เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ โดยคลิก "การตั้งค่าคุกกี้"
เสาชัยชนะ เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
Victory Column, Berlin, Germany
เสาชัยชนะ (Victory Column) หันหน้าไปทางทิศตะวันออก
เสาชัยชนะ (Victory Culumn / ชื่อภาษาเยอรมันคือ Siegessäule) เป็นอนุเสาวรีย์ที่มีความสูง 67 เมตร ด้านบนสุดประดับด้วยรูปปั้นเทพีวิกตอเรียสีทอง ซึ่งเป็นเทพีแห่งชัยชนะในตำนานของกรีกโรมันโบราณ ในอดีตสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะในสงครามของปรัสเซีย ปัจจุบันถือเป็นจุดแลนด์มาร์กยอดนิยมอีกแห่งของเมืองเบอร์ลินที่มีจุดชมวิวแบบพาโนรามา เสาชัยชนะตั้งอยู่ใจกลางสวนสาธารณะเทียร์การ์เทน (Tiergarten) บริเวณเกาะกลางของวงเวียน Der Große Stern (The Great Star) ที่มีถนนห้าสายมาบรรจบกัน ที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่นายบารัค โอบามา ได้มากล่าวสุนทรพจน์ในปีค.ศ. 2008 ก่อนที่เขาจะได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
แผนที่ตั้ง เสาชัยชนะ (Victory Column) เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
ประวัติ
เสาชัยชนะ (Victory Culumn) เป็นอนุเสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกและเฉลิมฉลองชัยชนะของปรัสเซียในสงครามชเลสวิกครั้งที่สอง (the Second Schleswig War) ที่สู้รบกับเดนมาร์ก ออกแบบโดย Heinrich Strack โดยก่อนที่อนุเสาวรีย์จะสร้างเสร็จในปีค.ศ. 1873 ปรัสเซียก็ฉลองชัยชนะในสงครามออสโตร - ปรัสเซีย (Austro-Prussian War) ในปีค.ศ.1866 และสงครามฝรั่งเศส - ปรัสเซีย (Franco-Prussian War) ในช่วงปีค.ศ. 1870 ถึง ค.ศ. 1871 เมื่อรบชนะรัฐปรัสเซียจึงรวมเมืองกลายเป็นประเทศเยอรมนีภายใต้การดูแลของราชวงศ์ปรัสเซีย
เสาชัยชนะแต่เดิมนั้นตั้งอยู่ที่จัตุรัส Königsplatz (ปัจจุบันใช้ชื่อ Platz der Republik) หน้าอาคารไรชส์ทาค (Reichstag Building) อาคารรัฐสภาเยอรมนี ในช่วงปีค.ศ. 1938 – ค.ศ. 1939 ภายใต้การนำของฮิตเลอร์ที่วางแผนจะเปลี่ยนกรุงเบอร์ลินให้เป็นเมืองหลวงที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก ได้มีการสั่งย้ายเสาชัยชนะไปทางตะวันตก 1.5 กิโลเมตร ซึ่งก็คือที่ตั้งปัจจุบัน และมีการเพิ่มความสูงขึ้นอีกรวมเป็น 67 เมตร
ในส่วนของรูปปั้นเทพีวิกตอเรียด้านบนสุดนั้นทำจากทองสัมฤทธิ์มีความสูงประมาณ 8 เมตร ออกแบบโดย Friedrich Drake โดยมือข้างนึงถือพวงมาลัยใบไม้จากต้นลอเรล มืออีกข้างถือหอกที่ประดับด้วยกางเขนสีทอง และบนหมวกของเทพีวิกตอเรียประดับด้วยรูปปั้นนกอินทรี โดยเสาชัยชนะนี้ยังมีชื่อเรียกอีกชื่ออย่างไม่เป็นทางการจากคนท้องถิ่นว่า "Golden Elsie" บริเวณข้างใต้รูปปั้นเทพีวิกตอเรีย เป็นที่ตั้งของหอชมเมืองความสูง 51 เมตร ที่ต้องขึ้นบันไดเวียนจากด้านล่างสุดขึ้นไปจำนวน 285 ขั้น
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เสาชัยชนะได้รับความเสียหายบ้างแต่ไม่รุนแรงนัก และได้รับการบูรณะฟื้นฟูและขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 1980
บริเวณฐานของเสาประดับด้วยประติมากกรรมนูนสูง บอกเล่าเรื่องราวของการก่อตั้งจักรวรรดิเยอรมัน
บริเวณชั้นล่างของเสาชัยชนะตกแต่งด้วยภาพเขียนสีน้ำมัน
บันไดเวียนนำทางขึ้นสู่หอชมวิวด้านบน(รูปซ้าย) ทัศนียภาพจากด้านบนหอชมเมืองที่ระดับความสูง 51 เมตร จากบริเวณนี้ สามารถมองเห็น TV Tower ที่อยู่ทางฝั่งตะวันออกได้(รูปขวา)
บริเวณป่าด้านล่างคือพื้นที่ของสวนสาธารณะ Tiergarten ปอดของเบอร์ลิน
