- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- 8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม
8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม

- อ่าน (205)
- By Webmaster
- 12:58:33 | 8 พ.ย. 2566
8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม
Top 8 Travel Destinations in Hue, Vietnam
เว้ (Thua Thien Hue) เป็นหนึ่งในเมืองอันดับต้นๆ ของเวียดนามที่รวบรวมเอาสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเป็นชาติเวียดนามเอาไว้มากมาย ผ่านสถาปัตยกรรมที่สวยงามและมีนัยยะสำคัญทางความหมาย ทั้งจากอดีตและในปัจจุบัน หากต้องการรู้จักเวียดนาม แน่นอนว่าเราจึงไม่อาจปฏิเสธการมาเยี่ยมชมเมืองเว้ไปได้ Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเว้ ประเทศเวียดนามพร้อมๆ กัน
แผนที่แสดงตำแหน่ง 8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม
1. วัดเจดีย์เทียนมู่ (Thien Mu Pagoda)
เจดีย์วัดเทียนมู่ (Thien Mu Pagoda) วัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์การเมืองของเวียดนามในยุคหลัง และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจของเว้ วัดแห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนานิกายเซน จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือเจดีย์เทียนมู่ ซึ่งมีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงเก๋ง 8 เหลี่ยม สูงทั้งหมด 7 ชั้น แต่ละชั้นเชื่อว่าเป็นตัวแทนชาติภพต่างๆ ของพระพุทธเจ้า ที่วัดเจดีย์เทียนมู่ยังมีองค์พระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ในอิริยาบทกำลังหัวเราะ ซึ่งเชื่อกันว่าหากอธิษฐานขอพรจะนำพาโชคลาภมาสู่ผู้ที่แวะเยี่ยมเยียน
ข้อมูลการเดินทาง : เจดีย์วัดเทียนมู่ ตั้งอยู่ในจังหวัดเถื่อเทียน เว้ (Thua Thien Hue) ทางภาคกลางของเวียดนาม ซึ่งนักท่องเที่ยวจากไทยส่วนใหญ่นิยมนั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบิน Da Nang International Airport ในจังหวัดดานัง จากดานัง ไป เจดีย์วัดเทียนมู่ มีระยะทาง 110 กิโลเมตร วิธีที่สะดวกที่สุดในการเดินทาง คือการนั่งรถยนต์ส่วนตัว รถแท็กซี่ หรือซื้อทัวร์
เวลาปิด - เปิด : 08.00 – 18.00 น.
พิกัด GPS : 16°27'11.3"N 107°32'41.4"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัดเจดีย์เทียนมู่ได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=297
2. สุสานจักรพรรดิไคดิงห์ (Tomb of Khai Dinh)
สุสานจักรพรรดิไคดิงห์ (Tomb of Khai Dinh) สร้างอยู่บนเนินเขา เป็นสุสานเดียวที่มีการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมตะวันออกกับสถาปัตยกรรมตะวันตก ด้วยพระองค์ทรงเป็นจักรพรรดิในราชวงศ์เหวียนพระองค์เดียวที่ได้เดินทางไปประเทศฝรั่งเศส สุสานแห่งนี้สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างดี โดยใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 11 ปี จุดเด่นของสุสานแห่งนี้อยู่ที่ความหรูหราโอ่อ่า ด้วยกระเบื้องสีปูพื้น จิตรกรรมภาพมังกรในม่านเมฆขนาดใหญ่วาดโดยใช้ศิลปินที่เขียนภาพด้วยเท้าที่ประดับอยู่บนเพดานกลางห้องโถง ภาพเฟรสโกสีสันสวยงามตกแต่งด้วยการฝังกระจกสีและกระเบื้องนับพันชิ้น รวมถึงรูปปั้นสำริดขนาดเท่าองค์จริงของพระเจ้าไคดิงห์ ซึ่งสร้างที่ฝรั่งเศสในปี พ.ศ. 2465
ข้อมูลการเดินทาง : สุสานจักรพรรดิไคดิงห์ ตั้งอยู่ในจังหวัดเถื่อเทียน เว้ (Thua Thien Hue) ทางภาคกลางของเวียดนาม ซึ่งนักท่องเที่ยวจากไทยส่วนใหญ่นิยมนั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบิน Da Nang International Airport ในจังหวัดดานัง จากดานัง ไป สุสานจักรพรรดิไคดิงห์ มีระยะทาง 98.8 กิโลเมตร วิธีที่สะดวกที่สุดในการเดินทาง คือการนั่งรถยนต์ส่วนตัว รถแท็กซี่ หรือซื้อทัวร์
เวลาปิด - เปิด : 07.00 – 17.30 น.
