- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- 7 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองนาโกย่า จังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น
7 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองนาโกย่า จังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น

- อ่าน (2,948)
- By Webmaster
- 05:47:24 | 7 ก.พ. 2566
7 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองนาโกย่า จังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น
Top 7 Travel Destinations in Nagoya, Aichi, Japan
อดีตเมืองที่เคยถูกใช้เป็นฐานที่มั่นสำคัญของบรรดาโชกุนที่เคยปกครองประเทศญี่ปุ่นในสมัยเอโดะ และเป็นจุดบัญชาการการรบสำคัญในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แห่งนี้ ถือเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคชูบุ มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ของประเทศ ปัจจุบันเมืองนาโกย่าเป็นฐานการผลิต และส่งออกอุตสาหกรรมด้านรถยนต์, เครื่องจักร, ยาวอวกาศ, ฯลฯ ที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น และมีท่าเรือสำคัญที่มีมูลค่าการส่งออกสูงที่สุดของประเทศ
ทำให้นาโกย่าเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเต็มไปด้วยความน่าสนใจทั้งด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ธรรมชาติ แหล่งช้อปปิ้ง ที่เชื่อมต่อถึงกันด้วยระบบคมนาคมสาธารณะที่มีคุณภาพ และสะดวกสบาย เหมาะแก่การมาท่องเที่ยวที่สุด
แผนที่ 7 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองนาโกย่า
แผนที่สถานีรถไฟในเมืองนาโกย่า
1. อาคารเจอาร์ เซ็นทรัล (JR Central Building)
อาคารที่สะท้อนถึงคุณภาพของระบบขนส่งสาธารณะหลักของเมืองนาโกย่าได้เป็นอย่างดี เพราะภายในมีสถานีรถไฟที่มีพื้นที่ต่อชั้นมากที่สุดในโลก แต่ละวันมีผู้มาใช้บริการที่สถานีเฉลี่ยมากถึงวันละ 1,140,000 คนต่อวัน ถือเป็นศูนย์กลางการเดินทางไปยังจุดต่างๆ ของเมือง และภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งที่นี่ยังเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทรถไฟญี่ปุ่นตอนกลาง ศูนย์การค้า โรงแรม จุดชมวิว ฯลฯ ส่วนตัวสถาปัตยกรรมของอาคารจะเป็นทรงแฝดที่เชื่อมต่อถึงกันได้สะดวก และนับเป็นอาคารที่สูงที่สุดอันดับ 2 ของเมืองนาโกย่า และสูงที่สุดอันดับ 7 ของประเทศญี่ปุ่น
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : พื้นที่ภายในอาคารเจอาร์ เซ็นทรัล ทาวเวอร์ จะมีเวลาเปิด-ปิดทำการที่แตกต่างกันไปในแต่ละโซน
ข้อมูลการเดินทาง :
- รถยนต์ จากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ ไปยัง อาคารเจอาร์ เซ็นทรัล ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที
- รถบัส จากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ให้เดินไปขึ้นรถบัสที่ด้านหน้าอาคารผู้โดยสารขาเข้า เลือกคันที่ไป Nagoya Station ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงกับอีก 15 นาที ตัวสถานีจะอยู่ในพื้นที่ของอาคารเจอาร์ เซ็นทรัล
- รถไฟ จากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ให้เดินไปขึ้นรถไฟที่บริเวณอาคารผู้โดยสารขาเข้า เพื่อไปลงที่สถานี Nagoya Station ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที ตัวสถานีจะอยู่ในพื้นที่ของอาคารเจอาร์ เซ็นทรัล
