- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- กู่เป๋ยโข่ว กำแพงเมืองจีนเก่าแก่แห่งปักกิ่ง ประเทศจีน
กู่เป๋ยโข่ว กำแพงเมืองจีนเก่าแก่แห่งปักกิ่ง ประเทศจีน
- อ่าน (3,980)
- By Webmaster
- 18:32:30 | 19 มี.ค. 2561
กู่เป๋ยโข่ว กำแพงเมืองจีนเก่าแก่แห่งปักกิ่ง ประเทศจีน
古北口古长城 , Gubeikou The Wild Great Wall, Beijing, China
กำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว (古北口古长城 / Gubeikou The Wild Great Wall) เป็นหนึ่งในกำแพงเมืองจีนโบราณเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ใกล้กับนครปักกิ่ง ประเทศจีน
โดยกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว เป็นกำแพงเมืองจีนที่แตกต่างจากกำแพงเมืองจีนอื่นๆ เนื่องจากเป็นกำแพงเมืองจีนที่ ถูกสร้างขึ้นใน 2 สมัย ซึ่งห่างกันร่วม 800 ปี และหลังจากนั้นก็ไม่ได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมใดๆอีก ทำให้กู่เป๋ยโข่วเป็นกำแพงเมืองจีนเก่าแก่ ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาสูงและธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ ถือเป็นหนึ่งในมนตร์เสน่ห์ของกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วที่ไม่มีที่ใดเหมือน
กำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วท่ามกลางภูเขากับดวงอาทิตย์ที่กำลังจะตกดิน
นอกจากนี้ กำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วยังถือเป็นส่วนหนึ่งของกำแพงเมืองจีน หรือที่รู้จักกันในนามของ “กำแพงหมื่นลี้” สิ่งปลูกสร้างด้วยมือของมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่จนได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์แห่งโลกยุคกลาง และได้รับการแต่งตั้งจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกในปี 1987 อีกด้วย
กำแพงโบราณที่ทอดยาวเหยียด หนึ่งในมรดกโลกสัญลักษณ์แห่งประเทศจีน
ป้อมปราการของกำแพงโบราณที่ยังเหลืออยู่ถึงปัจจุบัน
กำแพงเมืองจีนคืออะไร ใครเป็นคนสร้าง
กำแพงเมืองจีน หรือกำแพงหมื่นลี้ เป็นกำแพงที่ยาวที่สุดในโลก โดยในปี 2012 สำนักงานมรดกวัฒนธรรมแห่งชาติจีน ได้แถลงการณ์ว่า ความยาวรวมทั้งหมดของกำแพงหมื่นลี้ คือ 21,196 กิโลเมตร
โดยกำแพงเมืองจีนทั้งหมด 20,000 กว่ากิโลเมตรนี้ ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจนเสร็จภายในครั้งเดียว จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของกำแพงเมืองจีนสามารถย้อนประวัติการสร้างกลับไปได้ถึงสมัยราชวงศ์โจวและยุคจ้านกั๋ว (770 – 221 BC) ก่อนที่จะปรากฏบันทึกการก่อสร้างอย่างเป็นทางการครั้งแรกในสมัยราชวงศ์ฉิน (221–207 BC) ต่อด้วยสมัยราชวงศ์ฮั่น (206 BC – 220 AD) และสิ้นสุดการก่อสร้างปรับปรุงเป็นครั้งสุดท้ายในสมัยราชวงศ์หมิง (1368–1644 AD)
