- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- พระราชวังเชินบรุนน์ เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
พระราชวังเชินบรุนน์ เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย

- อ่าน (4,906)
- By Webmaster
- 13:40:10 | 2 เม.ย. 2562
พระราชวังเชินบรุนน์ เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
Schonbrunn Palace, Vienna, Austria
พระราชวังเชินบรุนน์ (Schonbrunn Palace) เป็นอาคารในสไตล์โรโคโคที่งดงามและใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรีย แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาชมมรดกโลกที่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศแห่งนี้เป็นจำนวนหลายล้านคน
ประวัติ
พระราชวังเชินบรุนน์ มีความหมายว่า น้ำพุอันสวยงาม เล่ากันว่าพระจักรพรรดิได้ทอดพระเนตรเห็นน้ำใต้ดินผุดขึ้นจากบริเวณนั้น จึงได้นำมาตั้งเป็นชื่อของพระราชวัง โดยพระราชวังอันงดงามแห่งนี้ได้สร้างตามแบบพระราชวังแวร์ซายส์ในประเทศฝรั่งเศส ด้านหน้าของพระราชวังนั้นมีสวนดอกไม้นานาพันธุ์ ภายในตัวพระราชวังที่สุดแสนอลังการตกแต่งอย่างงดงามวิจิตร มีห้องต่างๆ มากถึง 1,441 ห้อง แต่มีเพียง 40 ห้องเท่านั้นที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชมได้ พระราชวังแห่งนี้เคยเป็นที่พำนักของสมเด็จพระจักรพรรดิฟรันซ์ โยเซฟ สมเด็จพระจักรพรรดินีมาเรีย เทเรซาและบรรดาผู้ปกครองแห่งประเทศออสเตรียพระองค์อื่นๆ มาก่อน แต่ละห้องของพระราชวังเชินบรุนน์นั้นตกแต่งอย่างวิจิตรหรูหรา ภายในพระราชวังมีสวนสไตล์บารอกอันยิ่งใหญ่ตระการตา เขาวงกตแสนสวย และสวนสัตว์แห่งศตวรรษที่ 18
พระราชวังเชินบรุนน์สร้างอยู่บนพื้นที่ประมาณ 300 เอเคอร์ และอยู่ภายใต้การครอบครองของราชวงศ์ฮอฟบวร์กเป็นเวลายาวนานกว่า 600 ปี แต่เดิมนั้นสมเด็จพระจักรพรรดิแม็กซีมีเลียนที่ 2 ใช้พื้นที่บริเวณนี้เพื่อการล่าสัตว์เท่านั้น โดยที่สมเด็จพระจักรพรรดิเลโอโปลด์ที่ 1 (Leopold I) แห่งจักรวรรดิโรมันเป็นผู้มีพระราชประสงค์ให้ก่อสร้างพระราชวังขึ้นมาในภายหลัง ต่อมาสมเด็จพระจักรพรรดินีมาเรีย เทเรซาที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 18 และยังทรงเป็นพระมารดาของสมเด็จพระราชินีมารี อ็องตัวแน็ตแห่งประเทศฝรั่งเศส เป็นผู้ทรงโปรดให้มีการต่อเติมพระราชวังแห่งนี้จากโครงสร้างบารอกดั้งเดิม
หนึ่งในห้องที่น่าสนใจของพระราชวังเชินบรุนน์ คือ ห้องมิลเลียนส์ เป็นการตกแต่งด้วยเครื่องลายคราม มีส่วนจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ที่มาจากประเทศจีน นอกจากนี้ ภาพปูนเปียก (Fresco) อันวิจิตร เครื่องเรือนอันล้ำค่า และข้าวของเครื่องใช้งดงามมากมายก็ยังใช้เป็นเครื่องตกแต่งในห้องอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
พระราชวังเชินบรุนน์มีห้องต่างๆ ถึง 1,441 ห้อง ห้องที่เปิดให้ประชาชนสามารถเข้าชมได้มีเพียง 40 ห้อง
พระราชวังเชินบรุนน์เป็นอาคารแบบโรโคโคที่งดงามและใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรีย
สมเด็จพระนางมาเรีย เทเรซา เป็นผู้ทรงโปรดให้มีการต่อเติมพระราชวังแห่งนี้จากโครงสร้างบารอกดั้งเดิม
การเดินทางจากสนามบินไปยังตัวเมือง
