- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- พิพิธภัณฑ์อัลเทส เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
พิพิธภัณฑ์อัลเทส เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
- อ่าน (3,761)
- By Webmaster
- 13:33:08 | 25 ก.ย. 2562
พิพิธภัณฑ์อัลเทส เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
Altes Museum, Berlin, Germany
ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์อัลเทสสร้างอิงแบบจากวิหารแพนธีออน
พิพิธภัณฑ์อัลเทส (Altes Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์เก่าแก่ และเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกในจำนวนห้าพิพิธภัณฑ์ ที่ถูกสร้างขึ้นบนเกาะพิพิธภัณฑ์ (Museum Island / ภาษาเยอรมันคือ Museumsinsel) กลางแม่น้ำชเปร (Spree) ในกรุงเบอร์ลิน ตัวอาคารมีความอลังการโดดเด่น สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้ที่มาเที่ยวชม เพราะถูกสร้างโดยอิงแบบจากวิหารแพนธีออน (The Pantheon) ในกรุงโรม (Rome) ด้วยสถาปัตยกรรมกรีกโรมันโบราณ (Neoclassical architecture) ในรูปแบบเสาหินขนาดมหึมาจำนวนสิบแปดต้นเรียงรายทอดยาวสร้างความโอ่อ่าให้กับตัวอาคาร รวมถึงขั้นบันไดหินกว้าง และภายในห้องโถงทรงกลมขนาดใหญ่รายล้อมด้วยรูปสลักโบราณ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นแหล่งสะสมโบราณวัตถุอันน่าทึ่งมากมายจากกรีซ (Greece) โรมัน (Roman) และอีทรัสคัน (Etruscan) ในช่วงศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาล มีตั้งแต่สมบัติชิ้นเล็กชิ้นน้อยอย่าง เหรียญ เครื่องประดับ แจกัน ไปจนถึงผลงานศิลปะและประติมากรรมขนาดใหญ่ เช่น ผลงานประติมากรรมศีรษะของซีซาร์ (Caesar) และพระนางคลีโอพัตรา (Cleopatra) เป็นต้น พิพิธภัณฑ์อัลเทสได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก (UNESCO World Heritage Site) ในปีค.ศ. 1993 และเกาะพิพิธภัณฑ์ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก (UNESCO World Heritage Site) เช่นกันในปีค.ศ. 1999
แผนที่ตั้ง พิพิธภัณฑ์อัลเทส (Altes Museum)เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
ประวัติ
พิพิธภัณฑ์อัลเทส เดิมใช้ชื่อ Königliches Museum หมายถึง พิพิธภัณฑ์หลวง เริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1823 ทางด้านใต้ของเกาะพิพิธภัณฑ์ในรูปแบบสถาปัตยกรรมกรีกโรมันโบราณ (Neoclassic Architecture) ออกแบบโดย คาร์ล ฟรีดิช ชินเคล (Karl Friedrich Schinkel) นักสถาปนิกและนักวางผังเมืองมือหนึ่งชาวปรัสเซีย เพื่อใช้เป็นที่สะสมงานศิลปะของราชวงศ์ปรัสเซีย สร้างแล้วเสร็จในปีค.ศ. 1828 โดยมีข้อความจารึกไว้ว่า “กษัตริย์ฟรีดริชวิลเฮล์มที่ 3 ได้อุทิศพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เพื่อการศึกษาโบราณวัตถุและศิลปะเสรี ในปีค.ศ. 1828” และได้เปิดอย่างเป็นทางการในปีค.ศ. 1830
ในปีค.ศ. 1841 ได้มีพระราชกฤษฎีกาประกาศให้เกาะทางตอนเหนือของแม่น้ำชเปร (หมายถึงเกาะพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน) เป็นพื้นที่สำหรับเก็บรักษาผลงานศิลปะและวิทยาศาสตร์ และได้มีการทยอยก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นบนเกาะ พิพิธภัณฑ์นี้จึงมีชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการอีกชื่อนึงว่า พิพิธภัณฑ์เก่า (Old Museum) จนกระทั่งในปีค.ศ. 1845 ได้มีการเปลี่ยนชื่อจาก Königliches Museum เป็น Altes Museum
