- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองมาดริด ประเทศสเปน
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองมาดริด ประเทศสเปน
- อ่าน (10,790)
- By Webmaster
- 10:18:31 | 30 ม.ค. 2567
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองมาดริด ประเทศสเปน
Top 10 Travel Destinations in Madrid, Spain
มาดริด (Madrid) เมืองหลวงของประเทศสเปนได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก มีชื่อเสียงในด้านการเป็นแหล่งรวมผลงานศิลปะของยุโรป สถาปัตยกรรมอันเกี่ยวกับกษัตริย์และราชวงศ์ ตลอดจนถนนสายสำคัญที่งดงามยิ่งใหญ่ ไปจนถึงตลาดสุดคึกคัก เมืองที่เปี่ยมเสน่ห์แห่งนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งบรรยากาศงามสง่าหรูราและร่าเริงสนุกสนานอยู่ในที Palanla ได้รวบรวมเอา 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองมาดริดมาไว้ในบทความนี้
แผนที่แสดง 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองมาดริด ประเทศสเปน
1. พลาซา เมเยอร์
พลาซา เมเยอร์ (Plaza Mayor) เป็นจัตุรัสที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงมาดริด โดยเป็นจุดเริ่มต้นกิโลเมตรที่ 0 จัตุรัสนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1580 และสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1619 ตรงกลางลานโล่งของจัตุรัสพลาซา เมเยอร์ที่กว้างขวางแห่งนี้ มีอนุสาวรีย์ของกษัตริย์ฟิลิเปที่ 3 ประทับนั่งบนหลังม้าขณะยกเท้าย่างก้าว บริเวณรอบๆ จัตุรัสที่เป็นศูนย์กลางสำหรับประชาชน ทั้งในช่วงเวลาปกติ และช่วงเทศกาลงานต่างๆ แห่งนี้ รายล้อมไปด้วยร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านของที่ระลึก และร้านค้าอื่นๆ อีกมากมาย ตลอดจนเป็นพื้นที่ที่เหล่าศิลปินมาแสดงผลงานให้ได้ชมอย่างเพลิดเพลิน แม้แต่การสู้วัวกระทิงที่เป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมการต่อสู้ของสเปนที่โด่งดังไปทั่วโลกก็สามารถหาชมได้ที่นี่เช่นกัน เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวยอดนิยมในมาดริดที่ผู้คนมักจะมาเดินเล่นเพื่อสัมผัสบรรยากาศ และชมความงามของสถาปัตยกรรมอันหรูหราที่อยู่รอบๆ จัตุรัสแห่งนี้
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 40°24'55.4"N 3°42'26.5"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พลาซา เมเยอร์ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1077
2. หอสมุดแห่งชาติสเปน
หอสมุดแห่งชาติสเปน (Biblioteca y Museos Nacionales) ตั้งอยู่ในกรุงมาดริด เป็นห้องสมุดประชาชนที่ใหญ่ที่สุดในสเปน และยังเป็นหนึ่งในหอสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย ภายในประกอบด้วยคอลเลกชันของห้องสมุดมากกว่า 26,000,000 รายการ รวมถึงหนังสือ 15,000,000 เล่ม และสิ่งพิมพ์อื่นๆ อีกจำนวนมาก ห้องสมุดแห่งนี้ก่อตั้งโดยกษัตริย์ฟิลิปที่ 5 ในปี ค.ศ. 1712 เดิมเป็นห้องสมุดสาธารณะของพระราชวัง (Biblioteca Pública de Palacio) ภายหลังสถานะของห้องสมุดในฐานะทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้ถูกเพิกถอนและโอนกรรมสิทธิ์ไปยังกระทรวงธรรมาภิบาล (Ministerio de la Gobernación) และเปลี่ยนชื่อเป็น Biblioteca Nacional โดยได้มีการจัดระเบียบห้องอ่านหนังสือใหม่ เพื่อรองรับนักศึกษา คนทำงาน และผู้อ่านทั่วไป ปัจจุบันหอสมุดแห่งนี้ถือเป็นสถาบันห้องสมุดสูงสุดของสเปน เป็นศูนย์กลางที่รับผิดชอบในการอนุรักษ์ และเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับมรดกทางสารคดีของสเปนด้วย
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร – วันเสาร์ เปิดเวลา 10.00 - 21.00 น. วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดเวลา 10.00 - 14.00 น.
