เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ โดยคลิก "การตั้งค่าคุกกี้"
อ่าวมาเทอร์ส เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
Bay of Martyrs, Melbourne, Australia
อ่าวมาเทอร์ส (The Bay of Martyrs) เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานชายฝั่ง Bay of Islands ซึ่งเป็นเขตสงวนชายฝั่งทะเลครอบคลุมพื้นที่ยาว 32 กิโลเมตรในรัฐวิกตอเรียเลียบไปกับถนนสายเกรท โอเชี่ยน โรด (Great Ocean Road) ภูมิภาคนี้ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามที่สุดในประเทศออสเตรเลีย มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ผสมผสานกับวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา และทิวทัศน์ที่สวยงามชวนประทับใจ
ประวัติ
อ่าวมาเทอร์สมีความยาว 2.5 กิโลเมตร โดยมีจุดชมวิวมากมายให้นักท่องเที่ยวเพลิดเพลินไปกับความสวยงามของแนวชายฝั่งอันกว้างใหญ่ไพศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามพระอาทิตย์ตกที่ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อ สะท้อนลงบนเสาหินอายุนับล้าน ๆ ปีที่เรียงซ้อนลดหลั่นกันอยู่ในน่านน้ำตามแนวชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก โดยที่บริเวณ The Bay of Martyrs มีเสาหินที่มีความสูงถึง 10 เมตรตั้งอยู่
โดยในอ่าวมาเทอร์สแห่งนี้ยังมีอ่าวเล็กๆ สองแห่ง ได้แก่ Crofts Bay และ Massacre Bay ซึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการว่ายน้ำทางด้านตะวันออกของอ่าวมีชายหาดที่สามารถลงเล่นน้ำได้ ส่วนการตกปลานั้นอนุญาตให้ตกได้ตามแนวปะการังน้ำตื้นบนชายหาด
สิ่งที่เป็นจุดเด่นของชายหาดแห่งนี้คือมีผู้คนน้อยกว่าที่ Port Campbell ซึ่งเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ซึ่งอ่าวมาเทอร์สมียังเป็นที่ชื่นชอบในหมู่ผู้ที่ชอบการถ่ายภาพแนวภูมิทัศน์หรือแลนด์สเคป โดยบริเวณจุดชมวิวมีทิวทัศน์ที่งดงามโดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก
รอบๆ ภูมิภาคนี้ของรัฐวิกตอเรียเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เชื่อมโยงกับที่มาของชื่ออ่าวและจุดชมวิวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Massacre Bay, Massacre Point หรือ Bay of Martyrs ตามเรื่องราวที่เล่าต่อกันมาหลายชั่วอายุนั้นว่ากันว่า ชาวยุโรปพี่เพิ่งอพยพมายังดินแดนส่วนนี้ของออสเตรเลียได้ฆ่าชาวอะบอริจินชนเผ่า Karrae-Wurrong ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองอะบอริจินกลุ่มใหญ่ของออสเตรเลียที่อาศัยอยู่ก่อน โดยการวิ่งต้อนไล่ล่าให้ตกลงไปยังหน้าผา ในขณะที่ผู้หญิงและเด็กถูกฆ่าตายในหนองน้ำบริเวณใกล้เคียง ก่อนที่ชาวยุโรปจะเข้ามาครอบครองและตั้งรกรากอยู่พื้นที่บริเวณนี้มานับตั้งแต่นั้น มาเทอร์ส (Martyr) ที่แปลว่าผู้ที่ได้รับความทุกข์ทรมานหรือผู้เสียสละซึ่งก็คือชาวอะบอริจินที่ถูกฆ่าจึงกลายมาเป็นชื่อเรียกอ่าวที่สวยงามแห่งนี้
อย่างไรก็ดี ยังมีเรื่องเล่าอีกหลายแบบที่ต่างออกไปจากนี้ ทั้งนี้ก็ไม่ได้มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต ที่หลงเหลือให้เห็นได้อย่างแจ่มชัดในปัจจุบันมีเพียงความงามของทิวทัศน์รอบ ๆ อ่าว Martyrs Bay และความน่าอัศจรรย์ของประติมากรรมธรรมชาติที่โผล่พ้นขึ้นมาจากท้องทะเลสีครามของมหาสมุทรแปซิฟิกให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชม
ทัศนียภาพโดยรอบ Martyrs Bay
ป้ายพร้อมข้อความยินดีต้อนรับสู่ Martyrs Bay
Martyrs Bay เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานชายฝั่ง Bay of Islands
ข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานชายฝั่ง Bay of Islands
การเดินทางจากสนามบินสู่ตัวเมือง
ท่าอากาศยานเมลเบิร์น หรือ “ท่าอากาศยานทัลลามารีน” (Tullamarine Airport) เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “สนามบินเมลเบิร์น” หรือที่คนท้องถิ่นนิยมเรียกว่า “สนามบินทัลลามารีน” เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนเพราะเมลเบิร์นมีมากกว่าหนึ่งสนามบิน โดยสนามบินแห่งนี้เป็นสนามบินหลักของเมืองเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย
การเดินทางจากสนามบินไปยัง Flinders Street Railway Station ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางการคมนาคมรวมทั้งยังเป็นจุดนัดพบสำคัญที่อยู่ใจกลางตัวเมืองเมลเบิร์น มีระยะทางประมาณ 28 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรและรูปแบบการเดินทางที่นักท่องเที่ยวเลือก โดยสนามบินเมลเบิร์นยังไม่มีเส้นทางรถไฟที่รวดเร็วให้บริการ การใช้รถชัตเทิลบัสสนามบิน หรือแท็กซี่ จึงยังเป็นทางเลือกที่สะดวกรวดเร็วที่สุด
- รถยนต์ (Car) จากสนามบินเมลเบิร์นไปยัง Flinders Street Railway Station โดยใช้ทางหลายหมายเลข M2 มีระยะทางประมาณ 27 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
- รถประจำทาง (Bus) มีบริการรถประจำทาง SkyBus รับส่งระหว่างสนามบินเมลเบิร์นกับตัวเมือง โดยนักท่องเที่ยวสามารถนั่ง SkyBus จากสนามบินมาลงที่ Skybus Coach Terminal ที่อยู่ใกล้ๆ กับ Flinders Street Railway Station เพียงเดินราวๆ 8 นาที
- แท็กซี่ (Taxi) สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการใช้บริการรถแท็กซี่ มีบริการรถแท็กซี่บริเวณหน้าอาคารผู้โดยสาร จากสนามบินเมลเบิร์นไปยัง Flinders Street Railway Station มีค่าบริการประมาณ 60 AUD
- รถไฟ (Train) ไม่มีรถไฟให้บริการจากสนามบินเมลเบิร์นโดยตรง หากต้องการเดินทางโดยรถไฟนักท่องเที่ยวจะต้องนั่ง SkyBus หรือรถประจำทางสาย 901 จากสนามบินมาลงที่ Broadmeadows Station เพื่อขึ้นรถไฟสาย Craigieburn City ไปยัง Flinders Street Railway Station ใช้เวลาในการเดินทางโดยรวมประมาณ 40 - 50 นาที
การเดินทางไป Bay of Martyrs
Bay of Martyrs อยู่ห่างจากตัวเมืองเมลเบิร์นออกไปประมาณ 242 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไป Bay of Martyrs ได้โดย
- รถยนต์ (Car) การเดินทางโดยรถยนต์จากบริเวณ Flinders Street Station ไปยัง Bay of Martyrs โดยใช้เส้นทางสาย ผ่าน M1 และ Princes Hwy/A1 มีระยะทาง 242 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง
เวลาทำการเปิด – ปิด
เปิด 24 ชั่วโมง
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว Bay of Martyrs
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว Bay of Martyrs ได้แก่ การลงเล่นน้ำที่ชายหาดทางด้านตะวันออกของอ่าว ตกปลาตามแนวปะการังน้ำตื้นบนชายหาด และถ่ายภาพแลนด์สเคปสวย ๆ โดยเฉพาะในยามพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตก
