- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองมาดริด ประเทศสเปน
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองมาดริด ประเทศสเปน
- อ่าน (10,467)
- By Webmaster
- 10:18:31 | 30 ม.ค. 2567
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองมาดริด ประเทศสเปน
Top 10 Travel Destinations in Madrid, Spain
มาดริด (Madrid) เมืองหลวงของประเทศสเปนได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก มีชื่อเสียงในด้านการเป็นแหล่งรวมผลงานศิลปะของยุโรป สถาปัตยกรรมอันเกี่ยวกับกษัตริย์และราชวงศ์ ตลอดจนถนนสายสำคัญที่งดงามยิ่งใหญ่ ไปจนถึงตลาดสุดคึกคัก เมืองที่เปี่ยมเสน่ห์แห่งนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งบรรยากาศงามสง่าหรูราและร่าเริงสนุกสนานอยู่ในที Palanla ได้รวบรวมเอา 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองมาดริดมาไว้ในบทความนี้
แผนที่แสดง 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองมาดริด ประเทศสเปน
1. พลาซา เมเยอร์
พลาซา เมเยอร์ (Plaza Mayor) เป็นจัตุรัสที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงมาดริด โดยเป็นจุดเริ่มต้นกิโลเมตรที่ 0 จัตุรัสนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1580 และสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1619 ตรงกลางลานโล่งของจัตุรัสพลาซา เมเยอร์ที่กว้างขวางแห่งนี้ มีอนุสาวรีย์ของกษัตริย์ฟิลิเปที่ 3 ประทับนั่งบนหลังม้าขณะยกเท้าย่างก้าว บริเวณรอบๆ จัตุรัสที่เป็นศูนย์กลางสำหรับประชาชน ทั้งในช่วงเวลาปกติ และช่วงเทศกาลงานต่างๆ แห่งนี้ รายล้อมไปด้วยร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านของที่ระลึก และร้านค้าอื่นๆ อีกมากมาย ตลอดจนเป็นพื้นที่ที่เหล่าศิลปินมาแสดงผลงานให้ได้ชมอย่างเพลิดเพลิน แม้แต่การสู้วัวกระทิงที่เป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมการต่อสู้ของสเปนที่โด่งดังไปทั่วโลกก็สามารถหาชมได้ที่นี่เช่นกัน เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวยอดนิยมในมาดริดที่ผู้คนมักจะมาเดินเล่นเพื่อสัมผัสบรรยากาศ และชมความงามของสถาปัตยกรรมอันหรูหราที่อยู่รอบๆ จัตุรัสแห่งนี้
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 40°24'55.4"N 3°42'26.5"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พลาซา เมเยอร์ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1077
2. หอสมุดแห่งชาติสเปน
หอสมุดแห่งชาติสเปน (Biblioteca y Museos Nacionales) ตั้งอยู่ในกรุงมาดริด เป็นห้องสมุดประชาชนที่ใหญ่ที่สุดในสเปน และยังเป็นหนึ่งในหอสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย ภายในประกอบด้วยคอลเลกชันของห้องสมุดมากกว่า 26,000,000 รายการ รวมถึงหนังสือ 15,000,000 เล่ม และสิ่งพิมพ์อื่นๆ อีกจำนวนมาก ห้องสมุดแห่งนี้ก่อตั้งโดยกษัตริย์ฟิลิปที่ 5 ในปี ค.ศ. 1712 เดิมเป็นห้องสมุดสาธารณะของพระราชวัง (Biblioteca Pública de Palacio) ภายหลังสถานะของห้องสมุดในฐานะทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้ถูกเพิกถอนและโอนกรรมสิทธิ์ไปยังกระทรวงธรรมาภิบาล (Ministerio de la Gobernación) และเปลี่ยนชื่อเป็น Biblioteca Nacional โดยได้มีการจัดระเบียบห้องอ่านหนังสือใหม่ เพื่อรองรับนักศึกษา คนทำงาน และผู้อ่านทั่วไป ปัจจุบันหอสมุดแห่งนี้ถือเป็นสถาบันห้องสมุดสูงสุดของสเปน เป็นศูนย์กลางที่รับผิดชอบในการอนุรักษ์ และเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับมรดกทางสารคดีของสเปนด้วย
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร – วันเสาร์ เปิดเวลา 10.00 - 21.00 น. วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดเวลา 10.00 - 14.00 น.
