาคที่ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศญี่ปุ่น ทำให้สนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกันแห่งนี้ เป็นเหมือนประตูหน้าด่านสำคัญประจำภาคกลางของประเทศที่คอยต้อนรับนักเดินทางจากทั่วโลกที่มาเยือน และมีสายการบินจากประเทศไทยหลายสายที่เปิดเส้นทางบินตรงมาสู่สนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทร์ อาทิเช่น การบินไทย (Thai Airways), เจแปนแอร์ไลน์ (Japan Airlines) เป็นต้น
ปราสาทนาโกย่า เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle) ปราสาทแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติของชาติแห่งนี้ มีทั้งสถาปัตยกรรม ประติมากรรม งานศิลป์ ฯลฯ ที่สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ทางประวัติศาสตร์ของเมืองนาโกย่าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งบริเวณโดยรอบของปราสาทยังเป็นจุดชมดอกซากุระที่สวยงามที่สุดของเมืองด้วย
เมืองเก่าคัปปาโดเชีย จังหวัดเนฟเชียร์ ประเทศตุรกี
เมืองเก่าคัปปาโดเชีย (Cappadocia Old Town) หรือพื้นที่บริเวณเกอเรเม่ (Goreme) ไม่เพียงแต่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในจังหวัด Nevsehir เท่านั้น แต่ Goreme ยังกลายเป็นที่จดจำของนักท่องเที่ยวในฐานะที่เป็นจุดศูนย์กลางของที่พัก ร้านอาหาร และการซื้อทัวร์ไปตามที่ต่างๆ ในคัปปาโดเชีย นอกจากนี้จากที่นี่นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินไปยังสถานที่เที่ยวต่างๆ ได้ภายในรัศมี 2 กิโลเมตร และที่สำคัญคือเป็นจุดปล่อยบอลลูนที่นักท่องเที่ยวจะได้ชมบอลลูนลูกยักษ์หลากสีสันในระยะประชิดอีกด้วย
ศูนย์การค้าเบย์ไซด์มาร์เก็ตเพลส เมืองไมอามี่ รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา
เบย์ไซด์มาร์เก็ตเพลส (Bayside Marketplace) ศูนย์การค้าชื่อดังริมอ่าวบิสเคย์น รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับการจัดอันดับให้เป็น Greater Convention & Visitor Greater Miami หรือสถานที่สามารถดึงดูดผู้มาเยี่ยมชมได้เป็นอันดับหนึ่ง ที่นี่มีการแสดงดนตรีสดทุกวัน ให้บริการร้านอาหารและบาร์แบบเปิดโล่ง และยังมีบล็อกร้านค้ากว่า 140 บล็อก ร้านค้ารอบนอกอีกกว่า 50 ร้าน และจุดเด่นของศูนย์การค้าแห่งนี้คือเป็นท่าเทียบเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ให้บริการล่องเรือชมทิวทัศน์ริมอ่าวบิสเคย์น และมีกิจกรรมบนเรืออีกมากมาย
วินวูดวอลส์ เมืองไมอามี่ รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา
วินวูดวอลส์ (Wynwood Walls) พิพิธภัณฑ์ศิลปะกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง บนถนนคนเดินที่จัดแสดงผลงานศิลปะของศิลปินที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลกมาไว้บนกำแพงกลางแจ้ง ซึ่งอยู่ภายในคลังสินค้าขนาดใหญ่ของวินวูด เมืองไมอามี่ที่ทุกคนสามารถเข้าชมงานศิลปะได้อย่างอิสระและไม่มีค่าใช้จ่าย และที่นี่ยังมีตลาด Wynwood Marketplace ที่รวมสินค้าทางศิลปะ แฟชั่น อาหาร และดนตรีอีกมากมาย
ล่องเรือชมอ่าวบิสเคย์น เมืองไมอามี่ รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา
อ่าวบิสเคย์น (Biscayne Bay) เป็นอ่าวที่อยู่ระหว่างหาดไมอามี่ซึ่งมีภูมิประเทศเป็นหาดทรายสวยงาม อีกฝั่งของอ่าวคือไมอามี่แผ่นดินใหญ่ที่มีกิจการท่าเรือเป็นหลักจนได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางธุรกิจเรือสำราญของโลก ให้บริการล่องเรือชมอ่าวบิสเคย์นในหลากหลายรูปแบบตามไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยว สำหรับการล่องเรือชมอ่าวนั้นนักท่องเที่ยวจะสามารถมองเห็นเส้นขอบฟ้าของเมืองไมอามี่และทิวทัศน์รอบอ่าวบิสเคย์นที่เต็มไปด้วยคฤหาสน์สุดหรูและเรือยอชต์มากมายสมกับความเป็นเมืองชั้นนำในการท่องเที่ยวของโลก
เมืองโบราณเอฟิซัส จังหวัดอิซเมียร์ ประเทศตุรกี
เอฟิซัส (Ephesus) เป็นเมืองในสมัยกรีกโบราณซึ่งเคยรุ่งเรืองและใหญ่เป็นอับดับสองของจักรวรรดิโรมันรองจากเมืองหลวงคือโรม โดยในปี ค.ศ. 2015 องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ขึ้นทะเบียนให้เอฟิซัสเป็นมรดกโลก เมืองโบราณแห่งนี้นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ และได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศตุรกี
เมืองโบราณเฮียราโพลิส จังหวัดเดนิซลี ประเทศตุรกี
เมืองโบราณเดนิซลี, เมืองโบราณตุรกี, เดนิซลีที่เที่ยว, ตุรกีที่เที่ยว, ปามุกคาเล่, พิพิธภัณฑ์เดนิซลี,เทวสถาน, เมืองแห่งความศักดิ์สิทธิ์, กษัตริย์ยูเมเนสที่ 2, อาณาจักรเพอร์กามอน, เนโครโพลิส, โรงละครโรมัน, พิพิธภัณฑ์เฮียราโพลิส
เมืองโบราณเลาดีเซีย จังหวัดเดนิซลี ประเทศตุรกี
เมืองโบราณเลาดีเซีย (Laodicea on the Lycus / The ancient city of Laodicea) เมืองในยุคโบราณที่มีอายุเก่าแก่กว่า 7,500 ปี มีความสำคัญคือเป็นเมืองหนึ่งใน 7 คริสตจักร (The seven churches of Revelation) ตามที่ปรากฏในพระคัมภีร์ไบเบิลของศาสนาคริสต์ สำหรับยุคปัจจุบันเมืองโบราณเลาดีเซียนับเป็นสถาบันทางโบราณคดีแห่งแรก และเป็นแหล่งโบราณคดีที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดเดนิซลี ประเทศตุรกี
เมืองโบราณแอฟโฟรดีเซียส จังหวัดอัยดึน ประเทศตุรกี
แอฟโฟรดีเซียส (Aphrodisias) เป็นเมืองโบราณของโรมันอายุเก่าแก่กว่า 3,000 ปี ในอดีตเมืองนี้เคยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ ปรัชญา และการแกะสลักหินอ่อน แม้เวลาจะผ่านไปหลายพันปีแต่ซากของเมืองและโบราณวัตถุหลายส่วนยังอยู่ในสภาพดี โดยเมืองโบราณแห่งนี้ยังได้รับยกย่องว่าเป็นเมืองโบราณที่ซากสิ่งก่อสร้างต่างๆ ยังคงความสมบูรณ์มากที่สุดในประเทศตุรกี
เกาะโรเทน เมืองโรเทน สาธารณรัฐฮอนดูรัส
เกาะโรเทน (Roatan) จุดแวะยอดนิยมของบรรดาเรือสำราญที่ล่องอยู่ตามแถบทะเลแคริบเบียน มีเสน่ห์คือความใสสะอาดของท้องทะเล และวิถีชีวิตที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน มีกิจกรรมทางทะเลให้นักท่องเที่ยวได้เลือกทำมากมาย ท่ามกลางสถาปัตยกรรมสีสันสดใสทั่วทั้งเกาะ
เกาะแนสซอ เมืองแนสซอ ประเทศบาฮามาส
เกาะแนสซอ (Nassau) พื้นที่ชายทะเลประจำเมืองแนสซอซึ่งเป็นศูนย์กลางสำคัญทางเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของประเทศบาฮามาส โดยนอกจากจะมีท้องทะเลที่สวยติดอันดับต้นๆ ของโลกแล้ว ยังมีสถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์น่าสนใจให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเยี่ยมชมมากมาย
พิพิธภัณฑ์และโบสถ์ฮาเกีย โซเฟีย เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ฮาเกียโซเฟีย (Hagia Sophia) เป็นโบสถ์ทรงโดมที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมโบสถ์ของคริสต์ศาสนิกชนตะวันตกยุคไบแซนไทน์ (Byzantine) ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นสถาปัตยกรรมทางศาสนาที่มีความยิ่งใหญ่และงดงามเท่านั้น ทว่าโบสถ์แห่งนี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง รวมถึงได้รับคัดเลือกให้เข้ารอบสุดท้าย 1 ใน 21 สิ่งมหัศจรรย์ในยุคใหม่เมื่อปี ค.ศ. 2007 อีกด้วย
ฮิปโปโดรม เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ฮิปโปโดรม (Hippodrome) หรือ จัตุรัสสุลต่านอาห์เมต (Sultanahmet Square, Sultanahmet Meydanı) เป็นจัตุรัสกลางเมืองที่แต่เดิมนั้นใช้เป็นสถานที่แข่งม้าและจัดงานเฉลิมฉลองของกรุงคอนสแตนติโนเปิล ปัจจุบันยังคงเป็นสถานที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์โบราณ และเป็นจุดนัดพบยอดนิยมของอิสตันบูล
แกรนด์บาซาร์ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
แกรนด์บาซาร์ (Grand Bazarr) ได้ชื่อว่าเป็นตลาดในร่มที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินไปกับการเลือกซื้องานฝีมือสวยๆ นับร้อยนับพันประเภทจากร้านค้าที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตาภายในโครงสร้างอาคารเก่าแก่ด้วยสถาปัตยกรรมแบบออตโตมัน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ไม่อาจพลาดของอิสตันบูล
มัสยิดสุลต่านอาห์เมด เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
มัสยิดสุลต่านอาห์เมด (Sultan Ahmed Mosque) หรือที่มักนิยมเรียกกันทั่วไปว่ามัสยิดสีน้ำเงิน (Blue Mosque) เป็นหนึ่งในอาคารสูงที่โดดเด่นที่สุดของเมืองอิสตันบูล มัสยิดอายุกว่า 400 ปีที่สวยงามแห่งนี้สร้างขึ้นภายใต้แนวคิดที่ต้องการให้เป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาที่มีองค์ประกอบสื่อถึงความเป็นอิสลามอย่างชัดเจน
พระราชวังโทพคาปิ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
พระราชวังโทพคาปิ (Topkapi Palace) พระราชวังอายุหลายร้อยปีริมแม่น้ำใจกลางเมืองอิสตันบูล ที่ยังคงความงดงามอลังการไม่เสื่อมคลาย สถานที่ที่เคยเป็นที่ประทับของสุลต่านแห่งจักรวรรดิออตโตมันมานานหลายพระองค์ หลายศตวรรษ ซึ่งปัจจุบันยังคงทำหน้าที่เป็นที่เก็บโบราณวัตถุอันศักดิ์สิทธิ์และทรงคุณค่าของตุรกีและเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติของตุรกี
น้ำพุเยอรมัน เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
น้ำพุเยอรมัน (German Fountain) เป็นซุ้มศาลาน้ำพุทรงแปดเหลี่ยมสร้างด้วยหินอ่อนทรง หลังคาโดมทำด้วยทองสัมฤทธิ์ เพดานตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบสลับสีทองวิจิตรงดงาม น้ำพุแห่งนี้เป็นอนุสรณ์ในวาระครบรอบครั้งที่ 2 ของการมาเยือนนครอิสตันบูลของจักรพรรดิวิลเฮ็ล์มที่ 2 แห่งเยอรมนี (Wilhelm II, German Emperor) เมื่อปี ค.ศ. 1898
สนามบินนานาชาติซาบีฮา เกิคเช่น เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อิสตันบูล (Istanbul) คือเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศตุรกี ประเทศซึ่งได้ชื่อว่าเป็นดินแดนสองทวีป เนื่องจากดินแดนส่วนหนึ่งของประเทศตุรกีนั้นตั้งอยู่บนทวีปยุโรป และดินแดนอีกส่วนหนึ่งตั้งอยู่บนทวีปเอเชีย อิสตันบูลเป็นศูนย์กลางทางด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ทั้งยังเป็นเมืองสำคัญทางภูมิศาสตร์และเศรษฐกิจ จนหลายคนมักเข้าใจผิดว่าอิสตันบูลเป็นเมืองหลวงของประเทศตุรกี ซึ่งเมืองหลวงที่แท้จริงแล้วคือกรุงอังการ่า (Ankara) ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากอิสตันบูล
สนามบินนานาชาติอิสตันบูล เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อิสตันบูล (Istanbul) คือเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศตุรกี ประเทศซึ่งได้ชื่อว่าเป็นดินแดนสองทวีป เนื่องจากดินแดนส่วนหนึ่งของประเทศตุรกีนั้นตั้งอยู่บนทวีปยุโรป และดินแดนอีกส่วนหนึ่งตั้งอยู่บนทวีปเอเชีย อิสตันบูลเป็นศูนย์กลางทางด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ทั้งยังเป็นเมืองสำคัญทางภูมิศาสตร์และเศรษฐกิจ จนหลายคนมักเข้าใจผิดว่าอิสตันบูลเป็นเมืองหลวงของประเทศตุรกี ซึ่งเมืองหลวงที่แท้จริงแล้วคือกรุงอังการ่า (Ankara) ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากอิสตันบูล
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
เมืองเบอร์ลิน (Berlin) เมืองหลวงของประเทศเยอรมนี (Germany) ชื่อทางการของประเทศคือ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (Federal Republic of Germany) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและมีจำนวนประชากรมากที่สุดในประเทศ และมากเป็นอันดับสองของสหภาพยุโรปรองจากเมืองลอนดอน ทางด้านสภาพภูมิศาสตร์ ตัวเมืองเบอร์ลินตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ โดยมีลักษณะเป็นพื้นที่ราบลุ่มที่มีแม่น้ำสายหลักคือแม่น้ำชเปร (Spree) ตัดผ่านกลางตัวเมือง หนึ่งในสามของเมืองเป็นพื้นที่สีเขียวอย่างเช่น พื้นที่ป่า สวนสาธารณะ และแม่น้ำคูคลองต่างๆ ทางด้านสภาพภูมิอากาศ เบอร์ลินเป็นเมืองที่มีสภาพอากาศดี มีฤดูร้อนที่อบอุ่น และฤดูหนาวที่ไม่รุนแรง โดยฤดูร้อนจะอยู่ในช่วงเดือนเมษายน ถึง เดือนกันยายน มีอุณหภูมิเฉลี่ยราว 23 องศาเซลเซียส และฤดูหนาวอยู่ในช่วงเดือนตุลาคม ถึง เดือนมีนาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยราว 3 องศาเซลเซียส มีฝนตกเกือบตลอดปี ซึ่งช่วงที่มีปริมาณน้ำฝนสูงสุดของปีคือช่วงระหว่างเดือนมิถุนายน ถึง เดือนสิงหาคม
สวนสาธารณะเทียร์การ์เทน เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
สวนสาธารณะเทียร์การ์เทน (Tiergarten) เป็นพื้นที่สีเขียวที่เปรียบเสมือนปอดของเมืองเบอร์ลิน ด้วยพื้นที่ครอบคลุมเนื้อที่ราว 210 เฮคตาร์ (1 เฮคตาร์ เท่ากับ 10,000 ตารางเมตร ดังนั้น 210 เฮคตาร์จึงเท่ากับพื้นที่ราว 2,100,000 ตารางเมตร) ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าไฮด์พาร์ค (Hyde Park) ของเมืองลอนดอนเล็กน้อย เป็นสถานที่ที่ชาวเมืองนิยมมาพักผ่อนหย่อนใจ ขี่จักรยาน เล่นเสก็ตบอร์ด เดินเล่นชมสวน วิ่งออกกำลังกาย นั่งปิกนิกบนสนามหญ้า พายเรือ และเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ในบริเวณสวนตามอัธยาศัย สวนนี้ตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์กลางของเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวหลักอย่างเช่น ประตูบรันเดินบวร์ค (Brandenburg Gate) เสาชัยชนะ (Victory Column) สวนสัตว์เบอร์ลิน (Berlin Zoo) และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเบอร์ลิน (Aquarium Berlin)
จัตุรัสเจนดาร์เมนมาร์ค เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
จัตุรัสเจนดาร์เมนมาร์ค (Gendarmenmarkt) จัดเป็นจัตุรัสที่สวยที่สุดในกรุงเบอร์ลิน และตั้งอยู่ในศูนย์กลางของสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เป็นหนึ่งในบริเวณที่พลุกพล่านคึกคักของเมืองหลวง มีนักท่องเที่ยวมากกว่าล้านคนมาเยือนในแต่ละปี ด้วยทำเลที่นอกจากจะมีทั้งร้านค้า โรงแรม ร้านอาหาร ธนาคาร และห้างสรรพสินค้า และยังเป็นสถานที่รายล้อมด้วยอาคารที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่สวยงาม เช่น อาคารจัดแสดงคอนเสิร์ต (Concert Hall) โบสถ์ฝรั่งเศส (French church) และโบสถ์เยอรมัน (German church) ให้เที่ยวชมและเรียนรู้ถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในที่จัดงานตลาดคริสต์มาส (Christmas market) ของเมืองเบอร์ลินอีกด้วย
สะพานโอเบอร์บวม เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
สะพานโอเบอร์บวม (Oberbaum Bridge / ชื่อภาษาเยอรมันคือ Oberbaumbrücke) เป็นสะพานข้ามแม่น้ำชเปร (Spree) มีลักษณะเป็นสะพานสองชั้น ชั้นบนเป็นทางรถไฟ ชั้นล่างสำหรับยานพาหนะทั่วไป และมีทางเท้าสำหรับคนสัญจรไปมา โดยสะพานแห่งนี้ได้เชื่อมพื้นที่เขต Friedrichshain ในฝั่งตะวันออก กับเขต Kreuzberg ในฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเข้าไว้ด้วยกัน เหตุผลที่สะพานแห่งนี้นับเป็นจุดแลนด์มาร์กอีกแห่งหนึ่งของเมืองเบอร์ลิน ไม่ใช่เพียงแค่มีทัศนียภาพอันสวยงาม และสถาปัตยกรรมของสะพานที่โดดเด่นเท่านั้น แต่ยังเป็นสะพานประวัติศาสตร์ในช่วงการแบ่งแยกเยอรมนีอีกด้วย โดยสะพานโอเบอร์บวมเป็นเขตชายแดนที่เป็นจุดผ่านแดนระหว่างเยอรมนีตะวันออกและตะวันตก ซึ่งให้เฉพาะคนฝั่งตะวันตกผ่านเข้าฝั่งตะวันออกเท่านั้น และหลังการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลินสะพานแห่งนี้จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ในเชิงเอกภาพที่เชื่อมกรุงเบอร์ลินทั้งสองฝั่งให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอีกครั้งหนึ่ง
หอส่งสัญญาณโทรทัศน์ เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
หอส่งสัญญาณโทรทัศน์ (TV Tower / ชื่อภาษาเยอรมันคือ Berliner Fernsehturm) สถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์แห่งกรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของประเทศเยอรมนี ด้วยความสูงเสียดฟ้าถึง 368 เมตรรวมเสาอากาศจึงเป็นแลนด์มาร์กที่สังเกตเห็นได้ง่ายที่สุดของเมือง และจัดเป็นหอคอยที่สูงที่สุดในยุโรปที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ด้านบนเป็นที่ตั้งของหอชมเมืองที่ระดับความสูง 203 เมตรที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพในมุมมอง 360 องศารอบเมืองเบอร์ลินและเมืองใกล้เคียงในระยะประมาณ 60 กิโลเมตรในวันที่ท้องฟ้าเปิด ภายในหอคอยยังมีห้องอาหารที่ระดับความสูง 207 เมตรที่จะหมุนรอบตัวเอง 360 องศาภายในเวลาครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง ให้แขกที่มาเยือนได้นั่งรับประทานอาหารไปและชมวิวไปพร้อมกัน
ศาลากลางสีแดง เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
ศาลากลางสีแดง (Rotes Rathaus) คือ ศาลากลางประจำเมืองเบอร์ลิน (Berlin City Hall) เป็นทั้งสำนักงานของนายกเทศมนตรี และสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของเมืองเบอร์ลิน ตัวอาคารสร้างด้วยอิฐสีแดงจึงเป็นที่มาของชื่ออาคารว่า Rotes Rathaus (ภาษาเยอรมัน rotes แปลว่า สีแดง และ rathaus แปลว่า ศาลากลาง) ศาลากลางนี้เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่ตั้งอยู่ใกล้กับ Alexanderplatz และ TV Tower ภายในอาคารมีห้องโถงและห้องจัดนิทรรศการที่ตกแต่งอย่างสวยงามหลายห้องไว้สำหรับจัดงานพิธีสำคัญต่างๆ และไว้ให้นักท่องเที่ยวได้มาเยี่ยมชม
เสาชัยชนะ เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
เสาชัยชนะ (Victory Culumn / ชื่อภาษาเยอรมันคือ Siegessäule) เป็นอนุเสาวรีย์ที่มีความสูง 67 เมตร ด้านบนสุดประดับด้วยรูปปั้นเทพีวิกตอเรียสีทอง ซึ่งเป็นเทพีแห่งชัยชนะในตำนานของกรีกโรมันโบราณ ในอดีตสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะในสงครามของปรัสเซีย ปัจจุบันถือเป็นจุดแลนด์มาร์กยอดนิยมอีกแห่งของเมืองเบอร์ลินที่มีจุดชมวิวแบบพาโนรามา เสาชัยชนะตั้งอยู่ใจกลางสวนสาธารณะเทียร์การ์เทน (Tiergarten) บริเวณเกาะกลางของวงเวียน Der Große Stern (The Great Star) ที่มีถนนห้าสายมาบรรจบกัน ที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่นายบารัค โอบามา ได้มากล่าวสุนทรพจน์ในปีค.ศ. 2008 ก่อนที่เขาจะได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
อนุสรณ์สถานการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
อนุสรณ์สถานการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว (Memorial to the Murdered Jews of Europe) เป็นอนุสรณ์สถานที่สร้างอุทิศแด่เหยื่อชาวยิวกว่าหกล้านคนในเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และให้คนรุ่นหลังรำลึกถึงความหายนะในอดีต ความทรงจำอันน่าเศร้าสลด และยังเป็นเครื่องเตือนใจสำหรับคนยุคใหม่อีกด้วย สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 19,000 ตารางเมตร ใจกลางกรุงเบอร์ลิน ออกแบบโดย Peter Eisenman สถาปนิกชาวนิวยอร์ก ด้วยการวางแท่งคอนกรีตจำนวน 2,711 แท่งที่มีขนาดความสูงต่ำแตกต่างกันไปบนพื้นที่ที่ลาดเอียงเล็กน้อย โดยมีระยะช่องทางเดินในแต่ละช่อง เมื่อมองเผินๆ โครงสร้างโดยรวมจะคล้ายคลื่นไม่ว่าคุณจะยืนอยู่ตรงไหนก็ตาม โดยสถาปัตยกรรมนี้มีชื่อเรียกว่า Field of Stelae ที่นี่ยังแตกต่างจากอนุสรณ์สถานทั่วไปเพราะไม่มีจุดศูนย์กลางของสถานที่อย่างเช่น รูปปั้น หรือ เสาธง เหมือนอย่างที่อื่น เนื่องจากเป็นการออกแบบเชิงนามธรรม (Abstract) เปิดกว้างให้ผู้ที่มาเยือนตีความความรู้สึกที่สัมผัสได้เอาเอง เช่น บางคนอาจรู้สึกอึดอัด หรือบางคนอาจสัมผัสได้ถึงความไม่มั่นคง ความไม่แน่นอน นอกจากนี้ที่นี่ยังมีศูนย์ข้อมูล (Information Centre) ขนาด 800 ตารางเมตรตั้งอยู่ชั้นใต้ดิน จัดแสดงข้อมูลของเหยื่อ เช่น ชีวประวัติสั้นๆ รวมถึงหลักฐานทางประวัติศาสตร์อย่างเช่น จดหมายอำลา หรือภาพถ่ายของสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์การทำลายล้าง และเนื่องจากศูนย์บริการข้อมูลนี้อาจมีภาพหรือเนื้อหาเกี่ยวกับความรุนแรง จึงมีการจำกัดอายุผู้เข้าชมสำหรับบุคคลอายุ 14 ปีขึ้นไปเท่านั้น
พระราชวังชาร์ล็อทเทินบวร์ค เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
พระราชวังชาร์ล็อทเทินบวร์ค (Schloss Charlottenburg) เป็นพระราชวังเก่า ครั้งหนึ่งเคยเป็นพระราชวังฤดูร้อน สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมรอคโคโค (Rococo architecture) ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะฝรั่งเศสผสมผสานกับสถาปัตยกรรมบาโรก เป็นการออกแบบตกแต่งที่เน้นความโอ่อ่าและหรูหรา ออกแบบโดยนายสถาปนิกโยฮัน อาร์น็อลท์ เนริง (Johann Arnold Nering) ชื่อของพระราชวังตั้งตามพระนามของพระนางโซฟี ชาร์ล็อท (Sophie Charlotte) พระชายาองค์แรกของพระเจ้าฟรีดริชที่ 3 แห่งนครบรันเดินบวร์คและดยุคแห่งรัฐปรัสเซีย ปัจจุบันเป็นพระราชวังที่งดงามและใหญ่โตที่สุดในกรุงเบอร์ลิน และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนกรุงเบอร์ลินอีกด้วย
รัฐสภาแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
รัฐสภาแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (German Bundestag / ภาษาเยอรมันคือ Deutscher Bundestag) เป็นที่ประชุมสภาของประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ที่อาคารไรชส์ทาค (Reichstag Building) ในกรุงเบอร์ลิน สิ่งที่น่าสนใจของอาคารไรชส์ทาคแห่งนี้คือโดมแก้วขนาดใหญ่ (Reichstag Dome) ด้านบนสุดของอาคารที่ได้รับการออกแบบอย่างสวยงามและทันสมัย โดยมีระบบกระจกที่สามารถควบคุมแสงและพลังงานความร้อนได้ตามสภาพอากาศ และไม่เพียงแค่สามารถมองเห็นวิว 360 องศาของเมืองเบอร์ลิน แต่ยังสามารถมองเห็นห้องประชุมสภาที่อยู่ด้านล่างได้อีกด้วย นอกจากนี้ภายในโดมแก้วยังมีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับรัฐสภาให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้ โดยบริเวณโดมเปิดให้เข้าชมฟรีแต่ต้องมีการลงทะเบียนล่วงหน้าในเว็บไซต์ ที่นี่จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของกรุงเบอร์ลินอีกแห่งหนึ่ง
เช็คพอยท์ชาร์ลี เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
เช็คพอยท์ชาร์ลี (Checkpoint Charlie) หรือด่านชาร์ลี แต่เดิมเป็นด่านตรวจเข้าออกพรมแดนระหว่างเยอรมนีตะวันออกและเยอรมนีตะวันตกในช่วงสงครามเย็น (Cold War) ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมถนนฟรีดริชสตราสเซอ (Friedrichstraße) และซิมเมอร์สตราสเซอ (Zimmerstraße) และยังเป็นบริเวณที่เกิดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์การเผชิญหน้ากันของรถถังอเมริกากับโซเวียตในปี ค.ศ. 1961 ในปัจจุบันเช็คพอยท์ชาร์ลีเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในกรุงเบอร์ลิน โดยมีการจำลองด่าน ธงชาติ ป้ายประกาศ และแผงกระสอบทรายกันกระสุนไว้ตรงที่เดิม พร้อมนักแสดงที่ใส่ชุดทหารประกอบ เพื่อสร้างบรรยากาศในยุคนั้นให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่คึกคักของอาคารร้านค้าสองข้างทางในยุคนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึก และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับการแต่งนวนิยายแนวสืบสวนชื่อดังอย่างเช่นเรื่อง James Bond in Octopussy ไปจนถึง The Spy Who Came In From The Cold
ประตูบรันเดินบวร์ค เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
ประตูบรันเดินบวร์ค (Brandenburg Gate / ภาษาเยอรมันคือ Brandenburger Tor) เป็นประตูเมืองเก่าที่ปัจจุบันเป็นแลนด์มาร์กขนาดใหญ่ใจกลางเมืองเบอร์ลิน และเป็นฉากหลังของประวัติศาสตร์สำคัญมากมายมานับร้อยปี ไม่ว่าจะเป็นในยุคสงคราม ยุคแบ่งแยกประเทศ จนถึงวันรวมชาติเยอรมนี จึงได้ชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งเอกภาพและสันติภาพ สร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่17 ตามพระราชโองการของพระเจ้าฟรีดริช วิลเฮล์มที่ 2 แห่งปรัสเซีย (Friedrich Wilhelm II, Emperor of Prussia) ออกแบบโดย คาร์ล ก็อทท์ฮาร์ด แลงฮานส์ (Carl Gotthard Langhans) โดยใช้รูปแบบสถาปัตยกรรมกรีกโรมันโบราณ (Neoclassical Architecture) ให้มีลักษณะคล้ายกับประตูเอเธนส์ (Athens) โดยประกอบด้วยเสาหินทราย ขนาดใหญ่ ฝั่งละ 6 ต้น รวม จำนวน 12 ต้น มีทางเข้าออก 5 ทาง ด้านบนของประตูประดับด้วยประติมากรรมควอดริกา (Quardriga) เป็นรูปปั้นของเทพีวิกตอเรีย (Victoria) เทพีแห่งชัยชนะของโรมัน ประทับอยู่บนราชรถเทียมม้าสี่ตัว ประตูแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของกรุงเบอร์ลิน
เบอร์ลินวอลเมมโมเรียล เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
เบอร์ลินวอลเมมโมเรียล (Berlin Wall Memorial หรือในภาษาเยอรมันคือ Gedenkstätte Berliner Mauer) เป็นอนุสรณ์สถานให้ระลึกถึงเหตุการณ์ครั้งแบ่งแยกประเทศเยอรมนีด้วยกำแพงเบอร์ลิน อนุสรณ์สถานแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของประเทศ ริมถนน Bernauer Strasse (Bernauer Straße) มีความยาว 1.4 กิโลเมตร อนุสรณ์สถานแห่งนี้ประกอบด้วยส่วนของนิทรรศการกลางแจ้งจัดแสดงชิ้นส่วนที่หลงเหลืออยู่ของกำแพงเบอร์ลินพร้อมกับพื้นที่ที่อยู่ลึกไปด้านหลังกำแพงประมาณ 60 เมตรเพื่อถ่ายทอดให้เห็นภาพเรื่องราวในอดีตจนกระทั่งถึงยุคล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน นอกจากนี้ยังมีส่วนของศูนย์การเรียนรู้ที่จัดแสดงข้อมูลและสิ่งที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของกำแพงเบอร์ลินซึ่งช่วยให้ผู้ที่มาเที่ยวชมเข้าใจประวัติศาสตร์ของการแบ่งแยกเยอรมนีได้ง่ายขึ้น และยังมีหอสวด (The Chapel of Reconciliation) ที่สร้างขึ้นบริเวณเดียวกันกับโบสถ์ (Reconciliation Church) ที่ถูกรื้อถอนไปในสมัยก่อน อนุสรณ์สถานแห่งนี้อยู่ในความดูแลของมูลนิธิกำแพงเบอร์ลิน (Berlin Wall Foundation)
เบอร์ลินวอลอีสท์ไซด์แกลเลอรี่ เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
เบอร์ลินวอลอีสท์ไซอีสท์ไซด์แกลลอรี (Berlin Wall East Side Gallery) คือชิ้นส่วนกำแพงที่ยาวที่สุดของกำแพงเบอร์ลินที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ในรูปแบบแกลเลอรี่กลางแจ้ง ตั้งอยู่บนถนนมูห์เลนสตราบ (Mühlenstraße / Mühlenstrasse) ใกล้กับสะพานโอเบอร์บวม (Oberbaum Bridge) แกลเลอรี่กลางแจ้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน ด้วยจำนวนศิลปิน 118 คนจาก 21 ประเทศ ได้ออกแบบผลงานศิลปะลงบนชิ้นส่วนกำแพงขนาดยาว 1.3 กิโลเมตรที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของเขตพรมแดน ให้เป็นแกลเลอรี่กลางแจ้งที่ยาวที่สุดในโลก อนุสรณ์สถานในรูปแบบแกลเลอรี่กลางแจ้งแห่งนี้เป็นทั้งสัญลักษณ์แห่งความสุขในการสิ้นสุดการแบ่งแยกประเทศเยอรมนีและยังเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ให้หวนระลึกถึงความไร้มนุษยธรรมของระบอบการปกครองของเยอรมันตะวันออกในยุคนั้น ปัจจุบันนี้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเบอร์ลิน โดยเปิดตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน และไม่เสียค่าเข้าชม
มหาวิหารเบอร์ลิน เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
มหาวิหารเบอร์ลิน (Berlin Cathedral Church / ภาษาเยอรมันคือ Berliner Dom) เป็นโบสถ์นิกายโปรเตสแตนต์ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเบอร์ลิน ที่นี่เป็นทั้งศาสนาสถานและแลนด์มาร์กของเมือง และยังเคยเป็นคริสตจักรประจำราชวงศ์โฮเอินท์ซ็อลเลิร์น (Hohenzollern dynasty) ราชวงศ์กษัตริย์แห่งปรัสเซียและเยอรมนี ในปัจจุบันที่นี่ยังคงฐานะโบสถ์หลวงและมหาวิหารซึ่งให้บริการคริสตศาสนิกชนนิกายโปรเตสแตนต์ในกรุงเบอร์ลินและพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงเปิดให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวชมความสวยงามของมหาวิหารที่ได้รับการออกแบบและตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงและประณีตสวยงามทั้งสถาปัตยกรรมด้านนอกและการตกแต่งภายในโบสถ์ด้วยกระจกโมเสกสีสันสดใส พร้อมทั้งภาพจิตรกรรมที่บอกเล่าเรื่องราวของศาสนาคริสต์ นอกจากนี้ยังมีส่วนห้องใต้ดินที่ใช้เป็นที่เก็บรักษาหีบพระศพของราชวงศ์โฮเอินท์ซ็อลเลิร์น และที่พลาดไม่ได้ก็คือการขึ้นไปยังด้านบนโดม (Cathedral dome) เพื่อชมวิวพาโนรามา 360 องศาอันน่าตื่นตาตื่นใจ มหาวิหารเบอร์ลินจึงจัดเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวเมืองเบอร์ลิน
เบเบลพลัทซ์ เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