ทั้งนี้ จุดประสงค์หลักของการก่อสร้างกำแพงเมืองจีนในสมัยโบราณคือ เพื่อป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าทุ่งหญ้าทางตอนเหนือ และเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางเส้นทางการค้าสำคัญของจีนโบราณกับภูมิภาคอื่นๆ
แนวปราการบนภูผาที่ปกป้องและโอบล้อมประเทศจีนมานับพันปี
กู่เป๋ยโข่ว กำแพงเมืองจีนโบราณแห่งเมืองปักกิ่ง
การสร้างกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วนั้น แบ่งออกเป็น 2 ยุคสมัย โดยในสมัยแรกสร้างขึ้นในช่วงของราชวงศ์เหนือใต้ (420 – 581 AD) และสมัยถัดมาสร้างขึ้นในยุคของราชวงศ์หมิง (1368–1644 AD) ซึ่งจากระยะห่างเกือบพันปีนี้เอง ทำให้กำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วแต่ละบริเวณมีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก โดยกำแพงเมืองจีนที่สร้างในสมัยราชวงศ์เหนือใต้นั้นสร้างด้วยดินและทรายเป็นหลักทำให้เหลืออยู่ไม่มาก ผิดกับกำแพงเมืองจีนที่ก่อสร้างในสมัยราชวงศ์หมิงที่ยังหลงเหลือเค้าโครงมาให้เห็นกระทั่งปัจจุบัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://english.visitbeijing.com.cn/a1/a-XCC8FK4DB391A9920AAAD9
ปัจจุบันกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชมเพียงบางส่วนซึ่งเท่านั้น แต่ถึงจะเป็นเพียงบางส่วน เสน่ห์ความงามของกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าที่อื่นแม้แต่น้อย
แนวกำแพงเมืองจีนโบราณกู่เป๋ยโข่วที่ยังเหลือมาถึงปัจจุบัน
การเดินทางไปเมืองปักกิ่ง
กำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว ตั้งอยู่ในเขตเมืองปักกิ่ง (หรือเป่ยจิง /北京 / Beijing) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศจีน นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินทางมายังเมืองปักกิ่งได้หลายเส้นทาง คือ
- เครื่องบิน นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง หรือ Beijing Capital International Airport (PEK) สนามบินขนาดใหญ่และได้ชื่อว่าเป็นประตูอันดับหนึ่งสู่ประเทศจีน ซึ่งหลังจากมาถึงสนามบินแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการชัตเตอร์บัสจากสนามบินเข้าสู่ตัวเมืองได้ โดยสามารถดูรายละเอียดเส้นทาง, ตารางเวลา รวมถึงค่าบริการชัตเตอร์บัสไปจุดหมายต่างๆเพิ่มเติมได้ที่ http://en.bcia.com.cn/traffic/airbus/index.shtml
- รถไฟ ปัจจุบัน ประเทศจีนมีบริการรถไฟเดินทางมาเมืองปักกิ่งจากหลากหลายพื้นที่ ทั้งรถไฟความเร็วสูงจากเมืองใหญ่อื่นๆในประเทศจีน, รถไฟที่มาจากเขตปกครองพิเศษมองโกเลีย หรือรถไฟท้องถิ่นที่มาจากระยะใกล้ ซึ่งทุกสถานีต่างตั้งอยู่ภายในบริเวณเมืองปักกิ่ง ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวหรือที่พักที่สนใจได้อย่างง่ายดาย นักท่องเที่ยวที่สนใจจะเดินทางมาเมืองปักกิ่งด้วยรถไฟ สามารถศึกษาหาข้อมูลรวมถึงจองตั๋วล่วงหน้าได้ที่ https://exservice.12306.cn/excater/index.html (ภาษาจีน) หรือ https://english.ctrip.com/trains/ (ภาษาอังกฤษ)