ท่าอากาศยานนานาชาติเวียนนาหรือสนามบินนานาชาติเวียนนา มีชื่อเป็นทางการว่า Vienna International Airport (Flughafen Wien-Schwechat) นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากสนามบินเข้าสู่ตัวเมืองยังสถานี Stephansplatz station ซึ่งเป็นสถานีหลักที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองใกล้กับมหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น (St. Stephen’s Cathedral) ได้หลากหลายวิธี ดังนี้
- รถยนต์ (Car) การเดินทางโดยรถยนต์จากสนามบินไปยังสถานี Stephansplatz station มีระยะทาง 20 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที โดยจากสนามบินใช้ถนนสาย A4 จากนั้นเดินทางต่อไปบนถนนสาย B227 มุ่งสู่ Schulerstraße
ทั้งนี้ แท็กซี่ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีสัมภาระติดตัวค่อนข้างเยอะ หรือเดินทางแบบเป็นกลุ่มที่ต้องการความสะดวกและเป็นส่วนตัว การเดินทางโดยแท็กซี่จากสนามบินมีค่าบริการประมาณ 30 ยูโร
- รถประจำทาง (Bus) การเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางจากสนามบินไปยังสถานี Stephansplatz station ใช้เวลาประมาณ 35 นาที นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถ Bus VAL 2 ไปลงป้าย Wien Morzinplatz
- รถไฟ (Train) การเดินทางโดยไฟจากสนามบินไปยังสถานี Stephansplatz station ใช้เวลาประมาณ 15 นาที โดยนักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถไฟใต้ดินสาย U4 Wien (Hütteldorf) ไปลงสถานี Wien Mitte จากนั้นต่อรถไฟใต้ดินสาย U3 (Wien Ottakring) ไปลงสถานี Stephansplatz
การเดินทางภายในเวียนนา
เวียนนามีระบบขนส่งมวลชนที่เชื่อมเป็นระบบ ทั้งรถไฟ (S - Bahn) รถไฟใต้ดิน (U - Bahn) รถราง (Tram) และรถเมล์ (Bus) นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างสะดวก โดยตั๋วเดินทางที่เรียกว่า Verkehrsverbund Ost-Region (VOR) สามารถใช้ร่วมกันได้ดังนี้
ตั๋วแบบเที่ยวเดียว 2.40 ยูโร
ตั๋ว 24 ชั่วโมง 8 ยูโร
ตั๋ว 48 ชั่วโมง 14.10 ยูโร
ตั๋ว 72 ชั่วโมง 17.10 ยูโร
นักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วได้จากตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ (เครื่องสีแดง) หรือเคาน์เตอร์ขายตั๋วที่สถานีรถไฟทุกแห่ง เมื่อจะใช้งานก็ให้ Validate กับเครื่องตอกบัตร (เครื่องสีเหลือง) ก่อน โดยตั๋วตั้งแต่ประเภท 24 ชั่วโมงขึ้นไป จะเริ่มนับเวลาจากการตอกบัตรใช้งานครั้งแรกไปจนครบ จำนวนชั่วโมงตามที่กำหนด
แผนที่ระบบขนส่งมวลชนเมืองเวียนนา ภาพจาก https://www.wienerlinien.at
การเดินทางไป Schonbrunn Palace
พระราชวังเชินบรุนน์อยู่ห่างจากใจกลางของกรุงเวียนนาราว 8 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังพระราชวังเชินบรุนน์ได้อย่างสะดวกสบายโดยใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ
- รถยนต์ (Car) การเดินทางโดยรถยนต์จาก Stephansplatz station ไปยังพระราชวังเชินบรุนน์ มีระยะทาง 8 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 20 นาที โดยสามารถใช้ถนนสาย Parkring, Schubertring, Kärntner Ring และ Operngasse ไปยัง Friedrichstraße / B1 ที่มุ่งสู่ Schönbrunner Schloßstraße
