- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
- อ่าน (1,170)
- By Webmaster
- 17:01:09 | 4 มี.ค. 2567
8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
Top 8 Travel Destinations in Istanbul, Turkey
อิสตันบูล (Istanbul) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นนคร 2 ทวีป ซึ่งมีช่องแคบบอสฟอรัสเป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรปและเอเชียแห่งนี้ คือเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมานับพันๆ ปี จึงไม่น่าแปลกใจหากอิสตันบลูจะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่และงดงามทรงคุณค่ามากมายที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นยุโรปและเอเชียจากอดีตจนถึงปัจจุบัน Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูลที่หากมีโอกาสไปเยือนประเทศตุรกีไม่ควรพลาด
แผนที่แสดงตำแหน่ง 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในอิสตันบูล
1. ฮาเกีย โซเฟีย (Hagia Sophia)
ฮาเกีย โซเฟีย (Hagia Sophia) มีชื่อตรงกับความหมายภาษาอังกฤษว่า “Holy Wisdom” หรือแปลเป็นไทยได้ว่า “พระปัญญาศักดิ์สิทธิ์” ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกราวศตวรรษที่ 4 ที่นี่ถือเป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมโบสถ์ของคริสต์ศาสนิกชนตะวันตกยุคไบแซนไทน์ (Byzantine) ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นสถาปัตยกรรมทางศาสนาที่มีความยิ่งใหญ่และงดงามเท่านั้น แต่ฮาเกียโซเฟียยังได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง รวมถึงได้รับคัดเลือกให้เข้ารอบสุดท้าย 1 ใน 21 สิ่งมหัศจรรย์ในยุคใหม่เมื่อปี ค.ศ. 2007 ด้วย สิ่งปลูกสร้างแห่งนี้เคยมีบทบาทเป็นทั้งโบสถ์ในศาสนาคริสต์นานร่วม 1,000 ปี เป็นมัสยิดในศาสนาอิสลามนานเกือบ 500 ปี และเป็นพิพิธภัณฑ์มายาวนานเกือบ 100 ปี ก่อนที่ล่าสุดจะถูกศาลสูงตุรกีพิพากษาให้กลับมาทำหน้าที่มัสยิดอีกครั้งเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ปี ค.ศ. 2020 ที่ผ่านมา
ข้อมูลการเดินทาง :
- รถไฟใต้ดิน (Metro) ขึ้นรถไฟสายสีเขียว M2 (Yenikapı) ไปลงที่สถานี Vezneciler แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถราง (Tram) สายสีน้ำเงิน T1 จากสถานี Laleli – Üniversite ไปลงที่สถานี Sultanahmet แล้วเดินต่ออีก 300 เมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 20 นาที
- รถราง (Funicular) ขึ้นรถราง Funicular สายสีเทา F1 (Kabatas) ไปลงที่สถานี Kabatas Station แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถราง (Tram) สายสีน้ำเงิน T1 ที่สถานี Kabatas Tramvay istasyonu นั่งไปลงที่สถานี Sultanahmet แล้วเดินต่ออีก 300 เมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 30 นาที
เวลาปิด - เปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 09.00 น. – 17.00 น.
พิกัด GPS : 41°00'30.7"N 28°58'47.2"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฮาเกีย โซเฟีย ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/824
2. มัสยิดสุลต่านอาห์เมด (Sultan Ahmed Mosque)
มัสยิดสุลต่านอาห์เมด (Sultan Ahmed Mosque) หรือที่มักนิยมเรียกกันทั่วไปว่ามัสยิดสีน้ำเงิน (Blue Mosque) ชื่ออันมาจากสีน้ำเงินของกระเบื้องอิซนิกกว่า 20,000 ชิ้น ที่ใช้ปูตลอดแนวฝาผนังด้านในมัสยิดแห่งนี้ มัสยิดสุลต่านอาห์เมดสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 ซึ่งเป็นสมัยการปกครองของสุลต่านอาห์เมดที่ 1 แห่งจักรวรรดิออตโตมัน โดยเริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1609 และสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1616 มัสยิดแห่งนี้ประกอบด้วยหอสวดมนต์ซึ่งเป็นคอยสูง 6 ต้น ในขณะที่ฮาเกียโซเฟียมีเพียง 4 ต้น และมีโดมซึ่งมีระเบียงล้อมรอบตรงกลางมัสยิด เป็นสถาปัตยกรรมทางศาสนาที่สวยงามมีเอกลักษณ์ ภายในบริเวณของมัสยิดสุลต่านอาห์เมดกมีหลุมพระศพสุลต่านอาห์เมดที่ 1 ผู้โปรดให้สร้างมัสยิดแห่งนี้อยู่ โดยพระองค์ได้สิ้นพระชนม์หลังจากที่สร้างมัสยิดแห่งนี้เสร็จเพียงหนึ่งปี
ข้อมูลการเดินทาง :
- รถไฟใต้ดิน (Metro) ขึ้นรถไฟสายสีเขียว M2 (Yenikapı) ไปลงที่สถานี Vezneciler แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถราง (Tram) สายสีน้ำเงิน T1 จากสถานี Laleli – Üniversite ไปลงที่สถานี Sultanahmet ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 20 นาที
- รถราง (Funicular) ขึ้นรถราง Funicular สายสีเทา F1 (Kabatas) ไปลงที่สถานี Kabatas Station แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถราง (Tram) สายสีน้ำเงิน T1 ที่สถานี Kabatas Tramvay istasyonu นั่งไปลงที่สถานี Sultanahmet ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 30 นาที
เวลาปิด – เปิด : เปิดทุกวัน เวลาประมาณ 8.30 – 18.00 น.
