- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- พระราชวังมิวนิคเรสซิเดนซ์ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
พระราชวังมิวนิคเรสซิเดนซ์ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
- อ่าน (5,676)
- By Webmaster
- 18:36:06 | 24 เม.ย. 2563
พระราชวังมิวนิคเรสซิเดนซ์ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
Munich Residence, Munich, Germany
อนุเสาวรีย์กษัตริย์แม็กซิมิเลียนที่ 1 ตั้งอยู่ด้านหน้าของพระราชวังมิวนิคเรสซิเดนซ์
พระราชวังมิวนิคเรสซิเดนซ์ (Munich Residence / Residenz München) ตั้งใจอยู่ใจกลางเมืองมิวนิค แต่เดิมนั้นเป็นเขตพระราชฐานของราชอาณาจักรบาวาเรียและรัฐสภาบาวาเรียในช่วงปีค.ศ. 1508 ถึง ค.ศ.1918 ปัจจุบันเป็นพระราชวังเก่าและพิพิธภัณฑ์หลวงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ศิลปะการตกแต่งภายในอันวิจิตรบรรจง และของสะสมโบราณของราชวงศ์ที่เคยครองอาณาจักรบาวาเรีย โดยพระราชวังประกอบด้วยสนามหญ้า 10 สนาม และห้องจัดแสดงอีกจำนวน 130 ห้อง ในทุกรายละเอียดภายในได้สะท้อนให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ และศิลปะวัฒนธรรมอันงดงามและล้ำค่าของอาณาจักรบาวาเรียที่ครั้งหนึ่งเคยรุ่งโรจน์มาก่อนในประวัติศาสตร์ของเยอรมนี ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดชมเมื่อมาเยือนเมืองมิวนิค
แผนที่ตั้งพระราชวังมิวนิคเรสซิเดนซ์ (Munich Residence) เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
ประวัติ
เป็นเวลายาวนานกว่าหลายศตวรรษที่พระราชวังมิวนิคเรสซิเดนซ์ได้ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการปกครองของอาณาจักรบาวาเรีย และเป็นเขตพระราชฐานที่ประทับของผู้ครองอาณาจักรและเชื้อพระวงศ์มาตั้งแต่สมัยดยุคในช่วงศตวรรษที่ 14 ถึงศตวรรษที่ 16 ไปจนถึงสมัยกษัตริย์ในช่วงศตวรรษที่ 17 ถึงศตวรรษที่ 19 ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พระราชวังมิวนิคเรสซิเดนซ์ได้รับการสร้าง ต่อเติม และตกแต่งไปตามรสนิยมของกษัตริย์ในแต่ละสมัย สถานที่แห่งนี้จึงป็นดั่งศูนย์รวมความหลากหลายทางสถาปัตยกรรมและศิลปะจากฝีมือของศิลปิน สถาปนิก และนักออกแบบชั้นนำในแต่ละยุค
การก่อสร้างเริ่มต้นขึ้นในปีค.ศ. 1385 และมีการสร้างส่วนต่อขยายของสวน สนามหญ้า และอาคารอื่นๆ ขึ้นมาจนกลายเป็นเขตพระราชฐานอันกว้างขวางภายในช่วงเวลา 4 ศตวรรษ โดยสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในจะมีทั้งรูปแบบเรเนซอง (Renaissance) บาโรก (Baroque) ร็อคโคโค (Rococo) และนีโอคลาสสิค (Neoclassic) การตกแต่งส่วนใหญ่ยังได้รับการดูแลและทำนุบำรุงให้อยู่ในแบบดั้งเดิมตั้งแต่แรกสร้างขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นเครื่องเรือน ภาพวาด ผ้าม่าน และสมบัติต่างๆ ที่ใช้ประดับตกแต่งและจัดแสดงภายใน
หลังจากราชวงศ์สิ้นสุดลงในปีค.ศ. 1918 ตัวพระราชวังก็ไม่ได้ทำหน้าที่รัฐสภาและที่ประทับอีกต่อไป แต่กลายเป็นพิพิธภัณฑ์หลวงที่เปิดให้สาธารณะเข้าชมมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1920 โดยภายในแบ่งออกเป็นสามโซนหลักๆ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์พระราชวังหลวง (Residence Museum) ห้องพระคลังเก็บสมบัติ (Treasury) และโรงละครคูวิลลีส์ (Cuvilliés Theatre)
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พระราชวังมิวนิคเรสซิเดนซ์ได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายนปีค.ศ. 1944 ตัวพระราชวังชั้นบน และห้องชั้นล่างจำนวนหลายห้องนั้นได้รับความเสียหายจากระเบิด ของทุกชิ้นที่ยังพอทำการเคลื่อนย้ายได้จึงถูกนำไปเก็บรักษาไว้ยังสถานที่ที่ปลอดภัย
