พระพุทธโสธร พระศักดิ์สิทธิ์ศูนย์รวมศรัทธาแห่งเมืองฉะเชิงเทรา

 
พระพุทธโสธร
วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา

           พระพุทธโสธร หรือที่ประชาชนเรียกด้วยความศรัทธาว่า หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ศิลปะอยุธยา  หน้าตักกว้าง 5 ฟุต 6 นิ้ว สูง 6 ฟุต และเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแปดริ้ว หรือจังหวัดฉะเชิงเทรามาช้านาน

           ชาวเมืองฉะเชิงเทราเล่าสืบต่อกันมาว่า หลวงพ่อโสธรนั้น โดดเด่นในเรื่องการบนบานขอพรมาก เพราะในสมัยก่อนตอนที่ชุมชนเมืองฉะเชิงเทรายังไม่คึกคักเท่านี้ ชาวเรือที่ผ่านไปมามักไหว้ขอพรหลวงพ่อโสธรก่อนไปค้าขาย ปรากฏว่าขายดีมาก จนบอกต่อๆกัน และมีคนมาขอพรเรื่องอื่นอีก ก็สมปรารถนากันเป็นส่วนมาก (เว้นเรื่องเดียวคือเรื่องเกณฑ์ทหาร ที่ห้ามขอเด็ดขาด เพราะเชื่อกันว่าหลวงพ่อโสธรนั้นชอบทหาร จึงห้ามไม่ให้มาขอกับท่านในเรื่องนี้)

           นอกจากชื่อเสียงในเรื่องของการบนบานขอพรแล้ว ยังเชื่อกันอีกด้วยว่า หลวงพ่อโสธรนั้น เมื่อประดิษฐานอยู่ ณ ตำแหน่งที่ตั้งปัจจุบันแล้ว จะนำพาความสงบสุขและความรุ่งเรืองมาให้แก่ผู้คน ดังนั้น ผู้ที่ไปกราบไหว้หลวงพ่อโสธร ไม่เพียงจะได้บนบานขอพรเพื่อให้สำเร็จสมหวังดังใจปรารถนาเท่านั้น แต่ยังได้รับอานิสงค์อันนี้ไปด้วย

ทั้งนี้ มีความเชื่อกันว่า หากจะบนบานขอพรหลวงพ่อโสธรนั้น ที่นิยมและได้ผลที่สุดคือไข่ต้ม ซึ่งเป็นสิ่งที่หลวงพ่อโสธรชอบที่สุด และเป็นของเด่นอย่างหนึ่งของเมืองฉะเชิงเทรา

ประวัติความเป็นมา

           เรื่องเล่าของหลวงพ่อโสธรที่โด่งดังที่สุดและอยู่คู่กับความทรงจำของชาวฉะเชิงเทรามากที่สุด คือ ตำนานพระลอยน้ำ ซึ่งเล่าถึงที่มาของหลวงพ่อโสธรไว้ว่า ในอดีตนั้น ชาวเมืองฉะเชิงเทราเคยเห็นพระพุทธรูปสามองค์ลอยตามน้ำมา จึงพยายามชักลากองค์พระขึ้น แต่ไม่สำเร็จ และองค์พระนั้นก็ลอยทวนน้ำหนีไป จนเรียกบริเวณนั้นว่าสามพระทวน หรือสัมปทวน ในเมืองฉะเชิงเทราจนถึงปัจจุบัน

           จากนั้นได้ปรากฏเรื่องเล่าเกี่ยวกับองค์พระลอยน้ำนี้อีกมากมาย จนกระทั่งองค์พระองค์หนึ่งได้ลอยมาผุดขึ้นที่ วัดหงส์ (หรือวัดโสธรในปัจจุบัน) จึงได้มีการทำพิธีอาราธนาอย่างยิ่งใหญ่ และนำสายสิญจน์คล้องที่พระหัตถ์ของพระพุทธรูปก่อนจึงค่อยฉุดลากขึ้นมาบนฝั่ง จึงอัญเชิญพระพุทธรูปขึ้นฝั่งได้สำเร็จ (ส่วนอีกสององค์นั้น เชื่อกันว่าคือหลวงพ่อบ้านแหลม วัดเพชรสมุทรวรวิหาร จังหวัดสมุทรสงคราม และ หลวงพ่อโต วัดพลับพลาชัยชนะสงคราม จังหวัดสมุทรปราการ)

           ช่วงเวลาของเรื่องเล่านี้ คะเนว่าน่าจะอยู่ในช่วงสมัยกรุงธนบุรี อันเป็นช่วงเวลาหลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เนื่องจากช่วงเวลานั้นมีเหตุการณ์เผาบ้านเมืองและวัดวาอารามหลายแห่ง จึงมีความเป็นไปได้ว่าองค์พระทั้งสามองค์ที่ลอยน้ำมานี้ น่าจะถูกอัญเชิญใส่แพให้ล่องไปตามลำน้ำ เพื่อหนีการทำลายของข้าศึก จนเป็นที่มาของเรื่องราวอัศจรรย์ของพระพุทธรูปลอยน้ำนี้นั่นเอง

การเดินทาง

               รถโดยสารประจำทาง มีให้บริการเดินทางจากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ(เอกมัย) ไปยังจังหวัดฉะเชิงเทรา วันละหลายๆเที่ยว โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.transport.co.th  หรือโทร 1490

               รถไฟ การรถไฟแห่งประเทศไทยมีบริการรถไฟจากสถานีรถไฟหัวลำโพง ไปยังจังหวัดฉะเชิงเทรา (สถานี ชุมทางฉะเชิงเทรา) ทุกวัน โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.40 – 2 ชั่วโมง ตามประเภทรถ สามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: www.railway.co.th หรือหมายเลขโทรศัพท์ 1690

               รถยนต์ จังหวัดฉะเชิงเทราอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 62 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางเพียง 1 – 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยเมื่อนักท่องเที่ยวไปถึงตัววัดแล้ว สามารถนำรถเข้าไปจอดในบริเวณวัดได้

อัตราค่าเข้าชม

           เข้าชม ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย

การแต่งกาย

           นักท่องเที่ยวควรแต่งกายสุภาพ สวมเสื้อมีแขน สวมกระโปรงหรือกางเกงขายาว และไม่สวมเสื้อผ้าที่รัดรูปจนเกินไป

เวลาเปิด-ปิดสำหรับไปไหว้พระ

           เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7.00 น. – 16.15 น.

ที่ตั้ง : ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา 24000

โทรศัพท์ : (+66)38-511-048          เว็บไซต์ : http://www.chachoengsao.go.th

Facebook : https://www.facebook.com/ccsprovince/