- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- ปราสาทนาโกย่า เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
ปราสาทนาโกย่า เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
- อ่าน (5,279)
- By Webmaster
- 10:37:06 | 13 พ.ย. 2562
ปราสาทนาโกย่า เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
Nagoya Castle, Nagoya, Japan
ทัศนียภาพของสถาปัตยกรรมต่างๆ ภายในปราสาทนาโกย่า
ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle) ปราสาทแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติของชาติแห่งนี้ มีทั้งสถาปัตยกรรม ประติมากรรม งานศิลป์ ฯลฯ ที่สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ทางประวัติศาสตร์ของเมืองนาโกย่าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งบริเวณโดยรอบของปราสาทยังเป็นจุดชมดอกซากุระที่สวยงามที่สุดของเมืองด้วย
แผนที่ตั้ง ปราสาทนาโกย่า เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
ประวัติ
สถาปัตยกรรมของตัวปราสาทหลัก
ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle) สร้างขึ้นมาครั้งแรกในปี ค.ศ. 1610 ยุคสมัยเอโดะ (Edo-Jidai) โดย โชกุนโตกุงาวะ อิเอะยาสุ (Tokugawa Ieyasu) ผู้มีอิทธิพลมากที่สุดของประเทศญี่ปุ่นสมัยนั้น โดยปราสาทแห่งนี้ได้รับการสร้างด้วยการเกณฑ์เจ้าเมือง 20 คนที่ปกครองเมืองต่างๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่น และเคยมีการแข็งข้อต่อการเข้ายึดอำนาจแบบเบ็ดเสร็จของ โชกุนโตกุงาวะ อิเอะยาสุ ให้สรรหาทรัพยากร นายช่าง กำลังคน ฯลฯ มาเพื่อดำเนินการสร้างปราสาท โดยมีจุดมุ่งหมายแอบแฝงคือเพื่อลดโอกาสในการพัฒนาศักยภาพทางด้านกองทัพของบรรดาเจ้าเมืองเหล่านี้ที่อาจจะเป็นภัยต่อการปกครองของโชกุนได้ และในช่วงเริ่มสร้างได้เคยมีการสังหารผู้นำที่ขัดขืน หรือมีท่าทีไม่เต็มใจกับบทบาทหน้าที่ใหม่ที่ต้องรับผิดชอบนี้ด้วย ทำให้ตลอดระยะเวลาการก่อสร้าง บรรดาเจ้าเมืองจึงได้มีการแกะสลักตราประจำตระกูลไว้บนก้อนหินที่นำมาใช้ก่อสร้างฐานรากของปราสาทหลัก และตัวกำแพงของปราสาท เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีของตัวเองที่มีให้กับโชกุน โดยตราประจำตระกูลอันเก่าแก่เหล่านี้ยังสามารถพบเห็นได้ตามชั้นหินที่ปรากฎอยู่ทั่วปราสาทในปัจจุบัน และเป็นแหล่งศึกษาเกี่ยวกับด้านสัญลักษณ์โบราณของประเทศญี่ปุ่นชั้นดี
ประติมากรรมรูป โชกุนโตกุงาวะ อิเอะยาสุ ผู้ปกครองประเทศญี่ปุ่นในสมัยยุคเอโดะ
โดยตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ใช้ในการสร้างปราสาทแห่งนี้นั้น ต้องแลกมาด้วยความสูญเสียของหยาดเหงื่อแรงงานที่ถูกใช้งานเยี่ยงทาส เลือดเนื้อของผู้เห็นต่างและไม่ยอมอ่อนข้อต่อระบบการปกครองที่กดขี่คนชั้นล่างอย่างไม่เป็นธรรม ทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลายจนเหี้ยนเตียน จนได้รับการบันทึกว่าเป็นประวัติศาสตร์อันมืดหม่นของปราสาทแห่งนี้เลยทีเดียว ก่อนที่ปราสาทแห่งนี้ จะสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1612 และกลายปราสาทที่สวยงามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น
