- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- สุดขอบจีนโบราณ ด่านหยางกวน เมืองตุนหวง ประเทศจีน
สุดขอบจีนโบราณ ด่านหยางกวน เมืองตุนหวง ประเทศจีน
- อ่าน (5,392)
- By Webmaster
- 10:10:38 | 5 ม.ค. 2561
สุดขอบจีนโบราณ ด่านหยางกวน เมืองตุนหวง ประเทศจีน
阳关, Yangguan Pass, The Great Wall of Han Dynasty, Dunhuang, China
ด่านหยางกวน หรือที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Yangguan Cultural Relics Scenic Area ตั้งอยู่ใกล้เขตตุนหวง เมืองจิ่วเฉวียน มณฑลกานซู ประเทศจีน เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทั้งในด้านประวัติศาสตร์ และในฐานะที่มาของมรดกวัฒนธรรมที่สำคัญของจีนโบราณ ทั้งบทเพลง และกลอนโบราณอันโด่งดัง
โดยผลงานที่ทำให้ด่านหยางกวนเป็นที่รู้จักกันดี คือบทกวีของหวังเหวย กวีชื่อดังในสมัยราชวงศ์ถัง ซึ่งกล่าวถึงสหายเก่าของตนเองและด่านหยางกวนอันห่างไกลถึงสุดขอบทิศตะวันตกของจีนโบราณ และกลอนบทนี้เองที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับบทเพลงที่โด่งดังต่อเนื่องมาอีกนับร้อยปีชื่อ “หยางกวนซันเตี๋ย” (陽關三疊) ซึ่งเป็นเพลงที่ยังได้รับความนิยมอยู่แม้ในปัจจุบัน
ป้ายหินสลัก 阳关故址 หรือแหล่งโบราณสถานด่านหยางกวน
ด้านหน้าของด่านหยางกวนที่ได้รับการดูแลใหม่
สุดขอบจีนโบราณที่ด่านหยางกวนกับเส้นทางสายไหม
ด่านหยางกวนถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยของจักรพรรดิฮั่นอู่ตี้ (156 – 87 BC) แห่งราชวงศ์ฮั่น หรือประมาณสองพันกว่าปีมาแล้ว โดยจุดประสงค์แรกเริ่มในการสร้างด่านหยางกวน คือเพื่อป้องกันการรุกรานของชนเผ่านอกด่านที่อยู่ทางตะวันตกของจีนโบราณ ต่อมา เมื่อภัยจากการรุกรานของชนเผ่าลดน้อยลง และเริ่มมีการค้าขายกับชาติตะวันตกโบราณ ด่านหยางกวนจึงมีบทบาทสำคัญขึ้นในฐานะ ปราการและประตูบานสุดท้าย ของผู้ที่จะเดินทางออกจากจีนไปค้าขายยังแดนไกล ผ่านเส้นทางที่รู้จักกันในนามของ “เส้นทางสายไหม” (อ่านเกี่ยวกับเส้นทางสายไหมเพิ่มเติมได้ที่ http://public.dha.ac.cn/content.aspx?id=598699867894)
ทะเลทรายด้านนอกของด่านหยางกวน ส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหมที่โด่งดัง
ด่านหยางกวนได้รับความสำคัญต่อเนื่องมายาวนานจนกระทั่งถึงสมัยราชวงศ์ถัง (618 – 907 AD) ซึ่งเป็นช่วงที่มีเหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับด่านหยางกวนมากมาย ทั้งบทกวีจากนักกวีชื่อดังเลื่องชื่อของราชวงศ์ถังอย่างหวังเหวย หรือเหตุการณ์ที่รู้จักกันแพร่หลายอย่างการอัญเชิญพระไตรปิฎกของพระภิกษุเสวียนจั้งแห่งราชวงศ์ถัง (ถังซัมจั๋ง) ผู้เป็นที่มาของตำนานไซอิ๋ว ก็ได้เดินทางออกจากจีนโบราณผ่านทางด่านหยางกวนเช่นกัน
รูปปั้นของหวังเหวย และบทกลอนอันโด่งดังของเขา
จนกระทั่งสมัยราชวงศ์ซ่ง (960 – 1279 AD) เป็นต้นมา เมื่อเส้นทางสายไหมเกิดปัญหา ทั้งจากภัยสงครามและการรุกรานของชนเผ่าต่างๆนอกกำแพงเมืองจีน ด่านหยางกวนจึงค่อยๆเสื่อมความสำคัญลงไปในที่สุด
การเดินทางไปเขตตุนหวง
เขตตุนหวง ตั้งอยู่ในเมืองจิ่วเฉวียน มณฑลกานซู เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญมากมาย เขตตุนหวงจึงมีทั้งท่าอากาศยานภายในประเทศและบริการขนส่งสาธารณะอื่นๆให้เลือกใช้ คือ
เมืองเจียอวี้กวน --> เขตตุนหวง
เมืองเจียอวี้กวนตั้งอยู่ห่างจากเขตตุนหวง 372 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถ ใช้บริการเครื่องบิน มาลงที่เมืองเจียอวี้กวน และเดินทางต่อมายังเขตตุนหวงได้โดยการเลือกใช้บริการ