จัตุรัสเบเบลพลัทซ์ (Bebelplatz) เป็นจตุรัสสาธารณะที่ล้อมรอบด้วยเหล่าอาคารที่มีสถาปัตยกรรมอันสวยงามและโดดเด่นอย่างเช่น โรงอุปรากรเบอร์ลิน (Berlin State Opera / Deutsche Staatsoper) โบสถ์เซนต์เฮดวิก (St. Hedwig’s Cathedral) นิกายโรมันคาทอลิก โรงแรมโฮเทลเดอโรม (Hotel de Rome) หอสมุดเก่าเบอร์ลิน (Alte Bibliothek) และพระราชวังเก่า (Altes Palais) ด้านหน้าจัตุรัสติดกับถนนอุนเทอร์ เดน ลินเดน (Unter den Linden) ถนนที่มุ่งหน้าสู่ประตูบรันเดินบวร์ค (Brandenburg Gate) นอกจากสถาปัตยกรรมอันสวยงามของอาคารที่ล้อมรอบ ที่นี่ยังเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์เยอรมนีอีกด้วย
จัตุรัสอเล็กซานเดอร์พลัทซ์ เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
จตุรัสอเล็กซานเดอร์พลัทซ์ (Alexanderplatz) หรือที่คนส่วนใหญ่เรียกสั้นๆ ว่า อเล็กซ์ (Alex) เป็นจัตุรัสกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเยอรมนี เป็นสถานที่ที่มีความคึกคักและพลุกพล่านแห่งหนึ่งของกรุงเบอร์ลิน มีจำนวนผู้คนสัญจรไปมากว่าสามแสนคนต่อวัน เพราะเป็นศูนย์กลางทางตะวันออกของกรุงเบอร์ลินและเป็นจุดเชื่อมต่อขนส่งสาธารณะแห่งใหญ่ที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นรถไฟ รถราง และรถประจำทาง ที่นี่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า ร้านค้า โรงภาพยนตร์ ร้านอาหาร และในละแวกนั้นยังมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ในระยะที่สามารถเดินท่องเที่ยวได้ อย่างเช่น หอกระจายภาพโทรทัศน์ (TV Tower) ที่ว่าการเมืองสีแดง (Rotes Rathaus) และมหาวิหารเบอร์ลิน (Berlin Cathedral) เป็นต้น จัดได้ว่าเป็นจุดนัดพบและจุดศูนย์กลางในการเริ่มต้นท่องเที่ยวเมืองเบอร์ลิน นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นที่จัดนิทรรศการขนาดใหญ่อยู่เสมอ และมี Christmas market ในช่วงปลายปีอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์อัลเทอ เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
พิพิธภัณฑ์อัลเทอ (Alte Museum) หรือหอศิลป์แห่งชาติหลังเก่า (Old National Gallery / ภาษาเยอรมันคือ Alte Nationalgalerie) ของกรุงเบอร์ลิน สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งที่สามในจำนวนห้าพิพิธภัณฑ์ที่สร้างขึ้นบนเกาะพิพิธภัณฑ์ (Museum Island / Museumsinsel) กลางแม่น้ำชเปร (Spree) ตัวอาคารถูกออกแบบให้มีลักษณะคล้ายกับวิหาร บริเวณด้านบนของบันไดด้านหน้าที่ทอดยาวขึ้นสู่ตัวพิพิธภัณฑ์มีพระบรมรูปทรงม้าของกษัตริย์ฟรีดริชวิลเฮ็ล์มที่ 4 (King Friedrich Wilhelm IV) ตั้งอยู่รับกับตัวอาคารที่เป็นฉากหลังอย่างสง่างาม ภายในจัดแสดงผลงานศิลปะโบราณในช่วงสมัยศตวรรษที่17-19 อันมีชื่อเสียง อาทิเช่น ภาพเขียนของ Adolph Menzel รูปปั้นคู่ของ Princesses Luise และ Friederike of Prussia โดยฝีมือของ Johann Gottfried Schadow ภาพเขียนสีน้ำมันชื่อ Monk by the Sea โดย Caspar David Friedrich ศิลปินชาวเยอรมัน และภาพเขียนสีน้ำมันชื่อ In Summer โดย Pierre-Auguste Renoir เป็นต้น
พิพิธภัณฑ์นอยเอส เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
พิพิธภัณฑ์นอยเอส (Neues Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งที่สองที่ถูกสร้างขึ้นบนเกาะพิพิธภัณฑ์ (Museum Island / Museumsinsel) กลางแม่น้ำชเปร (Spree) ในกรุงเบอร์ลิน ปัจจุบันที่นี่จัดแสดงของล้ำค่าหาชมได้ยากกว่า 9,000 ชิ้น โดยแบ่งออกเป็นสามโซน ได้แก่ ผลงานศิลปะและของสะสมของชาวอียิปต์โบราณ สิ่งของโบราณที่มีอายุก่อนประวัติศาสตร์ และผลงานศิลปะของกรีกโรมันโบราณ ซึ่งสิ่งเหล่านี้นับเป็นชิ้นส่วนสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ได้จากการสำรวจพบจากดินแดนของยุโรป และดินแดนตะวันออกกลางในอดีต บางส่วนมีอายุตั้งแต่ก่อนยุคหินไปจนถึงยุคกลาง ตัวอย่างสิ่งที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากเช่น ประติมากรรมจำลองราชินีเนเฟอร์ตีติ (Nefertiti Bust) รูปสลักกรีนเฮด (Green Head) จารึกต่างๆ บนกระดาษปาปิรุส (Papyrus texts) จากดินแดนอียิปต์โบราณ รวมถึงสิ่งที่เก่าแก่ที่สุดอย่างขวานโบราณอายุ 700,000 ปีจากยุคหินเก่า เรียกได้ว่าพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นแหล่งรวบรวมวิวัฒนาการทางด้านศิลปะ และสถาปัตยกรรมของมนุษย์ในแต่ละยุคสมัยจากดินแดนเกือบทั่วโลกเอาไว้ในที่เดียว
พิพิธภัณฑ์อัลเทส เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
พิพิธภัณฑ์อัลเทส (Altes Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์เก่าแก่ และเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกในจำนวนห้าพิพิธภัณฑ์ ที่ถูกสร้างขึ้นบนเกาะพิพิธภัณฑ์ (Museum Island / ภาษาเยอรมันคือ Museumsinsel) กลางแม่น้ำชเปร (Spree) ในกรุงเบอร์ลิน ตัวอาคารมีความอลังการโดดเด่น สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้ที่มาเที่ยวชม เพราะถูกสร้างโดยอิงแบบจากวิหารแพนธีออน (The Pantheon) ในกรุงโรม (Rome) ด้วยสถาปัตยกรรมกรีกโรมันโบราณ (Neoclassical architecture) ในรูปแบบเสาหินขนาดมหึมาจำนวนสิบแปดต้นเรียงรายทอดยาวสร้างความโอ่อ่าให้กับตัวอาคาร รวมถึงขั้นบันไดหินกว้าง และภายในห้องโถงทรงกลมขนาดใหญ่รายล้อมด้วยรูปสลักโบราณ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นแหล่งสะสมโบราณวัตถุอันน่าทึ่งมากมายจากกรีซ (Greece) โรมัน (Roman) และอีทรัสคัน (Etruscan) ในช่วงศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาล มีตั้งแต่สมบัติชิ้นเล็กชิ้นน้อยอย่าง เหรียญ เครื่องประดับ แจกัน ไปจนถึงผลงานศิลปะและประติมากรรมขนาดใหญ่ เช่น ผลงานประติมากรรมศีรษะของซีซาร์ (Caesar) และพระนางคลีโอพัตรา (Cleopatra) เป็นต้น พิพิธภัณฑ์อัลเทสได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก (UNESCO World Heritage Site) ในปีค.ศ. 1993 และเกาะพิพิธภัณฑ์ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก (UNESCO World Heritage Site) เช่นกันในปีค.ศ. 1999
พิพิธภัณฑ์เพอร์กามอน เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
พิพิธภัณฑ์เพอร์กามอน (Pergamon Museum / Pergamonmuseum) เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งที่ห้าตั้งอยู่บนเกาะพิพิธภัณฑ์ (Museum Island) กลางแม่น้ำชเปร (Spree) ในเมืองเบอร์ลิน พิพิธภัณธ์แห่งนี้เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้ที่หลงใหลในโบราณสถานและโบราณวัตถุ เพราะได้เก็บรักษาและรวบรวมสิ่งที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของตะวันออกโบราณ อิหร่าน คาบสมุทรแถบเอเชียตะวันตก อียิปต์ และดินแดนยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีทั้งโบราณวัตถุและโบราณสถานที่เคยยิ่งใหญ่รุ่งเรืองในยุคหลายร้อยปีก่อนและหลังคริสตกาล บางส่วนผุพังและได้รับความเสียหายไปตามกาลเวลา แต่เมื่อถูกค้นพบ จึงได้รับการบูรณะซ่อมแซมแล้วย้ายมาเก็บรักษาไว้ที่นี่ ตัวอย่างเช่น ประตูเมืองอิชตาร์แห่งนครบาบิโลน (Ishtar Gate of Babylon) แท่นบูชาเพอร์กามอน (Pergamon Altar) อายุ 150 ปีก่อนคริสตกาล ของกรีกโบราณ (ส่วนนี้ปิดปรับปรุงถึงปี 2024) ประตูตลาดมิเลตุส (Market Gate of Miletus) ช่วงศตวรรษที่ 2 หลังคริสตกาลในสมัยโรมัน และกำแพงหินมัชชาตาฟาเคด (Mschatta Façade) หนึ่งในชิ้นส่วนโบราณสถานของปราสาทในทะเลทรายประเทศจอร์แดนที่สะท้อนศิลปะของชาวอิสลามโบราณ ดังนั้นสิ่งที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จึงนับว่ามีคุณค่ามหาศาล คุ้มค่าต่อการเข้าชม เพราะไม่สามารถหาดูได้จากที่ไหนได้อีก
พิพิธภัณฑ์โบด เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
พิพิธภัณฑ์โบด (Bode Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งที่สี่ในห้าพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ตั้งอยู่บนเกาะพิพิธภัณฑ์ (Museum Island / Museumsinsel) กลางแม่น้ำชเปร (Spree) ใจกลางกรุงเบอร์ลิน ซึ่งเกาะนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) World Heritage Sites ในปี ค.ศ. 1999 พิพิธภัณฑ์โบดตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดบนเกาะพิพิธภัณฑ์ เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากบรรดานักท่องเที่ยวผู้หลงใหลในผลงานศิลปะ เพราะที่นี่จัดแสดงผลงานประติมากรรม ชุดสะสมเหรียญโบราณ และผลงานศิลปะในยุคไบแซนไทน์ (Byzantine Art) ในช่วงศตวรรษที่ 13 ถึง 18 อันเก่าแก่ ทรงคุณค่า และหาดูได้ยากไว้อย่างมากมาย
อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ เกาะลิเบอร์ตี้ เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ (Statue of Liberty) โดดเด่นอยู่บนเกาะลิเบอร์ตี้ (Liberty Island) กลางแม่น้ำฮัดสัน เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองนิวยอร์กและสหรัฐอเมริกา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกประเภทมรดกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโก ในปี ค.ศ. 1984 นอกจากจะเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญแล้วอนุสาวรีย์แห่งนี้ยังเป็นตัวแทนของอิสรภาพและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวอเมริกันอีกด้วย
สะพานบรูคลิน เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
สะพานบรูคลิน (Brooklyn Bridge) เป็นสะพานแขวนขึงลวดแห่งแรกของโลกและเก่าแก่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา เป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างเมืองนิวยอร์ก แมนฮัตตัน ไปยังเมืองบรูคลินโดยข้ามแม่น้ำอีสต์ สะพานนี้เป็นแลนด์มาร์คทางประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ด้วยความยิ่งใหญ่และความสวยงามของสะพานข้ามแม่น้ำที่กว้างใหญ่เป็นที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกต้องมาเยี่ยมชมอยู่เสมอ
สถานีรถไฟแกรนด์เซ็นทรัล เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
สถานีรถไฟแกรนด์เซ็นทรัล (Grand Central Terminal) เป็นสถานีรถไฟชุมทางทั้งบนดิน ใต้ดิน และรถประจำทางที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา อาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบ Beaux-Arts ที่ผสมผสานระหว่างศิลปะนีโอคลาสสิก โกธิคและเรอเนสซ็องส์ที่นิยมในประเทศฝรั่งเศสยุค 1830 ถึงปลายศตวรรษที่ 19 เห็นได้จากความสวยงามทั้งภายนอกและภายในสถานี นอกจากนี้นาฬิกา 4 ด้านตรงจุดประชาสัมพันธ์ยังเป็นสัญลักษณ์และเป็นจุดนัดพบของใครหลายคนจนมีคำพูดที่ว่า “พบฉันได้ที่หอนาฬิกา!”
วู้ดเบอร์รี่ คอมมอน พรีเมียม เอาท์เล็ต เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
วู้ดเบอร์รี่ คอมมอน พรีเมียม เอาท์เล็ต (Woodbury Common Premium Outlet) เป็นจุดหมายในการท่องเที่ยวของเหล่านักช้อปแห่งหนึ่ง เพราะที่นี่เป็นเมืองช้อปปิ้งเอาท์เล็ตขนาดใหญ่ที่ยาวต่อเนื่องกันมากที่สุดที่หนึ่งของนิวยอร์ก เป็นศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังไว้กว่า 200 ร้าน ร้านจากดีไซเนอร์ชื่อดังกว่า 220 ร้านมาลดราคา 25% - 65% หรือจะเลือกเดินชมร้านค้าที่สวยงามหรูหราในบรรยากาศแบบธรรมชาติก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน
พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน (Metropolitan Museum of Art) หรือ The Met เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ดีที่สุดและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา จัดแสดงงานศิลปะกว่าสองล้านชิ้นที่มีอายุกว่า 5,000 ปีจากทั่วโลกทั้งที่มาจากยุโรป แอฟริกา และเอเชีย เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์มีชีวิตอยู่บนพื้นที่กว่าสองล้านตารางฟุต ยาวประมาณ 1 ใน 4ไมล์ ด้วยความงามของอาคารศิลปะโกธิคแบบดั้งเดิม ด้านหน้าตึกและภายในโถงหลักเป็นศิลปะ Beaux-Arts สไตล์ฝรั่งเศส ทำให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถูกเปรียบเป็นพระราชวังสาธารณะแห่งเมืองนิวยอร์ก
ตึกเอ็มไพร์สเตท เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
ตึกเอ็มไพร์สเตท (Empire State Building) เคยได้ชื่อว่าเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกระหว่างปี ค.ศ.1931-1970 ปัจจุบันก็ยังคงโดดเด่นอยู่ท่ามกลางมหานครนิวยอร์กด้วยการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์มีความสวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน ตึกนี้ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นชมวิวแบบเปิดโล่งที่ชั้น 86 และ 102 ด้วย ซึ่งสามารถมองเห็นสถานที่สำคัญๆ ภายในเมืองนิวยอร์กได้ไกลแบบ 360 องศา และยังสามารถมองได้ใกล้ด้วยกล้องส่องทางไกลกำลังสูงอีกด้วย
ตึกแฟลตไอออน เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
ตึกแฟลตไอออน (Flatiron Building) ตึกสูงระฟ้าตึกหนึ่งในเมืองนิวยอร์กที่มีชื่อเสียงด้วยรูปร่างของตึกที่ไม่เหมือนกับตึกใดในย่านนี้ นั่นคือเป็นรูปสามเหลี่ยมคล้ายกับเตารีดโบราณจนเป็นที่มาของชื่อตึก และเป็นหนึ่งในตึกสูงโดดเด่นที่เรียงรายอยู่บนถนนสายหลักของเมืองนิวยอร์กที่ดึงดูดสายตาของนักท่องเที่ยวให้ต้องมาเยี่ยมชม
โซโห เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
ย่านโซโห (Soho) เป็นย่านการค้าเก่าแก่แห่งหนึ่งของเมืองนิวยอร์ก มีจุดเด่นคืออาคารสถาปัตยกรรมเหล็กหล่อ (Cast-Iron) ซึ่งเป็นที่นิยมในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ภายในอาคารเป็นร้านแบรนด์เนมชื่อดังระดับไฮ-เอนด์และภายนอกก็มีสินค้าให้นักท่องเที่ยวได้ช้อปปิ้งแทบทุกประเภท เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในยามค่ำคืนทั้งภัตตาคาร ร้านอาหาร และบาร์ บางร้านยังเปิดเป็นจุดชมวิวอีกด้วย
อาคารรัฐสภาออสเตรีย เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
อาคารรัฐสภาออสเตรีย (Austrian Parliament) อาคารที่มีสถาปัตยกรรมงดงามอีกแห่งหนึ่งของประเทศออสเตรีย ซึ่งเป็นที่ประชุมสภาออสเตรียมานับตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ในช่วงเวลาการปกครองโดยจักรพรรดิฟรันซ์ โยเซฟ
โรงอุปรากรเวียนนา เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
โรงอุปรากรเวียนนา (Vienna State Opera) เป็นโรงอุปรากรที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ด้านหน้าของอาคารเป็นสถาปัตยกรรมในสไตล์เรอเนสซองส์ ภายในตกแต่งแบบปิดทอง และประดับประดาด้วยรูปปั้นเชิงสัญลักษณ์ บนเพดานมีภาพวาดที่มีความงดงามชวนหลงใหล
ศาลาว่าการกรุงเวียนนา เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
ศาลาว่าการกรุงเวียนนา (Vienna City Hall) เป็นหนึ่งในอาคารที่สวยงามที่สุดในบรรดาอาคารเก่าแก่จำนวนมากในกรุงเวียนนา ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่มีความงามสง่าทั้งภายนอกและภายในของตัวอาคาร ผสานกับบรรยากาศโดยรอบที่รื่นรมย์ ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมีโอกาสไปเยือนนครแห่งศิลปะแห่งนี้
สวนโฟล์กการ์เทน เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
สวนโฟล์กการ์เทน (Volksgarten) หรือ People's Garden เป็นสวนสาธารณะในเขต Innere Stadt แห่งแรกของกรุงเวียนนา โดยสวนนี้เป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังฮอฟบูร์ก มีการจัดตกแต่งสวนที่สวยงาม เหมาะสำหรับการพักผ่อน เดินเล่น และถ่ายรูป
หอสมุดแห่งชาติออสเตรีย เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
หอสมุดแห่งชาติออสเตรีย (Austrian National Library) เป็นหนึ่งในห้องสมุดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยเป็นห้องสมุดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเป็นห้องสมุดสถาปัตยกรรมรูปแบบบาร็อคที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป
พิพิธภัณฑ์การ์ติเย่ เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
พิพิธภัณฑ์การ์ติเย่ (Museums Quartier; MQ) คือศูนย์กลางของคนรักงานศิลปะที่โด่งดังและเรียกว่าใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งคนในแวดวงศิลปะคงไม่มีใครไม่รู้จัก พิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 60,000 ตารางเมตรแห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับจัดการแสดงศิลปะและวัฒนธรรม ทั้งร่วมสมัยและคลาสสิกของออสเตรียและนานาชาติ
พิพิธภัณฑ์เอฟิซัส เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
พิพิธภัณฑ์เอฟิซัส (Ephesos Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงโบราณวัตถุซึ่งค้นพบจากเมืองเอฟิซัส (Ephesus) เมืองที่เคยรุ่งเรืองในสมัยกรีกโบราณซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก วัตถุที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีทั้งงานประติมากรรมปูนปั้น รูปสลักของเทพเจ้าต่างๆ ตามความเชื่อของกรีก ซากซุ้มประตูและเสาวิหาร ซึ่งเต็มไปด้วยความน่าสนใจเป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าต่อประวัติศาสตร์โลก
พิพิธภัณฑ์อัลแบร์ทินา เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
พิพิธภัณฑ์อัลแบร์ทินา (Albertina Museum) คือสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะได้ชมผลงานศิลปะต้นฉบับของรูเบินส์ (Rubens), โมเนต์ (Monet), ปิกัสโซ (Picasso), เรมบรานดต์ (Rembrandt) และศิลปินระดับโลกอีกมากมายในพระราชวังที่พำนักซึ่งยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งราชวงศ์ฮับส์บูร์ก ณ กรุงเวียนนา
โบสถ์เซนต์ชาร์ลส์ เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
โบสถ์เซนต์ชาร์ลส์ (St. Charles's Church) เป็นโบสถ์สถาปัตยกรรมรูปแบบบารอกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเวียนนาที่มีความงดงามทั้งภายนอกและภายใน ควรค่าแก่การมาเยือนและบันทึกภาพสวยๆ
มูแลง รูจ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
มูแลง รูจ (Moulin Rouge) เป็นโรงละครที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงปารีส หลายคนอาจคุ้นหูชื่อนี้จากชื่อ “มูแลง รูจ” ของภาพยนตร์อันโด่งดังในยุค 90 ด้านหน้าของโรงละครมูแลง รูจ มีสัญลักษณ์โดดเด่นคือกังหันลมสีแดงสด
พระราชวังลุกซ็องบูร์ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
พระราชวังลุกซ็องบูร์ (Palais du Luxembourg หรือ Luxembourg Palace) พระราชวังอันมีสไตล์คล้ายกับศิลปะในเมืองฟลอเรนซ์ ซึ่งเคยเป็นพระราชวังของสมเด็จพระราชินีมารี เดอ เมดิชิ แห่งพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งแห่งของเมืองปารีสที่เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจและได้ซึมซับความรู้ทางประวัติศาสตร์ไปในขณะเดียวกัน
พิพิธภัณฑ์ออร์แซ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
พิพิธภัณฑ์ออร์แซ (Musée d’Orsay หรือ Orsay Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เน้นการจัดแสดงผลงานจำนวนมากจาก ค.ศ.1848 -1914 ในศตวรรษที่ 19 โดยเป็นช่วงที่งานศิลปะแนวอิมเพรสชั่นนิสม์เฟื่องฟูอย่างมาก ซึ่งเอกลักษณ์และความน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือดัดแปลงมาจากสถานีรถไฟเก่า จึงมีห้องโถงยาวๆ สวยงามสำหรับจัดแสดงนิทรรศการต่างๆ
ซาเคร-เกอร์ บาซิลิก้า เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ซาเคร-เกอร์ บาซิลิก้า (Basilica of the Sacred Coeur หรือ The Basilica of the Sacred Heart of Paris) หรือ บาซิลิก้า วิหารในคริสตจักรโรมันคาทอลิก สถานที่ที่ถูกขนานนามว่าเป็น “หัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของปารีส” เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมที่ตั้งอยู่บนยอดเนินเขามงมาร์ต (La butte Montmartre) แห่งเมืองปารีส
จัตุรัสคองคอร์ด เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
จัตุรัสคองคอร์ด หรือ ปลัส เดอ ลา กงกอร์ (Place de la Concorde) เป็นจัตุรัสที่กว้างขวางที่สุดในกรุงปารีส จัตุรัสแห่งนี้เป็นสถานที่แห่งความทรงจำทางประวัติศาสตร์การนองเลือดครั้งใหญ่ในกรุงปารีส เป็นสัญลักษณ์ของสงครามกลางเมืองและการปฏิวัติการปกครองของฝรั่งเศสที่ไม่อาจลืมเลือน
สะพานปงอาแล็กซ็องดร์-ทรัว เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
สะพานปงอาแล็กซ็องดร์-ทรัว (Pont Alexandre-III) หรือ สะพานอะเลคซันดร์ที่ 3 เป็นสะพานโค้งพาดผ่านแม่น้ำแซน เชื่อมต่อทั้งสองฝั่งแม่น้ำด้านฝั่งหอไอเฟลกับฝั่งช็องเซลีเซเข้าด้วยกัน โดยได้ถูกกล่าวขานว่าเป็นสะพานที่ประดับประดาไปด้วยงานศิลปะชั้นเลิศ และหรูหราที่สุดในปารีส โดยในปัจจุบันได้ขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์แห่งฝรั่งเศส
9 มุมสวยถ่ายภาพสะพานชาร์ลส์ เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) แลนด์มาร์กหลักประจำย่านเมืองเก่า ที่ถูกใช้เป็นเส้นทางสัญจรข้ามไปมาระหว่างฝั่งตะวันออกกับฝั่งตะวันตกของเมืองมายาวนานหลายร้อยปี จนถูกยกให้เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่ทรงคุณค่า และมีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของสาธารณรัฐเช็ก ไม่ว่าจะเป็นลักษณะทางสถาปัตยกรรมของตัวสะพาน ประติมากรรมที่ตั้งอยู่บนสะพาน โลเคชั่นของตัวสะพานซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพของย่านเมืองเก่าได้แบบครอบคลุม เกิดเป็นมุมถ่ายรูปสวยๆ หลากหลายจุดทั่วสะพานชาร์ลส์ ที่สามารถมาตระเวนถ่ายรูปกันได้ทั้งวัน
หอสะพานเลซเซอร์ เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
หอสะพานเลซเซอร์ (Lesser Town Bridge Tower) หอสะพานที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่ย่านเมืองเก่าฝั่งตะวันตก ที่มีความเงียบสงบ และมีความเป็นชุมชนมากกว่าย่านเมืองเก่าฝั่งตะวันออก ซึ่งเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว ทำให้เป็นย่านที่มีเสน่ห์ และความเงียบสงบกำลังดี
โบสถ์เซนต์นิโคลัส แคทแฮดรัล เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
โบสถ์เซนต์นิโคลัส แคทแฮดรัล (St.Nicholas Cathedral) โบสถ์ที่ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่าฝั่งตะวันตก หลังนี้ เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมสไตล์บาโรก (Baroque) ที่งดงาม และเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์ ไม่แพ้สถาปัตยกรรมในย่านเมืองเก่าฝั่งตะวันออก ทั้งยังเป็นศูนย์รวมจิตใจ ตลอดจนพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมทางศาสนาหลักของคนในพื้นที่ด้วย
ห้องสมุดเคลเมนตินัม เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
ห้องสมุดเคลเมนตินัม (Klementinum Library) หอสมุดแห่งชาติของสาธารณรัฐเช็ก ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1722 ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัย Jesuit University ที่ตั้งอยู่ในเมืองปราก โดยเป็นหอสมุดสไตล์บาโรก (Baroque) ที่ได้รับการยอมรับว่าสวยงาม และทรงคุณค่าที่สุดแห่งหนึ่งของสาธารณรัฐเช็ก
อาคารเต้นรำ เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
อาคารเต้นรำ (Dancing House) สถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางความคลาสสิกของเมืองปรากอย่างโดดเด่น ตัวอาคารมีลักษณะโค้งงอ ที่ได้แรงบันดาลใจในการสร้างมาจากสรีระร่างกายของนักเต้นชายหญิง และยังแฝงไปด้วยนัยยะทางการเมืองของสาธารณรัฐเช็กด้วย อีกทั้งภายในอาคารยังมีร้านอาหารฝรั่งเศสชื่อดัง ที่มีอาหารอร่อยๆ ให้เลือกกินหลากหลาย
หอสะพานเมืองเก่า เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
หอสะพานเมืองเก่า (Old Town Bridge Tower) สร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นหนึ่งในจุดสังเกตหลัก ก่อนเข้าสู่เขตแดนของเมืองปราก เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างสไตล์โกธิค (Gothic) ที่งดงาม และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง ตัวหอคอยประดับไปด้วยประติมากรรม กับตราสัญลักษณ์ประจำเมือง ผลงานภาพเขียนสำคัญ ฯลฯ ทำให้หอคอยแห่งนี้ เป็นทั้งสถาปัตยกรรมที่สวยงาม อนุสรณ์สถานสำคัญทางประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์แสดงผลงานศิลปะ ในที่เดียวเลย
สะพานชาร์ลส์ เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) เป็นสะพานที่ทำหน้าที่เชื่อมระหว่างฝั่งตะวันออก กับฝั่งตะวันตกของเมืองปราก มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1375 ตัวสะพานมีความยาวถึง 621 เมตร และในสมัยก่อนถูกใช้สำหรับการสัญจรไปมาสำหรับพระราชวงศ์เท่านั้น ปัจจุบันสะพานแห่งนี้ถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ ที่มีนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชมกันหนาแน่นทุกวัน เพราะนอกจากความสวยงามทางสถาปัตยกรรมแล้ว ตัวสะพานยังนับเป็นจุดชมวิวเมืองปรากที่สวยงาม และเต็มไปด้วยมุมสวยๆ ให้เดินถ่ายรูปกันได้ทั้งวัน
ศาลาว่าการเมืองเก่า เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
ศาลาว่าการเมืองเก่า (Old Town Hall) แลนด์มาร์กสำคัญแห่งหนึ่งของย่านเมืองเก่า ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1338 ประกอบไปด้วยกลุ่มอาคารสไตล์โกธิค (Gothic) กับเรอเนสซองส์ (Renaissance) ปัจจุบันศาลาว่าการแห่งนี้เหลืออยู่เพียง 5 หลัง และมีหอคอยประจำศาลาว่าการที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และสิ่งประดิษฐ์ทรงคุณค่าระดับโลก ที่น่าไปเยี่ยมชมที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง
เพ็ตทรีน ทาวเวอร์ เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
เพ็ตทรีน ทาวเวอร์ (Petrin Tower) หอคอยสังเกตการณ์ ที่มีโครงสร้างเป็นเหล็ก ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างมาจาก หอไอเฟล (Eiffel Tower) ของประเทศฝรั่งเศส ตัวหอคอยถูกยกให้เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่ดีที่สุด แห่งหนึ่งของเมืองปราก โดยตั้งอยู่บนเนินเขาเพ็ตทรีน (Petrin) ที่เต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว ดูร่มรื่น ซึ่งในแต่ละวัน จะมีนักท่องเที่ยวมาชมวิวบนหอคอยไม่ขาดสาย
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (National Museum) แหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ และครอบคลุมที่สุดแห่งหนึ่งของสาธาณรัฐเช็กซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองปราก ตัวอาคารหลักของพิพิธภัณฑ์ออกแบบสไตล์นีโอ เรอเนสซองส์ (Neo-Renaissance) ที่สวยงาม หรูหรา รวมถึงบริเวณรอบพื้นที่ ยังมีพิพิธภัณฑ์ย่อยอีกหลายแห่ง ที่มีความงดงามทางสถาปัตยกรรม และเรื่องราวน่าสนใจให้ได้ไปศึกษามากมาย
ย่านจัตุรัสเมืองเก่า เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
ย่านจัตุรัสเมืองเก่า (Old Town Square) คือศูนย์กลางสำคัญ ในทุกด้านของเมืองหลวงอย่างปราก ไม่ว่าจะเป็นสถานีขนส่งสาธารณะ โรงแรม ร้านอาหาร ตลอดจนสิ่งก่อสร้างที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งกระจายตัวอยู่ทั่วพื้นที่ ทำให้ในแต่ละวัน พื้นที่แห่งนี้เป็นแหล่งรวมตัวของนักท่องเที่ยว ที่คึกคักที่สุดของเมือง ทั้งยังมีคนพื้นที่มาค้าขาย ประกอบกิจกรรมรื่นเริงต่างๆ จนเป็นย่านที่มีอะไรน่าสนใจ ให้ไปเที่ยวชมกันมากมาย
พระอารามสตราร์โฮฟ เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
พระอารามสตราร์โฮฟ (Strahov Monaster) พระอารามซึ่งเป็นที่รู้จักจากการมาตั้งรกรากของกลุ่มโรมันคาทอลิกในปี ค.ศ. 1143 เพื่อใช้เป็นสถานที่เผยแพร่คำสอนทางศาสนาคริสต์ ก่อนที่ต่อมาการเข้าปกครองด้วยระบบคอมมิวนิสต์จะทำให้พระอารามได้ถูกปิดตัวลง แล้วกลับมาเปิดใช้งานอีกครั้งในปี ค.ศ. 1990 โดยไฮไลท์หลักของที่นี่คือห้องสมุดสตราร์โฮฟ ที่มีอายุมากกว่า 800 ปี ภายในได้รับการออกแบบอย่างสวยงาม และมีหนังสือหายาก วัตถุโบราณ ฯลฯ นับเป็นห้องสมุดที่ใหญ่ และสวยที่สุดประจำเมืองปราก
ปราสาทปราก เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
ปราสาทปราก (Prague Castle) ปราสาทขนาดใหญ่ ที่ถูกใช้เป็นที่ประทับของเหล่ากษัตริย์ จักรพรรดิ ผู้นำสำคัญของสาธารณรัฐเช็กมายาวนานกว่า 1,000 ปี ท่ามกลางพื้นที่ 70,000 เมตร ที่มีทั้งพระราชวัง สวน โบสถ์ ฯลฯ ซึ่งเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมหลากสไตล์ ที่ถูกแต่งเติมเข้ามา ตลอดระยะเวลากว่า 1,000 ปี ตั้งแต่ปราสาทแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นมา และยังเป็นที่ตั้งของมหาวิหารเซนต์วิตัส (St.Vitus Cathedral) อันเก่าแก่ และเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์น่าสนใจ ไม่แพ้ตัวปราสาทเลยทีเดียว
โบสถ์เซนต์นิโคลัส เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
