- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่า เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่า เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
![](https://palanla.com//upload/core/pic-4971673179288.jpg)
- อ่าน (3,721)
- By Webmaster
- 14:01:27 | 13 พ.ย. 2562
พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่า เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
Nagoya Science Museum, Nagoya, Japan
สถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของอาคารพิพิธภัณฑ์
พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่า (Nagoya Science Museum) แหล่งเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ภายในมีส่วนจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ธรรมชาติวิทยา ฯลฯ เป็นที่ตั้งของท้องฟ้าจำลองที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของสถาปัตยกรรมรูปโลกสีเงินขนาดใหญ่ที่มีนักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปกันตลอดทั้งวัน
แผนที่ตั้ง พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่า เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
ประวัติ
มุมถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาพิพิธภัณฑ์
พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่า (Nagoya Science Museum) ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ญี่ปุ่นมีความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก คือเรื่องของการให้ความสำคัญกับพื้นที่เรียนรู้ของเยาวชนและผู้ที่รักในการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างจริงจังให้ได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งความรู้ที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาศักยภาพในการสร้างสรรค์นวัตกรรมให้กับประเทศ โดยพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่าที่ตั้งอยู่ในเมืองนาโกย่าแห่งนี้ ถือเป็นพื้นที่ชั้นดีสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ นวัตกรรม ฯลฯ ซึ่งกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในปี ค.ศ. 2012 หลังจากปิดปรับปรุงไปเป็นเวลานาน
สถาปัตยกรรมลูกโลกสีเงินอันโดดเด่นของพิพิธภัณฑ์
ฟอสซิลไดโนเสาร์ที่จัดแสดงอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์
เริ่มที่ตัวโครงสร้างภายนอกของพิพิธภัณฑ์ที่มีสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์อย่างอาคารรูปทรงกลมใหญ่ สีเงิน ที่จำลองมาจากโลกซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางพร้อมขนาบด้วยอาคารของพิพิธภัณฑ์อีกสองหลัง เรียกว่าพื้นที่ส่วนด้านหน้าอาคารตรงนี้ถือเป็นมุมถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันเป็นประจำ ก่อนจะเข้าสู่พื้นที่ภายในพิพิธภัณฑ์ซึ่งมีทั้งหมด 7 ชั้น แบ่งเป็นส่วนจัดแสดงนิทรรศการถาวร 5 ชั้น และอีก 2 ชั้นถูกจัดไว้เป็นนิทรรศการชั่วคราวที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีผลงานเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้เข้ามาแสดงผลงานของตัวเองกับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชม ส่วนชั้นอื่นๆ ของพิพิธภัณฑ์จะเต็มไปด้วยนิทรรศการ อุปกรณ์ สิ่งประดิษฐ์ สื่อการเรียนรู้ ฯลฯ เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แบบอัดแน่นไปด้วยเนื้อหาสาระ และความสนุกสนาน
สื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับระบบการย่อยอาหารภายในร่างกาย
ส่วนจัดแสดงความรู้น่าสนใจที่ซ่อนอยู่ในสิ่งของที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน
และอีกสิ่งที่ทำให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รับความนิยม มาจากการเน้นให้ผู้เข้าชมได้มีกิจกรรมต่างๆ ที่จะต้องใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ในการเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่พิพิธภัณฑ์นำมาจัดแสดง ทำให้ผู้เข้าชม โดยเฉพาะบรรดาเยาวชนรู้สึกสนุกสนาน และเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้าง ระบบการทำงาน เทคนิคต่างๆ ของสิ่งที่นำมาจัดแสดงได้แบบเห็นภาพ จำได้นาน ส่งผลให้นำไปใช้ต่อยอดได้มากขึ้น โดยไฮไลท์สำคัญส่วนใหญ่ของพิพิธภัณฑ์ก็จะมีทั้ง ห้องแช่แข็งที่จำลองสภาวะจริงของสภาพอากาศบริเวณขั้วโลกโดยอุณหภูมิต่ำสุดของห้องนี้อยู่ที่ -30 องศาเลยทีเดียว หรือจะเป็นห้องจัดแสดงแสงออโรร่าที่ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์สร้างแสงเหนือเสมือนจริงมาให้เราได้ดูกันจนเพลิน รวมถึงห้องจัดแสดงที่ยกปรากฎการณ์ทางวิทยาศาสตร์น่าสนใจทั้งพายุทอร์นาโด ฟ้าผ่า ฯลฯ มาย่อส่วนให้เราได้สัมผัสกันแบบสมจริง
