พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก และสวนนิมเฟนเบิร์ก เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี

  • อ่าน (5,773)
  • By Webmaster
  • 17:40:18 | 24 เม.ย. 2563

พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก และสวนนิมเฟนเบิร์ก เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี

Nymphenburg Palace and Park, Munich, Germany


พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก และคลอง Central Canal ภายในสวนนิมเฟนเบิร์ก

           พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก และสวนนิมเฟนเบิร์ก (Nymphenburg Palace and Park) ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองมิวนิค แต่เดิมเป็นพระราชวังฤดูร้อนของราชวงศ์บาวาเรียมาหลายศตวรรษ ภายในแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ บริเวณพระราชวังและพิพิธภัณฑ์ (Nymphenburg Palace with Marstallmuseum) พิพิธภัณฑ์เครื่องลายคราม (Nymphenburg Porcelain Museum) และบริเวณสวนของพระราชวัง (Nymphenburg Park Pavilions) ตัวพระราชวังและสวนได้รับการออกแบบและตกแต่งแบบผสมผสานในสไตล์ฝรั่งเศสและอังกฤษ จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในศูนย์รวมแบบอย่างงานศิลป์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป จึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กยอดนิยมของเมืองมิวนิคที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชม 


แผนที่ตั้งพระราชวังนิมเฟนเบิร์ก และสวนนิมเฟนเบิร์ก (Nymphenburg Palace and Park) เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี

ประวัติ

           พระราชวังนิมเฟนเบิร์กเป็นพระราชวังฤดูร้อนที่สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1662 เพื่อต้อนรับการประสูติขององค์รัชทายาทแม็ก เอ็มมานูแอล (Max Emanuel) ผู้เป็นพระราชโอรสในเจ้านครรัฐผู้คัดเลือกแห่งอาณาจักรบาวาเรีย เฟอร์ดินันด์ มาเรีย (Bavarian Elector Ferdinand Maria) กับพระนางเฮนเรียต อเดลเลด แห่งซาวอย (Henriette Adelaide of Savoy) หลังจากการรอคอยอย่างยาวนานมาถึงสิบปีตั้งแต่อภิเษกสมรส

           ต่อมาเมื่อองค์รัชยาทายาทขึ้นครองราชย์เป็น เจ้านครรัฐผู้คัดเลือกแห่งอาณาจักรบาวาเรีย แม็กซ์ เอ็มมานูเอล (ในช่วงปีค.ศ. 1680 - ค.ศ. 1726) พระองค์จึงมีพระประสงค์ให้ขยับขยายพระราชวังออกไปทางด้านเหนือและด้านใต้ การก่อสร้างได้เริ่มขึ้นในปีค.ศ. 1701 โดยนายสถาปนิกเฮนรีโค ซัคแคลลี (Henrico Zuccalli) แต่การก่อสร้างก็มีเหตุต้องหยุดชะงักไปในช่วงปีค.ศ.1704 ถึง ค.ศ.1715 เนื่องด้วยสงครามสืบราชบัลลังก์สเปน (Spanish War of Succession) ที่พระองค์ต้องเสด็จไปทรงงานนอกอาณาจักรบาวาเรียอยู่หลายปี

           เมื่อพระองค์เสด็จพระราชดำเนินกลับมายังเมืองมิวนิคในปีค.ศ. 1715 พระองค์ทรงพาศิลปินชาวฝรั่งเศสหลายคนกลับมาด้วย เพื่อสานต่อการขยายพระราชวังออกไปในรูปแบบฝรั่งเศสที่นำสมัยที่สุดในยุคนั้น ภายใต้การร่วมงานกับนายสถาปนิกโจเซฟ เอฟเนอร์ (Joseph Effner) และโดมินิก จีราร์ด (Dominique Girard) ศิลปินนักออกแบบสวน ในส่วนของทัศนียภาพที่มองจากด้านในแกลเลอรี่ของพระราชวังนิมเฟนเบิร์กนั้นดูแลโดยนายฟรังซ์ โจชิม เบช (Franz Joachim Beich) และนายโจแอน แบพทิสท์ ชิมเมอร์แมนน์ (Johann Baptist Zimmermann) ผู้ดูแลงานปูนปั้นฝีมือเอก ด้วยเหตุนี้พระราชวังจึงได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในศูนย์กลางงานศิลป์ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป

