- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- มั่วเกา ถ้ำแกะสลักพระพุทธรูปพันองค์ เมืองตุนหวง ประเทศจีน
มั่วเกา ถ้ำแกะสลักพระพุทธรูปพันองค์ เมืองตุนหวง ประเทศจีน
- อ่าน (5,832)
- By Webmaster
- 15:46:01 | 16 พ.ย. 2560
มั่วเกา ถ้ำแกะสลักพระพุทธรูปพันองค์ เมืองตุนหวง ประเทศจีน
莫高窟, Mogao Caves, The Thousand Buddha Grottoes, Dunhuang City, China
ถ้ำมั่วเกา (莫高窟 หรือ Mogao Caves) หรือถ้ำหินแกะสลักพระพุทธรูปพันองค์ ตั้งอยู่ในเขตตุนหวง เมืองจิ่วเฉวียน มณฑลกานซู ประเทศจีน
ถ้ำมั่วเกาสร้างขึ้นตามคติความเชื่อในศาสนาพุทธ นิกายมหายาน โดยการเจาะ,ขุดและแกะสลักหน้าผา เพื่อให้เป็นศาสนสถาน นอกจากนี้ภายในถ้ำยังเต็มไปด้วยงานประติมากรรม, งานจิตรกรรม รวมถึงโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าต่อประวัติศาสตร์อีกมากมาย จึงได้รับ การยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี 1987 และถูกจัดเป็น หนึ่งในสามแหล่งปฎิมากรรมพุทธศิลป์ที่ งดงามที่สุดในประเทศจีน ร่วมกับถ้ำอวิ๋นกังและถ้ำหลงเหมิน โดยในปัจจุบันได้มีการค้นพบถ้ำทั้งหมด 492ถ้ำ และโบราณวัตถุอีกนับ 10,000 ชิ้น บนพื้นที่รวม 45,000 ตารางเมตร
ทางเข้าชมถ้ำมั่วเกาที่ยิ่งใหญ่
หนึ่งในหลายสถูปที่อยู่ในบริเวณถ้ำมั่วเกา
ภาพถ่ายศิลปวัตถุต่างๆที่อยู่ในถ้ำ
รูปปั้นเทพธิดาซึ่งผสมผสานกันระหว่างศิลปะจีนกับอินเดีย
ประวัติศาสตร์กับการค้นพบถ้ำมั่วเกา
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของถ้ำมั่วเกาอยู่ในสมัยสิบหกแคว้น (304-439 AD) ขณะที่ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นเชื่อว่าหลวงจีนเล่อจวิน เป็นคนแรกที่ริเริ่มการสร้างถ้ำในปี 366 ก่อนจะได้รับการสนับสนุนและสร้างสืบทอดต่อมาเรื่อยๆถึงสมัยราชวงศ์หยวน (1271 – 1368 AD) รวมเป็นระยะเวลานานนับพันปี ก่อนที่จะหยุดชะงักไปเพราะปัญหาจากสงคราม
ร่องรอยในอดีตของถ้ำมั่วเกา
ต่อมาในปี 1900 สมัยราชวงศ์ชิง นักพรตเต๋าหวังหยวนลู่ได้พบทางเข้าสู่ถ้ำห้องสมุด(ปัจจุบันคือถ้ำหมายเลข 17) โดยบังเอิญ ภายในถ้ำเต็มไปด้วยหนังสือบันทึกโบราณหลายภาษา รวมถึงโบราณวัตถุรวมกว่าหมื่นชิ้น ทำให้ถ้ำนี้เป็นที่สนใจของชาวต่างชาติและเกิดการลักลอบนำวัตถุโบราณต่างๆของถ้ำออกนอกประเทศไปมากมาย กระทั่งรัฐบาลจีนได้เริ่มเข้ามาจัดการยับยั้งการลักลอบและอนุรักษ์ฟื้นฟูถ้ำในปี 1943 (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://en.dha.ac.cn/)
การเดินทางไปเขตตุนหวง
เขตตุนหวง ตั้งอยู่ในเมืองจิ่วเฉวียน มณฑลกานซู เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญมากมาย เขตตุนหวงจึงมีทั้งท่าอากาศยานภายในประเทศและบริการขนส่งสาธารณะอื่นๆให้เลือกใช้ คือ
เมืองเจียอวี้กวน-->เขตตุนหวง
เมืองเจียอวี้กวนตั้งอยู่ห่างจากเขตตุนหวง 372 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการเครื่องบินมาลงที่เมืองเจียอวี้กวน และเดินทางต่อมายังเขตตุนหวงได้โดยการเลือกใช้บริการ
