- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- พิพิธภัณฑ์และโบสถ์ฮาเกีย โซเฟีย เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
พิพิธภัณฑ์และโบสถ์ฮาเกีย โซเฟีย เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
- อ่าน (5,438)
- By Webmaster
- 11:01:31 | 10 พ.ค. 2567
พิพิธภัณฑ์และโบสถ์ฮาเกีย โซเฟีย เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
The Hagia Sophia Museum and Church, Istanbul, Turkey
ฮาเกียโซเฟีย (Hagia Sophia) เป็นโบสถ์ทรงโดมที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมโบสถ์ของคริสต์ศาสนิกชนตะวันตกยุคไบแซนไทน์ (Byzantine) ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นสถาปัตยกรรมทางศาสนาที่มีความยิ่งใหญ่และงดงามเท่านั้น ทว่าโบสถ์แห่งนี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง รวมถึงได้รับคัดเลือกให้เข้ารอบสุดท้าย 1 ใน 21 สิ่งมหัศจรรย์ในยุคใหม่เมื่อปี ค.ศ. 2007 อีกด้วย
ประวัติ
ฮาเกียโซเฟีย มีชื่อตรงกับความหมายภาษาอังกฤษว่า “Holy Wisdom” หรือแปลเป็นไทยได้ว่า “ภูมิปัญญาศักดิ์สิทธิ์” ฮากาโซเฟียเป็นโบสถ์ทรงโดมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และได้รับการขนานนามว่าเป็น “มหาโบสถ์” (The Great Church) เนื่องจากมีขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับโบสถ์คริสต์ทั่วโลกในยุคนั้น
โบสถ์ฮาเกียโซเฟียแห่งนี้ยังเป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมโบสถ์ของคริสต์ศาสนิกชนตะวันตก ยุคไบแซนไทน์ (Byzantine) ทั้งศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ (Orthodox) และกรีกคาทอลิก (Greek Catholic)มากไปกว่านั้นโบสถ์แห่งนี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ก่อนที่จะได้รับคัดเลือกเข้ารอบสุดท้ายให้เป็น 1 ใน 21 สิ่งมหัศจรรย์ในยุคใหม่อีกครั้งในปี ค.ศ. 2007
โบสถ์หลังแรกแต่เดิมนั้นสร้างในปี ค.ศ. 360 โดยจักรพรรดิคอนสแตนติน (Constantine) แห่งโรมันตะวันออก แต่เนื่องจากเกิดการจลาจลในปี ค.ศ. 404 หลังจากนั้นในปี ค.ศ.415 โบสถ์แห่งนี้จึงได้รับการบูรณะอีกครั้งโดยจักรพรรดิธีโอโดเซียสที่ 2 (Theodosius II) หรือจักรพรรดิเฟลเวียส ธีโอโดเซียส (Flavius Theodosius) จากนั้นอีกร้อยปีต่อมา ใน ค.ศ. 532 ก็เกิดการการจลาจลและโบสถ์ได้พังเสียหายอีกเช่นกัน เรียกได้ว่าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้หลายต่อหลายครั้งด้วยกัน เมื่อมีศึกสงครามและพังเสียหายก็บูรณะให้กลับมาใหม่ ซึ่งโบสถ์ที่คงสภาพมาถึงปัจจุบันคือโบสถ์ที่ระดมแรงงานกว่า 10,000 ชีวิตในการก่อสร้างในสมัยของจักรพรรดิจัสติเนียน (Justinian) ระหว่างปี ค.ศ. 532 - 537 ซึ่งเป็นช่วงที่อาณาจักรไบแซนไทน์เรืองอำนาจและมีอิทธิพลสูงสุด
กล่าวคือ ฮาเกียโซเฟียถูกใช้งานในฐานะของโบสถ์คริสต์เป็นเวลานาน 916 ปี ก่อนที่จะกลายมาเป็นมัสยิดนาน 482 ปีนับตั้งแต่สมัยที่ Fatih Sultan Mehmed ขึ้นปกครองนครอิสตันบูล ท้ายที่สุดต่อมาในปี ค.ศ. 1935 ฮาเกียโซเฟียก็ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์เช่นที่เป็นในปัจจุบัน