พิกัด GPS : 40°25'25.9"N 3°41'23.6"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ หอสมุดแห่งชาติสเปน ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1081
3. วิหารอัลมูเดนา
วิหารอัลมูเดนา (Cathedral de la Almudena) เป็นหนึ่งในสถานที่ที่อลังการที่สุดในสเปนซึ่งใช้เวลาก่อสร้างยาวนาน และยังเป็นสถานที่ประกอบพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าชายฟิลิเปแห่งสเปนในปีค.ศ. 2004 ด้วย วิหารอัลมูเดนา ตั้งอยู่ริมถนน Calle Bailén ติดกับพระราชวังหลวงแห่งมาดริด วิหารสีขาวแห่งนี้เริ่มสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 ทว่าเพิ่งสร้างเสร็จในปีค.ศ. 1993 โดยการก่อสร้างที่ล่าช้าทำให้วิหารอัลมูเดนามีสถาปัตยกรรมสองสไตล์ เป็นการผสมผสานกันระหว่างสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิก กับแบบนีโอโกธิก โดยแบบแปลนและลักษณะทางสถาปัตยกรรมหลายๆ จุดของวิหารนี้ยังคงไว้ตามลักษณะดั้งเดิมของวิหารทั่วไป ทว่าสิ่งที่เพิ่มเข้ามาก็คือความทันสมัยที่สร้างเอกลักษณ์ให้กับวิหารแห่งนี้ ด้านบนของวิหารอัลมูเดนาซึ่งเป็นโดมขนาดใหญ่กับเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 20 เมตร ยังเป็นจุดชมวิวอันตระการตาของตัวเมืองมาดริดด้วย
ค่าเข้าชม : การเข้าชมภายในอาคารไม่เสียค่าเข้า (แต่มีค่าธรรมเนียมสำหรับการเข้าพิพิธภัณฑ์และจุดชมวิว)
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 20.30 น.
พิกัด GPS : 40°24'55.9"N 3°42'53.4"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วิหารอัลมูเดนา ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1078
4. สวนสาธารณะเรติโร
สวนสาธารณะเรติโร (El Retiro) ชื่ออันหมายถึง “อดีตพระราชทรัพย์” ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 350 เอเคอร์ใจกลางกรุงมาดริด สวนสาธารณะที่เป็นดังปอดขนาดใหญ่ใจกลางกรุงมาดริดแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1680 ในอดีตเป็นสวนสำหรับราชวงศ์และชนชั้นสูงของสเปน จนกระทั่งเปิดให้เป็นสวนสาธารณะอย่างเป็นทางการ และเปิดให้ประชาชนเข้าชมมาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1860 จึงไม่น่าแปลกใจที่สถาปัตยกรรมต่างๆ ภายใจสวนสาธารณะแห่งนี้จะมีความหรูหรา คลาสสิก ตามแบบฉบับของพระราชวัง พื้นที่ต่างๆ ภายในสวนสาธารณะเรติโรมีการจัดสวนหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่สนามหญ้าที่ตกแต่งอย่างสวยงามสไตล์ฝรั่งเศส ไปจนถึงทางเดินที่มีต้นไม้เป็นแนวขรุขระ ภาพจำที่โดดเด่นที่สุดของสวนสาธารณะแห่งนี้ก็คือ ทะเลสาบที่อยู่เบื้องหน้ากับฉากหลังเป็นสถาปัตยกรรมรูปครึ่งวงกลม ตรงกลางเป็นแท่นสูง บนยอดมีอนุสาวรีย์ Alfonso XII เป็นประติมากรรมคนขี่ม้า ความงดงามและโดดเด่นของบรรยากาศบริเวณนี้ ทำให้มีผู้คนมานั่งพักผ่อน พายเรือเล่นในทะเลสาบ และนักท่องเที่ยวมาถ่ายภาพสวยๆ อยู่โดยตลอด
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เดือนตุลาคม – มีนาคม เปิดทุกวัน เวลา 06.00 - 22.00 น.
เดือนเมษายน - กันยายน เปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 00.00 น.