พิกัด GPS : 35°10'15.1"N 136°52'58.1"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อาคารเจอาร์ เซ็นทรัล ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=744
2. ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle)
ปราสาทแห่งแรกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติของประเทศญี่ปุ่นนี้ คือสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่า และสะท้อนเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเมืองนาโกย่าได้เป็นอย่างดี ถึงแม้สิ่งก่อสร้างแทบทุกหลังภายในปราสาทจะได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่หลังเสียหายจากกาลเวลายาวนานนับตั้งแต่สมัยอดีต และภัยของสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ตาม แต่ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจของคนในพื้นที่ ทำให้การบูรณะปราสาทนั้น ก็ยังคงเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ยุคสมัยเอโดะ (Edo-Jidai,1610) ได้แบบไม่ผิดเพี้ยน ทั้งตัวปราสาทหลัก ป้อมปราการปราสาทที่กระจายตัวอยู่ตามทิศต่างๆ ของพื้นที่ พระราชวังฮอมมารุ ฯลฯ ท่ามกลางพื้นที่ธรรมชาติสบายตาของต้นไม้ สายน้ำ สวนหิน ยิ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลินักท่องเที่ยวจะสามารถเห็นต้นซากุระออกดอกสีชมพูบานสะพรั่งตัดกับสถาปัตยกรรมอัดงดงามของตัวปราสาท เหมาะแก่การมาเยือนเวลามาที่เมืองนาโกย่าเป็นที่สุด
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ ราคา 500 เยน / เด็กอายุ 15 ปีลงไป เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 09:00 น. – 16:30 น. (ปิดทำการวันที่ 29ธ.ค. – 1ม.ค.ของทุกปี)
ข้อมูลการเดินทาง :
- รถยนต์ จาก Nagoya Station ไปยังปราสาทนาโกย่า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 นาที
- รถบัส จาก Nagoya Station ให้ขึ้นรถเมล์หมายเลข 14 ที่ป้ายจอดรถบัสประจำสถานี Nagoya Station เพื่อไปลงที่ป้าย Shiyakusho Bus Stop แล้วเดินต่อไปอีกเล็กน้อยก็จะถึงปราสาทนาโกย่า
- รถไฟ จาก Nagoya Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Sakuradori Line ไปลงที่สถานี Hisayaodori Station แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Meijo Line เพื่อไปลงที่สถานี Shiyakusho Station แล้วเดินต่อไปอีกเล็กน้อยก็จะถึงปราสาทนาโกย่า
พิกัด GPS : 35°11'08.4"N 136°54'05.0"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ปราสาทนาโกย่า ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=735
3. อาคารโอเอซิส 21 (Oasis 21 Building)
อาคารที่เปิดเป็นพื้นที่สาธารณะซึ่งให้โอกาสเยาวชนได้มาแสดงศักยภาพของตัวเองผ่านลานกิจกรรมที่เตรียมไว้ให้ มีสวนสาธารณะให้มานั่งพักผ่อนกันตามสะดวก และเป็นที่ตั้งของศูนย์การค้า ตลอดจนสถานีขนส่งสาธารณะที่มีเส้นทางรถให้เลือกหลายสาย โดยด้านบนของอาคารจะมีสถาปัตยกรรมร่วมสมัยรูปทรงวงรี ที่ใช้วัสดุหลักเป็นกระจกใส และเสริมความแข็งแรงด้วยโครงเหล็กคุณภาพดีด้านใต้ ซึ่งรู้จักกันในชื่อ ยาวอวกาศน้ำ (Spaceship-Aqua) เพราะโครงสร้างที่คล้ายยาวอวกาศกำลังลอยอยู่เหนืออาคาร ในส่วนของพื้นที่ใช้งานนั้นก็โดดเด่นไม่แพ้กัน เพราะมีลานกระจกสูงจากพื้นดิน 14 เมตร ที่เปิดให้ขึ้นไปเดินเล่นได้ฟรี ส่วนตรงกลางของลานจะมีสระน้ำเรียบใส ที่ช่วยปรับลดอุณหภูมิของพื้นที่โดยรอบอาคารโอเอซิส 21 ทำให้ลดค่าไฟจากการใช้เครื่องปรับอากาศได้ด้วย โดยอาคารแห่งนี้ ถือเป็นแลนด์มาร์กอีกแห่งที่มีผู้มาใช้บริการตลอดทั้งวัน