ความน่าอัศจรรย์ของโบสถ์ฮาเกียโซเฟียซึ่งสร้างขึ้นในยุคที่ยังไม่มีเหล็กกล้า คือการใช้เสากลมและกำแพงเป็นสิ่งที่ช่วยค้ำยันหลังคาและโดมขนาดใหญ่เอาไว้ โดมของโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้รองรับเสาค้ำยันจำนวน 4 ต้นที่มีรอบฐานวัดได้ประมาณ 100 ตารางเมตร ส่วนตัวโบสถ์วัดความกว้างยาวได้ 77 x 79 เมตร ความสูงจากพื้นดินถึงยอดโดม 62 เมตร และเส้นผ่านศูนย์กลางของโดมยาวประมาณ 33 เมตร
นอกจากโบสถ์ฮาเกียโซเฟียจะเป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมโบสถ์ของคริสต์ศาสนิกชนตะวันตก ยุคไบแซนไทน์แล้ว รูปแบบสถาปัตยกรรมของโบสถ์แห่งนี้ยังขยายอิทธิพลไปถึงดินแดนตะวันออก ซึ่งรับเอารูปแบบสถาปัตยกรรมไปดัดแปลงตามความสวยงามและเหมาะสม รวมถึงรัสเซียก็ได้รับอิทธิพลดังกล่าวด้วย จะเห็นได้จากโบสถ์หลายแห่งทั่วรัสเซียที่ได้มีการดัดแปลงโดมเป็นรูปทรงปลายแคบจนกลายเป็นลักษณะเฉพาะที่มีความโดดเด่นและสวยงาม ปัจจุบันโบสถ์ฮาเกียโซเฟียยังคงความสำคัญในฐานะอนุสรณ์สถานที่สะท้อนถึงแรงศรัทธาที่มีต่อศาสนาของชาวคริสต์และอิสลาม และโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของตุรกีด้วยเช่นกัน
โบสถ์ฮาเกียโซเฟียเป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมโบสถ์ของคริสต์ศาสนิกชนตะวันตก ยุคไบแซนไทน์ (Byzantine) (ภาพซ้าย) และ ฮาเกียโซเฟียถูกใช้งานในฐานะของโบสถ์คริสต์เป็นเวลานาน 916 ปี ก่อนที่จะกลายเป็นมัสยิดนาน 482 ปี (ภาพขวา)
ความน่าอัศจรรย์ของโบสถ์ฮาเกียโซเฟียซึ่งสร้างขึ้นในยุคที่ยังไม่มีเหล็กกล้า คือการใช้เสากลมและกำแพงเป็นสิ่งที่ช่วยค้ำยันหลังคาและโดมขนาดใหญ่เอาไว้
ประตูหินอ่อน มีชื่อเรียกว่า “ประตูแห่งสวรรค์และนรก” ตั้งอยู่ใกล้กับ Empress Lodgeเป็นประตูที่ใช้แยกแกลเลอรี่ฝั่งตะวันตกและใต้ออกจากกัน
บางส่วนภายในโบสถ์ฮาเกียโซเฟียอยู่ในระหว่างทำการซ่อมแซม
ฮากาโซเฟียเป็นโบสถ์ทรงโดมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และได้รับการขนานนามว่าเป็น มหาโบสถ์” (The Great Church)
โบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้เป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศตุรกี
การเดินทางจากสนามบิน Istanbul Airport สู่ตัวเมืองบริเวณสถานี Taksim
เนื่องจากปัจจุบันสถานีรถไฟเชื่อมต่อสถานีสนามบิน Istanbul Airport อยู่ในระหว่างกำลังก่อสร้าง จะแล้วเสร็จและเปิดใช้งานในปี 2020 ดังนั้น จากสนามบินนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าเมืองได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้
- รถชัตเทิลบัส (Havaist Airport Shuttle) การเดินทางเข้าเมืองโดยรถชัตเทิลบัสเป็นวิธีที่สะดวกในราคาที่ประหยัด จากสนามบิน Istanbul Airport นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าเมืองไปยัง Taksim โดยใช้บริการ Havaist สาย IST 19 ที่ให้บริการระหว่างสนามบินอิสตันบูล (Istanbul Airport) – เบซิคทา (Besiktas) – ทักซิม (Taksim) ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.5 ชม.
นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถได้ที่บริเวณหน้าทางออกผู้โดยสารขาเข้า ซึ่งรถจะจอดส่งผู้โดยสารที่ Zincirlikuyu และ 4. Levent Metro ให้นักท่องเที่ยวลงที่ป้ายสุดท้ายหน้าโรงแรม Point ใกล้กับจัตุรัสทักซิม ซึ่งจากบริเวณนั้นนักท่องเที่ยวสามารถเดินไปที่สถานีรถไฟใต้ดิน Taksim Station เพื่อเดินทางต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ หรือที่พักได้อย่างสะดวก ค่าโดยสาร Havabus อยู่ที่ประมาณ 18 ลีราตุรกีหรือประมาณ 95 บาท ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://hava.ist/en/
- รถโดยสารประจำทาง (IETT Public Bus) แม้จากสนามบิน Istanbul Airport จะมีบริการรถโดยสารสาธารณะประจำทางโดย IETT ระหว่างสนามบินกับตัวเมืองและราคาอาจถูกกว่าการเดินทางประเภทอื่นๆ แต่เป็นการเดินทางที่ไม่แนะนำโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่มีสัมภาระใบใหญ่ ซึ่งนอกจากจะใช้เวลาเดินทางนานและต้องเปลี่ยนรถหลายสายแล้ว คนใช้บริการก็ค่อนข้างหนาแน่นโดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน
- แท็กซี่ (Taxi) แท็กซี่จากสนามบิน Istanbul Airport ไปยัง Taksim ค่าโดยสารจะอยู่ที่ประมาณ 140 ลีราตุรกี หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 745 บาท แม้ว่าการเดินทางเข้าเมืองโดยรถแท็กซี่จะเป็นวิธีที่ราคาค่อนข้างสูงกว่าวิธีอื่นๆ แต่ก็เป็นวิธีที่รวดเร็วและสะดวกที่สุดเช่นกันโดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีสัมภาระ ทั้งนี้ หากเทียบกับประเทศอื่นๆ แล้วถือว่าแท็กซี่ที่ประเทศตุรกีนั้นมียังราคาที่ถูกอยู่ นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบค่าบริการแท็กซี่จากสนามบินอิสตันบูลไปยังจุดอื่นๆ ในตัวเมืองได้ที่ https://isturkeysafe.com/New-Istanbul-Airport-Taxi-Fare-Calculator
- บริษัทรถเช่า (Rental Car) สำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนเดินทางท่องเที่ยวโดยการเช่ารถขับเองอยู่แล้ว ก็มีให้บริการรถเช่าให้เลือกหลายบริษัท อาทิ Avis, Budget, Enterprise, Europcar, Hertz และ Sixt ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่ชั้นผู้โดยสารขาเข้าดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.rentalcars.com/en/airport/tr/IST/
แผนที่ขนส่งสาธารณะในอิสตันบูล ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีเส้นทางเชื่อมต่อถึงสนามบิน Istanbul Airport จะแล้วเสร็จและเปิดใช้งานในปี 2020 ดังนั้น หากต้องการใช้บริการรถไฟไปยังสถานที่ต่างๆ นักท่องเที่ยวจึงต้องเดินทางออกจากสนามบินโดยวิธีต่างๆ ข้างต้นก่อนแล้วค่อยมาต่อรถไฟในตัวเมือง ขอบคุณภาพจาก https://www.tooistanbul.com/en/public-transportation-istanbul/
การเดินทางไป The Hagia Sophia Museum and Church
จากสถานี Taksim นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยัง The Hagia Sophia Museum and Church ได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้
- รถไฟใต้ดิน (Metro) ขึ้นรถไฟสายสีเขียว M2 (Yenikapı) ไปลงที่สถานี Vezneciler แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถราง (Tram) สายสีน้ำเงิน T1 จากสถานี Laleli – Üniversite ไปลงที่สถานี Sultanahmet แล้วเดินต่ออีก 300 เมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 20 นาที
- รถราง (Funicular) ขึ้นรถราง Funicular สายสีเทา F1 (Kabatas) ไปลงที่สถานี Kabatas Station แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถราง (Tram) สายสีน้ำเงิน T1 ที่สถานี Kabatas Tramvay istasyonu นั่งไปลงที่สถานี Sultanahmet แล้วเดินต่ออีก 300 เมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 30 นาที
- รถยนต์ (Car) การเดินทางโดยรถยนต์จากสถานี Taksim ไปยัง The Hagia Sophia Museum and Church โดยใช้เส้น Meclis-i Mebusan Cd. มีระยะทาง 5.2 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด
เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 09.00 น. – 17.00 น.
