- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- บ่อนรกจิโกกุเมืองเบปปุ จังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น
บ่อนรกจิโกกุเมืองเบปปุ จังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น

- อ่าน (2,978)
- By Webmaster
- 11:21:07 | 1 ธ.ค. 2565
บ่อนรกจิโกกุเมืองเบปปุ จังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น
Beppu Jigoku Meguri, Oita, Japan
บ่อนรก หรือ จิโกกุ (Jigoku) อยู่ที่เมืองเบปปุ (Beppu) ในจังหวัดโออิตะ (Oita) ภูมิภาคคิวชู ประเทศญี่ปุ่น (Japan) เป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่เกิดขึ้นภายหลังการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อ 1,200 ปีที่แล้ว จิโกกุเรียกได้ว่าเป็นแหล่งออนเซนที่มีชื่อเสียงลำดับต้นๆ ของญี่ปุ่น และที่นี่ยังถูกยกให้เป็นแหล่งทิวทัศน์แห่งชาติในวันที่ 23 กรกฎาคม ค.ศ.2009 อีกด้วย
ประวัติ
บ่อนรก หรือ จิโกกุ ที่ว่านี้มีอยู่ทั้งหมด 7 บ่อด้วยกัน ส่วนแรกตั้งอยู่ในเขตคันนาว่า (Kannawa) มีอยู่ 5 บ่อด้วยกัน แต่ละบ่อตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน ใช้เวลาไม่นานนักก็เดินครบ ส่วนที่สองมีอยู่ 2 บ่อ ตั้งอยู่ที่เขตชิบาเซกิ (Shibaseki) อยู่ห่างจากกลุ่ม 5 บ่อแรกออกไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร สำหรับคนที่ชอบเดิน สามารถเดินไปได้สบายๆ หรือหากต้องการประหยัดเวลาก็สามารถนั่งรถบัสได้ โดยมีรถบัสให้บริการไปถึงด้านหน้าของบ่อทั้ง 2 นี้เลย น้ำพุร้อนธรรมชาติเหล่านี้แต่ละบ่อจะมีลักษณะและสีของน้ำที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับแร่ธาตุในบ่อนั้นๆ สิ่งนี้เองที่สร้างความสวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับการเที่ยวชมให้ครบทุกบ่อ
ส่วนแรก ในเขตคันนาว่า (Kannawa) มี 5 บ่อ ประกอบด้วย
1. อุมิ จิโกกุ (Umi Jigoku) (ทะเลนรก) บ่อทะเลนรกอุมิ จิโกกุ ถือเป็นบ่อที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาบ่อน้ำพุร้อนทั้งหมด มีความลึกประมาณ 200 เมตร น้ำในบ่อจะเป็นสีน้ำเงินโคบอลต์หรือคล้ายกับสีของน้ำทะเล (ตามชื่อ อุมิ ที่แปลว่า ทะเล ในภาษาญี่ปุ่น) อุณหภูมิของบ่อนี้จะอยู่ที่ประมาณ 98 องศา ด้วยน้ำที่มีความร้อนมากจึงทำให้เกิดควันสีขาวลอยขึ้นมาสวยงาม
บ่อนรก อุมิ จิโกกุ (Umi Jigoku)
บ่อนรก อุมิ จิโกกุ (Umi Jigoku)
2. โอนิอิชิ โบสุ จิโกกุ (Oniishi Bozu Jigoku) (นรกพระปีศาจหิน) ว่ากันว่า ชื่อว่าบ่อนรกโอนิอิชิโบสุ มาจากโคลนที่ผุดออกมา มีลักษณะคล้ายกับหัวของพระสงฆ์ (คำว่า โบสุ แปลว่า พระสงฆ์) บ่อนี้มีลักษณะแปลกตาที่สุด เป็นบ่อโคลนสีเทาที่มีความร้อน 99 องศา มองดูแล้วจะให้ความรู้สึกเหมือนเห็นโคลนที่กำลังเดือด
บ่อนรก โอนิอิชิ โบสุ จิโกกุ (Oniishi Bozu Jigoku)
บ่อนรก โอนิอิชิ โบสุ จิโกกุ (Oniishi Bozu Jigoku)
