พิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยู เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี

  • อ่าน (3,316)
  • By Webmaster
  • 10:04:14 | 27 เม.ย. 2563

พิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยู เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี

BMW Museum, Munich, Germany 


จากอาคารบีเอ็มดับเบิลยูเวลท์จะมองเห็นพิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยูและสำนักงานใหญ่ของบีเอ็มดับเบิลยูกรุ๊ป

           พิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยู (BMW Museum) และอาคารบีเอ็มดับเบิลยูเวลท์ (BMW Welt) ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโอลิมเปียปาร์ค ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยูเป็นอาคารทรงกลมสีเงินซึ่งเรียกกันว่าพิพิธภัณฑ์ทรงถ้วย (the museum bowl) ส่วนอาคารบีเอ็มดับเบิลยูเวลท์มีความโดดเด่นด้วยอาคารทรงนาฬิกาทรายที่ตกแต่งด้วยกระจกรูปทรงเรขาคณิต ทั้งสองอาคารอยู่ใกล้กับสำนักงานใหญ่ของบีเอ็มดับเบิลยูกรุ๊ป  จัดเป็นสองแลนด์มาร์กอีกแห่งหนึ่งของเมืองมิวนิคที่นักท่องเที่ยวและผู้ที่ชื่นชอบด้านยานยนต์ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ด้านในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงข้อมูลและยานยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน มีรอบเข้าชมที่มีบรรยายภาษาอังกฤษและภาษาเยอรมันให้เลือกได้ตามต้องการ ผู้เข้าชมจะได้เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกว่าทำไมแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยูถึงเป็น หนึ่งในแบรนด์รถยนต์ชั้นนำของโลก นอกจากในส่วนของพิพิธภัณฑ์แล้ว ในละแวกเดียวกันยังเป็นพื้นที่ของบีเอ็มดับเบิลยูสำนักงานใหญ่ (BMW Headquarter) และฐานการผลิต BMW Group Plant อีกด้วย ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองมิวนิคที่ไม่ควรพลาดชม


แผนที่ตั้งพิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยู (BMW Museum) เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี

ประวัติ

           พิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยูตั้งอยู่ใกล้กับโอลิมเปียปาร์ค สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1973 และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งชาวเมืองมิวนิคและนักท่องเที่ยวที่มาเยือน ต่อมาในช่วงปีค.ศ. 2002 ถึง ค.ศ. 2008 ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ได้รับการปรับโครงสร้างอาคารและเพิ่มทางเชื่อมระหว่างอาคารเข้ากับอาคาร BMW Welt ที่ตั้งอยู่ใกล้กัน กระบวนการดังกล่าวดำเนินการโดยเหล่านักสถาปนิกจากเมือง สตุดการ์ด (Stuttgart) บริษัทออกแบบนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์ Atelier Brückner และนักออกแบบด้าน ART+COM media จากเมืองเบอร์ลิน นอกจากนี้ในด้านเทคนิคอื่นๆ ยังได้รับการดูแลโดยสมาคม ASP Schweger Associates โดยการปรับโครงสร้างและรูปแบบการจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยูนั้นได้ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากความสำเร็จของพิพิธภัณฑ์เดิม แต่เพิ่มเติมด้วยแนวคิดที่ต้องการมุ่งเน้นความสำคัญของพิพิธภัณฑ์ในฐานะ พิพิธภัณฑ์ของแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจผลิตยานยนต์ชั้นนำระดับโลก

           พิพิธภัณฑ์ได้รับการปรับรูปแบบใหม่ให้มีพื้นที่ที่กว้างขึ้น โดยขยายพื้นที่จาก 1,000 ตารางเมตร เป็น 5,000 ตารางเมตร และอิงรูปแบบจากความคิดแต่แรกเริ่มของศาสตราจารย์ คาร์ล ชวานเซอร์ (Prof. Karl Schwanzer) สถาปนิกและผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยูในปีค.ศ. 1973 ที่ได้ออกแบบให้โครงสร้างอาคารมีลักษณะเป็นทรงกลม และมีทางเดินชมการจัดแสดงที่มีลักษณะเป็นเหมือนถนนซึ่งทอดยาวเวียนวนไปรอบตัวอาคาร โดยพิพิธภัณฑ์รูปแบบใหม่นี้จะนำเสนอการจัดแสดงตามลำดับปีในรูปแบบที่ค่อยๆ ไล่เรียงพื้นที่จัดแสดงไปตามถนน เพื่อให้ผู้เข้าชมเข้าถึงข้อมูลตั้งแต่อดีตไล่เรียงไปจนถึงปัจจุบันและอนาคต โดยพื้นที่จัดแสดงมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 125 พื้นที่ด้วยกัน ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์อันยาวนานของแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยูเข้ากับการสะท้อนให้เห็นถึงภาพลักษณ์อันดีงามของแบรนด์ที่มีความล้ำยุคนำสมัย พร้อมด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ทางด้านวิศวกรมและการออกแบบที่เกิดขึ้นในแต่ละยุคสมัยที่ผ่านมากว่าร้อยปี โดยนิทรรศการที่จัดภายในจะแบ่งออกเป็น 7 ส่วนด้วยกัน ได้แก่

