- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- สวนเคอเคนฮอฟ เมืองลิสเซ่ ประเทศเนเธอร์แลนด์
สวนเคอเคนฮอฟ เมืองลิสเซ่ ประเทศเนเธอร์แลนด์
- อ่าน (7,140)
- By Webmaster
- 14:29:21 | 27 เม.ย. 2566
สวนเคอเคนฮอฟ เมืองลิสเซ่ ประเทศเนเธอร์แลนด์
Keukenhof, Lisse, Netherlands
เคอเคนฮอฟ (Keukenhof) หรือที่ รู้จักกันในนาม “สวนดอกไม้แห่งยุโรป”(The Garden of Europe) เป็นหนึ่งในสวนดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่ชานเมืองลิซเซ่ (Lisse) แคว้นเซ้าท์ฮอลแลนด์ (South Holland) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) ประเทศเนเธอร์แลนด์ (Netherlands) สวนดอกไม้บนเนื้อที่กว่า 200 ไร่แห่งนี้ดึงดูดให้ผู้คนจากทั่วโลกหลั่งไหลมายลความงามของดอกทิวลิปที่นี่ไม่ต่ำกว่าปีละ 5 ล้านคน
ประวัติ
ตามเรื่องเล่ายังคงถกเถียงกันอยู่ว่าใครเป็นผู้นำดอกทิวลิปเข้ามา บ้างก็ว่าพ่อค้าชาวตุรกีเป็นผู้นำเข้ามา บ้างก็ว่าสุลต่านชาวตุรกีเป็นผู้มอบบริจาคหัวทิวลิปให้กับเอกอัครสถานทูตออสเตรีย และส่งต่อให้กับชาวดัชต์ ชื่อว่า คาโรลัส คลูเชียส (Carolus Clusius) และปลูกดอกทิวลิปดอกแรกในประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อปี ค.ศ.1593
ส่วนต้นกำเนิดของสวนเคอเคนฮอฟ คงต้องย้อนกลับไปราวๆช่วงศตวรรษที่ 15 ชื่อนี้มาจาก ชื่อสวนเนินทรายในครัว ที่มีชื่อว่า “Keukenduin” ของเคาน์เตสแห่งบาวาเรีย ฌาโคบา แวน เบอเยเรน (Jacoba van Beyeren) เป็นสวนสมุนไพรที่ ฌาโคบา แวน เบอเยเรน คอยเก็บเกี่ยวสมุนไพร ผัก และ ผลไม้มาประกอบอาหารในขณะที่ใช้ชีวิตอยู่ในปราสาท Teylingen
ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 17 ปราสาท Teylingen ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมากจากสงคราม เหลือเพียงซากปรักหักพัง และเมื่อไม่มีปราสาท Teylingen ทำให้มีการสร้างปราสาทเคอเคนฮอฟ (Keukenhof Castle) ขึ้นมาบนพื้นที่ชนบท โดยมีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 230 เฮกตาร์ และได้มีการปรับปรุงสวนรอบปราสาท ก็คือ สวนเคอเคนฮอฟ นั่นเองค่ะ
ในศตวรรษที่ 19 สถาปนิกชื่อดังอย่าง Jan David Zocher และลูกชายของเขา Louis Paul Zocher ได้รับมอบหมายให้ออกแบบสวนบริเวณรอบๆ ปราสาทใหม่ แต่ให้คงไว้ซึ่งกลิ่นอายสไตล์อังกฤษแบบเดิม
สวนดอกทิวลิปเคอเคนฮอฟ เปิดให้เข้าชมครั้งแรกในปี ค.ศ.1949 ถือเป็นความร่วมมือของกลุ่มผู้ปลูก และส่งออกดอกไม้ชั้นนำกว่า 20 ราย ที่เนรมิตสวนสวยแห่งนี้ออกสู่สายตาสาธารณชน จนเป็นที่ตอบรับและได้รับความนิยมอย่างยอดเยี่ยม
ทุ่งดอกทิวลิปที่ถูกปลูก และจัดวางไว้อย่างสวยงามลงตัว
สวนในร่ม ที่มีการจัดแสดงดอกทิวลิปหลากหลายสายพันธุ์
ดอกทิวลิปหลากสีสันหลายสายพันธุ์
ส่วนจัดแสดง Art Gallery ที่ถูกประดับประดาคู่กับดอกทิวลิป
กังหันลมภายสวน หนึ่งในสัญลักษณ์ของประเทศเนเธอร์แลนด์
การเดินทางจากสถานีรถไฟกลาง Amsterdam Central ไป Lisse
- รถยนต์ (Car / Bus) จากสถานีรถไฟกลาง Amsterdam Central ไปยัง Lisse มีระยะทาง 39 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 32 นาที
- รถไฟ (Train) จากสถานีรถไฟกลาง Amsterdam Central ไปยัง Lisse ขึ้นรถไฟสาย 1010 Rotterdam Centraal เพื่อไปลงที่ Schiphol Airport จากนั้นนั่งรถบัสสาย 361Noordwijk เพื่อไปลงที่ ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 2 นาที
การเดินทางไป Keukenhof
- รถยนต์ (Car) จากเมือง Lisse ไปยัง Keukenhof มีระยะทาง 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 นาที
- รถประจำทาง (Bus) จากเมือง Lisse ไปยัง Keukenhof ขึ้นรถประจำทางสาย 90 จากสถานีLeiden Centraal ลงป้าย Lisse Keukenhofdreef และเดินต่อไปยัง Keukenhof ใช้เวลาเดินทางประมาณ 22 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด
สวนดอกไม้แห่งนี้จะเปิดให้บริการเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น โดยในปี 2023 นี้ จะเปิดให้เข้าชมระหว่างวันที่ 23 มีนาคม – 14 พฤษภาคม เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 19.30 น.