- รถบัส หรือรถบัสยาวของชาวจีน เป็นหนึ่งในบริการขนส่งสาธารณะที่ได้รับความนิยมในประเทศจีน เนื่องจากเส้นทางและรอบเวลาที่หลากหลาย นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากเมืองใหญ่ต่างๆในประเทศจีน มายังเมืองปักกิ่งได้ โดยไม่ต้องเปลี่ยนรถ โดยนักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบรายละเอียดเส้นทาง , ตารางเวลา รวมถึงอัตราค่าบริการเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bjbus.com/home/index.php
- รถยนต์ / แท็กซี่สาธารณะ เป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่ได้รับความนิยมเนื่องจากความสะดวกสบายและความยืดหยุ่นของเส้นทางและเวลาเดินทาง นักท่องเที่ยวสามารถเรียกใช้บริการต่อรองราคาได้ทั้งจากแท็กซี่สาธารณะในเมือง หรือเรียกใช้บริการจากโรงแรม แหล่งนำเที่ยว โดยสามารถเจรจาต่อรองราคา ตลอดจนการแวะพักระหว่างทาง และสามารถขอใช้บริการรวมกับการพาไปเที่ยวชมสถานที่สำคัญๆในเมืองปักกิ่งได้อีกด้วย
และหลังจากมาถึงเมืองปักกิ่งแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินทางต่อไปยังกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 131 กิโลเมตร และ ไม่มีรถโดยสารประจำทางสายตรงที่เดินทางไปถึง นักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเที่ยวชมจึงต้องเดินทางโดย
- รถโดยสาธารณะ นักท่องเที่ยวสามารถไปขึ้นรถโดยสารสาธารณะ หมายเลข 980快 ได้ที่สถานีตงจื๋อเหมิน (东直门) เลือกลงที่ป้ายสถานีมี่อวิ๋นเส้าเหนียนกง (密云少年宫) และเดินผ่านแยกเลี้ยวขวา (รวมระยะประมาณ 400 เมตร) จะพบป้ายสถานีมี่อวิ๋นเจี้ยวอวี้จวี๋ (密云教育局) ซึ่งเป็นป้ายที่มีรถโดยสารสาธารณะ หมายเลข 密25 ให้นักท่องเที่ยวเลือกขึ้น จากนั้นจึงลงรถที่ ป้ายสถานีกู่เป๋ยโข่ว (古北口) และเดินต่อไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะพบกับยังกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถตรวจดูเส้นทางบนแผนที่ได้โดยกรอกจุดหมายปลายทางที่ https://map.baidu.com/ และสามารถดูรายละเอียดเส้นทางและรอบเวลาในการวิ่งของรถโดยสารหมายเลข 980快 ได้ที่ http://beijing.8684.cn/x_1d513758 และหมายเลข 25 ได้ที่ http://beijing.8684.cn/x_5b169798
- แท็กซี่ เป็นการเดินทางที่ง่าย และสะดวกสบายที่สุด โดยอัตราค่าบริการแท็กซี่ในเมืองปักกิ่งจะเริ่มต้นที่ ประมาณ 13 หยวน และหากนักท่องเที่ยวจ้องการเหมารถไป – กลับระหว่างตัวเมืองปักกิ่งกับกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 350 – 450 หยวน ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถเรียกใช้บริการแท็กซี่ได้ทั้งจากสนามบิน สถานีรถไฟ หรือบริเวณอื่นๆในเมือง โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที
เวลาในการเปิด-ปิดทำการ
นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวชมกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วได้ ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 น. – 17.00 น.
