10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองมิวนิคและพื้นที่ใกล้เคียง ประเทศเยอรมนี

  • อ่าน (11,506)
  • By Webmaster
  • 11:37:26 | 30 ม.ค. 2567

 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองมิวนิคและพื้นที่ใกล้เคียง ประเทศเยอรมนี

Top 10 Travel Destinations in Munich and nearby areas, Germany

 

             เมืองมิวนิค (Munich ชื่อภาษาเยอรมันคือ München) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนี ในพื้นที่ของรัฐบาวาเรีย (The State of Bavaria) เป็นเมืองที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของประเทศเยอรมนี รองจากเมืองเบอร์ลิน (Berlin) และเมืองแฮมเบิร์ก (Hamburg) ทางด้านสภาพภูมิประเทศตั้งอยู่บนพื้นที่ราบสูงตอนเหนือของรัฐบาวาเรีย แม่น้ำสายหลักของเมืองคือแม่น้ำอีซาร์ (Isar River) ทางด้านสภาพภูมิอากาศในฤดูร้อนมีอากาศอบอุ่น แต่จะมีอากาศร้อนจัดในช่วงกลางปีที่มีฝนตกหนัก และในฤดูหนาวมีอากาศหนาวเย็น โดยจะหนาวที่สุดในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคมและมีหิมะตกในบางพื้นที่

             ในอดีตเมืองมิวนิคเคยเป็นเมืองหลวงของแคว้นบาวาเรียมาก่อน จึงเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมอีกเมืองหนึ่งของเยอรมนีที่ได้รับความนิยมในการท่องเที่ยว เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างเช่น ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) พระราชวังมิวนิคเรสซิเดนซ์ (Munich Residence) รวมถึงจุดแลนด์มาร์กอันโดดเด่นอย่างเช่น หอนาฬิกา Munich Glockenspiel และอนุเสาวรีย์พระแม่มารีที่ตั้งอยู่ในบริเวณจตุรัสมาเรียนปลาทซ์ (Marienplatz) และหอชมเมืองโอลิมปิคทาวเวอร์กับโอลิมปิคสเตเดียมภายในโอลิมเปียปาร์ค (Olympiapark)

             นอกจากนี้เมืองมิวนิคยังเป็นศูนย์รวมของมหาวิทยาลัย พิพิธภัณฑ์ สถาปัตกรรมเก่าแก่ ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น การจัดงานแข่งขันกีฬาระดับโลก และยังเป็นบ้านเกิดของทีมฟุตบอลชื่อดังอย่างทีมบาเยิร์นมิวนิค (FC Bayern Munich) และยังมีเทศกาลเบียร์ประจำปีที่เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ Oktoberfest ซึ่งเป็นเทศกาลเบียร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เทศกาลนี้จะจัดขึ้นในช่วงคาบเกี่ยวระหว่างเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคมของทุกปี โดยเบียร์ที่ใช้ในเทศกาลจะเป็นเบียร์ท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อของบาวาเรีย อย่างเช่น Augustiner, Hacker-Pschorr, Löwenbräu, Paulaner, Spaten และ Staatliches Hofbräuhaus ในส่วนของอาหารท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อคือ ไส้กรอกขาว (white sausage / weisswurst) ซึ่งทำจากเนื้อลูกวัวสับกับเบคอนทานคู่กับมัสตาร์ดหวาน (sweet mustard) และขนมปังเพรทเซลส์ (pretzels)

             นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยวชมเมืองมิวนิค สามารถมาลงเครื่องได้ที่สนามบินมิวนิค (Munich International Airport / Flughafen München) และนั่งรถไฟหรือรถบัสเข้าไปยังตัวเมืองได้ตามต้องการ โดยสถานีรถไฟหลักของเมืองคือ สถานีรถไฟกลางมิวนิค (Munich Hauptbahnhof (Main Station)) และสถานีที่เป็นจุดศูนย์กลางของการท่องเที่ยวคือสถานีมิวนิคมาเรียนปลาทซ์ (Munich Marienplatz Station)