พิกัด GPS : 40°25'25.9"N 3°41'23.6"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ หอสมุดแห่งชาติสเปน ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1081
3. วิหารอัลมูเดนา
วิหารอัลมูเดนา (Cathedral de la Almudena) เป็นหนึ่งในสถานที่ที่อลังการที่สุดในสเปนซึ่งใช้เวลาก่อสร้างยาวนาน และยังเป็นสถานที่ประกอบพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าชายฟิลิเปแห่งสเปนในปีค.ศ. 2004 ด้วย วิหารอัลมูเดนา ตั้งอยู่ริมถนน Calle Bailén ติดกับพระราชวังหลวงแห่งมาดริด วิหารสีขาวแห่งนี้เริ่มสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 ทว่าเพิ่งสร้างเสร็จในปีค.ศ. 1993 โดยการก่อสร้างที่ล่าช้าทำให้วิหารอัลมูเดนามีสถาปัตยกรรมสองสไตล์ เป็นการผสมผสานกันระหว่างสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิก กับแบบนีโอโกธิก โดยแบบแปลนและลักษณะทางสถาปัตยกรรมหลายๆ จุดของวิหารนี้ยังคงไว้ตามลักษณะดั้งเดิมของวิหารทั่วไป ทว่าสิ่งที่เพิ่มเข้ามาก็คือความทันสมัยที่สร้างเอกลักษณ์ให้กับวิหารแห่งนี้ ด้านบนของวิหารอัลมูเดนาซึ่งเป็นโดมขนาดใหญ่กับเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 20 เมตร ยังเป็นจุดชมวิวอันตระการตาของตัวเมืองมาดริดด้วย
ค่าเข้าชม : การเข้าชมภายในอาคารไม่เสียค่าเข้า (แต่มีค่าธรรมเนียมสำหรับการเข้าพิพิธภัณฑ์และจุดชมวิว)
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 20.30 น.
พิกัด GPS : 40°24'55.9"N 3°42'53.4"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วิหารอัลมูเดนา ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1078
4. สวนสาธารณะเรติโร
สวนสาธารณะเรติโร (El Retiro) ชื่ออันหมายถึง “อดีตพระราชทรัพย์” ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 350 เอเคอร์ใจกลางกรุงมาดริด สวนสาธารณะที่เป็นดังปอดขนาดใหญ่ใจกลางกรุงมาดริดแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1680 ในอดีตเป็นสวนสำหรับราชวงศ์และชนชั้นสูงของสเปน จนกระทั่งเปิดให้เป็นสวนสาธารณะอย่างเป็นทางการ และเปิดให้ประชาชนเข้าชมมาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1860 จึงไม่น่าแปลกใจที่สถาปัตยกรรมต่างๆ ภายใจสวนสาธารณะแห่งนี้จะมีความหรูหรา คลาสสิก ตามแบบฉบับของพระราชวัง พื้นที่ต่างๆ ภายในสวนสาธารณะเรติโรมีการจัดสวนหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่สนามหญ้าที่ตกแต่งอย่างสวยงามสไตล์ฝรั่งเศส ไปจนถึงทางเดินที่มีต้นไม้เป็นแนวขรุขระ ภาพจำที่โดดเด่นที่สุดของสวนสาธารณะแห่งนี้ก็คือ ทะเลสาบที่อยู่เบื้องหน้ากับฉากหลังเป็นสถาปัตยกรรมรูปครึ่งวงกลม ตรงกลางเป็นแท่นสูง บนยอดมีอนุสาวรีย์ Alfonso XII เป็นประติมากรรมคนขี่ม้า ความงดงามและโดดเด่นของบรรยากาศบริเวณนี้ ทำให้มีผู้คนมานั่งพักผ่อน พายเรือเล่นในทะเลสาบ และนักท่องเที่ยวมาถ่ายภาพสวยๆ อยู่โดยตลอด
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เดือนตุลาคม – มีนาคม เปิดทุกวัน เวลา 06.00 - 22.00 น.
เดือนเมษายน - กันยายน เปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 00.00 น.