พิกัด GPS : 16°23'56.6"N 107°35'25.3"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสุสานจักรพรรดิไคดิงห์ได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=298
3. พระราชวังเว้ (Imperial Citadel Hue)
พระราชวังเว้ (Imperial Citadel Hue) ได้รับอิทธิพลมาจากจีนทั้งรูปแบบสถาปัตยกรรม สี สัญลักษณ์ และตัวอักษร เพราะเคยถูกจีนปกครองมาก่อนนานนับพันปี มีพื้นที่กว่า 5.2 ตารางกิโลเมตร และมีกำแพงสร้างล้อมรอบถึง 3 ชั้น โดยป้อมปราการชั้นที่ 2 หรือ ป้อมปราการหลวง (Hoang Thanh) คือ บริเวณที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจไปเที่ยวชม สิ่งก่อสร้างที่สร้างในบริเวณกำแพงชั้นนี้สร้างเลียนแบบพระราชวังต้องห้ามที่ปักกิ่ง ประตูทางเข้าทั้งสี่ทิศตกแต่งอย่างงดงาม และมีหอคอยห้าปักษาวายุภักษ์ หลังคาตกแต่งด้วยกระเบื้องสีสันสดใส เคยถูกใช้เป็นที่ประทับของจักรพรรดิเมื่อเสด็จมาประกอบพิธีกรรมต่างๆ ของราชวงศ์เหงียนในอดีต
ข้อมูลการเดินทาง : พระราชวังเว้ ตั้งอยู่ในจังหวัดเถื่อเทียน เว้ (Thua Thien Hue) ทางภาคกลางของเวียดนาม ซึ่งนักท่องเที่ยวจากไทยส่วนใหญ่นิยมนั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบิน Da Nang International Airport ในจังหวัดดานัง จากดานัง ไป ยังพระราชวังเว้ มีระยะทาง 98 กิโลเมตร วิธีที่สะดวกที่สุดในการเดินทาง คือการนั่งรถยนต์ส่วนตัว รถแท็กซี่ หรือซื้อทัวร์
เวลาปิด - เปิด : 08.00 – 17.00 น.
พิกัด GPS : 16°28'09.3"N 107°34'40.5"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับพระราชวังเว้ได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=296
4. สุสานจักรพรรดิตือดึ๊ก (Tu Duc Tomb)
สุสานจักรพรรดิตือดึ๊ก (Tu Duc Tomb) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1864 ได้ชื่อว่าเป็นสุสานที่สวยที่สุดในบรรดาสุสานราชวงศ์เหงียนทั้งหมด แม้จะเป็นสุสานที่ไม่ยิ่งใหญ่แต่ก็มีความสวยงามลงตัว และยังเป็นสุสานที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมมากที่สุด พระเจ้าตือดึ๊กทรงเป็นที่รู้จักในฐานะจักรพรรดินักปราชญ์ และเป็นจักรพรรดิที่ทรงครองราชย์เป็นเวลานานที่สุดในราชวงศ์ ได้ทรงออกแบบสถานที่แห่งนี้เองเกือบทั้งหมด จุดเด่นของสุสานแห่งนี้ คือ ตำหนัก 2 แห่ง ได้แก่ ตำหนักลูเคียม อาคารไม้เก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบรายล้อมด้วยดอกบัวบานสะพรั่ง และตำหนักซุงเคียม ซึ่งเป็นสถานที่เก็บรักษาเครื่องเรือน แจกัน และหีบเครื่องประดับ
ข้อมูลการเดินทาง :สุสานจักรพรรดิตือดึ๊ก ตั้งอยู่ในจังหวัดเถื่อเทียน เว้ (Thua Thien Hue) ทางภาคกลางของเวียดนาม ซึ่งนักท่องเที่ยวจากไทยส่วนใหญ่นิยมนั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบิน Da Nang International Airport ในจังหวัดดานัง จากดานัง ไปยัง สุสานจักรพรรดิตือดึ๊ก มีระยะทาง 103 กิโลเมตร วิธีที่สะดวกที่สุดในการเดินทาง คือการนั่งรถยนต์ส่วนตัว รถแท็กซี่ หรือซื้อทัวร์
เวลาปิด - เปิด : 07.00 – 17.30 น.
