ชุมชนอิสระคริสเตียเนีย เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก

  • อ่าน (4,444)
  • By Webmaster
  • 13:15:17 | 30 เม.ย. 2563

ชุมชนอิสระคริสเตียเนีย เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก

Free Town Christiania, Copenhagen, Denmark

           ชุมชนคริสเตียเนีย (Christiania) เป็นชุมชนเสรีที่ปกครองตนเองไม่ขึ้นตรงต่อประเทศเดนมาร์ก สิ่งหนึ่งซึ่งเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในเมืองเล็กๆ แห่งนี้คือกัญชาไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งขัดต่อหลักการของประเทศที่ชุมชุนแห่งนี้ตั้งอยู่ บ้านเรือนของผู้คนที่นี่สร้างด้วยสีสันสดใส ผนังและกำแพงเพ้นท์ด้วยลวดลายกราฟิตี้ละลานตา เป็นเอกลักษณ์และเสน่ห์ของชุมชนแห่งนี้ที่ดึงดูดให้ผู้คนจากที่อื่นๆ อยากมาเยี่ยมชม



ประวัติ

           ชุมชนคริสเตียเนียเป็นเมืองอิสระปกครองตนเองไม่ขึ้นต่อรัฐ ตั้งอยู่ในพื้นที่ค่ายทหารเก่าขนาดประมาณ 240 ไร่ มีประชากรทั้งหมดราว 900 คน ด้านนอกล้อมรอบด้วยตึกเก่า ส่วนภายในมีทั้งสวน ทะเลสาบ ร้านค้า คาเฟ่ และบ้านเรือนที่แปลก แหวกแนว สีสันสะดุดตา ภายในชุมชุนแห่งนี้เต็มไปด้วยภาพวาดบนกำแพงหลากสีสันซึ่งแต่ละภาพล้วนมีความหมาย บ้านเรือนสีสันสดใสแต่ละหลังก็ล้วนแต่หน้าตาไม่ซ้ำกัน อาคารบ้านเรือนหลายร้อยหลังในชุมชนนี้บางหลังก็มีอายุเป็นร้อยปีและเคยถูกใช้เป็นค่ายทหารในมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 และยุติการใช้งานลงภายหลังสงครามโลกครั้งที่  2  อาคารที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว เช่น Fredens Ark (Ark of Peace) ซึ่งเป็นตึกที่ใหญ่สุดในชุมชนคริสเตียเนีย และยังถือเป็นบ้านครึ่งไม้ครึ่งปูนหลังใหญ่ที่สุดของยุโรปเหนือด้วย

           ที่ชุมชนคริสเตียเนียมีกิจกรรมหลายอย่างจากผู้คนที่อยู่อาศัยในชุมชน ผู้ที่ชื่นชอบดนตรีสามารถไปที่ Den Gra Hal หรือ The Grey Hall โดยที่ฮอลล์นี้นอกจากจะมีดนตรีแสดงแล้ว บางครั้งก็มีการจัดแสดงละครเวทีด้วย ภาพที่เราจะสามารถพบเห็นได้บ่อยๆ ที่ชุมชนคริสเตียเนียคือชาวคริสเตียเนียกำลังเล่นโยคะหรือออกกำลังที่ได้บริหารทั้งกายและจิตใจ บ้านเรือนหลายๆ หลังที่เห็นว่าสวยงามส่วนใหญ่ก็เป็นฝีมือของชาวคริสเตียเนียที่สร้างขึ้นมาเองไม่ใช่สถาปนิกชั้นยอดแต่อย่างใด รวมถึงหาดทรายริมน้ำที่ชาวคริสเตียเนียก็ทำขึ้นมาเอง นอกจากนี้ภายในชุมชนแห่งนี้ยังทีทั้งคาเฟ่ ลานเบียร์ ที่จัดคอนเสิร์ต ร้านอาหารที่ตกแต่งไม่ซ้ำแบบใคร รวมถึงร้านอาหารมังสวิรัติซึ่งเป็นที่นิยมของคนในชุมชนนี้ด้วย