- รถไฟ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางด้วย รถไฟมาตรฐาน จากเมืองเจียอวี้กวนมายังเขตตุนหวงได้ โดยใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง - 5½ ชั่วโมง ซึ่งการเดินทางด้วยรถไฟเป็นการเดินทางที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมอย่างมาก ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถเช็ครอบรถไฟและจองตั๋วการเดินทางออนไลน์ได้ที่ http://www.12306.cn/mormhweb/ (ภาษาจีน) หรือ https://english.ctrip.com/trains/ (ภาษาอังกฤษ)
- รถบัส ใช้เวลาในการเดินทางจากเมืองเจียอวี้กวนไปยังเขตตุนหวงเพียง 3½ - 4 ชั่วโมง และยังมีรอบการเดินทางให้เลือกวันละหลายรอบ จึงเป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยม
- รถยนต์ / แท็กซี่สาธารณะ อีกหนึ่งการเดินทางที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เนื่องจากเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายที่สุด และนักท่องเที่ยวยังสามารถเจรจาต่อรองกับแท็กซี่สาธารณะรวมถึงขอคำแนะนำสำหรับการท่องเที่ยวได้ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถเรียกใช้บริการได้จากทุกแห่งในเมืองหรือเรียกใช้บริการจากโรงแรมที่พักก็ได้
เมืองหลันโจว --> เขตตุนหวง
เมืองหลันโจวเป็น เมืองเอกของมณฑลกานซู อยู่ห่างจากเขตตุนหวงประมาณ 1,096 กิโลเมตร การเดินทางต่อไปยังเขตตุนหวง นักท่องเที่ยวจึงสามารถเลือกเดินทางได้หลายวิธี คือ
- เครื่องบิน สนามบินเขตตุนหวงตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเขตไปทางตะวันออกเพียง 13 กิโลเมตร การเดินทางด้วยเครื่องบินมายังเขตตุนหวงจึงถือเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายอย่างยิ่ง และยังถือเป็นการเดินทางที่รวดเร็วที่สุดอีกด้วย
- รถไฟ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการได้ ทั้งรถไฟมาตรฐาน และรถไฟหัวกระสุนความเร็วสูง โดยเวลาในการเดินทางของรถไฟมาตรฐานคือ 12½ - 16 ชั่วโมง ขณะที่เวลาในการเดินทางของรถไฟหัวกระสุนความเร็วสูงคือ 6½ - 7½ ชั่วโมง โดยรถไฟทั้งสองแบบต่างมีรอบการเดินทางให้เลือกวันละหลายรอบ จึงเป็นอีกการเดินทางที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยม นักท่องเที่ยวสามารถเช็ครอบรถไฟและจองตั๋วออนไลน์ได้ที่ http://www.12306.cn/mormhweb/ (ภาษาจีน) หรือ https://english.ctrip.com/trains/ (ภาษาอังกฤษ)
- รสบัส เนื่องจากระยะทางกว่า 1,000 กิโลเมตร การเดินทางด้วยรถบัสจากเมืองหลันโจวไปเขตตุนหวงจึงใช้เวลา 17 – 24 ชั่วโมง ซึ่งเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบพักผ่อนระยะยาวระหว่างการเดินทาง นอกจากนี้ยังมีรอบการเดินทางให้เลือกใช้บริการวันละหลายรอบอีกด้วย
การเดินทางไปด่านหยางกวน
ด่านหยางกวน ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเขตตุนหวงไปประมาณ 70 กิโลเมตร ไม่มีบริการ ขนส่งสาธารณะ ที่ไปถึงโดยตรง นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาถึงเขตตุนหวง จึงต้องเดินทางต่อโดย
- แท็กซี่ มีค่าบริการเริ่มต้นเพียง 5 หยวน และค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปถึงด่านหยางกวนประมาณ 250 - 300 หยวน/เที่ยว ถือเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยว
เวลาในการเปิด-ปิดทำการ
ด่านหยางกวน เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ทุกวัน ตั้งแต่เวลา ตั้งแต่เวลา 8.00 – 20.00 น.