           - House of Design ที่เผยให้เห็นถึงแรงบันดาลใจในการเริ่มต้นออกแบบยานยนต์ จุดกำเนิดการสร้างยานพาหนะชั้นนำด้วยการออกแบบที่มีความซับซ้อนสูง

           - House of the Company เรื่องราวที่เป็นก้าวแรกแห่งความสำเร็จ ความเป็นมาจากอดีต สู่ปัจจุบัน และวิสัยทัศน์ที่มีต่ออนาคต

           - House of the Motorcycle ส่วนจัดแสดงความเป็นมาของความสำเร็จในการผลิตมอเตอร์ไซค์ในอดีตจนถึงปัจจุบัน

           - House of Technology ส่วนจัดแสดงความเป็นมาของเทคโนโลยีเครื่องยนต์และนวัตกรรมที่ใช้ในยานยนต์

           - House of Motor Sport ส่วนจัดแสดงความเป็นมาของรถบีเอ็มดับเบิลยูที่ใช้ในสนามแข่ง

           - House of Brand ส่วนจัดแสดงโฆษณารถบีเอ็มดับเบิลยูในยุคต่างๆ ที่สะท้อนให้เห็นความสัมพันธ์อันดีที่มีมายาวนานระหว่างลูกค้าและแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู

           - House of the Series ส่วนจัดแสดงรุ่นรถต่างๆ ที่ได้รับการผลิตและพัฒนาขึ้นมาในแต่ละยุคสมัย

           นอกจากนี้ยังมีแอพปลิเคชั่น BMW Museum App ที่เป็นเหมือนไกด์ส่วนตัวซึ่งมีข้อมูลเกือบทุกอย่างในพิพิธภัณฑ์ให้สามารถเข้าถึงและศึกษาเพิ่มเติมได้ด้วยตนเอง และมีภาษาให้เลือกถึง 8 ภาษาด้วยกัน ได้แก่ ภาษาเยอรมัน ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาอิตาลี ภาษารัสเซีย ภาษาอาราบิก ภาษาจีน และภาษาญี่ปุ่นโดยสามารถดาวน์โหลดได้ที่

           App Store : https://apps.apple.com/us/app/bmw-museum/id1080156447

           Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.bmw.museum&hl=en_US

           ในส่วนของนิทรรศการภายในอาคารบีเอ็มดับเบิลยูเวลท์จะจัดแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่นำมาใช้กับยานยนต์รุ่นใหม่และแสดงถึงวิสัยทัศน์และรูปแบบยานยนต์ในอนาคต โดยครอบคลุมทั้งรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ เรียกได้ว่าทั้งพิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยูและบีเอ็มดับเบิลยูเวลท์นั้นคุ้มค่าต่อการเที่ยวชม สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองมิวนิคที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด


พิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยูเป็นอาคารทรงถ้วย


รถมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นแรกๆ 


รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นแรกๆ


รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในปีค.ศ. 1937 


รถยนต์รุ่นเก่าในแบบต่างๆ ที่หาชมได้ยาก


การจัดแสดงเทคโนโลยีที่ใช้ในเครื่องยนต์ช่วงล่าง 


การจัดแสดงรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นต่างๆ 


การจัดแสดงรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นต่างๆ 


ป้ายข้อมูลเหตุการณ์ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง 


รุ่นรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในช่วงปีค.ศ. 1955 


รุ่นรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในช่วงปีค.ศ. 1968


รุ่นรถมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูในช่วงปีค.ศ.1956 – ค.ศ. 1976


