- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- เบอร์ลินวอลเมมโมเรียล เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
เบอร์ลินวอลเมมโมเรียล เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
- อ่าน (3,932)
- By Webmaster
- 16:46:04 | 25 ก.ย. 2562
เบอร์ลินวอลเมมโมเรียล เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
Berlin Wall Memorial, Berlin, Germany
กำแพงเบอร์ลินที่หลงเหลืออยู่แสดงให้เห็นแนวเขตแดนระหว่างเยอรมนีตะวันออกและเยอรมนีตะวันตกในช่วงปีศ.ศ.1961- ค.ศ.1989
เบอร์ลินวอลเมมโมเรียล (Berlin Wall Memorial หรือในภาษาเยอรมันคือ Gedenkstätte Berliner Mauer) เป็นอนุสรณ์สถานให้ระลึกถึงเหตุการณ์ครั้งแบ่งแยกประเทศเยอรมนีด้วยกำแพงเบอร์ลิน อนุสรณ์สถานแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของประเทศ ริมถนน Bernauer Strasse (Bernauer Straße) มีความยาว 1.4 กิโลเมตร อนุสรณ์สถานแห่งนี้ประกอบด้วยส่วนของนิทรรศการกลางแจ้งจัดแสดงชิ้นส่วนที่หลงเหลืออยู่ของกำแพงเบอร์ลินพร้อมกับพื้นที่ที่อยู่ลึกไปด้านหลังกำแพงประมาณ 60 เมตรเพื่อถ่ายทอดให้เห็นภาพเรื่องราวในอดีตจนกระทั่งถึงยุคล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน นอกจากนี้ยังมีส่วนของศูนย์การเรียนรู้ที่จัดแสดงข้อมูลและสิ่งที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของกำแพงเบอร์ลินซึ่งช่วยให้ผู้ที่มาเที่ยวชมเข้าใจประวัติศาสตร์ของการแบ่งแยกเยอรมนีได้ง่ายขึ้น และยังมีหอสวด (The Chapel of Reconciliation) ที่สร้างขึ้นบริเวณเดียวกันกับโบสถ์ (Reconciliation Church) ที่ถูกรื้อถอนไปในสมัยก่อน อนุสรณ์สถานแห่งนี้อยู่ในความดูแลของมูลนิธิกำแพงเบอร์ลิน (Berlin Wall Foundation)
แผนที่ตั้ง เบอร์ลินวอลเมมโมเรียล (Berlin Wall Memorial) เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
ประวัติ
หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศเยอรมนีถูกแบ่งการปกครองออกเป็นสองฝั่ง คือเยอรมนีตะวันออกและเยอรมนีตะวันตก โดยทางฝ่ายพันธมิตรประกอบด้วยสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และอังกฤษ ได้รวมตัวกันจัดตั้งเยอรมนีตะวันตกเป็น ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (Federal Republic of Germany) ส่วนฝั่งเยอรมนีตะวันออกที่อยู่ภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียตได้ถูกจัดตั้งเป็น ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเยอรมนี (GDR: German Democratic Republic) แต่ในปีค.ศ.1948 เจ้าหน้าที่ที่ยึดครองโซเวียตได้เริ่มถ่ายโอนความรับผิดชอบในการบริหารให้กับผู้นำคอมมิวนิสต์ การปกครองจึงเปลี่ยนไป ส่งผลถึงสภาพเศรษฐกิจ รวมถึงเรื่องสิทธิเสรีภาพที่ไม่เป็นธรรม ประชาชนจึงเริ่มย้ายถิ่นมาทางเยอรมันตะวันตกมากขึ้น ทำให้ฝั่งเยอรมนีตะวันออกสร้างกำแพงเบอร์ลินขึ้นมา ในวันที่ 13 สิงหาคม ค.ศ. 1961 เพื่อใช้เป็นเขตพรมแดนในการแบ่งแยกการปกครองประเทศเยอรมนีตะวันออกและเยอรมนีตะวันตก และไว้ใช้ป้องกันการย้ายถิ่นของประชากรนั่นเอง