อัตราค่าเข้าชม
บัตรผ่านเข้าชมกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว มีจำหน่ายในราคา 25 หยวน/คน
บัตรเข้าชมกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว
การเที่ยวชมกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว
กำแพงเมืองจีนโบราณที่กู่เป๋ยโข่ว
กำแพงเมืองจีนโบราณกู่เป๋ยโข่ว ถือเป็นหนึ่งในกำแพงเมืองจีนที่มีทิวทัศน์สวยงามน่าชื่นชม ประกอบกับการที่ไม่ได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมด้วยวัตถุดิบและเทคโนโลยีสมัยใหม่ กำแพงเมืองจีนแห่งนี้จึงเป็นกำแพงเมืองจีนที่ตั้งอยู่กลางบรรยากาศของภูเขาสูงที่ต้องเดินและปีนป่ายขึ้นไป เพื่อชื่นชมหนึ่งในกำแพงเมืองจีนไม่กี่แห่ง ที่ยังคงสภาพจากอดีตจริงๆเอาไว้
ทางเดินบางช่วงของกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว
รูปปั้นบริเวณทางเดินที่จำลองขั้นตอนการทำอิฐและขนอิฐเพื่อสร้างกำแพงเมืองจีน
แนวของกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วที่พาดไปมาตามแนวภูเขาสูงชัน
ภาพความงามที่รออยู่ของกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วหลังปีนป่ายขึ้นไป
ป้อมสังเกตการณ์ที่ยังหลงเหลืออยู่ของกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว
ภาพของป้อมโบราณที่อยู่กลางแมกไม้
ทิวทัศน์ที่มองจากป้อมของกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว
เวลาที่เหมาะสมในการไปเที่ยว
นักท่องเที่ยวสามารถแวะไปเที่ยวชมทิวทัศน์ที่สวยงามของกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วได้ทุกวัน และทุกฤดู โดยช่วงเวลาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ เดือนกันยายน – เดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศค่อนข้างเย็นสบาย (อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 12 – 22 องศาเซสเซียส) ทำให้สะดวกต่อการชมกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว และนักท่องเที่ยวควรหาโอกาสชม ช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน ของกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว อันเป็นเวลาที่แสงสุดท้ายของพระอาทิตย์จะส่องแสงลงมาป้อมปราการของกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วและภูเขาโดยรอบ ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาอันสวยงามอันไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
เวลาพระอาทิตย์ตกดินที่จะทำให้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวควรใช้เวลา ไม่ต่ำกว่า 4 – 5 ชั่วโมง ในการชื่นชมทิวทัศน์ตั้งแต่เส้นทางการเดินขึ้นบนภูเขาที่กำแพงเมืองจีนตั้งอยู่ ตลอดจนเก็บภาพความสวยงามจากป้อมปราการที่อยู่บนภูเขาของกำแพงเมืองจีน และสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเที่ยวในฤดูอื่น อาทิ ฤดูใบไม้ผลิ (เดือนเมษายน – เดือนมิถุนายน), ฤดูร้อน (เดือนมิถุนายน – เดือนสิงหาคม) หรือฤดูหนาว (เดือนพฤศจิกายน – เดือนพฤษภาคม) ควรใช้ความระมัดระวังและตรวจสอบสภาพอากาศก่อนล่วงหน้า เนื่องจากอาจมีพายุกรรโชกแรง , อากาศร้อนจัด หรืออากาศหนาวจัดรวมถึงหิมะตกซึ่งเป็นอุปสรรคและอาจเป็นอันตรายต่อการเที่ยวชมกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วได้ โดยสามารถตรวจสอบสภาพอากาศล่วงหน้าได้ที่ www.accuweather.com
ในวันที่อากาศดีจะทำให้เก็บภาพบรรยากาศของกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วได้ชัดเจนขึ้น
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้ในการท่องเที่ยวกำแพงเมืองจีนและเมืองปักกิ่ง
กำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว เป็นกำแพงเมืองจีนที่ ไม่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ในการเที่ยวชมให้ นักท่องเที่ยวที่ต้องการขึ้นไปชมความงดงามของทัศนียภาพ จำเป็นต้อง เดินเท้าขึ้นไปเท่านั้น อีกทั้งหลายช่วงของกำแพงเมืองจีนแห่งนี้ยังเป็นทางเดินที่ค่อนข้างลาดชัน หรือเป็นเส้นทางที่เรียกได้ว่าเหมือนกับการปีนเขา นักท่องเที่ยวจึง ต้องใช้ความระมัดระวัง และควรเตรียมร่างกาย รวมถึงสวมใส่รองเท้ากับเสื้อผ้าที่เหมาะสมสำหรับการปีนเขา
