- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองมาดริด ประเทศสเปน
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองมาดริด ประเทศสเปน

- อ่าน (3,451)
- By Webmaster
- 05:42:55 | 7 ก.พ. 2566
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองมาดริด ประเทศสเปน
Top 10 Travel Destinations in Madrid, Spain
มาดริด (Madrid) เมืองหลวงของประเทศสเปนได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก มีชื่อเสียงในด้านการเป็นแหล่งรวมผลงานศิลปะของยุโรป สถาปัตยกรรมอันเกี่ยวกับกษัตริย์และราชวงศ์ ตลอดจนถนนสายสำคัญที่งดงามยิ่งใหญ่ ไปจนถึงตลาดสุดคึกคัก เมืองที่เปี่ยมเสน่ห์แห่งนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งบรรยากาศงามสง่าหรูราและร่าเริงสนุกสนานอยู่ในที Palanla ได้รวบรวมเอา 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองมาดริดมาไว้ในบทความนี้
แผนที่แสดง 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองมาดริด ประเทศสเปน
1. พลาซา เมเยอร์
พลาซา เมเยอร์ (Plaza Mayor) เป็นจัตุรัสที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงมาดริด โดยเป็นจุดเริ่มต้นกิโลเมตรที่ 0 จัตุรัสนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1580 และสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1619 ตรงกลางลานโล่งของจัตุรัสพลาซา เมเยอร์ที่กว้างขวางแห่งนี้ มีอนุสาวรีย์ของกษัตริย์ฟิลิเปที่ 3 ประทับนั่งบนหลังม้าขณะยกเท้าย่างก้าว บริเวณรอบๆ จัตุรัสที่เป็นศูนย์กลางสำหรับประชาชน ทั้งในช่วงเวลาปกติ และช่วงเทศกาลงานต่างๆ แห่งนี้ รายล้อมไปด้วยร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านของที่ระลึก และร้านค้าอื่นๆ อีกมากมาย ตลอดจนเป็นพื้นที่ที่เหล่าศิลปินมาแสดงผลงานให้ได้ชมอย่างเพลิดเพลิน แม้แต่การสู้วัวกระทิงที่เป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมการต่อสู้ของสเปนที่โด่งดังไปทั่วโลกก็สามารถหาชมได้ที่นี่เช่นกัน เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวยอดนิยมในมาดริดที่ผู้คนมักจะมาเดินเล่นเพื่อสัมผัสบรรยากาศ และชมความงามของสถาปัตยกรรมอันหรูหราที่อยู่รอบๆ จัตุรัสแห่งนี้
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 40°24'55.4"N 3°42'26.5"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พลาซา เมเยอร์ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1077
2. หอสมุดแห่งชาติสเปน
หอสมุดแห่งชาติสเปน (Biblioteca y Museos Nacionales) ตั้งอยู่ในกรุงมาดริด เป็นห้องสมุดประชาชนที่ใหญ่ที่สุดในสเปน และยังเป็นหนึ่งในหอสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย ภายในประกอบด้วยคอลเลกชันของห้องสมุดมากกว่า 26,000,000 รายการ รวมถึงหนังสือ 15,000,000 เล่ม และสิ่งพิมพ์อื่นๆ อีกจำนวนมาก ห้องสมุดแห่งนี้ก่อตั้งโดยกษัตริย์ฟิลิปที่ 5 ในปี ค.ศ. 1712 เดิมเป็นห้องสมุดสาธารณะของพระราชวัง (Biblioteca Pública de Palacio) ภายหลังสถานะของห้องสมุดในฐานะทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้ถูกเพิกถอนและโอนกรรมสิทธิ์ไปยังกระทรวงธรรมาภิบาล (Ministerio de la Gobernación) และเปลี่ยนชื่อเป็น Biblioteca Nacional โดยได้มีการจัดระเบียบห้องอ่านหนังสือใหม่ เพื่อรองรับนักศึกษา คนทำงาน และผู้อ่านทั่วไป ปัจจุบันหอสมุดแห่งนี้ถือเป็นสถาบันห้องสมุดสูงสุดของสเปน เป็นศูนย์กลางที่รับผิดชอบในการอนุรักษ์ และเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับมรดกทางสารคดีของสเปนด้วย
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร – วันเสาร์ เปิดเวลา 10.00 - 21.00 น. วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดเวลา 10.00 - 14.00 น.
