เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ โดยคลิก "การตั้งค่าคุกกี้"
พิพิธภัณฑ์โบด เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
Bode Museum, Berlin, Germany
พิพิธภัณฑ์โบดตั้งอยู่ริมแม่น้ำชเปร มีสะพานหิน Monbijou Bridge ทอดข้ามไปยังทางเข้าตัวอาคาร
พิพิธภัณฑ์โบด (Bode Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งที่สี่ในห้าพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ตั้งอยู่บนเกาะพิพิธภัณฑ์ (Museum Island / Museumsinsel) กลางแม่น้ำชเปร (Spree) ใจกลางกรุงเบอร์ลิน ซึ่งเกาะนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) World Heritage Sites ในปี ค.ศ. 1999 พิพิธภัณฑ์โบดตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดบนเกาะพิพิธภัณฑ์ เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากบรรดานักท่องเที่ยวผู้หลงใหลในผลงานศิลปะ เพราะที่นี่จัดแสดงผลงานประติมากรรม ชุดสะสมเหรียญโบราณ และผลงานศิลปะในยุคไบแซนไทน์ (Byzantine Art) ในช่วงศตวรรษที่ 13 ถึง 18 อันเก่าแก่ ทรงคุณค่า และหาดูได้ยากไว้อย่างมากมาย
แผนที่ตั้ง พิพิธภัณฑ์โบด(Bode Museum)เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
ประวัติ
พิพิธภัณฑ์โบด (Bode Museum) สร้างขึ้นตามพระราชดำริของเจ้าหญิงวิกตอเรียแห่งปรัสเซีย (Crown Princess Victoria of Prussia) ในปีค.ศ. 1883 โดยผู้ก่อตั้งและดูแลคือ วิลเลียม วอน โบด (Wilhelm Von Bode) นักประวัติศาสตร์และนักพิพิธภัณฑ์ชาวเยอรมัน
จนกระทั่งในปีค.ศ. 1897 การก่อสร้างได้เริ่มต้นขึ้นบริเวณปลายเกาะพิพิธภัณฑ์ตอนเหนือ ในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา หรือที่เราคุ้นหูกันในชื่อสถาปัตยกรรมยุคเรเนซองส์ (Renaissance architecture) ออกแบบโดย เอเบอร์ฮาร์ด วอน อิเนน (Eberhard Von Ihne) สถาปนิกชาวเยอรมัน เมื่อสร้างแล้วเสร็จ ได้รับพระราชทานนามว่า พิพิธภัณฑ์ไกเซอร์ฟรีดริช (Kaiser-Friedrich-Museum) เพื่อระลึกถึงจักรพรรดิฟรีดริชที่ 3 แห่งเยอรมนีและกษัตริย์แห่งปรัสเซีย (Frederick III, German Emperor and King of Prussia) พระสวามีของเจ้าหญิงวิกตอเรียที่เสด็จสวรรคตในปี ค.ศ. 1888 (ปรัสเซียคือดินแดนตอนเหนือของยุโรปในสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยหลังสงครามได้ถูกแบ่งออกเป็นประเทศเยอรมนี สหภาพโซเวียต และประเทศโปแลนด์)
พิพิธภัณฑ์ไกเซอร์ฟรีดริชเปิดให้เข้าชมครั้งแรกในปีค.ศ. 1904 โดยจัดแสดงผลงานภาพวาด และผลงานประติมากรรมต่างๆ
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พิพิธภัณฑ์ได้รับความเสียหายอย่างหนัก จึงมีการบูรณะซ่อมแซมอย่างต่อเนื่องยาวนานในช่วงปี ค.ศ. 1948 ถึง ค.ศ. 1986 และระหว่างนั้นในปี ค.ศ. 1956 ได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น พิพิธภัณฑ์โบด (Bode Museum) ตามชื่อผู้ที่ก่อตั้งคนแรก หลังจากการบูรณะซ่อมแซมอันยาวนานแล้วเสร็จ พิพิธภัณฑ์ได้เปิดให้เข้าชมอีกครั้งในปีค.ศ. 2006 จนถึงปัจจุบัน นับว่าเป็นพิพิธภัณฑ์เก่าแก่อันทรงคุณค่าที่มีประวัติยาวนานมานับร้อยปี
จุดที่เป็นเอกลักษณ์ของ Bode Museum คือหลังคาโดมด้านบน ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมนีโอบาโรก
บริเวณด้านหน้าพิพิธภัณฑ์
ใต้หลังคาโดม เมื่อมองจากข้างในพิพิธภัณฑ์
ผลงานประติมากรรมจำลองพระบรมรูปทรงม้าของจักรพรรดิฟรีดริชที่ 3 ที่ตั้งตระหง่านอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์ จำลองมาจากต้นแบบที่อยู่ด้านหน้าพระราชวังชาร์ล็อทเทินบวร์ค (Charlottenburg Palace) ในกรุงเบอร์ลิน
การจัดแสดงผลงานประติมากรรมรูปสลักอันอ่อนช้อยงดงาม(รูปซ้าย)การจัดแสดลงผลงานประติมากรรมนูนสูงถ่ายทอดเรื่องราวของคริสตศาสนา(รูปขวา)
การจัดแสดงผลงานภาพเขียนและรูปสลัก
การเดินทางจากสนามบินเบอร์ลินเทเกิลไปยังสถานีรถไฟกลางเบอร์ลิน (Berlin Central Station)
- รถยนต์ (Car) จาก Berlin-Tegel Airport (TXL) ไปยัง Berlin Central Station มีระยะทางประมาณ 8.9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที
