สะพานริอัลโต เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี

  • อ่าน (5,972)
  • By Webmaster
  • 09:13:28 | 29 เม.ย. 2563

สะพานริอัลโต เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี

Ponte di Rialto, Venice, Italy


สะพานริอัลโตข้ามคลองแกรนด์คาแนลในย่านศูนย์กลางการค้าของเมืองเวนิส

           สะพานริอัลโต (Ponte di Rialto / Rialto Bridge) เป็นสะพานหินซุ้มโค้งเก่าแก่ที่มีอายุหลายร้อยปี ทอดข้ามคลองแกรนด์คาแนล (Grand Canal) เชื่อมพื้นที่ระหว่างเขตซานมาร์โค (San Marco) และเขตซานโปโล (San Polo) เข้าไว้ด้วยกัน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของเมืองเวนิสที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือน เพราะเป็นแลนด์มาร์กที่ตั้งอยู่กลางแหล่งช้อปปิ้ง และเป็นจุดชมวิวคลองแกรนด์คาแนลบริเวณโค้งน้ำที่มีทัศนียภาพอันสวยงามอีกจุดหนึ่งของลำคลอง สะพานนี้จึงเป็นอีกหนึ่งในภาพจำของเมืองเวนิสที่คนทั่วโลกนึกถึง


แผนที่ตั้ง สะพานริอัลโต (Ponte di Rialto) เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี

ประวัติ

           สะพานริอัลโต เป็นหนึ่งในห้าสะพานที่ทอดข้ามคลองแกรนด์คาแนล (Grand Canal) คลองสายหลักแห่งเมืองเวนิส โดยสะพานริอัลโตเป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดาสะพานทั้งห้า สะพานนี้เชื่อมพื้นที่ระหว่างเขตซานมาร์โค (San Marco) และเขตซานโปโล (San Polo) เข้าไว้ด้วยกัน สร้างขึ้นครั้งแรกในปีค.ศ. 1173 ในรูปแบบสะพานทุ่นลอยน้ำ จากนั้นได้มีการรื้อสร้างใหม่ในรูปแบบสะพานไม้ในปีค.ศ. 1255 เพื่อรองรับการสัญจรไปมาที่หนาแน่นขึ้นของผู้คนจากการขยายตัวของตลาดริอัลโต (Rialto Market) บริเวณทำนบฝั่งตะวันออก ทำให้สะพานนี้มีชื่อเรียกว่าสะพานริอัลโตตามชื่อของตลาดที่อยู่ใกล้กัน

           ในช่วงศตวรรษที่ 15 การค้าขายบริเวณนี้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลให้สะพานไม้สึกหรอไปตามการใช้งานและได้รับการซ่อมแซมอยู่หลายครั้งเพื่อรองรับการสัญจรของผู้คนจำนวนมาก จนในที่สุดก็ได้รับการสร้างใหม่ในรูปแบบสะพานหินเพื่อให้มีความแข็งแรงคงทน ซึ่งเป็นสะพานที่ตั้งอยู่มาจนปัจจุบันนี้ โดยสะพานริอัลโตที่เราเห็นในปัจจุบันนี้ออกแบบโดยนายอันโตนิโอ ดา พอนเต (Antonio da Ponte) สถาปนิกและวิศวกรชาวเวเนเชีย การก่อสร้างเริ่มต้นขึ้นในปีค.ศ. 1588 ด้วยรูปแบบสะพานหินซุ้มโค้ง มีความยาวประมาณ 31 เมตร สร้างแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1591 ปัจจุบันสะพานนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองเวนิส และยังปรากฎอยู่ในบทประพันธ์ของของวิลเลียมเช็คสเปียร์ในเรื่อง The Merchant of Venice และฉากหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง James Bond ตอน Casino Royale อีกด้วย


กลางสะพานริอัลโตมีซุ้มประตูโค้งจึงมีความแตกต่างจากสะพานอื่นๆ


เป็นย่านการค้าที่มีความพลุกพล่านของผู้คนและการสัญจรทางเรือ


Water-bus ขนส่งสาธารณหลักของเมืองเวนิส กำลังแล่นลอดใต้สะพานริอัลโต 


บริเวณเชิงสะพานทั้งสี่ด้านจะมีบันไดทอดขึ้นลงคลอง


จารึกบริเวณผนังด้านล่างของสะพาน 


บริเวณกึ่งกลางสะพานที่มีซุ้มประตูโค้ง


ด้านบนสะพานยังเป็นที่ตั้งของร้านค้าต่างๆ ทั้งสองข้างทางอีกด้วย 


บรรยากาศถนนช้อปปิ้งที่เชื่อมกับสะพานริอัลโต


บรรยากาศร้านค้าบริเวณใกล้กับสะพานริอัลโต 


บรรยากาศร้านค้าบริเวณใกล้กับสะพานริอัลโต 


ทัศนียภาพคลองแกรนด์คาแนลจากด้านบนสะพานริอัลโต


บริเวณริมฝั่งใกล้กันเรียงรายด้วยเรือกอนโดล่า

การเดินทางจากสนามบินเวนิสมาร์โคโปโล (Venice Marco Polo Airport / Aeroporto di Venezia-Marco Polo) ไปยังสถานีรถไฟเวเนเซียซานตาลูเซีย (Stazione di Venezia Santa Lucia)