สถาปัตยกรรมอันสวยงามของปราสาทนาโกย่า
ประติมากรรมคินซาฉิ สัตว์ในตำนานซึ่งเป็นที่นับถือของคนญี่ปุ่น
โดยสถาปัตยกรรมของตัวปราสาทหลักจะมีลักษณะเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่เชื่อมต่อกัน 5 ป้อม ใช้หลังคาสีเขียวปูเป็นหน้าจั่วตามป้อมปราสาทที่ต่อกันไปเป็นชั้นๆ และที่บริเวณยอดบนสุดของปราสาทจะประดับด้วยประติมากรรมคินซาฉิ (Kinshachi) สัตว์ในตำนานของญี่ปุ่นที่มีหัวเป็นเสือ แต่ลำตัวเป็นปลาคาร์ฟ ซึ่งคนญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็นสัตว์ที่สามารถเรียกน้ำมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ตามตำนานปรัมปราที่เล่าสืบกันมา จึงถูกนำมาใช้เพื่อเป็นเครื่องรางป้องกันไฟร้ายที่ชาวเมืองเชื่อว่าจะลุกไหม้ขึ้นมาทำลายเมืองได้ โดย คินซาฉิ ที่ตั้งอยู่บนยอดปราสาทนาโกย่านั้นมีขนาดสูงถึง 2.7 เมตร ทำด้วยทองคำที่มีน้ำหนักรวมถึง 90 กิโลกรัม ถือเป็นประติมากรรมที่บ่งบองถึงความมั่งคั่งของตระกูลโตะกุงาวะ (Tokugawa) ที่ปกครองประเทศญี่ปุ่นในยุคเอโดะได้เป็นอย่างดี
โครงสร้างภายนอกของพระราชวังฮอมมารุ
ลายจิตกรรมอันวิจิตรของฉากกั้นห้องทองคำที่วาดโดยปลายพู่กันของช่างศิลป์ระดับปรมาจารย์
ไม่เพียงเท่านั้น บริเวณพื้นที่ของปราสาทนาโกย่ายังมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น และงดงามไม่แพ้ตัวปราสาทหลักอีกหลังอย่าง พระราชวังฮอมมารุ (Honmmaru Palace) สถาปัตยกรรมที่มีความเรียบง่าย ปราณีต เปี่ยมไปด้วยแง่งามทางศิลปะทั้งภายใน และภายนอก โดยพระราชวังแห่งนี้ถูกสร้างด้วยวัสดุหลักอย่างไม้สนหอมฮิโนกิ ภายในจะมีฉากกั้นห้องทองคำลายจิตกรรมรูปเสือ เสือดาว นก สัตว์มงคลที่ชาวญี่ปุ่นนับถือ ต้นไม้ และดอกไม้ ที่วาดโดยปลายพู่กันของช่างศิลป์ระดับปรมาจารย์ของประเทศในยุคเอโดะ ซึ่งกระจายตัวอยู่ทั่วท้องพระโรงหลัก โถงทางเข้า ทางเดินภายในพระราชวัง โดยหลังสร้างเสร็จพระราชวังแห่งนี้ก็ถูกประกาศให้ใช้เป็นที่รับรองของ โชกุนโตกุงาวะ อิเอะยาสุ เท่านั้น ทำให้เป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างดี และในปี ค.ศ. 1930 กระทรวงทรัพย์สินแห่งราชวงศ์ญี่ปุ่น (The Imperial Household Ministry) ก็ได้ทำการขึ้นทะเบียนให้ปราสาทนาโกย่าเป็นสมบัติแห่งชาติ (National Treasures of Japan) และกลายเป็นปราสาทแห่งแรกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติของประเทศญี่ปุ่น
ป้อมปราการที่ตั้งอยู่ภายในปราสาทนาโกย่า
ต่อมาวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 1945 ช่วงที่สงครามโลกครั้งที่สองกำลังจะถึงบทสรุป ประเทศญี่ปุ่นกำลังจะแพ้ในสงครามที่ต่อสู้มาอย่างยาวนาน กองทัพเครื่องบินของประเทศอเมริกาได้ยกขบวนมาทิ้งระเบิดฝูงใหญ่ที่ปราสาทนาโกย่าซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่บัญชาการการรบหลัก ณ ตอนนั้น เป็นเหตุให้สถาปัตยกรรมทุกอย่างภายในปราสาทถูกทำลายหมด เหลือเพียงโครงสร้างอาคารไม่กี่แห่ง และซากกำแพงที่ยังคงเหลือรอด จนผ่านมาถึงปีค.