- รถไฟ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางด้วย รถไฟมาตรฐาน จากเมืองเจียอวี้กวนมายังเขตตุนหวงได้ โดยใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง - 5½ ชั่วโมง ซึ่งการเดินทางด้วยรถไฟเป็นการเดินทางที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมอย่างมาก ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถเช็ครอบรถไฟและจองตั๋วการเดินทางออนไลน์ได้ที่ http://www.12306.cn/mormhweb/ (ภาษาจีน) หรือ https://english.ctrip.com/trains/ (ภาษาอังกฤษ)
- รถบัส ใช้เวลาในการเดินทางจากเมืองเจียอวี้กวนไปยังเขตตุนหวงเพียง 3½ - 4 ชั่วโมง และยังมีรอบการเดินทางให้เลือกวันละหลายรอบ จึงเป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยม
- รถยนต์ / แท็กซี่สาธารณะ อีกหนึ่งการเดินทางที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เนื่องจากเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายที่สุด และนักท่องเที่ยวยังสามารถเจรจาต่อรองกับแท็กซี่สาธารณะรวมถึงขอคำแนะนำสำหรับการท่องเที่ยวได้ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถเรียกใช้บริการได้จากทุกแห่งในเมืองหรือเรียกใช้บริการจากโรงแรมที่พักก็ได้
เมืองหลันโจว-->เขตตุนหวง
เมืองหลันโจวเป็น เมืองเอกของมณฑลกานซู อยู่ห่างจากเขตตุนหวงประมาณ 1,096 กิโลเมตร การเดินทางต่อไปยังเขตตุนหวง นักท่องเที่ยวจึงสามารถเลือกเดินทางได้หลายวิธี คือ
- เครื่องบิน สนามบินเขตตุนหวงตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเขตไปทางตะวันออกเพียง 13 กิโลเมตร การเดินทางด้วยเครื่องบินมายังเขตตุนหวงจึงถือเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายอย่างยิ่ง และยังถือเป็นการเดินทางที่รวดเร็วที่สุดอีกด้วย
- รถไฟ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการได้ ทั้งรถไฟมาตรฐาน และรถไฟหัวกระสุนความเร็วสูง โดยเวลาในการเดินทางของรถไฟมาตรฐานคือ 12½ - 16 ชั่วโมง ขณะที่เวลาในการเดินทางของรถไฟหัวกระสุนความเร็วสูงคือ 6½ - 7½ ชั่วโมง โดยรถไฟทั้งสองแบบต่างมีรอบการเดินทางให้เลือกวันละหลายรอบ จึงเป็นอีกการเดินทางที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยม นักท่องเที่ยวสามารถเช็ครอบรถไฟและจองตั๋วออนไลน์ได้ที่ http://www.12306.cn/mormhweb/ (ภาษาจีน) หรือ https://english.ctrip.com/trains/ (ภาษาอังกฤษ)
- รถบัส เนื่องจากระยะทางกว่า 1,000 กิโลเมตร การเดินทางด้วยรถบัสจากเมืองหลันโจวไปเขตตุนหวงจึงใช้เวลา 17 – 24 ชั่วโมง ซึ่งเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบพักผ่อนระยะยาวระหว่างการเดินทาง นอกจากนี้ยังมีรอบการเดินทางให้เลือกใช้บริการวันละหลายรอบอีกด้วย
การเดินทางไปถ้ำมั่วเกา
ถ้ำมั่วเกา ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเขตตุนหวงไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 25 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาถึงเขตตุนหวง สามารถเดินทางต่อไปได้โดย
- แท็กซี่ มีค่าบริการเริ่มต้นเพียง 5 หยวนเท่านั้น เป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
- รถโดยสารสาธารณะ จากเขตเมืองตุนหวงและสถานนีรถไฟ นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถบัสเล็กที่วิ่งตรงมายังบริเวณหน้าถ้ำมั่วเกาได้ โดยมีค่าบริการเพียง 8 หยวน/คน
การซื้อบัตรผ่านเข้าชมถ้ำมั่วเกา
จุดบริการรับตั๋วด้วยตนเอง
