- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเนเธอร์แลนด์ เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเนเธอร์แลนด์ เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
- อ่าน (5,110)
- By Webmaster
- 11:47:59 | 25 พ.ค. 2566
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเนเธอร์แลนด์ เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
Rijksmuseum, Amsterdam, Netherlands
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเนเธอร์แลนด์ (Rijksmuseum) หรือพิพิธภัณฑ์เร็กซ์เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวดินแดนกังหันลมแห่งนี้ เพราะที่นี่คือพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศที่รวบรวมวัตถุโบราณ งานศิลปะเก่าแก่และทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ไว้มากมาย โดยในแต่ละปีนั้นมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้กว่าล้านคน
ประวัติ
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเนเธอร์แลนด์ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 200 ปีแห่งนี้ตั้งอยู่ในกรุงอัมสเตอร์ดัม เมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเนเธอร์เเลนด์ เป็นสถานที่ที่จะสามารถบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของดินแดนกังหันลมได้เป็นอย่างดี เนื่องจากที่นี่คือสถานที่เก็บรักษาวัตถุโบราณ งานศิลปะเก่าเเก่ทรงคุณค่าเอาไว้เป็นจำนวนมาก
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเนเธอร์แลนด์ก่อตั้งในปี ค.ศ.1800 เดิมทีนั้นตั้งอยู่อีกที่หนึ่ง โดยสถานที่ที่เป็นพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบันนี้ย้ายมาเมื่อปี ค.ศ.1885 วัตถุต่างๆ ที่เก็บรักษาและจัดแสดงอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีทั้งผลงานศิลปะของเนเธอร์เเลนด์เองตั้งเเต่ยุคทองของงานศิลปะ เเละคอลเล็คชั่นศิลปะของเอเชีย
สถาปนิกผู้ออกแบบอาคารแห่งนี้คือ Pierre Cuypers โดยสถาปัตยกรรมที่งดงามหรูหราทั้งภายในและภายนอกของอาคารแห่งนี้เป็นการสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมรูปแบบกอธิค (Gothic) และเรเนซองส์ (Renaissance ) เช่นเดียวกับอาคารสาธารณะอื่นๆ ที่สำคัญอีกหลายแห่งของอัมสเตอร์ดัมที่สร้างในช่วงเดียวกัน อาทิ โรงละครแห่งชาติ (Stadsschouwburg) และที่ทำการไปรษณีย์กลางในขณะนั้นซึ่งปัจจุบันคือห้างสรรพสินค้าแม็กนา พลาซ่า (Magna Plaza)
บรรยากาศด้านหน้าอาคารพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเนเธอร์แลนด์
ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเนเธอร์แลนด์มีห้องจัดเเสดงกว่า 200 ห้อง ซึ่งจัดแสดงวัตถุโบราณของเนเธอร์แลนด์กว่า 8,000 ชิ้นและวัตถุจากทั่วทุกมุมโลกอีกนับล้านชิ้น รวมถึงส่วนที่เป็นไฮไลต์สำคัญสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในงานศิลปะโดยเฉพาะคือ ส่วนจัดเเสดงผลงานภาพเขียนของศิลปินดังระดับโลกจำนวนมาก อาทิ
การจัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์นั้นแต่ละชั้นแบ่งออกตามช่วงเวลาต่างๆ โดยแบ่งเป็นทั้งหมด 4 ช่วง ได้แก่
ชั้น 0 เป็นที่บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว จำหน่ายตั๋ว ล็อคเกอร์ ร้านค้า และคาเฟ่ นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่จัดแสดงวัตถุและผลงานศิลปะ ระหว่างปี ค.ศ. 1100 – 1600 มีไฮไลต์คือ