ศ. 1957 เมื่อประเทศญี่ปุ่นเริ่มกลับมาฟื้นฟูตัวเองได้อีกครั้ง ประกอบกับเสียงเรียกร้องของชาวเมือง ทำให้มีการสร้างปราสาทนาโกย่าขึ้นมาใหม่ โดยคงต้นแบบเดิมทุกประการ ทั้งวัสดุที่ใช้ รูปทรงทางสถาปัตยกรรม แม้กระทั่งรายละเอียดเล็กน้อยอย่างการจัดเรียงฐานหิน หรือจำนวนแผ่นปูกำแพงก็ได้รับการคำนวณให้ออกมาเหมือนกับตัวปราสาทเดิมแบบทุกกระเบียดนิ้ว โดยปราสาทหลักบูรณะเสร็จสิ้นในปี ค.ศ. 1959 ส่วนพระราชวังฮอมมารุก็ได้รับการบูรณะแล้วเสร็จตามมาในปี ค.ศ. 2018 แต่มีตัวปราสาทหลักที่มีการเปลี่ยนพื้นที่ภายในให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงข้อมูลทางประวัติศาสตร์ทุกอย่างเกี่ยวกับเมืองนาโกย่า มีประติมากรรมจำลองต้นแบบของตัวปราสาท วัตถุโบราณที่ถูกใช้ในสมัยก่อสร้างปราสาท ฯลฯ และชั้น 7 ของปราสาทหลักจะเป็นจุดชมวิวที่สามารถเห็นตัวเมืองนาโกย่าได้ทั่วทิศทาง มีร้านขายของที่ระลึก โดยพื้นที่ภายในปราสาทหลักจะได้รับการติดแอร์เพื่อความเย็นสบายสำหรับผู้เข้าชม
ทางเดินที่ขนาบไปด้วยต้นไม้ใหญ่ดูร่มรื่นภายในปราสาท
อีกหนึ่งความงดงามของปราสาทนาโกย่าคือพื้นที่ธรรมชาติที่กระจายตัวอยู่โดยรอบปราสาททั้งสวนมิโนมารุ (Ninomaru) ที่มีทั้งต้นไม้ สายน้ำ ฯลฯ และที่พลาดไม่ได้อีกอย่างเวลามาที่ปราสาทนาโกย่าคือต้นซากุระนับพันของปราสาทที่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีดอกซากุระบานสะพรั่งตัดกับทัศนียภาพของสถาปัตยกรรมต่างๆ ภายในปราสาทดูงดงามที่สุด จนปฎิเสธไม่ได้ว่าปราสาทนาโกย่าแห่งนี้ถือเป็นแลนด์มาร์กอันดับหนึ่งที่เป็นหมุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวทุกคนที่มานาโกย่าแน่นอน
การเดินทางจากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ไปยังศูนย์กลางคมนาคมสาธารณะของเมืองนาโกย่า
การเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่นจากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์สามารถทำได้อย่างสะดวก เพราะมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วโดยสารระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภทเรียงรายอยู่บริเวณเดียวกับอาคารผู้โดยสารขาเข้า
- รถยนต์ จากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ ไปยังศูนย์กลางคมนาคมสาธารณะของเมืองนาโกย่า ระยะทางประมาณ 48 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที อ่านบทความเกี่ยวกับการเช่าและใช้รถยนต์ในประเทศญี่ปุ่นได้ที่ https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=602
- รถบัส จากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ให้เดินไปขึ้นรถบัสที่สถานีรถบัส (Centrair Bus Terminal) ที่ป้ายรอรถบัสหมายเลข 6 ระยะทางประมาณ 48 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1ชั่วโมงกับอีก 15 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.centrair.jp/en/access/bus.html
- รถไฟ จากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ให้เดินไปขึ้นรถไฟที่บริเวณอาคารผู้โดยสารขาเข้า เพื่อไปลงที่สถานี Nagoya Station ระยะทางประมาณ 48 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.centrair.jp/en/access/train.html