พิกัด GPS : 16°25'59.4"N 107°33'55.3"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสุสานจักรพรรดิตือดึ๊กได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=299
5. สุสานจักรพรรดิมินห์หม่าง (Tomb of Minh Mang)
สุสานจักรพรรดิ์มินห์หม่าง (Tomb of Minh Mang) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1840 เป็นสุสานที่ผสมผสานความงามของธรรมชาติเข้ากับสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่อย่างลงตัว พระเจ้ามินห์หม่างจักรพรรดิองค์ที่ 2 ในราชวงศ์เหงียนทรงเป็นผู้คุมการสร้างนครจักรพรรดิด้วยตนเอง พระองค์เป็นจักรพรรดิของเวียดนามที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงเพราะทรงมีทัศนคติแบบลัทธิขงจื๊อและต่อต้านการเข้าครอบครองของฝรั่งเศส จุดเด่นของสุสานแห่งนี้ คือบริเวณลานกว้างที่มีรูปสลักหินของเหล่าบรรดา ทหาร ขุนนาง ม้าศึก ช้างศึกที่ตั้งเรียงรายอยู่ ซึ่งเป็นผลงานชิ้นยอดของช่างฝีมือนิรนาม นอกจากนั้นยังมีศิลาจารึกและพระตำหนักด้านในที่แวดล้อมไปด้วยบึงน้ำและสวนอันร่มรื่น
ข้อมูลการเดินทาง : สุสานจักรพรรดิมินห์หม่าง ตั้งอยู่ในจังหวัดเถื่อเทียน เว้ (Thua Thien Hue) ทางภาคกลางของเวียดนาม ซึ่งนักท่องเที่ยวจากไทยส่วนใหญ่นิยมนั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบิน Da Nang International Airport ในจังหวัดดานัง จากดานัง ไปยัง สุสานจักรพรรดิมินห์หม่าง มีระยะทาง 98.6 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากเมืองเว้ประมาณ 12 กิโลเมตร วิธีที่สะดวกที่สุดในการเดินทาง คือการนั่งรถยนต์ส่วนตัว รถแท็กซี่ หรือซื้อทัวร์
เวลาปิด - เปิด : 07.00 – 17.30 น.