ทั้งนี้ เวลาในการเปิด – ปิด อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามฤดูกาลและสภาพอากาศ
นักท่องเที่ยวที่เดินผ่านประตูเพื่อเยี่ยมชมด่านหยางกวน
อัตราค่าเข้าชม
ค่าบัตรผ่านสำหรับเข้าชมด่านหยางกวน คือ 50 หยวน/คน โดยนักท่องเที่ยวสามารถซื้อบัตรผ่านเข้าชมได้ที่จุดบริการจำหน่ายบัตรเข้าชม ไม่ต้องจองล่วงหน้า
ทิวทัศน์ที่ไม่ควรพลาดของด่านหยางกวน
ปัจจุบัน รัฐบาลจีนได้เข้ามาดูและและทำการปรับปรุงบริเวณโดนรอบของด่านหยางกวนใหม่ ทำให้ด่านหยางกวนในวันนี้มีทิวทัศน์ที่น่าสนใจหลายต่อหลายแห่ง รวมถึงมีการสร้างพิพิธภัณฑ์เพื่อเก็บรวบรวมหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของด่านหยางกวนเอาไว้อีกด้วย
ป้ายแสดงจุดสำคัญภายในด่านหยางกวน
โดยนักท่องเที่ยวที่ซื้อบัตรผ่านเข้าชมด่านหยางกวนเรียบร้อยแล้ว สามารถเดินผ่านประตูด่านหยางกวนที่ได้รับการสร้างขึ้นมาใหม่ เพื่อชื่นชมสิ่งปลูกสร้างต่างๆที่จำลองมาจากอดีตเช่นกัน อาทิ กำแพงเมือง , กระโจมที่พัก หรือรูปปั้นของนายทหารจีนโบราณ
ด่านหยางกวนที่ได้รับการสร้างใหม่จากรัฐบาลจีน
รูปปั้นของบุคคลสำคัญแห่งด่านหยางกวนในอดีต
กระโจมที่พักซึ่งสร้างตามแบบที่พักทหารในอดีต
รูปปั้นจำลองตามแบบทหารที่ประจำอยู่ด่านหยางกวนในอดีต
ไม่เพียงข้าวของและสถาปัตยกรรมเท่านั้น เพื่อเป้นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ด่านหยางกวนยังมีการจัดการแสดงไว้รอต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
ถัดจากบริเวณจำลองดังกล่าว นักท่องเที่ยวสามารถเดินต่อมายังทะเลทรายด้านนอก เพื่อชมร่องรอยแนวกำแพงเมืองจีนโบราณแห่งสมัยราชวงศ์ฮั่น รวมถึง จุดชมทิวทัศน์ที่ไม่ควรพลาดที่สุด ซึ่งตั้งอยู่บนเนินที่เชื่อกันว่าหากมองจากบริเวณนี้ไป ทหารที่ประจำอยู่ที่ด่านหยางกวนในอดีตจะสามารถมองเห็นข้าศึกที่อยู่ไกลออกไปได้นับร้อยกิโลเมตร ทำให้ในปัจจุบัน ศาลาที่ตั้งอยู่บนเนินแห่งนี้กลายเป็นจุดชมทิวทัศน์และจุดเก็บภาพที่พลาดไม่ได้แห่งหนึ่งของด่านหยางกวน
ท้องฟ้าและผืนทรายในวันนี้ของด่านหยางกวน กับแนวค่ายทหารจำลอง
เนินซึ่งมีซากโบราณสถานของสิ่งปลูกสร้างด่านหยางกวนเมื่อสองพันปีก่อนหลงเหลืออยู่
ศาลาซึ่งสร้างบนเนินที่เชื่อกันว่ามองไกลออกไปได้นับร้อยกิโลเมตร
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
เดือนพฤษภาคม – เดือนตุลาคม เป็น ช่วงเวลาที่ดีที่สุด สำหรับการเที่ยวด่านหยางกวนและทิวทัศน์โดยรอบ เนื่องจากด่านหยางกวนอยู่ใกล้กับทะเลทราย ทำให้ในฤดูร้อนจะมีอากาศร้อนจัด และฤดูหนาวอาจมีหิมะตก ซึ่งถือเป็นอุปสรรคในการเดินทางและท่องเที่ยว
เนินทรายใต้ฟ้าที่มีทั้งส่วนสลัวและแดดจ้าของด่านหยางกวน
นอกจากนี้ เวลาที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดในการเก็บภาพของด่านหยางกวน คือช่วงเวลารุ่งเช้า หรือเวลาเย็นก่อนพระอาทิตย์ตก ที่นักท่องเที่ยวจะสามารถชมภาพของแสงอาทิตย์ที่สาดกระทบโบราณสถานพันปีของด่านหยางกวน ซึ่งเป็นภาพที่งดงามอย่างยิ่ง รวมทั้งเวลาดังกล่าวยังเป็นช่วงที่มีแสงแดดที่เหมาะสม ไม่ร้อนจัดและจ้าเกินไปอีกด้วย
นักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเยือนด่านหยางกวน จึงควรตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่วงหน้า ได้ที่ https://www.accuweather.com/ และเพื่อให้สามารถเที่ยวชมด่านหยางกวนได้ครบทุกจุด นักท่องเที่ยว ควรใช้เวลา ไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง ในการเที่ยวชม
