- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- พิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
พิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
- อ่าน (3,873)
- By Webmaster
- 08:50:36 | 16 ธ.ค. 2562
พิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
Brussels City Museum, Brussele, Belgium
อาคารแมซง ดูว์ รัว สถานที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์
พิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์ (Brussels City Museum) สถานที่ซึ่งตั้งอยู่ภายในสถาปัตยกรรมมรดกโลกอย่างอาคารแมซง ดูว์ รัว แห่งนี้ คือพิพิธภัณฑ์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเมืองบรัสเซลส์ผ่านมรดกทางวัฒนธรรมกว่า 7,000 ชิ้น ทั้งงานประติมากรรม, ภาพวาด, สิ่งทอ, เครื่องแต่งกาย ฯลฯ ที่จะช่วยให้นักท่องเที่ยวเห็นภาพความยิ่งใหญ่ และเสน่ห์ชวนหลงใหลของเมืองได้แบบชัดเจน
แผนที่ตั้ง พิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
ประวัติ
สถาปัตยกรรมของอาคารแมซง ดูว์ รัว
พิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์ (Brussels City Museum) พื้นที่จัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเมืองบรัสเซลส์มายาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1887 ตัวพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในอาคารแมซง ดูว์ รัว (Maison do Rois) อาคารที่มีชื่อเสียงที่สุดหลังหนึ่งของเมืองบรัสเซลส์ ทำให้ก่อนที่ Palanla จะพาผู้อ่านเข้าไปท่องเที่ยวภายใน เรามาเรียนรู้เกี่ยวกับสถาปัตยกรรมสำคัญของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้กันดีกว่า เริ่มจากภาษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในเมืองบรัสเซลส์มีอยู่สองภาษาคือภาษาฝรั่งเศส (France) กับภาษาดัตช์ (Dutch) ทำให้เป็นเรื่องปกติที่จะพบว่าสถานที่สำคัญหลายแห่งของเมืองจะมีชื่อเรียกอยู่สองภาษา ซึ่งอาคารที่ถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็มีอยู่สองชื่อคือ แมซง ดูว์ รัว (Maison do Rois) ในภาษาฝรั่งเศส / โบรดฮัส (Broodhuis) ในภาษาดัตช์ (แต่ในบทความจะขอเรียกชื่ออาคารเป็นภาษาฝรั่งเศสเพราะมีความเป็นสากล และถูกใช้กันแพร่หลายมากกว่า) ในอดีตพื้นที่บริเวณอาคารเคยเป็นที่ตั้งของตลาดขนมปังซึ่งข้อมูลตรงนี้มีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นเมื่อพบว่า โบรดฮัส (Broodhuis) เป็นรากศัพท์ของคำว่า เบรด ฮอลล์ (Bread Hall) ที่แปลว่า ห้องโถงขนมปัง นั่นเอง โดยการก่อสร้างครั้งแรกของอาคารเริ่มต้นในปี ค.ศ. 1321และเป็นหนึ่งในสามโครงการก่อสร้างสำคัญทางเศรษฐกิจของเมืองในคริสต์ศตวรรษที่ 13 ที่จะแบ่งเป็นตลาดขนมปัง ตลาดผ้า และตลาดเนื้อ น่าเศร้าที่กาลเวลาทำให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมของอาคารแมซง ดูว์ รัว ในช่วงนั้นมีน้อยมาก จนมาปี ค.ศ. 1405 อาคารได้รับการบรูณะขึ้นใหม่อีกครั้ง และถูกปรับให้เป็นที่ทำการของหน่วยปกครองต่างๆ ในเมืองบรัสเซลส์ จนถึงปี ค.ศ. 1695 เมื่อกองทัพฝรั่งเศสในเหตุการณ์ปฎิวัติฝรั่งเศสได้เข้ามาบุกทำลายเมืองบรัสเซลส์
นักท่องเที่ยวที่มาเดินเล่นในจัตุรัสกร็อง ปลัส
หลังจากยึดครองเบลเยียมได้สำเร็จ ทางฝรั่งเศสก็ได้สร้างอาคารแห่งนี้ขึ้นใหม่ และเปลี่ยนชื่อเป็นอาคารแมซง ดูว์ รัว (Maison do Rois) ซึ่งเป็นรากศัพท์ของคำว่า คิงส์เฮ้าส์ (King’s House) หรือแปลว่า บ้านของพระราชา ต่อมาในปี ค.