พิกัด GPS : 16°23'16.4"N 107°34'20.4"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสุสานจักรพรรดิมินห์หม่างได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=295
6. พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และการปฏิวัติของเว้ (Hue Museum of Royal Antiquities)
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และการปฏิวัติของเว้ (Hue Museum of Royal Antiquities) ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตร ที่จัดแสดงหลักของพิพิธภัณฑ์ คือ พระราชวัง Long An โดยในปีค.ศ. 1909 พระราชวังแห่งนี้ได้ถูกปรับปรุงให้เป็นหอสมุด Library of Quoc Tu Giam (National Academy) พระราชวัง Long An มีสถาปัตยกรรมแบบ “trung thiem diep oc” ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบวังที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองเว้ ด้านในและด้านนอกของพระราชวังได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามและประณีต ที่นี่ถูกใช้เป็นที่จัดแสดงของโบราณวัตถุกว่า 10,000 ชิ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน ที่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมความเชื่อ และการปกป้องราชวงศ์เหงียน (ค.ศ. 1802-1945) นอกจากนี้ยังมีของขวัญ เครื่องราชบรรณาการจากต่างประเทศที่ราชวงศ์เหงียน มีสัมพันธไมตรีและทำการค้าด้วย รวมถึงเป็นสถานที่ที่เก็บรักษาโบราณวัตถุในสมัยอาณาจักรจาม (Cham) มากกว่า 80 ชิ้น ซึ่งเป็นโบราณวัตถุที่ค้นพบบริเวณจังหวัด Quang Tri, Thua Thien - Hue และ Quang Nam ในปัจจุบัน
ข้อมูลการเดินทาง : พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และการปฏิวัติของเว้ ตั้งอยู่ในจังหวัดเถื่อเทียน เว้ (Thua Thien Hue) ทางภาคกลางของเวียดนาม ซึ่งนักท่องเที่ยวจากไทยส่วนใหญ่นิยมนั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบิน Da Nang International Airport ในจังหวัดดานัง จากดานัง ไปยัง พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และการปฏิวัติของเว้ มีระยะทาง 95.3 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 2 ชั่วโมง
เวลาปิด - เปิด : ฤดูร้อน 06.30 – 17.30 น. ฤดูหนาว 07.00 – 17.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
พิกัด GPS : 16°28'16.5"N 107°34'55.5"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และการปฏิวัติของเว้ ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/454
7. ตลาดดงบา (Dong Ba Market)
ตลาดดงบา (Dong Ba Market) ตั้งอยู่ในเว้ เป็นตลาดที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองเว้ เป็นตลาดที่มีชีวิตชีวาและคึกคัก ตลาดดงบามีชื่อเสียงในด้านแผงขายอาหารข้างทางแสนอร่อยและผลิตภัณฑ์สดใหม่ ที่ตลาดแห่งนี้นักท่องเที่ยวจะได้พบกับอาหารเวียดนามแท้ๆ เช่น บั๋นเคย (แพนเค้กสไตล์เว้) บุนโบเว้ (ซุปก๋วยเตี๋ยวเนื้อรสเผ็ด) และบั๊นล็อค (เกี๊ยวเวียดนาม) นอกจากของกินอร่อยๆ แล้วตลาดดงบายังเป็นศูนย์กลางของผัก สมุนไพร เครื่องเทศสด ผลไม้เมืองร้อนหลากหลายชนิด รวมถึงงานหัตถกรรมท้องถิ่น เสื้อผ้า และของฝาก นับเป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมในการดื่มด่ำกับวัฒนธรรมท้องถิ่นและสัมผัสบรรยากาศตลาดอันคึกคักของเมืองเว้
ข้อมูลการเดินทาง : ตลาดดงบา ตั้งอยู่ในจังหวัดเถื่อเทียน เว้ (Thua Thien Hue) ทางภาคกลางของเวียดนาม ซึ่งนักท่องเที่ยวจากไทยส่วนใหญ่นิยมนั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบิน Da Nang International Airport ในจังหวัดดานัง จากดานัง ไปยัง ตลาดดงบา มีระยะทาง 94.7 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 2 ชั่วโมง
เวลาปิด - เปิด : เปิดทุกวัน เวลา 05.00 - 22.00 น.
