ศาลหลักเมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

  • อ่าน (6,395)
  • ByWebmaster
  • 17:18:35 | 28 ต.ค. 2563

ศาลหลักเมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

Ayutthaya City Pillar Shrine, Ayutthaya Province, Thailand

             ศาลหลักเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (Ayutthaya City Pillar Shrine) ถือเป็นอีกหนึ่งศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองเก่า เมืองที่เต็มไปด้วยร่องรอยทางประวัติศาสตร์มากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศแห่งนี้


ประวัติ

             ศาลหลักเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยาตั้งอยู่บริเวณใกล้กับศาลพระกาฬและสี่แยกตะแลงแกง ถือเป็นหลักชัยคู่บ้านคู่เมืองที่ส่งเสริมความร่มเย็นเป็นสุข เป็นสิริมงคล มิ่งขวัญ รวมทั้งเพื่อแสดงถึงความมั่นคงและเป็นปึกแผ่นของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่มีมาอย่างยาวนาน  สันนิษฐานว่าได้มีการสถาปนาหลักเมืองพระนครศรีอยุธยาขึ้นในคราวเดียวกันเมื่อครั้งสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ( พระเจ้าอู่ทอง) ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยาเมื่อวันศุกร์ ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 5 พ.ศ. 1893 ตามข้อมูลในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาที่ตรงกันหลายฉบับ ทว่าหลักเมืองเดิมนั้นได้ปรักพังสูญไปราวพ.ศ. 2310 และไม่ได้มีการสร้างขึ้นมาใหม่ในสมัยกรุงธนบุรี

             ศาลหลักเมืองพระนครศรีอยุธยาปัจจุบันเป็นศาลหลักเมืองสร้างขึ้นมาใหม่เนื่องในมหามงคลสมัยสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พ.ศ. 2525 เพื่อเป็นสิริมงคลตามประเพณีโบราณที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาโดยมีกรมศิลปากรเป็นผู้กำหนดภูมิสถาน ออกแบบและก่อสร้าง รูปแบบของสถาปัตยกรรมนั้นเป็นอาคารมณฑปจตุรมุข ก่ออิฐถือปูน มีประตูเข้าออกทั้ง 4 ด้าน อาคารศาลหลักเมืองมีบันไดขึ้นลง 3 ด้าน หลังคาเป็นยอดปรางค์ ยอดบนสุดประดับนพศูล หรือนภศูล มีลักษณะซ้อนกัน 3 ชั้นงดงาม

             องค์เสาหลักเมืองทำจากไม้มงคลชัยพฤกษ์ โดยยอดเสาแกะสลักเป็นรูปดอกบัวแก้วซ้อนกัน 7 ชั้น ส่วนฐานเสาสูงจากอาคารชั้นล่างขึ้นมาอาคารชั้นบนนั้นมีกระจกแก้วครอบไว้อีกชั้นหนึ่ง ขณะไหว้สามารถมองเห็นองค์เสาหลักเมืองจากภายนอกผ่านกระจกใสได้ชัดเจน  

             พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ทรงพระสุหร่ายและทรงเจิมองค์หลักเมืองพระนครศรีอยุธยาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2527 เวลา 07.00 นาฬิกา ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน โดยได้ประกอบพิธีเปิดอาคารศาลหลักเมืองประจำจังหวัดนี้เมื่อวันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2527  

อาคารศาลหลักเมืองอยุธยา


การเดินทางไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจากกรุงเทพมหานคร

             - รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีระยะทาง 80 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที    

             - รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที    


การเดินทางไปศาลหลักเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

             ศาลหลักเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยาตั้งอยู่บริเวณวงเวียนใกล้กับศาลพระกาฬและสี่แยกตะแลงแกง รถสาธารณะที่ผ่านได้แก่ รถสาย ปอ.5 และสาย 6  


เวลาทำการเปิด – ปิด

             กราบสักการะได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น.


อัตราค่าเข้าชม

             ไม่เสียค่าเข้าชม


ศาลหลักเมืองพระนครศรีอยุธยาหลังปัจจุบันเป็นศาลหลักเมืองที่สร้างขึ้นมาใหม่เนื่องในมหามงคลสมัยสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พ.ศ. 2525


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวศาลหลักเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

            สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวศาลหลักเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยาคือสักการะองค์ศาลหลักเมืองเพื่อความเป็นสิริมงคล


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             ตลอดทั้งปี


             นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม ศาลหลักเมืองจังหวัดอยุธยา สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         ศาลหลักเมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

                         (Ayutthaya City Pillar Shrine, Ayutthaya Province, Thailand) 

                         ระดับความนิยม : 

                         อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม   

                         เวลาเปิด – ปิด : กราบสักการะได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น.

                         ตั้งอยู่ที่ : ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

                         โทรศัพท์ : -

                         เว็บไซต์ : -

                         ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com

                                         เว็บไซต์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา http://ww2.ayutthaya.go.th/frontpage

                                         เฟซบุ๊คการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา https://www.facebook.com/TatAyutthaya/

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

คู่มือการดำเนินการตามกระบวนการเคลมประกันรถยนต์ฉบับสมบูรณ์

การมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือประสบความเสียหายต่อยานพาหนะของคุณอาจเป็นประสบการณ์ที่ตึงเครียดและท่วมท้น อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์สามารถช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและแก้ไขปัญหาได้ราบรื่นยิ่งขึ้น

