- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเมืองโคโลญ เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเมืองโคโลญ เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
- อ่าน (4,603)
- By Webmaster
- 17:02:48 | 12 ธ.ค. 2562
พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเมืองโคโลญ เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
Cologne Chocolate Museum, Cologne, Germany
บริเวณด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเมืองโคโลญ
พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเมืองโคโลญ (Cologne Chocolate Museum / ชื่อภาษาเยอรมันคือ Schokoladenmuseum Köln) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งเมืองโคโลญ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ (Rhine River) บริเวณท่าเรือไรโน (Rheinau harbour) ไม่ไกลจากมหาวิหารโคโลญ พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติของช็อกโกแลตตั้งแต่แรกเริ่มจากการปลูกเมล็ดโกโก้ไปจนถึงกระบวนการผลิตช็อกโกแลตในโรงงาน รวมถึงวัฒนธรรมและของสะสมของแต่ละท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับช็อกโกแลตตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน และที่เป็นจุดเด่นที่สุดของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็คือ น้ำพุช็อคโกแลตความสูงราวสามเมตรนอกจากนี้ยังมีส่วนของคาเฟ่และร้านขายช็อกโกแลต ให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองรสชาติของช็อคโกแลตและขนมที่ทำจากช็อคโกแลตอันแสนอร่อยอีกด้วย
แผนที่ตั้ง พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเมืองโคโลญ (Cologne Chocolate Museum) เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
ประวัติ
แฮนส์ อิมฮอฟฟ์ (Hans Imhoff) ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลต เขามีความหลงใหลในการผลิตช็อกโกแลต และมีความฝันว่าอยากจะสร้างพิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตที่มีน้ำพุช็อกโกแลตไหลริน และแล้วฝันของเขาก็เป็นจริง พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตได้เปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ. 1993 หลังจากการก่อสร้างมาเป็นระยะเวลา 13 เดือน นับเป็นเกียรติแห่งประวัติศาสตร์ของพิพิธภัณฑ์เยอรมนีที่ไม่มีใครคิดว่าจะเป็นไปได้
ด้านในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงประวัติความเป็นมาของเมล็ดโกโก้และช็อกโกแลตตั้งแต่ในอดีตราวห้าพันปีก่อนจนถึงการผลิตและแปรรูปช็อกโกแลตในปัจจุบันบนเนื้อที่ราว 4,000 ตารางเมตร โดยในส่วนจัดแสดงประกอบไปด้วย สวนจำลองพื้นที่ป่าในเขตร้อนชื้นซึ่งเป็นต้นกำเนิดของต้นโกโก้ ส่วนจัดแสดงวัฒนธรรมในยุคก่อนประวัติศาสตร์ของโคลัมเบียในอเมริกากลาง ชุดเครื่องลายคราม เครื่องเงิน และเครื่องจักรจากยุคอุตสาหกรรม ขั้นตอนการผลิตช็อกโกแลตที่นักท่องเที่ยวจะได้รู้วิธีการขึ้นรูปช็อกโกแลตทั้งแบบใช้เครื่องจักรและฝีมือคน
จุดเด่นที่สุดของพิพิธภัณฑ์คือน้ำพุช็อกโกแลตความสูงสามเมตรที่มีช็อกโกแลตยี่ห้อลินด์ (Lindt) อันโด่งดังไหลรินลงมาดั่งความฝันที่เป็นจริงของแฮนส์ อิมฮอฟฟ์ ปัจจุบันมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ราวหกแสนคนต่อปี นับเป็นสถาบันทางวัฒนธรรมที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในเมืองโคโลญ
น้ำพุช็อกโกแลตเป็นแลนด์มาร์กของพิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลต
บริเวณสวนจำลองพื้นที่ป่าในเขตร้อนชื้น
ต้นไม้ในเขตป่าร้อนชื้นที่ปลูกอยู่ในบริเวณสวนจำลอง
บริเวณส่วนจัดแสดงการแปรรูปจากเมล็ดโกโก้เป็นช็อกโกแลต
เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตช็อกโกแลต
กระบวนการทำงานของเครื่องจักรและแม่พิมพ์ช็อกโกแลต
ส่วนจัดแสดงร้านขายช็อกโกแลตในช่วงต้นศตวรรษที่ 19
ด้านในร้านขายช็อกโกแลตในช่วงต้นศตวรรษที่ 19
บริเวณส่วนจัดแสดงประวัติความเป็นมาของช็อกโกแลตยี่ห้อดัง
ด้านข้างโถงทางเดินจัดแสดงภาพเขียนและโปสเตอร์ในอดีต
ช็อกโกแลตที่ผลิตออกมาเป็นสินค้ายี่ห้อดัง
การเดินทางจากสนามบินโคโลญบอนน์ (Cologne Bonn Airport) ไปยังสถานีรถไฟกลางโคโลญ (Cologne Central Station)
- รถยนต์ (Car) จาก Cologne Bonn Airport ไปยัง Cologne Central Station มีระยะทางประมาณ 18.4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 19 นาที
- รถประจำทาง (Bus) จาก Cologne Bonn Airport ให้ขึ้นรถประจำทางสาย 161 ที่สถานีรถประจำทางบริเวณสนามบิน ไปลงยัง Cologne Central Station มีระยะทางประมาณ 18.4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 19 นาที
- รถไฟ (Train) จาก Cologne Bonn Airport ให้ขึ้นรถไฟสายสีเขียวที่สถานี Köln/Bonn Flughafen ภายในสนามบิน จากนั้นลงที่สถานี Cologne Central Station ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที
หมายเหตุ ชื่อสถานีรถไฟกลางโคโลญนั้นมีชื่อเรียกหลากหลาย โดยชื่อที่เป็นทางการและนิยมเรียกกัน ได้แก่
1. Köln Hauptbahnhof เป็นชื่อทางการในภาษาเยอรมัน
2. Cologne Central Station / Cologne Main Railway Station เป็นชื่อทางการในภาษาอังกฤษ
3. Dom Hauptbahnhof หมายถึง สถานีโบสถ์ เพราะสถานีติดกับมหาวิหารโคโลญ
การเดินทางจากสถานีรถไฟกลางโคโลญ (Cologne Central Station)ไปยัง พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเมืองโคโลญ (Cologne Chocolate Museum)
- รถยนต์ (Car) จาก Cologne Central Station ไปยัง Cologne Chocolate Museum มีระยะทางประมาณ 1.9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 นาที
- รถประจำทาง (Bus) จาก Cologne Central Station ไปยัง Cologne Chocolate Museum ให้ขึ้นรถประจำทางสาย 133 ไปลงยังป้าย Köln Schokoladenmuseum มีระยะทางประมาณ 1.9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 นาที
- รถไฟ (Train) จาก Cologne Central Station ให้ขึ้นรถไฟสายสีม่วง ลงสถานี Heumarkt และเดินต่อไปยัง ไปยัง Cologne Chocolate Museum ประมาณ 600 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที
- เดิน (Footpath) จาก Cologne Central Station ไปยัง Cologne Chocolate Museum มีระยะทางประมาณ 1.3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 17 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด
ตามปกติจะเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 10:00 น. – 18:00 น.
แต่ในช่วงเดือนมกราคม - เดือนมีนาคม และเดือนพฤศจิกายน จะปิดทุกวันจันทร์
ในช่วงคริสต์มาสจะมีเวลาเปิด - ปิด ดังนี้
24 - 25 ธันวาคม พิพิธภัณฑ์ปิด
26 ธันวาคม เวลา 10:00 น. – 18:00 น.
31 ธันวาคม เวลา 10:00 น. – 17:00 น.
อัตราค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ : วันธรรมดา 12.50 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 13.50 Euro
เด็กนักเรียนอายุไม่เกิน 16 ปี : วันธรรมดา 7.50 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 8.00 Euro
เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี : ไม่เสียค่าเข้าชม
นักศึกษา : วันธรรมดา 9.00 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 10.00 Euro
ผู้สูงอายุ อายุ 65 ปีขึ้นไป : วันธรรมดา 11.00 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 12.00 Euro
นักท่องเที่ยวทุพพลภาพ : วันธรรมดา 7.50 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 8.00 Euro
ตั๋วครอบครัว : วันธรรมดา 31.50 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 34.00 Euro (ผู้ใหญ่ 2 คน กับเด็กอายุไม่เกิน 16 ปี)
น้ำพุช็อกโกแลตตั้งอยู่บริเวณกำแพงกระจกที่มองเห็นแม่น้ำไรน์
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือ ต้องเดินข้ามสะพาน Drehbridge ไป
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว Cologne Chocolate Museum สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเมืองโคโลญ เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
(Cologne Chocolate Museum, Cologne, Germany)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ : วันธรรมดา 12.50 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 13.50 Euro
เด็กนักเรียนอายุไม่เกิน 16 ปี : วันธรรมดา 7.50 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 8.00 Euro
เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี : ไม่เสียค่าเข้าชม
นักศึกษา : วันธรรมดา 9.00 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 10.00 Euro
ผู้สูงอายุ อายุ 65 ปีขึ้นไป : วันธรรมดา 11.00 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 12.00 Euro
นักท่องเที่ยวทุพพลภาพ : วันธรรมดา 7.50 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 8.00 Euro
ตั๋วครอบครัว (ผู้ใหญ่ 2 คน กับเด็กอายุไม่เกิน 16 ปี) : วันธรรมดา 31.50 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 34.00 Euro
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน วันจันทร์ ถึง วันอาทิตย์
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
โทรศัพท์ : (+49) 221 931888 - 0
เว็บไซต์ : https://www.schokoladenmuseum.de/en/
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/th/de/germany-weather
เว็บไซต์ทางการของเมืองโคโลญ https://www.cologne.de
เว็บไซต์ท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการของเมืองโคโลญ https://www.cologne-tourism.com/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อรวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อ