พิกัด GPS : 40°25'25.9"N 3°41'23.6"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ หอสมุดแห่งชาติสเปน ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1081
3. วิหารอัลมูเดนา
วิหารอัลมูเดนา (Cathedral de la Almudena) เป็นหนึ่งในสถานที่ที่อลังการที่สุดในสเปนซึ่งใช้เวลาก่อสร้างยาวนาน และยังเป็นสถานที่ประกอบพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าชายฟิลิเปแห่งสเปนในปีค.ศ. 2004 ด้วย วิหารอัลมูเดนา ตั้งอยู่ริมถนน Calle Bailén ติดกับพระราชวังหลวงแห่งมาดริด วิหารสีขาวแห่งนี้เริ่มสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 ทว่าเพิ่งสร้างเสร็จในปีค.ศ. 1993 โดยการก่อสร้างที่ล่าช้าทำให้วิหารอัลมูเดนามีสถาปัตยกรรมสองสไตล์ เป็นการผสมผสานกันระหว่างสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิก กับแบบนีโอโกธิก โดยแบบแปลนและลักษณะทางสถาปัตยกรรมหลายๆ จุดของวิหารนี้ยังคงไว้ตามลักษณะดั้งเดิมของวิหารทั่วไป ทว่าสิ่งที่เพิ่มเข้ามาก็คือความทันสมัยที่สร้างเอกลักษณ์ให้กับวิหารแห่งนี้ ด้านบนของวิหารอัลมูเดนาซึ่งเป็นโดมขนาดใหญ่กับเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 20 เมตร ยังเป็นจุดชมวิวอันตระการตาของตัวเมืองมาดริดด้วย
ค่าเข้าชม : การเข้าชมภายในอาคารไม่เสียค่าเข้า (แต่มีค่าธรรมเนียมสำหรับการเข้าพิพิธภัณฑ์และจุดชมวิว)
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 20.30 น.
พิกัด GPS : 40°24'55.9"N 3°42'53.4"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วิหารอัลมูเดนา ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1078
4. สวนสาธารณะเรติโร
สวนสาธารณะเรติโร (El Retiro) ชื่ออันหมายถึง “อดีตพระราชทรัพย์” ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 350 เอเคอร์ใจกลางกรุงมาดริด สวนสาธารณะที่เป็นดังปอดขนาดใหญ่ใจกลางกรุงมาดริดแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1680 ในอดีตเป็นสวนสำหรับราชวงศ์และชนชั้นสูงของสเปน จนกระทั่งเปิดให้เป็นสวนสาธารณะอย่างเป็นทางการ และเปิดให้ประชาชนเข้าชมมาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1860 จึงไม่น่าแปลกใจที่สถาปัตยกรรมต่างๆ ภายใจสวนสาธารณะแห่งนี้จะมีความหรูหรา คลาสสิก ตามแบบฉบับของพระราชวัง พื้นที่ต่างๆ ภายในสวนสาธารณะเรติโรมีการจัดสวนหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่สนามหญ้าที่ตกแต่งอย่างสวยงามสไตล์ฝรั่งเศส ไปจนถึงทางเดินที่มีต้นไม้เป็นแนวขรุขระ ภาพจำที่โดดเด่นที่สุดของสวนสาธารณะแห่งนี้ก็คือ ทะเลสาบที่อยู่เบื้องหน้ากับฉากหลังเป็นสถาปัตยกรรมรูปครึ่งวงกลม ตรงกลางเป็นแท่นสูง บนยอดมีอนุสาวรีย์ Alfonso XII เป็นประติมากรรมคนขี่ม้า ความงดงามและโดดเด่นของบรรยากาศบริเวณนี้ ทำให้มีผู้คนมานั่งพักผ่อน พายเรือเล่นในทะเลสาบ และนักท่องเที่ยวมาถ่ายภาพสวยๆ อยู่โดยตลอด
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เดือนตุลาคม – มีนาคม เปิดทุกวัน เวลา 06.00 - 22.00 น.
เดือนเมษายน - กันยายน เปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 00.00 น.