แผนที่ 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองมิวนิคและพื้นที่ใกล้เคียง


แผนที่รถไฟในเมืองมิวนิค (ขอขอบคุณภาพจาก https://www.mvg.de)


1. Marienplatz (จัตุรัสมาเรียนปลาทซ์)

 

             จัตุรัสมาเรียนปลาทซ์ ศูนย์กลางการท่องเที่ยวของเมืองมิวนิค โดดเด่นด้วยอาคารศาลากลางขนาดใหญ่ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมโกธิกพร้อมด้วยหอนาฬิกา Munich Glockenspiel ที่รูปปั้นด้านล่างหอนาฬิกาจะหมุนพร้อมเล่นเพลงเหมือนกล่องดนตรีวันละสองรอบ และอนุเสาวรีย์พระแม่มารีทองคำ สองแลนด์มาร์กนี้ตั้งตระหง่านอย่างยิ่งใหญ่อยู่ภายในบริเวณจัตุรัส นอกจากนี้จัตุรัสมาเรียนปลาทซ์ยังเป็นพื้นที่จัดตลาดคริสต์มาส จัดงานประจำปี และงานฉลองที่สำคัญของเมืองมิวนิคอีกด้วย 

ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา

ข้อมูลการเดินทาง : ลงสถานี Munich Marienplatz Station ก็จะถึง Marienplatz

พิกัด GPS : 48°08'14.6"N 11°34'31.6"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ จัตุรัสมาเรียนปลาทซ์ ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=897


2. Karlsplatz (จัตุรัสคาร์ลสปลาทซ์)

 

             จัตุรัสคาร์ลปลาทซ์มีอีกชื่อหนึ่งว่าจัตุรัสสตาคุส (Stachus) โดดเด่นด้วยจุดแลนด์มาร์กเก่าแก่คือประตูเมืองเก่าที่มีชื่อว่าประตูเมืองคาร์ลสเตอร์ (Karlstor Gate) ซึ่งเป็นหนึ่งในสามประตูเมืองเก่าที่ยังคงหลงเหลืออยู่บริเวณกำแพงเมืองมิวนิค จัตุรัสนี้เป็นถนนช้อปปิ้งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก มีห้างสรรพสินค้าและร้านค้ามากมายให้เลือกช้อปปิ้งได้ตามต้องการ และยังสามารถเดินทะลุไปถึงย่านมาเรียนปลาทซ์ได้อีกด้วย ที่นีจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองมิวนิคอีกแห่งหนึ่ง

ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา

ข้อมูลการเดินทาง : จาก Marienplatz สามารถเดินไปยัง Karlsplatz โดยมีระยะทาง 700 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 นาที

พิกัด GPS : 48°08'21.1"N 11°33'58.3"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ จัตุรัสคาร์ลสปลาทซ์ ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=887


3. Munich Residence (พระราชวังมิวนิคเรสซิเดนซ์)

 

             พระราชวังมิวนิคเรสซิเดนซ์ เป็นพระราชวังเก่าอายุหลายร้อยปีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี และยังเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์หลวงที่มีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป โดดเด่นด้วยความสวยงามของสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ศิลปะการตกแต่งภายในอันวิจิตรบรรจง และของสะสมโบราณของราชวงศ์ที่เคยครองอาณาจักรบาวาเรียอันรุ่งโรจน์มาก่อน สถานที่แห่งนี้จึงเป็นดั่งศูนย์รวมความหลากหลายทางสถาปัตยกรรมและศิลปะจากฝีมือของศิลปิน สถาปนิก และนักออกแบบชั้นนำในแต่ละยุค ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองมิวนิคที่คุ้มค่าต่อการเข้าชมเป็นอย่างมาก

ค่าเข้าชม : - ตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์พระราชวัง (Residence Museum) ราคา 9 Euro

                - ตั๋วเข้าชมห้องพระคลังเก็บสมบัติ (Treasury) ราคา 9 Euro

                - ตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์พระราชวังและตั๋วเข้าชมห้องพระคลังเก็บสมบัติ (Residence Museum+Treasury) ราคา 14 Euro

