- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- ชุมชนอิสระคริสเตียเนีย เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
ชุมชนอิสระคริสเตียเนีย เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
- อ่าน (4,365)
- By Webmaster
- 13:15:17 | 30 เม.ย. 2563
ชุมชนอิสระคริสเตียเนีย เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
Free Town Christiania, Copenhagen, Denmark
ชุมชนคริสเตียเนีย (Christiania) เป็นชุมชนเสรีที่ปกครองตนเองไม่ขึ้นตรงต่อประเทศเดนมาร์ก สิ่งหนึ่งซึ่งเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในเมืองเล็กๆ แห่งนี้คือกัญชาไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งขัดต่อหลักการของประเทศที่ชุมชุนแห่งนี้ตั้งอยู่ บ้านเรือนของผู้คนที่นี่สร้างด้วยสีสันสดใส ผนังและกำแพงเพ้นท์ด้วยลวดลายกราฟิตี้ละลานตา เป็นเอกลักษณ์และเสน่ห์ของชุมชนแห่งนี้ที่ดึงดูดให้ผู้คนจากที่อื่นๆ อยากมาเยี่ยมชม
ประวัติ
ชุมชนคริสเตียเนียเป็นเมืองอิสระปกครองตนเองไม่ขึ้นต่อรัฐ ตั้งอยู่ในพื้นที่ค่ายทหารเก่าขนาดประมาณ 240 ไร่ มีประชากรทั้งหมดราว 900 คน ด้านนอกล้อมรอบด้วยตึกเก่า ส่วนภายในมีทั้งสวน ทะเลสาบ ร้านค้า คาเฟ่ และบ้านเรือนที่แปลก แหวกแนว สีสันสะดุดตา ภายในชุมชุนแห่งนี้เต็มไปด้วยภาพวาดบนกำแพงหลากสีสันซึ่งแต่ละภาพล้วนมีความหมาย บ้านเรือนสีสันสดใสแต่ละหลังก็ล้วนแต่หน้าตาไม่ซ้ำกัน อาคารบ้านเรือนหลายร้อยหลังในชุมชนนี้บางหลังก็มีอายุเป็นร้อยปีและเคยถูกใช้เป็นค่ายทหารในมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 และยุติการใช้งานลงภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อาคารที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว เช่น Fredens Ark (Ark of Peace) ซึ่งเป็นตึกที่ใหญ่สุดในชุมชนคริสเตียเนีย และยังถือเป็นบ้านครึ่งไม้ครึ่งปูนหลังใหญ่ที่สุดของยุโรปเหนือด้วย
ที่ชุมชนคริสเตียเนียมีกิจกรรมหลายอย่างจากผู้คนที่อยู่อาศัยในชุมชน ผู้ที่ชื่นชอบดนตรีสามารถไปที่ Den Gra Hal หรือ The Grey Hall โดยที่ฮอลล์นี้นอกจากจะมีดนตรีแสดงแล้ว บางครั้งก็มีการจัดแสดงละครเวทีด้วย ภาพที่เราจะสามารถพบเห็นได้บ่อยๆ ที่ชุมชนคริสเตียเนียคือชาวคริสเตียเนียกำลังเล่นโยคะหรือออกกำลังที่ได้บริหารทั้งกายและจิตใจ บ้านเรือนหลายๆ หลังที่เห็นว่าสวยงามส่วนใหญ่ก็เป็นฝีมือของชาวคริสเตียเนียที่สร้างขึ้นมาเองไม่ใช่สถาปนิกชั้นยอดแต่อย่างใด รวมถึงหาดทรายริมน้ำที่ชาวคริสเตียเนียก็ทำขึ้นมาเอง นอกจากนี้ภายในชุมชนแห่งนี้ยังทีทั้งคาเฟ่ ลานเบียร์ ที่จัดคอนเสิร์ต ร้านอาหารที่ตกแต่งไม่ซ้ำแบบใคร รวมถึงร้านอาหารมังสวิรัติซึ่งเป็นที่นิยมของคนในชุมชนนี้ด้วย
นอกจากลักษณะของบ้านเรือนที่เต็มไปด้วยสีสันซึ่งเป็นเสน่ห์ของคริสเตียเนียแล้ว ไฮไลต์อีกอย่างหนึ่งของชุมชนคริสเตียเนียที่ทำให้คริสเตียเนียได้ชื่อว่า “Freetown” หรือดินแดนเสรีชนก็คือกัญชาไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมาย ก็คงจะเป็นสิ่งอื่นไปไม่ได้นอกจาก Pusher Street ถนนหลักของคริสเตียเนียที่นักท่องเที่ยวจะมีโอกาสได้เห็นผู้คนสูบกัญชา ควันลอยฟุ้งไปมา เพราะชุมชุนแห่งนี้สามารถซื้อขายกัญชากันได้อย่างอิสระ แต่มีกฎสำคัญคือถนน Pusher ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป ซึ่งแม้ว่าที่นี่จะสามารถซื้อขายกัญชาได้ แต่ชุมชนคริสเตียเนียก็มีกฎสำคัญที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามคือห้ามขโมยห้ามใช้กำลัง ห้ามใช้ปืน มีด ห้ามสวมเสื้อกันกระสุน แจ็คเก็ตกลุ่มมอเตอร์ไซค์ และยาเสพติดชนิดรุนแรง