ผังจำลองเส้นทางการโคจรของดวงดาวในกาแล็กซีทางช้างเผือก
กล้องดูดาวที่ทันสมัยที่สุดชิ้นหนึ่งของวงการดาราศาสตร์โลก
ส่วนจำลองการทำงานของสถานีควบคุมดาวเทียมของประเทศญี่ปุ่น
และไปจบที่ชั้นบนสุดของพิพิธภัณฑ์ซึ่งเป็นส่วนที่โดดเด่นที่สุดของที่นี่ เพราะเป็นพื้นที่จัดแสดงเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านอวกาศของประเทศญี่ปุ่นซึ่งรับประกันคุณภาพจากการรวบรวมอุปกรณ์ จรวด ชิ้นส่วนยานอวกาศ องค์ความรู้ด้านอวกาศ ผังจำลองกาแล็กซี่ทางช้างเผือก ฯลฯ จนถูกยกให้เป็นศูนย์รวมความรู้หลักของเทคโนโลยีการบิน และอวกาศของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว อีกทั้งชั้นนี้ยังเชื่อมต่อไปยังท้องฟ้าจำลองที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง บราเธอร์ เอิร์ธ (Brother Earth) ซึ่งมีจอสกรีนขนาดยักษ์ พร้อมเครื่องฉายที่แม่นยำ และให้ภาพหมู่ดาวที่กระจายอยู่ทั่วกาแล็กซี่ได้แบบตระการตาที่สุดเครื่องหนึ่งของโลก และสามารถรองรับผู้ชมได้มากถึง 350 คนต่อหนึ่งรอบการแสดง รวมถึงโปรแกรมของท้องฟ้าจำลองที่นี่จะมีการเปลี่ยนแปลงตามปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ และเทศกาลสำคัญต่างๆ ของโลก เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกมีอารมณ์ร่วมด้วยมากที่สุด ทำให้ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่าแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนมาเยี่ยมชมมากที่สุดอีกแห่งของเมืองนาโกย่า
ห้องจำลองพื้นที่การทำงานของนักวิจัยด้านพันธุกรรม
สื่อจัดแสดงระบบการทำงานของเครื่องบิน
จรวดที่เป็นผลงานการออกแบบร่วมกันระหว่างองค์กรอวกาศของญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา
การเดินทางจากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ไปยังศูนย์กลางคมนาคมสาธารณะของเมืองนาโกย่า
การเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่นจากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์สามารถทำได้อย่างสะดวก เพราะมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วโดยสารระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภทเรียงรายอยู่บริเวณเดียวกับอาคารผู้โดยสารขาเข้า
- รถยนต์ จากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ ไปยังศูนย์กลางคมนาคมสาธารณะของเมืองนาโกย่า ระยะทางประมาณ 48 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที อ่านบทความเกี่ยวกับการเช่าและใช้รถยนต์ในประเทศญี่ปุ่นได้ที่ https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=602
- รถบัส จากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ให้เดินไปขึ้นรถบัสที่สถานีรถบัส (Centrair Bus Terminal) ที่ป้ายรอรถบัสหมายเลข 6 ระยะทางประมาณ 48 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1ชั่วโมงกับอีก 15 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.centrair.jp/en/access/bus.html
- รถไฟ จากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ให้เดินไปขึ้นรถไฟที่บริเวณอาคารผู้โดยสารขาเข้า เพื่อไปลงที่สถานี Nagoya Station ระยะทางประมาณ 48 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.centrair.jp/en/access/train.html
อ่านบทความวิธีเดินทางเข้าเมืองนาโกย่าจากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ อย่างละเอียดได้ที่ https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=736
การเดินทางจากศูนย์กลางคมนาคมสาธารณะของเมืองนาโกย่าไปยังพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่า
- รถยนต์ จาก Nagoya Station ไปยัง พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่า ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 นาที
- รถบัส จาก Nagoya Station ให้ขึ้นรถเมล์หมายเลข 16 ที่ป้ายจอดรถบัสประจำสถานี Nagoya Station เพื่อไปลงที่สถานี Hirokoji Fushimi Bus Stop ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 500 เมตรก็จะถึง พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 13 นาที
- รถไฟ จาก Nagoya Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Higashiyama Line ไปลงที่สถานี Fushimi Station ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 500 เมตรก็จะถึง พิพิภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 นาที
เวลาเปิด-ปิดทำการ
เปิดให้เข้าชมเวลา 09:30 น. – 17:00 น.