ศ. 1860 บรัสเซลส์ได้ทำการซื้ออาคารคืนกลับมาจากบริษัทเอกชนที่ถือครองสิทธิของอาคารในตอนนั้น และทำการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยใช้หลักสถาปัตยกรรมของเออแณน วียอแล-เลอ-ดุก (Eugene Viollet-le-Duc) สถาปนิกที่มีส่วนสำคัญในการก่อตั้งสถาปัตยกรรมฟื้นฟูกอธิค (Neo-Gothic Architecture) แนวสถาปัตย์ที่พยายามฟื้นฟูสถาปัตยกรรมในยุคกลางให้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง ซึ่งเป็นสไตล์ที่ได้รับการยอมรับจนมีการประเมินกันว่าสิ่งก่อสร้างสไตล์ฟื้นฟูกอธิค มีมากกว่าสิ่งก่อสร้างกอธิคต้นฉบับจากยุคกลางซะอีก โดยอาคารแมซง ดูว์ รัว ก็เป็นสถาปัตยกรรมฟื้นฟูกอธิคที่งดงาม และสมบูรณ์แบบที่สุดหลังหนึ่งของบรัสเซลส์ จนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกพร้อมกับพื้นที่ส่วนอื่นๆ ของจัตุรัสกลางเมืองบรัสเซลส์ (Grand Place) อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ - ปัจจุบันอาคารประกอบไปด้วยซุ้มทางเดินสองชั้น ติดตั้งหอระฆังยอดแหลมอยู่ตรงกลาง และแวดล้อมไปด้วยรูปปั้น งานแกะสลัก ประติมากรรม ส่วนภายในจะมีหอศิลป์สองแห่ง หอคอยกลาง
สถาปัตยกรรมที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับอาคารแมซง ดูว์ รัว
โดยพิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์จะอยู่บริเวณชั้นสองของอาคาร เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ดำเนินงานด้านการวิจัย และรวบรวมข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของเมืองบรัสเซลส์ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับความเป็นมาของเมืองให้แก่คนในประเทศกับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน และเป็นที่จัดเก็บมรดกทางวัฒนธรรมของเมืองที่จัดแสดงอยู่กว่า 7,000 ชิ้น ทั้งงานประติมากรรม, ภาพวาด, สิ่งทอ, เครื่องแต่งกาย ฯลฯ มีนิทรรศการน่าสนใจหมุนเวียนมาสร้างความสนุกสนาน และสาระความรู้ให้ผู้เข้าชมตลอดปี ผลงานที่เป็นไฮไลท์หลักของพิพิธภัณฑ์จะมีตั้งแต่ ผ้าทอมือที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยก่อตั้งเมือง, คอลเลกชั่นภาพวาดของจิตกรเนเธอร์แลนด์ช่วงยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance), รูปปั้นดั้งเดิมของแมนเนแกน พิส (Manneken Pis) ประติมากรรมชื่อดังของบรัสเซลส์, แบบจำลองผังเมืองบรัสเซลส์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ฯลฯ เรียกว่าสมศักดิ์ศรีต่อการเป็นพิพิธภัณฑ์หลักของเมืองบรัสเซลส์ และต่อการตั้งอยู่ในอาคารที่มีชื่อเสียงที่สุดหลังหนึ่งของเมืองทีเดียว
แบบจำลองผังเมืองบรัสเซลส์
ประติมากรรมน่าสนใจภายในพิพิธภัณฑ์
งานแกะสลักนูนต่ำที่บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์เมืองบรัสเซลส์
ภาพเขียนรูปเหล่าผู้มีอิทธิพลสมัยอดีตของเมืองบรัสเซลส์
ภาพเขียนบอกเล่าพัฒนาการการก่อสร้างเมืองบรัสเซลส์
รูปถ่ายสถานที่สำคัญในเมืองบรัสเซลส์
บอร์ดนิทรรศการแสดงข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของเมืองบรัสเซลส์
บอร์ดนิทรรศการแสดงข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของเมืองบรัสเซลส์
ไทม์ไลน์แสดงข้อมูลเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงปีของเมืองบรัสเซลส์
ประติมากรรมรูปปั้นที่แสดงถึงวิถีชีวิตของชาวเมืองบรัสเซลส์ในสมัยอดีต
ภาพเขียนรูปเมืองบรัสเซลส์กำลังลุกเป็นไฟจากเหตุการณ์ปฎิวัติฝรั่งเศส
ภาพแสดงพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ต่างๆ ของเมืองบรัสเซลส์
ประติมากรรมน่าสนใจภายในพิพิธภัณฑ์
ตู้จัดแสดงเครื่องแต่งกายของรูปปั้นแมนเนแกน พิส
การเดินทางจากสนามบินบรัสเซลส์ซาเวนเทมไปยังสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์
- รถยนต์ จากสนามบินไปยังสถานีรถไฟกลางของเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Centraal) ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 32 นาที
- รถบัส จากอาคารผู้โดยสารขาเข้าให้เดินไปขึ้นรถบัสที่สถานีรถบัสประจำสนามบิน โดยขึ้นรถบัสหมายเลข 12 ตรงไปยังสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Centraal) ได้เลย ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 34 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.delijn.be/nl/routeplanner/index.html
- รถไฟ จากอาคารผู้โดยสารขาเข้าให้ลงไปขึ้นรถไฟ Airport City Express ที่ชั้นใต้ดินของอาคารเพื่อไปลงที่สถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Station) ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.belgiantrain.be/en
การเดินทางสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลล์ไปยังพิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์
- เดิน จากสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์สามารถเดินไปยังพิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์ได้เลย ระยะทางประมาณ 500 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาที
เวลาเปิด-ปิดทำการ
เปิดให้เข้าชมวันอังคาร – อาทิตย์ เวลา 10:00 น. – 17:00 น. (ปิดทุกวันจันทร์และวันที่ 1 ม.ค. / 1 พ.ค. / 1 และ 11 พ.ย. / 25 ธ.ค.)
งานสิ่งทอที่บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเมืองบรัสเซลส์
โปสเตอร์รูปปั้นแมนเนแกน พิสที่สื่อถึงเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานับตั้งแต่รูปปั้นถือกำเนิดขึ้น
อัตราค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ 8 ยูโร / ผู้สูงอายุ 6 ยูโร / นักเรียน-นักศึกษา 4 ยูโร / ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนเข้าชมฟรี
ตราสัญลักษณ์น่าสนใจภายในพิพิธภัณฑ์
ภาพเขียน รูปปั้น งานแกะสลักที่บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเมืองบรัสเซลส์
เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
บรรยากาศยามเช้าตรู่ด้านหน้าอาคารแมซง ดูว์ รัว
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว พิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
พิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
(Brussels City Museum, Brussels , Belgium)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 8 ยูโร / ผู้สูงอายุ 6 ยูโร / นักเรียน-นักศึกษา 4 ยูโร / ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนเข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมวันอังคาร – อาทิตย์ เวลา 10:00 น. – 17:00 น.
(ปิดทุกวันจันทร์และวันที่ 1 ม.ค. / 1 พ.ค. / 1 และ 11 พ.ย. / 25 ธ.ค.)
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : เมืองบรัสเซลส์, ประเทศเบลเยียม
โทรศัพท์ : (+32) 2-279-43-50
เว็บไซต์ : https://www.brusselscitymuseum.brussels/en
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์สำนักงานการท่องเที่ยวประเทศเบลเยียม http://walloniabelgiumtourism.co.uk/
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสำนักงานเมืองบรัสเซลส์ https://www.brussels.be/
เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองบรัสเซลส์ https://be.brussels/bruxelles
เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนของเมืองบรัสเซลส์ http://www.stib-mivb.be/index.htm?l=fr
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
หมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อหมู่บ้านไรเนอร์ หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านไรเนอร์ (Reine) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ในหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) ทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ ที่ซ่อนความงดงามและเสน่ห์อันไม่เหมือนใคร จนได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดในหมู่เกาะโลโฟเทน และสวยที่สุดในประเทศนอร์เวย์
อ่านต่อล่องเรือชมฟยอร์ดไกแรงเกอร์ เมืองโอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
ไกแรงเกอร์ฟยอร์ด (Geirangerfjord) หนึ่งในฟยอร์ดที่สวยที่สุดในโลก และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วยภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์ของหน้าผาสูงชัน น้ำตกที่ตกลงมาจากหน้าผา และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมฟยอร์ด ทำให้ไกแรงเกอร์ฟยอร์ดเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความงามของธรรมชาติอันบริสุทธิ์แห่งนอร์เวย์
อ่านต่อ