- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- มหาวิหารซานตามารียา กลอริโอซา เดอี ฟรารี เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
มหาวิหารซานตามารียา กลอริโอซา เดอี ฟรารี เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
- อ่าน (3,439)
- By Webmaster
- 09:38:56 | 29 เม.ย. 2563
มหาวิหารซานตามารียา กลอริโอซา เดอี ฟรารี เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
Basilica di Santa Maria Gloriosa dei Frari, Venice, Italy
บริเวณด้านหน้ามหาวิหารซานตามารียา กลอริโอซา เดอี ฟรารี
มหาวิหารซานตามารียา กลอริโอซา เดอี ฟรารี (Basilica di Santa Maria Gloriosa dei Frari) มักเรียกสั้นๆ ว่าโบสถ์ฟรารี เป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมโกธิกแบบเรียบง่าย ตั้งอยู่บริเวณใกล้กับจัตุรัสแคมโปเดอีฟรารี (Campo dei Frari) ในพื้นที่ของเขตซานโปโล (San Polo) สถานที่แห่งนี้เป็น
ศาสนสถานเชิงประวัติศาสตร์ที่มีอายุหลายร้อยปี ปัจจุบันเป็นทั้งโบสถ์นิกายโรมันคาทอลิก และสถานที่เก็บรักษาและจัดแสดงผลงานศิลปะสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคริสตศาสนาจำนวนหลายชิ้น โดยเฉพาะงานศิลปะที่เกี่ยวข้องกับพระแม่มารี ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจอีกแห่งหนึ่งในเมืองเวนิส
แผนที่ตั้งมหาวิหารซานตามารียา กลอริโอซา เดอี ฟรารี (Basilica di Santa Maria Gloriosa dei Frari) เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
ประวัติ
มหาวิหารซานตามารียา กลอริโอซา เดอี ฟรารี ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตซานโปโล เป็นโบสถ์ฟรันซิสกัน (Franciscan) นิกายโรมันคาทอลิกที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่พระแม่มารี (The Assumption of Mary) สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1250 ด้วยสถาปัตยกรรมโกธิก (Gothic Architecture) ในรูปแบบเรียบง่าย และเคยถูกไฟไหม้ในปีค.ศ. 1369 จึงทำให้เอกสารและหลักฐานสำคัญบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับมหาวิหารได้รับความเสียหาย รวมถึงข้อมูลสถาปนิกผู้สร้างมหาวิหารแห่งนี้ด้วย
มหาวิหารนี้มีความยาว 102 เมตร กว้าง 32 เมตร สูง 28 เมตร ด้านในตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง และยังเป็นที่เก็บรักษาและจัดแสดงผลงานศิลปะอันล้ำค่ามากมาย เช่น ภาพเขียน รูปสลักหิน รูปสลักไม้ และผลงานประติมากรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคริสตศาสนา
ในส่วนของหอระฆังของมหาวิหารนั้นมีความสูง 70 เมตร ด้านบนเป็นหอชมเมือง สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมโรมันเนส (Romanesque Architecture) โดยนายจาโคโป เซเลกา (Jacopo Celega) และนายปิแอร์ เปาโล (Pier Paolo) สถาปนิกชาวเวนิส เริ่มสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1361 การก่อสร้างใช้เวลาถึง 9 ปี สร้างแล้วเสร็จ ในปี 1369 ในส่วนของยอดหลังคาด้านบนเคยถูกฟ้าผ่าในปีค.ศ. 1490 และได้รับการซ่อมแซมจนมีลักษณะโครงสร้างเหมือนในปัจจุบัน
ปัจจุบันที่นี่นอกจากเป็นมหาวิหารประจำเขตซานโปโล แล้วยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหนึ่งแห่งในเมืองเวนิสอีกด้วย
อาคารของมหาวิหารที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมโกธิก
บริเวณหอระฆังของมหาวิหาร (รูปซ้าย) บริเวณผนังอาคารประดับด้วยรูปปั้น (รูปขวา)
ตัวอาคารก่อด้วยอิฐแบบเรียบง่ายและตกแต่งด้วยรูปสลักเล็กน้อย
ป้ายบอกทางบริเวณผนังอาคาร
บรรยากาศการตกแต่งภายในมหาวิหาร (ขอขอบคุณภาพจาก https://www.basilicadeifrari.it)