ภาพเขียนสีน้ำมัน โดย Jacob Cornelisz Van Oostsanen ช่างออกแบบไม้แกะและเป็นหนึ่งในจิตรกรที่มีความสำคัญอันดับต้นๆ ของเนเธอร์แลนด์
บริเวณที่ให้บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว
ชั้น 1 จัดแสดงวัตถุและผลงานศิลปะ ระหว่างปี ค.ศ. 1700 - 1800 (ฝั่งปีกซ้าย) และปี ค.ศ. 1800 – 1900 (ฝั่งปีกขวา) มีไฮไลต์คือ
ภาพเขียนสีน้ำมัน Waterloo โดย William Sadler II ที่บรรยายเรื่องราวของการต่อสู้ของวอเตอร์ลูภายใต้คำสั่งของนโปเลียนมหาราช (Napoleon Bonaparte) ที่ทำสงครามกับกองกำลังอังกฤษ กองกำลังปรัสเซียน (Prussian) ภายใต้การนำของ Gebhard Leberecht von Blücher และทหารจากเนเธอร์แลนด์ จังหวัดฮันโนเวอร์ (Hanover) ขุนนางแห่งนัสเซา (Nassau) และอาณานิคมของ Brunswick-Wolfenbüttel
ภาพเขียนสีน้ำมัน Javanese Court Officials โดยศิลปินนิรนาม ที่ได้รับการสันนิษฐานว่าศิลปินผู้วาดนั้นน่าจะไม่ใช่ชาวตะวันตก โดยภาพเขียนนี้เป็นภาพบุคคลสมมุติในเครื่องแต่งกายแบบชวาหรืออินโดนีเชีย
นอกจากนี้ ที่ชั้นนี้ยังเป็นที่จัดแสดงภาพเขียนรูปใบหน้าตัวเอง Self-Portrait โดย Vincent Van Gogh จิตรกรเอกชาวดัตช์ผู้บุกเบิกงานศิลปะแนวใหม่แห่งยุคศตวรรษที่ 19 อยู่ด้วย
ชั้น 2 จัดแสดงวัตถุและผลงานศิลปะ ระหว่างปี ค.ศ. 1600 – 1650 (ฝั่งปีกซ้าย) และปี ค.ศ. 1650 – 1700 (ฝั่งปีกขวา) โดยมีไฮไลต์คือ
ภาพเขียนสีน้ำมัน Night Watch โดย Rembrandt van Rijn เป็นภาพเขียนสีน้ำมันขนาดใหญ่ที่ได้รับพื้นที่ห้องส่วนตัวโดยเฉพาะ ซึ่งความน่าสนใจของภาพเขียนที่มีอายุร่วม 400 ปีชิ้นนี้คือ ความสามารถของศิลปินเอกชาวดัตช์อย่าง Rembrandt ที่สามารถนำเสนอภาพ portrait ของกลุ่มทหารพร้อมด้วยแสงเงาได้อย่างยอดเยี่ยม
เรือจำลองของ William Rex, Adriaen de Vriend, Adriaen Davidsen และ Cornelis Moerman แบบจำลองนี้แสดงลักษณะของเรือรบดัตช์ในช่วงปลายศตวรรษที่ 17 โดยแบบจำลองนี้ถูกสร้างขึ้นที่อู่ต่อเรือของ Vlissingen (Flushing) ซึ่งเป็นสถานที่ในการสร้างเรือรบจริงเช่นกัน
บ้านตุ๊กตา Doll’s House ภายใน Rijksmuseum มีบ้านตุ๊กตาสามหลังที่ให้มุมมองที่ละเอียดเกี่ยวกับวิธีการตกแต่งบ้านของคนร่ำรวยในอดีต โดยบุคคลมั่งคั่งที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของอัมสเตอร์ดัมในศตวรรษที่ 17 คือ Petronella Oortman บ้านตุ๊กตาไม่ใช่ของเล่น แต่เป็นงานอดิเรกของผู้ชายเทียบเท่ากับตู้เก็บของผู้หญิงก็ว่าได้
เครื่องเคลือบดินเผา Delftware ซึ่งเป็นสิ่งเชิดหน้าชูตาที่บ่งบอกถึงฐานะของผู้ใช้และได้รับความนิยมอย่างมากในยุคทอง ด้วยเอกลักษณ์คือสีน้ำเงินและลวดลายที่ประณีตสวยงามซึ่งยังคงเป็นที่นิยมโดยสากลมาจนกระทั่งทุกวันนี้
นอกจากนี้ ที่ชั้น 2 ยังเป็นที่จัดแสดงภาพเขียนอันโด่งดัง The Milkmaid โดย Johannes Vermeer ซึ่งเป็นภาพแม่บ้านชาวดัตช์ที่กำลังรินนมลงในโถอย่างนุ่มนวลอีกด้วย
ภาพเขียนสีน้ำมัน Night Watch โดย Rembrandt van Rijn
นักท่องเที่ยวให้ความสนใจชมภาพเขียนสีน้ำมัน Night Watch ซึ่งเป็นไฮไลต์สำคัญของชั้น 2
ชั้น 3 จัดแสดงวัตถุและผลงานศิลปะ ระหว่างปี ค.ศ. 1900 – 1950 (ฝั่งปีกขวา) และปี ค.ศ. 1950 – 2000 (ฝั่งปีกซ้าย) โดยวัตถุที่จัดแสดงในส่วนนี้จะเป็นผลงานร่วมสมัย ชิ้นงานที่จัดแสดงที่ฝั่งปีกขวาที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว อาทิ เก้าอีสีขาว โดย Gerrit Rietveld และเครื่องบิน Aircraft ส่วนที่จัดแสดงอยู่ฝั่งปีกซ้าย อาทิ เครื่องแต่งกายจาก Yves Saint Laurent, ผลงานศิลปะโดย Karel Appel และประติมากรรม Constant
