- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- พระราชวังปาลาซโซ ปิตติ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
พระราชวังปาลาซโซ ปิตติ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
- อ่าน (3,535)
- By Webmaster
- 13:12:41 | 24 พ.ย. 2563
พระราชวังปาลาซโซ ปิตติ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
Palazzo Pitti, Florence, Italy
พระราชวังปาลาซโซปิตติ เมืองฟลอเรนซ์
พระราชวังปาลาซโซ ปิตติ (Palazzo Pitti) พระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในเมืองฟลอเรนซ์ ด้วยความอลังการของตัวอาคารที่สร้างโดยตระกูลปิตติพ่อค้าผู้ร่ำรวย ต่อมาได้ตกเป็นของตระกูลเมดิซีแห่งเมืองฟลอเรนซ์ได้ใช้เป็นที่พักและที่เก็บสะสมของมีค่าของตระกูล เมื่อหมดอำนาจลงสมบัติทั้งหมดจึงตกเป็นของเมืองฟลอเรนซ์ ที่นี่จึงเป็นดั่งที่รวมภาพวาด รูปปั้น งานศิลปะ สิ่งของเครื่องใช้และเครื่องประดับมีค่าของชนชั้นสูงในศตวรรษที่ 16 ซึ่งเป็นยุครุ่งเรืองของเมืองฟลอเรนซ์ให้นักท่องเที่ยวได้ชมอยู่ถึง 5 พิพิธภัณฑ์เลยทีเดียว
แผนที่ตั้ง พระราชวังปาลาซโซ ปิตติ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
ประวัติ
พระราชวังปาลาซโซ ปิตติ (Palazzo Pitti) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฟลอเรนซ์ บริเวณจัตุรัสเปียซซาปิตติ ถนนวีอา กุยอิคชาดินี่ (Via Guicciardini) เป็นวังที่ใหญ่ที่สุดในเมืองฟลอเรนซ์ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 โดยลูคา ปิตติ (Luca Pitti) พ่อค้าผู้ร่ำรวยแต่เขาต้องประสบปัญหาล้มละลาย ตระกูลเมดิซีจึงได้เป็นเจ้าของวังแทน กลายเป็นบ้านพักของตระกูลเมดิซีมาตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1550 และได้ทำทางเดินหลังคาคลุม (Vasari Corridor) เพื่อให้คนในตระกูลเดินไปทำงานที่พระราชวังเวคคิโอได้โดยไม่ต้องปะปนกับคนอื่น ปัจจุบันวังแห่งนี้เปิดให้ประชาชนได้เข้าชมห้องที่สวยงามหรูหรา ประดับฝาผนังด้วยภาพศิลปะ เครื่องแต่งกายของชนชั้นสูงในสมัยช่วงศตวรรษที่ 16 เครื่องใช้ภายในวัง เครื่องเงิน เครื่องลายครามที่เก็บรักษาไว้อย่างดี โดยแบ่งออกเป็น 5 พิพิธภัณฑ์ ดังนี้
1. หอศิลป์สมัยใหม่ (Galleria d’arte Moderna) จัดแสดงภาพศิลปะสมัยใหม่ในศตวรรษที่ 19
2. พิพิธภัณฑ์เครื่องลายคราม (Museo delle Porcellane) จัดแสดงเครื่องใช้ภายในวังส่วนใหญ่เป็นงานเพนต์สี
3. ห้องจัดแสดงเครื่องแต่งกาย (Galleria delle Costume) ซึ่งเป็นเครื่องแต่งกายสมัยโบราณทั้งชุดราตรีสั้นยาวที่หรูหราในช่วงศตวรรษที่ 16
4. หอศิลป์ปาลาตีนาและอัปปาร์ตาเมนตี เรอาลิ (Galleria Palatina & Apartamenti Reali) จัดแสดงภาพยุคเรอนาสซองส์เกี่ยวกับศาสนา เทพเจ้าโบราณ คนโบราณ เจ้าผู้ครองเมืองในอดีต ได้แก่ผลงานของ Raphael, Titian, Tintoretto, Caravaggio and Rubens
5. พิพิธภัณฑ์เครื่องประดับ (Museo Delgi Argenti) จัดแสดงเครื่องประดับ เช่น สร้อยคอ ต่างหู มงกุฎของตระกูลเมดิซี ในช่วงศตวรรษที่ 16
และด้านหลังของวังเป็นสวนเกียดิโน่ ดิ โบโบลิ (Giardino di Boboli) ที่สร้างในศตวรรษที่ 16 ตกแต่งสวนด้วยน้ำพุ Artichoke Fountain (Fontana del Carciofo) ไม้พุ่ม และรูปปั้นโบราณในยุคเรอนาสซองส์อยู่ตามจุดต่างๆ ของสวนอันกว้างใหญ่ (มีค่าเข้าชม 10 ยูโร)
ความสวยงามอลังการของพระราชวังปิตติยามค่ำคืน
ศิลปะปูนปั้นภายในห้องรับแขก White Room ภายใน Galleria Apartamenti Reali ขอบคุณภาพจาก https://www.uffizi.it/
Madonna del Granduca ผลงานของ Raphael Sanzio (ซ้าย) Madonna with the Child ผลงานของTitian (ขวา) ขอบคุณภาพจาก https://www.uffizi.it/