เนื่องจากถ้ำมั่วเกาก่อสร้างมานับพันปีแล้ว จึงมีนโยบายในการเข้าชมเพื่ออนุรักษ์สถานที่โดยการ จำกัดผู้เข้าชม 6,000 คน/วัน เท่านั้น นักท่องเที่ยวสามารถจองตั๋วสำหรับเข้าชมถ้ำมั่วเกาล่วงหน้าได้จากศูนย์บริการการท่องเที่ยวในเมือง หรือจองออนไลน์ได้ที่เว็บไซค์ http://www.mgk.org.cn/
โดยบัตรผ่านสำหรับเข้าชมถ้ำมั่วเกามี ราคาต่างกันไปตามช่วงฤดูกาล คือ
ฤดูกาลท่องเที่ยว (เดือนเมษายน – เดือนตุลาคม) ราคา 160 หยวน/คน (รวมค่าไกค์ภาษาจีน) หรือ 180 หยวน/คน (รวมค่าไกค์ภาษาอังกฤษ)
นอกฤดูท่องเที่ยว (เดือนพฤศจิกายน – เดือนมีนาคม) ราคา 80 หยวน/คน (รวมค่าไกค์ภาษาจีน) หรือ 100 หยวน/คน (รวมค่าไกค์ภาษาอังกฤษ)
เวลาในการเปิด-ปิดทำการ
ถ้ำมั่วเกาเปิดให้บริการเที่ยวชม ทุกวัน โดยเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 8.30 – 18.00 น. ในฤดูกาลท่องเที่ยว และ 9.00 – 17.30 น. สำหรับนอกฤดูกาลท่องเที่ยว
อากาศที่แจ่มใสทำให้เก็บภาพศิลปะลายไม้ได้ชัดเจนขึ้น
การเข้าชมภายในถ้ำมั่วเกา
ภาพแผนที่ถ้ำมั่วเกา
หลังจากนักท่องเที่ยวรับตั๋วที่ช่องจำหน่ายตั๋วแล้ว สามารถเดินมาใช้บริการรถบัสเพื่อเดินทางต่อไปยังด้านในได้
รถบัสให้บริการพานักท่องเที่ยวเข้าไปด้านใน
โดยจุดที่รถบัสพานักท่องเที่ยวไปส่ง สามารถแบ่งออกเป็น 2 จุดหลักๆได้ คือ
- จุดที่ 1 ถ้ำหินแกะสลักมั่วเกา
ด้านหน้าผาหินที่ถูกาลักเป็นถ้ำ
ถ้ำแกะสลักหินมั่วเกา หรือหน้าผาของภูเขาที่ถูกขุดและเจาะเป็นช่อง รวมถึงถูกสลักและแต่งเติมเป็นประติมากรรมตามคติของพุทธศาสนา รวมถ้ำทั้งหมด 492 ถ้ำ โดย ถ้ำที่ใหญ่ที่สุดคือ “ถ้ำมั่วเกา” ซึ่งได้กลายมาเป็นชื่อของสถานที่แห่งนี้นั่นเอง
นักท่องท่องเที่ยวสามารถเดินตามทางเดินที่จัดไว้ให้ จากนั้นเลือกเดินตามไกค์ของสถานที่ซึ่งจะพาชมถ้ำหลักต่างๆพร้อมคำบรรยาย หรือสามารถเลือกเข้าชมตามถ้ำอื่นๆที่เปิดให้เข้าชมตามความพอใจของตนเองได้เช่นกัน
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ หลายจุดในถ้ำมั่วเกาจึงมีการติดประกาศ ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยว งดถ่ายภาพ บริเวณในถ้ำ
ด้านหน้าของถ้ำหินมั่วเกา
ถ้ำเล็กอื่นๆก็มีเปิดให้เข้าชมเช่นกัน
ด้านหน้าถ้ำบางแห่งจะบอกประวัติศิลปะภายใน
บางถ้ำจะมีป้ายบอกรายละเอียดสิ่งที่น่าสนใจภายใน
- จุดที่ 2 Digital Exhibition Center
นิทรรศการภายใน Digital Exhibition Center
รายละเอียดการอนุรักษ์ฟื้นฟูที่จัดแสดงใน Digital Exhibition Center
เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่เพิ่งเปิดให้บริการในปี 2014 ที่ผ่านมา โดยที่แห่งนี้จะเก็บรวบรวมประวัติของถ้ำมั่วเกาในอดีต รวมถึงนิทรรศการแสดงรายละเอียดในการอนุรักษ์และฟื้นฟูถ้ำโดยรัฐบาลจีนตั้งแต่ปี 1943 จนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงอุปกรณ์สำหรับงานศิลป์ต่างๆในถ้ำ และห้องสำหรับฉายภาพยนตร์เกี่ยวกับถ้ำมั่วเกาอีกด้วย
การพยายามฟื้นฟูของรัฐบาลจีนตลอดหลายปีที่ผ่านมาที่จัดแสดง
อุปกรณ์จิตรกรรมที่เคยใช้ในอดีต
สีสำหรับเขียนจิตรกรรมสมัยโบราณ
ภาพจิตรกรรมโบราณจากบางถ้ำที่ไม่เปิดให้เข้าชมแต่จัดแสดงใน Digital Exhibition Center แทน
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ถ้ำมั่วเกาในวันที่อากาศแจ่มใส