พิกัด GPS : 41°00’19.5”N 28°58’36.7”E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ มัสยิดสุลต่านอาห์เมด ได้ที่ : https://www.palanla.com/th/abroadLocation/detail/821
3. ฮิปโปโดรม (Hippodrome)
คำว่า ฮิปโปโดรม (Hippodrome) มาจากคำในภาษากรีกโบราณ 2 คำ ได้แก่ คำว่า “Hippos” หมายถึง ม้า และคำว่า “Dromos” หมายถึง ทางหรือเส้นทาง ด้วยเหตุนี้บางครั้งที่นี่จึงถูกเรียกในภาษาตุรกีว่า “At Meydanı” ซึ่งหมายถึง “จัตุรัสม้า” นั่นเอง ในอดีต Hippodrome ใช้เป็นสถานที่แข่งม้าแบบดั้งเดิมของตุรกี โดยนักกีฬาในแต่ละทีมจะแข่งขันกันทำคะแนน จากการขว้างหอกไม้ทื่อไปยังฝ่ายตรงข้ามในขณะที่ขี่ม้าไปด้วย และที่นี่ยังถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานเฉลิมฉลองแห่งคอนสแตนติโนเปิล ปัจจุบันกลายเป็นสวนสาธารณะโล่งกว้างซึ่งรู้จักกันในชื่อ At Meydanı หรือ Sultanahmet Square มีสัญลักษณ์อันโดดเด่น คือ เสาโอเบลิสก์แห่งธีโอโดเซียส (The Obelisk of Theodosius) หรือที่เรียกว่า Dikilitas ในภาษาตุรกี เสาโอเบลิสก์แห่งนี้นับเป็นอนุสาวรีย์ที่เก่าแก่ที่สุดของอิสตันบูล
ข้อมูลการเดินทาง :
- รถไฟใต้ดิน (Metro) ขึ้นรถไฟสายสีเขียว M2 (Yenikapı) ไปลงที่สถานี Vezneciler แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถราง (Tram) สายสีน้ำเงิน T1 จากสถานี Laleli – Üniversite ไปลงที่สถานี Sultanahmet แล้วเดินต่ออีก 350 เมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 20 นาที
- รถราง (Funicular) ขึ้นรถราง Funicular สายสีเทา F1 (Kabatas) ไปลงที่สถานี Kabatas Station แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถราง (Tram) สายสีน้ำเงิน T1 ที่สถานี Kabatas Tramvay istasyonu นั่งไปลงที่สถานี Sultanahmet แล้วเดินต่ออีก 350 เมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 30 นาที
เวลาปิด – เปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 41°00’21.5”N 28°58’31.6”E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฮิปโปโดรม ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/823
4. พระราชวังโทพคาปิ (Topkapi Palace)
พระราชวังโทพคาปิ (Topkapi Palace) เป็นหนึ่งในพระราชวังออตโตมันที่ยังคงความงดงามอลังการ และคงสภาพเดิมที่สุด พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำในเขตเมืองเก่าของอิสตันบูลซึ่งเป็นบริเวณที่เริ่มมีการตั้งรกรากในอดีต พระราชวังโทพคาปิสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1459 ในสมัยของสุลต่านเมห์เหมดที่ 2 (Sultan Mehmed II) แห่งจักรวรรดิออตโตมันพระราชวังอายุหลายร้อยปีแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ประทับของสุลต่านแห่งจักรวรรดิออตโตมันมานานหลายพระองค์ หลายศตวรรษ ซึ่งปัจจุบันยังคงทำหน้าที่เป็นที่เก็บโบราณวัตถุอันศักดิ์สิทธิ์และทรงคุณค่าของตุรกีและเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติของตุรกี
ข้อมูลการเดินทาง :
- รถไฟใต้ดิน (Metro) ขึ้นรถไฟสายสีเขียว M2 (Yenikapı) ไปลงที่สถานี Vezneciler แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถราง (Tram) สายสีน้ำเงิน T1 จากสถานี Laleli – Üniversite ไปลงที่สถานี Sultanahmet แล้วเดินต่ออีก 650 เมตร ใช้เวลาเดินทาง 20 นาที
- รถราง (Funicular) ขึ้นรถราง Funicular สายสีเทา F1 (Kabatas) ไปลงที่สถานี Kabatas Station แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถราง (Tram) สายสีน้ำเงิน T1 ที่สถานี Kabatas Tramvay istasyonu นั่งไปลงที่สถานี Sultanahmet แล้วเดินต่ออีก 650 เมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 36 นาที
เวลาปิด – เปิด : เปิดวันพุธ – วันจันทร์ เวลา 10.00-16.00 น. (ปิดวันอังคาร)