พิกัด GPS : 40°25'01.2"N 3°41'00.8"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สวนสาธารณะเรติโร ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1080
5. ถนนแกรนเวีย
ถนนแกรนเวีย (Gran Via) เมืองมาดริด ถนนที่ได้รับการขนานนามว่า “Spanish Broadway” อายุเก่าแก่กว่าร้อยปี ถนนเส้นนี้เป็นถนนความยาว 1.3 กิโลเมตรที่เริ่มสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1910 การสร้างถนนนี้ใช้เวลาหลายทศวรรษกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1929 ด้านตะวันออกของถนนเส้นนี้นำไปสู่ Calle de Alcalá ส่วนด้านตะวันตกนำไปสู่จัตุรัส Plaza de Cibeles ตลอดแนวถนนแกรนเวียเรียงรายด้วยอาคารสวยงาม มีทั้งร้านค้าแบรนด์เนม แหล่งช้อปปิ้ง โรงหนัง และที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ทำให้ย่านนี้ไม่เคยขาดชีวิตชีวาและความคึกคักเลยไม่ว่าเวลาใด ท่ามกลางสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่และน่าสนใจที่มีอยู่หลายจุดด้วยกันบนถนนแกรนเวีย อาคาร Schweppes ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ได้รับการออกแบบสถาปัตยกรรมให้โค้งเข้ากับมุมถนน เผยให้เห็นความโดดเด่นของส่วนที่สูงที่สุดตรงมุมที่แยกออกไป ถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปเมื่อมาเที่ยวถนนแกรนเวีย
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 40°25'13.2"N 3°42'20.6"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ถนนแกรนเวีย ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1073
6. พระราชวังหลวงแห่งมาดริด
พระราชวังหลวงแห่งมาดริด Royal Palace of Madrid) เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “พระราชวังหลวงปาลาซิโอ” เป็นหนึ่งในพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก สร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าเฟลิเปที่ 5 แห่งราชวงศ์บูร์บง โดยใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 25 ปี โดยโครงสร้างอาคารที่เห็นอยู่ในปัจจุบันก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1738 หลังจากที่ประทับเดิมของราชวงศ์ถูกเพลิงไหม้เมื่อปีค.ศ. 1734 พระราชวังแห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน เน้นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมอิตาเลียนเเละฝรั่งเศส ทำให้พระราชวังหลวงแห่งมาดริดมีลักษณะคล้ายพระราชวังเเวร์ซายน์ ประเทศฝรั่งเศส ภายในพระราชวังแบ่งเป็นห้องต่างๆ ถึง 3,400 ห้อง แต่ละห้องตกแต่งอย่างสวยงาม หรูหรา และจัดแสดงผลงานศิลปะเลอค่าชั้นสูงมากมาย รวมถึงเครื่องลายคราม ชุดเกราะโบราณ อาวุธต่างๆ ที่กษัตริย์สเปนและราชวงศ์เคยใช้เป็นเวลาหลายร้อยปี
ค่าเข้าชม : ตั๋วเข้าชมราคา 10 ยูโร
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 18.00 น. ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์
พิกัด GPS : 40°25'05.3"N 3°42'51.5"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พระราชวังหลวงแห่งมาดริด ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1075
7. น้ำพุไซเบเลส
