เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ โดยคลิก "การตั้งค่าคุกกี้"
เบเบลพลัทซ์ เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
Bebelplatz, Berlin, Germany
จัตุรัสเบเบลพลัทซ์เป็นจัตุรัสอีกแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงของเมืองเบอร์ลิน
จัตุรัสเบเบลพลัทซ์ (Bebelplatz) เป็นจตุรัสสาธารณะที่ล้อมรอบด้วยเหล่าอาคารที่มีสถาปัตยกรรมอันสวยงามและโดดเด่นอย่างเช่น โรงอุปรากรเบอร์ลิน (Berlin State Opera / Deutsche Staatsoper) โบสถ์เซนต์เฮดวิก (St. Hedwig’s Cathedral) นิกายโรมันคาทอลิก โรงแรมโฮเทลเดอโรม (Hotel de Rome) หอสมุดเก่าเบอร์ลิน (Alte Bibliothek) และพระราชวังเก่า (Altes Palais) ด้านหน้าจัตุรัสติดกับถนนอุนเทอร์ เดน ลินเดน (Unter den Linden) ถนนที่มุ่งหน้าสู่ประตูบรันเดินบวร์ค (Brandenburg Gate) นอกจากสถาปัตยกรรมอันสวยงามของอาคารที่ล้อมรอบ ที่นี่ยังเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์เยอรมนีอีกด้วย
แผนที่ตั้ง จัตุรัสเบเบลพลัทซ์ (Bebelplatz) เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
ประวัติ
จัตุรัสแห่งนี้แต่เดิมใช้ชื่อว่า “พลัทซ์ แอม โอเพิร์นฮอส (Platz am Opernhaus)” มีความหมายว่า จัตุรัสแห่งโรงอุปรากร สร้างขึ้นในช่วงปีค.ศ.1741 – ค.ศ. 1743 ในรัชสมัยของพระเจ้าฟรีดริชที่ 2 แห่งปรัสเซีย (King Frederick II of Prussia) ต่อมาในวันที่ 12 สิงหาคม ปีค.ศ. 1901 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ไกเซอร์-ฟรานซ์-โยเซ็ฟ-พลัทซ์ (Kaiser-Franz-Josef-Platz)” เพื่อเป็นเกียรติแก่ จักรพรรดิฟรานซิส โยเซ็ฟที่ 1 แห่งออสเตรีย (Emperor Francis Joseph I of Austria) เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมายุครบ 87 พรรษา
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตัวอาคารที่อยู่รอบๆ จัตุรัสได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการโจมตีทางอากาศ ต่อมาอาคารเหล่านี้ได้รับการบูรณะซ่อมแซมในช่วงปีค.ศ. 1950 และถูกเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น “เบเบลพลัทซ์ (Bebelplatz)” ตามชื่อของ ออกัสท์ เบเบล (August Bebel) ผู้ก่อตั้งพรรคสังคมประชาธิปไตยแห่งประเทศเยอรมนี (SPD: Sozialdemokratische Partei Deutschlands / Social Democratic Party of Germany)
นอกจากนี้ สถานที่แห่งนี้ยังมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ไม่ค่อยสู้ดีนักเกิดขึ้น นั่นคือเหตุการณ์การจัดพิธีเผาหนังสือที่เป็นงานวรรณกรรมสำคัญของโลก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 1933 สมาชิกของสมาพันธ์นักศึกษานาซีเยอรมัน (Nazi German Student Union) ได้นำผลงานวรรณกรรมที่สำคัญระดับโลกออกมาโยนลงกองไฟเพื่อเผาทิ้งกว่าสองหมื่นชิ้น โดยนักประพันธ์ผลงานเหล่านั้นเช่น Heinrich และThomas Mann, Erich Kästner, Stefan Zweig, Heinrich Heine, Karl Marx, Kurt Tucholsky รวมถึงผลงานของ Albert Einstein นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังของโลกอีกด้วย
ปัจจุบันบริเวณพื้นของจัตุรัสนั้นมีการจัดทำอนุสรณ์สถานไว้เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยมีลักษณะเป็นช่องพื้นกระจกที่มองลงไปเห็นชั้นหนังสือขนาดใหญ่อันว่างเปล่าฝังอยู่ด้านล่าง โดยอนุสรณ์สถานนี้เป็นผลงานของ Micha Ullman ประติมากรและศาตราจารย์ด้านศิลปะชาวอิสราเอล นอกจากนี้ยังมีข้อความบนแผ่นจารึกเป็นภาษาเยอรมันว่า "Das war ein Vorspiel nur, dort wo man Bücher verbrennt, verbrennt man am Ende auch Menschen." ("That was only a prelude; where they burn books, they will in the end also burn people") หมายถึง “เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาเผาหนังสือ นั่นเป็นเพียงแค่ฉากโหมโรงเริ่มต้นเท่านั้น เพราะสุดท้ายแล้วพวกเขาก็จะเผาผู้คนไปด้วย” ข้อความนี้มาจากตอนหนึ่งในนวนิยายเรื่อง Almansor ของ Heinrich Heine ที่ประพันธ์ไว้ในปีค.ศ. 1821