นอกจากที่กล่าวไปแล้ว ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเนเธอร์แลนด์แห่งนี้ยังมีผลงานที่น่าสนใจอื่นๆ อีกจำนวนมากที่ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชม ท่ามกลางสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าสนใจมากมายของเนเธอร์แลนด์ ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงหากต้องการรู้จักดินแดนกังหันลมให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
ห้องสมุดภายในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเนเธอร์แลนด์
การเดินทางจากสนามบินเข้าเมือง(สถานีรถไฟ Amsterdam Central)
ท่าอากาศยานอัมสเตอร์ดัมสคิปโฮล (Amsterdam Airport Schiphol) หรือเรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินอัมสเตอร์ดัม” เป็นสนามบินที่หนาแน่นเป็นอันดับต้นๆ ในยุโรป และยังติดอันดับ 12 ของสนามบินที่หนาแน่นที่สุดในโลกอีกด้วย
จากท่าอากาศยาน Amsterdam Airport Schiphol ไปสถานี Amsterdam Central ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นศูนย์การของการเดินทางของเมืองอัมสเตอร์ดัม ที่ไม่เพียงแค่เป็นสถานีรถไฟที่ให้บริการรถครอบคลุมทุกเส้นทาง แต่ยังเชื่อมต่อกับการให้บริการรถโดยสารประจำทาง รถราง รถไฟใต้ดิน และเรือข้ามฟากอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากสนามบินมายัง Amsterdam Central Station ได้หลายวิธี ดังนี้
- รถยนต์ (Car) การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวจากสนามบินอัมสเตอร์ดัมไปยังสถานี Amsterdam Central โดยใช้ถนนสาย A4 มีระยะทาง 19 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที
- แท็กซี่ (Taxi) การเดินทางโดยแท็กซี่จากสนามบินอัมสเตอร์ดัมไปยังตัวเมืองบริเวณสถานี Amsterdam Central มีค่าบริการอยู่ระหว่าง 33 - 40 ยูโร ขึ้นอยู่กับสภาพจราจร โดยจุดจอดแท็กซี่นั้นจะอยู่บริเวณด้านนอกทางเข้าหลักของอาคารผู้โดยสารขาเข้า และบริเวณชั้นเดียวกับสถานีรถไฟ
- รถประจำทางสนามบิน (Airport Express Shuttle Bus) จากสนามบินอัมสเตอร์ดัมมีบริการ Airport Express Shuttle Bus ไปยังสถานี Amsterdam Central รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่สำคัญ และโรงแรมที่พักหลายแห่งในเมืองอัมสเตอร์ดัม ค่าโดยสารราคา 6.5 ยูโร โดยมีเที่ยวรถออกจากสนามบินทุกๆ 7.5 นาทีจากบริเวณ platform B15-19 ของสนามบิน ทั้งนี้นักท่องเที่ยวต้องทำการจองตั๋วล่วงหน้า ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://eticket.connexxion.nl/en-US/
- รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากสถานี Amsterdam Airport ไปยังสถานี Amsterdam Central ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ค่าโดยสารรถไฟชั้นสอง (second class) ราคาอยู่ที่ 3.80 ยูโร นักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วได้ที่โต๊ะจำหน่ายตั๋วที่อยู่บริเวณชั้นผู้โดยสารขาเข้า หรือซื้อได้ที่เครื่องจำหน่ายตั๋วสีเหลืองโดยใช้เหรียญยูโร หรือบัตรเครดิต / เดบิต โดยชานชาลารถไฟจะอยู่ชั้นล่างของอาคารผู้โดยสาร รถไฟออกทุก 10 - 15 นาที ระหว่างเวลา 6.00 – 24.30 น.
