- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- โบสถ์นอทเทอร์ดัมซาบอน เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
โบสถ์นอทเทอร์ดัมซาบอน เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
- อ่าน (3,559)
- By Webmaster
- 17:39:26 | 14 ธ.ค. 2562
โบสถ์นอทเทอร์ดัมซาบอน เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
Notre Dame du Sablon, Brussels, Belgium
สถาปัตยกรรมด้านหน้าของโบสถ์นอทเทอร์ดัมซาบอน
โบสถ์นอทเทอร์ดัมซาบอน (Notre Dame du Sablon) โบสถ์โรมันคาทอลิคที่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 13 ที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์กอธิค ซึ่งมีความสวยงาม และมีรายละเอียดด้านการออกแบบที่แสดงถึงความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมของบรัสเซลส์ จนถูกยกให้เป็นมรดกทางศาสนาคริสต์ที่สำคัญที่สุดหลังหนึ่งของเมือง
แผนที่ตั้ง โบสถ์นอทเทอร์ดัมซาบอน เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
ประวัติ
ทางเข้าโบสถ์ของนักบุญเออซูล่า
โบสถ์นอทเทอร์ดัมซาบอน (Notre Dame du Sablon) ในสมัยศตวรรษที่ 13 สมาคมหน้าไม้ (Serment of Crossbowmen) หรือกลุ่มติดอาวุธหน้าไม้ที่คอยทำหน้าที่ปกป้องเมืองบรัสเซลส์จากผู้บุกรุกในสมัยอดีต ได้รับที่ดินบริเวณซาบอน (Sablon) เขตพื้นที่ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กับเมาท์ เดส อาร์ต จากบรรดาขุนนาง และผู้อุปถัมภ์ที่มั่งคั่งของเมืองบรัสเซลส์ โดยทางสมาคมหน้าไม้ได้ใช้พื้นที่ตรงนี้ในการสร้างโบสถ์ประจำสมาคม โดยทีแรกโบสถ์เป็นเพียงอาคารหลังเล็กที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาคริสต์ของบรรดาสมาชิกเท่านั้น แต่ตามตำนานเก่าแก่ของโบสถ์กล่าวว่าโบสถ์แห่งนี้เริ่มมีชื่อเสียงจากเหตุการณ์ที่มีผู้หญิงท้องถิ่นนาม บีทริกซ์ โซเคนซ์ (Beatrijs Soetkens) เห็นนิมิตถึง พระแม่มารีย์ (Virgin Mary) ที่สั่งการให้เธอไปขโมยประติมากรรมพระแม่มารีย์ในมหาวิหารแห่งแอนต์เวิร์ป เพื่อนำมาตั้งไว้ที่โบสถ์นอทเทอร์ดัมซาบอน ส่งผลให้เธอเดินทางด้วยเรือจากเมืองบรัสเซลส์ไปยังเมืองแอนต์เวิร์ป (Antwerp) และเข้าไปขโมยประติมากรรมพระแม่มารีย์ขณะการ์ดเฝ้ามหาวิหารกำลังหลับ ก่อนจะนำประติมากรรมชิ้นนี้กลับมายังโบสถ์ประจำสมาคมหน้าไม้ ที่ซึ่งเธอได้รับการต้อนรับอย่างดีจากบรรดาสมาชิกของสมาคมที่ปฎิญาณว่าจะปกป้องเธออย่างดี และเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างโบสถ์ขึ้นใหม่เพื่อให้สมกับการเป็นสถานที่ประดิษฐานของประติมากรรมพระแม่มารีย์ โดยเป็นหนึ่งในเรื่องเล่าที่มีชื่อเสียงที่สุดเรื่องหนึ่งในศาสนาคริสต์
แต่เหตุผลที่ดูเป็นรูปธรรมจริงๆ ของการเปลี่ยนแปลงทางสถาปัตยกรรมครั้งสำคัญของโบสถ์นอทเทอร์ดัมซาบอนดูเหมือนจะอยู่ในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 โดยอิงหลักฐานจากภาพจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับโบสถ์แห่งนี้ และกลายมาเป็นโบสถ์โรมันคาทอลิกที่โดดเด่น และสวยงามที่สุดหลังหนึ่งของเมืองบรัสเซลส์ ในช่วงปลายศตวรรษที่ 15 ถึงแม้หลังจากนั้นตัวโบสถ์จะผ่านความเสียหาย ตลอดจนได้รับการบูรณะใหม่มานับครั้งไม่ถ้วน แต่ในปัจจุบันโบสถ์สไตล์สถาปัตยกรรมกอธิค (Gothic Architecture) แห่งนี้ ก็ยังคงเป็นมรดกทางศาสนาคริสต์ที่สำคัญที่สุดของเมือง โดยลักษณะเด่นๆ ของโบสถ์จะมีตั้งแต่ ปราการยอดแหลมที่ทำให้โบสถ์มีความสูงถึง 65 เมตร มีหน้าจั่วตั้งฉากที่เรียงต่อกันไปตลอดความยาวของสถานที่ประกอบพิธีหลัก ผนังประดับไปด้วยภาพจิตรกรรมลงสีที่บอกเล่าเรื่องราวสำคัญทางประวัติศาสตร์ของศาสนาคริสต์ หน้าต่างหลายบานกรุด้วยกระจกสีที่สร้างขึ้นมาอย่างละเอียดลออ และยังมีงานประติมากรรมจัดวางอยู่ทั่วโบสถ์ที่มีความกว้าง 24 เมตร ถึง 57 ชิ้น ซึ่งรวมถึงประติมากรรมอัครสาวกทั้ง 12 ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยกลางศตวรรษที่ 17 ทำให้นอกจากการทำหน้าที่เป็นพื้นที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของคริสต์ศาสนิกชนแล้ว ยังเป็นสถาปัตยกรรมทางศาสนาคริสต์ที่โดดเด่น และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดหลังหนึ่งของเมืองบรัสเซลส์