             - รถยนต์ (Car) จาก Venice Marco Polo Airport ไปยัง Stazione di Venezia Santa Lucia มีระยะทางประมาณ 13.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 35 นาที

             - รถประจำทาง (Bus) จาก Venice Marco Polo Airport ให้เดินมายังท่ารถ Aeroporto Marco Polo เพื่อขึ้นรถบัสสาย Venezia P. Roma (ออกทุก 20 นาที) มุ่งหน้าไปยังเมือง Venice โดยเมื่อไปถึงเมืองเวนิส รถบัสจะจอดให้ลงบริเวณท่ารถ Venezia Piazzale Roma ATVO ที่จัตุรัสโรมา (Piazzale Roma) จากนั้นเดินต่อไปประมาณ 450 เมตร ก็จะถึงยัง Stazione di Venezia Santa Lucia มีระยะทางโดยรวมประมาณ 13.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 35 นาที

หมายเหตุ : Stazione di Venezia Santa Lucia เป็นสถานีรถไฟหลักของเมืองเวนิสที่มีเส้นทางเดินรถเชื่อมต่อกับเมืองต่างๆ ในประเทศอิตาลี รวมถึงเมืองต่างๆ ในประเทศแถบยุโรป แต่ขนส่งสาธารณะหลักภายในเมืองเวนิส จะใช้การเดินทางทางน้ำโดย “เรือประจำทาง” ที่เรียกว่า “Water-bus” ซึ่งมีท่าเรือครอบคลุมทั่วเมือง โดยท่าเรือบริเวณด้านหน้า Stazione di Venezia Santa Lucia มีจำนวน 4 ท่าแยกตามเส้นทางเดินเรือ ได้แก่ Ferrovia “A”, Ferrovia “B”, Ferrovia “C” และ Ferrovia “D”

การเดินทางจากสถานีรถไฟเวเนเซียซานตาลูเซีย (Stazione di Venezia Santa Lucia) ไปยังสะพานริอัลโต (Ponte di Rialto) 

 

             - เรือ (Ferry) จาก Stazione di Venezia Santa Lucia เดินไปยังท่าเรือ Ferrovia D เพื่อขึ้น Water-bus สาย 1 จากนั้นลงที่ท่าเรือ Rialto และเดินต่อไปอีกประมาณ 100 เมตร ก็จะถึงยัง Ponte di Rialto ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 24 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด

           เปิดตลอดเวลา


ท่าเรือเล็กๆ ด้านข้างสะพานริอัลโต 


นกท้องถิ่นที่อาศัยอยู่แถบนี้

อัตราค่าเข้าชม

           ไม่เสียค่าเข้าชม


ใกล้กับสะพานเป็นท่าเรือ Water-bus สถานี Rialto 


ทัศนียภาพอันสวยงามของสะพานริอัลโตสีขาวที่เรืองรองด้วยแสงไฟประดับและผืนน้ำในคลองแกรนด์คาแนลที่ระยิบระยับจากไฟสะท้อนในยามค่ำคืน
 

เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

           ตลอดทั้งปี


             นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว Ponte di Rialto สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         สะพานริอัลโต เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี

                         (Ponte di Rialto, Venice, Italy)

                         ระดับความนิยม : 

                         อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

                         เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา

                         ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                         สถานที่ตั้ง : เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี

                         โทรศัพท์ : (+39) 041 24 24

                         เว็บไซต์ : https://en.wikipedia.org/wiki/Rialto_Bridge     

                         ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/th/it/italy-weather

                                     เว็บไซต์ทางการของเมืองเวนิส https://www.veneziaunica.it/en

                                     เว็บไซต์ทางการของประเทศอิตาลี http://www.italia.it/en/home.html   

                                     เว็บไซต์การท่องเที่ยวของประเทศอิตาลี https://www.italyguides.it/en

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์

นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์

อ่านต่อ

รวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด

อ่านต่อ

หมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม

อ่านต่อ

มหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ

อ่านต่อ

มหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม

อ่านต่อ

ท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ

อ่านต่อ

กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา

อ่านต่อ

หมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ

อ่านต่อ

หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้

อ่านต่อ

หมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