- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- พระราชวังลุกซ็องบูร์ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
พระราชวังลุกซ็องบูร์ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
- อ่าน (4,103)
- By Webmaster
- 10:54:45 | 20 ก.ย. 2562
พระราชวังลุกซ็องบูร์ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
Luxembourg Palace, Paris, France
ขอบคุณภาพประกอบจาก https://en.wikipedia.org
พระราชวังลุกซ็องบูร์ (Palais du Luxembourg หรือ Luxembourg Palace) พระราชวังอันมีสไตล์คล้ายกับศิลปะในเมืองฟลอเรนซ์ ซึ่งเคยเป็นพระราชวังของสมเด็จพระราชินีมารี เดอ เมดิชิ แห่งพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งแห่งของเมืองปารีสที่เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจและได้ซึมซับความรู้ทางประวัติศาสตร์ไปในขณะเดียวกัน
ประวัติ
พระราชวังลุกซ็องบูร์ (Palais du Luxembourg หรือ Luxembourg Palace) ตั้งอยู่ในเขตของสวนลุกซ็องบูร์ บริเวณทางเหนือในกรุงปารีส ในอดีตพระราชวังแห่งนี้เคยเป็นพระราชวังของสมเด็จพระราชินีมารี เดอ เมดิชิ แห่งพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 ปัจจุบันเป็นที่ทำการของวุฒิสภาฝรั่งเศส
พระราชวังนี้ได้รับการออกแบบให้มีสไตล์คล้ายกับพระราชวังพิตติ (Pitti Palace) ในเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของพระราชินี สถาปนิกผู้ออกแบบคือ ซาลอมง เดอ บร็อส (Salomon de Brosse) เป็นสถาปนิกของสมัยบาโรกชาวฝรั่งเศสผู้มีอิทธิพลต่อสถาปัตยกรรมในคริสต์ศตวรรษที่ 17 ซึ่งงานชิ้นสำคัญของเขาก็คือการออกแบบพระราชวังลุกซ็องบูร์สำหรับสมเด็จพระราชินีนาถมารี เดอ เมดิชิแห่งนี้ โดยซาลอมง เดอ บร็อสได้ส่งคนไปวาดโครงสร้างต่างๆ จนเป็นที่พอพระทัยของพระราชินี ได้ทรงรับซื้อโครงสร้างนี้และตั้งชื่อว่า พระราชวังเมดิชิ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นพระราชวังลุกซ็องบูร์ในภายหลัง
ในอดีตภายในพระราชวังนี้แห่งนี้มีของล้ำค่ามากมายประดับตกแต่งอยู่ ปัจจุบันของเหล่านั้นได้สูญหายไปเป็นจำนวนค่อนข้างมาก และบางส่วนก็ถูกส่งไปตามพิพิธภัณฑ์ต่างๆ มีเพียงสิ่งเดียวที่ยังคงประดับอยู่ในพระราชวังแห่งนี้ คือ ภาพวาดของพระราชินีมารี เดอ เมดิชิ ที่วาดโดย ปีเตอร์ พอล รูเบนส์ (Peter Paul Rubens) จิตรกรยุคบาโรก ที่มีชื่อเสียงในคริสต์ศตวรรษที่ 17 และได้รับการยกย่องว่ามีอิทธิพลมากที่สุดของเฟลมิช ประเทศเบลเยียม โดยงานของเขามีเอกลักษณ์โดดเด่นที่ลักษณะการเคลื่อนไหว สีสัน และมีชีวิตชีวา รูเบนส์มีความเชี่ยวชาญทั้งการเขียนภาพเหมือน ภาพทิวทัศน์ ภาพแนวศาสนาและเรื่องจากตำนาน
ภายในพระราชวังนักท่องเที่ยวจะพบกับห้องโถงต้อนรับที่บนเพดานนั้นเป็นภาพจิตรกรรมสื่อเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนาที่มีความวิจิตรสวยงามมาก เยื้องๆ กันเป็นห้องสมุดซึ่งเพดานนั้นตกแต่งด้วยภาพจิตรกรรมในรูปเดียวกัน ซึ่งศิลปะภายในรวมถึงจิตรกรรมต่างๆ บนผนังจะเน้นโทนสีครีมและสีทอง ให้ความรู้สึกหรูหราและสง่างามในสไตล์โรมัน ไฮไลต์เป็นห้องประชุมวุฒิสภาที่ออกแบบได้เข้ากับตัวพระราชวังพร้อมกับรูปปั้นอนุสาวรีย์ทั้งเจ็ดที่เป็นประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส
ขอบคุณภาพประกอบจาก https://en.wikipedia.org
ขอบคุณภาพประกอบจาก https://en.wikipedia.org
ขอบคุณภาพประกอบจาก https://en.wikipedia.org
การเดินทางจากสนามบินไปเมืองปารีส
ปารีสเป็นเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส มีสนามบินที่สำคัญคือ สนามบินนานาชาติชาร์ลเดอโกล (Charles de Gaulle International Airport) ตั้งอยู่ที่เขตคัวร์ซี่ (Roissy) ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองปารีสไปทางตอนเหนือ 25 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินทางมายังเมืองปารีสได้ด้วยการเดินทางหลากหลายประเภท
- รถบัสสนามบิน สนามบิน Roissy Charles de Gaulle มีบริการรถบัสสำหรับเดินทางจากสนามบินสู่ใจกลางเมืองปารีส ทุก 15 - 20 นาที ตั้งแต่เวลา 05.15 น. – 00.30 น.ของอีกวัน นักท่องเที่ยวสามารถศึกษารายละเอียดอัตราค่าบริการรวมถึงซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ที่ https://en.parisinfo.com/transport/73373/RoissyBus