- รถประจำทาง (Bus) จากอาคารผู้โดยสารขาเข้า ให้เดินต่อไปยังอาคาร Airport Tegel Berlin Bus Station และขึ้นรถบัสสาย TXL ระยะทางประมาณ 8.9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ลงที่สถานี S+U Berlin Hauptbahnhof ก็จะถึง Berlin Central Station (ชื่อสถานีภาษาเยอรมันคือ Berlin Hauptbahnhof อ่านว่า เบอร์ลิน โฮพท์-บาห์น-ฮอฟ)
การเดินทางจากสถานีรถไฟกลางเบอร์ลินไปยังพิพิธภัณฑ์โบด (Bode Museum)
- รถยนต์ (Car) จาก Berlin Central Station ไปยัง Bode Museum มีระยะทางประมาณ 2.1 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 นาที
- รถไฟ (Train) จาก Berlin Central Station ขึ้นรถไฟสาย S ไปลงสถานี Bahnhof Berlin Friedrichstraße และเดินต่อไปยัง Bode Museum อีกประมาณ 600 เมตร ใช้เวลาโดยรวมประมาณ 10 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด
เปิดวันอังคาร – วันอาทิตย์ 10:00 น. – 18:00 น. / วันพฤหัสบดีปิด 20:00 น.
ปิดวันจันทร์
การจัดแสดงผลงานประติมากรรมรูปสลักบริเวณทางเดินภายในอาคาร
อัตราค่าเข้าชม
ค่าเข้าชม Bode Museum และนิทรรศการศิลปะที่จัดในพิพิธภัณฑ์
- 12 EUR สำหรับบุคคลทั่วไป
- ลด 50% สำหรับนักเรียนนักศึกษาที่มีส่วนร่วมในงานบริการชุมชนและระดับชาติ ผู้ว่างงานที่มีเอกสารยืนยัน และผู้พิการ
- เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าชมฟรี
ค่าเข้าชมทุกพิพิธภัณฑ์และทุกนิทรรศการศิลปะบนเกาะพิพิธภัณฑ์
- 18 EUR สำหรับบุคคลทั่วไป
- ลด 50% สำหรับนักเรียนนักศึกษาที่มีส่วนร่วมในงานบริการชุมชนและระดับชาติ ผู้ว่างงานที่มีเอกสารยืนยัน และผู้พิการ
- เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าชมฟรี
บริเวณทางเดินสู่ห้องโถงด้านใน มีการจัดแสดงภาพเขียนไว้สองข้างทาง
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน เนื่องจากเป็นช่วงที่อากาศอบอุ่น และท้องฟ้าแจ่มใส เหมาะกับการเที่ยวชมเมือง
อีกมุมอันสวยงามของพิพิธภัณฑ์โบดเมื่อมองจากอีกฝั่งของแม่น้ำชเปร
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว Bode Museum สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
พิพิธภัณฑ์โบด เกาะพิพิธภัณฑ์ เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
(Bode Museum, Museum Island, Berlin, Germany)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ค่าเข้าชม Bode Museum และนิทรรศการศิลปะที่จัดในพิพิธภัณฑ์
- 12 EUR สำหรับบุคคลทั่วไป
- ลด 50% สำหรับนักเรียนนักศึกษาที่มีส่วนร่วมในงานบริการชุมชนและระดับชาติ ผู้ว่างงานที่มีเอกสารยืนยัน และผู้พิการ
- เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าชมฟรี
ค่าเข้าชมทุกพิพิธภัณฑ์และทุกนิทรรศการศิลปะบนเกาะพิพิธภัณฑ์
- 18 EUR สำหรับบุคคลทั่วไป
- ลด 50% สำหรับนักเรียนนักศึกษาที่มีส่วนร่วมในงานบริการชุมชนและระดับชาติ ผู้ว่างงานที่มีเอกสารยืนยัน และผู้พิการ
- เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดวันอังคาร – วันอาทิตย์ 10:00 น. – 18:00 น. / วันพฤหัสบดีปิด 20:00 น.
ปิดวันจันทร์
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะ พฤษภาคม - กันยายน
สถานที่ตั้ง : เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
โทรศัพท์ : +49 30 266424242 (ในเวลาทำการ จันทร์ - ศุกร์ 09:00 น. – 16:00 น.)
เว็บไซต์ : https://www.smb.museum/en/museums-institutions/bode-museum/home.html
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : องค์กรพิพิธภัณฑ์แห่งกรุงเบอร์ลิน https://www.smb.museum/en/home.html
เกาะพิพิธภัณฑ์ https://www.museumsinsel-berlin.de/en/home/
พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/th/de/germany-weather
เว็บไซต์ทางการของกรุงเบอร์ลิน https://www.berlin.de/en
เว็บไซต์ท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการของกรุงเบอร์ลิน https://www.visitberlin.de/en
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อนอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อนอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อนอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อนอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อ