พิกัด GPS : 16°28'21.7"N 107°35'18.2"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ตลาดดงบา ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/2572
8. แม่น้ำหอม (Perfume River)
แม่น้ำหอม (Perfume River) เป็นแม่น้ำชื่อดังที่ไหลผ่านเมืองเว้ในเวียดนาม ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามและความสำคัญทางวัฒนธรรม ที่มาของชื่อ “แม่น้ำหอม” ได้ชื่อมาจากดอกไม้หอมจากสวนผลไม้ต้นน้ำที่ตกลงไปในน้ำ ทำให้มีกลิ่นหอม แม่น้ำหอมมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างมาก เนื่องจากทำหน้าที่เป็นเขตแดนตามธรรมชาติในสมัยศักดินา โดยแบ่งเมืองออกเป็นสองส่วนคือ พื้นที่ป้อมปราการ และพระราชวังหลวงของราชวงศ์เหงียน ปัจจุบันที่นี่ยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม โดยมีกิจกรรมล่องเรือและล่องเรือให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงามของภูมิทัศน์โดยรอบ
ข้อมูลการเดินทาง : แม่น้ำหอม ตั้งอยู่ในจังหวัดเถื่อเทียน เว้ (Thua Thien Hue) ทางภาคกลางของเวียดนาม ซึ่งนักท่องเที่ยวจากไทยส่วนใหญ่นิยมนั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบิน Da Nang International Airport ในจังหวัดดานัง จากดานัง ไปยัง แม่น้ำหอม มีระยะทาง 94.7 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 2 ชั่วโมง
เวลาปิด - เปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 16°28'08.1"N 107°35'19.7"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ แม่น้ำหอม ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/2570
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวจังหวัดเถื่อเทียนเว้ https://www.visithue.vn
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศเวียดนาม https://www.vietnamtourism.com
สกุลเงินที่ใช้ : ดงเวียดนาม (VND)
ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ https://www.xe.com/currencyconverter/
สถานเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย www.vietnamembassy-thailand.org
แอปพลิเคชันแนะนำสำหรับเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ในประเทศเวียดนาม
- Blacklane สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
อัตราค่าบริการแท๊กซี่ (TAXI FARE)
อัตราค่าครองชีพ (DAILY COST)
สภาพอากาศ (WEATHER)
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

9 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในมณฑลกานซู ประเทศจีน
มณฑลกานซูตั้งอยู่ทางภาคเหนือตอนกลางของประเทศจีน พื้นที่แถบนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งซึ่งกระจายตัวอยู่ตามเมืองดังต่างๆ เช่น เมืองตุนหวง และ เมืองจางเย่ อีกทั้งการเดินทางมาเที่ยวที่พื้นที่บริเวณนี้ก็มีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก เพราะมณฑลกานซูมีสนามบินหลันโจวจงฉวนซึ่งเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่สามารถนั่งเครื่องบินจากไทยมาลงได้โดยตรง และยังสามารถต่อเที่ยวบินท้องถิ่นเพื่อไปมาระหว่างเมืองอื่นในจีนได้ตามต้องการอีกด้วย
อ่านต่อ
วัดลาบรัง วัดทิเบตโบราณ มณฑลกานซู ประเทศจีน