ด่านหยางกวน ตั้งอยู่ใกล้กับทะเลทรายขนาดใหญ่ นักท่องเที่ยวจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสภาพอากาศทั้งร้อนจัดและเย็นจัด ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในแต่ละวัน โดย บางวันอาจมีอุณหภูมิสูงสุดและต่ำสุดต่างกันได้ถึง 10 องศาเซลเซียส
นอกจากนี้ ถึงแม้ทรายที่อยู่ในบริเวณด่านหยางกวนจะไม่ใช่ทรายหยาบที่เป็นอันตรายต่อระบบร่างกาย แต่นักท่องเที่ยวควรเตรียมเสื้อผ้า รวมถึง หมวกและผ้าปิดหน้า ติดตัวไว้ด้วย เนื่องจากหลายครั้งที่ มีลมพัดทรายกรรโชกขึ้นมาอย่างกะทันหัน ซึ่งอาจเป็นอันตรายกับผู้ที่ไม่คุ้นเคยได้ และแม้จะเป็นฤดูหนาว แต่มีบางวันที่แดดของทะเลทรายเองก็รุนแรงมากเช่นกัน นักท่องเที่ยวจึงควรพกครีมกันแดดไว้ด้วย
ทรายบริเวณด่านหยางกวนซึ่งเป็นทรายละเอียด ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
และสำหรับนักท่องเที่ยวที่ ไม่มีพื้นฐานหรือไม่สันทัดภาษาจีน ควรเตรียมหนังสือรวมคำศัพท์, บทสนทนาพื้นฐานในภาษาจีน หรือแอพพลิเคชั่นเพื่อการแปลภาษาอาทิ Google Translate ไว้ เนื่องจากป้ายต่างๆในเขตตุนหวงส่วนมากเป็นภาษาจีน มีเพียงในโรงแรมบางแห่ง หรือในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญเท่านั้นที่มีป้ายภาษาอังกฤษ
ภาษาอังกฤษจะมีให้เห็นเฉพาะบนป้ายท่องเที่ยวสำคัญเท่านั้น ไม่มีในบริเวณอื่น
แต่มีข้อควรระวังคือ นักท่องเที่ยวที่ใช้ อินเตอร์เน็ตของประเทศจีน จะไม่เข้าสามารถเข้าเว็บไซต์ Google (รวมถึง แอพลิเคชั่นต่างๆ เช่น Google Translate), Facebook และ Instagram ได้ นักท่องเที่ยวต้อง ใช้ซิมโทรศัพท์จากประเทศอื่นพร้อมเปิดใช้งานระบบโรมมิ่ง หากต้องการเข้าใช้งานเว็บไซต์ดังกล่าว
โดยนักท่องเที่ยวที่ใช้อินเตอร์เน็ตของประเทศจีน สามารถใช้บริการ www.baidu.com เพื่อการค้นหาข้อมูลแทน เว็บไซต์ Google และ ใช้โปรแกรม WeChat หรือ Weibo ซึ่งเป็นโปรแกรมสนทนายอดนิยมในประเทศจีน
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม ด่านหยางกวน สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ด่านหยางกวน กำแพงเมืองจีนแห่งทิศตะวันตกแห่งสมัยฮั่น
(阳关, Yangguan Pass, The Great Wall of Han Dynasty, Dunhuang, China)
อัตราค่าเข้าชม : 50 หยวน/คน
เวลาเปิด – ปิด : 8.00 น. – 20.00 น. (เวลาเปิด-ปิด อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพอากาศ)
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : เดือนพฤษภาคม – เดือนตุลาคม
ตั้งอยู่ที่ : เขตตุนหวง เมืองจิ่วเฉวียน มณฑลกานซู ประเทศจีน
โทรศัพท์ : (86)0937-883-3089 เว็บไซด์ : http://english.gsta.gov.cn/English/englishjq/10751.jhtml
ระดับความนิยม :
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
จองตั๋วรถไฟ(ภาษาจีน) http://www.12306.cn/mormhweb/
จองตั๋วรถไฟ(ภาษาอังกฤษ) https://english.ctrip.com/trains/
บริการรถเช่าพร้อมคนขับ ประเภทรถตู้ Mercedes-Benz Vito 8 ที่นั่ง ราคา 7,000 บาท/วัน
(ติดต่อ จางซือฝุ WeChat ID. wxid_ps2q57hls52f41)
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
หน้าผาโทจินโบ จังหวัดฟุกุอิ ประเทศญี่ปุ่น
หน้าผาโทจินโบ (Tojinbo) ตั้งอยู่ในจังหวัดฟุกุอิ (Fukui) ทางภาคตะวันออกของประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ ด้วยความงามของหน้าผาที่สูงชันและวิวทิวทัศน์ที่น่าทึ่ง และไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความงามจากธรรมชาติ แต่ยังแฝงไปด้วยตำนานและความเชื่อที่ลึกซึ้งด้วย
อ่านต่อเมจิจิงกูไกเอ็น กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