ผลงานประติมากรรมเก่าแก่ที่จัดแสดงอยู่ภายใน (ขอขอบคุณภาพจาก https://www.basilicadeifrari.it)
แท่นบูชาเก่าแก่ที่จัดแสดงอยู่ภายในมหาวิหาร (ขอขอบคุณภาพจาก https://www.basilicadeifrari.it)
การเดินทางจากสนามบินเวนิสมาร์โคโปโล (Venice Marco Polo Airport / Aeroporto di Venezia-Marco Polo) ไปยังสถานีรถไฟเวเนเซียซานตาลูเซีย (Stazione di Venezia Santa Lucia)
- รถยนต์ (Car) จาก Venice Marco Polo Airport ไปยัง Stazione di Venezia Santa Lucia มีระยะทางประมาณ 13.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 35 นาที
- รถประจำทาง (Bus) จาก Venice Marco Polo Airport ให้เดินมายังท่ารถ Aeroporto Marco Polo เพื่อขึ้นรถบัสสาย Venezia P. Roma (ออกทุก 20 นาที) มุ่งหน้าไปยังเมือง Venice โดยเมื่อไปถึงเมืองเวนิส รถบัสจะจอดให้ลงบริเวณท่ารถ Venezia Piazzale Roma ATVO ที่จัตุรัสโรมา (Piazzale Roma) จากนั้นเดินต่อไปประมาณ 450 เมตร ก็จะถึงยัง Stazione di Venezia Santa Lucia มีระยะทางโดยรวมประมาณ 13.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 35 นาที
หมายเหตุ : Stazione di Venezia Santa Lucia เป็นสถานีรถไฟหลักของเมืองเวนิสที่มีเส้นทางเดินรถเชื่อมต่อกับเมืองต่างๆ ในประเทศอิตาลี รวมถึงเมืองต่างๆ ในประเทศแถบยุโรป แต่ขนส่งสาธารณะหลักภายในเมืองเวนิส จะใช้การเดินทางทางน้ำโดย “เรือประจำทาง” ที่เรียกว่า “Water-bus” ซึ่งมีท่าเรือครอบคลุมทั่วเมือง โดยท่าเรือบริเวณด้านหน้า Stazione di Venezia Santa Lucia มีจำนวน 4 ท่าแยกตามเส้นทางเดินเรือ ได้แก่ Ferrovia “A”, Ferrovia “B”, Ferrovia “C” และ Ferrovia “D”
การเดินทางจากสถานีรถไฟเวเนเซียซานตาลูเซีย (Stazione di Venezia Santa Lucia) ไปยังมหาวิหารซานตามารียา กลอริโอซา เดอี ฟรารี (Basilica di Santa Maria Gloriosa dei Frari)
- เดิน (Footpath) จาก Stazione di Venezia Santa Lucia สามารถเดินไปยัง Basilica di Santa Maria Gloriosa dei Frari โดยมีระยะทางประมาณ 850 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด
วันจันทร์ - วันเสาร์ เปิดเวลา 9:00 น. - 18:00 น.
วันอาทิตย์ เปิดเวลา 13:00 น. - 18:00 น.
อัตราค่าเข้าชม
ตั๋วผู้ใหญ่ราคา 3 Euro
ตั๋วนักเรียน-นักศึกษา อายุต่ำกว่า 29 ปี ราคา 1.50 Euro
เด็กอายุต่ำกว่า เข้าชมฟรี
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว Basilica di Santa Maria Gloriosa dei Frari สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
มหาวิหารซานตามารียา กลอริโอซา เดอี ฟรารี เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
(Basilica di Santa Maria Gloriosa dei Frari, Venice, Italy)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ตั๋วผู้ใหญ่ราคา 3 Euro
ตั๋วนักเรียน-นักศึกษา อายุต่ำกว่า 29 ปี ราคา 1.50 Euro
เด็กอายุต่ำกว่า เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์ - วันเสาร์ เปิดเวลา 9:00 น. - 18:00 น.
วันอาทิตย์ เปิดเวลา 13:00 น. - 18:00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
โทรศัพท์ : (+39) 041 272 8611
เว็บไซต์ : https://www.basilicadeifrari.it/
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/th/it/italy-weather
เว็บไซต์ทางการของเมืองเวนิส https://www.veneziaunica.it/en
เว็บไซต์ทางการของประเทศอิตาลี http://www.italia.it/en/home.html
เว็บไซต์การท่องเที่ยวของประเทศอิตาลี https://www.italyguides.it/en
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อรวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อ