ด้านนอกตัวโบสถ์ ยังคงประดับตกแต่งด้วยของสวยงามและทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์
บรรยากาศของนักท่องเที่ยวด้านนอกตัวโบสถ์
อัตราค่าเข้าชม
บัตรเข้าชมแบบ Single Ticket ราคา 72 ลีราตุรกี
นอกจากโบสถ์ฮาเกียโซเฟียจะเป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมโบสถ์ของคริสต์ศาสนิกชนตะวันตก ยุคไบแซนไทน์แล้ว รูปแบบสถาปัตยกรรมของโบสถ์แห่งนี้ยังขยายอิทธิพลไปถึงดินแดนตะวันออกด้วยเช่นกัน
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว The Hagia Sophia Museum and Church
สิ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด นอกจากชื่นชมความน่าอัศจรรย์ในการก่อสร้างโบสถ์ฮาเกียโซเฟีย ซึ่งโบสถ์ใหญ่ที่สุดในโลกและสร้างขึ้นในยุคที่ยังไม่มีเหล็กกล้าแล้ว ยังมีข้อมูลต่างๆ ที่น่าสนใจให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษา เนื่องจากหากเอ่ยถึงฮาเกียโซเฟียในฐานะของพิพิธภัณฑ์ (Hagia Sophia Museum) แล้ว ที่นี่คือพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับศิลปะและประวัติศาสตร์ของสถาปัตยกรรมที่มีผู้เข้าเยี่ยมชมมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยทีเดียว
สมบัติล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ภายในฮาเกียโซเฟีย
ฮาเกียโซเฟียได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1935
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยว The Hagia Sophia Museum and Church ได้ตลอดปี
ประตูเข้าออกแสดงให้เห็นถึงความโอ่โถงและยิ่งใหญ่
ฮาเกียโซเฟีย มีชื่อตรงกับความหมายภาษาอังกฤษว่า “Holy Wisdom” หรือแปลเป็นไทยได้ว่า “ภูมิปัญญาศักดิ์สิทธิ์” (ภาพซ้าย) และ ความกว้างและยาวของโบสถ์วัดได้ 77 x 79 เมตร และมีความสูงจากพื้นดินถึงยอดโดม 62 เมตร” (ภาพขวา)
จิตรกรรมบนฝาผนังบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับคริสตศาสนา
บรรยากาศความสวยงามบางส่วนภายในฮาเกียโซเฟีย
อุโมงค์ทางเดินที่ชั้นล่างของฮาเกียโซเฟีย เป็นทางเดินที่จะนำนักท่องเที่ยวขึ้นไปสู่ชั้นบนซึ่งเป็นตัวโบสถ์
ทางเดินทั้งหมดเป็นทางเดินลาดปูด้วยหิน ไม่มีขั้นบันได
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
มีตำนานเล่ากันว่า เมื่อเริ่มแรกการก่อสร้าง วิศวกรควบคุมงาน แก้ปัญหาข้อจำกัดเรขาคณิตไม่ตกว่าจะสร้างโดมทรงกลมเหนือฐานรูปสี่เหลี่ยมอย่างไร จึงคิดค้นทฤษฎีใหม่ โดยการสร้างเสาหลัก 4 ต้น ที่มุมแต่ละด้านของฐานสี่เหลี่ยมเหนือยอดเสาขึ้นไปเป็นซุ้มประตู เติมเต็มช่องว่างระหว่างซุ้มโค้งด้วยผนังปูนรูปสามเหลี่ยมผนึกกันเป็นฐานที่แข็งแกร่งรองรับน้ำหนักของหลังคาโดม
ฮาเกียโซเฟียในยามเย็นกับแสงไฟประดับที่ส่องสว่างสวยงาม
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม The Hagia Sophia Museum and Church สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
พิพิธภัณฑ์และโบสถ์ฮาเกีย โซเฟีย เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
(The Hagia Sophia Museum and Church, Istanbul, Turkey)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : เริ่มต้นที่ราคา 72 ลีราตุรกี
เวลาเปิด – ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 09.00 น. – 17.00 น.
ตั้งอยู่ที่ : Hagia Sophia Museum, Sultan Ahmet, Ayasofya Meydanı, Fatih/İstanbul
โทรศัพท์ : (+90) 212 522 17 50
เว็บไซต์ : https://ayasofyamuzesi.gov.tr/en
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวเมืองอิสตันบูล https://visit.istanbul/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวประเทศตุรกี https://www.visitturkey.in/
เว็บไซต์ขนส่งสาธารณะเมืองอิสตันบูล https://www.iett.istanbul/en
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย
หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!