- รถแท็กซี่/รถยนต์ สนามบิน Charles de Gaulle ตั้งอยู่ห่างจากปารีสไปเพียง 25 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวจึงสามารถใช้บริการรถยนต์หรือรถแท็กซี่เพื่อเดินทางเข้าเมืองได้ โดยสามารถตรวจสอบเส้นทางการเดินทางได้ และอัตราค่าใช้บริการทางด่วนได้ที่ http://www.autoroutes.fr/index.htm?lang=en และตรวจสอบเกี่ยวกับอัตราค่าบริการรวมถึงจองใช้บริการแท็กซี่ได้ที่ https://www.parisaeroport.fr/en/passengers/access/paris-charles-de-gaulle/taxi/paris-cdg-taxi
- รถไฟใต้ดิน เป็นบริการขนส่งสาธารณะที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมในฝรั่งเศสอย่างมาก นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากสนามบินไปยังเมืองปารีสได้ภายใน 35 นาที และมีค่าบริการเพียง 11.40 ยูโร สถานีปลายทางในตัวเมืองปารีสคือ สถานีรถไฟ Châtelet – Les Halles ซึ่งเป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟใต้ดินอีกหลายสายให้เดินทางต่อไปยังที่พักหรือสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ได้อย่างสะดวก สามารถตรวจสอบเส้นทาง ตารางเวลา และอัตราค่าโดยสารได้ที่ https://www.parisaeroport.fr/en/passengers/access/paris-charles-de-gaulle/public-transport/rer-b
การเดินทางไป Luxembourg Palace
- รถยนต์ จากสถานี Châtelet - Les Halles ไปยัง Luxembourg Palace โดยใช้ถนนเส้น Quai de l'Hôtel de ville มีระยะทาง 3.8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 18 นาที
- รถไฟ จากสถานี Châtelet - Les Halles นั่งรถไฟ RER สาย RER BPIDO 84St-Rémy-lès-Chevreuse ไปลงที่สถานี Luxembourg ใช้เวลา 4 นาที จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 700 เมตร
เวลาทำการเปิด – ปิด
เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลาทำการเปิด-ปิดจะปรับเปลี่ยนไปในแต่ละฤดู โดยเวลาเปิดจะอยู่ระหว่าง 7.00 - 8.15 น. และเวลาปิดคือระหว่าง 16.45 - 21.45 น. นักท่องเที่ยวสามารถจัดทริปเดินชมภายในได้ในช่วงวันจันทร์และวันศุกร์ และในช่วงวันหยุดพิเศษระหว่างสุดสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกันยายน นอกเหนือจากนี้ยังสามารถเข้าชมได้หากไม่มีการประชุมวุฒิสภา
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
ขอบคุณภาพประกอบจาก https://en.wikipedia.org
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว Luxembourg Palace
พระราชวังลุกซ็องบูร์มีความงดงามและส่วนต่างๆ ที่นี่สนใจมากมาย ซึ่งหนึ่งไฮไลต์สำคัญที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดที่จะเข้าเยี่ยมชมคือห้องประชุมวุฒิสภาที่มีความงดงามและออกแบบมาได้เข้ากับตัวพระราชวัง พร้อมกับรูปปั้นอนุสาวรีย์ทั้งเจ็ดที่เป็นประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส
ห้องประชุมวุฒิสภา ขอบคุณภาพประกอบจาก https://en.wikipedia.org
รูปปั้นอนุสาวรีย์ทั้งเจ็ด ขอบคุณภาพประกอบจาก https://en.wikipedia.org
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเที่ยวที่ Luxembourg Palace ได้ตลอดปี
ขอบคุณภาพประกอบจาก https://en.wikipedia.org
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
นอกจากโซนข้างหน้าพระราชวังที่เป็นลานน้ำพุและทะเลสาบเล็กๆสวยงามแล้ว บริเวณรอบๆ นอกของพระราชวังยังมีสวนลุกซ็องบูร์ บนเนื้อที่ขนาด 25 เฮ็คตาร์ เป็นลานหญ้าและทางเดินประดับด้วยรูปปั้นสลับกับอ่างน้ำตั้งอยู่เป็นระยะ นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นชมวิว ถ่ายรูปได้เพลิดเพลิน
ขอบคุณภาพประกอบจาก https://en.wikipedia.org
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม Luxembourg Palace สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
พระราชวังลุกซ็องบูร์ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
(Luxembourg Palace, Paris, France)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด – ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลาทำการเปิด-ปิดจะปรับเปลี่ยนไปในแต่ละฤดู
โดยเวลาเปิดจะอยู่ระหว่าง 7.00 - 8.15 น. และเวลาปิดคือระหว่าง 16.45 - 21.45 น.
ตั้งอยู่ที่ : 15 Rue de Vaugirard, Paris,
โทรศัพท์ : (+33) 1 42 34 20 00
เว็บไซต์ : -
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวแคว้นอิล-เดอ-ฟรองซ์ http://en.visitparisregion.com/
การท่องเที่ยวประเทศฝรั่งเศส http://uk.france.fr/
ขนส่งสาธารณะของประเทศฝรั่งเศส https://www.ratp.fr/en/plans-lignes
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเมืองปารีส https://en.parisinfo.com/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อรวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อ