โบสถ์เซนต์นิโคลัส (St.Nicholas Church) โบสถ์ที่ได้รับการออกแบบในสถาปัตยกรรมสไตล์บาโรก (Baroque) ที่งดงาม และโดดเด่นที่สุดหลังหนึ่งในเมืองปราก ภายในได้รับการตกแต่งด้วยประติมากรรม ภาพเขียนที่แสดงถึงชีวประวัติของเซนต์นิโคลัส ตัวโบสถ์ได้รับความนิยมจากคนในพื้นที่ในการมาทำกิจกรรมทางศาสนา และยังเป็นสถานที่สำหรับจัดการแสดงดนตรีคลาสสิกจากวงดนตรีคุณภาพ ประจำเมืองปรากอีกด้วย
นาฬิกาดาราศาสตร์ เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
นาฬิกาดาราศาสตร์ (Astronomical Clock) คือสิ่งประดิษฐ์ที่ทรงคุณค่า และประวัติศาสตร์น่าสนใจ โดยสร้างขึ้นมาในปี ค.ศ. 1410 หน้าปัดนาฬิกาแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักคือ วงบนที่ใช้บอกเวลาปกติ กับวงล่างที่มีปฎิทินพร้อมจักรราศี โดยในทุกๆ ชั่วโมง จะมีนักท่องเที่ยวมารอชมการแสดงบอกเวลา ที่ดำเนินมาตลอดหลายร้อยปี ซึ่งจะเป็นการเคลื่อนไหวของรูปปั้นต่างๆ ที่ประดับอยู่รอบนาฬิกา รวมถึงกลไกที่สร้างให้อัครสาวกทั้ง 12 คนของพระเยซู ในอิริยาบถที่แตกต่างกันไป เผยออกมาบริเวณหน้าต่างเล็กๆ บนนาฬิกา เรียกว่าเป็นจุดขายที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมมากมาย
ซุ้มประตูเมือง เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
ซุ้มประตูเมือง (Powder Tower) คือหนึ่งในประตูเมืองหลัก ที่มีอยู่ 13 แห่งทั่วเมือง ซึ่งเป็นจุดแบ่งเขตสำคัญระหว่างเมืองเก่ากับเมืองใหม่ ตัวซุ้มประตูเมืองจะมีลักษณะการออกแบบสไตล์โกธิค (Gothic) ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก สถาปัตยกรรมของสะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) โดยที่นี่ยังถูกใช้เป็นสัญลักษณ์แสดงความยิ่งใหญ่ของเมืองปราก และเคยเป็นสถานที่เก็บดินปืนสำหรับทำสงครามด้วย ปัจจุบันภายในหอคอยของซุ้มประตูเมืองถูกปรับเป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกจุดของเมืองปราก
จัตุรัสเวนเชสลาส เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
จัตุรัสเวนเชสลาส (Wenceslas Square) แหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมประจำเมืองปราก ที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร โรงแรม ฯลฯ ที่ทอดยาวตลอดเส้นถนนของย่าน ทำให้เป็นอีกจุดของเมือง ที่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่านตลอดทั้งวัน และยังตั้งอยู่ใกล้ประติมากรรมสำคัญของเมืองหลายชิ้น กับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติด้วย
โบสถ์เซนต์แพทริกแคทเธอดอล เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
โบสถ์เซนต์แพทริกแคทเธอดอล (St. Patrick's Cathedral) มีความงดงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอ-โกธิคที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือโดยมียอดแหลมสูงประมาณ 100 เมตร ที่ประตูโบสถ์มีรูปปั้นสัมฤทธิ์ของนักบุญหลายท่าน และเหนือบานประตูเป็นบานหน้าต่างลายกุหลาบขนาดใหญ่ประดับกระจกสี โบสถ์แห่งนี้ได้รับการประกาศให้เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งชาติในปี ค.ศ. 1976 จึงเป็นแลนด์มาร์คที่ต้องมาชมอีกแห่งของเมืองนิวยอร์ก
ตึกร็อคกี้เฟลเลอร์เซ็นเตอร์ เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
ร็อคกี้เฟลเลอร์เซ็นเตอร์ (Rockefeller Center) ศูนย์การค้าที่ถูกออกแบบในสไตล์ Art Decoที่พัฒนาจากความคลาสสิกเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ด้วยรูปทรงเรขาคณิตที่ดูเรียบง่ายแต่แข็งแรงใจกลางเมืองนิวยอร์ก ได้เปิดจุดชมวิวบนชั้น 70 ของตึกเลขที่ 30 ที่เรียกว่า Top of the Rock ให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิวเมืองนิวยอร์กโดยไร้สิ่งบดบังแบบ 360 องศา นอกจากนี้ที่ด้านหน้าตึกยังมีลานสเก็ต (The Rink) ซึ่งในช่วงคริสต์มาสจะมีต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ที่มีดาวคริสตัล Swarovski Star อยู่บนยอดและประดับไฟ LED อย่างสวยงามตั้งอยู่
ตึกวันเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
วันเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ (One World Trade Center) ตึกสูงสวยงามโดดเด่นใจกลางเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นศูนย์กลางของ Manhattan หรือ New York Skyline แทนที่ตึกแฝด World Trade Center ที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนิวยอร์ก ตึกนี้ได้ชื่อว่าเป็นตึกสูงที่สุดของซีกโลกตะวันตกและเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่ และบนชั้น 100 ของตึกได้เปิดเป็นจุดชมวิวเมืองนิวยอร์กแบบ 360 องศา One World Observatory ให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นชมอีกด้วย
สวนสาธารณะวอชิงตันสแควร์ เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
สวนสาธารณะวอชิงตันสแควร์ (Washington Square Park) ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านกรีนวิช (Greenwich Village) บนถนน 5th Avenue ทิศตะวันตกของเกาะแมนฮัตตัน เป็นหนึ่งในสวนสาธารณะที่รู้จักกันดีจากภาพซุ้มประตูที่จัตุรัส Washington Square และน้ำพุขนาดใหญ่ที่มักพบเห็นได้จากโปสการ์ดและในภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น When Harry Met Sally, I Am Legend ฯลฯ ตั้งอยู่ใจกลางมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก บริเวณลานมักมีการแสดงความสามารถ มีการเล่นดนตรีและคอนเสิร์ตอยู่เสมอ ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของสวนเป็นสถานที่เล่นหมากรุกและที่วิ่งเล่นสำหรับสุนัข
สวนสาธารณะยูเนียนสแควร์ เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
สวนสาธารณะยูเนียนสแควร์ เป็นสวนสาธารณะเก่าแก่ที่มีอายุราว 170 ปี ตั้งอยู่เลขที่ 201 Park Ave S เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา บริเวณแยกถนนสายหลักสองสายคือ ถนน Broadway และ 4th Avenue มาบรรจบกัน ที่นี่มีประวัติศาสตร์การชุมนุมทางการเมืองมานับไม่ถ้วน ปัจจุบันยังคงใช้เป็นที่จัดการแสดงสดและชุมนุมปราศรัยแสดงความคิดทางการเมืองอยู่เสมอ
สวนสาธารณะไบรอันท์พาร์ก เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
สวนสาธารณะไบรอันท์พาร์ก (Bryant Park) สวนสาธารณะกลางเมืองนิวยอร์ก เสมือนเมืองล้อมป่าที่มีฉากหลังเป็นหอสมุดประชาชนนิวยอร์ก (New York Public Library) เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิจะมีการจัดสวนด้วยดอกแดฟโฟดิลอันเป็นสัญลักษณ์ของความเข้มแข็ง อดทน และการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ นอกจากนี้ภายในสวนยังมีกิจกรรมที่ปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาล และจุดเด่นของสวนสาธารณะแห่งนี้คือม้าหมุนคลาสสิกสไตล์ฝรั่งเศส (Le Carrousel) ที่เป็นรูปสัตว์ถึง 14 ชนิดให้บริการ
ไทม์สแควร์ และถนนบรอดเวย์ เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
ไทม์สแควร์ และถนนบรอดเวย์ (Time Square & Broadway) ศูนย์กลางความเจริญทางเศรษฐกิจและความบันเทิงของประเทศสหรัฐอเมริกา อีกทั้งเป็นแลนด์มาร์คอันดับต้นๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมแสงสียามค่ำคืนจากป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่ประดับอยู่บนตึกสูงระฟ้า นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งช็อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง และสถานที่สำหรับชมภาพยนตร์หรือละครบรอดเวย์ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์และอนุสรณ์สถานแห่งชาติ 11 กันยายน เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
พิพิธภัณฑ์และอนุสรณ์สถานแห่งชาติ 11 กันยายน (9/11 Memorial) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่สร้างความสะเทือนใจให้แก่ชาวอเมริกันและประชาชนทั่วโลกจนยากจะลืมเลือนครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์และอนุสรณ์สถานแห่งชาติ 11 กันยายน ตั้งอยู่เลขที่ 180 ถนน Greenwich เมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ถัดจากที่ตั้งเดิมของ World Trade Center มาทางแมนฮัตตัน
สวนสาธารณะเมดิสันสแควร์ เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
เมดิสันสแควร์ (Madison Square Park) สวนสาธารณะขนาดเล็กฝั่งทิศตะวันออกของถนนเมดิสันเลขที่ 5 และถนนบรอดเวย์เลขที่ 23 กลางกรุงนิวยอร์ก แม้มีพื้นที่เพียง 6.2 เอเคอร์ แต่กลับเป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่รายล้อมไปด้วยตึกสูงสวยงาม และมีชื่อเสียง
เซ็นทรัลพาร์ก เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
สวนสาธารณะเซ็นทรัลพาร์ก (Central Park) สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่สุดแห่งนิวยอร์ก เปรียบเสมือนปอดของคนเมืองที่ตั้งอยู่ใจกลางเกาะแมนฮัตตัน มีพื้นที่ประมาณ 750ไร่ เทียบได้กับสนามฟุตบอล 460 สนามต่อกัน สวนสาธารณะแห่งนี้ได้รับการจัดแต่งภูมิทัศน์สิ่งปลูกสร้างให้เข้ากับธรรมชาติอย่างลงตัว นับเป็นผลงานทางสถาปัตยกรรมชิ้นเอกในศตวรรษที่ 19 และเป็นสถานที่สำคัญแห่งแรกของนิวยอร์กในปี ค.ศ. 1974 อีกด้วย
รถรางฟรีในเมลเบิร์น เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
การเดินทางท่องเที่ยวในเมลเบิร์นเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายและสะดวก เนื่องจากตัวเมืองเมลเบิร์นนั้นมีขนาดที่ไม่ได้ใหญ่มากและผังเมืองก็สวยงามเป็นระเบียบ มากไปกว่าการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวกสบายแล้ว เมืองเมลเบิร์นยังมีรถรางสายต่างๆ ที่ให้บริการฟรี วิ่งวนรอบๆ เขตตัวเมืองผ่านสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการขึ้นลงตามจุดต่างๆ ที่เป็น Free Tram Zone ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ล่องบอลลูนในเมลเบิร์น เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
เมลเบิร์นเป็นหนึ่งในไม่กี่เมืองทั่วโลกที่สามารถเดินทางด้วยบอลลูนลมร้อน (Hot air balloon) และการล่องบอลลูนเหนือเมลเบิร์นยังเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการชมทัศนียภาพมุมสูงอันสวยงามของเมืองที่ได้รับการจัดอันดับให้หนึ่งในเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก และใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศออสเตรเลียแห่งนี้ด้วย
ทเวลฟ์ อโพสเซิล เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
ทเวลฟ์ อโพสเซิล (12 Apostles) เสาหินปูนธรรมชาติอายุนับสิบล้านปีที่มีชื่อเสียงแห่งชายฝั่งเมลเบิร์น เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศออสเตรเลีย ที่นี่คือแลนด์มาร์คสำคัญที่ใครมาถึงเมลเบิร์นแล้วต้องหาโอกาสไปชม
ไบรท์ตัน บาธติ้ง บ็อกซ์ เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
ไบรท์ตัน บาธติ้ง บ็อกซ์ (Brighton Bathing Boxes) เป็นห้องอาบน้ำสีสันสดใสกว่า 80 หลัง ที่เรียงรายกันเป็นทิวแถวสวยงามริมชายหาดไบรท์ตัน ชานเมืองของเมลเบิร์น ห้องอาบน้ำเก่าแก่จากยุควิคตอเรียนที่มีสีสันสะดุดตาริมชายหาดที่สวยงามและคลื่นลมสงบแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวหลายๆ คนหมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องเดินทางไปเก็บภาพประทับใจเมื่อมาเที่ยวเมลเบิร์น
พาเหรดเพนกวินที่เกาะฟิลลิป เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
พาเหรดเพนกวินที่เกาะฟิลลิป (Penguin Parade at Phillip Island) คือเพนกวินที่ตัวเล็กที่สุดในโลก (Little Penguin) ที่จะเดินขบวนกันขึ้นมาจากทะเลเพื่อกลับบ้านของพวกมันบนเกาะฟิลลิปในตอนเย็น ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถรอดูความน่ารักน่าเอ็นดูและธรรมชาติของเพนกวินตัวเล็กๆ เหล่านี้ได้ที่นี่
ดีเอฟโอ เซาธ์วอร์ฟ เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
ดีเอฟโอ เซาธ์วอร์ฟ (DFO South Wharf) สวรรค์ของนักช้อป ที่นี่คือศูนย์การค้าเอาต์เล็ท (Outlet Center) ขนาดใหญ่ใจกลางเมืองเมลเบิร์นที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด
ห้างมายเยอร์ เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
ห้างมายเยอร์ (Myer) เป็นห้างสรรพสินค้าชื่อดังในออสเตรเลียที่โดดเด่นด้านการค้าปลีก และปัจจุบันเรียกได้ว่าเป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุด และมีเครือข่ายสาขาครอบคลุมมากที่สุดในซีกโลกใต้
แชดสโตน เดอะแฟชั่นแคปิตอล เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
แชดสโตน เดอะแฟชั่นแคปิตอล (Chadstone - The Fashion Capital) เป็นจุดหมายปลายทางการแห่งการช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และความบันเทิงอันดับหนึ่งของออสเตรเลีย สถานที่แห่งนี้เป็นที่ที่รวบรวมสิ่งต่างๆ ที่นักช้อปต้องการไว้อย่างครบครัน
เบิร์กสตรีทมอลล์ เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
เบิร์กสตรีทมอลล์ (Bourke Street Mall) เป็นบริเวณค้าปลีกแห่งแรกของเมลเบิร์นที่เต็มไปด้วยร้านเครื่องแต่งกายและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในอาเขตที่อยู่ในรายชื่อแหล่งมรดกโลกที่เปี่ยมเสน่ห์ของเมืองเมลเบิร์น
ไชน่าทาวน์ เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
ไชน่าทาวน์ (Chinatown) เมลเบิร์น สถานที่อีกแห่งหนึ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ในช่วงการค้นพบทองคำของวิคตอเรีย ย่านที่เรียงรายไปด้วยร้านอาหารจีนอร่อยๆ และอาคารก่ออิฐที่ยังคงกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ชุมชนชาวจีนในเมลเบิร์นเอาไว้อย่างชัดเจน
ศูนย์การประชุมและแสดงนิทรรศการเมลเบิร์น เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
ศูนย์การประชุมและแสดงนิทรรศการเมลเบิร์น (Melbourne Convention Exhibition Centre) หรือ MCEC เป็นสถานที่สำหรับความคิดสร้างสรรค์และกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจของเมืองเมลเบิร์น โดยเป็นศูนย์การประชุมและแสดงนิทรรศการซึ่งมีสถาปัตยกรรมการออกแบบที่ล้ำสมัย จัดแสดงนิทรรศการและมหกรรมต่างๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจทั้งจากในและต่างประเทศ
โฮซิเออร์ เลน เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
เมลเบิร์นได้ชื่อว่าเป็นเมืองของ Stencil Art หรือ “Stencil Capital of the World” โดยเป็นที่แรกที่จัดงาน Stencil Festival in the World ในปีค.ศ. 2004 ตรอกซอยหรือถนนในเมลเบิร์นซึ่งเป็นที่แสดงผลงานกราฟิตี้นั้นมีอยู่หลายแห่งด้วยกัน หนึ่งใน Laneway จุดสำคัญๆ ของเมืองที่สามารถหาชมผลงานกราฟิตี้ชั้นดีได้คือ โฮซิเออร์ เลน (Hosier Lane)
อาคารนิทรรศการหลวง เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
อาคารนิทรรศการหลวง (Royal Exhibition Building) หนึ่งในศาลาจัดแสดงนิทรรศการที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอันเป็นทั้งที่ตั้งของอาคารรัฐสภาแห่งแรก และยังเป็นอาคารแห่งแรกในออสเตรเลียที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) อีกด้วย
พิพิธภัณฑ์เมลเบิร์น เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
พิพิธภัณฑ์เมลเบิร์น (Melbourne Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในซีกโลกใต้ เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญของออสเตรเลียที่จัดแสดงเรื่องราวตั้งแต่ยุคของผู้มาถึงเป็นกลุ่มแรก ไปจนถึงสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่หลากหลายได้อย่างน่าสนใจ และยังเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งมีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดในเมลเบิร์น
อนุสรณ์สถาน ชรีน ออฟ รีเมมบรานซ์ เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
อนุสรณ์สถาน ชรีน ออฟ รีเมมบรานซ์ (Shrine of Remembrance) เป็นอนุสรณ์สถานงามสง่า สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหล่าทหารออสเตรเลียที่ปฏิบัติหน้าที่รับใช้ชาติในสงครามโลก ตั้งอยู่โดดเด่นท่ามกลางบรรยากาศอันร่มรื่น สวยงาม เงียบสงบ และยังเป็นจุดที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองเมลเบิร์นได้แบบพาโนรามา
หอสมุดแห่งรัฐวิคตอเรีย เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
หอสมุดแห่งรัฐวิคตอเรีย (The State Library of Victoria) สถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมและเป็นสมบัติล้ำค่าทางสถาปัตยกรรมแห่งรัฐวิคตอเรีย นอกจากจะเป็นคลังความรู้หลากสาขาแล้ว หอสมุดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ซึ่งเก็บรักษาประวัติศาสตร์ของรัฐมายาวนานกว่า 150 ปี
ควีนวิคตอเรียมาร์เก็ต เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
ตลาดควีนวิคตอเรีย หรือ ควีนวิคตอเรียมาร์เก็ต (Queen Victoria Market) เป็นตลาดจำหน่ายผลิตผลสดใหม่ที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศออสเตรเลียซึ่งอยู่คู่กับผู้คนในเมลเบิร์นมากว่า 140 ปี และตลาดแห่งนี้ยังเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกแห่งชาติออสเตรเลีย (Australia's National Heritage List) อีกด้วย
อาสนวิหารเซนต์พอล เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
อาสนวิหารเซนต์พอล (St Paul’s Cathedral) เป็นอาสนวิหารที่มีความงดงามและโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมในรูปแบบนีโอ โกธิค (Neo - Gothic) เป็นทั้งศูนย์รวมความศรัทธาของชาวคริสต์ในเมลเบิร์น และเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญใจกลางเมืองที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด
สถานีรถไฟฟลินเดอร์ส สตรีท เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
สถานีรถไฟฟลินเดอร์ส สตรีท (Flinders Street Railway Station) สถานีรถไฟเก่าแก่ซึ่งเป็นศูนย์กลางการคมนาคมหลักของเมืองเมลเบิร์นที่มีสถาปัตยกรรมงดงาม โดดเด่น ด้วยตัวอาคารสีเหลือง หลังคาทรงโดม ทางเข้าออกเป็นซุ้มประตูโค้งอันเป็นเอกลักษณ์ หนังสือพิมพ์ The Telegraph ของอังกฤษเคยยกย่องให้ ฟลินเดอร์ สตรีท เรลเวย์ สเตชั่นเป็นสถานีรถไฟที่มีความสวยงามเป็นอันดับที่ 17 ของโลก
ยูเรกา สกายเด็ค เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
ยูเรกา สกายเด็ค (Eureka Skydeck) อีกหนึ่งจุดชมวิวบนตึกสูงระฟ้าใจกลางเมืองเมลเบิร์นที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นอาคารที่อยู่อาศัยที่มีความสูงอันดับ 16 ของโลกที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดหากมีโอกาสมาเยือนเมลเบิร์น
แม่น้ำยาร์รา เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
แม่น้ำยาร์รา (Yarra River) เป็นแม่น้ำสายหลักที่ไหลจากเทือกเขายาร์ราผ่านใจกลางเมลเบิร์นไปจนถึงอ่าวฮ็อบสัน (Hobsons Bay) แม่น้ำสายนี้เป็นเสมือนหัวใจหลักของเมืองเมลเบิร์น โดยช่วงที่ไหลผ่านตัวเมืองเมลเบิร์นนั้นมีสะพานข้ามแม่น้ำที่ชื่อว่า Princes Bridge ทอดข้าม เป็นบรรยากาศที่รื่นรมย์และสวยงาม เลียบสองฝั่งแม่น้ำเต็มไปร้านอาหารน่านั่ง
เมลเบิร์น สตาร์ ออพเซอร์เวชั่น วีล เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
เมลเบิร์น สตาร์ ออพเซอร์เวชั่น วีล (Melbourne Star Observation Wheel) เป็นหนึ่งในสี่ Observation Wheel หรือชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังเป็นชิงช้าสวรรค์ขนาดยักษ์แห่งเดียวในซีกโลกใต้ที่จะมอบประสบการณ์การชมทิวทัศน์มุมสูงแบบไม่เหมือนที่อื่นใดด้วยความสูง 120 เมตรจากพื้นดิน
คราวน์คาสิโน แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
คราวน์คาสิโน แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ (Crown Casino and Entertainment Complex) ไม่เพียงแต่เป็นคาสิโนระดับโลก แต่ยังเป็นศูนย์รวมความบันเทิงชั้นนำอีกแห่งหนึ่งในเมลเบิร์นที่นักท่องเที่ยวสามารถหาความเพลิดเพลินได้หลากหลายรูปแบบในที่เดียว
การเดินทางจากสนามบินฮ่องกงเข้าเมือง
สนามบินนานาชาติฮ่องกง (Hong Kong International Airport) หรือ สนามบิน เชก แลป กอก (Chek Lap Kok Airport) ตั้งอยู่ที่เกาะลันเตา (Lantau Island) เปิดให้บริการในปี ค.ศ. 1998 สนามบินแห่งนี้ทำหน้าที่เชื่อมต่อสายการบิน 120 สาย ซึ่งมีเส้นทางการบินกว่า 220 เส้นทางทั่วโลก สนามบินนานาชาติฮ่องกงห่างจากตัวเมืองฮ่องกงประมาณ 30 กิโลเมตร มีวิธีการเดินทางหลากหลายแบบให้เลือก โดยใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองประมาณ 25 - 30 นาที จากสนามบินนานาชาติฮ่องกงนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังบริเวณต่างๆ ซึ่งเป็นย่านสำคัญของเมืองฮ่องกงได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้
วัดโชเรนอิน เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดโชเรนอิน (Shoren-in Monzeki Temple) เป็นวัดของนิกายเทนไดของพุทธศาสนาญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เชิงเขาฮิกาชิยา มะของเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าของวัดโมเซกิของนิกายเทนไดในเกียวโต หัวหน้านักบวชในวัดเหล่านี้เป็นสมาชิกหลักของประเพณีราชวงศ์ บรรยากาศที่วัดมีความสงบและเงียบสงบคล้ายกับบรรยากาศของพระราชวังอิมพีเรียล ซึ่งสภาพแวดล้อมแบบนี้สามารถพบได้ในวัดโชเรนเท่านั้น
อุทยานแห่งชาติเบอลีห์เฮด เมืองโกลด์โคสต์ ประเทศออสเตรเลีย
อุทยานแห่งชาติเบอร์ลีห์เฮด (Burleigh Head National Park) เป็นพื้นที่บริเวณชายฝั่งโกลด์โคสต์ที่มีทิวทัศน์งดงามและหลากหลาย มีสภาพอากาศเย็นสบาย เหมาะสำหรับเดินเล่นหรือพักผ่อนหย่อนใจอีกแห่งหนึ่งเมื่อมาเที่ยวโกลด์โคสต์
สกายพอยต์ ออบเซอร์เวชั่น เดค เมืองโกลด์โคสต์ ประเทศออสเตรเลีย
สกายพอยต์ ออบเซอร์เวชั่น เดค (Sky Point Observation Deck) เป็นที่แรกและที่เดียวในออสเตรเลียที่นักท่องเที่ยวจะได้ชมทิวทัศน์อันสวยงามของชายฝั่งโกลด์โคสต์ไปจนถึงไบรอนเบย์ ฮินเดอร์แลนด์ (Byron Bay Hinterland) แบบ 360 องศา จากความสูงที่ 322.5 เมตร
ฟิชเชอร์แมนส์ วอร์ฟ ทาเวิร์น เมืองโกลด์โคสต์ ประเทศออสเตรเลีย
ฟิชเชอร์แมนส์ วอร์ฟ ทาเวิร์น (Fishermans Wharf Tavern) เป็นภัตตาคารที่ให้บริการดินเนอร์ในบรรยากาศสบายๆ แกล้มวิวของชายฝั่งโกลด์โคสต์ที่สวยงาม อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการลิ้มรสอาหารทะเลอร่อยๆ ในบรรยากาศที่รื่นรมย์
เมืองอินส์บรุค ประเทศออสเตรีย
อินส์บรูค (Innsbruck) เมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีทัศนียภาพที่สวยงาม มีแม่น้ำอินน์สีเขียวมรกตไหลผ่าน และโอบล้อมไปด้วยภูเขาเรียงรายทั้งเหนือและใต้ จนได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งเทือกเขาแอลป์
เมืองฮัลล์สตัทท์ ประเทศออสเตรีย
เมืองฮัลล์ทัทท์ (Hallstatt) เมืองที่ได้ชื่อว่าเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองการยูเนสโก (UNESCO) World Heritage Site ประเภท Cultural Landscape ภาพของหมู่บ้านที่มีเทือกเขาเป็นองค์ประกอบอยู่ด้านหลังแห่งนี้เป็นภาพคุ้นตาชาวโลกที่ถูกเผยแพร่มากที่สุดของประเทศออสเตรีย
เมืองซาลซ์บูร์ก ประเทศออสเตรีย
เมืองซาลซ์บูร์ก (Salzburg) เมืองเล็กๆ ในอ้อมกอดของภูเขาที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์อันงดงามแห่งนี้คือบ้านเกิดของคีตกวีเอกของโลก วูฟกังก์ อมาเดอุส โมสาร์ท (Wolfgang Amadeus Mozart) และเป็นฉากของภาพยนตร์เพลง มนต์รักเพลงสวรรค์ (The Sound of Music) ภาพยนตร์คลาสสิคตลอดกาลอันเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วโลก
แปซิฟิกแฟร์ เมืองโกลด์โคสต์ ประเทศออสเตรเลีย
แปซิฟิกแฟร์ (Pacific Fair) ศูนย์การค้าใจกลางโกลด์โคสต์ที่ใหญ่ที่สุดในรัฐควีนส์แลนด์ และเป็นหนึ่งในศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย สถานที่รวมของสินค้านานาชนิดทั้งไฮสตรีทและไฮเอนด์ รวมถึงซูเปอร์มาร์เกตและร้านอาหารในบรรยากาศแสนผ่อนคลาย
เซอเฟอร์พาราไดส์ เมืองโกลด์โคสต์ ประเทศออสเตรเลีย
เซอเฟอร์พาราไดส์ (Surfers Paradise) หนึ่งในสถานที่พักผ่อนยอดนิยมของออสเตรเลีย ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเล่นกระดานโต้คลื่น ช้อปปิ้ง หาความบันเทิงยามค่ำคืน และทำกิจกรรมสำหรับครอบครัวในช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน
พรัมบานัน เมืองยอกยาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย
พรัมบานัน (Prambanan) เป็นวัดเก่าแก่ของศาสนาฮินดูที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซีย และได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกจากองค์กร UNESCO เมื่อปี ค.ศ. 1991 แต่ละส่วนประกอบล้วนสอดแทรกปรัชญาฮินดูที่เผยแผ่ในดินแดนชวาตอนกลาง (Central Java) ปัจจุบัน วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) ประเทศอินโดนีเซีย
บุโรพุทโธ เมืองยอกยาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย
บุโรพุทโธ (Borobudur) เป็นอนุสรณ์สถานทางพระพุทธศาสนานิกายมหายานขนาดใหญ่อันดับ 1 ของโลก และได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์กร UNESCO ในปี ค.ศ. 1991 สถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระพุทธเจ้า และเป็นสถานที่สำหรับพุทธศาสนิกชนเดินทางมาแสวงบุญสู่หนทางแห่งปัญญาตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ตั้งอยู่ที่เมืองยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) ประเทศอินโดนีเซีย
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
เวียนนา (Vienna) ประเทศออสเตรีย (Austria) เมืองที่สวยงาม รุ่มรวยเสน่ห์ และเป็นที่ตั้งของสถาปัตยกรรมซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังอันเก่าแก่ สวนสาธารณะที่สวยงามเงียบสงบ พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีชื่อเสียงระดับโลก หรือถนนสายช้อปปิ้งสุดหรูบนถนนสายเก่า ที่นี่จึงนับเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางในฝันลำดับต้นๆ ของยุโรปสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
สวนสาธารณะพราเตอร์เวียน เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
สวนสาธารณะพราเตอร์เวียน (Prater Wien) คือสวนสาธารณะซึ่งเป็นที่ตั้งของสวนสนุกพราเตอร์ สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรียที่มีเครื่องเล่นมากมายและเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกวัย โดยมีสัญลักษณ์คือชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ที่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล และยังเป็นชิงช้าสวรรค์ที่เปิดให้บริการยาวนานที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย
มหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
มหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น (St. Stephen’s Cathedral) สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1147 มีเอกลักษณ์เด่นคือยอดปลายแหลมของสถาปัตยกรรมแบบโกธิค (Gothic) เป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญของเมืองเวียนนา โบสถ์แห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นทั้งผลงานศิลปะเชิงศาสนา และเป็นโบสถ์ที่สำคัญที่สุดของออสเตรีย
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ศิลปะ และ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
กรุงเวียนนาเป็นหนึ่งในเมืองประวัติศาสตร์ที่สวยที่สุดในยุโรป และนับเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของทวีป และภายใต้การปกครองของราชวงศ์ฮอฟบวร์กที่ปกครองประเทศออสเตรียเป็นเวลายาวนานกว่า 700 ปี เวียนนาจึงได้หลอมรวมเอาความคิดสร้างสรรค์จากทั่วทุกมุมโลก และสิ่งต่างๆ ได้กลายมาเป็นมรดกอันยิ่งใหญ่ในพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจหลายแห่ง รวมถึง พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ศิลปะ (Kunsthistorisches Museum) และ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ (Naturhistorisches Museum)
พระราชวังฮอฟบวร์ก เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace) เป็นพระราชวังที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ก่อสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1275 แต่เดิมคือพระราชวังฤดูหนาวของราชวงศ์ฮอฟบวร์ก ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ชั้นยอดในบริเวณที่พำนักอันเก่าแก่ของราชวงศ์ที่ทรงอำนาจแห่งออสเตรีย
พระราชวังเบลเวอเดียร์ เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