รุ่นรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในช่วงปีค.ศ. 1997 


รุ่นรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูที่เคยใช้ในสนามแข่ง


ส่วนจัดแสดงนิทรรศการพิเศษที่มีชื่อว่า Driving to Freedom in A BMW ISETTA ที่ย้อนไปในช่วงยุคแบ่งแยกดินแดนเยอรมนี 


อาคาร BMW Welt และหอคอยโอลิมเปียทาวเวอร์ที่อยู่ในละแวกใกล้กัน 


ภายในอาคารบีเอ็มดับเบิลยูเวลท์ 


ภายในอาคารมีการจัดรูปแบบนิทรรศการชั้นบนเหมือนท้องถนน 


ส่วนจัดแสดงมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู 


รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นใหม่ที่มีรูปลักษณ์ทันสมัยและหรูหรา 


ส่วนจัดแสดงรุ่นรถยนต์และนวัตกรรมอันล้ำยุค 


ส่วนจัดแสดงรุ่นรถยนต์ในปัจจุบัน

การเดินทางจากสนามบินมิวนิค (Munich International Airport / Flughafen München) ไปยังสถานีรถไฟกลางมิวนิค (Munich Hauptbahnhof (Main Station))

 

             - รถยนต์ (Car) จาก Munich International Airport ไปยัง Munich Hauptbahnhof (Main Station) มีระยะทางประมาณ 40.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 36 นาที

             - รถประจำทาง (Bus) จาก Munich International Airport ไปยัง Munich Hauptbahnhof (Main Station) สามารถใช้บริการรถบัส LH-Bus เป็นรถบัสด่วนของ Autobus Oberbayern ออกทุก 15 นาที

             - รถไฟ (Train) จาก Munich International Airport ให้ขึ้นรถไฟสาย S ไปลงที่สถานี Munich Hauptbahnhof (Main Station) ใช้เวลาโดยรวมประมาณ 47 นาที

การเดินทางจากสถานีสถานีรถไฟกลางมิวนิค (Munich Hauptbahnhof (Main Station)) ไปยังพิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยู (BMW Museum) 

             - รถยนต์ (Car) จาก Munich Hauptbahnhof (Main Station) ไปยัง BMW Museum มีระยะทางประมาณ 5.1 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที

             - รถไฟ (Train) จาก Munich Hauptbahnhof (Main Station) ให้ขึ้นรถไฟสาย U4 ไปลงที่สถานี Odeonsplatz และเปลี่ยนขบวนไปขึ้นสาย U3 ไปลงยังสถานี Olympiazentrum และเดินต่อไปยัง BMW Museum อีกประมาณ 300 เมตร ใช้เวลาโดยรวมประมาณ 22 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด

           พิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยู

               เปิดวันอังคาร - วันอาทิตย์ เวลา 10:00 น. - 18:00 น.

               ปิดวันจันทร์


           อาคารบีเอ็มดับเบิลยูเวลท์

               เปิดทุกวัน

               วันจันทร์ ถึง วันเสาร์ เวลา 7:30 น. - 24:00 น.

               วันอาทิตย์ เวลา 9:00 น. - 24:00 น.


พิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยู

อัตราค่าเข้าชม

           พิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยู

               ค่าเข้าชมราคา 10 Euro / คน

               ตั๋วครอบครัวราคา 24 Euro (พ่อแม่และเด็กอายุไม่เกิน 18 ปีสูงสุด 3 คน)


           อาคารบีเอ็มดับเลยูเวลท์

               ไม่เสียค่าเข้าชม


อาคารบีเอ็มดับเบิลยูเวลท์


BMW Group สำนักงานใหญ่

เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

           ตลอดทั้งปี

 

             นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว พิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยู สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                          พิพิธภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยู เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี

                          (BMW Museum, Munich, Germany)

                          ระดับความนิยม : 

                          อัตราค่าเข้าชม : ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ราคา 10 Euro / คน ตั๋วครอบครัวราคา 24 Euro ในส่วนอาคารบีเอ็มดับเบิลยูเวลท์ ไม่เสียค่าเข้าชม

                          เวลาเปิด-ปิด : พิพิธภัณฑ์เปิดวันอังคาร - วันอาทิตย์ เวลา 10:00 น. - 18:00 น. ปิดวันจันทร์

                                                บีเอ็มดับเบิลยูเวลท์ เปิดทุกวัน วันจันทร์ ถึง วันเสาร์ เวลา 7:30 น. - 24:00 น. และวันอาทิตย์ เวลา 9:00 น. - 24:00 น.