พิกัด GPS : 40°25'01.2"N 3°41'00.8"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สวนสาธารณะเรติโร ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1080
5. ถนนแกรนเวีย
ถนนแกรนเวีย (Gran Via) เมืองมาดริด ถนนที่ได้รับการขนานนามว่า “Spanish Broadway” อายุเก่าแก่กว่าร้อยปี ถนนเส้นนี้เป็นถนนความยาว 1.3 กิโลเมตรที่เริ่มสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1910 การสร้างถนนนี้ใช้เวลาหลายทศวรรษกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1929 ด้านตะวันออกของถนนเส้นนี้นำไปสู่ Calle de Alcalá ส่วนด้านตะวันตกนำไปสู่จัตุรัส Plaza de Cibeles ตลอดแนวถนนแกรนเวียเรียงรายด้วยอาคารสวยงาม มีทั้งร้านค้าแบรนด์เนม แหล่งช้อปปิ้ง โรงหนัง และที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ทำให้ย่านนี้ไม่เคยขาดชีวิตชีวาและความคึกคักเลยไม่ว่าเวลาใด ท่ามกลางสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่และน่าสนใจที่มีอยู่หลายจุดด้วยกันบนถนนแกรนเวีย อาคาร Schweppes ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ได้รับการออกแบบสถาปัตยกรรมให้โค้งเข้ากับมุมถนน เผยให้เห็นความโดดเด่นของส่วนที่สูงที่สุดตรงมุมที่แยกออกไป ถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปเมื่อมาเที่ยวถนนแกรนเวีย
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 40°25'13.2"N 3°42'20.6"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ถนนแกรนเวีย ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1073
6. พระราชวังหลวงแห่งมาดริด
พระราชวังหลวงแห่งมาดริด (Royal Palace of Madrid) เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “พระราชวังหลวงปาลาซิโอ” เป็นหนึ่งในพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก สร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าเฟลิเปที่ 5 แห่งราชวงศ์บูร์บง โดยใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 25 ปี โดยโครงสร้างอาคารที่เห็นอยู่ในปัจจุบันก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1738 หลังจากที่ประทับเดิมของราชวงศ์ถูกเพลิงไหม้เมื่อปีค.ศ. 1734 พระราชวังแห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน เน้นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมอิตาเลียนเเละฝรั่งเศส ทำให้พระราชวังหลวงแห่งมาดริดมีลักษณะคล้ายพระราชวังเเวร์ซายน์ ประเทศฝรั่งเศส ภายในพระราชวังแบ่งเป็นห้องต่างๆ ถึง 3,400 ห้อง แต่ละห้องตกแต่งอย่างสวยงาม หรูหรา และจัดแสดงผลงานศิลปะเลอค่าชั้นสูงมากมาย รวมถึงเครื่องลายคราม ชุดเกราะโบราณ อาวุธต่างๆ ที่กษัตริย์สเปนและราชวงศ์เคยใช้เป็นเวลาหลายร้อยปี
ค่าเข้าชม : ตั๋วเข้าชมราคา 10 ยูโร
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 18.00 น. ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์
พิกัด GPS : 40°25'05.3"N 3°42'51.5"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พระราชวังหลวงแห่งมาดริด ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1075
7. น้ำพุไซเบเลส
น้ำพุไซเบเลส (Cybele Fountain) ประติมากรรมน้ำพุแกะสลักจากหินอ่อน ความสูง 8 เมตร กว้าง 32 เมตร เป็นรูปเทพธิดาไซเบลีนนั่งบนรถเทียมสิงโตโดยในมือถือคทาและกุญแจมุ่งสู่เมือง สร้างขึ้นเมื่อปลายศตวรรษที่ 18 โดยกษัตริย์คาลอส ที่ 3 เพื่ออุทิศให้แก่เทพธิดาไซเบลีน โดยมีสถาปนิกผู้ออกแบบคือ Ventura Rodríguez น้ำพุแห่งนี้ถือเป็นน้ำพุที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงมาดริด โดยตั้งอยู่บริเวณจัตุรัสไซเบเลส (Plaza de la Cibeles) ซึ่งเป็นวงเวียนสำคัญและยังเป็นจุดที่ทีมฟุตบอลเรอัลมาดริดจะใช้เฉลิมฉลองการแข่งขันชิงแชมป์ด้วย บริเวณรอบๆ น้ำพุไซเบเลสมีอาคารสำคัญประจำอยู่ทั้ง 4 มุม ได้แก่ ธนาคารแห่งชาติสเปน, กองบัญชาการทหารบก, ศูนย์วัฒนธรรมทวีปอเมริกา และที่ทำการใหญ่ไปรษณีย์ซึ่งปัจจุบันคือศาลาว่าการเมืองมาดริดหลังสีขาวอันงามสง่า
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 40°25'09.4"N 3°41'35.1"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ น้ำพุไซเบเลส ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1074
8. ศาลาว่าการเมืองมาดริด