อ่านบทความวิธีเดินทางเข้าเมืองนาโกย่าจากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ อย่างละเอียดได้ที่ https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=736
การเดินทางจากศูนย์กลางคมนาคมสาธารณะของเมืองนาโกย่าไปยังปราสาทนาโกย่า
- รถยนต์ จาก Nagoya Station ไปยังปราสาทนาโกย่า ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 นาที
- รถบัส จาก Nagoya Station ให้ขึ้นรถเมล์หมายเลข 14 ที่ป้ายจอดรถบัสประจำสถานี Nagoya Station เพื่อไปลงที่ป้าย Shiyakusho Bus Stop ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร แล้วเดินต่อไปอีกเล็กน้อยก็จะถึงปราสาทนาโกย่า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 17 นาที
- รถไฟ จาก Nagoya Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Sakuradori Line ไปลงที่สถานี Hisayaodori Station แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Meijo Line เพื่อไปลงที่สถานี Shiyakusho Station ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร แล้วเดินต่อไปอีกเล็กน้อยก็จะถึงปราสาทนาโกย่า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 นาที
เวลาเปิด-ปิดทำการ
เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 09:00 น. – 16:30 น. (ปิดทำการวันที่ 29 ธ.ค. – 1 ม.ค. ของทุกปี)
ทางเดินริมป้อมปราการปราสาท
อัตราค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ ราคา 500 เยน / เด็กอายุ 15 ปีลงไป เข้าชมฟรี / ปัจจุบันพื้นที่ภายในของตัวปราสาทกลางมีการปิดปรับปรุงจนถึงปี ค.ศ. 2022 แต่ส่วนอื่นของปราสาทยังคงเปิดให้เข้าชมได้ปกติ
เคาน์เตอร์ขายตั๋วด้านหน้าปราสาทนาโกย่า
เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว
ปราสาทนาโกย่าถือเป็นหนึ่งในสถานที่ชมดอกซากุระที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ทำให้ช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนจะมีกิจกรรมที่เรียกว่า โยซากุระ (Yozakura) เป็นการชมดอกซากุระบานสะพรั่งที่ประดับไปด้วยสายไฟสวยงาม ซึ่งเปิดให้ชมกันตั้งแต่เวลา 09:00 AM – 04:00 PM
นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมปราสาทนาโกย่ากันคึกคักตลอดทั้งวัน
โครงสร้างอาคารอันเรียบง่ายแต่สวยงามของพระราชวังฮอมมารุ
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว ปราสาทนาโกย่า สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ปราสาทนาโกย่า เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น
(Nagoya Castle, Nagoya, Japan)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ ราคา 500 เยน / เด็กอายุ 15 ปีลงไป เข้าชมฟรี
ปัจจุบันพื้นที่ภายในของตัวปราสาทกลางมีการปิดปรับปรุงจนถึงปี ค.ศ. 2022
แต่ส่วนอื่นของปราสาทยังคงเปิดให้เข้าชมได้ปกติ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 09:00 น. – 16:30 น. (ปิดทำการวันที่ 29 ธ.ค. – 1 ม.ค. ของทุกปี)
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : มี.ค. – ม.ย.