3. คามาโดะ จิโกกุ (Kamado Jigoku) (เตาไฟนรก) บ่อแห่งนี้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวอีกบ่อ ตามตำนานเล่าว่าแต่ก่อนบ่อนี้เคยใช้เป็นที่ปรุงอาหารให้แก่เทพเจ้า ชื่อของที่นี่มาจากวัฒนธรรมของศาลเจ้า Kamado Hachiman หรือที่เรียกว่า Uchigamado ที่หุงข้าวศักดิ์สิทธิ์โดยใช้ไอร้อนจากน้ำพุ และน้ำในบ่อแต่ละจุดก็จะมีสีสันและคุณภาพน้ำที่แตกต่างกัน
บ่อนรกคามาโดะ จิโกกุ (Kamado Jigoku)
บ่อนรกคามาโดะ จิโกกุ (Kamado Jigoku)
4. โอนิยามะ จิโกกุ (Oniyama Jigoku) (บ่อจระเข้) บ่อนรกโอนิยามะ หรือที่เรียกอีกชื่อว่า “บ่อนรกจระเข้” เพราะมีการนำน้ำอุ่นจากบ่อน้ำพุแห่งนี้ไปใช้เลี้ยงสัตว์เขตร้อนอย่างจระเข้ โดยน้ำในบ่อมีสีเขียวอ่อน
บ่อนรก โอนิยามะ จิโกกุ (Oniyama Jigoku)
บ่อนรก โอนิยามะ จิโกกุ (Oniyama Jigoku)
บ่อนรก โอนิยามะ จิโกกุ (Oniyama Jigoku)
5. ชิราอิเกะ จิโกกุ (Shiraike Jigoku) (นรกบ่อขาว) บ่อน้ำพุร้อนชิราอิเกะ หรือบ่อน้ำพุร้อนสีขาว ในบ่อนี้ประกอบไปด้วยเกลือของกรดบอริก, โซเดียมคลอไรด์, กรดซิลิก และแคลเซียมไบคาร์บอเนต
บ่อนรก ชิราอิเกะ จิโกกุ (Shiraike Jigoku)
ส่วนที่สอง ในเขตชิบาเซกิ (Shibaseki) มีอยู่ 2 บ่อด้วยกัน ประกอบด้วย
6. ชิโนเกะ จิโกกุ (Chinoke Jigoku) (นรกบ่อเลือด) บ่อน้ำพุร้อนชิโนเกะ หรือบ่อโคลนสีแดง เป็นบ่อน้ำพุทางธรรมชาติที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น มีอุณหภูมิสูงถึง 78 องศา เกิดจากปฏิกิริยาใต้พื้นดิน ทำความร้อนจากเหล็กออกไซด์กับแมกนีเซียมรวมกัน จนปะทุออกมาเกิดเป็นโคลนสีแดง ทำให้น้ำในบ่อเป็นสีแดงไปด้วย คนจึงนิยมเรียกกันว่าบ่อเลือดนั่นเอง
บ่อนรก ชิโนเกะ จิโกกุ (Chinoke Jigoku)
บ่อนรก ชิโนเกะ จิโกกุ (Chinoke Jigoku)
7. ทัตสึมากิ จิโกกุ (Tatsumaki Jigoku) (นรกทอร์นาโด) บ่อน้ำพุทัตสึมากิ บ่อแห่งนี้มีอุณหภูมิของน้ำใต้ดิน 150 องศา เป็นแหล่งของไกเซอร์ (Geyser) น้ำพุร้อนที่ปล่อยน้ำเดือดกับไอร้อนออกมาเป็นช่วงเวลาทุกๆ 30 นาทีและพุ่งได้ได้สูงถึง 50 เมตรเลยทีเดียว
บ่อนรก ทัตสึมากิ จิโกกุ (Tatsumaki Jigoku)
บ่อนรก ทัตสึมากิ จิโกกุ (Tatsumaki Jigoku)
การเดินทางจากสนามบินโออิตะไปยังสถานีรถไฟโออิตะ
- รถบัส จากสนามบิน ให้ขึ้นรถบัสสาย Air Liner [X] ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง ก็จะถึงป้าย Oita Eki mae ที่สถานีรถไฟโออิตะ (Oita Station)
การเดินทางจากตัวเมืองโออิตะไปยังบ่อนรกจิโกกุเมืองเบปปุ
- รถยนต์ จากสถานีรถไฟโออิตะ ไปยัง บ่อนรกจิโกกุเมืองเบปปุ มีระยะทาง 23.3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที
- รถไฟ จากสถานีรถไฟโออิตะ ให้ขึ้นรถไฟสาย Sonic-NichirinSonic 44Limited ExpressHakata เพื่อไปลงที่สถานี Beppu Station แล้วเปลี่ยนไปนั่งรถบัส
- เขตคันนาว่า (Kannawa) นั่งรถบัส Kamei สาย 5, 7 หรือ 9 ไปลงที่สถานี Kannawa
- เขตชิบาเซกิ (Shibaseki) นั่งรถบัส Kamei สาย 16/16A ไปลงที่สถานี Shibaseki
เวลาเปิด – ปิด
เปิดทุกวัน เวลา 8.00 – 17.00 น.
