กู่เป๋ยโข่ว กำแพงเมืองจีนเก่าแก่แห่งปักกิ่ง ประเทศจีน

  • อ่าน (4,109)
  • By Webmaster
  • 18:32:30 | 19 มี.ค. 2561

กู่เป๋ยโข่ว กำแพงเมืองจีนเก่าแก่แห่งปักกิ่ง ประเทศจีน

古北口古长城 , Gubeikou The Wild Great Wall, Beijing, China

 

             กำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว (古北口古长城 / Gubeikou The Wild Great Wall) เป็นหนึ่งในกำแพงเมืองจีนโบราณเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ใกล้กับนครปักกิ่ง ประเทศจีน

 

           โดยกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว เป็นกำแพงเมืองจีนที่แตกต่างจากกำแพงเมืองจีนอื่นๆ เนื่องจากเป็นกำแพงเมืองจีนที่ ถูกสร้างขึ้นใน 2 สมัย ซึ่งห่างกันร่วม 800 ปี และหลังจากนั้นก็ไม่ได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมใดๆอีก ทำให้กู่เป๋ยโข่วเป็นกำแพงเมืองจีนเก่าแก่ ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาสูงและธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ ถือเป็นหนึ่งในมนตร์เสน่ห์ของกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วที่ไม่มีที่ใดเหมือน


กำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วท่ามกลางภูเขากับดวงอาทิตย์ที่กำลังจะตกดิน

           นอกจากนี้ กำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วยังถือเป็นส่วนหนึ่งของกำแพงเมืองจีน หรือที่รู้จักกันในนามของ “กำแพงหมื่นลี้” สิ่งปลูกสร้างด้วยมือของมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่จนได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์แห่งโลกยุคกลาง และได้รับการแต่งตั้งจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกในปี 1987 อีกด้วย


กำแพงโบราณที่ทอดยาวเหยียด หนึ่งในมรดกโลกสัญลักษณ์แห่งประเทศจีน


ป้อมปราการของกำแพงโบราณที่ยังเหลืออยู่ถึงปัจจุบัน
 


กำแพงเมืองจีนคืออะไร ใครเป็นคนสร้าง

           กำแพงเมืองจีน หรือกำแพงหมื่นลี้ เป็นกำแพงที่ยาวที่สุดในโลก โดยในปี 2012 สำนักงานมรดกวัฒนธรรมแห่งชาติจีน ได้แถลงการณ์ว่า ความยาวรวมทั้งหมดของกำแพงหมื่นลี้ คือ 21,196 กิโลเมตร

           โดยกำแพงเมืองจีนทั้งหมด 20,000 กว่ากิโลเมตรนี้ ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจนเสร็จภายในครั้งเดียว จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของกำแพงเมืองจีนสามารถย้อนประวัติการสร้างกลับไปได้ถึงสมัยราชวงศ์โจวและยุคจ้านกั๋ว (770 – 221 BC) ก่อนที่จะปรากฏบันทึกการก่อสร้างอย่างเป็นทางการครั้งแรกในสมัยราชวงศ์ฉิน (221–207 BC) ต่อด้วยสมัยราชวงศ์ฮั่น (206 BC – 220 AD) และสิ้นสุดการก่อสร้างปรับปรุงเป็นครั้งสุดท้ายในสมัยราชวงศ์หมิง (1368–1644 AD)

           ทั้งนี้ จุดประสงค์หลักของการก่อสร้างกำแพงเมืองจีนในสมัยโบราณคือ เพื่อป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าทุ่งหญ้าทางตอนเหนือ และเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางเส้นทางการค้าสำคัญของจีนโบราณกับภูมิภาคอื่นๆ


แนวปราการบนภูผาที่ปกป้องและโอบล้อมประเทศจีนมานับพันปี


กู่เป๋ยโข่ว กำแพงเมืองจีนโบราณแห่งเมืองปักกิ่ง

           การสร้างกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วนั้น แบ่งออกเป็น 2 ยุคสมัย โดยในสมัยแรกสร้างขึ้นในช่วงของราชวงศ์เหนือใต้ (420 – 581 AD) และสมัยถัดมาสร้างขึ้นในยุคของราชวงศ์หมิง (1368–1644 AD) ซึ่งจากระยะห่างเกือบพันปีนี้เอง ทำให้กำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วแต่ละบริเวณมีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก โดยกำแพงเมืองจีนที่สร้างในสมัยราชวงศ์เหนือใต้นั้นสร้างด้วยดินและทรายเป็นหลักทำให้เหลืออยู่ไม่มาก ผิดกับกำแพงเมืองจีนที่ก่อสร้างในสมัยราชวงศ์หมิงที่ยังหลงเหลือเค้าโครงมาให้เห็นกระทั่งปัจจุบัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://english.visitbeijing.com.cn/a1/a-XCC8FK4DB391A9920AAAD9

           ปัจจุบันกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชมเพียงบางส่วนซึ่งเท่านั้น แต่ถึงจะเป็นเพียงบางส่วน เสน่ห์ความงามของกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าที่อื่นแม้แต่น้อย


แนวกำแพงเมืองจีนโบราณกู่เป๋ยโข่วที่ยังเหลือมาถึงปัจจุบัน 


การเดินทางไปเมืองปักกิ่ง

           กำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว ตั้งอยู่ในเขตเมืองปักกิ่ง (หรือเป่ยจิง /北京 / Beijing) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศจีน นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินทางมายังเมืองปักกิ่งได้หลายเส้นทาง คือ


             - เครื่องบิน
นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง หรือ Beijing Capital International Airport (PEK) สนามบินขนาดใหญ่และได้ชื่อว่าเป็นประตูอันดับหนึ่งสู่ประเทศจีน ซึ่งหลังจากมาถึงสนามบินแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการชัตเตอร์บัสจากสนามบินเข้าสู่ตัวเมืองได้ โดยสามารถดูรายละเอียดเส้นทาง, ตารางเวลา รวมถึงค่าบริการชัตเตอร์บัสไปจุดหมายต่างๆเพิ่มเติมได้ที่ http://en.bcia.com.cn/traffic/airbus/index.shtml

             - รถไฟ ปัจจุบัน ประเทศจีนมีบริการรถไฟเดินทางมาเมืองปักกิ่งจากหลากหลายพื้นที่ ทั้งรถไฟความเร็วสูงจากเมืองใหญ่อื่นๆในประเทศจีน, รถไฟที่มาจากเขตปกครองพิเศษมองโกเลีย หรือรถไฟท้องถิ่นที่มาจากระยะใกล้ ซึ่งทุกสถานีต่างตั้งอยู่ภายในบริเวณเมืองปักกิ่ง ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวหรือที่พักที่สนใจได้อย่างง่ายดาย นักท่องเที่ยวที่สนใจจะเดินทางมาเมืองปักกิ่งด้วยรถไฟ สามารถศึกษาหาข้อมูลรวมถึงจองตั๋วล่วงหน้าได้ที่   https://exservice.12306.cn/excater/index.html (ภาษาจีน) หรือ https://english.ctrip.com/trains/ (ภาษาอังกฤษ)

             - รถบัส หรือรถบัสยาวของชาวจีน เป็นหนึ่งในบริการขนส่งสาธารณะที่ได้รับความนิยมในประเทศจีน เนื่องจากเส้นทางและรอบเวลาที่หลากหลาย นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากเมืองใหญ่ต่างๆในประเทศจีน มายังเมืองปักกิ่งได้ โดยไม่ต้องเปลี่ยนรถ โดยนักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบรายละเอียดเส้นทาง , ตารางเวลา รวมถึงอัตราค่าบริการเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bjbus.com/home/index.php

             - รถยนต์ / แท็กซี่สาธารณะ  เป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่ได้รับความนิยมเนื่องจากความสะดวกสบายและความยืดหยุ่นของเส้นทางและเวลาเดินทาง นักท่องเที่ยวสามารถเรียกใช้บริการต่อรองราคาได้ทั้งจากแท็กซี่สาธารณะในเมือง หรือเรียกใช้บริการจากโรงแรม แหล่งนำเที่ยว โดยสามารถเจรจาต่อรองราคา ตลอดจนการแวะพักระหว่างทาง และสามารถขอใช้บริการรวมกับการพาไปเที่ยวชมสถานที่สำคัญๆในเมืองปักกิ่งได้อีกด้วย