การเดินทางจากสนามบินฟลอเรนซ์ เปเรโตลา ไปยังตัวเมืองฟลอเรนซ์
- รถยนต์ (Car) จากสนามบินฟลอเรนซ์ เมืองเปเราโตลาไปยังบริเวณสถานีรถไฟกลาง Firenze S.M.N. ระยะทางประมาณ 8.2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร
- รถชัตเติลบัส (Shuttle Bus) จอดบริเวณอาคารผู้โดยสารขาเข้าและขาออกไปส่งยังสถานีรถไฟกลาง Firenze S.M.N.ให้บริการตั้งแต่เวลา 5.30 น. จนถึงเวลา 00.30 น. รถออกทุก 30 นาที ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ค่าโดยสารราคา 6 ยูโร สามารถซื้อตั๋วได้ที่ขายตั๋วภายในสนามบิน และทุกที่ขายตั๋วผู้โดยสารบริษัท ATAF หรือที่คนขับโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (เงินสด)
- รถไฟ (Train) ขึ้นรถรางสาย T2 ที่สถานี Peretola Aeroporto ไปลงที่สถานีรถราง Unita ซึ่งอยู่ติดกับสถานีรถไฟกลาง Firenze S.M.N. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 22 นาที
- รถแท็กซี่ (Taxi) สามารถขึ้นได้ที่จุดจอดรถแท็กซี่บริเวณอาคารผู้โดยสารขาออก ราคาประมาณ 22 ยูโร / วันอาทิตย์ ราคา 24 ยูโร / วันหยุดพิเศษและตั้งแต่เวลา 22.00 น. – 06.00 น. ราคา 25 ยูโร และมีค่าภาษีสนามบิน 2.70 ยูโร หากมีสัมภาระจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มใบละ 1 ยูโร สูงสุด 7 ใบ ใช้เวลาเดินทางไปยังตัวเมืองฟลอเรนซ์ประมาณ 15 นาที โทร. (+39) 055-4242 / 055- 4390 / 055-4798
การเดินทางไปพระราชวัง Palazzo Pitti
เมืองฟลอเรนซ์เป็นเมืองขนาดเล็ก สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองอยู่ไม่ห่างกันมากนัก นักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าไปยังสถานที่ต่างๆ ได้สะดวกกว่าการใช้รถ เพราะภายในเขตเมืองเก่าอนุญาตให้คนในพื้นที่เข้าจอดเท่านั้น รถอื่นให้จอดบริเวณจุดจอดรอบนอกและอาจมีค่าผ่านทาง
- การเดิน (Footpath) จากสถานีรถไฟกลาง Firenze S.M.N.ไปยังพระราชวัง Palazzo Pittiระยะทางประมาณ 1.4 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 18 นาที
- รถโดยสารประจำทาง (Bus) จากสถานีรถไฟกลาง Firenze S.M.N.นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปขึ้นรถโดยสารประจำทางสาย 6 ที่ป้าย Stazione Scalette ไปลงที่ป้าย Pescaia Di Santa ซึ่งอยู่ห่างจากพระราชวัง Palazzo Pitti 700 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 16 นาที (ต้องซื้อตั๋วก่อนขึ้นรถโดยซื้อได้ที่ร้านขายบุหรี่ (Tabacchi), ร้านกาแฟที่ติดป้าย ATAF, บริษัททัวร์ หรือจากคนขับ ราคา 1.20 ยูโร หลังจากประทับตรา (validate) บนรถแล้วสามารถขึ้นกี่เที่ยวก็ได้ ใช้ได้ 90 นาที)
- รถยนต์ (Car) จากบริเวณสถานีรถไฟกลาง Firenze S.M.N.ไปยังพระราชวัง Palazzo Pittiระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10นาที (มีค่าผ่านทาง)
เวลาทำการเปิด – ปิด
วันอังคาร - วันอาทิตย์ เปิดเวลา 08.30 น. – 18.30 น. ปิดทำการวันจันทร์
อัตราค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ ค่าเข้าชม ราคา 16 ยูโร เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าชมฟรี โดยราคานี้สามารถเข้าชมห้อง Palatine Gallery, Gallery of Modern Art, Treasury of the Grand Dukes, Museum of Costume and Fashion, Imperial and Royal Apartments
สวนโบโบลิ (Giardine di Boboli) ผู้ใหญ่ ค่าเข้าชม ราคา 10 ยูโร เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าชมฟรี
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปพระราชวัง Palazzo Pitti
ชมศิลปะและสิ่งของเครื่องใช้ในยุคเฟื่องฟูของเมืองฟลอเรนซ์และศิลปะเรอนาสซองส์ภายในพิพิธภัณฑ์ทั้ง 5 ห้องของพระราชวัง