ทั้งนี้ แท็กซี่ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีสัมภาระติดตัวค่อนข้างเยอะ หรือเดินทางแบบเป็นกลุ่มที่ต้องการความสะดวกและเป็นส่วนตัว การเดินทางโดยแท็กซี่จาก Stephansplatz station ไปยังพระราชวังเชินบรุนน์ มีค่าบริการประมาณ 18 ยูโร
- รถไฟ (Train) นั่งรถไฟสาย U4 (Wien Hütteldorf) ลงสถานี Schonbrunn ใช้เวลาประมาณ 25 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด
8.00 – 17.00 น. ทุกวัน
อัตราค่าเข้าชม
12.90 ยูโร แบบ Imperial Tour 22 ห้อง
15.90 ยูโร แบบ Grand Tour 40 ห้อง
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว Schonbrunn Palace
นอกจากเที่ยวชมห้องต่างๆ ภายในพระราชวังแล้ว หากมีเวลานักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดที่จะไปเยี่ยมชมสวนสัตว์เชินบรุนน์ที่อยู่ในบริเวณของพระราชวัง สวนสัตว์แห่งนี้เป็นสวนสัตว์ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี ค.ศ. 1752 ถือเป็นสวนสัตว์ที่เปิดทำการอย่างต่อเนื่องและมีอายุเก่าแก่ที่สุดในโลกในขณะนี้ และนอกจากสวนสัตว์แล้วภายในเขตพระราชวังยังมีเขาวงกตอันสวยงาม รวมถึงเรือนปลูกปาล์มที่ปลูกในร่มซึ่งใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
คำว่าเชินบรุนน์ (Schonbrunn) มีความหมายว่า น้ำพุอันสวยงาม
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
หากนักท่องเที่ยวต้องการสัมผัสกับบรรยากาศของความรื่นรมย์ยามค่ำคืน และผ่อนคลายไปกับคอนเสิร์ตเพลงคลาสสิก ที่พระราชวังเชินบรุนน์ก็มีการแสดงดนตรีเช่นกัน ทั้งนี้ ค่าบัตรเข้าชมค่อนข้างสูง โดยเริ่มต้นที่ 42 ยูโร
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม Schonbrunn Palace สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
พระราชวังเชินบรุนน์ เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
(Schonbrunn Palace, Vienna, Austria)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : เริ่มต้นที่ 12.90 ยูโร
เวลาเปิด – ปิด : 8.00 – 17.00 น. ทุกวัน
ตั้งอยู่ที่ : Schönbrunner Schloßstraße 47, 1130 Wien, Austria
โทรศัพท์ : (+43) 1 811 130
เว็บไซต์ : https://www.schoenbrunn.at
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวเมืองเวียนนา https://www.wien.info
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศออสเตรีย https://www.austria.info
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

14 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดเนฟเชียร์ ประเทศตุรกี
หากเอ่ยถึงการท่องเที่ยวประเทศตุรกี เชื่อว่าหนึ่งในภาพที่หลายๆ คนมักจะนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ คือภาพของบอลลูนลมร้อนหลากสีสันที่ลอยละล่องอยู่เต็มน่านฟ้า เหนือภูมิประเทศแปลกตาด้วยกลุ่มหินรูปทรงต่างๆ และสถานที่ที่ว่านี้ก็คือเนฟเชียร์ จังหวัดทางภาคกลางของตุรกีที่มีเมืองดังอย่างคัปปาโดเชียเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยว ในบทความนี้ Palanla ได้รวบรวมเอา 14 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดเนฟเชียร์มาให้ออกเดินทางสำรวจไปพร้อมๆ กัน
อ่านต่อ
8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดอิซเมียร์ ประเทศตุรกี