นอกจากนี้ บริเวณกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว ไม่มีร้านจำหน่ายอาหารใดๆ นักท่องเที่ยวควรพกขนมเผื่อรองท้อง และเตรียมน้ำดื่มไว้จิบในระหว่างการเดินทางไปให้เพียงพอด้วย
ทางเดินขึ้นชมกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก
และสำหรับนักท่องเที่ยวที่ ไม่มีพื้นฐานหรือไม่สันทัดภาษาจีน ควรเตรียมหนังสือรวมคำศัพท์, รวมบทสนทนาพื้นฐานในภาษาจีน หรือใช้แอพลิเคชั่นเพื่อการแปลภาษาอาทิ Google Translate ไว้เผื่อด้วย เพราะมีเพียงป้ายสถานที่สำคัญกับโรงแรมใหญ่ๆในเมืองปักกิ่งเท่านั้นที่เป็นภาษาอังกฤษ ส่วนป้ายบางสถานที่ หรือป้ายเมนูอาหารของบางร้าน ยังมีแต่ภาษาจีนอยู่
ในบางสถานที่ ซึ่งยังคงมีแต่ป้ายภาษาจีนเท่านั้น
และข้อควรระวังเพิ่มเติมคือ ประเทศจีนในปัจจุบันมีการ บล็อกการเข้าถึงเว็บไซค์ Google (รวมถึงแอพลิเคชั่นต่างๆ เช่น Google Translate หรือการแปลภาษา), Facebook และ Instagram หากนักท่องเที่ยวต้องการใช้งาน ควร ใช้ซิมโทรศัพท์จากประเทศอื่นพร้อมเปิดระบบบริการโรมมิ่งข้ามประเทศ เพื่อให้สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ดังกล่าวได้
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ใช้ บริการอินเตอร์เน็ตจากประเทศจีน หากต้องการสนทนาผ่านโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่นผ่านอินเตอร์เน็ต สามารถ ใช้โปรแกรม WeChat หรือ Weibo และสามารถ ค้นหาข้อมูล จากเว็บไซต์ Baidu.com แทน Google
กำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วกลางเทือกเขาและต้นไม้ใหญ่
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชมความงามของ กำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
กู่เป๋ยโข่ว กำแพงเมืองจีนเก่าแก่แห่งปักกิ่ง , ประเทศจีน
(古北口古长城 / Gubeikou The Wild Great Wall, Beijing , China)
อัตราค่าเข้าชม : 25 หยวน/คน
เวลาเปิด – ปิด : 08.00 น. – 17.00 น. ของทุกวัน
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : เดือนกันยายน – เดือนตุลาคม
ตั้งอยู่ที่ : เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน
โทร : (86)10-697-71665 เว็บไซต์ : http://s.visitbeijing.com.cn/html/j-101490.shtml
ระดับความนิยม :
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
จองตั๋วรถไฟ(ภาษาจีน) http://www.12306.cn/mormhweb/
จองตั๋วรถไฟ(ภาษาอังกฤษ) https://english.ctrip.com/trains/
บริการข้อมูลท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง http://en.bcia.com.cn/
รถไฟใต้ดินเมืองปักกิ่ง https://www.bjsubway.com/en/
บริการการข้อมูลท่องเที่ยวเมืองปักกิ่ง http://english.visitbeijing.com.cn/
บริการข้อมูลรถโดยสารสาธารณะเมืองปักกิ่ง http://beijing.8684.cn/
ภัตตาคารหูต้า เมืองปักกิ่ง http://www.hudafanguan.com/
แนะนำร้านอาหารในเมืองปักกิ่งจาก Palanla
นอกจากกำแพงเมืองจีนปาต๋าหลิ่งที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของเมืองปักกิ่งแล้ว เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเมืองปักกิ่งที่ขาดไม่ได้ ย่อมเป็นเมนูอาหารรสเลิศตามร้านต่างๆ ซึ่ง 1 ในนั้นคือ ภัตตาคารหูต้า (胡大饭馆 / Huda Restaurant)
ภัตตาคารหูต้าแห่งเมืองปักกิ่ง
ภัตตาคารหูต้าเป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงซึ่งเปิดบริการมายาวนาน มีเมนูขึ้นชื่อที่ไม่ควรพลาดอาทิ กุ้งก้ามแดง (Crayfish) หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า กุ้งล็อบสเตอร์น้ำจืด (Freshwater Lobster) นอกจากนี้ยังมีเมนูปูขนซึ่งราคาไม่สูงนัก ที่รอให้นักท่องเที่ยวมาลิ้มลองรสชาติกันได้ที่ถนนตงจื๋อเหมินเน่ย เขตตงเฉิน ของเมืองปักกิ่ง (東直門內大街 , 東城区 / Dongzhimennei Street, Dongcheng Area)
โต๊ะอาหารที่เต็มแน่นทุกโต๊ะกับเมนูอันน่าทานของภัตตาคารหูต้า
กุ้งก้ามแดง (Crayfish) หรือ กุ้งล็อบสเตอร์น้ำจืด (Freshwater Lobster) 1 ในเมนูยอดฮิตของร้าน
ปูขน อาหารจานเด็ดที่ราคาเพียง 200 หยวนแต่ได้ปูถึง 5 ตัว !