วัดลาบรัง (Labrang Monastery) เป็นวัดและมหาวิทยาลัยสงฆ์ในพุทธศาสนานิกายทิเบตที่มีความเก่าแก่เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีอาณาบริเวณกว้างใหญ่เทียบเท่าได้กับเมืองขนาดย่อมใจกลางหุบเขา หมู่อารามต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุโบสถ ศาลา หอสวดมนต์ หอพระสูตร อาคารเรียน เจดีย์ และที่พำนักสงฆ์ ล้วนถูกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตกรรมวิหารทิเบตอย่างงดงาม นักท่องเที่ยวสามารถซื้อบริการทัวร์เที่ยวชมภายในวัด หรือจะซื้อตั๋วเข้าชมภายในวัดด้วยตนเองตามอัธยาศัยก็ได้ โดยการเที่ยวชมภายในวัดลาบรังจะยกเว้นบริเวณที่พำนักสงฆ์ และห้ามภ่ายภาพภายในสถานที่สำคัญบางแห่งที่มีป้ายถ่ายภาพ ไฮไลท์ของการเที่ยวชมวัดลาบรังได้แก่บริเวณหอสามชั้นซึ่งสร้างขึ้นแบบทิเบตดั้งเดิม บริเวณห้องโถงฮายากริวาที่มีจิตรกรรมฝาผนังอันวิจิตรงดงาม และบริเวณเจดีย์สีทอง รวมถึงบริเวณจุดชมวิวต่างๆ ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันน่าทึ่งของหมู่อารามทั้งหมดที่โอบล้อมด้วยภูเขา วัดลาบรังได้รับการยกย่องให้เป็น "สถาบันทิเบตศาสตร์แห่งโลก" และถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนมณฑลกานซูเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ
15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
โฮจิมินห์ (Ho Chi Minh) หรือที่รู้จักกันในชื่อไซ่ง่อน เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนานของเวียดนาม ทั้งยังคึกคักและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา Palanla ขอนำเสนอ 15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโฮจิมินห์ที่มัดรวมเข้าด้วยกันแล้วรับรองว่าจะสามารถบอกเล่าเรื่องราวของความเป็น “ไซ่ง่อน” ได้อย่างดีเยี่ยม
อ่านต่อ
10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
จังหวัดหล่าวกายเป็นจังหวัดในพื้นที่ภูเขาทางตะวันตกเฉียงเหนือของเวียดนาม พื้นที่บริเวณนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะในเมืองซาปาอันโด่งดังที่โอบล้อมด้วยภูเขา และมีทิวทัศน์ของท้องนาขั้นบันไดอันงดงามท่ามกลางป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ วันนี้ทาง Palanla จึงได้คัดสรรสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดหล่าวกายมาฝากทุกท่าน โดยมีทั้งจุดชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจไปจนถึงแลนด์มาร์กสำคัญที่ต้องไปเช็คอินให้ได้ โดยรวบรวมสถานที่สำคัญทั้งหมดสิบแห่งไว้ในบทความนี้เพื่อเป็นแนวทางท่องเที่ยวหล่าวกายในช่วงวันหยุดที่กำลังจะมาถึงนี้
อ่านต่อ
หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) เป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากทิวทัศน์ของภูเขาและนาขั้นบันได นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวม้ง เที่ยวชมบ้านเรือนที่สร้างด้วยไม้แบบดั้งเดิม และตื่นตาตื่นใจไปกับทัศนียภาพอันน่าทึ่งของหมู่บ้านที่จะสวยงามแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาล รวมทั้งได้เที่ยวชมตลาดท้องถิ่นที่มีสินค้าแฮนด์เมดสวยๆ และอาหารท้องถิ่นที่น่าลิ้มลอง นอกจากนี้ อีกหนึ่งโซนที่พลาดไม่ได้ภายในหมู่บ้านคือบริเวณน้ำตกกั๊ตกั๊ตที่มีความสวยงามและร่มเย็นเป็นอย่างมาก ซึ่งน้ำจะไหลตลอดทั้งปี และจะไหลแรงที่สุดในช่วงฤดูฝนประมาณเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน
อ่านต่อ
หมู่บ้านเมืองฮัว จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