พิกัด GPS : 41°00’42.3”N 28°59’00.4”E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พระราชวังโทพคาปิ ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/820
5. แกรนด์บาซาร์ (Grand Bazaar)
แกรนด์บาซาร์ (Grand Bazarr) ได้ชื่อว่าเป็นตลาดในร่มที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกซึ่งมีอายุเก่าแก่กว่า 1,500 ปี ตั้งอยู่ที่เมืองอิสตันบูล ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินไปกับการเลือกซื้องานฝีมือสวยๆ นับร้อยนับพันประเภทจากร้านค้ากว่า 3,000 ร้าน โดยมีตรอกซอกซอยต่างๆ ร่วม 60 ซอยที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตาภายในโครงสร้างอาคารเก่าแก่ด้วยสถาปัตยกรรมแบบออตโตมัน สินค้าที่จำหน่ายมีตั้งแต่พรมเปอร์เซีย กระเบื้องระยิบระยับ เครื่องเงิน ไข่มุก เครื่องทองเหลือง เครื่องปั้นดินเผา เสื้อผ้า ชุดระบำหน้าท้อง ของโบราณ ของตกแต่งบ้าน งานหัตถกรรมต่างๆ ไปจนถึงเครื่องเทศ
ข้อมูลการเดินทาง :
- รถประจำทาง (Bus) ขึ้นรถประจำทางสาย 46T, 73F, 76D, 145T ไปลงที่สถานี Yusufpasa แล้วขึ้นรถราง (Tram) สายสีน้ำเงิน T1 ไปลงที่สถานี Beyazıt ซึ่งอยู่ทางเข้า Grand Bazaar ได้เลย ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 30 นาที
- รถไฟใต้ดิน (Metro) ขึ้นรถไฟสายสีเขียว M2 (Yenikapı) ไปลงที่สถานี Vezneciler แล้วเดินต่ออีก 850 เมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 20 นาที
เวลาปิด – เปิด : เปิดวันจันทร์ – เสาร์ เวลา 8.30 – 19.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)
พิกัด GPS : 41°00’38.5”N 28°58’04.8”E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ แกรนด์บาซาร์ ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/822
6. ตลาดเครื่องเทศอิสตันบูล (Historical Spice Bazaar)
ตลาดเครื่องเทศ (Historical Spice Bazaar / Egyptıan Spıce Bazaar) ตั้งอยู่ที่ย่าน Eminönü ในเมืองอิสตันบูล เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก ตลาดแห่งนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ในสมัยจักรวรรดิออตโตมัน ในอดีตตลาดเครื่องเทศเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญจากเอเชียมาสู่ยุโรป จึงเป็นสถานที่ที่ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกมารวมตัวกันเพื่อซื้อขายเครื่องเทศ สมุนไพร และสินค้ามีค่าอื่นๆ ตลาดแห่งนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นศูนย์กลางการค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมอีกด้วย ภายในตลาดเครื่องเทศอิสตันบูลมีลักษณะเป็นตรอกซอกซอยเล็กๆ เรียงรายไปด้วยร้านค้ามากมาย เมื่อเดินเข้าไปในตลาดแห่งนี้จะได้กลิ่นหอมอบอวลไปด้วยเครื่องเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพริกไทย กานพลู อบเชย และลูกจันทน์เทศ นอกจากเครื่องเทศแล้วยังขายสมุนไพร ถั่ว ผลไม้แห้ง และขนมหวานนานาประเภท
ข้อมูลการเดินทาง :
- รถราง (Tram) จากป้าย Taksim นั่งรถรางสาย 121 CS Sultanahmet ไปลงที่ป้าย Egyptıan Spıce Bazaar ได้เลย ใช้เวลา 20 นาที
เวลาปิด – เปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8.00 น. – 19.00 น. (ยกเว้นวันอาทิตย์ ปิดทำการ)
พิกัด GPS : 41°00’59.5”N 28°58’13.8”E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ตลาดเครื่องเทศอิสตันบูล ได้ที่ : https://www.palanla.com/th/abroadLocation/detail/2757
7. อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Sarnici)
อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Sarnici) เป็นอ่างเก็บน้ำใต้ดินขนาดใหญ่ที่สามารถกักเก็บน้ำได้มากถึง 88,000 ลูกบาศก์เมตร ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 6 ในสมัยจักรพรรดิ์จัสติเนียนที่ 1 แห่งจักรวรรดิไบแซนไทน์ เคยถูกใช้เป็นแหล่งเก็บน้ำหลักของกรุงคอนสแตนติโนเปิล (อิสตันบูลในปัจจุบัน) มาเป็นเวลาหลายศตวรรษ ก่อนที่จะถูกค้นพบโดยบังเอิญในปี ค.ศ. 1545 โดยนักวิจัยชาวฝรั่งเศส อุโมงค์เก็บน้ำแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลนักจากฮาเกีย โซเฟีย ถือเป็นอุโมงค์เก็บน้ำใต้ดินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเมืองอิสตันบูล มีความกว้างประมาณ 64.6 เมตร ยาว 138 เมตร สูง 9 เมตร กับเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างเสากรีกที่ค้ำเรียงรายมากถึง 336 ต้น และเสาเมดูซ่าพร้อมตำนานที่เล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคน
ข้อมูลการเดินทาง :
- รถประจำทาง (Bus) จาก Taksim นั่งรถประจำทางสาย 121CS ไปลงที่ป้าย Sultanahmet ใช้เวลา 35 นาที แล้วเดินต่ออีก 130 เมตรเพื่อไปยัง Yerebatan Sarnici
- รถราง (Tram) จากสถานี Fındıklı-Mımar Sınan Ünıversıtesı ขึ้นรถรางสาย T1 Bağcılar ไปลงที่สถานี Sultanahmet ใช้เวลา 14 นาที แล้วเดินต่ออีกประมาณ 200 เมตรเพื่อไปยัง Yerebatan Sarnici
เวลาปิด – เปิด : เปิดทุกวัน เวลา 9.00 - 22.00 น.
พิกัด GPS : 41°00’30.1”N 28°58’40.2”E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน ได้ที่ : https://www.palanla.com/th/abroadLocation/detail/2758
8. ล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise)
ช่องแคบบอสฟอรัส เป็นช่องแคบเล็กๆ ที่เชื่อมต่อทะเลดำ (Black Sea) กับทะเลมาร์มะรา (Marmara Sea) เข้าด้วยกัน ช่องแคบนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของตุรกี โดยเคยเป็นทั้งเส้นทางการค้าที่สำคัญและยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาจนถึงปัจจุบัน การล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) จึงเป็นวิธีที่ดีที่จะได้สัมผัสบรรยากาศ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมที่หลากหลายของเมืองอิสตันบูล บริเวณสองฝั่งทะเลเรียงรายไปด้วยพระราชวัง โบสถ์ มัสยิด ป้อมปราการ คฤหาสน์ และสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ที่มีสถาปัตยกรรมสวยงาม ซึ่งเป็นการผสมผสานวัฒนธรรมแบบธรรมยุโรปและเอเชียเข้าด้วยกัน การล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัสแบบสั้นๆ จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง มีตั้งแต่รอบเวลาประมาณ 10.30 – 16.55 น. ตั๋วราคา 65 - 120 ลีราตุรกี (TRY)
ข้อมูลการเดินทาง :
- รถราง (Tram) จากป้าย Taksim นั่งรถรางสาย 121 CS ไปลงที่ป้าย Egyptıan Spıce Bazaar ใช้เวลา 18 นาที แล้วเดินต่ออีก 600 เมตรไปยังท่าเรือ Eminonu Pier
เวลาปิด - เปิด : ทัวร์ล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัสมีตั้งแต่รอบเวลาประมาณ 10.30 – 16.55 น.
พิกัด GPS : 41°01'06.8"N 28°58'14.8"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส ได้ที่ : https://www.palanla.com/th/abroadLocation/detail/2759
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ :
- เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ
https://www.accuweather.com
- ข้อมูลการท่องเที่ยวอิสตันบูล
https://visit.istanbul/
- สกุลเงินที่ใช้ : ลีราตุรกี (TRY)
แอปพลิเคชัน "บริการรถแท็กซี่" ในประเทศตุรกี
- Uber สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
- BiTaksi สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
- iTaksi สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
แอปพลิเคชัน "แผนที่ในการนำทาง" ในประเทศตุรกี
- Google Map สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อรวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อ