เมื่อสงครามสงบลง ในขั้นแรกของการบูรณะซ่อมแซมจึงได้มีการสร้างอาคารสำนักพระราชวังขึ้นมาก่อนในปี ค.ศ. 1945 เพื่อใช้เตรียมการการก่อสร้างส่วนต่างๆ ของเขตพระราชฐานทั้งหมดขึ้นมาใหม่ในรูปแบบที่ยังคงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และศิลปะ โดยบูรณะซ่อมแซมและสร้างขึ้นให้ใกล้เคียงกับแบบดั้งเดิมให้ได้มากที่สุดทั้งในส่วนของพระราชวัง และสวน ซึ่งนับเป็นงานที่ใช้ความละเอียดอย่างยิ่งยวดจึงใช้เวลายาวนานหลายทศวรรษกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ และก็ยังมีการทำนุบำรุงและซ่อมแซมบริเวณต่างๆ อยู่เรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้
ปัจจุบันพระราชวังมิวนิคเรสซิเดนซ์เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์หลวงที่มีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ตัวพระราชวังอันกว้างขวางใหญ่โตนี้เป็นอนุสรณ์สถานสะท้อนให้เห็นถึงความรุ่งเรืองของอาณาจักรบาวาเรียในอดีต จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองมิวนิค โดยมีกฎเล็กน้อยสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชมคือห้ามพกกระเป๋าใบใหญ่เกิน 35 x 30 x 12 ซม เข้าไปด้านใน ห้ามนำน้ำและอาหารเข้าไป (ยกเว้นขวดน้ำขนาด 0.5 ลิตร) และห้ามเปิดแฟลชเวลาถ่ายภาพ นอกจากนี้ยังมีเครื่อง Audio Guide ให้เสียงบรรยายภาษาเยอรมัน ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาอิตาเลียน ภาษาเสปน และภาษารัสเซีย ให้ยืมได้ที่บริเวณทางเข้า
บริเวณด้านหน้าทางเข้า
ทางเข้าพระราชวังมิวนิคเรสซิเดนซ์
บริเวณสนามหญ้าระหว่างอาคารพระราชวัง ตกแต่งด้วยประติมากรรมสำริดเก่าแก่
บริเวณสนามหญ้าระหว่างอาคารพระราชวัง
บริเวณห้องโถง Antiquarium ซึ่งเป็นเป็นห้องที่เก่าแก่ที่สุดในพระราชวังมิวนิคเรสซิเดนซ์
ห้องโถง Antiquarium สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมเรเนซอง ในช่วงปีค.ศ. 1568 ถึง ค.ศ. 1571
ห้องโถง Antiquarium มีความยาวประมาณ 66 เมตร
ด้านบนเพดานห้องโถง Antiquarium ประดับด้วยภาพเขียนเก่าแก่
ห้องโถงตกแต่งด้วยรูปสลักโบราณเป็นที่มาของชื่อ Antiquarium
บรรยากาศภายในเขตพระราชฐานของพระราชวังมิวนิคเรสซิเดนซ์
บริเวณห้อง Treves Rooms ที่ประทับในช่วงศตวรรษที่ 17
บริเวณห้อง Treves Rooms
บริเวณห้องโถง Imperial Hall
ห้องโถง Imperial Hall
ห้อง Stone Rooms แต่เดิมใช้เป็นที่ประทับของพระราชอาคันตุกะที่มาเยือนเมืองมิวนิค
ที่มาของชื่อ Stone Rooms มาจากการที่ห้องได้รับการตกแต่งด้วยหินอ่อนหลายประเภท ในส่วนของเครื่องเรือนที่ใช้ภายใน Stone Rooms เป็นสไตล์บาโรก
ภาพเขียนที่จัดแสดงภายใน Stone Rooms (รูปซ้าย) ภาพเขียนที่มีชื่อว่า Tapestry เป็นภาพของดยุค Otto แห่งราชวงศ์วิทเทิลแบช (รูปขวา)
บริเวณ Rich Chapel แต่เดิมเป็นห้องสำหรับสวดภาวนาส่วนพระองค์ของดยุคแม็กซิมิเลียนที่ 1
ภายใน Green Gallery
ภายในห้อง Ornate Rooms
ภายใน Konigsbau (Royal Palace)
Konigsbau (Royal Palace) เคยเป็นตำหนักที่ประทับของกษัตริย์และพระราชินี
ภายใน Konigsbau (Royal Palace) ซึ่งได้รับการตกแต่งในแบบนีโอคลาสสิค
เครื่องเรือนทุกชิ้นภายใน Konigsbau (Royal Palace) ทำจากช่างฝีมือชาวมิวนิคในช่วงปีค.ศ.1834 - ค.ศ. 1835
ภายใน Konigsbau (Royal Palace)
ห้อง Ancestral Gallery จัดแสดงภาพพระบรมวงศานุวงศ์ในราชวงศ์วิทเทิลแบช (Wittelsbach Family)
บริเวณห้อง Ancestral Gallery
ห้องจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้บนโต๊ะเสวยในช่วงศตวรรษที่ 18 และ 19