น้ำพุไซเบเลส (Cybele Fountain) ประติมากรรมน้ำพุแกะสลักจากหินอ่อน ความสูง 8 เมตร กว้าง 32 เมตร เป็นรูปเทพธิดาไซเบลีนนั่งบนรถเทียมสิงโตโดยในมือถือคทาและกุญแจมุ่งสู่เมือง สร้างขึ้นเมื่อปลายศตวรรษที่ 18 โดยกษัตริย์คาลอส ที่ 3 เพื่ออุทิศให้แก่เทพธิดาไซเบลีน โดยมีสถาปนิกผู้ออกแบบคือ Ventura Rodríguez น้ำพุแห่งนี้ถือเป็นน้ำพุที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงมาดริด โดยตั้งอยู่บริเวณจัตุรัสไซเบเลส (Plaza de la Cibeles) ซึ่งเป็นวงเวียนสำคัญและยังเป็นจุดที่ทีมฟุตบอลเรอัลมาดริดจะใช้เฉลิมฉลองการแข่งขันชิงแชมป์ด้วย บริเวณรอบๆ น้ำพุไซเบเลสมีอาคารสำคัญประจำอยู่ทั้ง 4 มุม ได้แก่ ธนาคารแห่งชาติสเปน, กองบัญชาการทหารบก, ศูนย์วัฒนธรรมทวีปอเมริกา และที่ทำการใหญ่ไปรษณีย์ซึ่งปัจจุบันคือศาลาว่าการเมืองมาดริดหลังสีขาวอันงามสง่า
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 40°25'09.4"N 3°41'35.1"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ น้ำพุไซเบเลส ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1074
8. ศาลาว่าการเมืองมาดริด
ศาลาว่าการเมืองมาดริด (Palacio de Comunicaciones) อาคารหลังสีขาวงดงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ถูกเปลี่ยนผ่านหน้าที่มาหลายบทบาท ก่อนที่จะกลายมาเป็นศาลาว่าการเมืองมาดริดในปัจจุบัน ศาลาว่าการเมืองมาดริดตั้งตระหง่านอยู่ที่จัตุรัสไซเบเลส (Plaza de Cibeles) บริเวณด้านหลังน้ำพุไซเบเลสนั่นเอง อาคารหลังนี้ได้รับการออกแบบขึ้นในปี ค.ศ. 1904 มีสถาปนิกคนแรกคือ Antonio Palacios โดยสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1905 และสร้างเพิ่มเติมอีกครั้งปี ค.ศ. 1918 ในฐานะที่ทำการไปรษณีย์หลัก ภายหลังได้กลายมาเป็นศาลาว่าการเมืองมาดริดนับตั้งแต่ปี ค.ศ.2007 เป็นต้นมา ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ใครผ่านมาผ่านไปแถวจัตุรัสไซเบเลสต้องอดชื่นชมในความงามสง่าและโดดเด่นสะดุดตาไม่ได้
ค่าเข้าชม : ตั๋วเข้าชม 3 ยูโร
เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร – วันอาทิตย์ เปิดเวลา 10.00 – 20.00 น. ปิดวันจันทร์
พิกัด GPS : 40°25'07.9"N 3°41'30.1"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ศาลาว่าการเมืองมาดริด ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1079
9. ตลาดซานมิเกล
ตลาดซานมิเกล (Mercado San Miguel) หนึ่งในตลาดที่เก่าแก่ที่สุดในมาดริดที่บรรยากาศสุดคึกคักแห่งนี้ ถือเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมอาหารของสเปน โดยนอกจากภายในจะมีร้านอาหารหลากหลายให้เลือกแล้ว ที่นี่ยังเป็นตลาดนัด เป็นแหล่งช้อปปิ้งอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารระดับไฮเอนด์ เป็นแหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในการทำอาหาร ตลอดจนอาหารหลายชนิดซึ่งผลิตในสเปนด้วย ในช่วงเย็นตลาดซานมิเกลจะกลายเป็นจุดนัดพบยอดนิยมสำหรับการผ่อนคลาย ด้วยเครื่องดื่มอย่างไวน์ท้องถิ่น เบียร์ หรือค็อกเทล คู่กับอาหารว่างเบาๆ อย่างทาปาส โดยมีไฮไลต์อยู่ที่เมนูอาหารทะเล เช่น แซลมอน หรือหอยนางรม ตลาดนี้เปิดทุกวัน ตั้งแต่เที่ยงวันไปจนถึงเที่ยงคืนเลยทีเดียว
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 00.00 น. วันศุกร์และวันเสาร์เปิดถึง 02.00 น.