อ่านต่อเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)
สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อิสตันบูล (Istanbul) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นนคร 2 ทวีป ซึ่งมีช่องแคบบอสฟอรัสเป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรปและเอเชียแห่งนี้ คือเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมานับพันๆ ปี จึงไม่น่าแปลกใจหากอิสตันบลูจะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่และงดงามทรงคุณค่ามากมายที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นยุโรปและเอเชียจากอดีตจนถึงปัจจุบัน Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูลที่หากมีโอกาสไปเยือนประเทศตุรกีไม่ควรพลาด
อ่านต่อล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ช่องแคบบอสฟอรัส เป็นช่องแคบเล็กๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของตุรกี เคยเป็นทั้งเส้นทางการค้าที่สำคัญ และยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาจนถึงปัจจุบัน การล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) จึงเป็นวิธีที่ดีที่จะได้สัมผัสบรรยากาศ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมที่หลากหลายของอิสตันบูล
อ่านต่ออุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Sarnici) คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของตุรกี ดินแดนที่เต็มไปด้วยประวัติความเป็นมามากกว่าพันปี อุโมงค์เก่าแก่ขนาดใหญ่แห่งนี้คือสถานที่เก็บน้ำในสมัยโบราณที่ยังคงความยิ่งใหญ่และงดงาม กับเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างเสากรีกที่ค้ำเรียงรายมากถึง 336 ต้น และเสาเมดูซ่าพร้อมตำนานที่เล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคน รวมถึงซากโบราณของพระราชวังใต้ดินแห่งกรุงคอนสแตนติโนเปิลสมัยไบเซนไทน์อีกด้วย
อ่านต่อตลาดเครื่องเทศ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ตลาดเครื่องเทศ (Historical Spice Bazaar / Egyptıan Spıce Bazaar) ในอิสตันบูล เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก ตลาดแห่งนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ในสมัยจักรวรรดิออตโตมัน เดิมทีเป็นจุดแลกเปลี่ยนเครื่องเทศ ผ้าไหม และสินค้าอื่นๆ จากเอเชียมาสู่ยุโรป
อ่านต่อ10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
บูดาเปสต์ (Budapest) เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี ตัวเมืองถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งด้วยแม่น้ำดานูบที่ไหลผ่านกลางเมือง ทำให้ในเมืองเต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกจากสถาปัตยกรรมอันสวยงามเปี่ยมเสน่ห์ที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือน Palanla ได้รวบรวมเอา 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์มาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่อ12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
ปราก (Prague) เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลนี้ ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปยุโรป ในอดีต เมืองปรากเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองอันยิ่งใหญ่ของทวีปยุโรป ซึ่งอารยธรรมแห่งความยิ่งใหญ่ และเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานนั้น ก็ยังคงสะท้อนอยู่ในวิถีชีวิตของชาวเมือง วัฒนธรรมประเพณี สถาปัตยกรรม ฯลฯ ราวกับมรดกที่สืบทอด และรักษากันมาอย่างดี จนถูกยกให้เป็นเมืองที่มีความน่าหลงใหล ควรค่าแก่การไปสัมผัสความเป็นยุโรปมากที่สุด โดยเมืองปรากยังได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย ปัจจุบันเมืองนี้นับเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญ ของบรรดานักท่องเที่ยวที่มาเยือนทวีปยุโรป ไปชม 12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปรากพร้อมๆ กันกับ Palanla!
อ่านต่อถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ (Fashion Street Budapest) เป็นถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงในใจกลางเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ถนนสายนี้เป็นที่รู้จักในด้านร้านค้าแฟชั่นชั้นนำจากแบรนด์ระดับโลก อาทิ Gucci, Louis Vuitton, Dior, Armani, Prada และ Chanel ถนนสายนี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่มากมาย จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองบุดาเปสต์เองด้วย
อ่านต่อล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ (Dinner Cruise Budapest) เป็นวิธียอดเยี่ยมในการชมความสวยงามของเมืองบูดาเปสต์ โดยขณะที่เรือล่องไปตามแม่น้ำดานูบ (Danube River) นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงามของสะพาน พระราชวัง และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ รวมทั้งอิ่มอร่อยกับอาหารรสเลิศและเครื่องดื่มแสนอร่อย
อ่านต่อ