อัตราค่าเข้าชม
ค่าเข้าชม 400 เยนต่อบ่อ หรือ ซื้อบัตรเข้าชม 8 บ่อ ราคา 2,000 เยน
เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว บ่อนรกจิโกกุเมืองเบปปุ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
บ่อนรกจิโกกุเมืองเบปปุ จังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น
(Beppu Jigoku Meguri, Oita, Japan)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ค่าเข้าชม 400 เยนต่อบ่อ หรือ ซื้อบัตรเข้าชม 8 บ่อ ราคา 2,000 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8.00 – 17.00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : เมืองเบปปุ จังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น
โทรศัพท์ : (+81) 977 660 178
เว็ปไซต์ : https://kamadojigoku.com/english
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/
เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดโออิตะ https://www.discover-oita.com/
เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนญี่ปุ่น http://www.hyperdia.com/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

หอคอยเกียวโต จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
เกียวโตทาวเวอร์ (Kyoto Tower) หอคอยความสูง 328 ฟุต โครงสร้างสีแดง – ขาว ที่เป็นเสมือนแลนด์มาร์กหนึ่งของเมืองเกียวโต ภายในมีจุดชมวิวเมืองที่สวยงามแบบ 360 องศา และยังสามารถมองเห็นได้ไกลถึงเมืองโอซาก้าในวันที่อากาศดี
อ่านต่อ
สะพานโทเง็ตสึเคียว จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
สะพานโทเง็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) เป็นสะพานไม้เก่าแกจากยุคเฮอันที่พาดข้ามแม่น้ำคัตสึระ โดยมีภูเขาอาราชิยาม่าเป็นฉากหลัง อีกหนึ่งจุดเช็กอินของคนที่มาเที่ยวเกียวโต
อ่านต่อ
ศาลเจ้าเฮอัน จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
ศาลเจ้าเฮอัน (Heian Shrine) อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมืองเกียวโต สร้างขึ้นในโอกาสครบรอบ 1,100 ปีของการก่อตั้งเมืองหลวงในเกียวโต และอุทิศให้กับดวงวิญญาณของจักรพรรดิองค์แรกและองค์สุดท้ายที่ครองเมือง
อ่านต่อ
ศาลเจ้าเมจิ จังหวัดโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
ศาลเจ้าเมจิ เป็นศาลเจ้าที่คนญี่ปุ่นนิยมมาขอพรมากที่สุดในช่วงวันปีใหม่ ศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่ดวงวิญญาณของสมเด็จพระจักพรรดิเมจิ และสมเด็จพระจักพรรดินีโชเก็ง ตั้งอยู่ในเขตชิบูย่า กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
อ่านต่อ
โตเกียวโดม จังหวัดโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
โตเกียวโดม (Tokyo Dome) คอมเพล็กซิตี้ที่มีชื่อเสียงซึ่งรวมทุกอย่างตั้งแต่สเตเดี้ยม ศูนย์การค้า โรงแรม พิพิธภัณฑ์ ตลอดจนสวนสนุกเอาไว้อย่างครบครัน และยังเป็นสถานที่จัดกีฬาและคอนเสิร์ตระดับโลกอยู่บ่อยครั้ง ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองหลวงแห่งแดนอาทิตย์อุทัย
อ่านต่อ
เทศกาลแมวผี บาเกะเนโกะ จังหวัดโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
เทศกาลแมวผี บาเกะเนโกะ (Bake Neko (Supernatural Cat) Festival) คือเทศกาลที่ผู้คนจะแต่งตัวเป็นผีแมวออกมาเดินพาเหรดอย่างคึกคัก สนุกสนาน และเต็มไปด้วยสีสัน ที่คากุระซากะ (Kagurazaka) เขตชินจูกุ ใจกลางเมืองโตเกียว ในช่วงกลางเดือนตุลาคมของทุกปี
อ่านต่อ
สะพานชินเคียว จังหวัดโทจิงิ ประเทศญี่ปุ่น
สะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge) เหนือแม่น้ำไดยากาวะ (Daiyagawa) เป็นสิ่งปลูกสร้างของ "ศาลเจ้านิกโก้ฟุตาระซาน" โดยสีแสดสวยงามของสะพานไม้แห่งนี้เป็นสีที่มาจากการเคลือบด้วยยางไม้ สะพานชินเคียวได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1999
อ่านต่อ
ปราสาทอาโอบะ จังหวัดมิยางิ ประเทศญี่ปุ่น
ปราสาทอาโอบะ (Aoba) หรือ ปราสาทเซนได ปราสาทเก่าแก่บนเนินเขาสูงที่สร้างโดยเจ้าผู้ครองเมืองเซนไดคนแรก
อ่านต่อ
ถนนคลิสโรด จังหวัดมิยางิ ประเทศญี่ปุ่น
ถนนคลิสโรด (Clis Road) ถนนสายช็อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของเมืองเซ็นได กับพื้นที่กว้างขวางทอดยาวไปหลายช่วงตึก ถนนสายนี้มีสินค้าให้เลือกหลากหลายตั้งแต่อาหารร้านอร่อย คาเฟ่ ศูนย์เกมส์ ไปจนถึงแบรนด์เนมระดับไฮเอนด์
อ่านต่อ
ตลาดปลาชิโองามะ จังหวัดมิยางิ ประเทศญี่ปุ่น
ตลาดปลาชิโองามะ (Shiogama Fish Market) ถือเป็นตลาดปลาที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และเรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางการค้าปลาที่คึกคักของภูมิภาคโทโฮคุ
อ่านต่อ