จัตุรัสกร็อง ปลัส เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม

  • อ่าน (5,822)
  • By Webmaster
  • 16:26:06 | 14 ธ.ค. 2562

จัตุรัสกร็อง ปลัส เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม

Grand Place, Brussels, Belgium


ศาลาว่าการเมืองบรัสเซลส์ (ด้านซ้าย) อาคารแมซง ดูว์ รัว (ด้านขวา) สองสถาปัตยกรรมสำคัญของจัตุรัส

             จัตุรัสกร็อง ปลัส (Grand Place) คือจัตุรัสกลางเมืองบรัสเซลส์ เป็นศูนย์กลางด้านประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม วัฒนธรรม ประจำเมืองที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นจัตุรัสที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของทวีปยุโรป และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1998


แผนที่ตั้ง จัตุรัสกร็อง ปลัส เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม

ประวัติ


บริเวณลานตรงกลางของจัตุรัสที่หนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวตลอดทั้งวัน

             จัตุรัสกร็อง ปลัส (Grand Place) เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองต่างๆ ทั่วยุโรปคือเสน่ห์ของจัตุรัสกลางเมือง ที่ถูกใช้เป็นที่ตั้งของสถานที่ราชการ หรือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญประจำเมือง โดยมีพื้นที่ส่วนกลางที่ใช้เป็นสถานที่จัดงานเทศกาล อีเว้นท์ ที่พบปะสังสรรค์ของคนในเมือง ซึ่งจัตุรัสที่สวยงาม และมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปคงหนีไม่พ้น จัตุรัสกร็อง ปลัส ศูนย์กลางของเมืองบรัสเซลส์นับตั้งแต่ก่อตั้งมาจนถึงปัจจุบัน พื้นที่ใจกลางจัตุรัสเป็นทางเดินปูด้วยหิน รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า เป็นจัตุรัสที่มีความกว้าง 68 เมตร ยาว 110 เมตร และแวดล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมหลากสไตล์ทั้งบาโรค (Baroque), กอธิค (Gothic), นีโอ กอธิค (Gothic) ฯลฯ โดยต้นกำเนิดของศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์เมืองบรัสเซลส์แห่งนี้ ต้อนย้อนไปในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13 แรกเริ่มนั้นจัตุรัสแห่งนี้ถูกเรียกว่า โกรเทอมาคท์ (Grote Mark) เป็นตลาดค้าขายสินค้าหลักประจำเมืองที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับการพัฒนาเชิงพาณิชย์ของชาวเมืองที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยผลผลิตหลักทางเศรษฐกิจของเมืองตอนนั้นคือ ขนมปัง ผ้า เนื้อสัตว์ ซึ่งมีจำนวนการส่งออกสูงมากจนต้องสร้างห้องโถงสามหลังเพื่อใช้เป็นศูนย์กลางการค้าของสินค้าทั้งสามประเภทโดยเฉพาะ และช่วงนี้เองที่เริ่มมีการควบคุมคลังสินค้า การใช้ภาษีซื้อขาย ทำให้จากตลาดท้องถิ่น เริ่มพัฒนามาเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเมือง มีการก่อสร้างอาคารบ้านเรือนสำหรับขุนนาง พ่อค้าคนสำคัญ ผู้ปกครองเมือง เพื่อใช้เป็นที่พักพิง และสั่งการประจำตลาด กลายเป็นย่านที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาจนศตวรรษที่ 17 ทำให้ปัจจุบันนักท่องเที่ยวยังสามารถพบหลักฐานเกี่ยวกับความสำคัญของตลาดในอดีตได้ผ่านชื่อถนนต่างๆ รอบจัตุรัสที่ใช้ชื่ออาหารเป็นส่วนใหญ่ เช่นชื่อถนนเนย (Rue au Beurre Street), ถนนสมุนไพร (Rue du Marche aux Herbes Street), ถนนชีส (Rue du Marche aux Fromages Street) เป็นต้น