พระราชวังเบลเวอเดียร์ (Belvedere Palace) เป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงและเก็บผลงานศิลปะที่ดีที่สุดของกรุงเวียนนา และเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
พระราชวังเชินบรุนน์ เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
พระราชวังเชินบรุนน์ (Schonbrunn Palace) เป็นอาคารในสไตล์โรโคโคที่งดงามและใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรีย แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาชมมรดกโลกที่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศแห่งนี้เป็นจำนวนหลายล้านคน
บัตเตอร์ฟลายเฮ้าส์ เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
บัตเตอร์ฟลายเฮ้าส์ (Butterfly House) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในใจกลางกรุงเวียนนาที่มีชื่อเสียง เป็นบ้านของผีเสื้อเขตร้อนหลายร้อยตัวที่ได้รับการอนุรักษ์และเลี้ยงแบบปล่อยให้บินอย่างอิสระในสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่ถูกออกแบบมาอย่างเหมาะสมและสวยงาม ทั้งน้ำตก สระน้ำ และสะพานหลายแห่ง รวมกันเป็นฉากหลังแสนงดงามในอาณาจักรแห่งผีเสื้อกลางกรุงเวียนนา
กราเบน และ โคห์ลมาร์ท เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
กราเบน และ โคห์ลมาร์ท (Graben and Kohlmarkt) เป็นหัวใจของถนนช็อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดของกรุงเวียนนาที่ตั้งอยู่บรรจบกัน ตลอดสองข้างทางของถนนทั้งสองสายนี้เต็มไปด้วยร้านขายสินค้าแบรนด์เนมจำนวนมากมาย ร้านอาหาร คาเฟ่ ท่ามกลางสถาปัตยกรรมของอาคารเก่าแก่ที่ได้รับการออกแบบอย่างสวยงามหรูหรา
ตลาดแนชมาร์ก เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
ตลาดแนชมาร์ก (Naschmarkt) เป็นตลาดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงและใหญ่ที่สุดในกรุงเวียนนา เปิดมาตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 16 คนท้องถิ่นถือว่าตลาดแนชมาร์กเป็นเสมือนคลังอาหารแห่งกรุงเวียนนา เพราะตลาดเก่าแก่แห่งนี้รวบรวมทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับอาหารไว้อย่างครบครัน
เซนต์เอลิซาเบธ เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
เซนต์เอลิซาเบธ (St. Elisabeth) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของ Theresianum ใกล้กับพระราชวังเบลเวอเดียร์ (Belvedere Palace) โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1859 เป็นโบสถ์ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอ โกธิค (neo - Gothic) แห่งแรกของกรุงเวียนนา สถาปนิกผู้ออกแบบโบสถ์แห่งนี้เป็นชาวปราก (Praque) ชื่อ Hermann Bergmann โดยตัวอาคารนั้นก่อด้วยอิฐสีแดงตั้งโดดเด่นอยู่กลางจัตุรัสเล็กๆ
อนุสาวรีย์แห่งชาติ เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
อนุสาวรีย์แห่งชาติ (National Monument) เป็นสิ่งก่อสร้างเพื่อระลึกถึงความเสียสละของทหารผู้กล้าที่ต่อสู้เพื่อมาเลเซีย ประติมากรรมที่อนุสาวรีย์แห่งนี้ได้รับการบันทึกว่า เป็นประติมากรรมสัมฤทธิ์แบบกลุ่มที่สูงที่สุดในโลก (The world's tallest freestanding bronze sculpture grouping) และเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กของกรุงกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur) ประเทศมาเลเซีย
หอคอยกัวลาลัมเปอร์ เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
หอคอยกัวลาลัมเปอร์ (KL Tower) เป็นอาคารสำหรับการติดต่อสื่อสารโทรคมนาคมที่สูงอันดับ 7 ของโลก และสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความสูง 421 เมตร สถานที่แห่งนี้มีกิจกรรมมากมายสำหรับนักท่องเที่ยว ทั้งจุดชมทิวทัศน์บนยอดตึกสูง ศูนย์กีฬาเอ็กซ์ตรีมดิ่งพสุธาระดับโลก (World Basejump Centre) ห้องจัดเลี้ยง ร้านอาหาร คาเฟ่ สวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ และธรรมชาติเขตป่าฝน หนึ่งในแลนด์มาร์กของกรุงกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur) ประเทศมาเลเซีย
วัดเทียนหัว เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
วัดเทียนหัว (Thean Hou Temple) หรือ วัดเจ้าแม่ทับทิม เทพเจ้าของจีนซึ่งประชาชนเชื่อกันว่า เป็นผู้ปกปักรักษาชาวประมง วัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่และมีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาคารหลักสูง 6 ชั้น ตั้งอยู่บนถนน Jalan Klang Lama กรุงกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur) ประเทศมาเลเซีย
ยาลันอาลอร์ เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
ยาลันอาลอร์ (Jalan Alor) ถนนคนเดินที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur) ประเทศมาเลเซีย ส่วนใหญ่เปิดตั้งแต่เวลาเย็นไปจนกระทั่งดึกหรือเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยสีสันของแสงไฟตามบ้านเรือน กลิ่นและรสที่หลากหลายของอาหารพื้นเมืองและอาหารนานาชาติ รวมทั้งเสียงของผู้คนที่คึกคักจอแจ ทำให้ยาลันอาลอร์เป็นสวรรค์สำหรับนักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบอาหารข้างถนน
มัสยิดชาห์อลัมบลู เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
มัสยิดชาห์อลัมบลู (Shah Alam Blue Mosque) เป็นมัสยิดขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 ของมาเลเซีย และอันดับ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีหลังคาเป็นโดมสีฟ้า ผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบพื้นเมืองของมาเลเซียกับสถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์นได้อย่างโดดเด่นและสวยงาม หนึ่งในแลนด์มาร์กของรัฐเซอลาโงร์ (Selangor) ประเทศมาเลเซีย
พระราชวังอิสตานา เนการา เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
พระราชวังอิสตานา เนการา (Istana Negara Palace) เป็นพระราชวังแห่งชาติมาเลเซีย ที่ประทับของกษัตริย์ Yang di Pertuan Agong แม้จะไม่เปิดให้เข้าชมภายใน แต่ด้านหน้าของพระราชวังที่มีทัศนียภาพสวยงามบริเวณเนินเขา Bukit Petaling มองเห็นแม่น้ำ Klang ก็นับเป็นจุดถ่ายภาพที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งในประเทศมาเลเซีย
ปูตราจายา เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
ปูตราจายา (Putrajaya) เป็นเมืองใหม่ที่เป็นแหล่งรวมของศูนย์ราชการที่สำคัญของประเทศมาเลเซีย มีพื้นที่เกือบ 5,000 เฮกเตอร์ ห่างจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur) เมืองหลวงของประเทศมาเลเซีย ประมาณ 25 กิโลเมตร เมืองนี้มีการแบ่งเขตของศูนย์ราชการ เขตการค้า และย่านที่อยู่อาศัยอย่างเป็นระบบ มีความสมดุลของพื้นที่ส่วนที่เป็นคอนกรีตและพื้นที่สีเขียว มีทางน้ำไหลผ่านตัวเมืองไปสู่ทะเลสาบขนาดใหญ่ ถนนได้รับการออกแบบในสไตล์ตะวันตก ส่วนอาคารต่างๆ มีความผสมผสานระหว่างศิลปะตามความเชื่อของศาสนาอิสลามและสถาปัตยกรรมสมัยใหม่
บูกิตบินตัง เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
บูกิตบินตัง (Bukit Bintang) เป็นแหล่งรวมห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่และความบันเทิงที่หลากหลาย มีโรงแรมระดับ 5 ดาว ร้านอาหาร ไนต์คลับและบาร์บนตึกระฟ้า ด้วยทำเลที่ตั้งบริเวณกลางเมืองกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur) ทำให้เดินทางได้อย่างสะดวกสบาย แต่ละวันมีนักท่องเที่ยวเดินทางมามากมาย โดยเฉพาะวัยรุ่นหนุ่มสาวที่เดินทางมาพบปะสังสรรค์และเลือกซื้อสินค้า
ถ้ำบาตู เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
ถ้ำบาตู (Batu Caves) เป็นวัดและศาลเจ้าในถ้ำที่ประดิษฐานรูปปั้นเทพเจ้าตามความเชื่อของศาสนาฮินดู โดดเด่นด้วยรูปปั้นขันธกุมารที่สูงที่สุดในโลก (World's Tallest Murugan statue) ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับศาสนาฮินดูอย่างเทศกาลไทปูซัม (Thaipusam) ซึ่งจัดขึ้นเพื่อสักการะเทพเจ้าแห่งความดี ความเยาว์วัย พลังอำนาจและขจัดความชั่วร้าย
ตึกแฝดปิโตรนาส เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
ตึกแฝดปิโตรนาส (Petronas Twin Towers) เป็นหนึ่งในตึกแฝดที่เคยได้ชื่อว่ามีความสูงที่สุดในโลก เชื่อมต่อกันด้วยสะพานลอยฟ้า แต่ละตึกสูง 451.9 เมตร มี 88 ชั้น โดดเด่นสวยงามเหมาะสำหรับถ่ายภาพทั้งเวลากลางวันและกลางคืน หนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur) ประเทศมาเลเซีย
ไชน่าทาวน์ เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
ไชน่าทาวน์ (China Town) ตั้งอยู่บนถนน Petaling กรุงกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur) ประเทศมาเลเซีย เป็นย่านที่คึกคักทั้งกลางวันและกลางคืน นักท่องเที่ยวนิยมมาเลือกซื้อสินค้าของจีน ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า แว่นกันแดด งานฝีมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมุนไพรต่างๆ รวมทั้งแวะมาลิ้มลองอาหารจีนที่มีให้เลือกหลากหลายในราคาสบายกระเป๋า
จตุรัสเมอร์เดก้า เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
จตุรัสเมอร์เดก้า (Merdeka Square) หรือ Dataran Merdeka หนึ่งในแลนด์มาร์กของกรุงกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur) ประเทศมาเลเซีย เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ระลึกถึงการประกาศอิสรภาพของมาเลเซีย จุดเด่นของจัตุรัสนี้ คือ เสาธงชาติมาเลเซียที่สูงถึง 95 เมตร ซึ่งนับว่าสูงที่สุดในโลก
เกาะลังกาวี เมืองเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย
เกาะลังกาวี (Langkawi Island) ประกอบไปด้วยเกาะเล็กๆ 99 เกาะ เป็นมรดกโลกทางอุทยานธรณีแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของป่าฝนเขตร้อนที่เก่าแก่ มีทั้งถ้ำ น้ำตก และทะเลที่อุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังเป็นที่มาของตำนานความรักและคำสาปของพระนางเลือดขาว “มะห์สุหรี” (Mahsuri)
เก็นติ้งไฮแลนด์ เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
เก็นติ้งไฮแลนด์ (Genting Highlands) เป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมในวันหยุดของชาวมาเลเซีย ลักษณะเป็นรีสอร์ตแบบครบวงจรบนยอดเขาสูง ที่พัฒนาพื้นที่โดยรอบเป็นโรงแรม คาสิโน ช้อปปิ้งมอลล์ สวนสนุก และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ในวันที่อากาศแจ่มใส นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นหุบเขาสีเขียวชอุ่มของป่าฝนที่ทอดยาวไปสู่กรุงกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur)
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองไทเป ประเทศไต้หวัน
ไทเป (Taipei) เมืองหลวงของประเทศไต้หวัน ที่เต็มไปด้วยสีสันและรวบรวมเอาสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ที่น่าสนใจไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นตึกสูงระฟ้าแบบสมัยใหม่ชื่อก้องโลก ภูเขาสูงพื้นที่ธรรมชาติจุดชมวิวชั้นยอดใจกลางเมือง ย่านช้อปปิ้งแสนคึกคักที่อวลไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่น วัดจีนเก่าแก่อายุร่วมสามร้อยปีที่ผ่านสงครามมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ฯลฯ เหล่านี้คือเสน่ห์ที่กลมกล่อมและลงตัวของไทเปที่เชื้อเชิญให้ใครต่อใครอยากเดินทางไปรู้จักและลองสัมผัส
อุทยานธรณีเย่หลิว เมืองนิวไทเป ประเทศไต้หวัน
อุทยานธรณีเย่หลิว (Yehliu Geopark / 野柳地質公園) สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดนิยมของไต้หวันที่มีชื่อเสียงระดับโลก ด้วยความโดดเล่นและมีเอกลักษณ์ คือ หินรูปทรงประหลาดแปลกตา และภูมิทัศน์ที่สวยงามริมมหาสมุทร
พิพิธภัณฑ์การเดินเรือแห่งชาติออสเตรเลีย เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
พิพิธภัณฑ์การเดินเรือแห่งชาติของออสเตรเลีย (Australian National Maritime Museum) ตั้งอยู่บริเวณดาร์ลิ่งฮาร์เบอร์ (Darling Harbour) ใจกลางเมืองซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ พิพิธภัณฑ์มีลักษณะเป็นอาคารขนาดใหญ่ 2 ชั้นสีขาว สถาปนิกผู้ออกแบบอาคารพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือ ฟิลิป ค็อกซ์ (Philip Cox) แม้ว่าเดิมทีนั้นมีกำหนดวันเปิดตัวพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ในปี ค.ศ.1988 แต่ด้วยความล่าช้าในการก่อสร้าง ค่าใช้จ่ายเกินงบประมาณที่ตั้งไว้ บวกกับความขัดแย้งระหว่างรัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐบาลกลางเกี่ยวกับความรับผิดชอบด้านงบประมาณ ส่งผลให้พิพิธภัณฑ์การเดินเรือแห่งชาติของออสเตรเลียสร้างแล้วเสร็จและเปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 1991 พิพิธภัณฑ์การเดินเรือแห่งชาติของออสเตรเลียเป็นเป็นหนึ่งในหกพิพิธภัณฑ์ที่ดำเนินการโดยรัฐบาลกลาง พิพิธภัณฑ์แห่งนี้นับเป็นศูนย์กลางระดับประเทศสำหรับการเก็บรักษา จัดแสดง การวิจัย ที่เกี่ยวข้องกับโบราณคดีการเดินเรือของออสเตรเลีย ภายในพิพิธภัณฑ์มีหอประภาคารจำลองตั้งโดดเด่นกลางห้อง ตามผนังมีป้ายคำบรรยายเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ มีการจัดแสดงนิทรรศการถาวรหลากหลายน่าประทับใจ รวมถึงโปรแกรมนิทรรศการและกิจกรรมหมุนเวียน เพื่อบอกเล่าประวัติศาสตร์การเดินเรือของออสเตรเลียที่เชื่อมเรื่องราว วัตถุ ผู้คน และสถานที่ต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งประเทศออสเตรเลียเข้าด้วยกันได้อย่างน่าสนใจ
ถนนสายเก่าในจิ่วเฟิ่น เมืองนิวไทเป ประเทศไต้หวัน
ถนนสายเก่าในจิ่วเฟิ่น (Jiufen Old Street / 九份) ในอดีตเคยเป็นเหมืองทองกลางหุบเขา นับเป็นจุดหมายปลายทางหลักอีกแห่งหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวยังไทเป และต้องการสัมผัสบรรยากาศหมู่บ้านที่ยังคงอนุรักษ์ความเป็นดั้งเดิมไว้ท่ามกลางหุบเขาเขียวขจี
อ่าวกัลเวย์ เมืองกัลเวย์ ประเทศไอร์แลนด์
อ่าวกัลเวย์ (Galway Bay) ตั้งอยู่ในเมืองกัลเวย์ (Gulway) หนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดของไอร์แลนด์ เมืองแห่งนี้ได้รับเลือกให้เป็นเมืองศูนย์กลางแห่งวัฒนธรรมของยุโรปในปี ค.ศ. 2020 (European Cultural Capital 2020) ที่นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับอาหารทะเลสดๆ ดนตรีพื้นเมืองในผับและบาร์ สัมผัสวีถีชีวิตริมทะเล เรือประมงออกหาปลาและร้านค้าหลากสีสันรอบอ่าวกัลเวย์
เล็ตเตอร์เคนนี เมืองโดเนกัล ประเทศไอร์แลนด์
เล็ตเตอร์เคนนี (Letterkenny) เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่า เป็นระเบียบเรียบร้อยที่สุด (Tidiest town) ของไอร์แลนด์ ในปี ค.ศ. 2015 และเป็นเมืองอันดับต้นๆ ของ National Geographic Traveller’s Cool List ในปี ค.ศ. 2017 มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งสถานที่ทางศิลปวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ การแข่งขันกอล์ฟ การแสดง มีร้านอาหารพื้นเมือง และร้านสำหรับนักดื่มในยามค่ำคืน รวมทั้งกิจกรรมที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวทั้งแบบครอบครัว คู่รัก และแบบกลุ่ม เล็ตเตอร์เคนนีตั้งอยู่ในโดเนกัล (Donegal) ประเทศไอร์แลนด์
ปราสาทแบลร์นีย์ เมืองคอร์ค ประเทศไอร์แลนด์
ปราสาทแบลร์นีย์ (Blarney Castle) เป็นปราสาทเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 600 ปี หนึ่งในสถานที่สำคัญของโลกและสมบัติที่ยิ่งใหญ่ของไอร์แลนด์ พบกับเรื่องราวของหินในตำนาน แบลร์นีย์สโตน (Blarney Stone) บนยอดหอคอย ปราสาทยุคกลาง สวนที่สวยงาม และคฤหาสน์บารอนที่ผู้คนนับล้านทั่วโลกแวะมาเยี่ยมเยือน ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองคอร์ค (Cork) ประเทศไอร์แลนด์
ปราสาทดูเนเมส เมืองเลาอีส ประเทศไอร์แลนด์
ปราสาทดูเนเมส (Dunamase Castle) เป็นซากปราสาทหินโบราณตั้งอยู่บนเนินเขา ท่ามกลางทิวทัศน์ที่งดงามของชนบท หนึ่งในสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเยี่ยมชม แต่เดิมเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของคริสเตียนในยุคแรกเริ่มที่เรียกว่า Dun Masc หรือ Masc’s Fort ก่อนถูกยึดครองโดยชาวไวกิ้ง (Vikings) และเป็นป้อมปราการที่สำคัญในยุคแองโกล นอร์แมน (Anglo Norman) ปราสาทนี้ตั้งอยู่ที่เมืองเลาอีส (Laois) ประเทศไอร์แลนด์
ปราสาทดันลูซ เมืองบุชมิลส์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ
ปราสาทดันลูซ (Dunluce Castle) ซากปรักหักพังของปราสาทเก่าแก่ ตั้งอยู่บริเวณหน้าผาระหว่างทางไปจุดชมวิว ไจแอนท์ คอสเวย์ (Giants Causeway) สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของเมืองบุชมิลส์ (Bushmills) ประเทศไอร์แลนด์เหนือ
ดาร์ก เฮดจ์ เมืองบอลลีมันนี ประเทศไอร์แลนด์เหนือ
ดาร์ก เฮดจ์ (Dark Hedges) เป็นอุโมงค์ต้นบีช (beech trees) ที่มีบรรยากาศราวกับภาพวาด สถานที่แห่งนี้ปรากฏในภาพยนตร์และซีรีย์หลายเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่อง Game of Thrones ที่โด่งดัง นักท่องเที่ยวจึงมักจะมาแวะถ่ายภาพเมื่อเดินทางมาตามเส้นทางท่องเที่ยว Coastal Causeway หรือแวะระหว่างทางจากเมืองเบลฟาสต์ (Belfast) ไปยังเมืองดับลิน (Dublin) อุโมงค์ต้นไม้นี้ตั้งอยู่ที่เมืองบอลลีมันนี (Ballymoney) ประเทศไอร์แลนด์เหนือ สหราชอาณาจักร
ชายหาดอินช์ เมืองเคอร์รี่ ประเทศไอร์แลนด์
ชายหาดอินช์ (Inch Beach) เป็นหาดทรายขาวสะอาด มีระยะทางประมาณ 4.8 กิโลเมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนเล่นน้ำทะเล ตกปลา เล่นเซิร์ฟ พายเรือคายัค และกีฬาทางน้ำอื่นๆ รวมทั้งเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง Ryan's Daughter ที่มีชื่อเสียง ชายหาดนี้ตั้งอยู่บริเวณคาบสมุทรดิงเกิล (Dingle) เมืองเคอร์รี่ (Kerry) ประเทศไอร์แลนด์
คิลลานนีย์ ทาวน์ เมืองเคอร์รี่ ประเทศไอร์แลนด์
คิลลานนีย์ ทาวน์ (Killarney Town) เป็นจุดหมายอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไอริชและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากเป็นเมืองที่มีความพร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งร้านค้าขนาดเล็ก โรงพยาบาล โรงแรม สปา สถานที่ติดต่อธุรกิจ และธรรมชาติที่สวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุทยานแห่งชาติ Killarney National Park ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติที่เก่าแก่ที่สุดในไอร์แลนด์
อาสนวิหารเซ็นต์แพททริค เมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์
อาสนวิหารเซ็นต์แพททริค (St. Patrick’s Cathedral) เป็นวิหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองดับลิน (Dublin) และเป็นวิหารประจำชาติไอร์แลนด์ (The national cathedral of the church of Ireland) ปัจจุบัน ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวกว่า 500,000 คน นับเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในดับลิน ประเทศไอร์แลนด์
อาสนวิหารไครสต์ เชิร์ช เมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์
อาสนวิหารไครสต์ เชิร์ช (Christ Church Cathedral) ตั้งอยู่ที่เนินเขาเซ็นต์มิคาอิล (St. Michael’s Hill) เป็น 1 ใน 2 ของอาสนวิหารนิกายโปรเตแตนท์ (Protestant) ในเมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ โดดเด่นด้วยหลุมฝังศพในชั้นใต้ดิน ที่นักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบเรื่องราวทางประวัติศาสตร์นิยมมาเยี่ยมชม
หมู่บ้านอะแดร์ เมืองลิเมอริค ประเทศไอร์แลนด์
หมู่บ้านอะแดร์ (Adare Thatched Cottages) เป็นหมู่บ้านขนาดเล็กน่ารัก ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองลิเมอร์ลิค (Limerick) ประเทศไอร์แลนด์ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับวีถีชีวิตที่สุขสงบในชนบท มีกระท่อมที่พักที่มุงหลังคาด้วยฟาง กก หรือหญ้าแห้ง ชมฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ตกปลา แวะชิมอาหารพื้นเมืองที่ร้านอาหารหรือร้านกาแฟ และเลือกซื้องานฝีมือของคนในท้องถิ่น
โรงเบียร์กินเนสส์ เมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์
โรงเบียร์กินเนสส์ (Guinness Storehouse) เป็นสถานที่ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมการจัดแสดงกรรมวิธีการผลิตเบียร์ยี่ห้อกินเนสส์ แม้จะไม่ได้เปิดโรงงานให้เข้าชมจริง แต่นับได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับคนรักเบียร์ ซึ่งจะได้ชิมอาหารท้องถิ่นเลิศรส จิบเบียร์ดำเลื่องชื่อ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น และชมทิวทัศน์แบบพาโนรามาของเมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์
พระราชวังคัสตอม เมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์
พระราชวังคัสตอม (Custom Palace) หรือ เดอะ คัสตอม เฮาส์ (The Custom House) เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิค (neoclassical) แห่งศตวรรษที่ 18 ปัจจุบันใช้เป็นที่ทำการของรัฐด้านสิ่งแวดล้อม พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์
ปราสาทดับลิน เมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์
ปราสาทดับลิน (Dublin Castle) หนึ่งในสถานที่ที่มีความเก่าแก่ที่สุดของไอร์แลนด์ นอกจากจะมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์แล้ว ยังเป็นสถานที่ทรงงานเมื่อกษัตริย์เสด็จมาไอร์แลนด์ สถานที่จัดประชุมของสหภาพยุโรป และจัดแสดงคอนเสิร์ต ปัจจุบันปราสาทนี้ได้รับการดูแลอย่างเป็นทางการโดยรัฐบาลไอริช แต่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้ ภายในปราสาทเป็นทั้งแหล่งรวมงานฝีมือ งานศิลปะล้ำค่า และของใช้เก่าแก่ของเชื้อพระวงศ์ ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์
เบลฟาสต์ ซิตี้ ฮอลล์ เมืองเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ
เบลฟาสต์ ซิตี้ ฮอลล์ (Belfast City Hall) เป็นอาคารที่ว่าการเมืองซึ่งจัดแสดงนิทรรศการประวัติความเป็นมาของเมือง มีสถาปัตยกรรมตกแต่งด้วยหน้าต่างกระจกสี งานประติมากรรมที่งดงาม ตั้งอยู่ที่เมืองเบลฟาสต์ (Belfast) ประเทศไอร์แลนด์เหนือ (Northern Ireland) สหราชอาณาจักร (United Kingdom)
ไททานิก เบลฟาสต์ เมืองเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ
ไททานิก เบลฟาสต์ (Titanic Belfast) เป็นสถานที่จัดแสดงเรื่องราวความเป็นมาของเรืออาร์เอ็มเอส ไททานิก (RMS Titanic) ตามรอยภาพยนตร์ซึ่งมีชื่อเสียง ชมเรื่องราวของผู้โดยสาร ทั้งในส่วนที่เป็นตำนานและความจริง สำรวจส่วนต่างๆ ของเรือ รวมไปถึงสัมผัสบรรยากาศขณะเรือชนกับภูเขาน้ำแข็งผ่านห้องจัดแสดงในรูปแบบทั้งภาพ เสียงและกลิ่น ที่เมืองเบลฟาสต์ (Belfast) ประเทศไอร์แลนด์เหนือ (Northern Ireland) สหราชอาณาจักร (United Kingdom)
เทมเพิลบาร์ เมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์
เทมเพิลบาร์ (Temple Bar) เป็นย่านถนนคนเดินที่เป็นแหล่งวัฒนธรรมและความบันเทิง มีทั้ง ร้านขายของที่ระลึก ศูนย์ศิลปะ การแสดงโชว์ อาร์ตแกลอรี่กว่า 50 แห่ง ร้านอาหารนานาชาติที่หลากหลาย และผับสำหรับนักดื่มได้มาสังสรรค์กัน นอกจากนี้ ยังมีตลาดนัดหนังสือมือสองที่จัดขึ้นทุกๆ คืนวันเสาร์ ยกเว้นในคืนที่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย เทมเพิลบาร์แห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์
ไจแอนท์สคอสเวย์ เมืองบุชมิลส์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ
ไจแอนท์สคอสเวย์ (Giant's Causeway) เป็นแนวหินแท่งหินบะซอลต์ (basalt cliffs) กว่า 40,000 แท่ง ที่เรียงตัวลดหลั่นกันตามแนวชายฝั่งของที่ราบสูงแอนทริม (Antrim) เสาหินแต่ละแท่งมีขนาดไล่เลี่ยกัน เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 15 – 20 นิ้ว ลักษณะตั้งแต่ 3 เหลี่ยมไปจนถึง 12 เหลี่ยม เกิดจากการเย็นตัวของลาวาจากภูเขาไฟที่ระเบิดเมื่อประมาณ 60 ล้านปีก่อน สถานที่แห่งนี้ได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลก (UNESCO World Heritage) ทางธรรมชาติ ในปี ค.ศ. 1986 ตั้งอยู่ที่เมืองบุชมิลส์ (Bushmills) เขตปกครองแอนทริม (Antrim) ประเทศไอร์แลนด์เหนือ สหราชอาณาจักร
คลิฟฟ์ ออฟ โมเฮอ เมืองแคลร์ ประเทศไอร์แลนด์
คลิฟฟ์ ออฟ โมเฮอ (Cliff of Moher) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ ตั้งบอยู่ที่เมืองแคลร์ ประเทศไอร์แลนด์ มีลักษณะเป็นผาสูง เหนือมหาสมุทรแอตแลนติก เป็นสถานที่ได้รับความคุ้มครองพิเศษ (Special protected area : SPA) เนื่องจากมีสิ่งมีชีวิตที่มีความหลากหลายและหายาก นอกจากนี้ ยังมีสิ่งก่อสร้างที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อยู่ในบริเวณใกล้เคียงด้วย
กำแพงสันติภาพ เมืองเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ
กำแพงสันติภาพ (Peace Wall) เป็นกำแพงที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ ภายหลังการเกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างประชาชนชาวไอริชดั้งเดิมที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก และประชาชนที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ ซึ่งต้องการอยู่ภายใต้การปกครองของสหราชอาณาจักร กำแพงนี้ตั้งอยู่ที่เมืองเบลฟาสต์ (Belfast) ประเทศไอร์แลนด์เหนือ (Northern Ireland) สหราชอาณาจักร (United Kingdom)
บุ๊ค ออฟ เคลส์และวิทยาลัยทรินิตี้ เมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์
บุ๊ค ออฟ เคลส์ (The Book of kells) หรือพระวรสารเคลส์ เป็นคัมภีร์หนึ่งในสมบัติ อันทรงคุณค่าของยุโรปยุคกลาง เก็บรักษาอยู่ที่วิทยาลัยทรินิตี้ (Trinity College) วิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในด้านความเก่าแก่และดีที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์
สะพานฮาพเพนนี เมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์
สะพานฮาพเพนนี (Ha’ penny Bridge) เป็นสะพานคนเดินที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง ด้วยบรรยากาศอบอวลไปด้วยความโรแมนติก เหล่าคู่รักจึงมักจะจูงมือกันมาเดินเล่น เพื่อชมความงามของแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้าในยามเย็นไปจนถึงชมแสงไฟในยามค่ำคืนของเมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์
อนุสรณ์สถานซุนยัดเซน เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน
อนุสรณ์สถานซุนยัดเซน (Sun Yat Sen Memorial Hall) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในไทเป สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงและยกย่องท่านซุนยัดเซนที่ได้รับยกย่องให้เป็นบิดาของชาติ
ตลาดกลางคืนซือหลิน เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน
ตลาดกลางคืนซือหลิน เป็นหนึ่งในตลาดกลางคืนหรือ ไนต์มาร์เก็ตที่มีชื่อเสียงที่สุดของไทเป โดยในอดีตนั้นเคยเป็นทำเลท่าเรือ ศูนย์รวมการค้าขาย ภายหลังได้ถูกพัฒนาให้เป็นตลาดกลางคืน และมีนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความสนใจเดินทางมาที่นี่อย่างคึกคัก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น โดยของที่ขายส่วนใหญ่เป็นอาหาร ของทานเล่น และของใช้ คล้ายๆ กับตลาดนัดของไทย
แกลอรี่บ้านแดง เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน
แกลอรี่บ้านแดง ตั้งอยู่ที่ย่านซีเหมิน เป็นอาคารเก่าแก่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอาณานิคมของญี่ปุ่นปี ค.ศ. 1908 ออกแบบโดยนายคอนโดะ จูโระ (Condo Juro) ชาวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรมตะวันตกในขณะนั้น อาคารมีลักษณะเป็นรูปทรงแปดเหลี่ยมต่อกับอาคารรูปทรงไม้กางเขน สร้างด้วยอิฐแดง คล้ายโกดังเก็บของในยุคศตวรรษที่ 18 – 19 ว่ากันว่าที่มาของอาคารทรงแปดเหลี่ยมนี้มีความเชื่อมโยงกับความเชื่อเรื่องเลข 8 ซึ่งเป็นเลขนำโชคของชาวจีนและเป็นสัญลักษณ์แห่งการไม่สิ้นสุด และอาคารรูปไม้กางเขนก็เป็นสัญลักษณ์แห่งความสุขของชาวคริสต์นั่นเอง
พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติกู้กง เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน
พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ หรือที่เรียกกันว่าพิพิธภัณฑ์กู้กง คือสถานที่เก็บสมบัติล้ำค่าของชาวจีนที่ท่านผู้นำเจียงไคเช็คได้ขนมาจากพระราชวังต้องห้ามของจีนแผ่นดินใหญ่ในช่วงที่พ่ายแพ้สงครามกลางเมือง โดยข้าวของราว 620,000 ชิ้นเหล่านั้นมีอายุกว่า 5,000 ปี พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกู้กงจึงเป็นสถานที่ที่ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ต้องการมาเที่ยวเพื่อชมสมบัติเดิมของชาติตน