ชาวคริสเตียเนียมีแนวคิดที่สอดคล้องกับวิถีความเชื่อของชาวอินเดียนแดงที่ว่า ไม่มีใครเป็นเจ้าของที่ดิน น้ำ อากาศ และทรัพยากรต่างๆ ของโลก มนุษย์เป็นเพียงผู้อาศัยชั่วคราวที่สุดท้ายก็จากไป พวกเขาจึงรวมตัวกันด้วยความเชื่อในเสรีภาพและภราดรภาพโดยไม่ขึ้นตรงต่อประเทศเดนมาร์ก
เอกลักษณ์ที่โดดเด่นอย่างหนึ่งของชุมชนคริสเตียเนียก็คือบ้านเรือนสีสันสดใส ผนังและกำแพงเพ้นท์ด้วยลวดลายกราฟิตี้ละลานตา
ประติมากรรมที่ทำจากไม้
ชุนชนคริสเตียเนียตั้งอยู่ในพื้นที่ค่ายทหารเก่าขนาดประมาณ 240 ไร่ ซึ่งได้ยุติการใช้งานลงภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
ประชากรที่อาศัยอยู่ในชุมชนแห่งนี้มีทั้งหมดราว 900 คน
ร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก
บรรยากาศบางส่วนภายในชุมชนคริสเตียเนีย
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ชุมชนคริสเตียเนียได้ชื่อว่า “Freetown” หรือดินแดนเสรีชนก็คือ กัญชาไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมาย
ชุมชนคริสเตียเนียไม่อนุญาตให้นำยานพาหนะเครื่องยนต์เข้าไปในชุมชน
การเดินทางจากสนามบินสู่ตัวเมือง
สนามบินโคเปนเฮเกน (Copenhagen Airport) หรือชื่อทางการคือท่าอากาศยานนานาชาติโคเปนเฮเกน (Copenhagen Kastrup International Airport) ซึ่งมีชื่อเรียกภาษาเดนมาร์กคือ “Københavns Lufthavn” ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองโคเปนเฮเกนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 13 กิโลเมตร จากสนามบินนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าเมืองไปยังสถานีรถไฟหลักคือสถานี Copenhagen Central Station ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางของเมืองโคเปนเฮเกนได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้
- รถยนต์ (Car) การเดินทางโดยรถยนต์จาก Copenhagen Airport ไปยัง Copenhagen Central Station ซึ่งเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของเมืองโคเปนเฮเกน โดยใช้เส้นทางสาย E20 มีระยะทาง 13 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
- รถประจำทาง (Bus) จาก Copenhagen Airport สามารถนั่งรถประจำทางสาย 5A เพื่อไปยัง Copenhagen Central Station ได้โดยจะใช้เวลาประมาณ 20 นาที รถออกทุก 10 นาที นักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วโดยสารได้ที่ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติบริเวณ Terminal 3 หรือสามารถซื้อตั๋วโดยสารจากพนักงานขับรถ
- รถไฟ (Train) จาก Copenhagen Airport ไปยัง Copenhagen Central Station สามารถนั่งรถไฟ โดยสถานีรถไฟสนามบินตั้งอยู่บริเวณ Terminal 3 หากลงเครื่องที่ Terminal 1 สามารถนั่งรถรับส่งมาที่ Terminal 3 ได้ โดยรถไฟจะออกทุก 10 นาที แต่ช่วงเวลากลางคืนจะออกชั่วโมละละ 1-3 ขบวน โดยจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 13 นาที นักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วโดยสารได้ที่เคาน์เตอร์ DSB (การรถไฟเดนมาร์ก) หรือตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ
- แท็กซี่ (Taxi) นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถแท็กซี่ได้ที่ Terminal 1 และ Terminal 3 จาก Copenhagen Airport ไปยัง Copenhagen Central Station โดยจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ราคาค่าโดยสารตามมิเตอร์ประมาณ 250-200 โครนเดนมาร์ก
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถซื้อ Copenhagen Card ได้ที่เคาน์เตอร์ DSB (การถไฟเดนมาร์ก) บริเวณ Terminal 3 โดยสามารถใช้บัตรนี้ได้กับรถโดยสารทุกประเภท (ยกเว้นรถแท็กซี่) และสามารถใช้เข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้ฟรี หรือใช้เป็นส่วนลดกับร้านอาหาร การเช่ารถ และสิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย
การเดินทางไป Free Town Christiania
- รถยนต์ (Car) การเดินทางโดยรถยนต์จากสถานี Copenhagen Central Station ไปยัง Free Town Christiania โดยใช้เส้นทางสาย Tietgensgade มีระยะทาง 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 นาที
- รถไฟ (Train) จากสถานี Copenhagen Central Station ไปยัง Free Town Christiania นักท่องเที่ยวสามารถนั่งไฟสาย M3 หรือ M4 ไปลงที่สถานี Christianshavn ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด
เปิด 24 ชั่วโมง
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
กราฟิตี้สีสันสดใสทว่าแต่ละภาพล้วนแฝงไว้ด้วยความหมายที่มีนัยยะ
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว Free Town Christiania
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาที่นี่คือ Pusher Street ถนนหลักของคริสเตียเนีย ที่นักท่องเที่ยวจะมีโอกาสได้เห็นผู้คนสูบและซื้อขายกัญชากันได้อย่างอิสระ
ชาวคริสเตียเนียมีแนวคิดที่สอดคล้องกับวิถีความเชื่อของชาวอินเดียนแดงที่ว่า ไม่มีใครเป็นเจ้าของที่ดิน น้ำ อากาศ และทรัพยากรต่างๆ ของโลก
ลักษณะของอาคารที่เคยเป็นเขตทหารเก่าในอดีต
ลวดลายกราฟิตี้
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยว Free Town Christiania ได้ตลอดทั้งปี
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
มีกฎสำคัญในการเที่ยวชมชุมชนคริสเตียเนียที่นักท่องเที่ยวควรทราบคือไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปที่ถนน Pusher และชุมชนแห่งนี้ไม่อนุญาตให้นำยานพาหนะเครื่องยนต์เข้าไปในชุมชน ใครจะเข้าไปเที่ยวต้องเดินหรือขี่จักรยาน
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม Free Town Christiania สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ชุมชนอิสระคริสเตียเนีย เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
(Free Town Christiania, Copenhagen, Denmark)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด – ปิด : เปิด 24 ชั่วโมง
ตั้งอยู่ที่ : Christiania, Prinsessegade, 1440 Copenhagen, Denmark
โทรศัพท์ : (+45) 3295 6507
เว็บไซต์ : https://www.christiania.org/
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวเมืองโคเปนเฮเกน https://www.visitcopenhagen.com
เว็บไซต์การท่องเที่ยวประเทศเดนมาร์ก www.denmark.dk
เว็บไซต์ขนส่งสาธารณะเมืองโคเปนเฮเกน https://www.visitcopenhagen.com/copenhagen/planning/tickets-prices
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย
หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!