ข้อมูลที่ควรรู้
การซื้อตั๋วล่วงหน้าสามารถทำได้ก่อนเป็นสัปดาห์ตามพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ในเมืองฟลอเรนซ์ที่เป็นของรัฐ โดยเสียค่าธรรมเนียมประมาณ 3 ยูโร หรือโทรติดต่อที่ฟิเรนเซ่มูเซย์ (Firenze Musei) โทร. (+39) 055-294-883 หรือซื้อตั๋วออนไลน์ได้ที่ www.weekendafirenze.com เสียค่าธรรมเนียมใบละ 6.80 ยูโร จองได้ครั้งละไม่เกิน 3 ใบ ล่วงหน้าได้ 3 วัน แล้วนำสำเนาอีเมลไปยื่นเจ้าหน้าที่
ภายในเมืองฟลอเรนซ์มีพิพิธภัณฑ์หลายแห่งที่จะต้องเสียค่าเข้าชม จึงได้มีการออกบัตร Firenze Card ที่สามารถเข้าชมได้หลายพิพิธภัณฑ์ในราคาที่ถูกกว่าปกติ คือ บัตรราคา 85 ยูโร สามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ในเมืองฟลอเรนซ์ได้ 72 ชั่วโมง ได้แก่ Galleria Palatina, Appartamenti Monomentali, Pallazzo Piti, Museo Nazionale del Bargello, Museo delle Cappelle Medicee รวมถึงหอศิลป์ Uffizi Gallery และพิพิธภัณฑ์ Galleria dell' Accademia ที่มีผู้สนใจเข้าชมเป็นจำนวนมาก ต้องเข้าคิวเป็นเวลานานด้วย เหมาะสำหรับผู้ต้องการเที่ยวภายในเมืองฟลอเรนซ์ 3 วันขึ้นไป สนใจประวัติศาสตร์ศิลปะและไม่ต้องการต่อคิว สามารถซื้อได้ที่จุดขายในเมืองฟลอเรนซ์หรือทางออนไลน์ที่ http://www.firenzecard.it/ แล้วโหลดแอพพลิเคชั่น Firenzecard เพื่อเป็นบัตรผ่านดิจิตอลหรือปริ้นท์ออกมาเพื่อไปรับบัตรจริงได้ที่พิพิธภัณฑ์แรกที่เข้าชม แล้วลงทะเบียนยืนยันวันเดือนปีที่เริ่มใช้บัตรก่อนโดยแต่ละพิพิธภัณฑ์อาจมีจุดออกใบเสร็จอยู่ที่ประตูทางเข้า, ร้านหนังสือ หรือเคาน์เตอร์ขายตั๋วปกติ
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
เดือนที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวคือเดือนพฤษภาคม, มิถุนายน, กันยายนและตุลาคม เพราะเป็นช่วงที่อากาศกำลังสบายไม่หนาวหรือร้อนเกินไป นักท่องเที่ยวไม่มากนัก ส่วนเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมจะมีอากาศร้อนและมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเพราะเป็นช่วงหยุดซัมเมอร์ของทางยุโรป และราคาที่พักสูงกว่าปกติ ที่นั่งในรถไฟอาจเต็ม จึงควรจองตั๋วหรือซื้อบัตรล่วงหน้าทางเว็บไซต์มาก่อน
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม พระราชวังปาลาซโซ ปิตติ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
พระราชวังปาลาซโซ ปิตติ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
(Palazzo Pitti, Florence, Italy)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : พิพิธภัณฑ์ 5 ห้องภายในพระราชวังปิตติ ค่าเข้าชม 16 ยูโร สวนโบโบลิ ค่าเข้าชม 10 ยูโร เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร - วันอาทิตย์ เปิดเวลา 08.30 น. – 18.30 น. ปิดทำการวันจันทร์
ตั้งอยู่ที่ : จัตุรัส Piazza de' Pitti, เมืองฟลอเรนซ์, ประเทศอิตาลี
โทรศัพท์ : (+39) 055-294-883
เว็บไซต์ : https://www.uffizi.it/en/pitti-palace
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
การท่องเที่ยวเมืองฟลอเรนซ์ https://www.florence-carhire.net/th/ , https://www.florence.net
พิพิธภัณฑ์ในเมืองฟลอเรนซ์ http://www.museumsinflorence.com
การท่องเที่ยวในแคว้นทัศคานี https://www.visittuscany.com/en/
การท่องเที่ยวในประเทศอิตาลี http://www.italia.it/en/home.html
ระบบขนส่งสาธารณะในประเทศอิตาลี http://www.italia.it/en/useful-info/how-to-arrive.html
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อรวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อ