พิกัด GPS : 40°25'01.2"N 3°41'00.8"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สวนสาธารณะเรติโร ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1080
5. ถนนแกรนเวีย
ถนนแกรนเวีย (Gran Via) เมืองมาดริด ถนนที่ได้รับการขนานนามว่า “Spanish Broadway” อายุเก่าแก่กว่าร้อยปี ถนนเส้นนี้เป็นถนนความยาว 1.3 กิโลเมตรที่เริ่มสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1910 การสร้างถนนนี้ใช้เวลาหลายทศวรรษกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1929 ด้านตะวันออกของถนนเส้นนี้นำไปสู่ Calle de Alcalá ส่วนด้านตะวันตกนำไปสู่จัตุรัส Plaza de Cibeles ตลอดแนวถนนแกรนเวียเรียงรายด้วยอาคารสวยงาม มีทั้งร้านค้าแบรนด์เนม แหล่งช้อปปิ้ง โรงหนัง และที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ทำให้ย่านนี้ไม่เคยขาดชีวิตชีวาและความคึกคักเลยไม่ว่าเวลาใด ท่ามกลางสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่และน่าสนใจที่มีอยู่หลายจุดด้วยกันบนถนนแกรนเวีย อาคาร Schweppes ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ได้รับการออกแบบสถาปัตยกรรมให้โค้งเข้ากับมุมถนน เผยให้เห็นความโดดเด่นของส่วนที่สูงที่สุดตรงมุมที่แยกออกไป ถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปเมื่อมาเที่ยวถนนแกรนเวีย
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 40°25'13.2"N 3°42'20.6"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ถนนแกรนเวีย ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1073
6. พระราชวังหลวงแห่งมาดริด
พระราชวังหลวงแห่งมาดริด (Royal Palace of Madrid) เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “พระราชวังหลวงปาลาซิโอ” เป็นหนึ่งในพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก สร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าเฟลิเปที่ 5 แห่งราชวงศ์บูร์บง โดยใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 25 ปี โดยโครงสร้างอาคารที่เห็นอยู่ในปัจจุบันก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1738 หลังจากที่ประทับเดิมของราชวงศ์ถูกเพลิงไหม้เมื่อปีค.ศ. 1734 พระราชวังแห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน เน้นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมอิตาเลียนเเละฝรั่งเศส ทำให้พระราชวังหลวงแห่งมาดริดมีลักษณะคล้ายพระราชวังเเวร์ซายน์ ประเทศฝรั่งเศส ภายในพระราชวังแบ่งเป็นห้องต่างๆ ถึง 3,400 ห้อง แต่ละห้องตกแต่งอย่างสวยงาม หรูหรา และจัดแสดงผลงานศิลปะเลอค่าชั้นสูงมากมาย รวมถึงเครื่องลายคราม ชุดเกราะโบราณ อาวุธต่างๆ ที่กษัตริย์สเปนและราชวงศ์เคยใช้เป็นเวลาหลายร้อยปี
ค่าเข้าชม : ตั๋วเข้าชมราคา 10 ยูโร
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 18.00 น. ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์
พิกัด GPS : 40°25'05.3"N 3°42'51.5"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พระราชวังหลวงแห่งมาดริด ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1075
7. น้ำพุไซเบเลส
น้ำพุไซเบเลส (Cybele Fountain) ประติมากรรมน้ำพุแกะสลักจากหินอ่อน ความสูง 8 เมตร กว้าง 32 เมตร เป็นรูปเทพธิดาไซเบลีนนั่งบนรถเทียมสิงโตโดยในมือถือคทาและกุญแจมุ่งสู่เมือง สร้างขึ้นเมื่อปลายศตวรรษที่ 18 โดยกษัตริย์คาลอส ที่ 3 เพื่ออุทิศให้แก่เทพธิดาไซเบลีน โดยมีสถาปนิกผู้ออกแบบคือ Ventura Rodríguez น้ำพุแห่งนี้ถือเป็นน้ำพุที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงมาดริด โดยตั้งอยู่บริเวณจัตุรัสไซเบเลส (Plaza de la Cibeles) ซึ่งเป็นวงเวียนสำคัญและยังเป็นจุดที่ทีมฟุตบอลเรอัลมาดริดจะใช้เฉลิมฉลองการแข่งขันชิงแชมป์ด้วย บริเวณรอบๆ น้ำพุไซเบเลสมีอาคารสำคัญประจำอยู่ทั้ง 4 มุม ได้แก่ ธนาคารแห่งชาติสเปน, กองบัญชาการทหารบก, ศูนย์วัฒนธรรมทวีปอเมริกา และที่ทำการใหญ่ไปรษณีย์ซึ่งปัจจุบันคือศาลาว่าการเมืองมาดริดหลังสีขาวอันงามสง่า
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 40°25'09.4"N 3°41'35.1"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ น้ำพุไซเบเลส ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1074
8. ศาลาว่าการเมืองมาดริด