อ่านต่อ

สวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

สวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม (Muang Photharam Municipal Public Park) เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ริมเขื่อนแม่น้ำแม่กลองในอำเภอโพธาราม ภายในสวนมีบรรยากาศร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ และยังมีส่วนของจุดชมวิว สนามหญ้า ทางวิ่งออกกำลังกาย ลานกีฬา เครื่องออกกำลังกาย และสนามเด็กเล่น สวนสาธาณะแห่งนี้เหมาะกับคนทุกวัยที่ต้องการมาเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย และชมวิวแม่น้ำแม่กลองที่เป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัดราชบุรี และที่นี่ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานกิจกรรมและงานประเพณีต่างๆ ของเมืองโพธารามอีกด้วย

อ่านต่อ

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี (Ratchaburi National Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์จากการใช้ศาลากลางหลังเก่าของจังหวัดราชบุรีมาก่อตั้งขึ้นเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อาคารแห่งนี้เป็นอาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและอยู่คู่กับจังหวัดราชบุรีมาอย่างนาวนาน และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติอีกด้วย ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรีมีนิทรรศการท้องถิ่นที่น่าสนใจของจังหวัดราชบุรีให้เที่ยวชม โดยจัดแสดงเรื่องราวทางสภาพภูมิศาสตร์และธรรมชาติวิทยา ประวัติศาสตร์และโบราณคดี ชนเผ่าชาติพันธุ์วิทยา มรดกทางธรรมชาติและวัฒนธรรม และบุคคลสำคัญ ไปจนถึงคลังโบราณวัตถุที่หาชมได้ยากตั้งแต่เครื่องปั้นดินเผาไปจนถึงพระพุทธรูปในยุคต่างๆ

อ่านต่อ

น้ำตกเก้าชั้น จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

น้ำตกเก้าชั้น (Kaew Chan Waterfalls) เป็นน้ำตกกลางหุบเขาที่มีความสูง 9 ชั้น โดยแต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป ชั้นที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดคือบริเวณชั้นที่ 6 น้ำตกเก้าชั้นสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะมีน้ำไหลทุกฤดูกาล โดยจะมีน้ำมากที่สุดและสวยที่สุดในช่วงฤดูฝน เพราะจะมองเห็นสายน้ำตกสีขาวขนาดใหญ่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงท่ามกลางป่าไม้อันเขียวขจีและเสียงของน้ำตก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งของอำเภอสวนผึ้ง

อ่านต่อ

ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก (Lao Tuk Luck Floating Market) เป็นตลาดน้ำแห่งแรกของจังหวัดราชบุรีที่ก่อตั้งขึ้นมาก่อนตลาดน้ำดำเนินสะดวก มีลักษณะเป็นตลาดน้ำขนาดย่อมที่ตั้งอยู่บนเรือนไม้ริมน้ำที่ชุมชนชาวไทย-จีนอาศัยอยู่ ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลักมีบรรยากาศเรียบง่ายและคลาสสิก แต่มีความพลุกพล่านน้อยกว่าตลาดน้ำดำเนินสะดวก การเดินทางก็แสนง่าย แค่เพียงแค่ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำจากฝั่งตลาดน้ำดำเนินสะดวกมายังฝั่งตรงข้าม ก็จะได้พบกับเรือนไม้โบราณของชุมชนชาวจีนและลำคลองที่ตัดผ่าน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอาหารทานง่ายอร่อยๆ ให้เลือกมากมาย และมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้เก็บความประทับใจ นอกจากนี้ในวันหยุดจะมีเสียงดนตรียุค 80 คลอเคล้าสร้างความเพลิดเพลินในการเดินตลาดอีกด้วย

อ่านต่อ

ตลาดน้ำอโยธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

ตลาดน้ำอโยธยา (Ayothaya Floating Market) ตลาดน้ำที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองเก่าแห่งนี้

อ่านต่อ

วัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

วัดราชบูรณะ (Wat Ratchaburana) อนุสรณ์สถานแห่งการแย่งชิงราชบัลลังค์ เป็นอีกหนึ่งในวัดที่ใหญ่ และเก่าแก่มากที่สุดในพระนครศรีอยุธยา สร้างโดยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 หรือ เจ้าสามพระยา เมื่อปี พ.ศ. 1967

อ่านต่อ

วัดมเหยงคณ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

วัดมเหยงคณ์ (Wat Mahaeyong) อดีตพระอารามหลวง และกลายเป็นวัดร้างไปภายหลังกรุงศรีอยุธยาแตกเมื่อ พ.ศ. 2310 ปัจจุบันวัดแห่งนี้ยังทำหน้าที่เป็นสถานปฏิบัติธรรม ใจกลางโบราณสถานที่เก่าแก่ของอยุธยาอีกด้วย

อ่านต่อ

10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

จังหวัดนครสวรรค์ตั้งอยู่บริเวณภาคกลางตอนบน เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เป็นแหล่งเกษตรกรรมของไทย อีกทั้งยังได้รับสมญานามว่าเป็นประตูสู่ภาคเหนือ และเป็นพื้นที่ต้นกำเนิดของแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ จังหวัดนครสวรรค์จึงมีทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม และมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายโดยเฉพาะวัดและตลาดที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของชาวนครสวรรค์ได้เป็นอย่างดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดนครสวรรค์มาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

หอชมเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

หอชมเมืองนครสวรรค์ (Nakhon Sawan Observation Tower) เป็นหอชมเมืองที่ตั้งอยู่บนเขาคีรีวงศ์ จุดชมวิวจะตั้งอยู่บริเวณชั้น 10 ของหอชมเมืองซึ่งสามารถชมวิวเมืองนครสวรรค์จากมุมสูงได้โดยรอบ และมองเห็นทิวทัศน์ของธรรมชาติที่อยู่ไกลออกไปได้อย่างเต็มตา นอกจากนี้บริเวณชั้น 1 ยังมีร้านขายของที่ระลึกซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่นให้เลือกซื้ออีกด้วย หอชมเมืองนครสวรรค์จึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองปากน้ำโพที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