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยว Bay of Martyrs ได้ตลอดทั้งปี
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
แม้ว่าการเดินทางไปท่องเที่ยวที่ Great Ocean Road นั้นจะสามารถทำได้อย่างสะดวกและไม่มีอะไรน่ากังวล แต่ทั้งนี้เงื่อนไขการท่องเที่ยวในเขตอุทยานก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยเหตุผลหลายประการ อาทิ สภาพอากาศที่ไม่เหมาะสมหรือเกิดไฟป่า ดังนั้น ก่อนไปนักท่องเที่ยวควรตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกครั้งบนเว็บไซต์ของ Parks Victoria ที่ https://www.parks.vic.gov.au/
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว Bay of Martyrs สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
อ่าวมาร์เทอร์ส เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
(Bay of Martyrs, Melbourne, Australia)
ระดับความนิยม :
เวลาเปิด – ปิด : เปิด 24 ชั่วโมง
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
ตั้งอยู่ที่ : Bay of Islands Coastal Park, Peterborough, VIC
โทรศัพท์ : (+61) 3 8627 4699
เว็บไซต์ : https://www.visitgreatoceanroad.org.au/attractions/bay-of-islands-coastal-park/#moreinfo
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
การท่องเที่ยวเมืองเมลเบิร์น https://www.visitmelbourne.com
การท่องเที่ยวประเทศออสเตรเลีย https://www.australia.com
ระบบขนส่งสาธารณะรัฐวิคตอเรีย https://www.ptv.vic.gov.au
ประเทศนิวซีแลนด์นั้นขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติอันสวยงามและอุดมสมบูรณ์ และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศทั้งบนเกาะเหนือและเกาะใต้ โดยจุดเด่นของเกาะเหนือคืออุทยานความร้อนใต้พิภพ ส่วนจุดเด่นของเกาะใต้คือเทือกเขาและทะเลสาบ ในบทความนี้ทาง Palanla จะพาทุกท่านไปท่องเที่ยวที่เกาะใต้ ซึ่งสามารถเดินทางมาด้วยการต่อเครื่องบินจากสนามบินโอ๊คแลนด์ซึ่งเป็นสนามบินหลักของประเทศนิวซีแลนด์ที่ตั้งอยู่บนเกาะเหนือ มาลงยังสนามบิน ควีนส์แลนด์หรือสนามบินไครสต์เชิร์ชบนเกาะใต้ เพื่อไปชม 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมบนเกาะใต้ที่ไม่ควรพลาดดังต่อไปนี้
อ่านต่อสวนพฤกษศาสตร์ไครสต์เชิร์ช (Christchurch Botanic Gardens) เป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองไครสต์เชิร์ช ภายในสวนแห่งนี้เต็มไปด้วยพืชพรรณอันหลากหลายที่สามารถเที่ยวชมได้ทุกฤดูกาล เพราะจะมีต้นไม้และดอกไม้เติบโตและผลิบานแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล เช่น ดอกกุหลาบที่บานในช่วงฤดูร้อน ดอกแดฟโฟดิลที่บานในฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และในฤดูหนาวก็สามารถชมพรรณไม้นานาพันธุ์ได้ในเรือนกระจกบรรยากาศสบายๆ ที่เปิดให้เที่ยวชมตลอดช่วงฤดูหนาว ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจบนเกาะใต้ของนิวซีแลนด์