ศาลาว่าการเมืองมาดริด (Palacio de Comunicaciones) อาคารหลังสีขาวงดงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ถูกเปลี่ยนผ่านหน้าที่มาหลายบทบาท ก่อนที่จะกลายมาเป็นศาลาว่าการเมืองมาดริดในปัจจุบัน ศาลาว่าการเมืองมาดริดตั้งตระหง่านอยู่ที่จัตุรัสไซเบเลส (Plaza de Cibeles) บริเวณด้านหลังน้ำพุไซเบเลสนั่นเอง อาคารหลังนี้ได้รับการออกแบบขึ้นในปี ค.ศ. 1904 มีสถาปนิกคนแรกคือ Antonio Palacios โดยสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1905 และสร้างเพิ่มเติมอีกครั้งปี ค.ศ. 1918 ในฐานะที่ทำการไปรษณีย์หลัก ภายหลังได้กลายมาเป็นศาลาว่าการเมืองมาดริดนับตั้งแต่ปี ค.ศ.2007 เป็นต้นมา ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ใครผ่านมาผ่านไปแถวจัตุรัสไซเบเลสต้องอดชื่นชมในความงามสง่าและโดดเด่นสะดุดตาไม่ได้
ค่าเข้าชม : ตั๋วเข้าชม 3 ยูโร
เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร – วันอาทิตย์ เปิดเวลา 10.00 – 20.00 น. ปิดวันจันทร์
พิกัด GPS : 40°25'07.9"N 3°41'30.1"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ศาลาว่าการเมืองมาดริด ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1079
9. ตลาดซานมิเกล
ตลาดซานมิเกล (Mercado San Miguel) หนึ่งในตลาดที่เก่าแก่ที่สุดในมาดริดที่บรรยากาศสุดคึกคักแห่งนี้ ถือเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมอาหารของสเปน โดยนอกจากภายในจะมีร้านอาหารหลากหลายให้เลือกแล้ว ที่นี่ยังเป็นตลาดนัด เป็นแหล่งช้อปปิ้งอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารระดับไฮเอนด์ เป็นแหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในการทำอาหาร ตลอดจนอาหารหลายชนิดซึ่งผลิตในสเปนด้วย ในช่วงเย็นตลาดซานมิเกลจะกลายเป็นจุดนัดพบยอดนิยมสำหรับการผ่อนคลาย ด้วยเครื่องดื่มอย่างไวน์ท้องถิ่น เบียร์ หรือค็อกเทล คู่กับอาหารว่างเบาๆ อย่างทาปาส โดยมีไฮไลต์อยู่ที่เมนูอาหารทะเล เช่น แซลมอน หรือหอยนางรม ตลาดนี้เปิดทุกวัน ตั้งแต่เที่ยงวันไปจนถึงเที่ยงคืนเลยทีเดียว
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 00.00 น. วันศุกร์และวันเสาร์เปิดถึง 02.00 น.
พิกัด GPS : 40°24'55.3"N 3°42'32.4"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ตลาดซานมิเกล ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1072
10. พลาซา เดอ เอสปานา
พลาซา เดอ เอสปานา (Plaza de Espana) มีลักษณะเป็นจัตุรัสครึ่งวงกลมที่สวยงาม โค้งโอบรอบลานกว้าง สมกับชื่อ Espana ที่หมายถึง “การโอบกอด” จัตุรัสแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1928 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดนิทรรศการ Ibero-American ในปี ค.ศ. 1929 (Expo 29) นอกจากภูมิทัศน์ที่สวยงามเหมาะแก่การเดินเล่นพักผ่อนแล้ว พลาซา เดอ เอสปานา ยังเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ มิเกล เด เซร์บันเตส นักเขียนชาวสเปน กับผลงานที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกอย่าง “ดอนกิโฆเต้ แห่งลามันชา” รวมถึงประติมากรรมสำริดของ ดอนกิโฆเต้และซานโช ปันซา ตัวละครในเรื่องอยู่บริเวณด้านหน้าของอนุสาวรีย์ และมีประติมากรรมหินของ Aldonza Lorenzo อยู่บริเวณด้านข้างด้วย
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 40°25'23.6"N 3°42'46.2"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พลาซา เดอ เอสปานา ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1076
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ :
- เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ
https://www.accuweather.com/
- เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองมาดริด
https://www.esmadrid.com/en
- สกุลเงินที่ใช้ : ยูโร (EUR)
แอปพลิเคชัน "บริการรถแท็กซี่" ในประเทศสเปน
- Uber สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
- My taxi สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) ลิงค์ และ Play Store (Android)
แอปพลิเคชัน "แผนที่ในการนำทาง" ในประเทศสเปน
- Google Map สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อรวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อ