เดือนเมษายน – เดือนตุลาคม เป็น ช่วงเวลาที่ดีที่สุด สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเที่ยวถ้ำมั่วเกา เนื่องจากถ้ำมั่วเกาตั้งอยู่ในเขตตุนหวง ซึ่งรายล้อมไปด้วยทะเลทราย การไปท่องเที่ยวในเดือนดังกล่าวซึ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะในฤดูหนาวอาจมีหิมะตก ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางไปเที่ยว เช่นเดียวกับในฤดูร้อนที่อากาศจะร้อนจัดเกินไป และอาจมีพายุฝนฤดูร้อน ซึ่ง หากเป็นวันที่มีสภาพอากาศดังกล่าว ถ้ำมั่วเกาอาจหยุดให้บริการได้
ท้องฟ้าที่สดใส จะทำให้เห็นลวดลายของจิตรกรรมชัดเจนขึ้น
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวควรตรวจสอบพยากรณ์อากาศเพื่อวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวล่วงหน้า ได้ที่ https://www.accuweather.com/ และเพื่อให้ชื่นชมความงามของถ้ำมั่วเกาและศึกษาประวัติจากนิทรรศการได้ครบถ้วน นักท่องเที่ยว ควรใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมงในการเที่ยวชม ทั้งถ้ำมั่วเกาและ Digital Exhibition Center
ที่พักและร้านอาหารบริเวณถ้ำมั่วเกา
บริเวณ ใกล้กับลานจอดรถของถ้ำมั่วเกา มีร้านจำหน่ายอาหาร ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถเลือกใช้บริการที่พักแรมที่อยู่บริเวณรอบๆถ้ำมั่วเกาในระยะ 10 กว่ากิโลเมตร เพื่อความสะดวกในการเดินทางและยังสัมผัสบรรยากาศการพักแรมในทะเลทรายได้
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้ในการเที่ยวถ้ำมั่วเกา
ถ้ำมั่วเกาเป็นถ้ำที่สลักจากหน้าผาของภูเขา และรายล้อมไปด้วยทะเลทราย สภาพอากาศระหว่างวันจึงมีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก ในหนึ่งวันอาจมีอุณหภูมิสูงสุดและต่ำสุดต่างกันได้มากกว่า 10 องศาเซลเซียส นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวจึงควรเตรียมเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของอากาศไปให้พร้อม
ทั้งนี้ ถ้ำมั่วเกาอนุญาตให้นักท่องเที่ยวพกพากระเป๋าสตางค์ หรือกระเป๋าสะพายใบเล็กติดตัวเข้าไปด้วยเท่านั้น สัมภาระขนาดใหญ่ ต้องฝากไว้ที่จุดบริการตู้รับฝาก ก่อน และแม้นักท่องเที่ยวจะสามารถเลือกเดินเที่ยวชมตามกลุ่มที่ไกค์นำไปตามเส้นทางหลักใหญ่ๆ หรือเลือกชมถ้ำเล็กอื่นๆที่เปิดให้ชมด้วยตนเอง แต่ในถ้ำมั่วเกานั้น ไม่อนุญาต ให้ใช้บริการไกค์จากภายนอก โดยเด็ดขาด
นักท่องเที่ยวที่เตรียมมาทั้งหมวกสำหรับกันแดดร้อนและเสื้อสำหรับกันลมหนาว
กระเป๋าที่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าไปได้ ต้องไม่ใช่กระเป๋าสัมภาระขนาดใหญ่
และสำหรับนักท่องเที่ยวที่ ไม่มีพื้นฐานหรือไม่สันทัดภาษาจีน ควรเตรียมหนังสือรวมคำศัพท์, บทสนทนาพื้นฐานในภาษาจีน หรือแอพพลิเคชั่นเพื่อการแปลภาษาอาทิ Google Translate ไว้เผื่อ เนื่องจากป้ายต่างๆในเขตตุนหวงส่วนมากเป็นภาษาจีน มีเพียงในโรงแรมบางแห่ง หรือในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญเท่านั้นที่มีป้ายภาษาอังกฤษ
ป้ายที่โดยมากมักเป็นภาษาจีน มีภาษาอังกฤษเพียงเล็กน้อย