อิซเมียร์ (Izmir) เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศตุรกี และเป็นท่าเรือที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากอิสตันบูล ซึ่งไม่เพียงแต่ความเป็นเมืองใหญ่ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจเท่านั้น ทว่าอิซเมียร์ยังรุ่มรวยไปด้วยภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง เชื่อว่า 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในอิซเมียร์ที่ Palanla ได้คัดสรรมาให้ได้ชมในบทความนี้จะทำให้คุณรู้จักอิซเมียร์มากขึ้นกว่าที่เคยอย่างแน่นอน
อ่านต่อ
7 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดเดนิซลี ประเทศตุรกี
เดนิซลี (Denizli) จังหวัดทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกีที่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่งให้สำรวจ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติมรดกโลกชื่อดังอย่างปามุคคาเล่ หรือเมืองโบราณเฮียราโพลิส และเมืองโบราณเลาดิเซียซึ่งเป็นศูนย์กลางที่สำคัญในสมัยโรมันและไบแซนไทน์มาก่อน Palanla ได้รวบรวม 7 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเดนิซลีมาให้ได้ชมกัน
อ่านต่อ
10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในประเทศไอร์แลนด์เหนือ
ประเทศไอร์แลนด์เหนือตั้งอยู่ในทวีปยุโรปและเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์เหนือมีชื่อเสียงทางด้านภูมิประเทศที่สวยงามและทิวทัศน์ทางธรรมชาติอันน่าหลงใหล อีกทั้งยังเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่มีพิพิธภัณฑ์และสถาปัตยกรรมต่างๆ ให้เที่ยวชมมากมายโดยมีสถานที่ท่องเที่ยวกระจายตัวอยู่ตามเมืองต่างๆ อย่างเช่นเมืองเบลฟาสต์ เมืองลอนดอนเดอร์รี่ และเมืองแถบชายฝั่งทะเล ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ก็อย่างเช่น พิพิธภัณฑ์ไททานิกเบลฟาสต์ที่จัดแสดงเรื่องราวของเรือไททานิกอันโด่งดัง และไจแอนท์คอสเวย์ที่ได้รับเลือกให้เป็นแหล่งมรดกโลกแห่งองค์การยูเนสโก นอกจากนี้ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีกมากมาย โดยทาง Palanla ได้รวบรวมมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้
อ่านต่อ
สะพานเชือกคาร์ริก-อะ-รีด เขตอนุรักษ์แห่งชาติ ชายฝั่งคอสเวย์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ
สะพานเชือกคาร์ริก-อะ-รีด เขตอนุรักษ์แห่งชาติ (National Trust Carrick-a-Rede) เป็นสะพานเชือกความยาว 20 เมตรที่เชื่อมระหว่างพื้นที่ชายฝั่งกับเกาะหินคาร์ริก-อะ-รีดที่อยู่ตรงข้ามกัน ที่นี่เป็นจุดชมทิวทัศน์มหาสมุทรแอตแลนติกอันกว้างใหญ่พร้อมกับเส้นทางผจญภัยบนสะพานเชือกที่ทอดข้ามข้ามเหวลึก 30 เมตรไปสำรวจเกาะเบื้องหน้าซึ่งเป็นที่ตั้งของกระท่อมชาวประมงเก่าแก่ที่มีอายุราวสี่ร้อยกว่าปี ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในจุดชมวิวและจุดถ่ายภาพที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ
ปราสาทเบลฟาสต์ เมืองเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ
ปราสาทเบลฟาสต์ (Belfast Castle) เป็นคฤหาสน์เก่าแก่หลังใหญ่ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบสกอตต์บารอนอย่างงดงาม ถือเป็นแลนด์มาร์กขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นบนเนินเขาเคฟฮิลล์ในเมืองเบลฟาสต์ นอกจากปราสาทเบลฟาสต์จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ที่นี่ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญต่างๆ เช่น งานแต่งงานและการประชุมทางธุรกิจ นอกจากนี้ ด้วยพื้นที่เนินเขาที่อยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 120 เมตร จึงทำให้ที่นี่เป็นจุดชมวิวเมืองเบลฟาสต์จากมุมสูงอีกด้วย
อ่านต่อ
ตลาดเซนต์จอร์จ เมืองเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ
ตลาดเซนต์จอร์จ (St George’s Market) เป็นตลาดในร่มสไตล์วิคตอเรียนแห่งสุดท้ายที่ยังเปิดทำการอยู่ในเมืองเบลฟาสต์ ตลาดแห่งนี้เปิดทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ช่วงสายถึงบ่ายสอง โดยมีแผงขายอาหาร สินค้าแฮนด์เมด และสินค้าหลากหลายประเภท ท่ามกลางดนตรีสดและบรรยากาศที่คึกคัก ตลาดแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองในทุกสุดสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดเซนต์จอร์จยังได้รับรางวัลทั้งระดับท้องถิ่นและระดับประเทศทางด้านผลผลิตสดใหม่ในท้องถิ่นและบรรยากาศที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งยังได้รับการเสนอชื่อให้เป็นตลาดในร่มขนาดใหญ่ที่ดีที่สุดของสหราชอาณาจักรประจำปี 2023 จาก NABMA Great British Market Awards อีกด้วย
อ่านต่อ
กำแพงเมืองเดอร์รี เมืองลอนดอนเดอร์รี่ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ
กำแพงเมืองเดอร์รี (The Derry Walls) เป็นอนุสรณ์สถานที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไอร์แลนด์เหนือ และเป็นกำแพงเมืองที่ยาวที่สุดและมีความสมบูรณ์ที่สุดในบรรดาเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบที่เหลืออีก 30 เมืองในไอร์แลนด์อีกด้วย กำแพงเมืองเดอร์รี่อยู่ใกล้กับแม่น้ำฟอยล์ มีประตูเมือง 7 ประตู ภายในกำแพงเมืองเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น ปราสาท ศาลากลาง และโบสถ์ ไฮไลท์ของกำแพงเมืองแห่งนี้คือปืนใหญ่จำนวน 22 กระบอกที่เรียงรายไปตามป้อมปราการของกำแพงเมือง ปืนเหล่านี้เป็นปืนโบราณจากศตวรรษที่ 16, 17 และ 18 โดยมีปืนโรริงเมกอันโด่งดังตั้งอยู่ที่ป้อมปราการที่อยู่ใกล้ประตูบิชอป กำแพงเมืองเดอร์รี่จึงถือเป็นแหล่งมรดกที่มีความสำคัญระดับชาติและเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ควรแวะเที่ยวชม
อ่านต่อ
11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ซูริค (Zurich) หนึ่งในเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของยุโรปที่นักเดินทางทั่วโลกใฝ่ฝัน เพราะนอกจากมนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติอันงดงามบริสุทธิ์แล้ว ยังรุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม Palanla ได้รวบรวมเอา 11 สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในซูริคมาฝากกัน
อ่านต่อ
อลาคาติ จังหวัดอิซเมียร์ ประเทศตุรกี
อลาคาติ (Alacati ) เมืองตากอากาศในบรรยากาศสไตล์กรีก โดดเด่นด้วยถนนแคบๆ กับบ้านหินแบบดั้งเดิมทาสีขาว ฟ้า ตกแต่งด้วยสีสันสดใส และกังหันลม ให้กลิ่นอายของซานโตรินี สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศกรีซ
อ่านต่อ