                - ตั๋วเข้าชมโรงละครคูวิลลีส์ (Cuvilliés Theatre) ราคา 5 Euro

                - ตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์พระราชวัง ห้องพระคลังเก็บสมบัติ และโรงละครคูวิลลีส์ (Residence Museum+Treasury+Cuvilliés Theatre) ราคา 17 Euro

                - เด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปีเข้าชมฟรี

                - สนามและสวนบริเวณน้ำพุ เข้าชมฟรี

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ยกเว้นวันที่ 1 มกราคม วัน Shrove Tuesday และวันที่ 24-25, 31 ธันวาคม

ข้อมูลการเดินทาง : จาก Marienplatz สามารถเดินไปยัง Munich Residence โดยมีระยะทาง 450 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 นาที

พิกัด GPS : 48°08'30.4"N 11°34'46.1"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ พระราชวังมิวนิคเรสซิเดนซ์ ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=893


4. Frauenkirche (มหาวิหารเฟราเอน)

 

             มหาวิหารเฟราเอน เป็นโบสถ์นิกายโรมันคาทอลิคและเป็นโบสถ์คู่บ้านคู่เมืองของเมืองมิวนิค โดยชื่อ Frauenkirch นั้นหมายถึง Cathedral of Our Dear Lady หรือมหาวิหารแห่งพระแม่ ตัวมหาวิหารโดดเด่นด้วยหอคอยคู่ที่มีโดมทรงหัวหอมด้านบนซึ่งสามารถมองเห็นได้จากจัตุรัสมาเรียนปลาทซ์และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ สำหรับหอคอยทิศใต้นั้นสามารถขึ้นไปชมทัศนียภาพอันน่าประทับใจของเมืองมิวนิค และยังสามารถมองเห็นวิวของเทือกเขาแอลป์ที่อยู่ไกลออกไปได้อีกด้วย จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรแวะไปเที่ยวชมเมื่อไปเยือนเมืองมิวนิค

ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 7:30 น. - 20:30 น. (ในช่วงฤดูหนาวปิดเวลา 20:00 น.)

ข้อมูลการเดินทาง : จาก Marienplatz สามารถเดินไปยัง Frauenkirche โดยมีระยะทาง 280 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 นาที

พิกัด GPS : 48°08'19.1"N 11°34'25.0"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ มหาวิหารเฟราเอน ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=896


5. Nymphenburg Palace and Park (พระราชวังนิมเฟนเบิร์กและสวนนิมเฟนเบิร์ก)

 

             พระราชวังนิมเฟนเบิร์กและสวนนิมเฟนเบิร์ก แต่เดิมเป็นพระราชวังฤดูร้อนของราชวงศ์บาวาเรียมาหลายศตวรรษ ตัวพระราชวังและสวนได้รับการออกแบบและตกแต่งแบบผสมผสานในสไตล์ฝรั่งเศสและอังกฤษ จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในศูนย์รวมแบบอย่างงานศิลป์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ซึ่งนอกจากเป็นสถานที่ที่ทรงคุณค่าทางด้านศิลปะและสถาปัตยกรรมแล้ว ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ที่ปกครองบาวาเรียมาหลายยุคหลายสมัย พระราชวังนิมเฟนเบิร์กจึงเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองมิวนิคที่คุ้มค่าต่อการเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

ค่าเข้าชม : - ตั๋วเข้าชมพระราชวังนิมเฟนเบิร์ก ราคา 8 Euro

                - ตั๋วเข้าชมสวนของพระราชวัง ราคา 5 Euro

                - ตั๋วรวมค่าเข้าชมพระราชวัง พิพิธภัณฑ์ และสวน ช่วงวันที่ 1 เมษายน ถึง 15 ตุลาคม ราคา 15 Euro

                - ตั๋วรวมค่าเข้าชมพระราชวังและพิพิธภัณฑ์ ช่วงวันที่ 16 ตุลาคม ถึง 31 มีนาคม ราคา 12 Euro (ฤดูหนาวสวนปิดให้เข้าชม)