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิดทำการ : ยาวอวกาศน้ำ (Spaceship-Aqua) เปิดให้ขึ้นไปบนลานกระจกของยานได้เวลา 10:00 น. – 21:00 น. ส่วนพื้นที่อื่นๆ ของอาคารจะมีช่วงเวลาเปิด-ปิดที่แตกต่างกันไปตามความเหมาะสม ตรวจสอบเวลาทำการในส่วนต่างๆ ของอาคารโอเอซิส 21 อย่างละเอียดได้ที่ https://www.sakaepark.co.jp/en/
ข้อมูลการเดินทาง :
- รถยนต์ จาก Nagoya Station ไปศูนย์การค้าโอเอซิส ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที
- รถไฟ จาก Nagoya Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Higashiyama Line ไปลงที่สถานี Sakae Station ตัวสถานีจะอยู่บริเวณเดียวกับศูนย์การค้าโอเอซิส 21
พิกัด GPS : 35°10'15.3"N 136°54'34.9"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อาคารโอเอซิส 21 ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=739
4. พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่า (Nagoya Science Museum)
พิพิธภัณฑ์ที่มีสถาปัตยกรรมลูกโลกสีเงินขนาดใหญ่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปด้วยแห่งนี้ คือแหล่งเรียนรู้ที่รวบรวมเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับวิวัฒนาการด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีของประเทศญี่ปุ่นแบบครอบคลุมทั้งเนื้อหาสาระ และความสนุกสนาน โดยตัวพิพิธภัณฑ์มีความโดดเด่นทั้งด้าน สถาปัตยกรรม สิ่งของที่จัดแสดงอยู่ภายใน สื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ในแขนงต่างๆ มีนิทรรศการที่ออกแบบมาให้ผู้ชมต้องใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ในการเรียนรู้ ช่วยสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ที่ให้ความรู้สึกต่างจากพิพิธภัณฑ์ปกติไปอีกแบบ และเป็นที่ตั้งของท้องฟ้าจำลองที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง บราเธอร์ เอิร์ธ (Brother Earth) ที่มีโปรแกรมการฉายปรากฎการณ์ทางดาราศาสตร์แบบเต็มตา ตลอดจนการปรับสื่อการเรียนรู้ที่ฉายอยู่บนจอสกรีนให้มีความเข้ากับเทศกาลสำคัญของโลกที่กำลังเกิดขึ้น เพื่อสร้างอารมณ์ร่วมให้ผู้ชมรู้สึกอยากเรียนรู้ และสร้างความประทับใจ จนสมราคากับที่ถูกยกให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดของเมืองนาโกย่า
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ ราคา 400 เยน (เพิ่ม 400 เยนหากต้องการเข้าชมท้องฟ้าจำลอง) / นักเรียนชั้นมัธยมปลายและนักศึกษา ราคา 200 เยน (เพิ่ม 300 เยนหากต้องการเข้าชมท้องฟ้าจำลอง) / นักเรียนมัธยมต้นลงไปเข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิดทำการ : เปิดให้เข้าชมเวลา 09:30 น. – 17:00 น.
ข้อมูลการเดินทาง :
- รถยนต์ จาก Nagoya Station ไปยัง พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 นาที
- รถบัส จาก Nagoya Station ให้ขึ้นรถเมล์หมายเลข 16 ที่ป้ายจอดรถบัสประจำสถานี Nagoya Station เพื่อไปลงที่สถานี Hirokoji Fushimi Bus Stop แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 500 เมตรก็จะถึง พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่า