           ต่อมาเมื่อเข้าสู่รัชสมัยของเจ้านครรัฐผู้คัดเลือกแห่งอาณาจักรบาวาเรีย แม็กซิมิเลียนที่ 3 โจเซฟ (Bavarian Elector Maximilian III Joseph) ในช่วงปีค.ศ.1745 ถึง ค.ศ. 1777 พระราชวังนิมเฟนเบิร์กก็ได้รับการตกแต่งเพิ่มเติม โดยเฉพาะในส่วนของ Great Hall ที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามมาจนถึงบัดนี้ นอกจากนี้ในส่วนของสวนก็ได้รับการปรับภูมิทัศน์ใหม่ด้วยเช่นกัน มีการออกแบบใหม่ และตกแต่งด้วยรูปปั้นเทพเจ้าแห่งโอลิมปัสตามตำนานของเทพปกรณัมกรีก 

           ต่อมาเมื่อเข้าสู่รัชสมัยของเจ้านครรัฐผู้คัดเลือกแห่งอาณาจักรบาวาเรีย คาร์ล ธีโอดอร์ (Bavarian Elector Karl Theodor) ในช่วงปีค.ศ. 1777 ถึง ค.ศ. 1799 พระองค์ทรงมีรับสั่งให้ขยายส่วนแกลเลอรี่ให้กว้างขึ้น เพื่อรองรับการสร้างห้องใหม่ที่เพิ่มขึ้น และได้เปิดพระราชวังนิมเฟนเบิร์กให้สาธารณะได้เข้าชม

           เมื่อถึงยุคปลายศตวรรษที่ 18 เมื่ออาณาจักรบาวาเรียได้กลายเป็นแคว้นบาวาเรีย ในรัชสมัยของกษัตริย์แม็กซิมิเลียนที่ 1 โจเซฟ (King Maximilian I Joseph) พระองค์ได้มีพระประสงค์ให้ออกแบบบางห้องภายในพระราชวังนิมเฟนเบิร์กใหม่ และตกแต่งด้วยเครื่องเรือนชั้นสูงในสไตล์นีโอคลาสสิก สำหรับในส่วนของสวนของพระราชวังก็ได้มีการเปลี่ยนจากสไตล์ฝรั่งเศสมาเป็นสวนภูมิทัศน์สไตล์อังกฤษ

           นอกจากนี้ พระราชวังนิมเฟนเบิร์กนั้นเป็นสถานที่ที่กษัตริย์แม็กซิมิเลียนที่ 1 สิ้นพระชนม์ในปีค.ศ. 1825 และยังเป็นสถานที่ที่กษัตริย์ลุดวิกที่ 2 (King Ludwig II) ประสูติในปีค.ศ. 1845 อีกด้วย ซึ่งนอกจากเป็นสถานที่ที่ทรงคุณค่าทางด้านศิลปะและสถาปัตยกรรมแล้ว ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของราชวงศ์บาวาเรียมาหลายยุคหลายสมัย ปัจจุบันพระราชวังนิมเฟนเบิร์กจึงเป็นอีกหนึ่งพระราชวังเก่าที่ควรมาเที่ยวชมเมื่อมาเยือนเมืองมิวนิค