           นอกจากลักษณะของบ้านเรือนที่เต็มไปด้วยสีสันซึ่งเป็นเสน่ห์ของคริสเตียเนียแล้ว ไฮไลต์อีกอย่างหนึ่งของชุมชนคริสเตียเนียที่ทำให้คริสเตียเนียได้ชื่อว่า “Freetown” หรือดินแดนเสรีชนก็คือกัญชาไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมาย ก็คงจะเป็นสิ่งอื่นไปไม่ได้นอกจาก Pusher Street ถนนหลักของคริสเตียเนียที่นักท่องเที่ยวจะมีโอกาสได้เห็นผู้คนสูบกัญชา ควันลอยฟุ้งไปมา เพราะชุมชุนแห่งนี้สามารถซื้อขายกัญชากันได้อย่างอิสระ แต่มีกฎสำคัญคือถนน Pusher ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป ซึ่งแม้ว่าที่นี่จะสามารถซื้อขายกัญชาได้ แต่ชุมชนคริสเตียเนียก็มีกฎสำคัญที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามคือห้ามขโมยห้ามใช้กำลัง ห้ามใช้ปืน มีด ห้ามสวมเสื้อกันกระสุน แจ็คเก็ตกลุ่มมอเตอร์ไซค์ และยาเสพติดชนิดรุนแรง

           ชาวคริสเตียเนียมีแนวคิดที่สอดคล้องกับวิถีความเชื่อของชาวอินเดียนแดงที่ว่า ไม่มีใครเป็นเจ้าของที่ดิน น้ำ อากาศ และทรัพยากรต่างๆ ของโลก มนุษย์เป็นเพียงผู้อาศัยชั่วคราวที่สุดท้ายก็จากไป พวกเขาจึงรวมตัวกันด้วยความเชื่อในเสรีภาพและภราดรภาพโดยไม่ขึ้นตรงต่อประเทศเดนมาร์ก


เอกลักษณ์ที่โดดเด่นอย่างหนึ่งของชุมชนคริสเตียเนียก็คือบ้านเรือนสีสันสดใส ผนังและกำแพงเพ้นท์ด้วยลวดลายกราฟิตี้ละลานตา


ประติมากรรมที่ทำจากไม้


ชุนชนคริสเตียเนียตั้งอยู่ในพื้นที่ค่ายทหารเก่าขนาดประมาณ 240 ไร่ ซึ่งได้ยุติการใช้งานลงภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 


ประชากรที่อาศัยอยู่ในชุมชนแห่งนี้มีทั้งหมดราว 900 คน 


ร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก


บรรยากาศบางส่วนภายในชุมชนคริสเตียเนีย


สิ่งหนึ่งที่ทำให้ชุมชนคริสเตียเนียได้ชื่อว่า “Freetown” หรือดินแดนเสรีชนก็คือ กัญชาไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมาย


ชุมชนคริสเตียเนียไม่อนุญาตให้นำยานพาหนะเครื่องยนต์เข้าไปในชุมชน

การเดินทางจากสนามบินสู่ตัวเมือง

           สนามบินโคเปนเฮเกน (Copenhagen Airport) หรือชื่อทางการคือท่าอากาศยานนานาชาติโคเปนเฮเกน (Copenhagen Kastrup International Airport) ซึ่งมีชื่อเรียกภาษาเดนมาร์กคือ “Københavns Lufthavn” ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองโคเปนเฮเกนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 13 กิโลเมตร จากสนามบินนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าเมืองไปยังสถานีรถไฟหลักคือสถานี Copenhagen Central Station ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางของเมืองโคเปนเฮเกนได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้

             - รถยนต์ (Car) การเดินทางโดยรถยนต์จาก Copenhagen Airport ไปยัง Copenhagen Central Station ซึ่งเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของเมืองโคเปนเฮเกน โดยใช้เส้นทางสาย E20 มีระยะทาง 13 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 20 นาที 

             - รถประจำทาง (Bus) จาก Copenhagen Airport สามารถนั่งรถประจำทางสาย 5A เพื่อไปยัง Copenhagen Central Station ได้โดยจะใช้เวลาประมาณ 20 นาที รถออกทุก 10 นาที นักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วโดยสารได้ที่ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติบริเวณ Terminal 3 หรือสามารถซื้อตั๋วโดยสารจากพนักงานขับรถ

             - รถไฟ (Train) จาก Copenhagen Airport ไปยัง Copenhagen Central Station สามารถนั่งรถไฟ โดยสถานีรถไฟสนามบินตั้งอยู่บริเวณ Terminal 3 หากลงเครื่องที่ Terminal 1 สามารถนั่งรถรับส่งมาที่ Terminal 3 ได้ โดยรถไฟจะออกทุก 10 นาที แต่ช่วงเวลากลางคืนจะออกชั่วโมละละ 1-3 ขบวน โดยจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 13 นาที นักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วโดยสารได้ที่เคาน์เตอร์ DSB (การรถไฟเดนมาร์ก) หรือตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ

             - แท็กซี่ (Taxi) นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถแท็กซี่ได้ที่ Terminal 1 และ Terminal 3 จาก Copenhagen Airport ไปยัง Copenhagen Central Station โดยจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ราคาค่าโดยสารตามมิเตอร์ประมาณ 250-200 โครนเดนมาร์ก

           ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถซื้อ Copenhagen Card ได้ที่เคาน์เตอร์ DSB (การถไฟเดนมาร์ก) บริเวณ Terminal 3 โดยสามารถใช้บัตรนี้ได้กับรถโดยสารทุกประเภท (ยกเว้นรถแท็กซี่) และสามารถใช้เข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้ฟรี  หรือใช้เป็นส่วนลดกับร้านอาหาร การเช่ารถ และสิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย

การเดินทางไป Free Town Christiania

             - รถยนต์ (Car) การเดินทางโดยรถยนต์จากสถานี Copenhagen Central Station ไปยัง Free Town Christiania โดยใช้เส้นทางสาย Tietgensgade มีระยะทาง 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 นาที     

             - รถไฟ (Train) จากสถานี Copenhagen Central Station ไปยัง Free Town Christiania นักท่องเที่ยวสามารถนั่งไฟสาย M3 หรือ M4 ไปลงที่สถานี Christianshavn ใช้เวลาประมาณ 15 นาที

เวลาทำการเปิด – ปิด

           เปิด 24 ชั่วโมง

อัตราค่าเข้าชม

           ไม่เสียค่าเข้าชม


กราฟิตี้สีสันสดใสทว่าแต่ละภาพล้วนแฝงไว้ด้วยความหมายที่มีนัยยะ

สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว Free Town Christiania

           สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาที่นี่คือ Pusher Street ถนนหลักของคริสเตียเนีย ที่นักท่องเที่ยวจะมีโอกาสได้เห็นผู้คนสูบและซื้อขายกัญชากันได้อย่างอิสระ


ชาวคริสเตียเนียมีแนวคิดที่สอดคล้องกับวิถีความเชื่อของชาวอินเดียนแดงที่ว่า ไม่มีใครเป็นเจ้าของที่ดิน น้ำ อากาศ และทรัพยากรต่างๆ ของโลก


ลักษณะของอาคารที่เคยเป็นเขตทหารเก่าในอดีต


ลวดลายกราฟิตี้

เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

           นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยว Free Town Christiania ได้ตลอดทั้งปี

ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้

           มีกฎสำคัญในการเที่ยวชมชุมชนคริสเตียเนียที่นักท่องเที่ยวควรทราบคือไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปที่ถนน Pusher และชุมชนแห่งนี้ไม่อนุญาตให้นำยานพาหนะเครื่องยนต์เข้าไปในชุมชน ใครจะเข้าไปเที่ยวต้องเดินหรือขี่จักรยาน


           
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม Free Town Christiania สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       ชุมชนอิสระคริสเตียเนีย เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก

                       (Free Town Christiania, Copenhagen, Denmark)

                       ระดับความนิยม : 

                       อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม       

                       เวลาเปิด – ปิด : เปิด 24 ชั่วโมง

                       ตั้งอยู่ที่ : Christiania, Prinsessegade, 1440 Copenhagen, Denmark

                       โทรศัพท์ : (+45) 3295 6507       

                       เว็บไซต์ : https://www.christiania.org/

                       ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                        เว็บไซต์การท่องเที่ยวเมืองโคเปนเฮเกน https://www.visitcopenhagen.com

                                        เว็บไซต์การท่องเที่ยวประเทศเดนมาร์ก www.denmark.dk

                                        เว็บไซต์ขนส่งสาธารณะเมืองโคเปนเฮเกน https://www.visitcopenhagen.com/copenhagen/planning/tickets-prices

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์

นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์

อ่านต่อ

รวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด

อ่านต่อ

หมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม

อ่านต่อ

มหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ

อ่านต่อ

มหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม

อ่านต่อ

ท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ

อ่านต่อ

กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา

อ่านต่อ

หมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ

อ่านต่อ

หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้

อ่านต่อ

หมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