- รถไฟ จาก Nagoya Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Higashiyama Line ไปลงที่สถานี Fushimi Station แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 500 เมตรก็จะถึง พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่า
พิกัด GPS : 35°09'53.6"N 136°53'57.1"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่า ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=743
5. วัดโอสึ คันนง (Osu Kannon Temple)
วัดทางศาสนาพุทธที่สร้างขึ้นมาในช่วงเวลาเดียวกับที่มีการสร้างปราสาทนาโกย่า ตามความต้องการของผู้ปกครองเมืองที่อยากให้มีพื้นที่สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนาประจำเมืองนาโกย่า โดยความน่าสนใจของวัดแห่งนี้คือสถาปัตยกรรมสีแดงสดแซมด้วยสีทองของอาคารต่างๆ ที่อยู่ภายในวัด มีประติมากรรมองค์เทพเก่าแก่ และเป็นที่นับถือของชาวเมืองหลายองค์ และใต้ห้องโถงของวัดจะมีห้องสมุดที่รวบรวมหนังสือโบราณเขียนด้วยลายมือทั้งภาษาญี่ปุ่น และภาษาจีนเกี่ยวกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่น หรือคัมภีร์คำสอนของศาสนาพุทธ ฯลฯ และหากเดินไปด้านหลังของวัดก็จะพบย่านการค้าโอสุ แหล่งช้อปปิ้งชื่อดัง ที่รวมสารพัดสินค้าน่าสนใจ มีร้านค้าท้องถิ่นอันมีเสน่ห์ ทำให้การมาที่วัดแห่งนี้ นอกจากจะได้มาสักการะขอพรแล้ว ยังได้เดินช้อปปิ้ง และหาของอร่อยกินกันได้อีกด้วย
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิดทำการ : เปิดตลอดเวลา
ข้อมูลการเดินทาง :
- รถยนต์ จาก Nagoya Station ไปยังวัดโอสึ คันนอน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที
- รถไฟ จาก Nagoya Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Higashiyama Line ไปลงที่สถานี Fushimi Station แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Tsurumai Line เพื่อไปลงที่สถานี Osukan-Non Station ตัวสถานีจะอยู่บริเวณเดียวกับวัดโอสึ คันนง
พิกัด GPS : 35°09'35.3"N 136°53'58.1"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดโอสึ คังนง ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=737
6. ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู (Atsuta Jingu Shrine)
ศาลเจ้าที่ทรงคุณค่าที่สุดแห่งหนึ่งของศาสนาชินโตนี้ ตั้งอยู่ในเขตที่มีพื้นที่สีเขียวของต้นไม้มากที่สุดจุดหนึ่งของเมืองน่าโกย่า ทำให้มีความสงบ ร่มรื่น และช่วยขับเน้นความเรียบง่ายของตัวศาลเจ้าหลักที่มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมแบบชินเม ซึ่งเป็นต้นตำหรับของสถาปัตยกรรมที่พบเห็นได้ตามศาลเจ้าทั่วไปในประเทศญี่ปุ่น มีโบราณวัตถุสำคัญอย่างเสาโทริอิ รั้วโนบุนากะ ต้นการบูรอายุกว่า 1,000 ปี ฯลฯ และเป็นที่เชื่อกันว่าศาลเจ้าแห่งนี้ คือสถานที่จัดเก็บดาบคุซานางิ (Kusanagi Sward) หนึ่งในสามเครื่องราชกกุธภัณฑ์ระดับตำนานของญี่ปุ่น ซึ่งแม้จะไม่มีการนำออกมาให้นักท่องเที่ยวได้ชม แต่ก็ทดแทนกันด้วยพิพิธภัณฑ์ศาลเจ้าอัตสึตะ ที่จัดแสดงวัตถุโบราณเกี่ยวกับศาสนาชินโตและประวัติศาสตร์ของชาติกว่า 4,000 ชิ้น เรียกว่าเป็นโบราณสถานที่ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชมจริงๆ
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี แต่ส่วนพิพิภัณฑ์ศาลเจ้าอัตสึตะ ต้องเสียค่าเข้าชม คนละ 300 เยน
เวลาเปิด-ปิดทำการ : เปิดตลอดเวลา / พิพิภัณฑ์ศาลเจ้าอัตสึตะ เปิดเวลา 09:00 น. – 16:30 น.