บริเวณสวนสไตล์อังกฤษของพระราชวังนิมเฟนเบิร์ก


สวนนิมเฟนเบิร์กมีพื้นที่ประมาณ 180 เฮคตาร์ หรือประมาณ 1.8 ตารางกิโลเมตร


ตัวอาคารฝั่งทิศเหนือของพระราชวัง


บริเวณปีกอาคารพระราชวัง 


อาคาร Court Stables 


คลองขุดบริเวณรอบพระราชวัง


ทัศนียภาพโดยรอบ 


คลองรอบนอกพระราชวัง


บึงกลางสวนนิมเฟนเบิร์ก และความสวยงามของธรรมชาติโดยรอบ 


ห่านสายพันธุ์แคนาดา (Canada goose) เป็นหนึ่งในสัตว์ตัวน้อยที่อาศัยอยู่ในสวนนิมเฟมเบิร์ก


บริเวณภายในห้องโถงใหญ่ (The Great Hall) ภาพเขียนขนาดใหญ่ด้านบนเพดานเป็นภาพจำลองสรวงสวรรค์แห่งโอลิมเปียน เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ 


การตกแต่งภายในห้องโถงเป็นแบบร็อคโคโค


ภาพเขียนตรงกลางคือภาพของของกษัตริย์แม็กซิมิเลียน วาดโดย Joseph Vivien ภายในห้อง North Salettl (antechamber) ที่ตกแต่งภายในแบบฝรั่งเศส


ห้องทรงงาน (Writing Cabinet) ที่ได้รับการตกแต่งใหม่ในแบบร็อคโคโคในปีค.ศ. 1764


แกลเลอรี่รวมภาพหญิงงามแห่งเมืองมิวนิคของกษัตริย์ลุดวิกที่ 1 (King Ludwig I's Gallery of Beauties) 


ภาพวาดหญิงงามจากทุกชนชั้นในสังคม วาดโดย Joseph Stieler


ห้องบรรทมภายในพระราชวัง ภาพเขียนด้านบนเตาผิงเป็นภาพกษัตริย์แม็กซิมิเลียนเมื่อครั้งเสด็จกลับจากฝรั่งเศสในปีค.ศ. 1715 วาดโดย François Roettier


ห้องรับรองแขกผู้มาเข้าเฝ้าราชินี (Queen's audience room) สร้างขึ้นในสมัยราชินีแคโรลีน (Queen Caroline) เครื่องเรือนทำจากไม้มะฮอกกานีจากฝรั่งเศส

การเดินทางจากสนามบินมิวนิค (Munich International Airport / Flughafen München) ไปยังสถานีรถไฟกลางมิวนิค (Munich Hauptbahnhof (Main Station))

 

             - รถยนต์ (Car) จาก Munich International Airport ไปยัง Munich Hauptbahnhof (Main Station) มีระยะทางประมาณ 40.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 36 นาที

             - รถประจำทาง (Bus) จาก Munich International Airport ไปยัง Munich Hauptbahnhof (Main Station) สามารถใช้บริการรถบัส LH-Bus เป็นรถบัสด่วนของ Autobus Oberbayern ออกทุก 15 นาที

             - รถไฟ (Train) จาก Munich International Airport ให้ขึ้นรถไฟสาย S ไปลงที่สถานี Munich Hauptbahnhof (Main Station) ใช้เวลาโดยรวมประมาณ 47 นาที

การเดินทางจากสถานีสถานีรถไฟกลางมิวนิค (Munich Hauptbahnhof (Main Station)) ไปยังพระราชวังนิมเฟนเบิร์กและสวนนิมเฟนเบิร์ก (Nymphenburg Palace and Park) 

             - รถยนต์ (Car) จาก Munich Hauptbahnhof (Main Station) ไปยัง Nymphenburg Palace and Park มีระยะทางประมาณ 4.9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 นาที

             - รถไฟ (Train) จาก Munich Hauptbahnhof (Main Station) ให้ขึ้นรถไฟสาย S ไปลงสถานี Laim และเดินต่อไปยัง Nymphenburg Palace and Park อีกประมาณ 800 เมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 18 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด

           เปิดทุกวัน

           ปิดวันที่ 1 มกราคม วัน Shrove Tuesday และวันที่ 24-25/31 ธันวาคม

รายละเอียดเวลาทำการในส่วนต่างๆ ของพระราชวังนิมเฟนเบิร์ก

           พระราชวังและพิพิธภัณฑ์ (Palace and Museum)

                - เดือนเมษายน ถึง 15 ตุลาคม 9:00 น. - 18:00 น.