อ่านต่อสกายไลน์ควีนส์ทาวน์ (Skyline Queenstown) เป็นจุดชมวิวบนยอดเขาที่น่าตื่นตาตื่นใจ และจะต้องขึ้นลงด้วยกระเช้ากอนโดล่าเท่านั้น ซึ่งกระเช้ากอนโดล่านี้เป็นกระเช้าที่มีความชันที่สุดในซีกโลกใต้เลยทีเดียวจึงทำให้กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมไฮไลท์ของเมืองควีนส์ทาวน์ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยด้านบนจะมองเห็นเมืองควีนส์ทาวน์ ทะเลสาบวาคาตีปู และเทือกเขาสูงต่างๆ ที่โอบล้อมเมืองและทะเลสาบอยู่ ซึ่งเป็นทัศนียภาพในแบบพาโนรามาที่สวยงามเป็นอย่างมาก
อ่านต่อซิดนีย์ เมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและสีสัน ทั้งสถาปัตยกรรมที่สวยงามแบบคลาสสิก บรรยากาศชายหาดอันผ่อนคลายๆ แบบออสซี่ ย่านช้อปปิ้ง ห้างหรู ไปจนถึงพื้นที่สีเขียวริมอ่าว และตลาดปลาที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลกก็รวมกันอยู่ ณ มหานครแห่งนี้อย่างกลมกล่อมและครบทุกมิติ Palanla จะพาไปชม 13 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมืองที่ได้ชื่อว่าน่าอยู่ที่สุดในโลกติดอันดับ 4 จากการจัดอันดับของ Economist Intelligence Unit (EIU) ประจำปี 2023
อ่านต่อบริสเบน (Brisbane) นอกจากจะเป็นหนึ่งในเมืองเก่าแก่ที่สุดของประเทศออสเตรเลีย ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเศรษฐกิจแล้ว เมืองนี้ยังเป็นเมืองชายทะเลที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของแดนจิงโจ้โดยเป็นเมืองตากอากาศที่สวยงามและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา Palanla จะพาออกเดินทางไปค้นหา 12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในบริสเบนที่คุณจะต้องชื่นชอบ
อ่านต่อสะพานสตอรี่ (Story Bridge) สะพานเหล็กอันเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของเมืองบริสเบน ที่ทอดข้ามแม่น้ำบริสเบน (Brisbane River) ประเทศออสเตรเลีย สตอรี่บริดจ์ไม่ได้เป็นเพียงเส้นทางคมนาคมเท่านั้น ทว่ายังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของบริสเบนอีกด้วย
อ่านต่ออาสนวิหารแองกลิกันเซนต์จอห์น (Saint John’s Anglican Cathedral) เป็นอาสนวิหารงามสง่าในรูปแบบฟื้นฟูกอธิคในเมืองบริสเบนที่สร้างมานานกว่า 122 ปี
อ่านต่ออนุสรณ์สถานจัตุรัสแอนแซค (Anzac Square Memorial) เป็นสถานที่สำคัญในเมืองบริสเบนและเป็นสัญลักษณ์แห่งความเคารพต่อผู้ที่เสียสละชีวิตรับใช้ประเทศออสเตรเลียในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
อ่านต่อตลาดเซาธ์ แบงค์ (South Bank Market) เป็นตลาดที่คึกคัก มีชีวิตชีวา ละลานตาไปด้วยร้านค้าต่างๆ รวมถึงอาหารอร่อยๆ กับบรรยากาศแสนผ่อนคลายและทัศนียภาพที่สวยงามริมแม่น้ำบริสเบน
อ่านต่อเซาธ์ แบงค์ พาร์คแลนด์ (South Bank Parklands) 1 ใน 7 สวนสาธารณะของออสเตรเลียที่ได้รับรางวัล Green Flag Award (ปี ค.ศ.2016) ซึ่งเป็นรางวัลด้านความเป็นเลิศในเรื่องพื้นที่สีเขียว มีเส้นทางเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน และท่าเรือเลียบไปกับแม่น้ำบริสเบนที่ไหลผ่านกลางเมือง