ข้อมูลการเดินทาง :
- รถยนต์ จาก Nagoya Station ไปยัง ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู ใช้เวลาเดินทางประมาณ 17 นาที
- รถไฟ จาก Nagoya Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Tokaido Line เพื่อไปลงที่สถานี Atsuta Station แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 500 เมตรก็จะถึง ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู
พิกัด GPS : 35°07'32.0"N 136°54'32.3"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกูได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=738
7. สวนสนุกเลโก้แลนด์ (Legoland Japan)
ขอบคุณภาพจาก www.legoland.jp
จากของเล่นยอดฮิตตลอดกาลในท้องตลาด เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนมีสวนสนุกที่ออกแบบให้อยู่ในธีมปาร์คจากผลิตภัณฑ์ของตัวเองแบบร้อยเปอร์เซ็น กับตัวต่อพลาสติกหลากสีสันที่สร้างให้เป็นได้ทุกสิ่ง ตามความคิดสร้างสรรค์ผู้เล่น โดยทุกคนรู้จักกันในชื่อเลโก้นั่นเอง ซึ่งสวนสนุกเลโก้แลนด์ ที่ตั้งอยู่ในเมืองนาโกย่านี้ ถือเป็นสวนสนุกแห่งที่ 8 ในบรรดาสวนสนุกที่บริษัทสร้างขึ้นมาตามประเทศต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งสวนสนุกเลโก้แลนด์ ประจำประเทศญี่ปุ่นนี้ มีพื้นที่กว่า 93,000 ตารางเมตร ภายในประกอบไปด้วยโรงแรม เครื่องเล่น, สวนน้ำ, ประติมากรรมที่จำลองแลนด์มาร์กต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่น เช่น โตเกียว ทาวเวอร์, ปราสาทนาโกย่า ฯลฯ ซึ่งใช้เลโก้เป็นวัสดุในการประกอบทั้งหมด มีร้านขายเลโก้ที่มีสินค้าลิมิเต็ดให้เลือกหลายชิ้น ทั้งตัวเลโก้ที่สร้างตามตัวละครในภาพยนตร์ชื่อดัง ตัวเลโก้ที่ไม่มีการผลิตออกมาแล้ว ฯลฯ ทำให้ที่นี่เป็นสวนสนุกที่อบอวลไปด้วยรอยยิ้ม และความสุขของบรรดาผู้เข้าชมที่หนาแน่นไม่แพ้สวนสนุกแห่งอื่นของประเทศเลยทีเดียว
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ (13+) ราคา 6,900 เยน / เด็กอายุ 13 ปี ลงไป 5,300 เยน
เวลาเปิด-ปิดทำการ : เปิดให้เข้าชมเวลา 10:00 น. – 19:00 น.
ข้อมูลการเดินทาง :
- รถยนต์ จาก Nagoya Station ไปยัง สวนสนุกเลโก้แลนด์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 33 นาที
- รถไฟ จาก Nagoya Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Aonami Line เพื่อไปลงที่สถานี Kinjofuto Station แล้วเดินต่อไปอีกเล็กน้อยก็จะถึง สวนสนุกเลโก้แลนด์
พิกัด GPS : 35°03'02.2"N 136°50'37.8"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สวนสนุกเลโก้แลนด์ ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=740
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองนาโกย่า https://www.nagoya-info.jp/th/information/
การเดินทางขนส่งมวลชนญี่ปุ่น http://www.hyperdia.com/
สกุลเงินที่ใช้ : เยน (JPY)
ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ https://www.xe.com/currencyconverter/
สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย http://www.th.emb-japan.go.jp/itprtop_th/index.html
แอปพลิเคชันแนะนำสำหรับเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ในประเทศญี่ปุ่น
- Uber สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
- JapanTaxi สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
อัตราค่าบริการ (TAXI FARE)
อัตราค่าครองชีพ (DAILY COST)
สภาพอากาศ (WEATHER)
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

9 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในมณฑลกานซู ประเทศจีน