                - 16 ตุลาคม ถึง มีนาคม 10:00 น. - 16:00 น.


           
สวนพระราชวัง (Park Pavilions)

                - เดือนเมษายน ถึง 15 ตุลาคม 9:00 น. - 18:00 น.

                - 16 ตุลาคม ถึง มีนาคม ปิดให้เข้าชม


           
บริเวณน้ำพุ (Fountains)

                - วันอีสเทอร์ - ต้นเดือนตุลาคม 10:00 น. - 16:00 น.


           
ล่องเรือกอนโดล่าในคลองสายหลัก (Gondola Rides on the Central Canal)

                - เดือนเมษายน ถึง กลางเดือนตุลาคม เปิดบริการทุกวันในช่วงที่สภาพอากาศดี


บริเวณห้องโถงใหญ่ (The Great Hall)
 

อัตราค่าเข้าชม

           - ตั๋วเข้าชมพระราชวังนิมเฟนเบิร์ก ราคา 8 Euro

           - ตั๋วเข้าชมสวนของพระราชวัง ราคา 5 Euro

           - ตั๋วรวมค่าเข้าชมพระราชวัง พิพิธภัณฑ์ และสวน ช่วงวันที่ 1 เมษายน ถึง 15 ตุลาคม ราคา 15 Euro

           - ตั๋วรวมค่าเข้าชมพระราชวังและพิพิธภัณฑ์ ช่วงวันที่ 16 ตุลาคม ถึง 31 มีนาคม ราคา 12 Euro (ฤดูหนาวสวนปิดให้เข้าชม)

           - เด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี เข้าชมฟรี

เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

           ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงเดือนเมษายน ถึง ช่วงต้นเดือนตุลาคม เพราะเป็นช่วงเวลาที่สวนนิมเฟนเบิร์กเปิดให้เข้าชม เนื่องจากมีสภาพอากาศที่เหมาะสม

 

           นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก และสวนนิมเฟนเบิร์ก สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก และสวนนิมเฟนเบิร์ก เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี

                       (Nymphenburg Palace and Park, Munich, Germany)

                       ระดับความนิยม : 

                       อัตราค่าเข้าชม : - ตั๋วเข้าชมพระราชวังนิมเฟนเบิร์ก ราคา 8 Euro

                                               - ตั๋วเข้าชมสวนของพระราชวัง ราคา 5 Euro

                                               - ตั๋วรวมค่าเข้าชมพระราชวัง พิพิธภัณฑ์ และสวน ช่วงวันที่ 1 เมษายน ถึง 15 ตุลาคม ราคา 15 Euro

                                               - ตั๋วรวมค่าเข้าชมพระราชวังและพิพิธภัณฑ์ ช่วงวันที่ 16 ตุลาคม ถึง 31 มีนาคม ราคา 12 Euro (ฤดูหนาวสวนปิดให้เข้าชม)

                                               - เด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี เข้าชมฟรี

                       เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ปิดวันที่ 1 มกราคม วัน Shrove Tuesday และวันที่ 24-25/31 ธันวาคม

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                       สถานที่ตั้ง : เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี

                       โทรศัพท์ : (+49) 89 17908-0

                       เว็บไซต์ : www.schloss-nymphenburg.de     

                       ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/th/de/germany-weather

                                        เว็บไซต์ทางการของเมืองมิวนิค https://www.muenchen.de  

                                        เว็บไซต์ท่องเที่ยวของเมืองมิวนิค https://www.munich.travel/en

 

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย

หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!