ในบริเวณเบอร์ลินวอลเมมโมเรียลในสมัยนั้น บริเวณถนน Bernauer Strasse (Bernauer Straße) ซึ่งเป็นเส้นที่ติดกับพรมแดน ในช่วงที่มีข่าวแพร่สะพัดไปว่าการกั้นพรมแดนจะเกิดขึ้นอย่างถาวร มีประชาชนจำนวนมากพยายามหลบหนีจากฝั่งตะวันออกเข้ามาฝั่งตะวันตกผ่านทางหน้าต่างอาคารริมถนน (อาคารที่ตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกแต่มีหน้าต่างออกทางตะวันตกได้) ซึ่งมีทั้งผู้ที่หนีได้สำเร็จ ผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิต ในระยะแรกทางการของเยอรมันตะวันออกจึงได้สั่งให้ปิดทางเข้าออกอาคาร และก่อปูนปิดหน้าต่างอาคารทุกหลังบริเวณนั้น และหลังจากนั้นก็ได้รื้อถอนอาคารทุกหลังบริเวณนั้นออก แม้แต่โบสถ์ (Reconciliation Church) ที่เป็นศาสนสถานและที่พึ่งทางใจของชาวเมืองก็ถูกรื้อถอนเช่นกัน
ตัวกำแพงเบอร์ลินได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเพื่อความแข็งแรงอยู่เสมอในตลอดช่วงเวลา 28 ปีที่มีการแบ่งแยกดินแดน ตั้งแต่แรกเริ่มที่เป็นรั้วลวดหนาม แล้วกลายเป็นกำแพงคอนกรีตที่เพิ่มความหนาและความสูงอยู่หลายครั้ง อีกทั้งยังมีการเพิ่มกลไกหลังกำแพงให้หลบหนียากขึ้นพร้อมหอสังเกตการณ์ รัฐบาลเยอรมนีตะวันออกภูมิใจกับกำแพงเบอร์ลินเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมที่ใช้ป้องกันระบบทุนนิยมของเยอรมนีตะวันตก แต่ก็ยังมีสิ่งที่เหนือกว่านวัตกรรมนั้น นั่นคือการที่ชาวเยอรมันพยายามคิดค้นวิธีต่างๆ เพื่อหลบหนีออกมา ซึ่งตัวอย่างที่โด่งดังที่สุดคือการขุดอุโมงค์ใต้ดินที่ชื่อว่า Tunnel 57 ในปีค.ศ. 1964 ที่ช่วยให้ชาวเยอรมันตะวันออกหลบหนีออกมาได้จำนวน 57 คน ในช่วงเวลาการแบ่งแยกดินแดนนี้มีทั้งผู้ที่หนีได้สำเร็จและผู้ที่หนีไม่สำเร็จ มีผู้บาดเจ็บจากการหลบหนี และผู้เสียชีวิตจากการถูกยิงเมื่อหนีไม่ทันบริเวณกำแพงนี้อยู่เสมอ
ในที่สุด ในวันที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1989 ประชาชนทั้งสองฝั่งก็เริ่มมีการชุมนุมรวมตัวกันเพื่อต่อต้านกำแพงเบอร์ลิน พังทลายด่านและฝ่าเข้าไปยังพรมแดนเยอรมนีตะวันตกได้สำเร็จ หลังจากถูกปิดกั้นการเข้าออกอยู่ถึง 28 ปี ประชาชนฝั่งเยอรมนีตะวันตกก็ได้รวมตัวกันออกมาต้อนรับและแสดงความยินดีกับสิทธิเสรีภาพในครั้งนี้ ชาวเยอรมันจึงถือว่าวัน ที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1989 เป็นวันล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน กำแพงที่สร้างขึ้นเพื่อกั้นขวางสิทธิเสรีภาพในชาติตัวเอง
เบอร์ลินวอลเมมโมเรียลนี้เกิดขึ้นจากความคิดริเริ่มของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เยอรมัน (German Historical Museum) ในนามของรัฐบาลกรุงเบอร์ลิน เริ่มสร้างขึ้น ในวันที่ 13 สิงหาคม ปีค.ศ. 1998 ปัจจุบันในเบอร์ลินวอลเมมโมเรียลประกอบไปด้วย ศูนย์บริการท่องเที่ยว (Visitor Center) ศูนย์การเรียนรู้ (Documentation Center) นิทรรศการกลางแจ้งและอนุสรณ์สถาน (Open-Air Exhibition and Memorial Grounds) ซึ่งเปิดให้ผู้ที่สนใจและนักท่องเที่ยวเข้าชมและเรียนรู้ฟรี
บริเวณอาคารศูนย์การเรียนรู้
ภายในอาคารศูนย์การเรียนรู้
แผนผังเขาวงกตด้านหลังกำแพง
รูปประวัติศาสตร์ในการทำลายอาคารเพื่อสร้างกำแพง
แนวรั้วแสดงเขตแดนกำแพงที่เคยตั้งอยู่ อาคารทรงกลมด้านหลังคือหอสวด (The Chapel of Reconciliation)
ภาพฝูงชนประท้วงบริเวณกำแพง