ทั้งนี้มีข้อควรระวัง คือ การใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศจีน จะไม่สามารถเข้า เว็บไซต์ Google (รวมถึงแอพลิเคชั่นต่างๆ เช่น Google Translate), Facebook และ Instagram หากนักท่องเที่ยวที่ต้องการใช้งานเว็ปไซต์ดังกล่าว ควร ใช้ซิมโทรศัพท์จากประเทศอื่น และเปิดใช้บริการโรมมิ่งข้ามประเทศ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ใช้ บริการอินเตอร์เน็ตของประเทศจีน สามารถค้นหาข้อมูลต่างๆได้จาก เว็บไซต์ www.baidu.com แทน www.google.com ส่วนโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่นที่นิยมใช้สนทนาผ่านทางอินเตอร์เน็ต คือ โปรแกรม WeChat และ Weibo
นักท่องเที่ยวที่รอเข้าชมยังคงมีจำนวนมาก แม้จะมีการจำกัดจำนวนแล้วก็ตาม
ถ้ำหินต่างๆที่ถูกสลักผ่านกาลเวลานับพันปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม ถ้ำมั่วเกา สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ถ้ำหินแกะสลักมั่วเกา เมืองตุนหวง ประเทศจีน
(莫高窟, Mogao Caves, The Thousand Buddha Grottoes, Dunhuang City, China)
อัตราค่าเข้าชม : ฤดูท่องเที่ยว 160 หยวน/คน (รวมค่าไกค์ภาษาจีน) หรือ 180 หยวน/คน (รวมค่าไกค์ภาษาอังกฤษ)
นอกฤดูท่องเที่ยว 80 หยวน/คน (รวมค่าไกค์ภาษาจีน) หรือ 100 หยวน/คน (รวมค่าไกค์ภาษาอังกฤษ)
เวลาเปิด – ปิด : ฤดูท่องเที่ยว 08.00 – 18.00 น. ของทุกวัน / นอกฤดูท่องเที่ยว 09.00 – 17.30 น. ของทุกวัน
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : เดือนเมษายน – เดือนตุลาคม
ตั้งอยู่ที่ : เขตตุนหวง เมืองจิ่วเฉวียน มณฑลกานซู ประเทศจีน
โทรศัพท์ : (+86)0937-882-5000 เว็บไซต์ : http://en.dha.ac.cn/list.aspx?id=241075793399
ระดับความนิยม :
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : จองตั๋วเข้าชมออนไลน์ http://www.mgk.org.cn/
พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
จองตั๋วรถไฟ(ภาษาจีน) http://www.12306.cn/mormhweb/
จองตั๋วรถไฟ(ภาษาอังกฤษ) https://english.ctrip.com/trains/
บริการรถเช่าพร้อมคนขับ ประเภทรถตู้ Mercedes-Benz Vito 8 ที่นั่ง ราคา 7,000 บาท/วัน/10 ชั่วโมง
(ติดต่อ จางซือฝุ WeChat ID. wxid_ps2q57hls52f41)
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
หน้าผาโทจินโบ จังหวัดฟุกุอิ ประเทศญี่ปุ่น
หน้าผาโทจินโบ (Tojinbo) ตั้งอยู่ในจังหวัดฟุกุอิ (Fukui) ทางภาคตะวันออกของประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ ด้วยความงามของหน้าผาที่สูงชันและวิวทิวทัศน์ที่น่าทึ่ง และไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความงามจากธรรมชาติ แต่ยังแฝงไปด้วยตำนานและความเชื่อที่ลึกซึ้งด้วย
อ่านต่อเมจิจิงกูไกเอ็น กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
เมจิจิงกูไกเอ็น (Meiji Jingu Gaien) หรือ สวนด้านนอกศาลเจ้าเมจิ เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ในย่านชินจูกุและอาโอยามะของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น สวนนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของถนนต้นแปะก๊วยสีเหลืองทองที่สวยงาม ทอดยาวสุดลูกหูลูกตาในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
อ่านต่อปราสาทฮิโกเนะ จังหวัดชิงะ ประเทศญี่ปุ่น