อ่านต่อ

เกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)

สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

อิสตันบูล (Istanbul) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นนคร 2 ทวีป ซึ่งมีช่องแคบบอสฟอรัสเป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรปและเอเชียแห่งนี้ คือเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมานับพันๆ ปี จึงไม่น่าแปลกใจหากอิสตันบลูจะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่และงดงามทรงคุณค่ามากมายที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นยุโรปและเอเชียจากอดีตจนถึงปัจจุบัน Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูลที่หากมีโอกาสไปเยือนประเทศตุรกีไม่ควรพลาด

อ่านต่อ

ล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

ช่องแคบบอสฟอรัส เป็นช่องแคบเล็กๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของตุรกี เคยเป็นทั้งเส้นทางการค้าที่สำคัญ และยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาจนถึงปัจจุบัน การล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) จึงเป็นวิธีที่ดีที่จะได้สัมผัสบรรยากาศ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมที่หลากหลายของอิสตันบูล

อ่านต่อ

อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Sarnici) คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของตุรกี ดินแดนที่เต็มไปด้วยประวัติความเป็นมามากกว่าพันปี อุโมงค์เก่าแก่ขนาดใหญ่แห่งนี้คือสถานที่เก็บน้ำในสมัยโบราณที่ยังคงความยิ่งใหญ่และงดงาม กับเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างเสากรีกที่ค้ำเรียงรายมากถึง 336 ต้น และเสาเมดูซ่าพร้อมตำนานที่เล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคน รวมถึงซากโบราณของพระราชวังใต้ดินแห่งกรุงคอนสแตนติโนเปิลสมัยไบเซนไทน์อีกด้วย

อ่านต่อ

ตลาดเครื่องเทศ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

ตลาดเครื่องเทศ (Historical Spice Bazaar / Egyptıan Spıce Bazaar) ในอิสตันบูล เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก ตลาดแห่งนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ในสมัยจักรวรรดิออตโตมัน เดิมทีเป็นจุดแลกเปลี่ยนเครื่องเทศ ผ้าไหม และสินค้าอื่นๆ จากเอเชียมาสู่ยุโรป

อ่านต่อ

10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

บูดาเปสต์ (Budapest) เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี ตัวเมืองถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งด้วยแม่น้ำดานูบที่ไหลผ่านกลางเมือง ทำให้ในเมืองเต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกจากสถาปัตยกรรมอันสวยงามเปี่ยมเสน่ห์ที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือน Palanla ได้รวบรวมเอา 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์มาให้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก

ปราก (Prague) เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลนี้ ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปยุโรป ในอดีต เมืองปรากเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองอันยิ่งใหญ่ของทวีปยุโรป ซึ่งอารยธรรมแห่งความยิ่งใหญ่ และเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานนั้น ก็ยังคงสะท้อนอยู่ในวิถีชีวิตของชาวเมือง วัฒนธรรมประเพณี สถาปัตยกรรม ฯลฯ ราวกับมรดกที่สืบทอด และรักษากันมาอย่างดี จนถูกยกให้เป็นเมืองที่มีความน่าหลงใหล ควรค่าแก่การไปสัมผัสความเป็นยุโรปมากที่สุด โดยเมืองปรากยังได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย ปัจจุบันเมืองนี้นับเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญ ของบรรดานักท่องเที่ยวที่มาเยือนทวีปยุโรป ไปชม 12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปรากพร้อมๆ กันกับ Palanla!

อ่านต่อ

ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ (Fashion Street Budapest) เป็นถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงในใจกลางเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ถนนสายนี้เป็นที่รู้จักในด้านร้านค้าแฟชั่นชั้นนำจากแบรนด์ระดับโลก อาทิ Gucci, Louis Vuitton, Dior, Armani, Prada และ Chanel ถนนสายนี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่มากมาย จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองบุดาเปสต์เองด้วย

อ่านต่อ

ล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

ล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ (Dinner Cruise Budapest) เป็นวิธียอดเยี่ยมในการชมความสวยงามของเมืองบูดาเปสต์ โดยขณะที่เรือล่องไปตามแม่น้ำดานูบ (Danube River) นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงามของสะพาน พระราชวัง และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ รวมทั้งอิ่มอร่อยกับอาหารรสเลิศและเครื่องดื่มแสนอร่อย

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