                          ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                          สถานที่ตั้ง : เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี

                          โทรศัพท์ : (+49) (0)89-1250 160 01

                          เว็บไซต์ : https://www.bmw-welt.com 

                          ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/th/de/germany-weather

                                           เว็บไซต์ทางการของเมืองมิวนิค https://www.muenchen.de  

                                           เว็บไซต์ท่องเที่ยวของเมืองมิวนิค https://www.munich.travel/en

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

14 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดเนฟเชียร์ ประเทศตุรกี

หากเอ่ยถึงการท่องเที่ยวประเทศตุรกี เชื่อว่าหนึ่งในภาพที่หลายๆ คนมักจะนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ คือภาพของบอลลูนลมร้อนหลากสีสันที่ลอยละล่องอยู่เต็มน่านฟ้า เหนือภูมิประเทศแปลกตาด้วยกลุ่มหินรูปทรงต่างๆ และสถานที่ที่ว่านี้ก็คือเนฟเชียร์ จังหวัดทางภาคกลางของตุรกีที่มีเมืองดังอย่างคัปปาโดเชียเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยว ในบทความนี้ Palanla ได้รวบรวมเอา 14 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดเนฟเชียร์มาให้ออกเดินทางสำรวจไปพร้อมๆ กัน

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดอิซเมียร์ ประเทศตุรกี

อิซเมียร์ (Izmir) เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศตุรกี และเป็นท่าเรือที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากอิสตันบูล ซึ่งไม่เพียงแต่ความเป็นเมืองใหญ่ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจเท่านั้น ทว่าอิซเมียร์ยังรุ่มรวยไปด้วยภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง เชื่อว่า 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในอิซเมียร์ที่ Palanla ได้คัดสรรมาให้ได้ชมในบทความนี้จะทำให้คุณรู้จักอิซเมียร์มากขึ้นกว่าที่เคยอย่างแน่นอน

อ่านต่อ

7 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดเดนิซลี ประเทศตุรกี

เดนิซลี (Denizli) จังหวัดทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกีที่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่งให้สำรวจ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติมรดกโลกชื่อดังอย่างปามุคคาเล่ หรือเมืองโบราณเฮียราโพลิส และเมืองโบราณเลาดิเซียซึ่งเป็นศูนย์กลางที่สำคัญในสมัยโรมันและไบแซนไทน์มาก่อน Palanla ได้รวบรวม 7 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเดนิซลีมาให้ได้ชมกัน

อ่านต่อ

10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในประเทศไอร์แลนด์เหนือ

ประเทศไอร์แลนด์เหนือตั้งอยู่ในทวีปยุโรปและเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์เหนือมีชื่อเสียงทางด้านภูมิประเทศที่สวยงามและทิวทัศน์ทางธรรมชาติอันน่าหลงใหล อีกทั้งยังเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่มีพิพิธภัณฑ์และสถาปัตยกรรมต่างๆ ให้เที่ยวชมมากมายโดยมีสถานที่ท่องเที่ยวกระจายตัวอยู่ตามเมืองต่างๆ อย่างเช่นเมืองเบลฟาสต์ เมืองลอนดอนเดอร์รี่ และเมืองแถบชายฝั่งทะเล ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ก็อย่างเช่น พิพิธภัณฑ์ไททานิกเบลฟาสต์ที่จัดแสดงเรื่องราวของเรือไททานิกอันโด่งดัง และไจแอนท์คอสเวย์ที่ได้รับเลือกให้เป็นแหล่งมรดกโลกแห่งองค์การยูเนสโก นอกจากนี้ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีกมากมาย โดยทาง Palanla ได้รวบรวมมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้

อ่านต่อ

สะพานเชือกคาร์ริก-อะ-รีด เขตอนุรักษ์แห่งชาติ ชายฝั่งคอสเวย์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ

สะพานเชือกคาร์ริก-อะ-รีด เขตอนุรักษ์แห่งชาติ (National Trust Carrick-a-Rede) เป็นสะพานเชือกความยาว 20 เมตรที่เชื่อมระหว่างพื้นที่ชายฝั่งกับเกาะหินคาร์ริก-อะ-รีดที่อยู่ตรงข้ามกัน ที่นี่เป็นจุดชมทิวทัศน์มหาสมุทรแอตแลนติกอันกว้างใหญ่พร้อมกับเส้นทางผจญภัยบนสะพานเชือกที่ทอดข้ามข้ามเหวลึก 30 เมตรไปสำรวจเกาะเบื้องหน้าซึ่งเป็นที่ตั้งของกระท่อมชาวประมงเก่าแก่ที่มีอายุราวสี่ร้อยกว่าปี ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในจุดชมวิวและจุดถ่ายภาพที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