และเนื่องจากภัตตาคารหูต้าเป็นภัตตาคารอาหารชื่อดัง จึงมีลูกค้ามาคอยรับบริการเป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวจึงควรเผื่อเวลาในการรอคิวรับประทานอาหารประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง – 2 ชั่วโมง โดยสามารถเลือกนั่งรอคิวได้ในบริเวณที่ทางร้านจัดให้ (พร้อมบริการ Free wifi) หรือเดินแวะไปรองท้องก่อนเล็กน้อยกับร้านค้าอื่นๆ ซึ่งตั้งเรียงรายตลอดถนนสายนี้ได้
แถวลูกค้าที่มานั่งรอรับประทานอาหารของภัตตาคารใต้ป้ายชื่อตึกฮวาเจียหลิงหยวน
เต๊นท์สำหรับลูกค้าที่มานั่งคอยคิวรับประทานอาหาร
คะแนนของร้านจาก www.palanla.com
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
ช็อคโกแลตฮิลส์ จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์
ช็อคโกแลตฮิลส์ (Chocolate Hills) ตั้งอยู่บนเกาะโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นเนินเขาลูกย่อมๆ ทรงกรวยคว่ำที่มีลักษณะค่อนข้างจะสมมาตร เรียงกันเป็นบริเวณกว้าง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 50 ตารางกิโลเมตร ลูกที่ใหญ่ที่สุดมีความสูงถึง 120 เมตร ความน่าอัศจรรย์อันเกิดจากฝีมือของธรรมชาติที่สวยงามเหล่านี้ คือหนึ่งในจุดท่องเที่ยวสำคัญของเกาะหรือจังหวัดโบฮอล
อ่านต่อ5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเกาะโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์
เกาะโบฮอล (Bohol) มีฐานะเป็นทั้งเกาะและจังหวัด โดยมีเมืองหลวงที่ชื่อว่าตัคบิลารัน (Takbilarun) โบฮอลเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 10 ของฟิลิปปินส์ และเกาะนี้ยังถูกเลือกให้เป็นอุทยานธรณีโลกแห่งแรกของฟิลิปปินส์อีกด้วย เกาะโบฮอลมีความอุดมสมบูรณ์และสภาพภูมิศาสตร์ที่หลากหลาย โดยโซนทางใต้ของเกาะเป็นแหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียงหลายจุด… Palanla จะพาไปชมความสวยงามและน่าอัศจรรย์ทางธรรมชาติของฟิลิปปินส์ที่คุณอาดไม่เคยคาดคิด ผ่าน 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเกาะโบฮอล ดังต่อไปนี้
อ่านต่อหาดอโลนา จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์
หาดอโลนา (Alona Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยงามและมีชื่อเสียงที่สุดของเกาะปังเลา จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าครามใส และบรรยากาศที่คึกคัก ทำให้หาดอโลนาเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวมาโดยตลอด
อ่านต่อล่องเรือแม่น้ำโลบ็อค จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์
ล่องเรือแม่น้ำโลบ็อค (Loboc River Cruise) เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเกาะโบฮอล เพราะแม่น้ำสายนี้ถือเป็นแม่น้ำสายสำคัญของเกาะหรือจังหวัดโบฮอล การล่องเรือไปตามแม่น้ำจะทำให้ได้สัมผัสเสน่ห์ธรรมชาติ และเห็นวิถีชีวิตสองฝั่งของคนบนเกาะนี้
อ่านต่อเกาะเวอร์จิน จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์