มณฑลกานซูตั้งอยู่ทางภาคเหนือตอนกลางของประเทศจีน พื้นที่แถบนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งซึ่งกระจายตัวอยู่ตามเมืองดังต่างๆ เช่น เมืองตุนหวง และ เมืองจางเย่ อีกทั้งการเดินทางมาเที่ยวที่พื้นที่บริเวณนี้ก็มีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก เพราะมณฑลกานซูมีสนามบินหลันโจวจงฉวนซึ่งเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่สามารถนั่งเครื่องบินจากไทยมาลงได้โดยตรง และยังสามารถต่อเที่ยวบินท้องถิ่นเพื่อไปมาระหว่างเมืองอื่นในจีนได้ตามต้องการอีกด้วย
อ่านต่อ
วัดลาบรัง วัดทิเบตโบราณ มณฑลกานซู ประเทศจีน
วัดลาบรัง (Labrang Monastery) เป็นวัดและมหาวิทยาลัยสงฆ์ในพุทธศาสนานิกายทิเบตที่มีความเก่าแก่เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีอาณาบริเวณกว้างใหญ่เทียบเท่าได้กับเมืองขนาดย่อมใจกลางหุบเขา หมู่อารามต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุโบสถ ศาลา หอสวดมนต์ หอพระสูตร อาคารเรียน เจดีย์ และที่พำนักสงฆ์ ล้วนถูกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตกรรมวิหารทิเบตอย่างงดงาม นักท่องเที่ยวสามารถซื้อบริการทัวร์เที่ยวชมภายในวัด หรือจะซื้อตั๋วเข้าชมภายในวัดด้วยตนเองตามอัธยาศัยก็ได้ โดยการเที่ยวชมภายในวัดลาบรังจะยกเว้นบริเวณที่พำนักสงฆ์ และห้ามภ่ายภาพภายในสถานที่สำคัญบางแห่งที่มีป้ายถ่ายภาพ ไฮไลท์ของการเที่ยวชมวัดลาบรังได้แก่บริเวณหอสามชั้นซึ่งสร้างขึ้นแบบทิเบตดั้งเดิม บริเวณห้องโถงฮายากริวาที่มีจิตรกรรมฝาผนังอันวิจิตรงดงาม และบริเวณเจดีย์สีทอง รวมถึงบริเวณจุดชมวิวต่างๆ ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันน่าทึ่งของหมู่อารามทั้งหมดที่โอบล้อมด้วยภูเขา วัดลาบรังได้รับการยกย่องให้เป็น "สถาบันทิเบตศาสตร์แห่งโลก" และถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนมณฑลกานซูเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ
15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
โฮจิมินห์ (Ho Chi Minh) หรือที่รู้จักกันในชื่อไซ่ง่อน เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนานของเวียดนาม ทั้งยังคึกคักและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา Palanla ขอนำเสนอ 15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโฮจิมินห์ที่มัดรวมเข้าด้วยกันแล้วรับรองว่าจะสามารถบอกเล่าเรื่องราวของความเป็น “ไซ่ง่อน” ได้อย่างดีเยี่ยม
อ่านต่อ
8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม
เว้ (Thua Thien Hue) เป็นหนึ่งในเมืองอันดับต้นๆ ของเวียดนามที่รวบรวมเอาสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเป็นชาติเวียดนามเอาไว้มากมาย ผ่านสถาปัตยกรรมที่สวยงามและมีนัยยะสำคัญทางความหมาย ทั้งจากอดีตและในปัจจุบัน หากต้องการรู้จักเวียดนาม แน่นอนว่าเราจึงไม่อาจปฏิเสธการมาเยี่ยมชมเมืองเว้ไปได้ Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเว้ ประเทศเวียดนามพร้อมๆ กัน
อ่านต่อ
10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
จังหวัดหล่าวกายเป็นจังหวัดในพื้นที่ภูเขาทางตะวันตกเฉียงเหนือของเวียดนาม พื้นที่บริเวณนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะในเมืองซาปาอันโด่งดังที่โอบล้อมด้วยภูเขา และมีทิวทัศน์ของท้องนาขั้นบันไดอันงดงามท่ามกลางป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ วันนี้ทาง Palanla จึงได้คัดสรรสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดหล่าวกายมาฝากทุกท่าน โดยมีทั้งจุดชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจไปจนถึงแลนด์มาร์กสำคัญที่ต้องไปเช็คอินให้ได้ โดยรวบรวมสถานที่สำคัญทั้งหมดสิบแห่งไว้ในบทความนี้เพื่อเป็นแนวทางท่องเที่ยวหล่าวกายในช่วงวันหยุดที่กำลังจะมาถึงนี้
อ่านต่อ
หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) เป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากทิวทัศน์ของภูเขาและนาขั้นบันได นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวม้ง เที่ยวชมบ้านเรือนที่สร้างด้วยไม้แบบดั้งเดิม และตื่นตาตื่นใจไปกับทัศนียภาพอันน่าทึ่งของหมู่บ้านที่จะสวยงามแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาล รวมทั้งได้เที่ยวชมตลาดท้องถิ่นที่มีสินค้าแฮนด์เมดสวยๆ และอาหารท้องถิ่นที่น่าลิ้มลอง นอกจากนี้ อีกหนึ่งโซนที่พลาดไม่ได้ภายในหมู่บ้านคือบริเวณน้ำตกกั๊ตกั๊ตที่มีความสวยงามและร่มเย็นเป็นอย่างมาก ซึ่งน้ำจะไหลตลอดทั้งปี และจะไหลแรงที่สุดในช่วงฤดูฝนประมาณเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน
อ่านต่อ
หมู่บ้านเมืองฮัว จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
หมู่บ้านเมืองฮัว (Muong Hoa Village) เป็นหมู่บ้านชาวม้งที่ตั้งอยู่ในหุบเขาเมืองฮัวของเมืองซาปา ไฮไลท์ของที่นี่คือทิวทัศน์ทางธรรมชาติอันสวยงามของนาข้าวขั้นบันไดท่ามกลางภูเขาและป่าไม้ โดยจะมีความสวยงามที่สุดในช่วงเดือนกันยายนซึ่งเป็นช่วงที่รวงข้าวสุกงอมเป็นสีทองอร่ามไปทั้งไหล่เขาท่ามกลางภูเขาที่โอบล้อม และในบางช่วงเวลาจะมีสายหมอกปกคลุม เป็นจุดชมวิวธรรมชาติที่สวยงามและมีบรรยากาศที่เงียบสงบ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีร้านอาหารท้องถิ่นและที่พักแบบโฮมสเตย์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
อ่านต่อ
สะพานแก้วมังกรเมฆ จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
สะพานแก้วมังกรเมฆ (Glass Bridge Rong May) เป็นสะพานกระจกแก้วแห่งแรกของเวียดนามที่สร้างขึ้นบนเทือกเขาฮว่างเลียนเซิน ไฮไลท์ของสะพานกระจกแก้วนี้คือความสูงราวสองพันเมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นจุดชมวิวที่น่าตื่นเต้นจากการได้เดินชมวิวบนสะพานพื้นกระจกใส ท่ามกลางสายหมอกและเมฆที่ลอยอยู่ ซึ่งมองไปจะเห็นวิวอันน่าทึ่งภูเขานับพันลูก ทุ่งนาขั้นบันได และถนนคดเคี้ยวด้านล่าง โดยการเดินทางขึ้นมายังสะพานแก้วมังกรเมฆนี้มีความสะดวกสบายเป็นอย่างมากจากบริการลิฟต์แก้วที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการขึ้นไปถึงสะพานแก้วบนยอดเขา
อ่านต่อ
วัดตรักลัมไดเกียกเซน จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
วัดตรักลัมไดเกียกเซน (Truc Lam Dai Giac Zen Monastery) เป็นวัดพุทธแห่งแรกที่สร้างขึ้นในเมืองซาปา ภายในวัดประกอบด้วยหมู่อารามหลายหลังที่สร้างขึ้นอย่างงดงาม สามารถเดินชมสถาปัตยกรรมของวัดและทิวทัศน์จากด้านบนเนินเขาได้อย่างเพลิดเพลิน รวมทั้งแวะสักการะพระพุทธรูปปางต่างๆ ภายในวัดเพื่อความเป็นสิริมงคลได้อีกด้วย ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางในเส้นทางท่องเที่ยวเมืองซาปาและจังหวัดหล่าวกายที่ไม่ควรพลาด
อ่านต่อ
ภูเขาฮามรอง จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
ภูเขาฮามรอง (Ham Rong Mountain) เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่กลางเมืองซาปา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีทุ่งดอกไม้สีสันสดใสนานาพันธุ์ให้เที่ยวชม และมีจุดชมวิวที่น่าประทับใจอยู่หลายแห่ง โดยจุดชมวิวที่เป็นไฮไลท์คือจุดชมวิวที่สถานีโทรคมนาคมซาปาที่สามารถชมวิวของภูเขาฟานซีปันซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี และจุดชมวิวคลาวด์ยาร์ดที่สามารถเห็นกลุ่มมวลเมฆและสายหมอกล่องลอยอยู่เหนือเมืองซาปา และมองเห็นหุบเขาเมืองฮัว หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต และทุ่งนาขั้นบันได ภูเขาฮามรองจึงเป็นจุดท่องเที่ยวและจุดถ่ายภาพยอดนิยมของเมืองซาปาที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