จิตรกรรมประดับผนังของโบสถ์
ม้านั่งสำหรับผู้เข้ามาเยี่ยมชมภายในโบสถ์
ประติมากรรมที่วางเชิงเทียนบริเวณหน้าแท่นบูชาหลักของโบสถ์
ประติมากรรมที่บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของบีทริกซ์ โซเคนซ์
ประติมากรรมน่าสนใจภายในโบสถ์
มรดกทางศาสนาคริสต์ที่จัดเก็บอยู่ภายในโบสถ์
มรดกทางศาสนาคริสต์ที่จัดเก็บอยู่ภายในโบสถ์
การเดินทางจากสนามบินบรัสเซลส์ซาเวนเทมไปยังสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์
- รถยนต์ จากสนามบินไปยังสถานีรถไฟกลางของเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Centraal) ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 32 นาที
- รถบัส จากอาคารผู้โดยสารขาเข้าให้เดินไปขึ้นรถบัสที่สถานีรถบัสประจำสนามบิน โดยขึ้นรถบัสหมายเลข 12 ตรงไปยังสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Centraal) ได้เลย ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 34 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.delijn.be/nl/routeplanner/index.html
- รถไฟ จากอาคารผู้โดยสารขาเข้าให้ลงไปขึ้นรถไฟ Airport City Express ที่ชั้นใต้ดินของอาคารเพื่อไปลงที่สถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Station) ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.belgiantrain.be/en
การเดินทางจากสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ไปยังโบสถ์นอทเทอร์ดัมซาบอน
- เดิน จากสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ สามารถเดินไปยัง โบสถ์นอทเทอร์ดัมซาบอน ได้เลย ระยะทางประมาณ 700 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที
เวลาเปิด-ปิดทำการ
วันจันทร์-วันศุกร์ เปิดให้เข้าชมเวลา 10:00 น. – 18:00 น. (วันเสาร์-วันอาทิตย์ เลื่อนมาเปิดเวลา 09:00 น.)
ป้ายบอกช่วงเวลาเปิด-ปิดทำการของโบสถ์
สถาปัตยกรรมบริเวณเพดานของโบสถ์
อัตราค่าเข้าชม
เข้าชมฟรี
ประติมากรรมรูปเคารพภายในโบสถ์
แท่นบูชาหน้าประติมากรรมรูปเคารพภายในโบสถ์
เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
โถงทางเดินสู่แท่นทำพิธีหลักของโบสถ์
พื้นที่สีเขียวบริเวณรอบโบสถ์
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว โบสถ์นอทเทอร์ดัมซาบอน สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
โบสถ์นอทเทอร์ดัมซาบอน เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
(Notre Dame du Sablon, Brussels , Belgium)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-วันศุกร์ เปิดให้เข้าชมเวลา 10:00 น. – 18:00 น. (วันเสาร์-วันอาทิตย์ เลื่อนมาเปิดเวลา 09:00 น.)
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : เมืองบรัสเซลส์, ประเทศเบลเยียม
โทรศัพท์ : (+32) 2-511-57-41
เว็บไซต์ : -
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์สำนักงานการท่องเที่ยวประเทศเบลเยียม http://walloniabelgiumtourism.co.uk/
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสำนักงานเมืองบรัสเซลส์ https://www.brussels.be/
เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองบรัสเซลส์ https://be.brussels/bruxelles
เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนของเมืองบรัสเซลส์ http://www.stib-mivb.be/index.htm?l=fr
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อรวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อ