ปราสาทฮิโกเนะ (Hikone Castle) เป็นหนึ่งในปราสาทดั้งเดิมไม่กี่แห่งของญี่ปุ่นที่ยังคงสภาพสมบูรณ์อยู่จนถึงปัจจุบัน ด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามและประวัติศาสตร์อันยาวนาน ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดชิงะ
อ่านต่อถนนทิวสนเมตาซีคัวญา จังหวัดชิงะ ประเทศญี่ปุ่น
ถนนทิวสนเมตาซีคัวญา (Metasequoia Namiki Avenue) ในจังหวัดชิงะ ประเทศญี่ปุ่น คือถนนที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน 100 ถนนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นจุดชมธรรมชาติที่ผู้คนหลั่งไหลมาเยี่ยมชมอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ทิวสนเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอร่ามตลอดสองข้างถนน
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจาง – ดาลัด ประเทศเวียดนาม
หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองชายทะเลสุดคึกคักอากาศอบอุ่น แล้วไปผ่อนคลายในเมืองแห่งภูเขาอากาศเย็นสบายที่เวียดนามใต้ ญาจางและดาลัดคือคำตอบ! สองเมืองนี้จะพาคุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมที่หลากหลาย Palanla ได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจางและดาลัดมาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่ออาสนวิหารญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
อาสนวิหารญาจาง (Christ the King Cathedral Nha Trang) หรือ โบสถ์หินญาจาง สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม อายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง ด้วยผนังหินสีน้ำตาลเข้มที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง และหลังคาสูงชะลูดที่ดูอลังการ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว
อ่านต่อหาดญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หาดญาจาง (Nha Trang Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศเวียดนาม ด้วยชายรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ความยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่โอบล้อมอ่าวญาจาง ในจังหวัดหวัดคั้ญฮวา ท่ามกลางภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญๆ มากมาย
อ่านต่อหอคอยแตร่มเฮือง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หอคอยแตร่มเฮือง (Tram Huong Tower) สัญลักษณ์และจุดเช็กอินยอดนิยมของหาดญาจางในปัจจุบัน
อ่านต่อวินเพิร์ลแลนด์ เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วินเพิร์ลแลนด์ (Vinpearl Land) เป็นสวนสนุกและรีสอร์ตหรูครบวงจรระดับโลกที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่สวยงามติดทะเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของการไปเที่ยวที่นี่คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก
อ่านต่อวัดลองเซิน เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระใหญ่” เป็นวัดพุทธมหายานเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม นอกจากความสวยงามอลังการของตัววัดแล้ว จากยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของเมืองญาจางและทะเลได้อย่างสวยงาม
อ่านต่อ