การเดินทางไป Rijksmuseum
จากสถานีรถไฟ Amsterdam Central ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางหลักด้วยระบบขนส่งสาธารณะในเมืองอัมสเตอร์ดัมไป Rijksmuseum นั้นนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปได้สะดวกที่สุดโดยรถไฟใต้ดินและรถรางเนื่องจากการเดินทางโดยรถยนต์นั้นจะมีเส้นทางที่อ้อมและใช้เวลานาน
- รถไฟ (Train) จากสถานี Amsterdam Central Station ขึ้นไฟใต้ดินสาย 52 Station Zuid ไปลงที่ป้าย Amsterdam, Vijzelgracht ซึ่งอยู่ห่างจาก Rijksmuseum ประมาณ 450 เมตร การเดินทางโดยรถไฟใช้เวลาประมาณ 12 นาที
- รถราง (Tram) จากสถานี Amsterdam Central Station ขึ้นรถรางสาย 2 หรือ 12 Amstelstation ไปลงป้าย Amsterdam, Rijksmuseum ได้เลยใช้เวลาเดินทาง 17 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด
Rijksmuseum เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวัน ระหว่างเวลา 09.00 – 17.00 น.
ข้าวของเครื่องใช้โบราณที่ยังคงความสวยงามและแสดงให้เห็นถึงฝีมืออันประณีตของช่างในสมัยก่อน
ประติมากรรมหินอ่อนแกะสลัก
บรรยากาศบางส่วนภายในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเนเธอร์แลนด์
อัตราค่าเข้าชม
บุคคลอายุไม่เกิน 18 ปีไม่เสียค่าเข้าชม
บุคคลอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปราคา 22.5 ยูโร
บรรยากาศบางส่วนภายในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเนเธอร์แลนด์
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว Rijksmuseum
Rijksmuseum เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เต็มไปด้วยวัตถุโบราณทรงคุณค่า ผลงานศิลปะ และเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับประเทศเนเธอร์แลนด์ที่น่าสนใจซึ่งจัดแสดงอยู่ในห้องต่างๆ กว่า 200 ห้องซึ่งนักท่องเที่ยวอาจจะไม่สารถเดินชมได้ทั่วถึง อย่างไรก็ตามสิ่งที่เป็นไฮไลต์สำคัญที่ไม่ควรพลาดชมคือ ส่วนจัดเเสดงผลงานภาพเขียนของศิลปินดังระดับโลก อาทิ Rembrandt van Rijn, Johannes Vermeer, Vincent Van Gogh และ Jan Asselijn
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยว Rijksmuseum ได้ตลอดทั้งปี
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
การเข้าชม Rijksmuseum นั้นนักท่องเที่ยวควรซื้อตั๋วออนไลน์ล่วงหน้า เนื่องจากปริมาณของนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าชมพิพิธภัณฑ์นั้นมีเป็นจำนวนมากตลอดทั้งปีและความต้องการมักจะเกินจำนวนตั๋วที่มี ดังนั้นการซื้อตั๋วออนไลน์ล่วงหน้าที่ระบุวันเวลาเข้าเยี่ยมชมจึงเป็นสิ่งจำเป็น เมื่อจองแล้วนักท่องเที่ยวจะสามารถใช้ตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์ได้เฉพาะในวันและเวลาที่ระบุเท่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.rijksmuseum.nl/en/tickets/articles
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว Rijksmuseum สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเนเธอร์แลนด์ เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
(Rijksmuseum, Amsterdam, Netherlands)
ระดับความนิยม :
เวลาเปิด – ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน ระหว่างเวลา 09.00 – 17.00 น.
อัตราค่าเข้าชม : บุคคลอายุไม่เกิน 18 ปีไม่เสียค่าเข้าชม อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปเสียค่าเข้าชม 22.5 ยูโร
ตั้งอยู่ที่ : Museumstraat 1, XX, Amsterdam
โทรศัพท์ : (+31) 20 674 7000
เว็บไซต์ : https://www.rijksmuseum.nl/en
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
การท่องเที่ยวเนเธอร์แลนด์ http://www.netherlands-tourism.com/
บริษัทรถไฟแห่งชาติเนเธอร์แลนด์ https://www.ns.nl/en
สนามบินอัมสเตอร์ดัม http://www.amsterdamairport.info/transportation.html
การรถไฟยุโรป https://www.eurail.com
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อรวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อ