เมจิจิงกูไกเอ็น (Meiji Jingu Gaien) หรือ สวนด้านนอกศาลเจ้าเมจิ เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ในย่านชินจูกุและอาโอยามะของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น สวนนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของถนนต้นแปะก๊วยสีเหลืองทองที่สวยงาม ทอดยาวสุดลูกหูลูกตาในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
อ่านต่อปราสาทฮิโกเนะ จังหวัดชิงะ ประเทศญี่ปุ่น
ปราสาทฮิโกเนะ (Hikone Castle) เป็นหนึ่งในปราสาทดั้งเดิมไม่กี่แห่งของญี่ปุ่นที่ยังคงสภาพสมบูรณ์อยู่จนถึงปัจจุบัน ด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามและประวัติศาสตร์อันยาวนาน ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดชิงะ
อ่านต่อถนนทิวสนเมตาซีคัวญา จังหวัดชิงะ ประเทศญี่ปุ่น
ถนนทิวสนเมตาซีคัวญา (Metasequoia Namiki Avenue) ในจังหวัดชิงะ ประเทศญี่ปุ่น คือถนนที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน 100 ถนนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นจุดชมธรรมชาติที่ผู้คนหลั่งไหลมาเยี่ยมชมอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ทิวสนเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอร่ามตลอดสองข้างถนน
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจาง – ดาลัด ประเทศเวียดนาม
หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองชายทะเลสุดคึกคักอากาศอบอุ่น แล้วไปผ่อนคลายในเมืองแห่งภูเขาอากาศเย็นสบายที่เวียดนามใต้ ญาจางและดาลัดคือคำตอบ! สองเมืองนี้จะพาคุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมที่หลากหลาย Palanla ได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจางและดาลัดมาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่ออาสนวิหารญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
อาสนวิหารญาจาง (Christ the King Cathedral Nha Trang) หรือ โบสถ์หินญาจาง สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม อายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง ด้วยผนังหินสีน้ำตาลเข้มที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง และหลังคาสูงชะลูดที่ดูอลังการ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว
อ่านต่อหาดญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หาดญาจาง (Nha Trang Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศเวียดนาม ด้วยชายรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ความยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่โอบล้อมอ่าวญาจาง ในจังหวัดหวัดคั้ญฮวา ท่ามกลางภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญๆ มากมาย
อ่านต่อหอคอยแตร่มเฮือง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หอคอยแตร่มเฮือง (Tram Huong Tower) สัญลักษณ์และจุดเช็กอินยอดนิยมของหาดญาจางในปัจจุบัน
อ่านต่อวินเพิร์ลแลนด์ เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วินเพิร์ลแลนด์ (Vinpearl Land) เป็นสวนสนุกและรีสอร์ตหรูครบวงจรระดับโลกที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่สวยงามติดทะเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของการไปเที่ยวที่นี่คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก
อ่านต่อวัดลองเซิน เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระใหญ่” เป็นวัดพุทธมหายานเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม นอกจากความสวยงามอลังการของตัววัดแล้ว จากยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของเมืองญาจางและทะเลได้อย่างสวยงาม
อ่านต่อ