พิกัด GPS : 40°24'55.3"N 3°42'32.4"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ตลาดซานมิเกล ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1072
10. พลาซา เดอ เอสปานา
พลาซา เดอ เอสปานา (Plaza de Espana) มีลักษณะเป็นจัตุรัสครึ่งวงกลมที่สวยงาม โค้งโอบรอบลานกว้าง สมกับชื่อ Espana ที่หมายถึง “การโอบกอด” จัตุรัสแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1928 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดนิทรรศการ Ibero-American ในปี ค.ศ. 1929 (Expo 29) นอกจากภูมิทัศน์ที่สวยงามเหมาะแก่การเดินเล่นพักผ่อนแล้ว พลาซา เดอ เอสปานา ยังเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ มิเกล เด เซร์บันเตส นักเขียนชาวสเปน กับผลงานที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกอย่าง “ดอนกิโฆเต้ แห่งลามันชา” รวมถึงประติมากรรมสำริดของ ดอนกิโฆเต้และซานโช ปันซา ตัวละครในเรื่องอยู่บริเวณด้านหน้าของอนุสาวรีย์ และมีประติมากรรมหินของ Aldonza Lorenzo อยู่บริเวณด้านข้างด้วย
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 40°25'23.6"N 3°42'46.2"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พลาซา เดอ เอสปานา ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1076
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์สำนักงานการท่องเที่ยวประเทศสเปน https://www.spain.info/en/
เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองมาดริด https://www.esmadrid.com/en
เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนของเมืองมาดริด https://www.metromadrid.es/en
สกุลเงินที่ใช้ : ยูโร (EUR)
ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ https://www.xe.com/currencyconverter/
สถานเอกอัครราชทูตสเปนประจำประเทศไทย https://www.exteriores.gob.es/Embajadas/bangkok/en
แอปพลิเคชั่นแนะนำสำหรับเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ในเมืองมาดริด
- Uber สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
- My taxi สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) ลิงค์ และ Play Store (Android)
อัตราค่าบริการ (TAXI FARE)
อัตราค่าครองชีพ (DAILY COST)
สภาพอากาศ (WEATHER)
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

21 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ปารีส คือเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศสและเป็นเมืองแห่งมนตร์ขลังที่อ้าแขนรับ รอให้นักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับเสน่ห์เมืองเก่าของยุโรปผสานไปกับความสวยงามของสถาปัตยกรรมยุคปฏิวัติ และความสะดวกสบาย ความทันสมัย รวมไปถึงแฟชั่นใหม่ๆ ที่มีต้อนรับผู้มาเยือนเมืองแห่งนี้อย่างครบครัน
อ่านต่อ
อนุสรณ์สถาน ดัตช์ ฮอโลคอสต์ เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
อนุสรณ์สถาน ดัตช์ ฮอโลคอสต์ (Dutch Holocaust Memorial of Names) ในเมืองอัมสเตอร์ดัม ที่โดดเด่นด้วยเขาวงกตกำแพงอิฐและกระจกแห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ฮอโลคอสต์ หรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีเหยื่อชาวดัตช์ผู้เคราะห์ร้ายจำนวน 102,000 คนถูกขับไล่ออกจากประเทศและถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมในค่ายกักกันนาซีเยอรมัน
อ่านต่อ
หมู่บ้านชาวประมงโวเลนดัม เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
หมู่บ้านชาวประมงโวเลนดัม (Volendam) หรือฉายา "ไข่มุกแห่งซุยเดอร์ ซี" (The Pearl Of The Zuiderzee) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศเนเธอร์แลนด์ ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวอันมีเสน่ห์โวเลนดัมได้ดึงดูดบรรดาจิตรกรเอกในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 อย่างเรอนัวร์และปีกัสโซให้เดินทางมาที่นี่ เพื่อสัมผัสกับบรรยากาศและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผลงานของพวกเขามาแล้ว
อ่านต่อ
กังหันลมแอเดรียน (1779) เมืองฮาร์เลม ประเทศเนเธอร์แลนด์