ตึกไทเป 101 เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน
ตึก 101 ไทเป (Taipei 101 / 台北 101) นับเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นที่สุดของไต้หวัน และเป็นตึกที่มีชื่อเสียงระดับโลก เรียกได้ว่าเป็นความภูมิใจของชาวไต้หวัน ทั้งสถาปัตยกรรมการก่อสร้าง การตกแต่งทั้งภายนอก และภายในที่ล้วนถูกออกแบบมาอย่างยอดเยี่ยม
วัดหลงซาน เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน
วัดหลงซาน สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1738 วัดหลงซานสร้างขึ้นตรงกับรัชสมัยของราชวงศ์ชิงจักรพรรดิเฉี่ยนหลง ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปีจึงแล้วเสร็จ และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากว่า 260 ปี วัดแห่งนี้ยังได้รับการซ่อมแซมบูรณะหลายต่อหลายครั้งด้วยกันแต่ยังคงความเป็นศิลปะโบราณไว้ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 วัดหลงซันถูกระเบิดจนพระอุโบสถได้รับความเสียหายยับเยิน แต่ "พระโพธิสัตว์กวนอิม" ที่สถิตอยู่ด้านในกลับไม่ได้รับความเสียหายเลย ด้วยเหตุการณ์ในครั้งนั้นยิ่งทำให้ผู้คนเลื่อมใสศรัทธากันยิ่งขึ้น และนอกจากวัดหลงซันจะมี "พระโพธิสัตว์กวนอิม" เป็นพระประธานหลักแล้ว ด้านหลังของพระอุโบสถยังมีเทพเจ้าต่างๆ ของลัทธิเต๋าอีกจำนวนมาก จนชาวไต้หวันได้ขนานนามวัดแห่งนี้ว่าเป็น God Shopping Mall เนื่องจากเป็นวัดที่ประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของไต้หวันและเทพเจ้าต่างๆ ไว้กว่า 165 องค์
วัดกวนตู้ เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน
วัดกวนตู้ เป็นวัดที่มีความเก่าแก่มากที่สุดทางภาคเหนือของไต้หวัน ตั้งอยู่บริเวณเนินเขา จึงสามารถมองเห็นมหาสมุทรแปซิฟิก และบริเวณโดยรอบได้อย่างงดงาม วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่สักการะเทพเจ้ามาจู่ (Matzu) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งท้องทะเล สถาปัตยกรรมนั้นมีความสวยงามแบบจีน อ่อนช้อย และประณีต อาคารแตกต่างจากวัดแห่งอื่นๆ คือมีลักษณะเป็นชั้นๆ ซ้อนกันหลายชั้น ต้องเดินขึ้นไปทีละชั้นเพื่อชมความงามของวัด บริเวณโดยรอบวัดตกแต่งด้วยเสามังกรแกะสลักและสิงโตหินหน้าตาแตกต่างกันไป ความพิเศษของวัดแห่งนี้คืออุโมงค์ที่มีความยาวกว่า 100 เมตร โดยภายในนั้นเป็นที่ประดิษฐานองค์พระขนาดใหญ่ บริเวณทางเข้าจะมีเสาให้หยอดเหรียญขอพร เชื่อว่าจะนำโชคดีและความร่ำรวยมาให้ และเมื่อเดินไปจนสุดจะพบกับระเบียงที่สามารถชมทัศนียภาพโดยรอบและมหาสมุทรที่สวยงาม
ตลาดค้าส่งเสื้อผ้าวู่เฟงปู่ เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน
ตลาดค้าส่งเสื้อผ้าวู่เฟงปู่ (Wufenpu Wholesale Market / 五分埔服飾商圈) หรือ ประตูน้ำแห่งไทเป เป็นตลาดขายส่งเสื้อผ้าที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวันที่สาวๆ นักช้อปสายแฟชั่นน้อยคนที่จะไม่รู้จัก
ภูเขาช้าง เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน
ภูเขาช้าง เป็นหนึ่งในภูเขาของสัตว์ทั้งสี่ (Four Beasts Mountain, 四獸山) อันได้แก่ ภูเขาช้าง (Xiang Shan, 象山), ภูเขาเสือ (Hu Shan, 虎山), ภูเขาสิงโต (Shi Shan, 獅山), และภูเขาเสือดาว (Bao Shan, 豹山) ซึ่งตั้งอยู่ในเขต Xinyi ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองไทเป ภูเขาช้างมีความสูง 183 เมตร หรือสูงประมาณตึก 55 ชั้น สามารถมองเห็นตึกไทเป 101 และเมืองไทเปได้อย่างชัดเจน ภูเขาแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ต้องการขึ้นไปเก็บภาพสวยๆ ของตึกไทเป 101 และทัศนียภาพโดยรอบของเมืองไต้หวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามพระอาทิตย์ตกดินที่แสงจะมีความงดงามเป็นพิเศษ ทางเดินขึ้นภูเขาช้างนั้นเป็นบันได เดินง่าย มีระยะทางราว 650 เมตร โดยใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาที เมื่อเดินขึ้นไปเรื่อยๆ จะเจอกับก้อนหินก้อนหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมปีนขึ้นไปถ่ายรูปโดยจะเห็นตึกไทเป 101 เป็นฉากหลังที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์
วัดต้าหลงตง เป่าอัน เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน
วัดต้าหลงตง เป่าอัน หรือเรียกสั้นๆ ว่า วัดเป่าอัน เป็นวัดพุทธแบบจีน เดิมทีก่อสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1804 โดยผู้ย้ายถิ่นชาวฟูเจี้ยน (Fujian) ปัจจุบันได้รับรางวัล Asia-Pacific Heritage Awards สาขา Culture Conservation จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) เมื่อปี ค.ศ. 2003 วัดต้าหลงตง เป่าอันนั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นวัดที่มีความงามวิจิตรมากที่สุดของเมืองไทเป เนื่องจากมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ทั้งตัวอาคารและการตกแต่ง จิตรกรรมฝาผนัง รูปปั้นแกะสลัก ทั้งหินและไม้ และด้วยที่ตั้งของวัดต้าหลงตง เป่าอันที่อยู่ใกล้กับวัดขงจื้อไทเป (Taipei Confucius Temple) วัดที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทเปที่นักท่องเที่ยวนิยมมาสักการะ
อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน
อนุสรณ์สถานเจียง ไคเช็ค หรือ หอรำลึกเจียง ไคเช็ค ตั้งอยู่ที่ถนนซงซาน ไทเป ไต้หวัน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองไทเป สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงประธานาธิบดีเจียง ไคเช็ค โดยใช้เวลาสร้างรวม 3 ปี มีขั้นบันไดขึ้นไปด้านบนทั้งหมด 89 ขั้น เท่ากับอายุ 89 ปีของประธานาธิบดีเจียง ไคเช็ค ภายหลังจากซุน ยัตเซน ถึงแก่อสัญกรรม เจียง ไคเช็คได้รับหน้าที่เป็นผู้นำพรรคแทน กระทั่งสามารถก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีของสาธารณรัฐประชาชนจีน และได้รับยกย่องเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงหลังรัฐบาลเจียง ไคเช็ค พ่ายแพ้ต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีน จึงได้ลี้ภัยมาตั้งรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน (ไต้หวัน) อยู่บนเกาะไต้หวันตั้งแต่ พ.ศ. 2488
วัดซิงเทียน เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน
วัดซิงเทียน (Xing Tian Temple / 行天宮) เป็นวัดแห่งเทพเจ้ากวนอูวัด หนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงและผู้คนศรัทธามากที่สุดของไทเป
สวนกันดอวจี เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
สวนกันดอวจี เป็นสวนพฤกศาสตร์ขนาดใหญ่ซึ่งประกอบไปด้วยพรรณไม้ท้องถิ่น 514 สายพันธุ์ และพรรณไม้ต่างชาติอีก 74 สายพันธุ์ นอกจากนี้พื้นที่ภายในสวนยังมีพิพิธภัณฑ์อยู่อีกสามแห่งคือพิพิธภัณฑ์ฟอสซิล พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน และพิพิธภัณฑ์ผีเสื้อ ตั้งอยู่ในเมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
สถานีรถไฟย่างกุ้ง เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า
สถานีรถไฟย่างกุ้ง เป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในประเทศพม่า และเป็นประตูสู่เส้นทางไฟหลักของประเทศที่มีระยะทางทั้งประเทศรวม 5,031 กิโลเมตร เชื่อมต่อกับเมืองทางตอนบน (เนปยีดอ มัณฑะเลย์ ชเวโบ) ต่างจังหวัด (มิตจีนา) เทือกเขารัฐฉาน (ตองยี กะลาว) และเขตชายฝั่งตะนาวศรี (เมาะลำเลิง เย) ตั้งอยู่ในเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า
มัณฑะเลย์ฮิลล์ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
มัณฑะเลย์ฮิลล์ เป็นจุดชมวิวมุมสูงที่ตั้งอยู่บนภูเขามัณฑะเลย์ความสูง 236 เมตร และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองมัณฑะเลย์ นอกจากจุดชมวิวแล้ว ด้านบนภูเขายังมีวัด วิหาร และสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายให้สักการะบูชา โดยนักท่องเที่ยวจะนิยมเดินทางขึ้นไปชมพระอาทิตย์ตกในช่วงเย็น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีความสวยงามมากที่สุด ตั้งอยู่ในเมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
พระราชวังมัณฑะเลย์ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
พระราชวังมัณฑะเลย์ เป็นพระราชวังสุดท้ายแห่งระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของพม่า ก่อนที่จะถูกทำลายโดยทหารอังกฤษ ในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง โดยตัวพระราชวังที่เห็นในปัจจุบันเกิดจากการบูรณะขึ้นมาใหม่ จนกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมืองมัณฑะเลย์ ตั้งอยู่ในเมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
วัดพระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า
วัดพระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี เป็นวัดที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไสยาสน์เจาทัตยี หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ "พระนอนตาหวาน" ซึ่งเป็นพระนอนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศพม่า องค์พระมีความยาวกว่า 66 เมตร (217 ฟุต) และเป็นหนึ่งในพระนอนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศพม่า ตั้งอยู่ในเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า
พระธาตุมุเตา หรือ เจดีย์ชเวมอดอว์ เมืองพะโค ประเทศพม่า
พระธาตุมุเตา หรือเจดีย์ชเวมอดอว์ เป็น 1 ใน 5 มหาเจดีย์สำคัญของประเทศพม่า โดยถือเป็นเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองของหงสาวดี หรือเมืองพะโค มีความเก่าแก่ยาวนานกว่า 1,000 ปี และเชื่อกันว่าภายในตัวเจดีย์เป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารริกธาตุในส่วนของพระเกศาและพระทนต์ ตั้งอยู่ในเมืองพะโค ประเทศพม่า
ทะเลสาบกันดอจี เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า
ทะเลสาบกันดอจี เป็นหนึ่งในสองทะเลสาบสำคัญในเมืองย่างกุ้ง โดยปัจจุบันถือเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจยอดนิยมของชาวเมืองย่างกุ้ง พื้นที่รอบทะเลสาบยังมีสวนสนุก พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ และสวนสัตว์ นอกจากนี้ยังถือเป็นหนึ่งในจุดที่สามารถมองเห็นเจดีย์ชเวดากองได้อย่างงดงาม ตั้งอยู่ในเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า
ตลาดสก๊อต เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า
ตลาดสก๊อต หรือเรียกอีกอย่างว่า ตลาดโบ-ยก อองซาน เป็นตลาดสำคัญของเมืองย่างกุ้ง โดยของขึ้นชื่อที่ตลาดแห่งนี้คือ “หยกพม่า” ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังถือเป็นตลาดที่มีสินค้าหลากหลายชนิดให้เลือกซื้อ ทั้งข้าวของเครื่องใช้ ของฝากของที่ระลึก เสื้อผ้า ไปจนถึงอาหาร ตั้งอยู่ในเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า
ตลาดยองอู เมืองพุกาม ประเทศพม่า
ตลาดยองอู เป็นตลาดสำคัญของเมืองพุกาม ซึ่งจำหน่ายทั้งของที่ระลึก งานฝีมือท้องถิ่น และสินค้าต่างๆ สำหรับนักท่องเที่ยว รวมถึงจำหน่ายพืชผักผลไม้ และของกินของใช้สำหรับชาวพม่าในท้องถิ่น เป็นหนึ่งในจุดช้อปปิ้งที่ได้รับความนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวในเมืองพุกาม เนื่องจากมีสินค้าที่หลากหลายและมีราคาถูก ตั้งอยู่ในเมืองพุกาม ประเทศพม่า
เจดีย์สุเล เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า
เจดีย์สุเล เป็นเจดีย์ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองย่างกุ้ง ตามตำนานระบุว่าเจดีย์ถูกสร้างขึ้นก่อนเจดีย์ชเวดากอง ในช่วงพระพุทธเจ้ายังมีพระชนม์ชีพอยู่ ทำให้เจดีย์องค์นี้เก่าแก่กว่า 2,500 ปี ตำนานระบุว่าสถานที่สำหรับก่อสร้างเจดีย์ชเวดากองได้รับการแนะนำจากนะ (วิญญาณ) เก่าแก่ของเมืองที่สถิตอยู่บริเวณตัวเจดีย์ ตั้งอยู่ในเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า
เจดีย์เมี๊ยะเซดีย์ เมืองพุกาม ประเทศพม่า
เจดีย์เมี๊ยะเซดีย์ หรือเจดีย์มรกต (Emerald Stupa) เป็นหนึ่งในเจดีย์เก่าแก่ท่ามกลางทะเลเจดีย์แห่งเมืองพุกาม และถือเป็นเจดีย์เพียไม่กี่แห่งที่ยังคงได้รับการบูรณะให้มีสีทองอร่าม และตั้งอยู่อย่างโดดเด่นท่ามกลางกลุ่มเจดีย์อื่นๆ ในบริเวณเดียวกัน ตั้งอยู่ในเมืองพุกาม ประเทศพม่า
เจดีย์ชเวสิกอง เมืองพุกาม ประเทศพม่า
จดีย์ชเวสิกอง เป็นหนึ่งในห้ามหาเจดีย์ของประเทศพม่า โดยเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุสำคัญทั้งหมด 3 ส่วน คือ พระทันตธาตุหรือพระเขี้ยวแก้ว ที่กษัตริย์แห่งศรีลังกานำมาถวาย พระธาตุกระดูกไหล่ ที่นำมาจากเมืองศรีเกษตร และพระธาตุพระนลาฏ ตั้งอยู่ในเมืองเขตเมืองเก่าพุกาม ประเทศพม่า
บอลลูนชมทะเลเจดีย์พุกาม เมืองพุกาม ประเทศพม่า
บอลลูนชมทะเลเจดีย์พุกาม เป็นหนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเยือนเมืองพุกาม ซึ่งมีชื่อเสียงจากประวัติศาสตร์และความเก่าแก่ของทะเลเจดีย์จำนวนหลายพันองค์ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยที่พุกามเคยมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมากในอดีต โดยการขึ้นบอลลูนนั้นจะได้ชมความงดงามอลังการของเมืองพุกามจากมุมสูงในยามเช้า พร้อมๆ กับดวงอาทิตย์ที่ลอยขึ้นจากท้องฟ้า
เส้นทางการเดินเรือท่องเที่ยว แพ็คเกจ C เมืองเอลนิโด้ ประเทศฟิลิปปินส์
El Nido เป็นเมืองที่อยู่ในจังหวัดปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์ ปัจจุบันถูกจัดให้เป็นหนึ่งใน ชายหาดที่สวยที่สุดในโลก เนื่องจากเอลนิโด้เต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และกิจกรรมน่าสนใจมากมายที่ทำในเอลนิโด้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม
เส้นทางการเดินเรือท่องเที่ยว แพ็คเกจ A เมืองเอลนิโด้ ประเทศฟิลิปปินส์
El Nido เป็นเมืองที่อยู่ในจังหวัดปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์ ปัจจุบันถูกจัดให้เป็นหนึ่งใน ชายหาดที่สวยที่สุดในโลก เนื่องจากเอลนิโด้เต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และกิจกรรมน่าสนใจมากมายที่ทำในเอลนิโด้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม
เมืองโบราณจูเจียเจี่ยว เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
เมืองโบราณจูเจียเจี่ยว มีฉายาว่า เวนิซตะวันออกแห่งเมืองเซี่ยงไฮ้ เป็นอีกหนึ่งย่านเก่าริมน้ำที่มีชื่อเสียงในเซี่ยงไฮ้ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1700 ปี ซึ่งพื้นที่ทั้งหมดได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี จุดเด่นขอเมืองโบราณแห่งนี้คือพื้นที่ด้านในนั้นมีแม่น้ำหลากหลายสายเชื่อมโยงไปยังพื้นที่ต่างๆ โดยรอบ ทำให้มีบรรยากาศที่สวยงามและร่มรื่น ซึ่งกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาจูเจียเจี่ยวก็คือล่องเรือชมวิวบ้านเรือนเก่าแก่ริมน้ำ ตั้งอยู่ในเขตฉิงผู่ เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
ชายหาดลับ เกาะมาตินลอค เมืองเอลนิโด้ จังหวัดปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์
Secret Beach เป็นชายหาดที่มีหน้าผาสีเทาสูงตระหง่านล้อมรอบน้ำสีใสไว้ ตั้งอยู่ที่เกาะมาตินลอค หนึ่งในเส้นทางการท่องเที่ยวของเมืองเอลนิโด้แบบทัวร์C ซึ่งเป็นสถานที่ที่ตามตำนานได้สร้างแรงบันดาลใจให้อเล็กซ์การ์แลนด์ นักเขียนนวนิยายเรื่อง “The Beach” เมื่อเขาได้มาอยู่ใน El Nido
เกาะมาตินลอค เมืองเอลนิโด้ จังหวัดปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์
Matinloc Island เป็นเกาะที่มีศาลมาตินลอค (Matinloc Shrine) หนึ่งในสถานที่สำคัญและน่าสนใจ รวมถึงเป็นหนึ่งในเส้นทางการท่องเที่ยวแบบแพ็คเกจ C. ซึ่งเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นโดยรัฐบาลเพื่อลดความแออัดของนักท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ
ชายหาด เกาะมาตินลอค เมืองเอลนิโด้ จังหวัดปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์
Hidden beach จุดสุดท้ายของเส้นทางการท่องเที่ยวทัวร์ซีที่ยอดฮิต ตั้งอยู่บน Matinloc Island เป็นชายหาดที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้ก้อนหินปูนเรียงรายที่ล้อมรอบอยู่อย่างสวยงาม
เมืองเอลนิโด้ จังหวัดปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์
El Nido City เป็นตัวเมืองหลักของ El Nido ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงมะนิลา ในจังหวัดปาลาวัน ประเทศประเทศฟิลิปปินส์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีการจัดการทรัพยากรอย่างดี ซึ่งมีหาดทรายสีขาวแนวปะการังหน้าผาหินปูนเป็นเอกลักษณ์และเป็นประตูสู่หมู่เกาะบาคุน (Bacuit)
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองดานัง-เว้-ฮอยอัน ประเทศเวียดนาม
ดานัง (Da Nang) เว้(Thua Thien Hue) และ ฮอยอัน (Hoi An) เป็น 3 เมืองอันดับต้นๆ ที่รวบรวมเอาสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเป็นชาติเวียดนามเอาไว้มากมาย ผ่านสถาปัตยกรรมที่สวยงามและมีนัยยะสำคัญทางความหมาย ทั้งจากอดีตและในปัจจุบัน หากต้องการรู้จักเวียดนาม แน่นอนว่าเราจึงไม่อาจปฏิเสธการมาเยี่ยมชมเมืองดานัง เว้ และฮอยอัน
ภูเขาหินอ่อน เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม
ภูเขาหินอ่อน (Marble Mountains) ยอดเขาสูงเหนือพื้นดิน 5 ลูก อันเป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ถูกโยงเข้ากับตำนานนางฟ้าแห่งเมืองดานัง
เจ้าแม่กวนอิม เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม
เจ้าแม่กวนอิม (Linh Ung Bai But Pagoda / Lady Buddha) รูปแกะสลักหินอ่อนสีขาว ความสูงเท่ากับตึกขนาด 30 ชั้น จุดรวมสายตาจากทุกมุมของเมืองดานัง
เมืองเก่าฮอยอัน จังหวัดกว๋างนาม ประเทศเวียดนาม
เมืองเก่าฮอยอัน (Hoi An Old Town or Hoi An Ancient Town) เมืองมรดกโลกที่ยังคงเอกลักษณ์และรักษาวัฒนธรรมไว้อย่างดีเยี่ยม
สะพานมังกร เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม
สะพานมังกร (Dragon Bridge) คือสะพานข้ามแม่น้ำฮัน (Han River) ที่เมืองดานัง ที่สุดของแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาดเมื่อแวะไปเยือนเมืองดานัง
บาน่าฮิลส์ เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม
บาน่าฮิลส์ (Ba Na Hills) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมมากที่สุดของเวียดนาม ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหมู่บ้านของฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 19
หาด 7 คอมมานโด เมืองเอลนีโด้ จังหวัดปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์
7 Commandos Beach เป็นส่วนหนึ่งของ El Nido Island Hopping Tour A ซึ่งรวมถึงสถานที่อื่นๆ ที่รวมอยู่ในแพ็คเกจทัวร์คือ Secret Lagoon, Small Lagoon, Big Lagoon และ Simizu Island โดยเป็นชายหาดที่มีความยาวสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างล้นหลาม มีทรายขาวละเอียดที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติไว้ได้อย่างสมบูรณ์ Seven Commando สถานที่ท่องเที่ยวส่วนหนึ่งของทัวร์ A ในการท่องเที่ยว ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เคยมีเรือประมงขนาดใหญ่ที่ติดอยู่ในน่านน้ำของเอล นิโด้ หลังจากที่ติดอยู่บนเรือถึง 3 วันเหล่าทหารที่ติดอยู่บนเรือก็ตัดสินใจที่จะหาเกาะที่สามารถกลายเป็นบ้านพักชั่วคราวได้ และหลังจากที่ได้มาพบเกาะนี้ พวกเขาก็ได้อาศัยอยู่ที่เกาะนี้เป็นเวลา 3 เดือนจนกระทั่งเรือได้รับการซ่อมแซมและเดินทางกลับบ้าน ภายหลังจากเกาะถูกทอดทิ้งไว้อีกครั้ง ชาวบ้านจึงค้นพบเกาะและสำรวจจนพบการแกะสลักบนก้อนหินขนาดใหญ่ว่า “Seven Commando” เชื่อกันว่าคำที่ชาวบ้านพบคือชื่อเรือประมงขนาดใหญ่ที่เคยติดอยู่บนเกาะและได้ตั้งชื่อเกาะตามการแกะสลัก
ทะเลสาบลับ เมืองเอลนิโด้ จังหวัดปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์
Miniloc Island ตั้งอยู่ในใจกลางของหมู่เกาะ Bacuit Bay ซึ่งอยู่ในเขตการปกครองของเมืองเอลนิโด้ เป็นภูมิประเทศที่สูงตระหง่านและเต็มไปด้วยชายหาดสีขาวรวมถึงทะเลสาบที่ล้อมรอบด้วยน้ำทะเลใสซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตทางทะเลที่หลากหลายและอุดมสมบูรณ์ Secret Lagoon หรือทะเลสาบลับของเกาะมินิลอค เมืองเอลนิโด้ มีชื่อเรียกมาจากการที่ทะเลสาบแห่งนี้ถูกซ่อนตัวอยู่ภายในหน้าผาสูงซึ่งเปรียบได้กับกำแพงหนาที่โอบล้อมทะเลสาบแห่งนี้ โดยการที่จะเข้าไปพบทะเลสาบลับนี้ได้ ต้องลอดผ่านช่องเล็กๆ ของหน้าผานี้ ทำให้มองผ่านๆหรือมองจากภายนอกจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามีทะเลสาบน้ำสีใสสะอาดอยู่ด้านใน ทะเลสาบแห่งนี้จึงถูกให้ชื่อว่า Secret Lagoon
สถานที่ทางประวัติศาสตร์ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เมืองปวยร์โต ปรินเซซา จังหวัดปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์
สร้างขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1940 โดยพลาซ่าคูสเทลเคยทำหน้าที่เป็นฐานที่มั่นของทหารอเมริกันและฟิลิปปินส์จนกระทั่งพวกเขาถูกบุกรุกโดยชาวญี่ปุ่น ป้อมปราการตรงนี้จึงเคยเป็นที่กำบังของเหล่านักรบที่และได้กลายเป็นเรือนจำของพวกเขาแทนในเวลาต่อมา ปัจจุบันพลาซ่าคูสเทลเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งชาติ ตั้งอยู่บนถนน Taft ใน Barangay Liwanag เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ป้อมทหารของชาวอเมริกันถูกบุกรุกโดยทหารญี่ปุ่นซึ่งนำไปสู่การสังหารหมู่ชาวอเมริกันด้วยการเผาทหารผ่านศึกทั้งเป็นในเรือนจำในอุโมงค์ ในวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.2487 มีผู้รอดชีวิต 11 ใน 143 คนสามารถหลบหนีโดยการว่ายน้ำไปที่ IWAHIG ซากศพของคนที่เสียชีวิตถูกนำตัวไปฝังไว้ที่เมืองเซนต์หลุยส์เจฟเฟอร์สันค่ายทหารสุสานแห่งชาติมิสซูรี(Jefferson Barracks Missouri)ซึ่งเป็นสุสานแห่งชาติ
ชมพระอาทิตย์ตกดินบนหาดลาคาบาน่า เมืองเอลนิโด้ จังหวัดปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์
Marimegmeg beach เป็นที่ตั้งของรีสอร์ทแห่งแรกใน El Nido ชื่อ Las Cabanas Resort ต่อมาเมื่อมีนักท่องเที่ยวได้เดินทางมายังหาดนี้จึงเริ่มสับสนและเรียกชื่อหาดเป็นชื่อรีสอร์ทเนื่องจากมีป้ายชื่อของรีสอร์ทตั้งไว้ที่ชายหาด Las Cabanas จึงมาจากชื่อของรีสอร์ท Las Cabanas Resort ที่เป็นจุดไฮไลท์ของการมาที่ชายหาดนี้ในการมาเยี่ยมชมพระอาทิตย์ตก ในปัจจุบันจึงเป็นที่เข้าใจกันว่าชื่อ Las Cabanas beach เป็นสถานที่เดียวกันกับ Marimegmeg beach
เกาะเฮลิคอปเตอร์ เมืองเอลนิโด้ จังหวัดปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์
เกาะเฮลิคอปเตอร์ ตั้งอยู่ห่างจากเอล นิโดไปทางตะวันตกประมาณ 6 กิโลเมตรหรือที่เรียกว่าเกาะ Dilumacad และเกาะปลาวาฬเนื่องจากรูปทรงจากระยะไกล เกาะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวนี้รวมอยู่ในEl Nido Tour C. เป็นเกาะที่มีความสวยงามของธรรมชาติที่มีหาดทรายสีขาวละเอียดและหน้าผากว้างล้อมรอบชายหาด เกาะเฮลิคอปเตอร์เหมาะสำหรับการว่ายน้ำ ดำน้ำตื้นและดำน้ำ
ทะเลสาบขนาดใหญ่ เมืองเอลนิโด้ จังหวัดปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์
Big Lagoon ทะเลสาบขนาดใหญ่เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับประตูทางเข้าที่งดงามซึ่งอาจเป็นฉากหลังที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายภาพมากที่สุด ทะเลสาบนี้ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะ Miniloc เมืองเอลนิโด้จังหวัดปาลาวัน ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าแห่งที่รวมอยู่ในแพ็คเกจทัวร์ท่องเที่ยวเอ
ทะเลสาบขนาดเล็ก เมืองเอลนิโด้ จังหวัดปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์
Small lagoon ทะเลสาบขนาดเล็กนี้ตั้งอยู่บน Miniloc Island เป็นหนึ่งในเป็นหนึ่งในเส้นทางการของเมืองเอลนิโด้ จัดอยู่ในกลุ่มทัวร์แบบ A โดยถูกควบคุมโดยรัฐบาลและได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยในการลดความแออัดของนักท่องเที่ยวและปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ สำหรับทางเข้าทะเลสาบเล็ก จะเป็นช่องเล็กระหว่างหินปูนสองก้อน ต้องว่ายน้ำหรือพายเรือคายัคผ่านช่องหินเข้าไปยังบริเวณของทะเลสาบที่เงียบสงบ ด้านในมีน้ำสีเขียวขุ่นของผนังหินปูนเรียงรายไปด้วยร่องรอยของสิ่งมีชีวิตทางทะเล นักท่องเที่ยวต้องระมัดระวังหินคมแ
เกาะชิมิซุ เมืองเอลนิโด้ จังหวัดปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์
ในอดีตเมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมามีกลุ่มนักดำน้ำจำนวนหลายคนได้ลงสำรวจความงามใต้ทะเลของเมืองเอลนิโด้ ซึ่งในช่วงที่กลุ่มนักดำน้ำได้เดินเข้าไปในอุโมงค์ใต้น้ำลึก มีหนึ่งนักดำน้ำได้เสียชีวิตลง กลุ่มนักดำน้ำได้ใช้เวลาหลายวันจนพบเกาะที่มีทรายขาวละเอียดและมีหินที่ก่อตัวขึ้นโอบล้อมไว้ ในช่วงเวลานั้นชาวบ้านในแถบนี้ต้องการตั้งชื่อเกาะต่างๆ และรวมถึงเกาะที่ถูกสำรวจพบนี้ด้วย เนื่องจากการเสียชีวิตของ 1 ในกลุ่มนักดำน้ำที่เป็นชาวญี่ปุ่น จึงได้ตั้งชื่อเกาะนี้ว่า “ชิมิซุ(Shimizu )” มีที่มาจากนามสกุลของนักดำน้ำคนดังกล่าวเพื่อเป็นการแสดงความไว้อาลัย
โบสถ์เซนต์ปอลเซนต์หลุยส์ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
โดยหนึ่งในชื่อเสียงอันโด่งดังของโบสถ์เซนต์ปอลเซนต์หลุยส์มาจากผลงานเรื่องเหยื่ออธรรม (Les Misérables)ของวิคเตอร์ ฮูโก้ ผู้เขียนคนค่อมแห่งนอร์ทเธอดาม ซึ่งในเรื่องเหยื่ออธรรม หนึ่งในฉากอันประทับใจอย่างฉากการแต่งงานและเสียงระฆังที่ดังกึกก้องก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโบสถ์แห่งนี้นั่นเอง ทั้งนี้โบสถ์เซนต์ปอลเซนต์หลุยส์ถือเป็นโบสถ์แห่งแรกของคณะนิกายเยซูอิด และเป็นโบสถ์แห่งแรกๆที่สร้างขึ้นโดยเน้นไปทางศิลปะบาโรกอันสวยงามมากกว่าศิลปะโกธิคที่เคยได้รับความนิยมอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง
ดิสนีย์แลนด์ เมืองปารีส, ประเทศฝรั่งเศส
ดิสนีย์แลนด์ปารีสได้ชื่อว่าเป็นสวนสนุกที่มีผู้เข้าชมมากเป็นลำดับต้นๆของยุโรป โดยจากสถิติในปี 2017 สรุปว่ามีนักท่องเที่ยวไปเยือนที่นี่ถึงกว่า 14 ล้านคน โดยแบ่งการให้บริการของสวนสนุกออกเป็น 2 ส่วนหลักๆคือ ส่วนของดิสนีย์แลนด์พาร์ก (Disneyland Park) และส่วนของสตูดิโอ (Walt Disney Studio) ซึ่งนอกจากจะมีบริการเครื่องเล่นแสนสนุกและมุมเก็บภาพสำหรับแฟนๆของดิสนีย์แล้ว ยังมีการแสดงโชว์,ขบวนพาเหรด และกิจกรรมอีกมากมายไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่เสมออีกด้วย
ปราสาทตาพรหม เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา
ปราสาทตาพรหม (Prasat Ta Prohm) เป็นหนึ่งในปราสาทโบราณที่มีเสน่ห์ชวนให้พิศวงด้วยภาพของรากไม้ที่ขึ้นปกคลุมปราสาทเอาไว้ ตั้งอยู่ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ทั้งนี้ปราสาทตาพรหมเป็นปราสาทที่ฝรั่งเศสในคราวปกครองประเทศกัมพูชาได้เลือกให้เป็นปราสาทที่จะคงสภาพก่อนบูรณะไว้ให้มากที่สุด ปราสาทแห่งนี้จึงยังมีบรรยากาศปราสาทโบราณกลางป่าที่เต็มไปด้วยไม้ใหญ่ และจากภาพอันน่ามหัศจรรย์และบรรยากาศอันลึกลับนี้เอง ทำให้ปราสาทตาพรหมถูกเลือกเป็นฉากภายในภาพยนตร์เรื่อง Tomb Raider อันโด่งดัง ทำให้ปราสาทแห่งนี้กลายเป็นที่สนใจและเป็นสถานที่ที่ต้องมาเยือนสักครั้งของนักท่องเที่ยว
ปราสาทบายน เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา
ปราสาทบายนสร้างขึ้นเนื่องมาจากความศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้าของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ผู้เป็นกษัตริย์ในขณะนั้น ปราสาทแห่งนี้จึงถือเป็นการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ของสถาปัตยกรรมที่เคยสร้างอิงตามคติของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู มาเป็นศาสนาพุทธรวมถึงการเปลี่ยนความเชื่อว่ากษัตริย์เป็นองค์อวตารของพระโพธิสัตว์แทนที่พระวิษณุหรือพระศิวะอย่างที่เคยเป็นมา จากความเชื่อนี้เอง ทำให้นักโบราณคดีเชื่อกันว่าพระพักตร์ที่แกะสลักอยู่บนปราสาทบายนนั้น น่าจะเป็นพระพักตร์ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ที่สร้างขึ้นเพื่อให้พระองค์ได้สอดส่องดูแลอาณาประชาราษฎร์อย่างทั่วถึง แต่บางส่วนก็ยังเชื่อว่าลักษณะการสร้างพระพักตร์ไว้รอบด้านอย่างนี้น่าจะหมายถึงพระพรหมด้วยเช่นกัน
นครวัด ศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา
นครวัด (Angkor Wat) เป็นปราสาทในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาพุทธ มีความงดงามของสถาปัตยกรรมที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผลงานศิลปะชิ้นเอก ตั้งอยู่ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
พนมเปญ เป็นเมืองหลวงของประเทศกัมพูชาและเป็นแหล่งรวมความทรงจำของการเปลี่ยนแปลงมากมายของประเทศเอาไว้ ทำให้พนมเปญในปัจจุบันเป็นเมืองอันมีเสน่ห์ที่นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมสถานที่แห่งประวัติศาสตร์ แวะชื่นชมศาสนสถาน ก่อนไปสนุกกับตลาดอันคึกคักของตัวเมืองได้อย่างครบรส
วัดพระแก้วมรกต (วิหารเงิน) เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
วัดพระแก้วมรกต (Wat Preah Keo Morokot )หรือที่รู้จักกันอีกชื่อในนามของวิหารเงิน (Silver Pagoda) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า วัดอุโบสถรตนาราม (Wat Ubaosoth Ratanaram) ตั้งอยู่ในเขตพระราชวังหลวงแห่งพนมเปญด้านทิศใต้ เป็นพระอารามหลวงประจำพระราชวังซึ่งไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ ทั้งนี้วัดพระแก้วมรกตเป็นพระอารามหลวงที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา แต่มีวิหารที่ประดิษฐานพระสำคัญอย่างพระแก้วมรกต , พระชินรังสีราชิกนโรดม ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องปางห้ามญาติที่สร้างด้วยทองคำหนักถึง 90 กิโลกรัม ภายในวิหารยังปูพื้นด้วยแผ่นเงินกว่า 5,000 แผ่น อันเป็นที่มาของชื่อเรียกวิหารเงินนั่นเอง รอบวิหารยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์ และสถูปบรรจุอัฐิพระมหากษัตริย์กัมพูชาในอดีตซึ่งยังเป็นที่เคารพนับถือของชาวกัมพูชาตราบจนทุกวันนี้
วัดพนม เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
วัดพนม (Wat Phnom) ตั้งอยู่ที่เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เป็นหนึ่งในวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดของกัมพูชา ตั้งอยู่บนภูเขาสูง 27 เมตรและถูกโอบล้อมด้วยสีเขียวของต้นไม้โบราณ มีประตูทางเข้าหันไปทางทิศตะวันออก นักท่องเที่ยวสามารถเข้าวัดทางหนึ่งแล้วออกอีกทางหนึ่งได้ ทางขึ้นวัดเป็นบันไดนาคที่ไม่สูงนัก และมีรูปปั้นพญานาคและสิงห์สองตัว
วัดอุณาโลม เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
วัดอุณาโลม (Wat Ounalom) หนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์โบราณห้าแห่งของกรุงพนมเปญ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโตนเลสาบ ด้านหลังสโมสรนักข่าวต่างประเทศแห่งกัมพูชา มีฐานะเป็นศูนย์กลางคณะสงฆ์ ภายในวัดนั้นโดดเด่นไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบเขมร แนวหลังคาโค้งที่ตกแต่งด้วยสีแดงและสีทอง บรรยากาศอันเงียบสงบร่มรื่น ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมพักผ่อน สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของกัมพูชาได้จากที่นี่
อนุสาวรีย์สมเด็จพระนโรดมสีหนุ เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
อนุสาวรีย์สมเด็จพระนโรดมสีหนุมีสร้างขึ้นจากทองแดง มีความสูงทั้งสิ้น 27 เมตร ใช้งบประมาณในการก่อสร้างกว่า 1 ล้านดอลล่าห์ ใช้เวลาในการก่อสร้าง 8 เดือน มีพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่ในเดือนตุลาคม ปี 2013 เนื่องจากสมเด็จพระนโรดมสีหนุ ทรงสิ้นพระชนม์ในปี 2012 ซึ่งพระองค์ได้รับการยกย่องจากชาวกัมพูชาว่าเป็นพระบิดาแห่งเอกราชของกัมพูชา เนื่องจากทรงเป็นผู้นำในการเรียกร้องเอกราชคืนจากฝรั่งเศส ดังนั้นในวันที่ 15 ตุลาคมของทุกปี รัฐบาลกัมพูชาจึงได้ประกาศให้เป็นวันหยุดราชการและมีพิธีการสักการะเพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์
อนุสาวรีย์เอกราช เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
อนุสาวรีย์เอกราชเป็นสถาปัตยกรรมลักษณะคล้ายดอกบัว สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงการหลุดจากการปกครองของประเทศฝรั่งเศสที่มีต่อกัมพูชามายาวนาน และเป็นการรำลึกถึงเหล่าวีรบุรุษที่ต่อสู้เพื่อเอกราชของประเทศ ปัจจุบันมีการประดับด้วยแสงไฟอันสวยงาม และในวันหยุดสำคัญเช่น วันประกาศอิสรภาพซึ่งตรงกับวันที่ 9 พฤศจิกายน และวันรัฐธรรมนูญซึ่งตรงกับวันที่ 24 กันยายน อนุสาวรีย์เอกราชจะเต็มไปด้วยประชาชนมากมายที่มารวมตัวกันเพื่อรำลึกถึงวันสำคัญเหล่านี้
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกัมพูชามีพื้นที่ร่วมกว่า 5,000 ตารางเมตร มีโบราณวัตถุจัดแสดงกว่าพันชิ้น และยังมีโบราณวัตถุหมุนเวียนอีกถึงหมื่นชิ้น โดยโบราณวัตถุที่สำคัญที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์มีตั้งแต่สมัยก่อนเมืองพระนคร ไปจนถึงยุคหลัง อาทิ รูปสลักหินทรายพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ผู้ยิ่งใหญ่ , รูปสลักหินทรายพระยมจากเมืองพระนครหลวง หรือภาพสลักพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรปางแสดงปาฎิหาริย์จากปราสาทบันทายฉมาร์ เป็นต้น
ตลาดโอรุสซี เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
ตลาดโอรุสซี (Orussey Market) ตั้งอยู่ที่เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด และได้รับความนิยมจากผู้คนในพื้นที่เป็นอย่างมาก รวมถึงนักท่องเที่ยวที่นิยมการเดินตามหาสินค้าในตลาด และเปรียบเทียบราคากับร้านค้าหลายร้าน ซึ่งสินค้าที่วางขายนั้นมีมากมายหลากหลายประเภท แต่ด้วยพื้นที่กว้างขวางซับซ้อน ทำให้ต้องใช้เวลาในการเดินหาสินค้าที่ต้องการ จึงไม่เหมาะต่อการซื้อแบบเร่งรีบหรือต้องการมาซื้อแค่ของฝากเท่านั้น
ตลาดกลางคืน เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
ตลาดกลางคืน เมืองพนมเปญ (Phnom) ตั้งอยู่ที่เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เป็นตลาดกลางคืนที่ได้รับความนิยมจากคนในพื้นที่ ประกอบไปด้วยร้านขายสินค้าหลากหลายประเภท และร้านอาหารมากมาย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินเล่นเลือกชมสินค้า หรือต้องการรับประทานอาหารในบรรยากาศสบาย เพราะภายในตลาดนั้น นอกจากพื้นที่ร้านค้าแล้ว ยังมีพื้นที่สำหรับนั่งพักไว้คอยบริการ ทั้งแบบโต๊ะเก้าอี้นั่ง และแบบปูเสื่อนั่งกับพื้นอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลสเลง เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
พิพิธภัณฑ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลสเลง (Tuol Sleng Genocide Museum) ตั้งอยู่ในเมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์สำคัญที่บอกเล่าถึงอดีตอันเจ็บปวดของประเทศกัมพูชาที่นักท่องเที่ยวควรหาเวลามาเยี่ยมชมสักครั้ง ทั้งนี้พิพิธภัณฑ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลสเลง หรือที่มักเรียกย่อๆว่าตวลสเลง ถูกแปรสภาพจากโรงเรียนให้กลายเป็นคุกเพื่อสอบสวน ทรมาน และสังหารนักโทษที่ถูกกล่าวหาโดยรัฐบาลเขมรแดง เชื่อกันว่าเวลาไม่กี่ปีในช่วง 1975 – 1979 มีผู้ที่เสียชีวิตในสถานที่แห่งนี้ไม่ต่ำกว่าหมื่นคน แม้ทุกวันนี้ตวลสเลงจะไม่ได้เป็นคุกอีกแล้ว แต่เพื่อเป็นการระลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นั้น รัฐบาลกัมพูชาในปัจจุบันจึงได้เปลี่ยนตวลเสลงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวความโหดร้ายที่เกิดขึ้นไว้เป็นบทเรียนแก่คนรุ่นหลังต่อไป
ตลาดกลาง เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
ตลาดกลาง (Central Market) หรือ “ตลาดแกรนด์ใหม่” ตั้งอยู่ที่เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีเอกลักษณ์ด้านสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นสวยงาม โดยตัวอาคารมีลักษณะเป็นโดมสีเหลือง ภายในมีเส้นทางแตกแขนงออกเป็นสี่ปีก แต่ละปีกเต็มไปด้วยร้านค้าประเภทต่างๆให้เลือกซื้อ อาทิเช่น ร้านเครื่องประดับ ร้านทอง ร้านเงิน ร้านเหรียญโบราณ ร้านเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายทั้งชายและหญิง ร้านขายรองเท้า ร้านขายกระเป๋า ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายปลาและอาหารทะเล เป็นต้น
ทุ่งสังหารเจิงเอก เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
ดยทุ่งสังหารเจิงเอกนี้เป็นสถานที่ที่เชื่อว่ามีผู้คนเสียชีวิตมากที่สุด จากเหตุการณ์ในช่วงที่เขมรแดงปกครองประเทศกัมพูชาระหว่างปี 1975 – 1979 ประมาณการจากเศษของโครงกระดูกที่ขุดพบมากกว่า 8,000 ชิ้น รวมถึงกระดูกชิ้นเล็กๆอีกมากมาย ทำให้เชื่อได้ว่ามีผู้เสียชีวิตที่นี่ไม่ต่ำกว่า 17,000 คนแม้ทุกวันนี้ทุ่งสังหารจะเป็นท้องทุ่งที่ร่มรื่นดูสบายตา แต่ความจริงแล้วใต้พื้นดินสีเขียวขจีของสถานที่แห่งนี้ยังมีร่างของอดีตประชาชนชาวกัมพูชาที่ถูกสังหารในช่วงเวลาดังกล่าวซุกซ่อนไว้อีกมากมาย และรัฐบาลของประเทศกัมพูชาได้ออกมาประกาศแล้วว่าจะไม่มีการขุดค้นมากกว่านี้ เพื่อให้ผู้เสียชีวิตได้พักผ่อนอย่างสงบ
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
บูดาเปสต์ (Budapest) เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี ตัวเมืองถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งด้วยแม่น้ำดานูบที่ไหลผ่านกลางเมือง ทำให้ในเมืองเต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกจากสถาปัตยกรรมอันสวยงามเปี่ยมเสน่ห์ที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือน Palanla ได้รวบรวมเอา 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์มาให้แล้วในบทความนี้
นั่ง Hop-on Hop-off เที่ยวบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
บูดาเปสต์ เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของสหภาพยุโรป เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งที่ตั้งอยู่บนสองฝั่งซึ่งถูกคั่นด้วยแม่น้ำดานูบ ทั้งสถาปัตยกรรมปราสาทและวิหารอันสวยงาม จัตุรัสต่างๆที่เต็มไปด้วยร่องรอยของวัฒนธรรม เกาะใจกลางแม่น้ำ หรือสระอาบน้ำที่เป็นหนึ่งในเอกลักษณ์อันขึ้นชื่อของเมือง
เกรท มาร์เก็ต เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
เกรท มาร์เก็ท ถือเป็นตลาดสดในอาคารที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของบูดาเปสต์ ซึ่งในปัจจุบันนอกจากจะเป็นตลาดจำหน่ายของสดกับผักผลไม้แล้ว ชั้นสองของเกรท มาร์เก็ตยังเต็มไปด้วยร้านอาหารที่น่าทาน รวมไปถึงร้านจำหน่ายเสื้อผ้าของที่ระลึกอื่นๆอีกมากมาย นับเป็นแหล่งช็อปปิ้งแห่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้หากมาเยือนเมืองบูดาเปสต์
วิหารเซนต์สตีเฟ่น เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
วิหารเซนต์สตีเฟ่นได้ชื่อว่าเป็นวิหารที่ ใหญ่ที่สุดและสูงที่สุดในเมืองบูดาเปสต์ ด้วยความสูงถึง 96 เมตร (เท่ากับอาคารรัฐสภาฮังการี ซึ่งทั้งสองต่างเป็นสิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดอันดับหนึ่ง) และยังมีขนาดใหญ่ สามารถบรรจุคนได้มากกว่า 8,500 คน และตัวมหาวิหารก็มีความงดงามอย่างมากตามแบบของศิลปะที่ผสมผสานกันระหว่างนีโอคลาสสิก และนีโอเรอเนซองก์ ซึ่งเป็นศิลปะที่มีความสวยงามตระการตาทั้งคู่
อาคารรัฐสภาฮังการี เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
อาคารรัฐสภาฮังการี (Országház / Hungarian Parliament Building) นอกจากจะเป็นที่ทำงานของรัฐบาลแห่งประเทศฮังกรรีแล้ว ยังเป็นหนึ่งในอาคารสถาปัตยกรรมอันสวยงามขึ้นชื่อที่ห้ามพลาดหากมาเยือนเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ป้อมปราการชาวประมง เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ป้อมปราการชาวประมง (Halászbástya / Fishermen's Bastion) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงามและมีชื่อเสียงที่ห้ามพลาด สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ตั้งอยู่บนเนินด้านหลังโบสถ์แมทเทียส ได้ชื่อว่าเป็น หนึ่งในจุดชมทัศนียภาพเมืองบูดาเปสต์ที่สวยงามและน่าประทับใจที่สุด เนื่องจากหากขึ้นมาเยี่ยมเยือนบนนี้ จะสามารถมองเห็นได้ทั้งสะพานโซ่อันขึ้นชื่อ, อาคารรัฐสภาฮังการีที่อยู่อีกฝั่งของแม่น้ำดานูบ หรือสถานทีท่องเที่ยวอีกมากมายหลายแห่ง
จัตุรัสโวรอสมาร์ตี้ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
จัตุรัสโวรอสมาร์ตี้ ได้ชื่อว่าตั้งอยู่ ใจกลางเมืองบูดาเปสต์ และเป็นจุดเริ่มต้นของถนนสายช็อปปิ้งที่รวมเอาร้านค้ามากมายให้นักท่องเที่ยวได้แวะเลือกซื้อหาสินค้า และยังเป็นจัตุรัสที่มีการจัดงานเทศกาลตามฤดูกาลต่างๆอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลออกร้านจำหน่ายของขวัญคริสต์มาสในเดือนธันวาคม, เทศกาลอีสเตอร์ในช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน ซึ่งทุกๆงานเทศกาลก็มักจะมีของให้นักท่องเที่ยวเลือกซื้อหาอย่างจุใจเสมอ
เกาะมาร์กาเร็ต เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
เกาะมาร์กาเร็ต (Margits ziget / Margaret Island) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังและสวยงามแห่งหนึ่งของเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
โบสถ์แมทเทียส เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
โบสถ์แมทเทียสได้รับการขนานนามให้เป็น Church of Our Lady หรือที่รู้จักกันในนามของมหาวิหารอันยิ่งใหญ่ที่ทั้งสวยงามและทั้งเป็นแหล่งรวมศรัทธาของผู้คน โดยสถาปัตยกรรมของโบสถ์แมทเทียสนั้น เป็นการผสมผสานกันของทั้งศิลปะโกธิค , นีโอโกธิค , อาร์ตนูโว และไบแซนไทน์ ซึ่งเป็นผลมาจากการผ่านกาลเวลาเวลามาอย่างยาวนานกว่า 700 ปีนั่นเอง ในอดีต โบสถ์แมทเทียสเคยเป็นสถานที่ประกอบพิธีการที่สำคัญของราชวงศ์ฮังการีอยู่บ่อยครั้ง ขณะที่ในปัจจุบันนอกจากจะเป็นสถานที่เก็บพระศพของอดีตกษัตริย์และราชวงศ์ฮังการีแล้ว โบสถ์แมทเทียสยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยสิ่งน่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หลังคาสลับสีอันสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ของโบสถ์ ซึ่งมองเห็นได้แต่ไกล หรือสถาปัตยกรรมที่สวยงามของตัวโบสถ์ นอกจากนี้ภายในโบสถ์ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการ , สมบัติล้ำค่าจากอดีตของประเทศฮังการี รวมไปถึงการแสดงออร์แกนที่จะเปิดให้เข้าไปฟังได้ในบางช่วงเวลาอีกด้วย
สะพานโซ่ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
สะพานโซ่ (Széchenyi lánchíd) หรือที่รู้จักกันดีในภาษาอังกฤษว่า Chain Bridge เป็นสะพานข้ามระหว่างฟากของเมืองบูดาเปสต์ รวมถึงเป็นสัญลักษณ์และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่พลาดไม่ได้ของเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ปราสาทไวย์ดาฮุดยาด เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ปราสาทไวย์ดาฮุดยาด (Vajdahunyad vára / Vajdahunyad Castle) เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่พลาดไม่ได้ สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
สระอาบน้ำเซเยนซี เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
สระอาบน้ำเซเยนซี (Szechenyi Thermal Bath) เป็นหนึ่งในสระอาบน้ำและบริการสปาเพื่อสุขภาพที่มีชื่อเสียง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ไม่ควรพลาด หากมาเยือนเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
จัตุรัสวีรบุรุษ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
จัตุรัสวีรบุรุษ (Hősök tere / Hero Square) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญและยอดนิยมของเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
คาสเซิล การ์เด้น บาซาร์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
คาสเซิล การ์เด้น บาซาร์ (Várkert Bazár / Castle Garden Bazaar) เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญห้ามพลาด สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ปราสาทบูดา เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ปราสาทบูดา (Budavári Palota / Buda Castle) หรือพระราชวังแห่งบูดา เป็นแหล่งท่องเที่ยวและแลนด์มาร์คสำคัญที่ผู้มาเที่ยวฮังการีไม่ควรพลาด ตั้งอยู่ที่เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว
หลวงพระบางเมืองมรดกโลกที่ขึ้นชื่อ ด้วยวัดวาอารามเก่าแก่มากมาย มีบ้านเรือนอันเป็นเอกลักษณ์โคโลเนียลสไตล์ ตัวเมืองตั้งอยู่ริมน้ำโขงและน้ำคานที่ไหลมาบรรจบกันท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงาม และวิถีชีวิตของชาวหลวงพระบางจึงทำให้ที่นี่กลายเป็นดินแดนแห่งความศรัทธา
อนุสาวรีย์แพะ 5 ตัว เมืองกวางโจว ประเทศจีน
อนุสาวรีย์แพะ 5 ตัว คือสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์มั่งคั่งของเมืองกวางโจว ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะเยี่ยซิ่ว ที่เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่สุดในเมือง มีพื้นที่ทั้งหมด 860,000 ตารางเมตร และถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของกวางโจว ตั้งอยู่ที่เมืองกวางโจว ประเทศจีน
อนุสรณ์สถาน ดร.ซุน ยัตเซน เมืองกวางโจว ประเทศจีน
อนุสรณ์สถาน ดร.ซุน ยัตเซน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงดร. ซุน ยัตเซน ผู้ได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาของชาติจีน และผู้บุกเบิกการปฏิวัติประชาธิปไตยในช่วงเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง จุดเด่นของสถานที่แห่งนี้คือหอประชุมทรงแปดเหลี่ยม ซึ่งมีความพิเศษตรงที่ถูกสร้างขึ้นโดยไม่มีเสาตรงกลางอาคาร ตั้งอยู่ในเมืองกวางโจว ประเทศจีน
ห้องสมุดสาธารณะกวางโจว เมืองกวางโจว ประเทศจีน
ห้องสมุดสาธารณะกวางโจว เป็นห้องสมุดขนาดใหญ่ที่มีความทันสมัยมากที่สุดในเมือง พื้นที่ด้านในมีจำนวนหนังสือมากกว่า 8 ล้านเล่ม ทั้งหนังสือทั่วไป คัมภีร์จีนโบราณ ไปจนถึงอีบุ๊คต่างๆ และยังมีจุดให้บริการหลากหลายรูปแบบทั้งอินเตอร์เน็ตและคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย ตั้งอยู่ในเมืองกวางโจว ประเทศจีน
วัดหนานซา เทียนหัว (วัดเจ้าแม่ทับทิมหนานซา) เมืองกวางโจว ประเทศจีน
วัดหนานซา เทียนหัว เป็นวัดที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นวัดของม่าจ้อโป๋ หรือ เจ้าแม่หม่าโจ้ว เทพเจ้าสตรีที่ได้รับความเคารพในหมู่ของชาวฮกเกี้ยน ชาวแต้จิ๋ว และชาวจีนโพ้นทะเลในฐานะเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ซึ่งตัววัดแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นวัดเจ้าแม่หม่าโจ้วที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่ในเขตหนานซา เมืองกวางโจว ประเทศจีน วัดหนานซา เทียนหัว แต่เดิมนั้นถูกสร้างขึ้นในยุคราชวงหมิง (ค.ศ. 1368-1644) และมีการตกแต่งเพิ่มเติมเรื่อยมาจนถึงในยุคราชวงศ์ชิง (ค.ศ. 1644 – 1911) แต่หลังจากนั้นไม่นานกลับพังทลายลงมา โดยตัววัดที่เห็นในปัจจุบันนั้นเกิดจากการสร้างขึ้นใหม่ในปี 1994
วัดไทรหกต้น (วัดลิ่วหรงซื่อ) เมืองกวางโจว ประเทศจีน
วัดไทรหกต้น หรือวัดลิ่วหรงซื่อ เป็นวัดโบราณที่มีอายุมากกว่าหนึ่งพันปี ภายในวัดมีจุดที่มีชื่อเสียงอย่าง “เจดีย์ดอกบัว” (Flower Pagoda) เจดีย์ 9 ชั้นที่ถือเป็นสิ่งก่อสร้างในสมัยโบราณที่มีความสูงมากที่สุดในเมืองกวางโจว ตั้งอยู่ที่เมืองกวางโจว ประเทศจีน
ภูเขาดอกบัว เหลียนหัวซาน เมืองกวางโจว ประเทศจีน
ภูเขาดอกบัว เหลียนหัวซาน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ตั้งอยู่บนภูเขา ซึ่งมีชื่อเสียงทั้งจากภูมิทัศน์ที่แปลกตาของผาหินในบริเวณรอบๆ ที่มีลักษณะเป็นเหลี่ยมมุมจากการทำเหมืองในอดีต และศาสนสถานเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิอย่างเจดีย์เหลียนฮัวถ่า (เจดีย์ดอกบัว) และรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่บนภูเขา ตั้งอยู่ในเขตปันหยู่ เมืองกวางโจว ประเทศจีน
พิพิธภัณฑ์ศิลปะพื้นบ้านกวางโจว (พิพิธภัณฑ์บ้านตระกูลเฉิน) เมืองกวางโจว ประเทศจีน
พิพิธภัณฑ์ศิลปะพื้นบ้านกวางโจว หรือพิพิธภัณฑ์บ้านตระกูลเฉิน เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงสภาพบ้านเรือนและข้าวของเครื่องใช้ของชาวกวางโจวในอดีต ซึ่งมีทั้งเครื่องเรือนไม้โบราณ ฉากไม้ งานปั้นและงานกระเบื้องเคลือบสไตล์จีน งานเย็บปักถักร้อย รวมไปถึงวัตถุหายากต่างๆที่ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี ตั้งอยู่ในเมืองกวางโจว ประเทศจีน
ถนนซ่างเซี่ยจิ่ว เมืองกวางโจว ประเทศจีน
ถนนซ่างเซี่ยจิ่ว เป็นถนนคนเดินที่มีชื่อเสียงของเมืองกวางโจว ซึ่งจำหน่ายสินค้าหลากหลายชนิดทั้งอาหาร สินค้าแฟชั่น และของที่ระลึกต่างๆ จากร้านค้าทั้งหมดกว่า 300 ร้าน ตลอดความยาวถนน 1.2 กิโลเมตร ตั้งอยู่ที่เมืองกวางโจว ประเทศจีน
งานกวางโจวเทรดแฟร์ เมืองกวางโจว ประเทศจีน
งานกวางโจวเทรดแฟร์ หรืองานแคนตันแฟร์ คือ 1 ใน 3 งานจัดแสดงสินค้าเพื่อการนำเข้าและส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมสินค้าแทบทุกชนิดตั้งแต่ระดับอุตสาหกรรมและครัวเรือน โดยงานกวางโจวเทรดแฟร์จะจัดขึ้นทุกปี ปีละ 2 ครั้ง ที่เมืองกวางโจว ประเทศจีน
แคนตัน ทาวเวอร์ เมืองกวางโจว ประเทศจีน
แคนตัน ทาวเวอร์ หรือกวางโจว ทาวเวอร์ เป็นหอคอยที่มีความสูง 604 เมตร ถือเป็นหอคอยที่มีความสูงเป็นอันดับที่ 2 ของโลกในปัจจุบัน รองจากหอคอยโตเกียว สกายทรี ที่มีความสูง 634 เมตร ทำหน้าที่เป็นทั้งหอส่งสัญญาณโทรทัศน์ จุดชุมวิวมุมสูง และเป็นแลนด์มาร์คประจำเมือง ตั้งอยู่ที่เมืองกวางโจว ประเทศจีน
บลูลากูน เมืองเรคยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์
บลูลากูน (Blue Lagoon) หรือทะเลสาบสีฟ้า หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในไอซ์แลนด์ และยังถือเป็นหนึ่งใน 25 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เป็นบ่อน้ำร้อนสีฟ้าที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุนานาชนิดจากใต้ดินที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณและสุขภาพ สระน้ำพุร้อนที่มีขนาดกว้างใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์แห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตลาวาบริเวณ Grindavik นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่บ่อน้ำพุร้อนบลูลากูนแห่งนี้ สามารถลงไปแหวกว่าย แช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อนได้อย่างสบายๆ เพื่อความผ่อนคลาย
น้ำตกเซลจาลันด์ฟอสส์ เมืองเซลฟอส ประเทศไอซ์แลนด์
น้ำตกเซลจาลันด์ฟอสส์ (Seljalandfoss) น้ำตกที่มีชื่อเสียงและถูกขนานนามว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากถนนสายหลักหรือ Ring Road โดยตั้งระหว่างเมืองเซลฟอส (Selfoss) และอยู่ห่างจากสโคคาร์ฟอสส์ (Skogafoss) ไปทางทิศตะวันตกราว 30 กิโลเมตร น้ำตกแห่งนี้แม้จะค่อนข้างแคบแต่สูง โดยมีความสูงราว 60 เมตร และเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำเซลย่าลันด์ซ่า (Seljalandsá) โดยแม่น้ำสายนี้มีต้นกำเนิดอยู่ใต้ธารน้ำแข็งเอยาฟยาตลาเยอคุตล์ (Eyjafjallajökull Glacier) ซึ่งภูเขาไฟใต้ธารน้ำแข็งแห่งนี้ได้ปะทุขึ้นในปี ค.ศ. 2010 และก่อให้เกิดความเสียหายสนามบินทั่วยุโรปมาแล้วในขณะนั้น หากนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนเซลจาลันด์ฟอสส์ในช่วงหน้าร้อน ภาพที่จะได้เห็น คือ ต้นหญ้าและมอสสีเขียวขจีที่ขึ้นโอบล้อมน้ำตก รวมทั้ง ดอกไม้หลากสีสันสวยงามทั่วบริเวณ จุดเด่นของน้ำตกนี้ คือ นักท่องเที่ยวสามารถเดินลอดไปหลังม่านน้ำตกได้ ซึ่งเป็นการเที่ยวชมน้ำตกที่ให้มุมมองแปลกตาและน่าค้นหาต่างจากที่อื่น
น้ำตกสโกกาฟอสส์ เมืองวิค ประเทศไอซ์แลนด์
น้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skogafoss) เป็นน้ำตกซึ่งไหลมาจากแม่น้ำสโกก้า (Skoga River) น้ำตกแห่งนี้คือแลนด์มาร์กที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของประเทศไอซ์แลนด์ ที่เมื่อนักท่องเที่ยวมาเที่ยวประเทศที่มีภูมิประเทศอันสวยงามแห่งนี้แล้วไม่พลาดที่จะต้องไปเยือนและเก็บภาพสวยๆ ไว้เป็นที่ระลึก นอกจากสโกกาฟอสส์จะเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดในเขตภาคใต้ของประเทศแล้ว น้ำตกแห่งนี้ยังเป็นน้ำตกที่สูงที่สุด โดยมีความสูงราว 62 เมตร และเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไอซ์แลนด์อีกด้วย
แหลมดีร์โฮเลย์ เมืองวิค ประเทศไอซ์แลนด์
แหลมดีร์โฮเลย์ (Dyrholaey) เดิมเรียกว่าเคปพอร์ตแลนด์ (Cape Portland) โดยชาวอังกฤษ ดีร์โฮเลย์เป็นแหลมที่ยื่นออกมาทางชายฝั่งตอนใต้ของไอซ์แลนด์ และตั้งอยู่ไม่ไกลจากย่านชุมชนวิค (Vik) ซึ่งเป็นดินแดนที่อยู่บริเวณใต้สุดของประเทศ ดีร์โฮเลย์เป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1978 แหลมดีร์โฮเลย์เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า "เกาะเนินประตู (Door hill island)" คำว่าประตูมาจากลักษณะที่มีซุ้มลาวาโค้งขนาดมหึมายื่นรับอยู่ทางด้านหน้าของแหลม ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลและลมที่พัดผ่าน เมื่อทะเลสงบเรือขนาดใหญ่สามารถที่จะแล่นผ่านโค้งหินนี้ได้ เคยมีแม้กระทั่งนักบินผาดโผนที่บินผ่านโค้งหินนี้ด้วยเครื่องบินขนาดเล็กมาแล้ว
เรย์นิสฟายาร่า เมืองวิค ประเทศไอซ์แลนด์
เรย์นิสฟายาร่า (Reynisfjara) หรือ Black Beach เรย์นิสฟายาร่า คือชื่อของหาดทรายดำที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์ และเป็นหนึ่งในหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมือง Vik เมืองท่าขนาดไม่ใหญ่แต่เป็นเมืองที่มีความเจริญเกือบจะที่สุดทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ ทรายสีดำที่ชายหาดแห่งนี้เป็นตะกอนเม็ดทรายสีดำที่เกิดจากการสึกกร่อนของหินลาวา และแนวหินบะซอลต์ ที่ถูกพัดพาไปสะสมตัวบริเวณชายหาด โดยเม็ดทรายนี้มีความหนาแน่นและทนทานต่อการแตกสลายผุพัง บริเวณนี้เป็นบริเวณที่คลื่นพัดแรง จะพัดเอาวัตถุที่มีความหนาแน่นน้อยกว่าออกไป วัตถุที่มีความหนาแน่นมากกว่าจะถูกพัดพาออกไปได้ช้าหรือยังคงสะสมรวมตัวกันอยู่ จนกลายเป็นชายหาดที่มีทรายสีดำ
เรย์นิสดรังการ์ เมืองวิค ประเทศไอซ์แลนด์
เรย์นิสดรังการ์ (Reynisdrangar) เป็นกลุ่มหินภูเขาไฟที่โผล่ขึ้นมาจากมหาสมุทรแอตแลนติก ที่บริเวณด้านหน้าของหาดทรายดำ (Reynisfjara) ชายฝั่งทิศใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ ที่เคยถูกจัดอันดับเมื่อปี 1991 ให้เป็น 1 ใน 10 ของหาดที่ไม่ใช่ชายหาดเขตร้อนที่สวยที่สุดในโลก เรย์นิสดรังการ์ตั้งอยู่ใกล้กับเมือง Vik และอยู่ทางตอนล่างของภูเขาเรย์นิสฟียาทล์ (Renisfjall) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ สกัฟตาเฟลล์ (Skaftafel) อันมีภูมิประเทศคล้ายคลึงกับเทือกเขา Alps และเป็นเขตธารน้ำแข็งที่ก่อต่อขึ้นมาหลายพันปีจากอิทธิพลของการระเบิดของภูเขาไฟใต้ธารน้ำแข็ง
เมืองฮอฟน์ ประเทศไอซ์แลนด์
เมืองฮอฟน์ (Hofn) หรืออีกชื่อหนึ่งว่า Hofn í Hornafirdi เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ เป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงทางด้านทัศนียภาพที่สวยงามของประเทศ และเคยถูกใช้เป็นฉากสนามบิน Nuuk ในภาพยนตร์เรื่อง The Secret Life of Walter Mitty มาแล้ว เมืองเล็กๆ ที่มีประชากรไม่ถึง 2,000 คนแห่งนี้ เป็นเมืองที่มีโดยมีชื่อเสียงในเรื่องการประมงกุ้งลอบสเตอร์ (Lobster) ซึ่งสามารถพบได้จำนวนมากในพื้นที่ประมงโดยรอบชายฝั่งของเมือง จนได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งล็อบสเตอร์ของยุโรปเหนือ (The Lobster Capital of Northern Europe)
เนามาฟียาทล์ เมืองมีวัทน์ ประเทศไอซ์แลนด์
เทือกเขาเนามาฟียาทล์ (Namafjall) หรือที่เรียกว่า นามาสการ์ด (Narmaskard), คึเวรารอนด์ (Hverarond) หรือ คึเวเรีย (Hverir) สูง 485 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นเทือกเขาสีส้ม เหลือง และเต็มไปด้วยบ่อโคลนเดือด ซึ่งมีไอน้ำร้อนจัดอยู่เบื้องล่าง เมื่อไอน้ำนั้นเคลื่อนที่จะทำให้โคลนที่อยู่ด้านบนพุ่งกระจายขึ้นมาคล้ายการระเบิดย่อยๆ บริเวณภูเขาไฟ ซึ่งบ่อโคลนเดือดมักมีกำมะถันอยู่มาก
เมืองมีวัทน์ ประเทศไอซ์แลนด์
มีวัทน์ (Myvatn) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศไอซ์แลนด์ เป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอันงดงาม ทั้งเทือกเขาเขียวชอุ่ม เขตสงวนที่อยู่ใกล้เคียงอันเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่าและพืชพรรณนานาชนิด ไปจนถึงผืนน้ำอันงดงาม และปล่องภูเขาไฟริมทะเลสาบ ซึ่งเกิดจากการระเบิดครั้งใหญ่ของภูเขาไฟเมื่อ 2,300 ปีที่แล้ว ภูมิประเทศและบ่อน้ำพลังความร้อนใต้พิภพของทะเลสาบมิวัทน์เป็นเหมือนโลกอีกใบที่น่าตื่นตาตื่นใจ ไอน้ำที่พวยพุ่งขึ้นมาจากบ่อโคลนที่กำลังเดือดผุด และพื้นดินที่เต็มไปด้วยแร่กำมะถันไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต คือสิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวอยากเดินทางไปสัมผัสดินแดนทางตอนเหนือของประเทศไอซ์แลนด์แห่งนี้