อ่านต่อเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)
สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อิสตันบูล (Istanbul) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นนคร 2 ทวีป ซึ่งมีช่องแคบบอสฟอรัสเป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรปและเอเชียแห่งนี้ คือเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมานับพันๆ ปี จึงไม่น่าแปลกใจหากอิสตันบลูจะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่และงดงามทรงคุณค่ามากมายที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นยุโรปและเอเชียจากอดีตจนถึงปัจจุบัน Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูลที่หากมีโอกาสไปเยือนประเทศตุรกีไม่ควรพลาด
อ่านต่อล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ช่องแคบบอสฟอรัส เป็นช่องแคบเล็กๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของตุรกี เคยเป็นทั้งเส้นทางการค้าที่สำคัญ และยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาจนถึงปัจจุบัน การล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) จึงเป็นวิธีที่ดีที่จะได้สัมผัสบรรยากาศ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมที่หลากหลายของอิสตันบูล
อ่านต่ออุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Sarnici) คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของตุรกี ดินแดนที่เต็มไปด้วยประวัติความเป็นมามากกว่าพันปี อุโมงค์เก่าแก่ขนาดใหญ่แห่งนี้คือสถานที่เก็บน้ำในสมัยโบราณที่ยังคงความยิ่งใหญ่และงดงาม กับเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างเสากรีกที่ค้ำเรียงรายมากถึง 336 ต้น และเสาเมดูซ่าพร้อมตำนานที่เล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคน รวมถึงซากโบราณของพระราชวังใต้ดินแห่งกรุงคอนสแตนติโนเปิลสมัยไบเซนไทน์อีกด้วย
อ่านต่อตลาดเครื่องเทศ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ตลาดเครื่องเทศ (Historical Spice Bazaar / Egyptıan Spıce Bazaar) ในอิสตันบูล เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก ตลาดแห่งนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ในสมัยจักรวรรดิออตโตมัน เดิมทีเป็นจุดแลกเปลี่ยนเครื่องเทศ ผ้าไหม และสินค้าอื่นๆ จากเอเชียมาสู่ยุโรป
อ่านต่อ10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
บูดาเปสต์ (Budapest) เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี ตัวเมืองถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งด้วยแม่น้ำดานูบที่ไหลผ่านกลางเมือง ทำให้ในเมืองเต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกจากสถาปัตยกรรมอันสวยงามเปี่ยมเสน่ห์ที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือน Palanla ได้รวบรวมเอา 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์มาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่อ12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
ปราก (Prague) เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลนี้ ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปยุโรป ในอดีต เมืองปรากเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองอันยิ่งใหญ่ของทวีปยุโรป ซึ่งอารยธรรมแห่งความยิ่งใหญ่ และเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานนั้น ก็ยังคงสะท้อนอยู่ในวิถีชีวิตของชาวเมือง วัฒนธรรมประเพณี สถาปัตยกรรม ฯลฯ ราวกับมรดกที่สืบทอด และรักษากันมาอย่างดี จนถูกยกให้เป็นเมืองที่มีความน่าหลงใหล ควรค่าแก่การไปสัมผัสความเป็นยุโรปมากที่สุด โดยเมืองปรากยังได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย ปัจจุบันเมืองนี้นับเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญ ของบรรดานักท่องเที่ยวที่มาเยือนทวีปยุโรป ไปชม 12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปรากพร้อมๆ กันกับ Palanla!
อ่านต่อถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ (Fashion Street Budapest) เป็นถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงในใจกลางเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ถนนสายนี้เป็นที่รู้จักในด้านร้านค้าแฟชั่นชั้นนำจากแบรนด์ระดับโลก อาทิ Gucci, Louis Vuitton, Dior, Armani, Prada และ Chanel ถนนสายนี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่มากมาย จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองบุดาเปสต์เองด้วย
อ่านต่อล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ (Dinner Cruise Budapest) เป็นวิธียอดเยี่ยมในการชมความสวยงามของเมืองบูดาเปสต์ โดยขณะที่เรือล่องไปตามแม่น้ำดานูบ (Danube River) นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงามของสะพาน พระราชวัง และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ รวมทั้งอิ่มอร่อยกับอาหารรสเลิศและเครื่องดื่มแสนอร่อย
อ่านต่อ