จากบริเวณหอชมเมืองถ้าเงยหน้าขึ้นไปก็จะเห็นรูปปั้นเทพีวิกตอเรียสีทองด้านบน
บริเวณวงเวียน Der Große Stern (The Great Star)
การเดินทางจากสนามบินเบอร์ลินเทเกิลไปยังสถานีรถไฟกลางเบอร์ลิน (Berlin Central Station)
- รถยนต์ (Car) จาก Berlin-Tegel Airport (TXL) ไปยัง Berlin Central Station มีระยะทางประมาณ 8.9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที
- รถประจำทาง (Bus) จากอาคารผู้โดยสารขาเข้า ให้เดินต่อไปยังอาคาร Airport Tegel Berlin Bus Station และขึ้นรถบัสสาย TXL ระยะทางประมาณ 8.9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ลงที่สถานี S+U Berlin Hauptbahnhof ก็จะถึง Berlin Central Station (ชื่อสถานีภาษาเยอรมันคือ Berlin Hauptbahnhof อ่านว่า เบอร์ลิน โฮพท์-บาห์น-ฮอฟ)
การเดินทางจากสถานีรถไฟกลางเบอร์ลินไปยังเสาชัยชนะ (Victory Column)
- รถยนต์ (Car) จาก Berlin Central Station ไปยัง Victory Column มีระยะทางประมาณ 2.4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 นาที
- รถประจำทาง (Bus) จาก Berlin Central Station ขึ้นรถประจำทางสาย 245 S+U Zoologischer Garten ไปลงยังป้าย Alt-Moabit/Rathenower Str. (Berlin) และต่อรถประจำทางสาย 187 Lankwitz, Halbauer Weg ไปลงยังป้าย Großer Stern (Berlin) และเดินต่อไปยัง Victory Column ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 นาที
- รถไฟ (Train) จาก Berlin Central Station ขึ้นรถไฟสาย S ไปลงสถานี Bellevue และเดินต่อไปยัง Victory Column ใช้เวลาโดยรวมประมาณ 16 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด
เดือนเมษายน – เดือนตุลาคม เปิดวันจันทร์ – วันศุกร์ 09:30 น. – 18:30 น. / วันเสาร์ – วันอาทิตย์ 09:30 น. – 19:00 น.
เดือนพฤศจิกายน – เดือนมีนาคม เปิดวันจันทร์ – วันศุกร์ 10:00 น. – 17:00 น. / วันเสาร์ – วันอาทิตย์ 10:00 น. – 17:30 น.
ปิดวันที่ 24 ธันวาคม
บริเวณด้านหลังของเสาชัยชนะ ถ่ายจากถนนฝั่งตะวันตก
อัตราค่าเข้าชม
3.00 Euro
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
เสาชัยชนะเมื่อมองมาจากโดมแก้วของรัฐสภาเยอรมัน
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว Victory Column สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
เสาชัยชนะ เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
(Victory Column, Berlin, Germany)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : 3 Euro
เวลาเปิด-ปิด : เดือน เม.ย. – ต.ค. เปิดวันจันทร์ – วันศุกร์ 09:30 น. – 18:30 น. / วันเสาร์ – วันอาทิตย์ 09:30 น. – 19:00 น.
เดือน พ.ย. – มี.ค. เปิดวันจันทร์ – วันศุกร์ 10:00 น. – 17:00 น. / วันเสาร์ – วันอาทิตย์ 10:00 น. – 17:30 น.
ปิดวันที่ 24 ธ.ค.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
โทรศัพท์ : +49 30 3339509
เว็บไซต์ : https://www.visitberlin.de/de/siegessaeule
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/th/de/germany-weather
เว็บไซต์ทางการของกรุงเบอร์ลิน https://www.berlin.de/en
เว็บไซต์ท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการของกรุงเบอร์ลิน https://www.visitberlin.de/en
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อนอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อนอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อนอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อนอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อ