ส่วนจัดแสดงจำลองเครือข่ายคมนาคมสาธารณะของสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์
ส่วนจัดแสดงผังเมืองนาโกย่าขนาดย่อส่วน
อัตราค่าเข้าชม
ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ ราคา 400 เยน (เพิ่ม 400 เยนหากต้องการเข้าชมท้องฟ้าจำลอง) / นักเรียนชั้นมัธยมปลายและนักศึกษา ราคา 200 เยน (เพิ่ม 300 เยนหากต้องการเข้าชมท้องฟ้าจำลอง) / นักเรียนมัธยมต้นลงไปเข้าชมฟรี
นักท่องเที่ยวกำลังซื้อตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์
เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
พื้นที่จัดแสดงวัตถุโบราณทางธรณีวิทยาของพิพิธภัณฑ์
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่า สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่า เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
(Nagoya Science Museum, Nagoya, Japan)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ ราคา 400 เยน (เพิ่ม 400 เยนหากต้องการเข้าชมท้องฟ้าจำลอง)
นักเรียนชั้นมัธยมปลายและนักศึกษา ราคา 200 เยน (เพิ่ม 300 เยนหากต้องการเข้าชมท้องฟ้าจำลอง)
อายุต่ำกว่า 15 ปีเข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมเวลา 09:30 น. – 17:00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : เมืองนาโกย่า, ประเทศญี่ปุ่น
โทรศัพท์ : (+81) 52-201-4486
เว็ปไซต์ : http://www.ncsm.city.nagoya.jp/en/
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/
เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองนาโกย่า https://www.nagoya-info.jp/th/information/
เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนของประเทศญี่ปุ่น http://www.hyperdia.com/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
![](https://palanla.com//upload/abd/pictures/pic-202431051717148225_93955_37-4833.png)
14 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
โตเกียว (Tokyo) เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นและยังครองตำแหน่งเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก จึงไม่น่าแปลกใจที่เมืองเก่าแก่ รุ่มรวยด้วยประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมแห่งนี้จะมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้ผู้มาเยือนได้ชม ตลอดจนเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก และนี่คือ 14 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโตเกียวที่ Palanla ได้รวบรวมมาฝากกัน
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/abd/pictures/pic-202423051716457217_20072_37-3139.jpg)
ย่านอูเอโนะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
ย่านอูเอโนะ (Ueno) ในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นย่านประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญทางด้านวัฒนธรรมและศิลปะในมหานครโตเกียวของญี่ปุ่นมายาวนาน โดยเริ่มมีการสร้างรากฐานมาตั้งแต่ยุคเมจิ ปัจจุบันอูเอโนะเป็นย่านที่มีชีวิตชีวา ผสมผสานเสน่ห์ดั้งเดิมและความทันสมัยเข้าไว้ด้วยกัน รายล้อมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/abd/pictures/pic-2811-202415051715763284_78729_37.jpg)
ศูนย์กลางการเงินโลกเซี่ยงไฮ้ เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
ศูนย์กลางการเงินโลกเซี่ยงไฮ้ (Shanghai World Financial Center) อาคารความสูง 492 เมตร ซึ่งเคยเป็นตึกสูงที่สุดในประเทศจีน ก่อนที่จะถูกเซี่ยงไฮ้ ทาวเวอร์ (Shanghai Tower) ชิงตำแหน่งนี้ไปครองในปี ค.ศ.2015
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/abd/pictures/pic-2810-202415051715762600_83820_37.jpg)
วัดเต๋าฉินชี่ หยางเตี้ยน เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
วัดเต๋าฉินชี่ หยางเตี้ยน (Shanghai Qinci Yangdian Taoist Temple) แห่งเมืองเซี่ยงไฮ้ เป็นวัดลัทธิเต๋าที่เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดในเซี่ยงไฮ้ สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 3