                - เด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี เข้าชมฟรี

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ปิดวันที่ 1 มกราคม วัน Shrove Tuesday และวันที่ 24-25/31 ธันวาคม

ข้อมูลการเดินทาง : จาก Munich Marienplatz Station ขึ้นรถไฟสาย U3 ไปลงสถานี Sendlinger Tor จากนั้นต่อรถรางสาย 17 ไปลงยังสถานี Schloss Nymphenburg และเดินต่อไปประมาณ 700 เมตร ก็จะถึงยัง Nymphenburg Palace and Park ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 35 นาที

พิกัด GPS : 48°09'29.8"N 11°30'11.9"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ พระราชวังนิมเฟนเบิร์กและสวนนิมเฟนเบิร์ก ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=892


6. BMW Museum (พิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยู)

 

             เมื่อไปเยือนเมืองมิวนิค เมืองที่เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของรถหรูอย่าง BMW Group ก็ต้องไม่พลาดไปชมพิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยู ที่นี่จะเปิดโลกทัศน์ในด้านนวัตกรรมแห่งยานยนต์และเทคโนโลยีที่ใช้ในการพัฒนาสมรรถนะในการขับขี่ รวมถึงการออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์ และมีการจัดแสดงรุ่นรถตั้งแต่ในอดีตถึงปัจจุบัน รวมถึงวิสัยทัศน์และทิศทางของยานยนต์ในอนาคต เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองมิวนิคที่คุ้มค่าต่อการเข้าชมเป็นอย่างมาก

ค่าเข้าชม : ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ราคา 10 Euro / คน ตั๋วครอบครัวราคา 24 Euro

เวลาเปิด-ปิด : เปิดวันอังคาร - วันอาทิตย์ เวลา 10:00 น. - 18:00 น. ปิดวันจันทร์

ข้อมูลการเดินทาง : จาก Munich Marienplatz Station ขึ้นรถไฟสาย U3 ไปลงสถานี Olympiazentrum และเดินต่อไปประมาณ 300 เมตร ก็จะถึงยัง BMW Museum ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 17 นาที

พิกัด GPS : 48°10'36.6"N 11°33'32.7"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ พิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยู ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=895


7. Olympiapark (โอลิมเปียปาร์ค)

 

             โอลิมเปียปาร์ค สถานที่ที่เคยจัดงานกีฬาโอลิมปิค ปัจจุบันเป็นได้รับการพัฒนาเป็นสวนสาธารณะและศูนย์กีฬาแห่งใหญ่ของเมืองมิวนิค โดดเด่นด้วยหอชมเมืองโอลิมปิคทาวเวอร์ความสูง 181 เมตร พร้อมร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่สำคัญอยู่ภายในโอลิมเปียปาร์ค นั่นคือ โอลิมปิคสเตเดียมที่มีรูปทรงหลังคาคล้ายเต็นท์ขนาดใหญ่หลายหลังซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการก่อสร้างมาจากเทือกเขาแอลป์ สเตเดียมนี้ใช้จัดงานกีฬาระดับโลกมากมาย และยังใช้เป็นสถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินดังอยู่หลายต่อหลายครั้ง โอลิมเปียปาร์คจึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองมิวนิคอีกแห่งหนึ่งที่ควรมาเที่ยวชม

ค่าเข้าชม : บริเวณสวนไม่เสียค่าเข้าชม

เวลาเปิด-ปิด : บริเวณสวนเปิดตลอดเวลา

ข้อมูลการเดินทาง : จาก Munich Marienplatz Station ขึ้นรถไฟสาย U3 ไปลงสถานี Olympiazentrum ก็จะถึงยัง Olympiaparkใช้เวลาโดยรวมประมาณ 13 นาที

พิกัด GPS : 48°10'31.7"N 11°33'06.2"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ โอลิมเปียปาร์ค ได้ที่https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=902


8. Viktualienmarkt (ตลาดวิคทัวเลียน)

 