ปราสาทเบลฟาสต์ เมืองเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ

ปราสาทเบลฟาสต์ (Belfast Castle) เป็นคฤหาสน์เก่าแก่หลังใหญ่ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบสกอตต์บารอนอย่างงดงาม ถือเป็นแลนด์มาร์กขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นบนเนินเขาเคฟฮิลล์ในเมืองเบลฟาสต์ นอกจากปราสาทเบลฟาสต์จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ที่นี่ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญต่างๆ เช่น งานแต่งงานและการประชุมทางธุรกิจ นอกจากนี้ ด้วยพื้นที่เนินเขาที่อยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 120 เมตร จึงทำให้ที่นี่เป็นจุดชมวิวเมืองเบลฟาสต์จากมุมสูงอีกด้วย

อ่านต่อ

ตลาดเซนต์จอร์จ เมืองเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ

ตลาดเซนต์จอร์จ (St George’s Market) เป็นตลาดในร่มสไตล์วิคตอเรียนแห่งสุดท้ายที่ยังเปิดทำการอยู่ในเมืองเบลฟาสต์ ตลาดแห่งนี้เปิดทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ช่วงสายถึงบ่ายสอง โดยมีแผงขายอาหาร สินค้าแฮนด์เมด และสินค้าหลากหลายประเภท ท่ามกลางดนตรีสดและบรรยากาศที่คึกคัก ตลาดแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองในทุกสุดสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดเซนต์จอร์จยังได้รับรางวัลทั้งระดับท้องถิ่นและระดับประเทศทางด้านผลผลิตสดใหม่ในท้องถิ่นและบรรยากาศที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งยังได้รับการเสนอชื่อให้เป็นตลาดในร่มขนาดใหญ่ที่ดีที่สุดของสหราชอาณาจักรประจำปี 2023 จาก NABMA Great British Market Awards อีกด้วย

อ่านต่อ

กำแพงเมืองเดอร์รี เมืองลอนดอนเดอร์รี่ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ

กำแพงเมืองเดอร์รี (The Derry Walls) เป็นอนุสรณ์สถานที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไอร์แลนด์เหนือ และเป็นกำแพงเมืองที่ยาวที่สุดและมีความสมบูรณ์ที่สุดในบรรดาเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบที่เหลืออีก 30 เมืองในไอร์แลนด์อีกด้วย กำแพงเมืองเดอร์รี่อยู่ใกล้กับแม่น้ำฟอยล์ มีประตูเมือง 7 ประตู ภายในกำแพงเมืองเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น ปราสาท ศาลากลาง และโบสถ์ ไฮไลท์ของกำแพงเมืองแห่งนี้คือปืนใหญ่จำนวน 22 กระบอกที่เรียงรายไปตามป้อมปราการของกำแพงเมือง ปืนเหล่านี้เป็นปืนโบราณจากศตวรรษที่ 16, 17 และ 18 โดยมีปืนโรริงเมกอันโด่งดังตั้งอยู่ที่ป้อมปราการที่อยู่ใกล้ประตูบิชอป กำแพงเมืองเดอร์รี่จึงถือเป็นแหล่งมรดกที่มีความสำคัญระดับชาติและเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ควรแวะเที่ยวชม

อ่านต่อ

11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ซูริค (Zurich) หนึ่งในเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของยุโรปที่นักเดินทางทั่วโลกใฝ่ฝัน เพราะนอกจากมนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติอันงดงามบริสุทธิ์แล้ว ยังรุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม Palanla ได้รวบรวมเอา 11 สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในซูริคมาฝากกัน

อ่านต่อ

อลาคาติ จังหวัดอิซเมียร์ ประเทศตุรกี

อลาคาติ (Alacati ) เมืองตากอากาศในบรรยากาศสไตล์กรีก โดดเด่นด้วยถนนแคบๆ กับบ้านหินแบบดั้งเดิมทาสีขาว ฟ้า ตกแต่งด้วยสีสันสดใส และกังหันลม ให้กลิ่นอายของซานโตรินี สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศกรีซ

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