ศาลาว่าการเมืองมาดริด (Palacio de Comunicaciones) อาคารหลังสีขาวงดงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ถูกเปลี่ยนผ่านหน้าที่มาหลายบทบาท ก่อนที่จะกลายมาเป็นศาลาว่าการเมืองมาดริดในปัจจุบัน ศาลาว่าการเมืองมาดริดตั้งตระหง่านอยู่ที่จัตุรัสไซเบเลส (Plaza de Cibeles) บริเวณด้านหลังน้ำพุไซเบเลสนั่นเอง อาคารหลังนี้ได้รับการออกแบบขึ้นในปี ค.ศ. 1904 มีสถาปนิกคนแรกคือ Antonio Palacios โดยสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1905 และสร้างเพิ่มเติมอีกครั้งปี ค.ศ. 1918 ในฐานะที่ทำการไปรษณีย์หลัก ภายหลังได้กลายมาเป็นศาลาว่าการเมืองมาดริดนับตั้งแต่ปี ค.ศ.2007 เป็นต้นมา ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ใครผ่านมาผ่านไปแถวจัตุรัสไซเบเลสต้องอดชื่นชมในความงามสง่าและโดดเด่นสะดุดตาไม่ได้
ค่าเข้าชม : ตั๋วเข้าชม 3 ยูโร
เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร – วันอาทิตย์ เปิดเวลา 10.00 – 20.00 น. ปิดวันจันทร์
พิกัด GPS : 40°25'07.9"N 3°41'30.1"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ศาลาว่าการเมืองมาดริด ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1079
9. ตลาดซานมิเกล
ตลาดซานมิเกล (Mercado San Miguel) หนึ่งในตลาดที่เก่าแก่ที่สุดในมาดริดที่บรรยากาศสุดคึกคักแห่งนี้ ถือเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมอาหารของสเปน โดยนอกจากภายในจะมีร้านอาหารหลากหลายให้เลือกแล้ว ที่นี่ยังเป็นตลาดนัด เป็นแหล่งช้อปปิ้งอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารระดับไฮเอนด์ เป็นแหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในการทำอาหาร ตลอดจนอาหารหลายชนิดซึ่งผลิตในสเปนด้วย ในช่วงเย็นตลาดซานมิเกลจะกลายเป็นจุดนัดพบยอดนิยมสำหรับการผ่อนคลาย ด้วยเครื่องดื่มอย่างไวน์ท้องถิ่น เบียร์ หรือค็อกเทล คู่กับอาหารว่างเบาๆ อย่างทาปาส โดยมีไฮไลต์อยู่ที่เมนูอาหารทะเล เช่น แซลมอน หรือหอยนางรม ตลาดนี้เปิดทุกวัน ตั้งแต่เที่ยงวันไปจนถึงเที่ยงคืนเลยทีเดียว
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 00.00 น. วันศุกร์และวันเสาร์เปิดถึง 02.00 น.
พิกัด GPS : 40°24'55.3"N 3°42'32.4"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ตลาดซานมิเกล ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1072
10. พลาซา เดอ เอสปานา
พลาซา เดอ เอสปานา (Plaza de Espana) มีลักษณะเป็นจัตุรัสครึ่งวงกลมที่สวยงาม โค้งโอบรอบลานกว้าง สมกับชื่อ Espana ที่หมายถึง “การโอบกอด” จัตุรัสแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1928 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดนิทรรศการ Ibero-American ในปี ค.ศ. 1929 (Expo 29) นอกจากภูมิทัศน์ที่สวยงามเหมาะแก่การเดินเล่นพักผ่อนแล้ว พลาซา เดอ เอสปานา ยังเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ มิเกล เด เซร์บันเตส นักเขียนชาวสเปน กับผลงานที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกอย่าง “ดอนกิโฆเต้ แห่งลามันชา” รวมถึงประติมากรรมสำริดของ ดอนกิโฆเต้และซานโช ปันซา ตัวละครในเรื่องอยู่บริเวณด้านหน้าของอนุสาวรีย์ และมีประติมากรรมหินของ Aldonza Lorenzo อยู่บริเวณด้านข้างด้วย
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 40°25'23.6"N 3°42'46.2"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พลาซา เดอ เอสปานา ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1076
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ :
- เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ
https://www.accuweather.com/
- เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองมาดริด
https://www.esmadrid.com/en
- สกุลเงินที่ใช้ : ยูโร (EUR)
แอปพลิเคชัน "บริการรถแท็กซี่" ในประเทศสเปน
- Uber สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
- My taxi สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) ลิงค์ และ Play Store (Android)
แอปพลิเคชัน "แผนที่ในการนำทาง" ในประเทศสเปน
- Google Map สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย
หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!