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/abd/pictures/pic-2809-202415051715762567_49563_37.jpg)
เซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์ เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
เซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์ (Shanghai Tower) เป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศจีน กับความสูง 632 เมตร (2,073 ฟุต) ในย่านธุรกิจ Lujiazui ของเมืองเซี่ยงไฮ้
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/abd/pictures/pic-202422041713778229_96667_37-5260.png)
11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น
จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa) เป็นเขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ใน ภูมิภาคคันโต ของประเทศญี่ปุ่น จังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายเมืองด้วยกัน อาทิ คามาคุระ (Kamakura) โยโกฮาม่า (Yokohama) และฮาโกเน่ (Hakone)…Palanla ได้รวบรวมเอา 11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ตั้งแต่ชายหาด พระใหญ่ วัดเก่าแก่ ศาลเจ้า ไชน่าทาวน์ สวนสนุก อควาเรียม ทะเลสาบ ไปจนถึงกระเช้าลอยฟ้าและจุดชมภูเขาไฟฟูจิ มาไว้แล้วในบทความนี้
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/abd/pictures/pic-202422041713776920_83644_37-9399.jpg)
สวนหลิวหยวน เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
สวนหลิวหยวน หรือ สวนสิงโต (Lion Forest Garden) เป็นสวนจีนโบราณที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน สวนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของและชื่อหลายครั้งตลอดหลายศตวรรษ สวนหลิวหยวน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสวนคลาสสิกที่สำคัญที่สุดของซูโจว และเป็นส่วนหนึ่งของ "สวนคลาสสิกของซูโจว" ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ.2000
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/abd/pictures/pic-202422041713776003_97788_37-8738.jpg)
สวนจัวเจิ้ง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
สวนจัวเจิ้ง (Humble Administrator’s Garden) เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในซูโจวและได้ชื่อว่าเป็นสวนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีนตอนใต้ สวนแห่งนี้ถูกใช้เป็นฉากหลังของภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์จีนหลายเรื่องด้วยกัน และได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1997
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/abd/pictures/pic-202422041713775338_52009_37-4451.jpg)
เนินเขาเสือ เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
เนินเขาเสือ หรือเนินหู่ชิว (Tiger Hill) ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในซูโจว นักท่องเที่ยวนิยมปีนขึ้นไปชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่มีเสน่ห์และโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าของซูโจว ไม่ว่าจะเป็นหลุมศพโบราณ บ่อน้ำ เจดีย์ และห้องสมบัติ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสความสวยงามของทิวทัศน์ในวรรณคดีจีนโบราณ โดยที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/abd/pictures/pic-202422041713774522_58501_37-3708.jpg)
ทะเลสาบจินจี เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
ทะเลสาบจินจี (Jinji Lake) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในซูโจว ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสวนสาธารณะริมทะเลสาบ ศูนย์จัดแสดงสินค้า พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ฯลฯ ถือเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองซูโจว
อ่านต่อ