ทุกๆ ปีนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฮุมบ็อลท์ (Humboldt University) จะมีการจัดขายหนังสือที่จัตุรัสเบเบลพลัทซ์เพื่อระลึกถึงวันครบรอบเหตุการณ์ประวัติศาสตร์นี้
บริเวณจัตุรัสเบเบลพลัทซ์ ติดถนนอุนเทอร์ เดน ลินเดน อาคารด้านซ้ายคือโรงอุปรากร อาคารตรงหน้าและอาคารที่มีโดมสีเขียวคือส่วนของโบสถ์เซนต์เฮดวิก อาคารทางด้านขวาคือมหาวิทยาลัยฮุมบ็อลท์
โรงอุปรากรเบอร์ลิน (Berlin State Opera / Deutsche Staatsoper)
บรรยากาศโรงอุปรากรเบอร์ลินในยามพลบค่ำ
โบสถ์เซนต์เฮดวิก (St. Hedwig’s Cathedral)
มหาวิทยาลัยฮุมบ็อลท์ (Humboldt University) ด้านในเป็นที่ตั้งของหอสมุดเก่าเบอร์ลิน (Alte Bibliothek)
บริเวณด้านหน้าของหอสมุดเก่าเบอร์ลินจะเห็นช่องสี่เหลี่ยมบนพื้นที่มีแสงไฟ นั่นคืออนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์เผาหนังสือ
อนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์เผาหนังสือ ภายในเป็นชั้นหนังสืออันว่างเปล่า (ขอบคุณภาพจาก www.berlin.de)
การเดินทางจากสนามบินเบอร์ลินเทเกิลไปยังสถานีรถไฟกลางเบอร์ลิน (Berlin Central Station)
- รถยนต์ (Car) จาก Berlin-Tegel Airport (TXL) ไปยัง Berlin Central Station มีระยะทางประมาณ 8.9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที
- รถประจำทาง (Bus) จากอาคารผู้โดยสารขาเข้า ให้เดินต่อไปยังอาคาร Airport Tegel Berlin Bus Station และขึ้นรถบัสสาย TXL ระยะทางประมาณ 8.9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ลงที่สถานี S+U Berlin Hauptbahnhof ก็จะถึง Berlin Central Station (ชื่อสถานีภาษาเยอรมันคือ Berlin Hauptbahnhof อ่านว่า เบอร์ลิน โฮพท์-บาห์น-ฮอฟ)
การเดินทางจากสถานีรถไฟกลางเบอร์ลินไปยังจัตุรัสเบเบลพลัทซ์ (Bebelplatz)
- รถยนต์ (Car) จาก Berlin Central Station ไปยัง Bebelplatz มีระยะทางประมาณ 2.4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 นาที
- รถประจำทาง (Bus) จาก Berlin Central Station ขึ้นรถประจำทางสาย 245 S+U Alexanderplatz ระยะทางประมาณ 2.4 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 7 นาที ไปลงที่ Staatsoper (Berlin) และเดินต่อไปยัง Bebelplatz
- รถไฟ (Train) จาก Berlin Central Station ขึ้นรถไฟสาย S ไปลงสถานี Berlin Friedrichstraße station และเดินต่อไปยัง Bebelplatz อีกประมาณ 700 เมตร ใช้เวลาโดยรวมประมาณ 13 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด
บริเวณลานจัตุรัสเปิดทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว Bebelplatz สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
จัตุรัสเบเบลพลัทซ์ เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
(Bebelplatz, Berlin, Germany)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : บริเวณลานจัตุรัสเปิดทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
โทรศัพท์ : +49 30 25 00 23 33
เว็บไซต์ : https://www.visitberlin.de/en/bebelplatz
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/th/de/germany-weather
เว็บไซต์ทางการของกรุงเบอร์ลิน https://www.berlin.de/en
เว็บไซต์ท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการของกรุงเบอร์ลิน https://www.visitberlin.de/en
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อนอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อนอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อนอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อนอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อ