บริเวณนิทรรศการกลางแจ้ง มีการจัดแสดงภาพถ่ายในอดีต
การจัดแสดงภาพถ่ายในอดีตเรียงตาม Timeline ของเหตุการณ์
บริเวณนิทรรศการกลางแจ้ง
มีการจัดแสดงข้อมูลให้อ่านเพิ่มเติมบนเสาสีแดง
การเดินทางจากสนามบินเบอร์ลินเทเกิลไปยังสถานีรถไฟกลางเบอร์ลิน (Berlin Central Station)
- รถยนต์ (Car) จาก Berlin-Tegel Airport (TXL) ไปยัง Berlin Central Station มีระยะทางประมาณ 8.9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที
- รถประจำทาง (Bus) จากอาคารผู้โดยสารขาเข้า ให้เดินต่อไปยังอาคาร Airport Tegel Berlin Bus Station และขึ้นรถบัสสาย TXL ระยะทางประมาณ 8.9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ลงที่สถานี S+U Berlin Hauptbahnhof ก็จะถึง Berlin Central Station (ชื่อสถานีภาษาเยอรมันคือ Berlin Hauptbahnhof อ่านว่า เบอร์ลิน โฮพท์-บาห์น-ฮอฟ)
การเดินทางจากสถานีรถไฟกลางเบอร์ลินไปยังเบอร์ลินวอลเมมโมเรียล (Berlin Wall Memorial)
- รถยนต์ (Car) จาก Berlin Central Station ไปยัง Berlin Wall Memorial มีระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 นาที
- รถไฟ (Train) จาก Berlin Central Station ขึ้นรถไฟสาย S+U Warschauer Str. ไปลงสถานี Bernauer Straße และเดินต่อไปยัง Berlin Wall Memorial ใช้เวลาโดยรวมประมาณ 9 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด
ศูนย์นักท่องเที่ยวและศูนย์การเรียนรู้ เปิดวันอังคาร – วันอาทิตย์ 10:00 น – 18:00 น. / ปิดวันจันทร์
นิทรรศการกลางแจ้งและบริเวณอนุสรณ์สถาน เปิดทุกวัน วันจันทร์ – วันอาทิตย์ 08:00 น. – 22:00 น.
ทางเดินภายใน The Chapel of Reconciliation
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
บริเวณที่ใช้ทำพิธีเพื่อระลึกถึงผู้ที่จากไปที่กำแพงเบอร์ลิน
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
รูปปั้นอนุสรณ์ที่ระลึกถึงความปีติยินดีหลังการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว Berlin Wall Memorial สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
เบอร์ลินวอลเมมโมเรียล เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
(Berlin Wall Memorial, Berlin, Germany)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : ศูนย์นักท่องเที่ยวและศูนย์การเรียนรู้ เปิดวันอังคาร – วันอาทิตย์ 10:00 น – 18:00 น. / ปิดวันจันทร์
นิทรรศการกลางแจ้งและบริเวณอนุสรณ์สถานเปิดทุกวัน วันจันทร์ – วันอาทิตย์ 08:00 น. – 22:00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
โทรศัพท์ : +49 (0)30 213085-166
เว็บไซต์ : https://www.berliner-mauer-gedenkstaette.de/en/
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : มูลนิธิกำแพงเบอร์ลิน https://www.stiftung-berliner-mauer.de/en/
พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/th/de/germany-weather
เว็บไซต์ทางการของกรุงเบอร์ลิน https://www.berlin.de/en
เว็บไซต์ท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการของกรุงเบอร์ลิน https://www.visitberlin.de/en
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย
หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!