บรรยากาศยามเช้าตรู่ของจัตุรัสกร็อง ปลัส

           หน้าประวัติศาสตร์ของจัตุรัสกร็อง ปลัส ก็ถึงจุดพลิกผันอีกครั้งในวันที่ 13 สิงหาคม ค.ศ. 1695 เมื่อกองทัพฝรั่งเศสกว่า 70,000 นาย จากเหตุการณ์ปฎิวัติฝรั่งเศส ได้ยกทัพมาถล่มเมืองบรัสเซลส์จนราบเป็นหน้ากลอง สร้างความเสียหายต่อจัตุรัส และพื้นที่โดยรอบจนเหลือแต่ซากปรักหักพัง ก่อนที่ต่อมากลุ่มกิลด์แห่งบรัสเซลส์ได้ทำการบูรณะพื้นที่บริเวณจัตุรัสขึ้นใหม่ หลังจากได้รับอนุญาตจากสภาที่ปรึกษาของเมือง และผู้ว่าการเมืองในตอนนั้น โดยมีข้อแม้ว่าต้องส่งแบบแปลนการบูรณะจัตุรัสกร็อง ปลัส มาให้คัดเลือกก่อน ทำให้สถาปัตยกรรมส่วนใหญ่ภายในจัตุรัสยังคงความสวยงาม ประณีต เหมือนก่อนจะถูกทำลายไม่ผิดเพี้ยน โดยกลุ่มกิลด์ต้องใช้เวลาบูรณะไปทั้งหมด 4 ปี แต่ดูเหมือนกาลเวลาจะชอบเล่นตลก เพราะในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18 เหล่านักปฎิวัติก็ได้ทำการบุกจัตุรัสอีกครั้ง สถาปัตยกรรม ประติมากรรม ฯลฯ ที่กลุ่มกิลด์พากเพียรบูรณะกันขึ้นมาถูกทำลายอีกรอบ แม้ความเสียหายที่เกิดจะไม่ได้รุนแรงเท่าการรุกรานของฝรั่งเศสในครั้งแรก แต่อาคารสำคัญหลายหลังก็ได้รับความเสียหายหนัก มีการนำสถาปัตยกรรมสำคัญขายทอดตลาด จนขาดการดูแล และทำให้จัตุรัสกลายเป็นพื้นที่ทรุดโทรมจนล่วงมาถึงศตวรรษที่ 19 ผู้ว่าการเมืองคนล่าสุดก็ได้เริ่มโครงการบูรณะจัตุรัสแห่งนี้ขึ้นมาอีกครั้ง และกลายเป็นจัตุรัสที่มีความสวยงามให้นักท่องเที่ยวได้มาเยี่ยมชมกันอย่างทุกวันนี้ โดยปัจจุบันสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงของจัตุรัสแห่งนี้ก็มีทั้ง ศาลาว่าการกรุงบรัสเซลส์ (Brussels Town Hall) อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ - , อาคารของพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ (Brussels City Museum) อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ –, ประติมากรรมล้ำค่า ร้านอาหาร ร้านหนังสือ ร้านแผ่นเสียง บาร์ งานกราฟฟิตี้ ฯลฯ


สถาปัตยกรรมของอาคารที่ตั้งอยู่ในจัตุรัส

           ในปี ค.ศ. 1998 จัตุรัสกร็อง ปลัส ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก และปี ค.ศ. 2010 ก็ได้รับการโหวตให้เป็นจัตุรัสที่สวยงามที่สุดในทวีปยุโรป ซึ่งทำการสำรวจโดยเว็บไซต์ www.stedentripper.com เว็บข้อมูลการท่องเที่ยวทวีปยุโรปชื่อดัง อีกไฮไลท์เด็ดของจัตุรัสคือเทศกาลพรมดอกไม้ (Brussels Flower Carpet) ที่จะมีการนำดอกไม้หลากสายพันธุ์ กว่า 500,000 ต้น มาเรียงต่อกันจนเกิดเป็นพรมขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ถึง 1,800 เมตร ซึ่งเปี่ยมไปด้วยสีสันละลายตา และลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ โดยเทศกาลนี้เกิดจากความสำเร็จของการจัดงานเฉลิมฉลองที่เบลเยียมได้เป็นประธานของสหภาพยุโรป ซึ่งมีต่อกันมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1971 ทำให้มีการจัดขึ้นอีกทุกๆ 2 ปี ในช่วงเดือนสิงหาคม และมีให้ชมกันเพียง 4 วันเท่านั้น ทำให้ที่นี่เป็นจัตุรัสกลางเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมกันหนาแน่นที่สุดแห่งหนึ่งของทวีปยุโรปเลยก็ว่าได้