             ตลาดวิคทัวเลียน ตลาดขายของสดจากไร่และฟาร์ม เป็นตลาดเก่าแก่ใกล้กับจัตุรัสมาเรียนปลาทซ์ ที่นี่มีของสดทุกอย่างให้เลือกสรรทั้งเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ ต้นไม้ ดอกไม้ วัตถุดิบท้องถิ่น และวัตถุดิบนำเข้า ในตลาดมีจุดแลนด์มาร์กเก่าแก่ คือ เสาเต้นรำ Maibaum/Maypole สีขาวสลับฟ้าตามสีประจำรัฐบาวาเรียและตกแต่งด้วยภาพสะท้อนวิถีชีวิตชาวบ้านในสมัยก่อน ซึ่งเสานี้ค่อนข้างหาชมได้ยากเพราะส่วนใหญ่จะอยู่ในพิพิธภัณฑ์ ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ในเมืองมิวนิคที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว 

ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์ ถึง วันเสาร์ เวลา 8:00 น. - 18:00 น. / ปิดวันอาทิตย์

ข้อมูลการเดินทาง : จาก Marienplatz สามารถเดินไปยัง Viktualienmarkt โดยมีระยะทาง 350 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 นาที

พิกัด GPS : 48°08'06.4"N 11°34'34.5"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ ตลาดวิคทัวเลียน ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=888


9. Neuschwanstein Castle (ปราสาทนอยชวานสไตน์)

 

             ปราสาทนอยชวานสไตน์เป็นปราสาทของ กษัตริย์ลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย (King Ludwig II of Bavaria) ตั้งอยู่บนภูเขาซึ่งห่างจากเมืองมิวนิคประมาณหนึ่งร้อยกว่ากิโลเมตร จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองมิวนิคมักจะเดินทางออกจากเมืองไปเที่ยวชม ด้านบนปราสาทมีทัศนียภาพทางธรรมชาติอันสวยงามของเทือกเขาแอลป์และทะเลสาบ สำหรับตัวปราสาทมีความสวยงามของสถาปัตยกรรมในยุคกลางและมีการออกแบบอิงตามบทประพันธ์ของอุปรากรเรื่องอัศวินหงส์ (The Swan Knight) ของริชาร์ด วากเนอร์ (Richard Wagner) นอกจากนี้ ความสวยงามอลังการของปราสาทนอยชวานสไตน์ยังได้สร้างแรงบันดาลใจต่อให้กับวอลท์ ดิสนีย์ (Walt Disney) นำไปเป็นต้นแบบปราสาทของเจ้าหญิงนิทรา (Sleeping Beauty Castle) ที่ดิสนีย์แลนด์อีกด้วย ด้วยเหตุนี้ปราสาทนอยชวานสไตน์จึงถูกขนานนามว่าเป็นปราสาทแห่งเทพนิยายนับแต่นั้นมา ที่นี่จึงจัดเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

ค่าเข้าชม : ตั๋วผู้ใหญ่ราคา 13 Euro / ผู้สูงวัยอายุ 65 ปีขึ้นไป ราคา 12 Euro / เด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี เข้าชมฟรี

เวลาเปิด-ปิด : เดือนเมษายน ถึง 15 ตุลาคม เวลา 9.00 น.– 18.00 น.

                     16 ตุลาคม ถึง มีนาคม เวลา 10.00 น.– 16.00 น.

                     ปิดวันที่ 1 มกราคม และ 24 - 25 และ 31 ธันวาคม

ข้อมูลการเดินทาง : จาก Munich Marienplatz Station ขึ้นรถไฟสาย S8 ไปลงสถานี München-Pasing จากนั้นต่อรถรางสาย BRB Füssen ไปลงป้าย Füssen และต่อรถประจำทางสาย 73 ไปลงป้าย Neuschwanstein Castles, Schwangau ก็จะถึงยังเชิงเขาทางขึ้น Neuschwanstein Castle ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที (เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวอยู่บนภูเขานอกตัวเมือง ถ้าต้องการความสะดวกและรวดเร็วในการเดินทางสามารถซื้อบริการทัวร์ได้จากศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวหรือจากโรงแรมที่พักที่น่าเชื่อถือได้ตามต้องการ)