อ่านต่อเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)
สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อิสตันบูล (Istanbul) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นนคร 2 ทวีป ซึ่งมีช่องแคบบอสฟอรัสเป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรปและเอเชียแห่งนี้ คือเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมานับพันๆ ปี จึงไม่น่าแปลกใจหากอิสตันบลูจะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่และงดงามทรงคุณค่ามากมายที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นยุโรปและเอเชียจากอดีตจนถึงปัจจุบัน Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูลที่หากมีโอกาสไปเยือนประเทศตุรกีไม่ควรพลาด
อ่านต่อล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ช่องแคบบอสฟอรัส เป็นช่องแคบเล็กๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของตุรกี เคยเป็นทั้งเส้นทางการค้าที่สำคัญ และยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาจนถึงปัจจุบัน การล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) จึงเป็นวิธีที่ดีที่จะได้สัมผัสบรรยากาศ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมที่หลากหลายของอิสตันบูล
อ่านต่ออุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Sarnici) คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของตุรกี ดินแดนที่เต็มไปด้วยประวัติความเป็นมามากกว่าพันปี อุโมงค์เก่าแก่ขนาดใหญ่แห่งนี้คือสถานที่เก็บน้ำในสมัยโบราณที่ยังคงความยิ่งใหญ่และงดงาม กับเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างเสากรีกที่ค้ำเรียงรายมากถึง 336 ต้น และเสาเมดูซ่าพร้อมตำนานที่เล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคน รวมถึงซากโบราณของพระราชวังใต้ดินแห่งกรุงคอนสแตนติโนเปิลสมัยไบเซนไทน์อีกด้วย
อ่านต่อตลาดเครื่องเทศ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ตลาดเครื่องเทศ (Historical Spice Bazaar / Egyptıan Spıce Bazaar) ในอิสตันบูล เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก ตลาดแห่งนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ในสมัยจักรวรรดิออตโตมัน เดิมทีเป็นจุดแลกเปลี่ยนเครื่องเทศ ผ้าไหม และสินค้าอื่นๆ จากเอเชียมาสู่ยุโรป
อ่านต่อ10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
บูดาเปสต์ (Budapest) เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี ตัวเมืองถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งด้วยแม่น้ำดานูบที่ไหลผ่านกลางเมือง ทำให้ในเมืองเต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกจากสถาปัตยกรรมอันสวยงามเปี่ยมเสน่ห์ที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือน Palanla ได้รวบรวมเอา 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์มาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่อ12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
ปราก (Prague) เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลนี้ ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปยุโรป ในอดีต เมืองปรากเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองอันยิ่งใหญ่ของทวีปยุโรป ซึ่งอารยธรรมแห่งความยิ่งใหญ่ และเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานนั้น ก็ยังคงสะท้อนอยู่ในวิถีชีวิตของชาวเมือง วัฒนธรรมประเพณี สถาปัตยกรรม ฯลฯ ราวกับมรดกที่สืบทอด และรักษากันมาอย่างดี จนถูกยกให้เป็นเมืองที่มีความน่าหลงใหล ควรค่าแก่การไปสัมผัสความเป็นยุโรปมากที่สุด โดยเมืองปรากยังได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย ปัจจุบันเมืองนี้นับเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญ ของบรรดานักท่องเที่ยวที่มาเยือนทวีปยุโรป ไปชม 12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปรากพร้อมๆ กันกับ Palanla!
อ่านต่อถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ (Fashion Street Budapest) เป็นถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงในใจกลางเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ถนนสายนี้เป็นที่รู้จักในด้านร้านค้าแฟชั่นชั้นนำจากแบรนด์ระดับโลก อาทิ Gucci, Louis Vuitton, Dior, Armani, Prada และ Chanel ถนนสายนี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่มากมาย จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองบุดาเปสต์เองด้วย
อ่านต่อล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ (Dinner Cruise Budapest) เป็นวิธียอดเยี่ยมในการชมความสวยงามของเมืองบูดาเปสต์ โดยขณะที่เรือล่องไปตามแม่น้ำดานูบ (Danube River) นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงามของสะพาน พระราชวัง และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ รวมทั้งอิ่มอร่อยกับอาหารรสเลิศและเครื่องดื่มแสนอร่อย
อ่านต่อ