           และหลังจากมาถึงเมืองปักกิ่งแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินทางต่อไปยังกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 131 กิโลเมตร และ ไม่มีรถโดยสารประจำทางสายตรงที่เดินทางไปถึง นักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเที่ยวชมจึงต้องเดินทางโดย


             - รถโดยสาธารณะ
นักท่องเที่ยวสามารถไปขึ้นรถโดยสารสาธารณะ หมายเลข 980 ได้ที่สถานีตงจื๋อเหมิน (东直门) เลือกลงที่ป้ายสถานีมี่อวิ๋นเส้าเหนียนกง (密云少年宫) และเดินผ่านแยกเลี้ยวขวา (รวมระยะประมาณ 400 เมตร) จะพบป้ายสถานีมี่อวิ๋นเจี้ยวอวี้จวี๋ (密云教育局) ซึ่งเป็นป้ายที่มีรถโดยสารสาธารณะ หมายเลข 25  ให้นักท่องเที่ยวเลือกขึ้น จากนั้นจึงลงรถที่ ป้ายสถานีกู่เป๋ยโข่ว (古北口) และเดินต่อไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะพบกับยังกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว

           ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถตรวจดูเส้นทางบนแผนที่ได้โดยกรอกจุดหมายปลายทางที่ https://map.baidu.com/ และสามารถดูรายละเอียดเส้นทางและรอบเวลาในการวิ่งของรถโดยสารหมายเลข 980快 ได้ที่ http://beijing.8684.cn/x_1d513758  และหมายเลข 25 ได้ที่ http://beijing.8684.cn/x_5b169798

             - แท็กซี่ เป็นการเดินทางที่ง่าย และสะดวกสบายที่สุด โดยอัตราค่าบริการแท็กซี่ในเมืองปักกิ่งจะเริ่มต้นที่ ประมาณ 13 หยวน และหากนักท่องเที่ยวจ้องการเหมารถไป – กลับระหว่างตัวเมืองปักกิ่งกับกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 350 – 450 หยวน ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถเรียกใช้บริการแท็กซี่ได้ทั้งจากสนามบิน สถานีรถไฟ หรือบริเวณอื่นๆในเมือง โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที


เวลาในการเปิด-ปิดทำการ

           นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวชมกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วได้ ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 น. – 17.00 น.


อัตราค่าเข้าชม

           บัตรผ่านเข้าชมกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว มีจำหน่ายในราคา 25 หยวน/คน


บัตรเข้าชมกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว


การเที่ยวชมกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว


กำแพงเมืองจีนโบราณที่กู่เป๋ยโข่ว

           กำแพงเมืองจีนโบราณกู่เป๋ยโข่ว ถือเป็นหนึ่งในกำแพงเมืองจีนที่มีทิวทัศน์สวยงามน่าชื่นชม ประกอบกับการที่ไม่ได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมด้วยวัตถุดิบและเทคโนโลยีสมัยใหม่ กำแพงเมืองจีนแห่งนี้จึงเป็นกำแพงเมืองจีนที่ตั้งอยู่กลางบรรยากาศของภูเขาสูงที่ต้องเดินและปีนป่ายขึ้นไป เพื่อชื่นชมหนึ่งในกำแพงเมืองจีนไม่กี่แห่ง ที่ยังคงสภาพจากอดีตจริงๆเอาไว้


ทางเดินบางช่วงของกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว


รูปปั้นบริเวณทางเดินที่จำลองขั้นตอนการทำอิฐและขนอิฐเพื่อสร้างกำแพงเมืองจีน


แนวของกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วที่พาดไปมาตามแนวภูเขาสูงชัน


ภาพความงามที่รออยู่ของกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วหลังปีนป่ายขึ้นไป


ป้อมสังเกตการณ์ที่ยังหลงเหลืออยู่ของกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว


ภาพของป้อมโบราณที่อยู่กลางแมกไม้

 
ทิวทัศน์ที่มองจากป้อมของกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว


เวลาที่เหมาะสมในการไปเที่ยว

           นักท่องเที่ยวสามารถแวะไปเที่ยวชมทิวทัศน์ที่สวยงามของกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วได้ทุกวัน และทุกฤดู โดยช่วงเวลาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ เดือนกันยายน – เดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศค่อนข้างเย็นสบาย (อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 12 – 22 องศาเซสเซียส) ทำให้สะดวกต่อการชมกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว และนักท่องเที่ยวควรหาโอกาสชม ช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน ของกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว อันเป็นเวลาที่แสงสุดท้ายของพระอาทิตย์จะส่องแสงลงมาป้อมปราการของกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วและภูเขาโดยรอบ ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาอันสวยงามอันไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง


เวลาพระอาทิตย์ตกดินที่จะทำให้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว

           ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวควรใช้เวลา ไม่ต่ำกว่า 4 – 5 ชั่วโมง ในการชื่นชมทิวทัศน์ตั้งแต่เส้นทางการเดินขึ้นบนภูเขาที่กำแพงเมืองจีนตั้งอยู่ ตลอดจนเก็บภาพความสวยงามจากป้อมปราการที่อยู่บนภูเขาของกำแพงเมืองจีน และสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเที่ยวในฤดูอื่น อาทิ ฤดูใบไม้ผลิ (เดือนเมษายน – เดือนมิถุนายน), ฤดูร้อน (เดือนมิถุนายน – เดือนสิงหาคม) หรือฤดูหนาว (เดือนพฤศจิกายน – เดือนพฤษภาคม) ควรใช้ความระมัดระวังและตรวจสอบสภาพอากาศก่อนล่วงหน้า เนื่องจากอาจมีพายุกรรโชกแรง , อากาศร้อนจัด หรืออากาศหนาวจัดรวมถึงหิมะตกซึ่งเป็นอุปสรรคและอาจเป็นอันตรายต่อการเที่ยวชมกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วได้ โดยสามารถตรวจสอบสภาพอากาศล่วงหน้าได้ที่ www.accuweather.com


ในวันที่อากาศดีจะทำให้เก็บภาพบรรยากาศของกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วได้ชัดเจนขึ้น 


ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้ในการท่องเที่ยวกำแพงเมืองจีนและเมืองปักกิ่ง

           กำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว เป็นกำแพงเมืองจีนที่ ไม่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ในการเที่ยวชมให้ นักท่องเที่ยวที่ต้องการขึ้นไปชมความงดงามของทัศนียภาพ จำเป็นต้อง เดินเท้าขึ้นไปเท่านั้น อีกทั้งหลายช่วงของกำแพงเมืองจีนแห่งนี้ยังเป็นทางเดินที่ค่อนข้างลาดชัน หรือเป็นเส้นทางที่เรียกได้ว่าเหมือนกับการปีนเขา นักท่องเที่ยวจึง ต้องใช้ความระมัดระวัง และควรเตรียมร่างกาย รวมถึงสวมใส่รองเท้ากับเสื้อผ้าที่เหมาะสมสำหรับการปีนเขา

           นอกจากนี้ บริเวณกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว ไม่มีร้านจำหน่ายอาหารใดๆ นักท่องเที่ยวควรพกขนมเผื่อรองท้อง และเตรียมน้ำดื่มไว้จิบในระหว่างการเดินทางไปให้เพียงพอด้วย


ทางเดินขึ้นชมกำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก

           และสำหรับนักท่องเที่ยวที่ ไม่มีพื้นฐานหรือไม่สันทัดภาษาจีน ควรเตรียมหนังสือรวมคำศัพท์, รวมบทสนทนาพื้นฐานในภาษาจีน หรือใช้แอพลิเคชั่นเพื่อการแปลภาษาอาทิ Google Translate ไว้เผื่อด้วย เพราะมีเพียงป้ายสถานที่สำคัญกับโรงแรมใหญ่ๆในเมืองปักกิ่งเท่านั้นที่เป็นภาษาอังกฤษ ส่วนป้ายบางสถานที่ หรือป้ายเมนูอาหารของบางร้าน ยังมีแต่ภาษาจีนอยู่


ในบางสถานที่ ซึ่งยังคงมีแต่ป้ายภาษาจีนเท่านั้น 

           และข้อควรระวังเพิ่มเติมคือ ประเทศจีนในปัจจุบันมีการ บล็อกการเข้าถึงเว็บไซค์ Google (รวมถึงแอพลิเคชั่นต่างๆ เช่น Google Translate หรือการแปลภาษา), Facebook และ Instagram หากนักท่องเที่ยวต้องการใช้งาน ควร ใช้ซิมโทรศัพท์จากประเทศอื่นพร้อมเปิดระบบบริการโรมมิ่งข้ามประเทศ เพื่อให้สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ดังกล่าวได้