อ่านต่อประเทศนิวซีแลนด์นั้นขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติอันสวยงามและอุดมสมบูรณ์ และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศทั้งบนเกาะเหนือและเกาะใต้ โดยจุดเด่นของเกาะเหนือคืออุทยานความร้อนใต้พิภพ ส่วนจุดเด่นของเกาะใต้คือเทือกเขาและทะเลสาบ ในบทความนี้ทาง Palanla จะพาทุกท่านไปท่องเที่ยวที่เกาะใต้ ซึ่งสามารถเดินทางมาด้วยการต่อเครื่องบินจากสนามบินโอ๊คแลนด์ซึ่งเป็นสนามบินหลักของประเทศนิวซีแลนด์ที่ตั้งอยู่บนเกาะเหนือ มาลงยังสนามบิน ควีนส์แลนด์หรือสนามบินไครสต์เชิร์ชบนเกาะใต้ เพื่อไปชม 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมบนเกาะใต้ที่ไม่ควรพลาดดังต่อไปนี้
อ่านต่อสวนพฤกษศาสตร์ไครสต์เชิร์ช (Christchurch Botanic Gardens) เป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองไครสต์เชิร์ช ภายในสวนแห่งนี้เต็มไปด้วยพืชพรรณอันหลากหลายที่สามารถเที่ยวชมได้ทุกฤดูกาล เพราะจะมีต้นไม้และดอกไม้เติบโตและผลิบานแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล เช่น ดอกกุหลาบที่บานในช่วงฤดูร้อน ดอกแดฟโฟดิลที่บานในฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และในฤดูหนาวก็สามารถชมพรรณไม้นานาพันธุ์ได้ในเรือนกระจกบรรยากาศสบายๆ ที่เปิดให้เที่ยวชมตลอดช่วงฤดูหนาว ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจบนเกาะใต้ของนิวซีแลนด์
อ่านต่อสกายไลน์ควีนส์ทาวน์ (Skyline Queenstown) เป็นจุดชมวิวบนยอดเขาที่น่าตื่นตาตื่นใจ และจะต้องขึ้นลงด้วยกระเช้ากอนโดล่าเท่านั้น ซึ่งกระเช้ากอนโดล่านี้เป็นกระเช้าที่มีความชันที่สุดในซีกโลกใต้เลยทีเดียวจึงทำให้กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมไฮไลท์ของเมืองควีนส์ทาวน์ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยด้านบนจะมองเห็นเมืองควีนส์ทาวน์ ทะเลสาบวาคาตีปู และเทือกเขาสูงต่างๆ ที่โอบล้อมเมืองและทะเลสาบอยู่ ซึ่งเป็นทัศนียภาพในแบบพาโนรามาที่สวยงามเป็นอย่างมาก
อ่านต่อซิดนีย์ เมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและสีสัน ทั้งสถาปัตยกรรมที่สวยงามแบบคลาสสิก บรรยากาศชายหาดอันผ่อนคลายๆ แบบออสซี่ ย่านช้อปปิ้ง ห้างหรู ไปจนถึงพื้นที่สีเขียวริมอ่าว และตลาดปลาที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลกก็รวมกันอยู่ ณ มหานครแห่งนี้อย่างกลมกล่อมและครบทุกมิติ Palanla จะพาไปชม 13 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมืองที่ได้ชื่อว่าน่าอยู่ที่สุดในโลกติดอันดับ 4 จากการจัดอันดับของ Economist Intelligence Unit (EIU) ประจำปี 2023
อ่านต่อบริสเบน (Brisbane) นอกจากจะเป็นหนึ่งในเมืองเก่าแก่ที่สุดของประเทศออสเตรเลีย ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเศรษฐกิจแล้ว เมืองนี้ยังเป็นเมืองชายทะเลที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของแดนจิงโจ้โดยเป็นเมืองตากอากาศที่สวยงามและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา Palanla จะพาออกเดินทางไปค้นหา 12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในบริสเบนที่คุณจะต้องชื่นชอบ
อ่านต่อสะพานสตอรี่ (Story Bridge) สะพานเหล็กอันเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของเมืองบริสเบน ที่ทอดข้ามแม่น้ำบริสเบน (Brisbane River) ประเทศออสเตรเลีย สตอรี่บริดจ์ไม่ได้เป็นเพียงเส้นทางคมนาคมเท่านั้น ทว่ายังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของบริสเบนอีกด้วย
อ่านต่อ