หมู่บ้านเมืองฮัว (Muong Hoa Village) เป็นหมู่บ้านชาวม้งที่ตั้งอยู่ในหุบเขาเมืองฮัวของเมืองซาปา ไฮไลท์ของที่นี่คือทิวทัศน์ทางธรรมชาติอันสวยงามของนาข้าวขั้นบันไดท่ามกลางภูเขาและป่าไม้ โดยจะมีความสวยงามที่สุดในช่วงเดือนกันยายนซึ่งเป็นช่วงที่รวงข้าวสุกงอมเป็นสีทองอร่ามไปทั้งไหล่เขาท่ามกลางภูเขาที่โอบล้อม และในบางช่วงเวลาจะมีสายหมอกปกคลุม เป็นจุดชมวิวธรรมชาติที่สวยงามและมีบรรยากาศที่เงียบสงบ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีร้านอาหารท้องถิ่นและที่พักแบบโฮมสเตย์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
อ่านต่อ
สะพานแก้วมังกรเมฆ จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
สะพานแก้วมังกรเมฆ (Glass Bridge Rong May) เป็นสะพานกระจกแก้วแห่งแรกของเวียดนามที่สร้างขึ้นบนเทือกเขาฮว่างเลียนเซิน ไฮไลท์ของสะพานกระจกแก้วนี้คือความสูงราวสองพันเมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นจุดชมวิวที่น่าตื่นเต้นจากการได้เดินชมวิวบนสะพานพื้นกระจกใส ท่ามกลางสายหมอกและเมฆที่ลอยอยู่ ซึ่งมองไปจะเห็นวิวอันน่าทึ่งภูเขานับพันลูก ทุ่งนาขั้นบันได และถนนคดเคี้ยวด้านล่าง โดยการเดินทางขึ้นมายังสะพานแก้วมังกรเมฆนี้มีความสะดวกสบายเป็นอย่างมากจากบริการลิฟต์แก้วที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการขึ้นไปถึงสะพานแก้วบนยอดเขา
อ่านต่อ
วัดตรักลัมไดเกียกเซน จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
วัดตรักลัมไดเกียกเซน (Truc Lam Dai Giac Zen Monastery) เป็นวัดพุทธแห่งแรกที่สร้างขึ้นในเมืองซาปา ภายในวัดประกอบด้วยหมู่อารามหลายหลังที่สร้างขึ้นอย่างงดงาม สามารถเดินชมสถาปัตยกรรมของวัดและทิวทัศน์จากด้านบนเนินเขาได้อย่างเพลิดเพลิน รวมทั้งแวะสักการะพระพุทธรูปปางต่างๆ ภายในวัดเพื่อความเป็นสิริมงคลได้อีกด้วย ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางในเส้นทางท่องเที่ยวเมืองซาปาและจังหวัดหล่าวกายที่ไม่ควรพลาด
อ่านต่อ
ภูเขาฮามรอง จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
ภูเขาฮามรอง (Ham Rong Mountain) เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่กลางเมืองซาปา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีทุ่งดอกไม้สีสันสดใสนานาพันธุ์ให้เที่ยวชม และมีจุดชมวิวที่น่าประทับใจอยู่หลายแห่ง โดยจุดชมวิวที่เป็นไฮไลท์คือจุดชมวิวที่สถานีโทรคมนาคมซาปาที่สามารถชมวิวของภูเขาฟานซีปันซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี และจุดชมวิวคลาวด์ยาร์ดที่สามารถเห็นกลุ่มมวลเมฆและสายหมอกล่องลอยอยู่เหนือเมืองซาปา และมองเห็นหุบเขาเมืองฮัว หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต และทุ่งนาขั้นบันได ภูเขาฮามรองจึงเป็นจุดท่องเที่ยวและจุดถ่ายภาพยอดนิยมของเมืองซาปาที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ
ภูเขาฟานซีปัน จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
ภูเขาฟานซีปัน (Fansipan Mountain) เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในเวียดนามและภูมิภาคอินโดจีน บนยอดเขาเป็นจุดชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก เพราะสามารถมองเห็นธรรมชาติได้รอบทิศ และมีทิวทัศน์ที่งดงามเป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาล โดยในฤดูใบไม้ผลิจะปกคลุมไปด้วยหมอกหนา และดอกซากุระกับดอกพลัมจะบานสะพรั่ง ในฤดูร้อนจะเป็นช่วงที่ดอกกุหลาบสีแดงสดบานไปทั่วภูเขา ในฤดูใบไม้ร่วงจะมีเมฆมาก เมื่อมองลงมาจากยอดเขาจะเห็นเมฆหมอกล่องลอยและทิวทัศน์อันน่าหลงใหลของเมืองซาปาเบื้องล่าง และในฤดูหนาวจะมีแม่คะนิ้งและมีหิมะปกคลุมในช่วงที่อุณหภูมิลดลงต่ำกว่า -9 องศาเซลเซียส เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