           สำหรับนักท่องเที่ยวที่ใช้ บริการอินเตอร์เน็ตจากประเทศจีน หากต้องการสนทนาผ่านโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่นผ่านอินเตอร์เน็ต สามารถ ใช้โปรแกรม WeChat หรือ Weibo และสามารถ ค้นหาข้อมูล จากเว็บไซต์ Baidu.com แทน Google


กำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่วกลางเทือกเขาและต้นไม้ใหญ่


           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชมความงามของ กำแพงเมืองจีนกู่เป๋ยโข่ว สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ 

                       กู่เป๋ยโข่ว กำแพงเมืองจีนเก่าแก่แห่งปักกิ่ง , ประเทศจีน

                       (古北口古/ Gubeikou The Wild Great Wall, Beijing , China)

                       อัตราค่าเข้าชม : 25 หยวน/คน

                       เวลาเปิด – ปิด : 08.00 น. – 17.00 น. ของทุกวัน

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : เดือนกันยายน – เดือนตุลาคม

                       ตั้งอยู่ที่ : เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน

                       โทร : (86)10-697-71665    เว็บไซต์ : http://s.visitbeijing.com.cn/html/j-101490.shtml

                       ระดับความนิยม

                       ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                       จองตั๋วรถไฟ(ภาษาจีน) http://www.12306.cn/mormhweb/

                                       จองตั๋วรถไฟ(ภาษาอังกฤษ) https://english.ctrip.com/trains/

                                       บริการข้อมูลท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง http://en.bcia.com.cn/

                                       รถไฟใต้ดินเมืองปักกิ่ง https://www.bjsubway.com/en/

                                       บริการการข้อมูลท่องเที่ยวเมืองปักกิ่ง http://english.visitbeijing.com.cn/

                                       บริการข้อมูลรถโดยสารสาธารณะเมืองปักกิ่ง http://beijing.8684.cn/

                                       ภัตตาคารหูต้า เมืองปักกิ่ง http://www.hudafanguan.com/


แนะนำร้านอาหารในเมืองปักกิ่งจาก
Palanla

           นอกจากกำแพงเมืองจีนปาต๋าหลิ่งที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของเมืองปักกิ่งแล้ว เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเมืองปักกิ่งที่ขาดไม่ได้ ย่อมเป็นเมนูอาหารรสเลิศตามร้านต่างๆ ซึ่ง 1 ในนั้นคือ ภัตตาคารหูต้า (胡大饭馆 / Huda Restaurant) 


ภัตตาคารหูต้าแห่งเมืองปักกิ่ง 

           ภัตตาคารหูต้าเป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงซึ่งเปิดบริการมายาวนาน มีเมนูขึ้นชื่อที่ไม่ควรพลาดอาทิ กุ้งก้ามแดง (Crayfish) หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า กุ้งล็อบสเตอร์น้ำจืด (Freshwater Lobster) นอกจากนี้ยังมีเมนูปูขนซึ่งราคาไม่สูงนัก ที่รอให้นักท่องเที่ยวมาลิ้มลองรสชาติกันได้ที่ถนนตงจื๋อเหมินเน่ย เขตตงเฉิน ของเมืองปักกิ่ง (東直門內大街 , 東城区 / Dongzhimennei Street, Dongcheng Area)


โต๊ะอาหารที่เต็มแน่นทุกโต๊ะกับเมนูอันน่าทานของภัตตาคารหูต้า

 
กุ้งก้ามแดง (
Crayfish) หรือ กุ้งล็อบสเตอร์น้ำจืด (Freshwater Lobster) 1 ในเมนูยอดฮิตของร้าน 


ปูขน อาหารจานเด็ดที่ราคาเพียง 200 หยวนแต่ได้ปูถึง 5 ตัว ! 