อัตราค่าเข้าชม
ค่าเข้าชมสวน : ผู้ใหญ่ 19 Euro / เด็กอายุ 4-17 ปี 9 Euro / เด็กอายุ 0-3 ปี เข้าชมฟรี
ค่าบริการล่องเรือ : ผู้ใหญ่ 19 Euro / เด็กอายุ 4-11 ปี 5 Euro / เด็กอายุ 0-3 ปี เข้าชมฟรี
ทั้งนี้ยังมี ตั๋วประเภท Combi ที่รวมค่ารถบัสจากเมือง Amsterdam + ค่าเข้าชมสวน :
ผู้ใหญ่ราคา 36 Euro / เด็กอายุ 17.50 Euro (ค่ารถบัสขากลับ 17 Euro/คน)
และ ตั๋วประเภท Combi ที่รวมค่ารถบัสจากเมือง Schiphol / Leiden / Haarlem + ค่าเข้าชมสวน :
ผู้ใหญ่ราคา 31 Euro / เด็กอายุ 17.50 Euro (ค่ารถบัสขากลับ 12 Euro/คน)
นักท่องเที่ยวสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://tickets.keukenhof.nl/en-US/tickets
บัตรเข้าชมสวนเคอเคนฮอฟ
สิ่งน่าสนใจเมื่อไปเที่ยวสวนเคอเคนฮอฟ
สวนเคอเคนฮอฟได้ถูกออกแบบไว้อย่างสวยงาม ประกอบไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่อันเก่าแก่ ทางเดินร่มรื่น บ้างก็มีงานประติมากรรมประดับสวนอยู่เป็นระยะ มีสระน้ำ น้ำพุ และศาลาจัดแสดงกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับดอกไม้มากมาย
นอกจากนี้ ก็ยังมีส่วนจัดแสดงดอกไม้ในร่มซึ่งแบ่งออกเป็น Pavillion ต่างๆ ที่จัดแสดงดอกไม้แตกต่างกันออกไป เช่น ส่วนที่เป็นดอกกุหลาบ ดอกลิลลี่ และดอกกล้วยไม้ เป็นต้น ซึ่งตรงนี้เป็นอีกส่วนของงานที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดชมความงามของดอกไม้ที่ถูกผนวกเข้ากับความคิดสร้างสรรค์อย่างลงตัว
ส่วนจัดแสดงดอกไม้ในร่มที่แบ่งเป็น Pavillion ต่างๆ
นอกจากจะเดินไปตามทางเพื่อเข้าชมสวนดอกไม้ที่จัดไว้แล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถล่องเรือไปในคลองเพื่อชมทุ่งดอกทิวลิปได้ด้วย ภายในสวนยังมีร้านอาหาร และคาเฟ่ไว้ให้บริการ และตรงบริเวณประตูทางเข้าออกจะมีร้านขายของที่ระลึก รวมทั้งหัวดอกไม้พันธุ์ต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวซื้อกลับไปปลูกที่บ้านได้ด้วย
บริการล่องเรือไปในคลองเพื่อชมทุ่งดอกทิวลิป
ร้านขายของที่ระลึกในสวนเคอเคนฮอฟ
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
สวนเคอเคนฮอฟ เปิดเป็นประจำทุกปี ช่วงฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคม) ทั้งนี้ เวลาที่ดีที่สุด ที่นักท่องเที่ยวจะสามารถชมความสวยงามของดอกไม้ คือ ช่วงกลางเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดอกทิวลิปร่วม 7 ล้านดอกจะแข่งกันบานสะพรั่งอวดความงามอย่างเต็มที่
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้ในการไปเที่ยวชมสวนเคอเคนฮอฟ
ช่วงฤดูกาล ที่พักแรมใกล้ๆ ค่อนข้างหายาก นักท่องเที่ยวอาจต้องจองล่วงหน้า หรือเลือกที่พักใกล้ๆ ขนส่งสาธารณะเพื่อความสะดวกในการเดินทาง
ในบางปีที่อากาศหนาวกว่าปกติ ดอกทิวลิปอาจจะบานช้ากว่าปกติ 1 – 2 อาทิตย์ ฉะนั้น นักท่องเที่ยวควรเช็คสภาพอากาศก่อนวางแผนเดินทางอีกครั้ง
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม สวนเคอเคนฮอฟ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
เคอเคนฮอฟ เมืองลิสเซ่ ประเทศเนเธอร์แลนด์
(Keukenhof, Lisse, Netherlands)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ค่าเข้าชมสวน : ผู้ใหญ่ 19 Euro / เด็กอายุ 4-17 ปี 9 Euro / เด็กอายุ 0-3 ปี เข้าชมฟรี
ค่าบริการล่องเรือ : ผู้ใหญ่ 19 Euro / เด็กอายุ 4-11 ปี 5 Euro / เด็กอายุ 0-3 ปี เข้าชมฟรี
เวลาเปิด - ปิด : ตั้งแต่เวลา 08.00 - 19.30 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ช่วงฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคม)
ตั้งอยู่ที่ : Stationsweg 166A, 2161 AM Lisse, ประเทศเนเธอร์แลนด์
โทรศัพท์ : (+31)2-5246-5555
เว็บไซต์ : https://keukenhof.nl/en/
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ www://accuweather.com
การท่องเที่ยวประเทศเนเธอร์แลนด์ http://www.netherlands-tourism.com/
บริษัทรถไฟแห่งชาติประเทศเนเธอร์แลนด์ https://www.ns.nl/en
การรถไฟยุโรป https://www.eurail.com
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อรวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อ