อ่านต่อเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)
สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อิสตันบูล (Istanbul) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นนคร 2 ทวีป ซึ่งมีช่องแคบบอสฟอรัสเป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรปและเอเชียแห่งนี้ คือเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมานับพันๆ ปี จึงไม่น่าแปลกใจหากอิสตันบลูจะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่และงดงามทรงคุณค่ามากมายที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นยุโรปและเอเชียจากอดีตจนถึงปัจจุบัน Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูลที่หากมีโอกาสไปเยือนประเทศตุรกีไม่ควรพลาด
อ่านต่อล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ช่องแคบบอสฟอรัส เป็นช่องแคบเล็กๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของตุรกี เคยเป็นทั้งเส้นทางการค้าที่สำคัญ และยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาจนถึงปัจจุบัน การล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) จึงเป็นวิธีที่ดีที่จะได้สัมผัสบรรยากาศ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมที่หลากหลายของอิสตันบูล
อ่านต่ออุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Sarnici) คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของตุรกี ดินแดนที่เต็มไปด้วยประวัติความเป็นมามากกว่าพันปี อุโมงค์เก่าแก่ขนาดใหญ่แห่งนี้คือสถานที่เก็บน้ำในสมัยโบราณที่ยังคงความยิ่งใหญ่และงดงาม กับเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างเสากรีกที่ค้ำเรียงรายมากถึง 336 ต้น และเสาเมดูซ่าพร้อมตำนานที่เล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคน รวมถึงซากโบราณของพระราชวังใต้ดินแห่งกรุงคอนสแตนติโนเปิลสมัยไบเซนไทน์อีกด้วย
อ่านต่อตลาดเครื่องเทศ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ตลาดเครื่องเทศ (Historical Spice Bazaar / Egyptıan Spıce Bazaar) ในอิสตันบูล เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก ตลาดแห่งนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ในสมัยจักรวรรดิออตโตมัน เดิมทีเป็นจุดแลกเปลี่ยนเครื่องเทศ ผ้าไหม และสินค้าอื่นๆ จากเอเชียมาสู่ยุโรป
อ่านต่อ10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
บูดาเปสต์ (Budapest) เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี ตัวเมืองถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งด้วยแม่น้ำดานูบที่ไหลผ่านกลางเมือง ทำให้ในเมืองเต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกจากสถาปัตยกรรมอันสวยงามเปี่ยมเสน่ห์ที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือน Palanla ได้รวบรวมเอา 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์มาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่อ12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
ปราก (Prague) เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลนี้ ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปยุโรป ในอดีต เมืองปรากเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองอันยิ่งใหญ่ของทวีปยุโรป ซึ่งอารยธรรมแห่งความยิ่งใหญ่ และเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานนั้น ก็ยังคงสะท้อนอยู่ในวิถีชีวิตของชาวเมือง วัฒนธรรมประเพณี สถาปัตยกรรม ฯลฯ ราวกับมรดกที่สืบทอด และรักษากันมาอย่างดี จนถูกยกให้เป็นเมืองที่มีความน่าหลงใหล ควรค่าแก่การไปสัมผัสความเป็นยุโรปมากที่สุด โดยเมืองปรากยังได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย ปัจจุบันเมืองนี้นับเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญ ของบรรดานักท่องเที่ยวที่มาเยือนทวีปยุโรป ไปชม 12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปรากพร้อมๆ กันกับ Palanla!
อ่านต่อถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ (Fashion Street Budapest) เป็นถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงในใจกลางเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ถนนสายนี้เป็นที่รู้จักในด้านร้านค้าแฟชั่นชั้นนำจากแบรนด์ระดับโลก อาทิ Gucci, Louis Vuitton, Dior, Armani, Prada และ Chanel ถนนสายนี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่มากมาย จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองบุดาเปสต์เองด้วย
อ่านต่อล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ (Dinner Cruise Budapest) เป็นวิธียอดเยี่ยมในการชมความสวยงามของเมืองบูดาเปสต์ โดยขณะที่เรือล่องไปตามแม่น้ำดานูบ (Danube River) นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงามของสะพาน พระราชวัง และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ รวมทั้งอิ่มอร่อยกับอาหารรสเลิศและเครื่องดื่มแสนอร่อย
อ่านต่อ