เมืองฮูซาวิก ประเทศไอซ์แลนด์
ฮูซาวิก (Husavik) เมืองประมงเล็กๆ ที่มีประชากรประมาณ 2.400 คน ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของ Skjálfandi Bay ทางตอนเหนือของประเทศไอซ์แลนด์ โดยหันหน้าสู่เทือกเขา 'Víkna- and Kinnarfjöll' ที่มีความสูงราว 1100 เมตร ภูมิประเทศที่น่าอัศจรรย์นี้ทำให้ฮูซาวิกเป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดในไอซ์แลนด์ เมืองเล็กๆ แห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของการดูวาฬ โดยเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการดูวาฬ จนได้รับการขนานนามให้เป็นเมืองหลวงแห่งการดูวาฬของประเทศไอซ์แลนด์ (The Whale watching capital of Iceland) และยังถูกยกย่องให้เป็นเมืองหลวงแห่งการดูวาฬของยุโรป (The Whale watching capital of Europe) อีกด้วย
เมืองอาคูเรย์รี่ ประเทศไอซ์แลนด์
เมืองอาคูเรย์รี่ (Akureyri) อยู่ทางตอนเหนือของประเทศ และยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของไอซ์แลนด์ เป็นศูนย์กลางทางการค้า การศึกษาและวัฒนธรรมของภูมิภาค นอกจากนี้แล้วเมืองอาคูเรย์รี่ยังเคยเป็นที่ตั้งของหน่วยสัมพันธมิตรในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และเป็นหนึ่งในเมืองที่มีบทบาทสำคัญทางประวัติศาสตร์เมืองหนึ่งของประเทศไอซ์แลนด์อีกด้วย
ภูเขาคีร์กจูเฟล เมืองเฮลนาร์ ประเทศไอซ์แลนด์
คีร์กจูเฟล (Kirkjufell) เรียกเป็นภาษาอังกฤษคือ Church Mountain หรือ “ภูเขาโบสถ์” ว่ากันว่ามีที่มาจากรูปร่างของภูเขาซึ่งคล้ายคลึงกับโบสถ์ บ้างก็ว่าคล้ายหมวกของแม่มด หากมองใกล้ๆ จะเห็นว่าตัวภูเขาจะมีลักษณะเป็นชั้นๆ ต่างสีกัน ชั้นล่างสุดจะเป็นฟอสซิล ซึ่งเชื่อกันว่าเกิดตั้งแต่ยุคน้ำแข็งเป็นล้านปีมาแล้ว ส่วนชั้นบนซึ่งเป็นหินลาวา เกิดในช่วงที่ยุคน้ำแข็งเริ่มอุ่นขึ้นและมีอายุหินน้อยกว่าชั้นล่าง
น้ำตกฮรวนฟอสซาร์ เมืองบอร์การ์ดิก ประเทศไอซ์แลนด์
น้ำตกน้ำตกฮรวนฟอสซาร์ (Hraunfossar) เป็นน้ำตกที่อยู่ใกล้ๆ กับหมู่บ้านเรย์คอลท์ (Reykholt) เมืองบอร์การ์ดิก (Borgarbyggd) ทางตะวันตกของไอซ์แลนด์ และอยู่ถัดจากบ่อน้ำพุร้อน Deildartunguhver ไปประมาณ 20 กิโลเมตร ความพิเศษของน้ำตกแห่งนี้คือเป็นน้ำตกที่ไม่ได้ไหลลงมาจากหน้าผาตรงๆ เหมือนน้ำตกแห่งอื่นๆ แต่เป็นน้ำตกที่ประกอบด้วยสายน้ำเล็กๆ ซึ่งเกิดจากแหล่งน้ำผิวดิน รวมกับน้ำที่ละลายจากธารน้ำแข็ง ไหลผ่านชั้นหินต่างๆ ของทุ่งหินลาวาที่ชื่อ Hallmundarhraun ลงไปสู่แม่น้ำควิทอา (Hvítá) ตามสายธารของแม่น้ำ น้ำตก Hraunfossar จึงมีชื่อเรียกเป็นภาษาอังกฤษอีกชื่อหนึ่งว่า Lava waterfalls หรือน้ำตกลาวา โดยน้ำที่มีปริมาณมากของน้ำตกแห่งนี้ส่วนหนึ่งเป็นน้ำที่ละลายมาจากธารน้ำแข็ง Langjokull ซึ่งเป็นต้นน้ำด้วย
บ่อน้ำพุร้อนเดลดาร์ตุงกูเวอร์ เมืองบอร์การ์ดิก ประเทศไอซ์แลนด์
บ่อน้ำพุร้อนเดลดาร์ตุงกูเวอร์ (Deildartunguhver) ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านเรย์คอลท์ (Reykholt) เมืองบอร์การ์ดิก (Borgarbyggd) ทางตะวันตกของไอซ์แลนด์ เป็นบ่อน้ำพุร้อนใหญ่ที่สุดในประเทศ และเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่ไหลเร็วที่สุดในยุโรป อุณหภูมิน้ำสูงสุด 97 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ ปริมาณน้ำที่ไหลออกมาจากใต้ดินยังมีมากถึง 180 ลิตรต่อวินาที
เมืองเรคยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์
เรคยาวิก (Reykjavik) เมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์ (Iceland) หรือ ชื่อทางการคือ สาธารณรัฐไอซ์แลนด์ (Republic of Iceland) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ และเป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ใกล้กับขั้วโลกเหนือมากที่สุด ผู้อพยพชาวนอร์ดิกคนแรกที่มาตั้งรกรากที่เรคยาวิกในปี ค.ศ.870 คือ Ingolfur Arnarson เมื่อเรคยาวิกมีบทบาทของการเป็นเมืองศูนย์กลางทางการค้าและธุรกิจการประมงอย่างโดดเด่น ต่อมาจึงได้รับการก่อตั้งให้เป็นเมืองหลวงในปี ค.ศ.1786
หอสักการะฟ้าเทียนถาน เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน
หอสักการะฟ้าเทียนถาน (天坛 / Tiantan / Temple of Heaven) เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่โด่งดังอีกแห่งหนึ่งภายในเมืองปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีน
หวังฝูจิ่ง ตลาดถนนคนเดินแห่งเมืองปักกิ่ง ประเทศจีน
หวังฝูจิ่ง (王府井 / Wangfujing Dajie / Wangfujing Shopping Street) หรือที่ปัจจุบันรู้จักกันในนาม ถนนคนเดินหวังฝูจิ่ง เป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่พลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองปักกิ่ง ประเทศจีน
พระราชวังต้องห้ามแห่งเมืองปักกิ่ง ประเทศจีน
พระราชวังต้องห้ามแห่งเมืองปักกิ่ง (故宫 / Gugong / Forbidden City / Imperial Palaces of the Ming and Qing Dynasties) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ พระราชวังกู้กง เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญพลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาดของเมืองปักกิ่ง ประเทศจีน
วิหารลอยฟ้า วัดเสวียนคงซื่อ เมืองต้าถง มณฑลซานซี ประเทศจีน
วัดเสวียนคงซื่อ (悬空寺 / Xuankong Shi / Xuankong temple / Hanging Temple) เป็นวัดโบราณอายุกว่าพันปีอันโด่งดัง ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองต้าถง มณฑลซานซี ประเทศจีน
ผิงเหยา เมืองโบราณมรดกโลก มณฑลซานซี ประเทศจีน
เมืองโบราณผิงเหยา (平遥古城/ Ancient City of Ping Yao) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดัง ปัจจุบันมีฐานะเป็นเขตหนึ่งของเมืองจิ้นจง มณฑลซานซี ประเทศจีน
ถ้ำหินแกะสลักอวิ๋นกังแห่งเมืองต้าถง มณฑลซานซี ประเทศจีน
ถ้ำหินแกะสลักอวิ๋นกัง (云冈石窟 / Yun Gang Shi Ku / Yungang Grottoes ) เป็นกลุ่มถ้ำผาหินแกะสลักตามคติพุทธอันโด่งดัง ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองต้าถง มณฑลซานซี ประเทศจีน
กำแพงเก้ามังกรแห่งเมืองต้าถง มณฑลซานซี ประเทศจีน
กำแพงเก้ามังกร (九龙壁 /Jiu Long Bi / Nine Dragon Wall) เป็นงานศิลปะที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์สำคัญชิ้นหนึ่ง ตั้งอยู่ที่เมืองต้าถง มณฑลซานซี ประเทศจีน
จัตุรัสเทียนอันเหมิน เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน
จัตุรัสเทียนอันเหมิน (天安门 / Tian’anmen Square) เป็นหนึ่งในจุดแลนด์มาร์คท่องเที่ยวสำคัญของเมืองปักกิ่ง ประเทศจีน จัตุรัสเทียนอันเหมิน ไม่ได้เป็นเพียงแหล่งท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดเท่านั้น แต่สถานที่แห่งนี้ยังมีบทบาทสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์จีนหลายต่อหลายครั้ง ทั้งการประกาศจัดตั้งสาธารณรัฐ หรือการชุมนุมครั้งใหญ่ๆของประเทศจีนทั้งหมดต่างก็เกิดขึ้นที่นี่ ทำให้จัตุรัสเทียนอันเหมินได้ชื่อว่าเป็น สัญลักษณ์ของประเทศจีนในยุคใหม่
สะพานอูเบ็ง เมืองอมรปุระ ประเทศพม่า
สะพานอูเบ็ง สะพานไม้สักที่ยาวและเก่าแก่ที่สุดในโลก มีอายุกว่า 167 ปี และมีความยาวกว่า 1.2 กิโลเมตร สร้างขึ้นจากไม้สักจำนวน 1,086 ต้น ซึ่งเป็นไม้ที่เหลือจากการรื้อพระราชวังกรุงอังวะในปีค.ศ. 1783 ในสมัยที่พระเจ้าปดุงโปรดให้ย้ายเมืองหลวงจากเมืองอังวะ มายังเมืองอมรปุระ และนอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อในเรื่องของจุดชมวิวยามพระอาทิตย์ตกแล้ว สะพานอูเบ็งยังเป็นสถานที่ซึ่งชาวเมียนมาร์ใช้สัญจรไปมาในชีวิตประจำวันอีกด้วย ตั้งอยู่ในเมืองอมรปุระ ประเทศพม่า
วัดอนันดา เมืองพุกาม ประเทศพม่า
วัดอนันดา เป็นวัดในเขตเมืองเก่าพุกามที่ได้รับการยกย่องว่ามีความงดงามมากทางด้านสถาปัตยกรรมและพุทธศิลป์มากที่สุด มีลักษณะเด่นคือตัวเจดีย์ที่เป็นสีขาว มีพื้นที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส และมีซุ้มประตูยาวสี่ด้านขนาดเท่ากันเชื่อมไปสู่ตัววิหาร ซึ่งเป็นลักษณะคล้ายกับไม้กางเขนในรูปแบบสถาปัตยกรรมตะวันตก ภายในวิหารมีพระพุทธรูปยืนที่แกะสลักด้วยไม้สักโดยช่างศิลป์ชั้นสูงชาวพม่าประดิษฐานอยู่ทั้งสี่ทิศ ตั้งอยู่ในเมืองพุกาม ประเทศพม่า
วัดพระมหามัยมุนี เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
วัดพระมหามัยมุนี เป็นหนึ่งในห้าสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของประเทศพม่า ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานของพระมหามัยมุนี ที่ถือเป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมือง โดยจุดที่น่าสนใจและเป็นเอกลักษณ์ของวัดแห่งนี้ คือพิธีล้างพระพักตร์พระมหามัยมุนี ที่มีการประกอบพิธีโดยเจ้าอาวาสในช่วง 04.00 น. ของทุกวัน ตั้งอยู่ในเมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
ภูเขาโปปา เมืองพุกาม ประเทศพม่า
ภูเขาโปปา เป็นภูเขาไฟที่ดับแล้ว มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 1,518 เมตร โดยชาวพม่าเชื่อกันว่าภูเขาแห่งนี้เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากเป็นที่สถิตของเทวดาและ “นัต” วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ในความเชื่อของชาวพม่า จำนวน 37 องค์ และในบันทึกของชาวพม่าโบราณยังเปรียบเทียบว่าภูเขาแห่งนี้มีลักษณะคล้ายกับเขาพระสุเมรุ ที่เป็นศูนย์กลางของจักรวาลอีกด้วย ตั้งอยู่ห่างจากเมืองพุกามประมาณ 50 กิโลเมตร ในประเทศพม่า
พุกาม ดินแดนแห่งทะเลเจดีย์ เมืองพุกาม ประเทศพม่า
พุกาม ดินแดนแห่งทะเลเจดีย์ มีที่มาจากความรุ่งเรืองของอาณาจักรพุกามในสมัยพุทธศตวรรษที่ 16 ซึ่งกษัตริย์พระองค์ต่างๆในช่วงเวลานั้นมีความศรัทธาในพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก ทำให้มีการสร้างเจดีย์ขึ้นมาเป็นจำนวนมากกว่า 10,000 องค์ จนไม่ว่าจะมองไปทางใดก็เห็นแต่ยอดแหลมของเจดีย์ทุกพื้นที่ ภายหลังจากการล่มสลายของอาณาจักรพุกาม เจดีย์บางส่วนก็ได้ทรุดโทรมและพังทลายลงมาตามกาลเวลา จนในปัจจุบันมีจำนวนเจดีย์เหลืออยู่ประมาณ 4,000 องค์ แต่ก็ยังคงสัมผัสได้ถึงร่องรอยความรุ่งเรืองในอดีตได้อย่างชัดเจน รวมถึงเจดีย์องค์สำคัญต่างๆก็ได้รับการดูแลบูรณะอย่างดี ตั้งอยู่ที่เมืองพุกาม ประเทศพม่า
พระพุทธรูปเลจุน เซจาร์ เมืองโมนยวา ประเทศพม่า
พระพุทธรูปเลจุน เซจาร์ มีทั้งพระพุทธรูปแบบยืน ซึ่งถือเป็นพระพุทธรูปยืนที่มีความสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก และแบบพระนอน ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระนอนขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในเมืองโมนยวา เมืองทางผ่านระหว่างมัณฑะเลย์และพุกาม ประเทศพม่า
เจดีย์กุโสดอ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
เจดีย์กุโสดอ เป็นเจดีย์สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศพม่า ซึ่งใช้รูปแบบการสร้างแบบเดียวกับเจดีย์ชเวซิกอง ในเมืองพุกาม และยังเป็นที่ตั้งของ “หนังสือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก” จากการสังคายนาพระไตรปิฏก และได้มีการจารึกข้อความทั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์ ลงบนแผ่นหินอ่อนขนาดใหญ่จำนวน 729 แผ่น ซึ่งตั้งอยู่รายล้อมพระเจดีย์ ตั้งอยู่ในเมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
เจดีย์ไจปุ่น เมืองพะโค ประเทศพม่า
เจดีย์ไจปุ่น เป็นเจดีย์เก่าแก่ที่มีอายุกว่า 500 ปี มีจุดเด่นสำคัญคือการสร้างเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ 4 องค์ โดยแต่ละองค์หันพระพักตร์ไปทั้ง 4 ทิศ ซึ่งแสดงถึงพระพุทธเจ้า 4 พระองค์ในพุทธวงศ์ และยังเป็นตัวแทนของพระราชธิดาทั้ง 4 องค์ของกษัตริย์มอญที่อุทิศตนให้กับพุทธศาสนา และเป็นผู้ร่วมกันสร้างเจดีย์ไจปุ่นขึ้นมา ตั้งอยู่ในเมืองพะโค หรือเมืองหงสาวดี ประเทศพม่า
พระธาตุอินทร์แขวน เมืองไจก์โท่ ประเทศพม่า
พระธาตุอินทร์แขวน หรือพระธาตุไจทีโย เป็นหนึ่งใน 5 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของประเทศพม่า มีความโดดเด่นจากที่ตั้งของตัวเจดีย์ที่อยู่บนก้อนหินขนาดใหญ่ อีกทั้งยังอยู่บริเวณริมหน้าผาสูงชันบนยอดเขาไจทีโยอย่างหมิ่นเหม่ ก่อให้เกิดภาพอันมหัศจรรย์ราวกับปาฏิหาริย์ที่ก้อนหินอันเป็นที่ตั้งของพระธาตุอินทร์แขวนนั้นไม่ร่วงหล่นลงไปสู่เบื้องล่าง และยังคงตั้งอยู่อย่างมั่นคงให้ผู้คนจากทุกสารทิศเดินทางมาสักการบูชามาจนถึงปัจจุบัน ตั้งอยู่ในเมืองไจก์โท่ ประเทศพม่า
เจดีย์โบดาทาวน์ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า
เจดีย์โบดาทาวน์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสำคัญในพม่า เนื่องจากในอดีตเคยใช้เป็นที่ประดิษฐานชั่วคราวของพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น ระหว่างที่รอนำไปบรรจุไว้ในเจดีย์ชเวดากองเมื่อการก่อสร้างเสร็จสิ้น นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดยังเป็นที่ประดิษฐานของนัตโบโบจี หรือ”เทพทันใจ” เทพศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นที่ศรัทธาของทั้งชาวพม่าและชาวไทยอย่างสูง ตั้งอยู่ในเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า
เจดีย์ชเวดากอง เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า
เจดีย์ชเวดากอง เป็นมหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุด และมีความสำคัญสูงสุดในประเทศพม่า โดยคำว่า”ชเว”หมายถึงทองคำ และ”ดากอง” คือชื่อเมืองย่างกุ้งในอดีต ภายในเจดีย์เป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุในส่วนของเส้นผมจำนวน 8 เส้น ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเชียงกุตระ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า
อู่ไถซาน ภูเขาพุทธศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองซินโจว มณฑลซานซี ประเทศจีน
อู่ไถซาน (五台山) หรือ ภูเขาอู่ไถ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และศูนย์รวมความศรัทธาของพุทธศาสนาที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศจีน ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองซินโจว มณฑลซานซี ประเทศจีน ทั้งนี้ อู่ไถซาน (五台山) หมายถึง ภูเขา 5 ลูกที่ตั้งเรียงรายกันอยู่ โดยยอดภูที่สูงที่สุด มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 3,061 เมตร และยังเป็น 1 ใน 4 ภูเขาพุทธศักดิ์สิทธิ์ของประเทศจีน อีกด้วย
มู่เถียนอวี้ กำแพงเมืองจีนที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งเมืองปักกิ่ง ประเทศจีน
กำแพงเมืองจีนมู่เถียนอวี้ (慕田峪长城 / Mutianyu The Great Wall) เป็นหนึ่งในกำแพงเมืองจีนอันยิ่งใหญ่ ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ใกล้กับนครปักกิ่ง ประเทศจีน ซึ่งกำแพงเมืองจีนมู่เถียนอวี้นี้ ถือเป็น กำแพงเมืองจีนส่วนที่ได้รับการบูรณะปรับปรุงจนมีสภาพสมบูรณ์ใกล้เคียงกับของเดิมที่สุด และยังเป็นหนึ่งในกำแพงเมืองจีนที่ขึ้นชื่อเรื่องของความสวยงามของทิวทัศน์ เนื่องจากตัวกำแพงที่ถูกโอบล้อมไว้ด้วยภูเขาสูงใหญ่ ถือเป็นหนึ่งในภาพความสวยงามของกำแพงเมืองจีนที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
13 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
ซิดนีย์ เมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและสีสัน ทั้งสถาปัตยกรรมที่สวยงามแบบคลาสสิก บรรยากาศชายหาดอันผ่อนคลายๆ แบบออสซี่ ย่านช้อปปิ้ง ห้างหรู ไปจนถึงพื้นที่สีเขียวริมอ่าว และตลาดปลาที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลกก็รวมกันอยู่ ณ มหานครแห่งนี้อย่างกลมกล่อมและครบทุกมิติ Palanla จะพาไปชม 13 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมืองที่ได้ชื่อว่าน่าอยู่ที่สุดในโลกติดอันดับ 4 จากการจัดอันดับของ Economist Intelligence Unit (EIU) ประจำปี 2023
สวนสัตว์ไวลด์ไลฟ์ซิดนีย์ เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
สวนสัตว์ไวลด์ไลฟ์ ซิดนีย์ (Wild Life Sydney Zoo) สวนสัตว์ขนาดย่อมใจกลางกรุงที่แม้นักท่องเที่ยวมีเวลาไม่มากแต่ก็สามารถเข้าไปสัมผัสและเรียนรู้ความเป็นออสเตรเลียผ่านสัตว์พื้นเมืองนานาชนิดและระบบนิเวศน์จำลองที่ยกมาไว้กลางมหานครซิดนีย์ได้อย่างเกือบจะครบถ้วนและครอบคลุมภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง
สวนสัตว์ทารองก้า เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
สวนสัตว์ทารองก้า (Taronga Zoo) เป็นสวนสัตว์อีกแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงระดับโลก เพราะนอกจากจะเป็นบ้านของสัตว์พื้นเมืองของออสเตรเลียและสัตว์จากส่วนอื่นๆ ของโลกมากกว่า 2,500 ตัวจากกว่า 340 สายพันธุ์แล้ว สวนสัตว์แห่งนี้ยังมีทัศนียภาพที่งดงามริมอ่าวซิดนีย์บนพื้นที่กว่า 185 เอเคอร์ ที่ทั้งเด็กๆ และผู้ใหญ่ต่างก็จะต้องตื่นตาตื่นใจเมื่อได้มีโอกาสเดินทางไปเยี่ยมเยือน
ซีไลฟ์ซิดนีย์ เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
ซีไลฟ์ซิดนีย์ (Sea Life Sydney) เป็นหนึ่งในอควาเรียมหรือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่เมื่อเข้าไปแล้วจะเสมือนได้ลงไปสำรวจใต้มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยฝูงปลาและสัตว์น้ำนานาชนิดเป็นหมื่นๆ ตัว ซึ่งล้วนแต่ชวนให้ตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าจะเป็นแฟนพันธุ์แท้ของโลกใต้ทะเลหรือไม่ บอกได้เลยว่าต้องเพลินจนลืมโลกข้างนอกไปชั่วขณะแน่นอน
เดอะสตาร์ซิดนีย์ เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
เดอะสตาร์ซิดนีย์ (The Star Sydney) ไม่เพียงแต่เป็นคาสิโนระดับโลก แต่ยังเป็นย่านบันเทิงชั้นนำของซิดนีย์ที่นักท่องเที่ยวสามารถหาความเพลิดเพลินได้หลากหลายรูปแบบจากที่นี่ ตั้งแต่อาหารบุฟเฟต์ไปจนถึงไนต์คลับระดับโลก
หาดแมนลี เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
หาดแมนลี (Manly Beach) อาจจะไม่อยู่ในแผนการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั่วไปเมื่อไปเยือนซิดนีย์ แต่ก็นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่หากมีเวลาก็ควรค่าแก่การใส่ไว้ในสิสต์ แม้ว่าซิดนีย์จะมีชายหาดอยู่มากมายและมีความคล้ายคลึงกันในหลายๆ ที่ แต่ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้พบบรรยากาศของชายหาดที่แตกต่างจากที่อื่นๆ ความครบครันของสถานที่ ร้านค้า ร้านอาหาร และกิจกรรมที่เป็นสีสันของที่นี่ที่มีอยู่ตลอด นอกจากนี้แมนลี่ยังเป็นจุดหมายที่ได้รับความนิยมในยามค่ำคืน เพราะมีทั้งภัตตาคาร โรงแรม และบาร์ชั้นหนึ่งที่ดีงามสำหรับช่วงเวลาแห่งการผ่อนคลาย
ไชน่าทาวน์ เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
ไชน่าทาวน์ (Chinatown) ของซิดนีย์เป็นแหล่งช้อปปิ้งและที่ซื้อหาอาหารเอเชียที่มีสีสันมากที่สุดแห่งหนี่งในออสเตรเลีย สถาปัตยกรรมแบบตะวันออกที่ชัดเจนในบริเวณนี้ ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟถนนและซุ้มประตูคือสิ่งยืนยันถึงวัฒนธรรมอันเหนียวแน่นของชาวจีนที่อาศัยอยู่ในซิดนีย์
ควีนวิกตอเรียบิลดิ้ง เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
ควีนวิกตอเรียบิลดิ้ง (Queen Victoria Building) หรือ QVB เป็นอาคารเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี เป็นช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ 4 ชั้นลอย และ 2 ชั้นใต้ดิน มีคำกล่าวไว้ว่าหากจะเปรียบโอเปร่าเฮ้าส์ เป็นดังสาวงามประจำมหานคร ตึกควีนวิคตอเรียก็เปรียบเหมือนมงกุฎประดับอัญมณีล้ำค่าที่โดดเด่นเป็นศรีแห่งมหานครซิดนีย์แห่งนี้เช่นกัน
พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
มาดามทุสโซ (Madame Tussauds) คือพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งชั้นนำที่มีชื่อเสียงระดับโลก ด้วยชื่อเสียงที่มีมายาวนานกว่า 250 ปี และเป็นที่ยอมรับจากสากล โดยบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลกเท่านั้นที่จะได้รับเลือกให้เป็นแบบปั้นหุ่น ขี้ผึ้งในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ความเหมือน ความสมจริง และความประณีตของหุ่นปั้นของพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซคือแรงดึงดูดให้ผู้คนทุกยุคทุกสมัยอยากเข้าไปสัมผัสและชื่นชมอยู่ไม่ขาด
ซิดนีย์ทาวเวอร์อาย เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
ซิดนีย์ทาวเวอร์อาย หรือ หอคอยซิดนีย์ (Sydney Tower Eye) อีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของซิดนีย์หอคอยแห่งนี้เป็นจุดที่สูงกว่าซิดนีย์ฮาร์เบอร์บริดจ์ถึงสองเท่า และยังสูงกว่าโอเปร่าเฮ้าส์ถึงสี่เท่า โดยชั้นบนสุดของอาคารที่สูง 305 เมตรนี้เป็นจุดที่จะมองเห็นแสงแรกของพระอาทิตย์ขึ้นเป็นแสงแรกของวัน และเป็นจุดสุดท้ายที่จะได้เห็นพระอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้าไปจากมหานครซิดนีย์
กำแพงเมืองจีน ซือหม่าไถ และเมืองโบราณริมน้ำกู่เป๋ยสุ่ยเจิ้นแห่งปักกิ่ง ประเทศจีน
กำแพงเมืองจีนซือหม่าไถ (司马台长城 / Simatai Great Wall) เป็นหนึ่งในแนวกำแพงเมืองจีนอันยิ่งใหญ่ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับนครปักกิ่ง ประเทศจีน โดยกำแพงเมืองจีนซือหม่าไถนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของกำแพงเมืองจีน หรือที่รู้จักกันในนามของ “กำแพงหมื่นลี้” สิ่งปลูกสร้างด้วยมือของมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่จนได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์แห่งโลกยุคกลาง และได้รับการแต่งตั้งจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกในปี 1987
ซานไห่กวน จุดเริ่มต้นแห่งกำแพงเมืองจีนติดท้องทะเล มณฑลเหอเป่ย ประเทศจีน
ด่านซานไห่กวน (山海关 / Shanhaiguan) เป็นหนึ่งในกำแพงเมืองจีนอันมีชื่อเสียงโด่งดัง ตั้งอยู่ที่เมืองฉินหวงเต่า มณฑลเหอเป่ย ประเทศจีน
จวียงกวน กำแพงเมืองจีนที่ใกล้เมืองปักกิ่งที่สุด ประเทศจีน
จวียงกวน หรือด่านจวียงกวน (居庸关 / Juyongguan) เป็นหนึ่งในกำแพงเมืองจีนอันยิ่งใหญ่ที่ตั้งอยู่ใกล้กับนครปักกิ่ง ประเทศจีน
กู่เป๋ยโข่ว กำแพงเมืองจีนเก่าแก่แห่งปักกิ่ง ประเทศจีน
กำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว (古北口古长城 / Gubeikou The Wild Great Wall) เป็นหนึ่งในกำแพงเมืองจีนโบราณเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ใกล้กับนครปักกิ่ง ประเทศจีน
ด่านเยี่ยนเหมินกวน กำแพงเมืองจีนด่านประตูห่านป่าแห่งซินโจว มณฑลซานซี ประเทศจีน
กำแพงเมืองจีนด่านเยี่ยนเหมินกวน หรือที่อาจรู้จักกันในนามของ ด่านประตูห่านป่า (雁门关 ) เป็นหนึ่งในกำแพงเมืองจีนที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ตั้งอยู่ที่เมืองซินโจว มณฑลซานซี ประเทศจีน
วัตสันส์เบย์ เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
วัตสันส์เบย์ (Watsons bay) ชายหาดที่มีความยาวประมาณ 500 เมตร เป็นสถานที่ที่สวยงาม ปลอดโปร่ง บรรยากาศร่มรื่น ผ่อนคลาย เหมาะสำหรับอาบแดด ว่ายน้ำ ตกปลา ใช้เวลาเดินทางไม่นานนักจากตัวซิดนีย์ ซึ่งตลอดทางนักท่องเที่ยวจะได้เห็นวิวที่สวยงามแปลกตา
มหาวิหารเซนต์แมรี่ เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
มหาวิหารเซนต์แมรี่ (St. Mary’s Cathedral) เป็นมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในนครซิดนีย์และเป็นมหาวิหารที่สูงที่สุดในออสเตรเลีย โดยมีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์คือส่วนยอดตรงทางเข้าของโบสถ์สองมุมที่สูงเสียดขึ้นไปบนท้องฟ้าทำให้สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล และเมื่อได้สัมผัสใกล้ๆ ก็จะยิ่งประทับใจกับความสวยงามและยิ่งใหญ่ของมหาวิหารแห่งนี้ มหาวิหารเซนต์แมรี่ เป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ที่มีความสวยงามทางสถาปัตยกรรมด้วยศิลปะแบบโกธิกสีปูนเข้ม ภายในถูกออกแบบอย่างสวยงาม วิจิตร และประณีต
คิงส์ครอส เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
แม้ว่าในช่วงเวลากลางวันย่านคิงส์ครอส (Kings Cross) จะดูเหมือนย่านธุรกิจทั่วไป แต่ในยามค่ำคืนย่านนี้จะเต็มไปด้วยไฟแสงสีวิบวับจากสถานบันเทิงที่เรียงรายกันอยู่มากมาย ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาหาความบันเทิงเริงรมย์ ชีวิตกลางคืนที่หรรษาและโชว์วาบหวิวอันตื่นตาตื่นใจ
ดาร์ลิ่งฮาร์เบอร์ เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
ดาร์ลิ่งฮาร์เบอร์ (Darling Harbour) คืออีกย่านหนึ่งของซิดนีย์ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างมาก และมีความคึกคักอยู่ตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน เนื่องจากเป็นย่านที่บรรยากาศดี มีร้านอาหารอร่อยๆ มีแหล่งช้อปปิ้ง โรงภาพยนตร์จอยักษ์ ทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ รวมถึงพื้นที่และสวนสาธารณะที่ประชาชนสามารถมาหาความเพลิดเพลินและใช้พักผ่อนหย่อนใจกันได้ตลอด
หวงฮวาเฉิง กำแพงเมืองจีนติดทะเลสาบแห่งนครปักกิ่ง ประเทศจีน
กำแพงเมืองจีนริมน้ำ หรือกำแพงเมืองจีนติดทะเลสาบ หวงฮวาเฉิง (黄花城水长城) เป็นหนึ่งในกำแพงเมืองจีนที่มีชื่อเสียงเรื่องทัศนียภาพอันโดดเด่นงดงาม ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีน
ปาต๋าหลิ่ง กำแพงเมืองจีนแห่งนครปักกิ่ง ประเทศจีน
ปาต๋าหลิ่ง หรือ 八达岭 เป็นหนึ่งในกำแพงเมืองจีนอันเลื่องชื่อ ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวที่สุด ตั้งอยู่ใกล้ๆกับเมืองปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีน โดยกำแพงบริเวณปาต๋าหลิ่งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของกำแพงเมืองจีนอันยิ่งใหญ่ หรือที่โด่งดังทั่วโลกในนามของ “กำแพงหมื่นลี้”
การเดินทางจากสนามบินโตเกียวเข้าสู่ตัวเมือง
กรุงโตเกียวตั้งอยู่ในภูมิภาคคันโต ซึ่งอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศญี่ปุ่น มีสนามบินนานาชาติ 2 สนามบิน คือ สนามบินฮาเนดะ (Haneda Airport) ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียว 21 กิโลเมตร และสนามบินนาริตะ (Narita Airport) ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวประมาณ 60 กิโลเมตร
สวนเคอเคนฮอฟ เมืองลิสเซ่ ประเทศเนเธอร์แลนด์
เคอเคนฮอฟ (Keukenhof) หรือที่ รู้จักกันในนาม “สวนดอกไม้แห่งยุโรป”(The Garden of Europe) เป็นหนึ่งในสวนดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่ชานเมืองลิซเซ่ (Lisse) แคว้นเซ้าท์ฮอลแลนด์ (South Holland) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) ประเทศเนเธอร์แลนด์ (Netherlands) สวนดอกไม้บนเนื้อที่กว่า 200 ไร่แห่งนี้ดึงดูดให้ผู้คนจากทั่วโลกหลั่งไหลมายลความงามของดอกทิวลิปที่นี่ไม่ต่ำกว่าปีละ 5 ล้านคน
หาดบอนได เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
หาดบอนได (Bondi Beach) เป็นชื่อที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างคุ้นเคยกันดี เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับต้นๆ รองจากโอเปร่าเฮ้าส์ (Opera House) และฮาร์เบอร์บริดจ์ (Harbour Bridge) เรียกได้ว่าใครไปเที่ยวซิดนีย์แล้วก็พลาดไม่ได้ที่จะต้องแวะเวียนไปเยือนชายหาดอันสวยงามและมีชีวิตชีวาแห่งนี้สักครั้ง
ฮาร์เบอร์บริดจ์ เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
ฮาร์เบอร์บริดจ์ (Harbour Bridge) หรือที่คนซิดนีย์มักเรียกชื่อเล่นด้วยความรักใคร่ว่า “ไม้แขวนเสื้อ” (Coat hanger) เป็นสะพานโครงเหล็กที่มีช่วงกลางระหว่างตอม่อสองข้างยาวที่สุดในโลกที่ทอดยาวเชื่อมเมืองฝั่งเหนือและฝั่งใต้ของซิดนีย์เข้าหากัน
เอาท์เล็ท ลาวาเล่ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
เอาท์เล็ท ลาวาเล่ เป็นหนึ่งในเอาท์เล็ทชื่อดัง ที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองปารีส แคว้นอิล-เดอ-ฟรองซ์ ประเทศฝรั่งเศสเอาท์เล็ท ลาวัลเล่เป็นเอาท์เล็ทจำหน่ายสินค้าแบรด์เนมชื่อดังต่างๆ โดยจำหน่ายในราคาถูกกว่าราคาปกติอย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์
ล่องเรือแม่น้ำแซนชมเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ปารีสเป็นเมืองที่มีแม่น้ำไหลผ่านโอบรอบตัวเมือง และมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่ตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำ ไม่ว่าจะเป็นมหาวิหารแห่งปารีส, หอไอเฟล รวมถึงพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังในเมืองปารีสทั้งสิ้น ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร ถ้าหากหนึ่งในการเที่ยวชมปารีสที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจะไม่ได้มีแค่ทางบกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการล่องเรือบนแม่น้ำแซนอีกด้วย