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง พิพิธภัณฑ์ได้รับความเสียหายอย่างหนัก เพราะเกิดเหตุการณ์รถถังระเบิดหน้าพิพิธภัณฑ์ส่งผลให้จิตรกรรมฝาผนังบริเวณห้องโถงและผนังด้านหลังของระเบียงส่วนใหญ่ถูกทำลายไป หลังสงครามจึงได้มีการบูรณะซ่อมแซมและสร้างส่วนที่เสียหายขึ้นมาใหม่ในช่วงปีค.ศ. 1951 ถึงค.ศ. 1966 โดย ฮันส์ อีริช โบแกตซกี (Hans Erich Bogatzky) และธีโอดอร์ วอสเซน (Theodor Voissen) โดยอิงจากแบบของ ชินเคล สถาปนิกคนแรกที่ได้ออกแบบไว้ การบูรณะซ่อมแซมแล้วเสร็จในปีค.ศ. 1982 ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์นี้อยู่ในการดูแลขององค์กรพิพิธภัณฑ์แห่งกรุงเบอร์ลิน (Staatliche Museen zu Berlin)
บริเวณด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ยามเย็น
บันไดหินทอดยาวขึ้นไปยังทางเข้า
ภายในห้องโถงทรงกลมบริเวณทางเข้า รายล้อมไปด้วยรูปสลักกรีกโรมันโบราณ
บริเวณตรงกลางห้องโถงทรงกลม จัดแสดงประติมากรรมทองเหลืองจำลองภาพนักรบในยุคกรีกโบราณ
การจัดแสดงโบราณวัตถุและผลงานประติมากรรมโบราณต่างๆ
ผลงานประติมากรรมรูปสลักชื่อ Recumbent Man from Chiusi จากดินแดนอีทรัสคัน อายุราว 501 ปี ก่อนคริสตกาล
ผลงานประติมากรรมรูปสลักหินโบราณอายุก่อนคริสตกาล
ผลงานประติมากรรมนูนสูงจากกรีกโรมันโบราณอายุก่อนคริสตกาล
การจัดแสดงผลงานประติมากรรมรูปสลักจากกรีกโรมันโบราณ
การจัดแสดงรูปสลักศีรษะของกรีกโรมันโบราณ
การเดินทางจากสนามบินเบอร์ลินเทเกิลไปยังสถานีรถไฟกลางเบอร์ลิน (Berlin Central Station)
- รถยนต์ (Car) จาก Berlin-Tegel Airport (TXL) ไปยัง Berlin Central Station มีระยะทางประมาณ 8.9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที
- รถประจำทาง (Bus) จากอาคารผู้โดยสารขาเข้า ให้เดินต่อไปยังอาคาร Airport Tegel Berlin Bus Station และขึ้นรถบัสสาย TXL ระยะทางประมาณ 8.9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ลงที่สถานี S+U Berlin Hauptbahnhof ก็จะถึง Berlin Central Station (ชื่อสถานีภาษาเยอรมันคือ Berlin Hauptbahnhof อ่านว่า เบอร์ลิน โฮพท์-บาห์น-ฮอฟ)
การเดินทางจากสถานีรถไฟกลางเบอร์ลินไปยังพิพิธภัณฑ์อัลเทส (Altes Museum)
- รถยนต์ (Car) จาก Berlin Central Station ไปยัง Altes Museum มีระยะทางประมาณ 2.9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที
- รถประจำทาง (Bus) จาก Berlin Central Station ขึ้นรถประจำทางสาย 245 S+U Alexanderplatz ระยะทางประมาณ 2.9 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ไปลงที่ Lustgarten และเดินต่อไปยัง Altes Museum
- รถไฟ (Train) จาก Berlin Central Station ขึ้นรถไฟสาย S ไปลงสถานี S Hackescher Markt (Berlin) และเดินต่อไปยัง Altes Museum อีกประมาณ 650 เมตร ใช้เวลาโดยรวมประมาณ 10 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด
เปิดวันอังคาร - วันอาทิตย์ 10:00 น. – 18:00 น. / วันพฤหัสบดีปิด 20:00 น.