พิกัด GPS : 47°33'27.3"N 10°44'59.2"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ ปราสาทนอยชวานสไตน์ ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=891


10. Linderhof Palace and Park (พระราชวังลินเดอร์ฮอฟและสวนลินเดอร์ฮอฟ)

 

             พระราชวังลินเดอร์ฮอฟและสวนลินเดอร์ฮอฟ เป็นพระราชวังเก่าซึ่งเคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์ลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย (King Ludwig II of Bavaria) สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมร็อคโคโค การออกแบบตกแต่งพระราชวังและสวนด้านนอกได้รับแรงบันดาลใจมาจากพระราชวังแวร์ซายน์ในประเทศฝรั่งเศสเนื่องจากกษัตริย์ลุดวิกที่ 2 ทรงชื่นชมในพระปรีชาสามารถของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 (Louis XIV) และทรงประทับใจในความสวยงามและวิจิตรบรรจงของพระราชวังแวร์ซายน์ในประเทศฝรั่งเศส พระราชวังลินเดอร์ฮอฟตั้งอยู่บนภูเขาซึ่งห่างจากเมืองมิวนิคประมาณเกือบหนึ่งร้อยกิโลเมตร จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองมิวนิคมักจะเดินทางออกจากเมืองไปเที่ยวชมที่นี่พร้อมกับปราสาทนอยชวานสไตน์ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน

ค่าเข้าชม : ตั๋วเข้าชมพระราชวังและสวนราคา 8.50 Euro / ตั๋วเข้าชมสวนของพระราชวังเพียงอย่างเดียวราคา 5 Euro / เด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี เข้าชมฟรี

เวลาเปิด-ปิด : เดือนเมษายน ถึง 15 ตุลาคม เวลา 9:00 น. – 18:00 น.

                     16 คุลาคม ถึง เดือนมีนาคม เวลา 10:00 น. – 16:30 น.

                     ปิดวันที่ 1 มกราคม และวันที่ 24 - 25 และ 31 ธันวาคม

ข้อมูลการเดินทาง : จาก Munich Marienplatz Station ขึ้นรถไฟสาย S8 ไปลงสถานี München-Pasing จากนั้นต่อรถรางสาย RB Mittenwald ไปลงป้าย Garmisch-Partenkirchen และต่อรถประจำทางสาย 9606 ไปลงยังป้าย Eugen-Papst-Straße, Oberammergau และต่อรถประจำทางสาย 9622 ไปลงป้าย Linderhof Schloss, Ettal และเดินต่อไปราว 400 เมตร ก็จะถึงยัง Linderhof Palace and Park ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 3 ชั่วโมง 15 นาที (เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวอยู่บนภูเขานอกตัวเมือง ถ้าต้องการความสะดวกและรวดเร็วในการเดินทางสามารถซื้อบริการทัวร์ได้จากศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวหรือจากโรงแรมที่พักที่น่าเชื่อถือได้ตามต้องการ)

พิกัด GPS : 47°34'17.3"N 10°57'38.9"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ พระราชวังลินเดอร์ฮอฟและสวนลินเดอร์ฮอฟ ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=894
 

ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : 

- เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ
   
https://www.accuweather.com

- เว็บไซต์ท่องเที่ยวเมืองงมิวนิค 
   https://www.munich.travel/en

- สกุลเงินที่ใช้ : ยูโร (Euro)


แอปพลิเคชัน "บริการรถแท็กซี่" ในประเทศเยอรมนี 

Uber สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)


แอปพลิเคชัน "แผนที่ในการนำทาง" ในประเทศเยอรมนี 

- Google Map สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
 

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์

นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์

อ่านต่อ

รวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด

อ่านต่อ

หมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม

อ่านต่อ

มหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ

อ่านต่อ

มหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม

อ่านต่อ

ท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ

อ่านต่อ

กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา

อ่านต่อ

หมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ

อ่านต่อ

หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้

อ่านต่อ

หมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