เกาะเวอร์จิน (Virgin Island / Pungtud Island) อีกหนึ่งความสวยงามและมีเอกลักษณ์ของโบฮอล ด้วยหาดทรายขาวละเอียด ผืนน้ำบริสุทธิ์ และสันทรายรูปตัว C ที่ทอดยาวไปจนลับตา
อ่านต่อเกาะบาลิคาซัค จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์
เกาะบาลิคาซัค (Balicasag Island) เป็นอีกหนึ่งอัญมณีที่ซ่อนอยู่ของจังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยความโดดเด่นทางธรรมชาติที่งดงาม ทั้งแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ ชายหาดทรายขาวละเอียด และน้ำทะเลสีฟ้าครามใสราวกระจก ทำให้ที่นี่เป็นสวรรค์สำหรับนักดำน้ำตื้นและนักดำน้ำลึก รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบการพักผ่อนริมทะเล
อ่านต่อเกาะนามิ จังหวัดคังวอน ประเทศเกาหลีใต้
เกาะนามิ (Nami Island) เป็นเกาะเล็กๆ ในจังหวัดคังวอน (Gangwon) ไม่ไกลจากกรุงโซล ขึ้นเชื่อเรื่องธรรมชาติที่สวยงามและความโรแมนติก โดยเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรียส์เกาหลีเรื่อง Winter Sonata หรือชื่อไทยว่า “เพลงรักในสายลมหนาว” ที่แฟนซีรียส์จำนวนมากต้องไม่พลาดไปตามรอย
อ่านต่ออุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย เมืองจางเจียเจี้ย ประเทศจีน
อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie National Forest Park) เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของจีน ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมณฑลหูหนาน ประเทศจีน สวรรค์บนดินแห่งนี้เผยให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ด้วยความสวยงามตระการตาของภูเขาหินทรายที่สูงตระหง่านกับป่าไม้เขียวชอุ่ม จางเจียเจี้ยจึงกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพยนตร์เรื่อง Avatar จนได้รับการขนานนามว่า "แพนโดร่าแห่งโลกมนุษย์"
อ่านต่อภูเขาเทียนเหมินซาน เมืองจางเจียเจี้ย ประเทศจีน
ภูเขาเทียนเหมินซาน (Tianmen Shan) เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในจางเจียเจี้ย มณฑลหูหนาน ประเทศจีน ด้วยสถานที่มหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ถูกขนานนามว่า "ประตูสวรรค์" บวกกับความสวยงามของธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ใจระดับ 5 A ที่นี่จึงได้รับยกย่องให้เป็นภูเขาที่สวยที่สุด 1 ใน 4 ของจีน และยังได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ให้เป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 1992 อีกด้วย
อ่านต่อแกรนด์แคนยอนจางเจียเจี้ย เมืองจางเจียเจี้ย ประเทศจีน
แกรนด์แคนยอนจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie Grand Canyon) เป็นที่ตั้งของสะพานกระจกข้ามเขาที่ยาวและสูงที่สุดในโลกกับ สะพานแก้วจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie Glass Floor Bridge) ทางเดินลอยฟ้าเหนือแกรนด์แคนยอนอันตระการตา
อ่านต่อ