           และเนื่องจากภัตตาคารหูต้าเป็นภัตตาคารอาหารชื่อดัง จึงมีลูกค้ามาคอยรับบริการเป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวจึงควรเผื่อเวลาในการรอคิวรับประทานอาหารประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง – 2 ชั่วโมง โดยสามารถเลือกนั่งรอคิวได้ในบริเวณที่ทางร้านจัดให้ (พร้อมบริการ Free wifi) หรือเดินแวะไปรองท้องก่อนเล็กน้อยกับร้านค้าอื่นๆ ซึ่งตั้งเรียงรายตลอดถนนสายนี้ได้


แถวลูกค้าที่มานั่งรอรับประทานอาหารของภัตตาคารใต้ป้ายชื่อตึกฮวาเจียหลิงหยวน 


เต๊นท์สำหรับลูกค้าที่มานั่งคอยคิวรับประทานอาหาร


คะแนนของร้านจาก www.palanla.com

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจาง – ดาลัด ประเทศเวียดนาม

หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองชายทะเลสุดคึกคักอากาศอบอุ่น แล้วไปผ่อนคลายในเมืองแห่งภูเขาอากาศเย็นสบายที่เวียดนามใต้ ญาจางและดาลัดคือคำตอบ! สองเมืองนี้จะพาคุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมที่หลากหลาย Palanla ได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจางและดาลัดมาให้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

อาสนวิหารญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

อาสนวิหารญาจาง (Christ the King Cathedral Nha Trang) หรือ โบสถ์หินญาจาง สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม อายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง ด้วยผนังหินสีน้ำตาลเข้มที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง และหลังคาสูงชะลูดที่ดูอลังการ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว

อ่านต่อ

หาดญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

หาดญาจาง (Nha Trang Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศเวียดนาม ด้วยชายรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ความยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่โอบล้อมอ่าวญาจาง ในจังหวัดหวัดคั้ญฮวา ท่ามกลางภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญๆ มากมาย

อ่านต่อ

หอคอยแตร่มเฮือง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

หอคอยแตร่มเฮือง (Tram Huong Tower) สัญลักษณ์และจุดเช็กอินยอดนิยมของหาดญาจางในปัจจุบัน

อ่านต่อ

วินเพิร์ลแลนด์ เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

วินเพิร์ลแลนด์ (Vinpearl Land) เป็นสวนสนุกและรีสอร์ตหรูครบวงจรระดับโลกที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่สวยงามติดทะเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของการไปเที่ยวที่นี่คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก

อ่านต่อ

วัดลองเซิน เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระใหญ่” เป็นวัดพุทธมหายานเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม นอกจากความสวยงามอลังการของตัววัดแล้ว จากยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของเมืองญาจางและทะเลได้อย่างสวยงาม

อ่านต่อ

วัดตั๊กลัม เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม

วัดตั๊กลัม (Truc Lam Monastery of Da Lat) เป็นวัดพุทธในนิกายเซนบนยอดเขาเฟืองฮว่าง นอกจากภายในบริเวณวัดจะมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม ยังมีการจัดตกแต่งภูมิทัศน์โดยรอบด้วยสวนดอกไม้สดสวย ถือเป็นวัดที่งดงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในดาลัด

อ่านต่อ

น้ำตกดาตันลา เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม

น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) ไม่เพียงแต่เป็นน้ำตกที่สวยงาม แต่ยังซ่อนเรื่องราวตำนานพื้นเมืองของดาลัดที่น่าสนใจเอาไว้ นอกจากสัมผัสความเย็นฉ่ำของละอองน้ำที่กระเซ็นจากม่านน้ำตกแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ คือการนั่งรถรางลัดเลาะไปตามเส้นทางที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันเขียวขจี

อ่านต่อ

เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม

เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก (Linh Phuoc Pagoda) วัดศาสนาพุทธนิกายเซนในดาลัด โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ตัวอาคารทำจากเศษกระเบื้องเคลือบงดงามวิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่ที่พันรอบองค์พระเจดีย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัด

อ่านต่อ

ฮาจิ เลน ประเทศสิงคโปร์

ตรอกฮาจิ หรือ ฮาจิ เลน (Haji Lane) ถนนสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาในย่านกัมปง กลาม (Kampong Glam) ของสิงคโปร์ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นในฐานะแหล่งรวมร้านค้าบูติก ร้านอาหาร คาเฟ่ และศิลปะบนท้องถนนที่น่าสนใจ ฮาจิ เลน ไม่เพียงแค่เป็นถนนสายช้อปปิ้ง แต่ยังเป็นเหมือนแกลเลอรี่กลางแจ้งที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของสิงคโปร์อีกด้วย

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