กังหันลมแอเดรียน (1779) (Windmill De Adriaan (1779)) เป็นกังหันลมขนาดใหญ่ริมแม่น้ำสปาร์เนอร์ และยังเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองฮาร์เลมอีกด้วย กังหันลมแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.1779 ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน และมีการบูรณะซ่อมแซมให้ใช้งานได้จริงอยู่เสมอจนถึงปัจจุบัน ภายในอาคารด้านล่างของกังหันลมเป็นพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงนิทรรศการกังหันลมที่น่าสนใจ และยังสามารถขึ้นไปชมวิวความสวยงามริมแม่น้ำจากระเบียงอาคารด้านบนได้อีกด้วย
อ่านต่อ
ศาลากลางเมืองฮาร์เลม เมืองฮาร์เลม ประเทศเนเธอร์แลนด์
ศาลากลางเมืองฮาร์เลม (Town Hall Haarlem) เป็นอีกหนึ่งอาคารเก่าแก่สไตล์โกธิคที่ตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณจัตุรัสตลาดกลางของเมืองฮาร์เลม อาคารแห่งนี้มีอายุหลายร้อยปีและยังใช้เป็นที่ทำการปกครองเมืองฮาร์เลมอยู่จนถึงปัจจุบัน เป็นอีกหนึ่งมุมถ่ายภาพสวยๆ ของเมือง และหากมาเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะได้เห็นคู่บ่าวสาวมาทำพิธีแต่งงานกันที่นี่อีกด้วย
อ่านต่อ
มหาวิหารเซนต์บาโวฮาร์เลม เมืองฮาร์เลม ประเทศเนเธอร์แลนด์
มหาวิหารเซนต์บาโวฮาร์เลม (St. Bavo Haarlem) เป็นมหาวิหารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมโกธิคอย่างวิจิตรงดงาม โดดเด่นด้วยหอคอยสูง เป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฮาร์เล็มใกล้กับจตุรัสตลาดกลาง และยังเป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศเนเธอร์แลนด์อีกด้วย ภายในประดับด้วยกระจกสี ภาพเขียน และโบราณวัตถุต่างๆ ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวเมืองฮาร์เลม
อ่านต่อ
จัตุรัสตลาดกลาง เมืองฮาร์เลม ประเทศเนเธอร์แลนด์
จัตุรัสตลาดกลาง (Grote Markt) เป็นจัตุรัสที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้กับมหาวิหารเซนต์บาโวฮาร์เลมและศาลากลางเมืองฮาร์เลม บริเวณนี้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองเพราะรายล้อมด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถเดินถึงกันได้ บริเวณจัตุรัสตลาดกลางจะเปิดเป็นตลาดนัดในวันเสาร์โดยมีสินค้าหลากหลายประเภทจำหน่าย เช่น อาหาร ขนม ผักผลไม้ ดอกไม้ และของใช้ทั่วไป นอกจากการเดินชมตลาดแล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดถ่ายภาพที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองฮาร์เลมอีกด้วย
อ่านต่อ
บ้านลูกบาศก์ เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
บ้านลูกบาศก์ (Cube Houses) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานกับศิลปะการออกแบบภายในที่น่าสนใจ มีลักษณะเป็นบ้านทรงลูกบาศก์ที่ตั้งเอียงอยู่บนเสาทรงหกเหลี่ยม ด้านในแสดงให้เห็นถึงการออกแบบห้องต่างๆ และการจัดวางพื้นที่ใช้สอยอย่างคุ้มค่าและลงตัวเหมาะกับการใช้ชีวิตในเมืองตามแนวคิดของ Piet Blom ซึ่งเป็นผู้ออกแบบบ้านลูกบาศก์เหล่านี้
อ่านต่อ
โบสถ์เซนต์ลอว์เรน เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
โบสถ์เซนต์ลอว์เรน (Grote of Sint-Laurenskerk) เป็นโบสถ์ประจำเมืองรอตเตอร์ดัม สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมโกธิคที่ผ่านประวัติศาสตร์มายาวนานกว่าห้าร้อยปี โดดเด่นด้วยหอคอยสูงที่ด้านบนประดับด้วยนาฬิกา บริเวณโดยรอบตกแต่งด้วยสนามหญ้าและสวนอันร่มรื่น ที่นี่จึงเป็นแลนด์มาร์กอีกแห่งหนึ่งของเมืองที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว โดยทางโบสถ์จะเปิดให้ขึ้นไปชมวิวด้านบนหอคอยได้ในช่วงเดือนมีนาคมถึงตุลาคมของทุกปี
อ่านต่อ
สะพานอีรามัส เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
สะพานอีรามัส (Erasmus Bridge) หรือสะพานหงส์ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองรอตเตอร์ดัม สะพานแห่งนี้เป็นสะพานที่ด้านบนขึงด้วยสายเคเบิลทอดข้ามแม่น้ำ Nieuwe Maas เพื่อเชื่อมพื้นที่ทางด้านทิศเหนือและทิศใต้ของเมืองรอตเตอร์ดัมเข้าไว้ด้วยกัน บริเวณนี้เป็นจุดชมวิวริมแม่น้ำที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งที่สามารถชมวิวสะพานและแม่น้ำได้แบบพาโนรามา เป็นจุดแวะเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