โอเปร่าเฮ้าส์ เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
โอเปร่าเฮ้าส์ (Opera House) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เรียกว่าเป็นจุดหมายหลักอันดับหนึ่งของประเทศออสเตรเลีย โดยในแต่ละปีโรงอุปรากรสีขาวแห่งนี้ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมากกว่า 8 ล้านคนที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาเยี่ยมชมความงดงามและสร้างสรรค์ของสถาปัตยกรรมแห่งศตวรรษที่ 20 แห่งนี้
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ หรือ Musee Du Lurve ในภาษาฝรั่งเศส เป็นพิพิธภัณฑ์ซึ่งรวบรวมผลงานศิลปะสำคัญแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่ที่เมืองปารีส แคว้นอิล-เดอ-ฟรองซประเทศฝรั่งเศส พิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมผลงานศิลปะอันทรงคุณค่าไว้มากกว่า 40,000 ชิ้น
เมืองอองเฟลอร์ แคว้นนอร์ม็องดี ประเทศฝรั่งเศส
เมืองอองเฟลอร์ เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวและพักผ่อนที่มีชื่อเสียงของแคว้นนอร์ม็องดี ประเทศฝรั่งเศส และยังเป็นเมืองที่โด่งดังในฐานะของ เมืองท่าเรือที่ไม่มีใครเหมือนโดยเมืองอองเฟลอร์ตั้งอยู่ติดกับปากแม่น้ำแซน อันเป็นแม่น้ำสายเดียวกับที่ไหลผ่านปารีส
มหาวิหารนอร์ทเทอร์-ดามแห่งปารีส เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
มหาวิหารนอร์ทเทอร์-ดามแห่งปารีส หรือที่คุ้นหูในชื่อ Notre Dame de Paris เป็นโบสถ์ของศาสนาคริสตร์นิกายโรมันคาทอลิก ตั้งอยู่ที่เมืองปารีส แคว้นอิล-เดอ-ฟรองซ์ ประเทศฝรั่งเศษมหาวิหารนอร์ทเทอร์-ดามแห่งปารีส เป็นสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นคู่กับเมืองปารีสมากกว่า 850 ปี ได้รับการยกย่องให้เป็นผลงานชิ้นเอกในศิลปะโกธิค และได้รับการยอมรับว่าเป็นศูนย์รวมความศรัทธาต่อศาสนาคริสตร์ที่สำคัญอย่างยิ่งของเมืองปารีสมานับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนอกจากความหมายในเชิงศิลปะและความศรัทธาแล้ว มหาวิหารนอร์ทเทอร์-ดามแห่งปารีส ยังมีบทบาทต่อวรรณกรรม อย่างการเป็นฉากหลังและแรงบันดาลใจให้กับผลงานเรื่อง “คนค่อมแห่งนอร์ท-ดาม” (The Hunchback of Notre Dame) ของวิกเตอร์ อูโก นักเขียนชาวฝรั่งเศสชื่อดัง ซึ่งหนังสือเล่มนี้ ภายหลังโด่งดังไปทั่วโลกทั้งในฐานะของภาพยนตร์และการ์ตูนอนิเมชั่น ของวอลล์ ดีสนีย์
เมืองรูอ็อง แคว้นนอร์ม็องดี ประเทศฝรั่งเศส
เมืองรูอ็อง เป็นหนึ่งในเมืองเอกของแคว้นนอร์ม็องดี แห่งประเทศฝรั่งเศส ทั้งนี้ เมืองรูอ็องเคยเป็นเมืองหลวงของแคว้นนอร์ม็องดีในอดีต และเมื่อแคว้นนอร์ม็องดีถูกแบ่งออกเป็นแคว้นโอต -นอร์ม็องดี(นอร์ม็องดีเหนือ) และแคว้นบัส – นอร์ม็องดี(นอร์ม็องดีใต้)
ก็อง เมืองแห่งยุทธศาสตร์นอร์ม็องดี ประเทศฝรั่งเศส
เมืองก็อง เป็นหนึ่งในเมืองสำคัญของแคว้นนอร์ม็องดี ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศส และเป็นเมืองที่มีบทบาทในประวัติศาสตร์ยาวนาน และยังเป็นเมืองสำคัญที่ถูกเลือกให้เป็นสถานที่ปฎิบัติภารกิจในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือที่รู้จักกันดีในนามของ แผนยุทธศาสตร์นอร์ม็องดี (D-Day)
ประตูชัยแห่งฝรั่งเศส เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ประตูชัยแห่งฝรั่งเศส (Arc de triomphe de l’Étoile) สถาปัตยกรรมที่มีความงดงาม ทั้งยังเป็นสถานที่ที่มีบทบาทสำคัญต่อเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ของประเทศฝรั่งเศสหลายเหตุการณ์ โดยเฉพาะเหตุการณ์สงครามต่างๆในช่วงสมัยปฎิวัติฝรั่งเศสและสมัยจักรวรรดิฝรั่งเศส และเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพอีกด้วยตั้งอยู่ติดกับถนนช็องเซลีเซ่ ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดในโลกอีกด้วย
ห้างสรรพสินค้าลาฟาแยต เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ห้างสรรพสินค้าลาฟาแยต เป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส และยังถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองปารีสที่นักท่องเที่ยวสมควรมาเยี่ยมเยือนอีกด้วย
หอไอเฟล เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
หอไอเฟล หรือ The Eiffel Tower เป็นสิ่งปลูกสร้างอันเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการท่องเที่ยวประเทศฝรั่งเศสและภูมิภาคยุโรป โดยหอไอเฟลตั้งอยู่ที่เมืองปารีส แคว้นอิล-เดอ-ฟรองซ์ ประเทศฝรั่งเศส
เมืองโดวิลล์ แคว้นนอร์ม็องดี ประเทศฝรั่งเศส
เมืองโดวิลล์ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเล จังหวัดกาลวาโดส แคว้นนอร์ม็องดี ทางตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศส โดยเมืองโดวิลล์มีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะเมืองพักผ่อนตากอากาศ สไตล์รีสอร์ท เนื่องจากสภาพอากาศของเมืองริมทะเล และสิ่งปลูกสร้างต่างๆภายในเมือง ซึ่งมีความสวยงามและเต็มไปด้วยบรรยากาศของความหรูหราตลอดทั้งเมือง
สุดขอบจีนโบราณ ด่านหยางกวน เมืองตุนหวง ประเทศจีน
ด่านหยางกวน หรือที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Yangguan Cultural Relics Scenic Area ตั้งอยู่ใกล้เขตตุนหวง เมืองจิ่วเฉวียน มณฑลกานซู ประเทศจีน เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทั้งในด้านประวัติศาสตร์ และในฐานะที่มาของมรดกวัฒนธรรมที่สำคัญของจีนโบราณ ทั้งบทเพลง และกลอนโบราณอันโด่งดัง
วัดต้าฝอ เมืองจางเย่ ประเทศจีน
วัดต้าฝอ (张掖大佛寺 , Dafo Temple) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองจางเย่ มณฑลกานซู ประเทศจีน เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองจางเย่ ด้วยสถาปัตยกรรมวิหารไม้ศิลปะสมัยราชวงศ์เซี่ย ซึ่งสร้างครอบพระพุทธรูปปางไสยาสน์องค์ใหญ่ไว้ วิหารแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นวิหารไม้ครอบพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของเอเชีย และนอกจากวิหารแล้ว ภายในวัดยังเต็มไปด้วยพระพุทธรูปกับพุทธศิลปะอีกมากมายนับไม่ถ้วน
เมืองโบราณตุนหวง ประเทศจีน
เมืองโบราณตุนหวง (Ancient city Dunhuang) หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ตุนหวง ตั้งอยู่ใกล้เขตตุนหวง เมืองจิ่วเฉวียน มณฑลกานซู ประเทศจีน เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ซึ่งมีฉากหลังเป็นจีนโบราณอีกหลายต่อหลายเรื่อง
มั่วเกา ถ้ำแกะสลักพระพุทธรูปพันองค์ เมืองตุนหวง ประเทศจีน
ถ้ำมั่วเกา (莫高窟 หรือ Mogao Caves ) หรือถ้ำหินแกะสลักพระพุทธรูปพันองค์ ตั้งอยู่ในเขตตุนหวง เมืองจิ่วเฉวียน มณฑลกานซู ประเทศจีน
ทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยว และเนินทรายกระซิบ เมืองตุนหวง ประเทศจีน
ทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยว หรือที่เรียกกันว่าทะเลสาบเยวี่ยหยา (月牙泉, Crescent Moon Spring ) และเนินทรายกระซิบ (鸣沙山 , Echoing-Sand Dune) ตั้งอยู่ในเขตตุนหวง เมืองจิ่วเฉวียน มณฑลกานซู ประเทศจีน
Kamakura Daibutsu : พระใหญ่แห่งเมืองคามาคุระ
องค์พระใหญ่แห่งคามาคุระ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิเนื้อสำริดองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่บริเวณลานกว้างของวัดโคโตะคุอิน องค์พระใหญ่นี้มีความสำคัญเพราะเป็นองค์พระพุทธรูปเก่าแก่ที่มีอายุกว่าแปดร้อยปีที่มีความยิ่งใหญ่ สง่างาม และน่าเลื่อมใส และยังเชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก โดยนอกจากจะเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองคามาคุระแล้วยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติญี่ปุ่นอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ ที่นี่จึงกลายเป็นแลนด์มาร์กที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชนเป็นจำนวนมาก
เมืองเก่าฮอยอัน…เสน่ห์มรดกโลกแห่งเวียดนาม
เมืองเก่าฮอยอัน เป็นเมืองขนาดเล็กริมฝั่งทะเลจีนใต้ ในจังหวัดกว๋างนาม ที่มีขนาดกะทัดรัดเต็มไปด้วยเสน่ห์ และพื้นที่ที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ รักษาความเป็นเมืองมรดกแห่งวัฒนธรรมไว้อย่างดีเยี่ยมค่ะ ฮอยอันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO ในปี พ.ศ. 2542 โดยเป็นตัวอย่างของเมืองท่าค้าขายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15 - 19 ที่มีการผสมผสานศิลปะและสถาปัตยกรรมท้องถิ่นเข้ากับของต่างชาติไว้ได้อย่างกลมกล่อม
7 สะพานสวยเมืองไทย น่าไปเช็กอิน
หากเอ่ยถึงสะพานสวยๆ ในประเทศไทย แน่นอนว่าคงมีสะพานหลายๆ แห่งที่เคยได้ผ่านหูผ่านตาปรากฏขึ้นมาในจินตภาพของเรา บ้างชัดเจน บ้างเพียงรางๆ… Palanla จะพาไปชม 7 สะพานสวยในประเทศไทยแบบใกล้ๆ ได้แก่ 1) สะพานพุทธยอดฟ้า 2) สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย 3) สะพานบุญโขกู้โส่ หมู่บ้านแพมบก 4) สะพานพ่อขุนผาเมือง (ห้วยตอง) 5) สะพานอัษฎางค์ 6) สะพานมอญ 7) สะพานข้ามแม่น้ำแคว ซึ่งนอกจากความสวยงามแล้ว แต่ละแห่งยังมีที่มาที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ
อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย : เมืองแห่งอารยธรรม และมรดกโลก
อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย กลุ่มโบราณสถานขนาดใหญ่ที่เคยเป็นเมืองที่มีการตั้งรกรากมาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 6 และเป็นเมืองที่มีความรุ่งเรืองเป็นอย่างมากในฐานะเมืองลูกหลวงของกรุงสุโขทัยในช่วงพุทธศตวรรษที่ 16-18 ก่อนจะถูกทิ้งร้างไปในช่วงคาบเกี่ยวระหว่างสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายกับสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น เมืองแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางด้านสถาปัตยกรรมและศิลปกรรม ซึ่งควรค่าแก่การเที่ยวชมศึกษาของชนรุ่นหลังเป็นอย่างมาก
ขอพร "องค์เจ้าแม่กวนอิมที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย" | วัดห้วยปลากั้ง
อีกวัดหนึ่งที่มีความสวยงามไม่แพ้วัดอื่นๆ ในจังหวัดเชียงราย ที่นี่คือ วัดห้วยปลากั้ง ด้วยทัศนียภาพที่งดงามของเทือกเขาที่รายล้อม และจุดเด่นคือ "พบโชคธรรมเจดีย์" เจดีย์สูง 9 ชั้น ทรงแหลมศิลปะแบบจีนผสมล้านนา และองค์พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยด้วยความสูง 79 เมตรที่ประดิษฐานอย่างโดดเด่นเป็นสง่า จนชวนให้นึกว่าวัดแห่งนี้คือเมืองจำลองของสวรรค์
ชม UNSEEN เมืองอุทัยฯ สัมผัสวิถี SLOW LIFE ริมแม่น้ำสะแกกรัง 2 วัน 1 คืน
จังหวัดอุทัยธานีเป็นจังหวัดในภาคกลางที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวจากวิถีชีวิตท้องถิ่นท่ามกลางธรรมชาติของแม่น้ำและป่าไม้ ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่นักท่องเที่ยวมักจะนึกถึงเมื่อต้องการมาพักผ่อนเพื่อสัมผัสธรรมชาติและบรรยากาศแบบสโลว์ไลฟ์แบบไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ซึ่งหากใครพอมีเวลาอยากให้ลองมาเที่ยวอุทัยธานีดูสักครั้ง โดยวันนี้ทาง Palanla จะพาทุกท่านไปเที่ยวอุทัยธานีกันแบบ 2 วัน 1 คืน เพื่อเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดอุทัยธานีกันในทริปนี้
จันทบุรี...เที่ยวท่องมองเมืองจันท์ 2 วัน 1 คืน
จันทบุรี เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ตอบโจทย์การท่องเที่ยวได้อย่างครบถ้วน และอยู่ห่างจากกรุงเทพเพียงประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้นค่ะ ด้วยธรรมชาติที่หลากหลายทั้งทะเล ป่าเขา ไปจนถึงวิถีชีวิตชุมชนริมน้ำ และสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะพาไปเที่ยวชมในทริป 2 วัน 1 คืนนี้ เริ่มจากการไปชมสถาปัตยกรรมคริสต์ที่(1) อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล กินเที่ยวที่(2) ชุมชนริมน้ำจันทบูร สูดอากาศให้เต็มปอดที่(3)สวนสาธารณะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ชมความงดงามของศาสนสถานที่(4) โบสถ์สีน้ำเงิน วัดปากน้ำแขมหนู นั่งชิลๆรับลมทะเลที่(5) หาดคุ้งวิมาน และปิดท้ายชมความงามของถนนชล-จันท์ที่โค้งเป็นลอนคลื่นเลาะเลียบริมทะเล ณ (6)จุดชมวิวเนินนางพญา ค่ะ
"สะพานข้ามแม่น้ำแคว" สะพานประวัติศาสตร์ เมืองกาญจนบุรี
สะพานข้ามแม่น้ำแคว สถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรี ตั้งอยู่ที่ ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เป็นสะพานของเส้นทางรถไฟสายมรณะ สร้างขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สะพานเหล็กสัญลักษณ์ของเมืองกาญจนบุรี ซึ่งได้จารึกเรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์ ไว้มากมาย ถ้าไม่ได้มาเหยียบบนสะพานนี้ถือว่ายังมาไม่ถึงกาญจนบุรีเลยทีเดียว
"พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี" พระใหญ่แห่งเมืองภูเก็ต
พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี หรือ พระใหญ่ ที่ชาวต่างชาติรู้จักกันในชื่อ Big Buddha พระพุทธรูปสีขาวขนาดใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่บนยอดเขานาคเกิด ภูเขาสูงบนเขตป่าสงวนแห่งชาติเขานาคเกิด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนาแห่งใหม่ของจังหวัดภูเก็ตที่มีลักษณะเป็นพุทธอุทยาน มีความร่มรื่น สวยงาม เป็นทั้งสถานที่ปฏิบัติธรรมและที่พักผ่อนหย่อนใจ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมเดินทางมาเที่ยว ชมวิว และสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลเมื่อมาเยือนภูเก็ต
10 อันดับพระใหญ่...สูงตระหง่านที่สุดในเมืองไทย
เมืองไทย นอกจากจะมีวัดวาอารามสวยๆ อยู่ทั่วทุกจังหวัด ทั่วทุกภูมิภาคแล้ว วัดหลายๆ แห่งยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ งดงาม สูงตระหง่าน สะท้อนถึงความศรัทธาของผู้คนที่มีต่อพระพุทธศาสนาอันเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจมายาวนาน… Palanla ได้รวบรวม 10 อันดับพระใหญ่สูงตระหง่านที่สุดในเมืองไทยมาไว้ในบทความนี้ ส่วนจะมีที่ไหนบ้างนั้น ไปติดตามกันได้เลย
ชม นางพญาเสือโคร่ง "ซากุระเมืองไทย" | ภูลมโล จ.เลย
ภูลมโล อีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่มีดอกนางพญาเสือโคร่งมากที่สุดในประเทศไทย จนได้ชื่อว่า "ซากุระเมืองไทย" ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า โดยบนภูลมโลนั้น มีต้นนางพญาเสือโคร่งกระจายเต็มพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ และมีจำนวนกว่า 100,000 ต้น ซึ่งดอกนางพญาเสือโคร่งเหล่านี้จะงดงามชมพูสะพรั่งจนกลายเป็นภูเขาสีชมพู
ปางอุ๋ง “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” | จ.แม่ฮ่องสอน
ปางอุ๋ง ได้ชื่อว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติในฤดูหนาวของจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยบรรยากาศที่สวยงามของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่บนยอดเขาที่รายล้อมด้วยทิวสนและขุนเขา โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นก็จะยิ่งมีทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยงามตราตรึงใจจากสายหมอกสีขาวล่องลอยอยู่เหนืออ่างเก็บน้ำพร้อมกับแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมากระทบกับผิวน้ำจนเป็นประกาย ทำให้ปางอุ๋งเป็นอีกหนึ่งสถานที่สุดโรแมนติกที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอันน่าประทับใจ โดยมีลานกางเต็นท์และบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติที่สนใจมาท่องเที่ยวและพักแรม
มรดกโลกเมืองโบราณในประเทศญี่ปุ่น
เมืองนารา เมืองหลวงแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่น ในระหว่างปี ค.ศ. 710 – 784 ก่อนจะย้ายเมืองหลวงไปยังเมืองเกียวโต ถึงแม้จะเป็นเมืองหลวงอยู่เพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่ก็คงความน่าสนใจอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านศิลปวัฒนธรรม ความเชื่อ และระบบการปกครอง ซึ่งเป็นช่วงของการวางรากฐานต่างๆของเมืองแห่งนี้
ปักกิ่งเมืองหลวงแดนมังกร
มหานครปักกิ่ง หรือ เป่ยจิง ศูนย์กลางทางการเมือง การปกครองตั้งแต่ยุคสมัยของราชวงศ์จิน ผ่านการเปลี่ยนแปลงของราชวงศ์มายาวนานหลายศตวรรษจนกระทั่งเดินทางมาถึงการปกครองแบบสาธารณรัฐในปัจจุบัน ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนจากต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาทำธุรกิจ ติดต่อการค้า และการท่องเที่ยวในปักกิ่งเป็นจำนวนมาก ภาพของมหานครปักกิ่งในวันนี้ เรียกว่าได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ผู้คนต่างก็รับอิทธิพลด้านเทคโนโลยี และ วัฒนธรรมจากตะวันตกเข้ามามากขึ้น
ลานพญานาคคู่ริมโขง | แลนด์มาร์กสำคัญแห่งเมืองหนองคาย
ลานพญานาคริมโขง (Lan Phaya Nak) แลนด์มาร์กสำคัญของคนมาเที่ยวหนองคาย สถานที่ที่สามารถบอกเล่าความเชื่อต่อพญานาค และความผูกพันกับแม่น้ำโขงของชาวหนองคายที่มีมาอย่างยาวนาน ผ่านประติมากรรมพญานาคสีทองขนาดมหึมา 2 ตัวพ่นน้ำอยู่ริมฝั่งโขงแห่งนี้
หาดป่าตอง | ชายหาดชื่อดังแห่งเมืองภูเก็ต
หากเอ่ยถึงชื่อ “หาดป่าตอง” คงน้อยคนที่จะไม่รู้จัก แม้แต่คนที่อาจจะยังไม่เคยไปภูเก็ตก็ยังคุ้นหูชื่อนี้เป็นอย่างดี เพราะหาดป่าตองเป็นหาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของภูเก็ต หาดป่าตองเป็นที่เที่ยวที่มีหลายมิติ ขึ้นอยู่กับว่านักท่องเที่ยวแต่ละคนนั้นชอบเที่ยวแบบใด แม้ว่าเหนือหาดจะเต็มไปด้วยย่านธุรกิจและแสงสีวิบวับในยามค่ำคืน แต่ชายหาดและน้ำทะเลที่ป่าตองนั้นยังคงสวยงามไม่ได้น้อยลงไป
วัดฉลอง (วัดไชยธาราราม) วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองภูเก็ต
"วัดฉลอง" หรือ "วัดไชยธาราราม" วัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดภูเก็ต และเป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อของ "หลวงพ่อแช่ม" หรือ "พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุณี" พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองภูเก็ต หากใครมาเที่ยวที่ภูเก็ตไม่ควรพลาดที่จะแวะไปกราบสักการะหลวงพ่อแช่มเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
๙ วัดคู่บ้านคู่เมืองราชวงศ์จักรี
พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีไทย ทุกพระองค์ทรงเป็นองค์อัครราชูปถัมภกในทุกศาสนา รวมถึงศาสนาพุทธ ซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติ จึงทรงโปรดให้มีการสร้างวัดประจำพระองค์ขึ้น ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 เป็นต้นมา โดยบางวัดพระมหากษัตริย์อาจไม่ได้เป็นผู้สร้าง ทว่าทรงเกี่ยวข้องกับการบูรณะวัด หรือทรงรับวัดไว้ในพระอุปถัมภ์ และมีความผูกพันกับวัดนั้นเป็นพิเศษ ก็ถือเป็นวัดประจำรัชกาลเช่นเดียวกัน
เกียวโต อดีตเมืองหลวงเก่าของแดนอาทิตอุทัย
เกียวโตนครไร้กาลเวลา แม้ประเทศญี่ปุ่นจะขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศแห่งความทันสมัยและเทคโนโลยีชั้นเลิศ แต่เมืองเกียวโต เมืองหลวงเก่าแห่งประเทศญี่ปุ่นนั้นยังคงอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของอดีตกาล ที่ผสมผสานไปกับจังหวะการการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว ทั้งศาลเจ้าและวัดวาอารามอายุนับพันปีที่แฝงตัวอย่างกลมกลืนอยู่ท่ามกลางชุมชน การดัดแปลงโครงสร้างของมาจิยะ หรือบ้านไม้สไตล์ญี่ปุ่นโบราณมาเป็นร้านรวงสมัยใหม่ วิถีชีวิตของผู้คนที่ยังคงสวมใส่ชุดกิโมโนในชีวิตประจำวัน ทำให้ทุกย่างก้าวในเมืองเกียวโตนั้นไม่ใช่เพียงการสัมผัสบรรยากาศแห่งอดีตกาล แต่เป็นการซึมซาบปัจจุบันขณะที่ค่อยๆเคลื่อนตัวไปสู่อนาคตอย่างแช่มช้า และงดงาม
พุกาม เมืองแห่งเจดีย์สี่พันองค์
พุกาม เมืองทะเลแห่งเจดีย์ อาณาจักรโบราณแห่งแรกในประวัติศาสตร์พม่า ตั้งอยู่ห่างจากเมืองมัณฑะเลย์ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 145 กิโลเมตร พุกามถูกขนานนามให้เป็นเมืองแห่งทะเลเจดีย์ เนื่องจากในยุครุ่งเรืองมีเจดีย์ทั้งหมดถึง 4,446 องค์ และเหลืออยู่ในปัจจุบัน 2,217 องค์ โดยเจดีย์แห่งแรกของพุกามคือ เจดีย์ชเวซีโกน อีกทั้งยังมีเจดีย์และวัดสำคัญ ๆ อีกหลายแห่ง เช่น เจดีย์ชเวซันดอ, อานันทวิหาร, เจดีย์ตะเบียงนิว, วัดพะยาตองซู ปัจจุบันรัฐบาลพม่ากำลังพยายามเร่งเสนอชื่อและเตรียมความพร้อมให้พุกามเป็นมรดกโลกทางศิลปวัฒนธรรมแห่งต่อไป
ผิงเหยา 1 ใน 2 มรดกโลกเมืองโบราณของประเทศจีน
ผิงเหยานครโบราณแห่งแผ่นดินมังกร เมืองโบราณที่มีอายุกว่า 2,800 ปี ตั้งอยู่บนที่ราบไท่หยวนริมฝั่งแม่น้ำเฝินเหอ ตอนกลางของมณฑลชานซี ทางภาคเหนือของจีน ซึ่งยังคงรักษาโครงสร้างบ้านเมืองแบบชาวฮั่นในสมัยหมิงและชิงไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ผิงเหยายังเป็นสถานที่สำคัญทางโบราณคดีที่มีความอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งในประเทศจีน ปัจจุบันมีหน่วยงานรักษาโบราณวัตถุกว่า 300 แห่ง ในจำนวนนี้มีสถานที่ที่มีความสำคัญระดับชาติถึง 3 แห่ง ได้แก่ กำแพงเมืองเก่า วัดเจิ้นกั๋ว และวัดซวงหลิน และยังถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโก้เมื่อปี ค.ศ. 1997
นครวัด ศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา
นครวัด สิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่เมืองพระนคร จังหวัดเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา สร้างขึ้นในช่วงกลางพุทธศตวรรษที่ 17 หรือในสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ซึ่งถือเป็นยุครุ่งเรืองของอาณาจักรขะแมร์ วัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นศาสนสถานประจำอาณาจักร บริเวณโดยรอบมีพื้นที่กว่า 820,000 ตารางเมตร ใช้เวลาสร้างร่วม 100 ปี ใช้แรงงานคนนับแสน ช้างกว่าสี่หมื่นเชือก และช่างแกะสลักกว่าห้าพันคน ความยิ่งใหญ่ของนครวัดได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชา ซึ่งปรากฏอยู่บนธงประจำชาติ และยังได้รับได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1992
1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก : กำแพงเมืองจีนด่านสุดท้าย ประเทศจีน
กำแพงยักษ์ของจีนโบราณนั้นถูกก่อสร้างขึ้นจากมือของมนุษย์เพื่อป้องกันการรุกรานจากภายนอก ซึ่งกำแพงเมืองจีนที่มีบทบาทโดดเด่นและโด่งดังอย่างมาก ย่อมต้องเป็นกำแพงทีอยู่ใกล้กับเมืองหลวงหรือเมืองปักกิ่งอย่าง ด่านจวีหยงที่สร้างขึ้นตามแนวภูเขาซึ่งสูงชันขึ้นไปเรื่อยๆ และได้รับสมญาว่าเป็นด่านที่ไม่อาจผ่านไปได้เป็นอันดับหนึ่ง หรือกำแพงหวงฮวา กำแพงเมืองจีนติดกับทะเลสาบสำคัญของเมืองปักกิ่ง และที่ไม่ขาดได้คือกำแพงเมืองจีนที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากนักท่องเที่ยวเนื่องจากสภาพอันสมบูรณ์ของกำแพงและทิวทัศน์ที่สวยงามอย่างด่านปาต๋าหลิ่ง
หลวงพระบางเมืองมรดกโลก ประเทศลาว
หลวงพระบาง เมืองเก่าแก่ซึ่งเป็นราชธานีแห่งแรกของอาณาจักรล้านช้าง ตั้งอยู่บริเวณตอนเหนือของประเทศลาว สภาพภูมิประเทศมีความงดงามด้วยอยู่ในจุดที่แม่น้ำโขงและแม่น้ำคานไหลมาบรรจบกัน และห้อมล้อมด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ หลวงพระเป็นเมืองที่มีวัดวาอารามเก่าแก่มากมาย มีบ้านเรือนเป็นเอกลักษณ์แบบโคโลเนียลสไตล์ และมีขนบธรรมเนียมประเพณีที่งดงาม โดยเฉพาะประเพณี”ตักบาตรข้าวเหนียว”อันขึ้นชื่อ อีกทั้งยังได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองที่ได้รับการปกปักรักษาที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เหตุผลทั้งหมดนี้ทำให้หลวงพระบางได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ.1995
เกียวโต เมืองโบราณมรดกโลกประเทศญี่ปุ่น
เกียวโตเมืองมรดกโลก เมืองเล็กๆในภูมิภาคคันไซ ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น ที่เคยเป็นศูนย์กลางในการบริหารประเทศมาอย่างยาวนาน จนเป็นบ่อเกิดของศิลปวัฒนธรรมชั้นเลิศจำนวนมาก วัดวาอารามกว่าร้อยแห่งถูกสร้างขึ้นจากความศรัทธา พร้อมด้วยรากของศาสนาที่หยั่งลึกลงไปตามกาลเวลานับพันปี ส่งผลให้เกียวโตกลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยศาสนสถานสำคัญ จนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโก้ภายใต้ชื่อว่า ”อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์เกียวโตโบราณ” ประกอบไปด้วยวัด ศาลเจ้า และปราสาทรวม 17 แห่ง บางส่วนคือวัดที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง อาทิเช่นวัดน้ำใส คิโยมิซึ เดระ และวัดทอง คินคะคุจิ ที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์สำคัญแห่งเมืองเกียวโต
บุโรพุทโธ พุทธศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมืองยอกยาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย
บุโรพุทโธ ศาสนสถานสำคัญแห่งประเทศอินโดนีเซีย และเป็นพุทธสถานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 7-9 หรือประมาณปี พ.ศ. 1393 มีลักษณะเป็นมหาสถูปซึ่งมีระเบียงซ้อนกันเป็นชั้นๆลดหลั่นขึ้นไปคล้ายพีระมิดบนฐานสี่เหลี่ยม ที่ชั้นบนสุดเป็นที่ตั้งของมหาเจดีย์องค์ประธาน ห้อมล้อมด้วยพระพุทธรูปจำนวน 72 องค์ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ทรงระฆัง ฉลุเป็นช่องสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด บุโรพุทโธตั้งอยู่ที่เมืองมาเกอลัง บริเวณภาคกลางของเกาะชวา โดยสร้างอยู่บนเนินสูงจากพื้นดินราว 15 เมตร จึงเป็นที่มาของชื่อ “บุโรพุทโธ” ที่แปลว่า “วิหารที่สร้างบนภูเขาสูง” และยังได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534
ผิงเหยา เมืองโบราณมรดกโลก
ผิงเหยานครโบราณแห่งแผ่นดินมังกร เมืองโบราณที่มีอายุกว่า 2,800 ปี ตั้งอยู่บนที่ราบไท่หยวนริมฝั่งแม่น้ำเฝินเหอ ตอนกลางของมณฑลชานซี ทางภาคเหนือของจีน ซึ่งยังคงรักษาโครงสร้างบ้านเมืองแบบชาวฮั่นในสมัยหมิงและชิงไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ผิงเหยายังเป็นสถานที่สำคัญทางโบราณคดีที่มีความอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งในประเทศจีน ปัจจุบันมีหน่วยงานรักษาโบราณวัตถุกว่า 300 แห่ง ในจำนวนนี้มีสถานที่ที่มีความสำคัญระดับชาติถึง 3 แห่ง ได้แก่ กำแพงเมืองเก่า วัดเจิ้นกั๋ว และวัดซวงหลิน และยังถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโก้เมื่อปี ค.ศ. 1997
วัดคินคะคุจิ (วัดทอง) จุดศูนย์กลางเมืองมรดกโลก วิหารทองแห่งเซน
วัดคินคะคุจิ หรือวัดทอง เป็นวัดที่เปรียบเสมือนแลนด์มาร์คของเมืองเกียวโต ด้วยตัวอาคารหลักที่มีสีทองอร่ามโดดเด่นตลอดทั้งปี ในอดีตเป็นคฤหาสน์ของโชกุนอาชิคางะ โยชิมิทสึ ซึ่งมีความประสงค์ในบั้นปลายชีวิตว่า อยากอุทิศพื้นที่คฤหาสน์ของตนให้เป็นวัดในนิกายเซน ครั้นเมื่อโชกุนอาชิคางะได้เสียชีวิตลงในปี ค.ศ.1408 บุตรชายของเขาจึงได้สานต่อเจตนารมณ์นี้ โดยตั้งวัดในนิกายเซนขึ้นมาในชื่อว่า “วัดคินคะคุจิ” และความสวยงามของวัดแห่งนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้หลานชายของโชกุนอาชิคางะ สร้าง ”วัดเงิน” หรือวัดกินคาคุจิขึ้นมาคู่กัน ความงดงามของวัดคินคะคุจิยังได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก 1 ใน 17 สถานที่ในเกียวโตจากองค์กรยูเนสโกอีกด้วย
เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัย
อาณาจักรสุโขทัยถือเป็นราชธานีแห่งแรกของประเทศไทย พื้นที่ในปัจจุบันประกอบด้วยอุทยานทางประวัติศาสตร์ 3 แห่ง ได้แก่ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ภายในอุทยานประวัติศาสตร์ประกอบไปด้วยสถานที่สำคัญทั้งพระราชวัง และศาสนสถานต่างๆ ที่บ่งบอกถึงเรื่องราวสำคัญในอดีต และทำให้ในปัจจุบัน อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่างมากในประเทศไทย นอกจากนี้ องค์การยูเนสโกยังได้ประกาศให้อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเป็นแหล่งมรดกโลกร่วมกับอุทยานประวัติศาสตร์ที่กำแพงเพชรและศรีสัชนาลัยภายใต้ชื่อว่า "เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร" ในปี พ.ศ. 2534
อู่ไถซาน ภูเขาพุทธศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองซินโจว
อู่ไถซาน เป็นภูเขาสูงซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่ประทับของพระมัญชุศรีโพธิสัตว์ตามพุทธศาสนานิกายมหายาน บนเขาจึงมีวัดอยู่มากมายหลายแห่ง โดยวัดที่เก่าแก่ที่สุดถูกสร้างขึ้นเกือบเมื่อ 2,000 ปีที่แล้วถือเป็นวัดที่เก่าเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศจีน
แท็ก
แท็กท่องเที่ยวอื่นๆที่คุณอาจสนใจ