สถานที่ตั้ง : เมืองนาโกย่า, ประเทศญี่ปุ่น
โทรศัพท์ : (+81) 52-231-1700
เว็ปไซต์ : https://www.nagoyajo.city.nagoya.jp/
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/
เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองนาโกย่า https://www.nagoya-info.jp/th/information/
เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนของประเทศญี่ปุ่น http://www.hyperdia.com/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจาง – ดาลัด ประเทศเวียดนาม
หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองชายทะเลสุดคึกคักอากาศอบอุ่น แล้วไปผ่อนคลายในเมืองแห่งภูเขาอากาศเย็นสบายที่เวียดนามใต้ ญาจางและดาลัดคือคำตอบ! สองเมืองนี้จะพาคุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมที่หลากหลาย Palanla ได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจางและดาลัดมาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่ออาสนวิหารญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
อาสนวิหารญาจาง (Christ the King Cathedral Nha Trang) หรือ โบสถ์หินญาจาง สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม อายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง ด้วยผนังหินสีน้ำตาลเข้มที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง และหลังคาสูงชะลูดที่ดูอลังการ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว
อ่านต่อหาดญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หาดญาจาง (Nha Trang Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศเวียดนาม ด้วยชายรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ความยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่โอบล้อมอ่าวญาจาง ในจังหวัดหวัดคั้ญฮวา ท่ามกลางภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญๆ มากมาย
อ่านต่อหอคอยแตร่มเฮือง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หอคอยแตร่มเฮือง (Tram Huong Tower) สัญลักษณ์และจุดเช็กอินยอดนิยมของหาดญาจางในปัจจุบัน
อ่านต่อวินเพิร์ลแลนด์ เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วินเพิร์ลแลนด์ (Vinpearl Land) เป็นสวนสนุกและรีสอร์ตหรูครบวงจรระดับโลกที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่สวยงามติดทะเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของการไปเที่ยวที่นี่คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก
อ่านต่อวัดลองเซิน เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระใหญ่” เป็นวัดพุทธมหายานเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม นอกจากความสวยงามอลังการของตัววัดแล้ว จากยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของเมืองญาจางและทะเลได้อย่างสวยงาม
อ่านต่อวัดตั๊กลัม เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
วัดตั๊กลัม (Truc Lam Monastery of Da Lat) เป็นวัดพุทธในนิกายเซนบนยอดเขาเฟืองฮว่าง นอกจากภายในบริเวณวัดจะมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม ยังมีการจัดตกแต่งภูมิทัศน์โดยรอบด้วยสวนดอกไม้สดสวย ถือเป็นวัดที่งดงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในดาลัด
อ่านต่อน้ำตกดาตันลา เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) ไม่เพียงแต่เป็นน้ำตกที่สวยงาม แต่ยังซ่อนเรื่องราวตำนานพื้นเมืองของดาลัดที่น่าสนใจเอาไว้ นอกจากสัมผัสความเย็นฉ่ำของละอองน้ำที่กระเซ็นจากม่านน้ำตกแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ คือการนั่งรถรางลัดเลาะไปตามเส้นทางที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันเขียวขจี
อ่านต่อเจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก (Linh Phuoc Pagoda) วัดศาสนาพุทธนิกายเซนในดาลัด โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ตัวอาคารทำจากเศษกระเบื้องเคลือบงดงามวิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่ที่พันรอบองค์พระเจดีย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัด
อ่านต่อฮาจิ เลน ประเทศสิงคโปร์
ตรอกฮาจิ หรือ ฮาจิ เลน (Haji Lane) ถนนสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาในย่านกัมปง กลาม (Kampong Glam) ของสิงคโปร์ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นในฐานะแหล่งรวมร้านค้าบูติก ร้านอาหาร คาเฟ่ และศิลปะบนท้องถนนที่น่าสนใจ ฮาจิ เลน ไม่เพียงแค่เป็นถนนสายช้อปปิ้ง แต่ยังเป็นเหมือนแกลเลอรี่กลางแจ้งที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของสิงคโปร์อีกด้วย
อ่านต่อ