ปิดวันจันทร์
บริเวณชั้นบน เป็นส่วนจัดแสดงศิลปะโรมันและอีทรีสคัน ที่จัดแสดงมาตั้งแต่ปีค.ศ. 2010
อัตราค่าเข้าชม
ค่าเข้าชม Altes Museum และนิทรรศการศิลปะที่จัดในพิพิธภัณฑ์
- 10 EUR สำหรับบุคคลทั่วไป
- ลด 50% สำหรับนักเรียนนักศึกษาที่มีส่วนร่วมในงานบริการชุมชนและระดับชาติ ผู้ว่างงานที่มีเอกสารยืนยัน และผู้พิการ
- เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าชมฟรี
ค่าเข้าชมทุกพิพิธภัณฑ์และทุกนิทรรศการศิลปะบนเกาะพิพิธภัณฑ์
- 18 EUR สำหรับบุคคลทั่วไป
- ลด 50% สำหรับนักเรียนนักศึกษาที่มีส่วนร่วมในงานบริการชุมชนและระดับชาติ ผู้ว่างงานที่มีเอกสารยืนยัน และผู้พิการ
- เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าชมฟรี
จากอาคารชั้นบนเมื่อมองออกมาจะเห็นสวน Lustgarten บริเวณด้านหน้าพิพิธภัณฑ์
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน เนื่องจากเป็นช่วงที่อากาศอบอุ่น และท้องฟ้าแจ่มใส เหมาะกับการเที่ยวชมเมือง
บริเวณด้านหน้าอาคารในเวลาพลบค่ำ
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว Altes Museum สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
พิพิธภัณฑ์อัลเทส เกาะพิพิธภัณฑ์ เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
(Altes Museum, Museum Island, Berlin, Germany)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ค่าเข้าชม Altes Museum และนิทรรศการศิลปะที่จัดในพิพิธภัณฑ์
- 10 EUR สำหรับบุคคลทั่วไป
- ลด 50% สำหรับนักเรียนนักศึกษาที่มีส่วนร่วมในงานบริการชุมชนและระดับชาติ ผู้ว่างงานที่มีเอกสารยืนยัน และผู้พิการ
- เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าชมฟรี
ค่าเข้าชมทุกพิพิธภัณฑ์และทุกนิทรรศการศิลปะบนเกาะพิพิธภัณฑ์
- 18 EUR สำหรับบุคคลทั่วไป
- ลด 50% สำหรับนักเรียนนักศึกษาที่มีส่วนร่วมในงานบริการชุมชนและระดับชาติ ผู้ว่างงานที่มีเอกสารยืนยัน และผู้พิการ
- เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดวันอังคาร - วันอาทิตย์ 10:00 น. – 18:00 น. / วันพฤหัสบดีปิด 20:00 น.
ปิดวันจันทร์
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะ พฤษภาคม - กันยายน
สถานที่ตั้ง : เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
โทรศัพท์ : +49 30 266424242 (ในเวลาทำการ จันทร์ - ศุกร์ 09:00 น. – 16:00 น.)
เว็บไซต์ : https://www.smb.museum/en/museums-institutions/altes-museum/home.html
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : องค์กรพิพิธภัณฑ์แห่งกรุงเบอร์ลิน https://www.smb.museum/en/home.html
เกาะพิพิธภัณฑ์ https://www.museumsinsel-berlin.de/en/home/
พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/th/de/germany-weather
เว็บไซต์ทางการของกรุงเบอร์ลิน https://www.berlin.de/en
เว็บไซต์ท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการของกรุงเบอร์ลิน https://www.visitberlin.de/en
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อรวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อ