แสงสียามค่ำท่ามกลางสถาปัตยกรรมอันสวยงามของจัตุรัส


สถาปัตยกรรมอันตระการตาของจัตุรัส


สถาปัตยกรรมของอาคารที่ตั้งอยู่ในจัตุรัส


ความงดงามของศาลาว่าการเมืองบรัสเซลส์


ลานกว้างตรงกลางจัตุรัส


ประติมากรรมน่าสนใจภายในจัตุรัส


สถาปัตยกรรมของอาคารที่ตั้งอยู่ในจัตุรัส


แสงสียามเช้าตรู่ของจัตุรัสกร็อง ปลัส


ม้านั่งของร้านอาหารที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับจัตุรัสกร็อง ปลัส


ร้านค้าต่างๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณรอบนอกของจัตุรัสกร็อง ปลัส

  
ประติมากรรมระลึกถึงชาร์ล บูลส์ นายกเทศมนตรีคนสำคัญของเมืองบรัสเซลส์ (ซ้าย) ประติมากรรมบอกเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ปฎิวัติฝรั่งเศสของเมืองบรัสเซลส์ (ขวา)

การเดินทางจากสนามบินบรัสเซลส์ซาเวนเทมไปยังสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์

             รถยนต์ จากสนามบินไปยังสถานีรถไฟกลางของเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Centraal) ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 32 นาที

             - รถบัส จากอาคารผู้โดยสารขาเข้าให้เดินไปขึ้นรถบัสที่สถานีรถบัสประจำสนามบิน โดยขึ้นรถบัสหมายเลข 12 ตรงไปยังสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Centraal) ได้เลย ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 34 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.delijn.be/nl/routeplanner/index.html

             - รถไฟ จากอาคารผู้โดยสารขาเข้าให้ลงไปขึ้นรถไฟ Airport City Express ที่ชั้นใต้ดินของอาคารเพื่อไปลงที่สถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Station) ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที  สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.belgiantrain.be/en

การเดินทางจากสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ไปยังจัตุรัสกร็อง ปลัส

             - เดิน จากสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์สามารถเดินไปยังจัตุรัสกร็อง ปลัสได้เลย ระยะทางประมาณ 450 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาที

เวลาเปิด-ปิดทำการ

          ตลอดเวลา


นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมจัตุรัส


นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมจัตุรัส

อัตราค่าเข้าชม

           เข้าชมฟรี


ร้านค้าต่างๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณรอบนอกของจัตุรัสกร็อง ปลัส


นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมจัตุรัส

เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว

           ตลอดทั้งปี


ร้านค้าต่างๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณรอบนอกของจัตุรัสกร็อง ปลัส


นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมจัตุรัส


           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว จัตุรัสกร็อง ปลัส สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       จัตุรัสกร็อง ปลัส เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม

                       (Grand Place, Brussels , Belgium)

                       ระดับความนิยม

                       อัตราค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี

                       เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                       สถานที่ตั้ง : เมืองบรัสเซลส์, ประเทศเบลเยียม

                       โทรศัพท์ : -

                       เว็บไซต์ : -

                       ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์สำนักงานการท่องเที่ยวประเทศเบลเยียม http://walloniabelgiumtourism.co.uk/

                                        เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสำนักงานเมืองบรัสเซลส์ https://www.brussels.be/

                                        เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองบรัสเซลส์ https://be.brussels/bruxelles

                                        เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/

                                        เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนของเมืองบรัสเซลส์ http://www.stib-mivb.be/index.htm?l=fr

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์

นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์

อ่านต่อ

รวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด

อ่านต่อ

หมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม

อ่านต่อ

มหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ

อ่านต่อ

มหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม

อ่านต่อ

ท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ

อ่านต่อ

กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา

อ่านต่อ

หมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ

อ่านต่อ

หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้

อ่านต่อ

หมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