ห้องจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้บนโต๊ะเสวยในช่วงศตวรรษที่ 18 และ 19
ศิลปะการตกแต่งเก่าแก่ภายในพระราชวัง
ห้องบรรทม ภายในบริเวณ Electoral Rooms
ภายในบริเวณห้อง Electoral Rooms
ภายในบริเวณห้อง Electoral Rooms
ส่วนจัดแสดงเครื่องลายครามโบราณ
ส่วนจัดแสดงเครื่องลายครามโบราณ
ห้อง Charlotte Rooms เคยเป็นห้องเก่าของเจ้าหญิง Charlotte Auguste พระธิดาในกษัตริย์แม็กซิมิเลียนที่ 1 แห่งบาวาเรีย
ห้อง Charlotte Rooms
ส่วนจัดแสดงตราสัญลักษณ์
บริเวณ Court Chapel ซึ่งเคยใช้เป็นสถานที่สำหรับสวดภาวนา
การเดินทางจากสนามบินมิวนิค (Munich International Airport / Flughafen München) ไปยังสถานีรถไฟกลางมิวนิค (Munich Hauptbahnhof (Main Station))
- รถยนต์ (Car) จาก Munich International Airport ไปยัง Munich Hauptbahnhof (Main Station) มีระยะทางประมาณ 40.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 36 นาที
- รถประจำทาง (Bus) จาก Munich International Airport ไปยัง Munich Hauptbahnhof (Main Station) สามารถใช้บริการรถบัส LH-Bus เป็นรถบัสด่วนของ Autobus Oberbayern ออกทุก 15 นาที
- รถไฟ (Train) จาก Munich International Airport ให้ขึ้นรถไฟสาย S ไปลงที่สถานี Munich Hauptbahnhof (Main Station) ใช้เวลาโดยรวมประมาณ 47 นาที
การเดินทางจากสถานีสถานีรถไฟกลางมิวนิค (Munich Hauptbahnhof (Main Station)) ไปยังพระราชวังมิวนิคเรสซิเดนซ์ (Munich Residence)
- รถยนต์ (Car) จาก Munich Hauptbahnhof (Main Station) ไปยัง Munich Residence มีระยะทางประมาณ 3.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 นาที
- รถไฟ (Train) จาก Munich Hauptbahnhof (Main Station) ให้ขึ้นรถไฟสาย U ไปลงสถานี Odeonsplatz และเดินต่อไปยัง Munich Residence ประมาณ 70 เมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 3 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด
เปิดทุกวัน
ปิดวันที่ 1 มกราคม วัน Shrove Tuesday และวันที่ 24-25, 31 ธันวาคม
รายละเอียดเวลาเปิด-ปิดในส่วนต่างๆ
ส่วนพระราชวังและห้องพระคลังเก็บสมบัติ (Residence Museum and Treasury)
- เดือนเมษายน - 18 ตุลาคม เวลา 9:00 น. - 18:00 น.
- 19 ตุลาคม - เดือนมีนาคม เวลา 10:00 น. - 17:00 น.
ส่วนโรงละครคูวลลีส์ (Cuvilliés Theatre)
เดือนเมษายน ถึง 26 กรกฎาคม
- วันจันทร์ ถึง วันเสาร์ เวลา 14:00 น. - 17:00 น.
- วันอาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 9:00 น. - 18:00 น.
27 กรกฎาคม ถึง 7 กันยายน
- เปิดทุกวัน เวลา 9:00 น. - 18:00 น.
8 กันยายน ถึง 18 ตุลาคม
- วันจันทร์ ถึง วันเสาร์ เวลา 14:00 น. - 18:00 น.
- วันอาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 9:00 น. - 18:00 น.
19 ตุลาคม ถึง เดือนมีนาคม
- วันจันทร์ ถึง วันเสาร์ เวลา 14:00 น. - 17:00 น.
- วันอาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10:00 น. - 17:00 น.
ในส่วนของ Court Church of All Saints สร้างขึ้นในช่วงศควรรษที่ 18 ด้วยสถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิค
อัตราค่าเข้าชม
- ตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์พระราชวัง (Residence Museum) ราคา 9 Euro
- ตั๋วเข้าชมห้องพระคลังเก็บสมบัติ (Treasury) ราคา 9 Euro
- ตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์พระราชวังและตั๋วเข้าชมห้องพระคลังเก็บสมบัติ (Residence Museum+Treasury) ราคา 14 Euro
- ตั๋วเข้าชมโรงละครคูวิลลีส์ (Cuvilliés Theatre) ราคา 5 Euro
- ตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์พระราชวัง ห้องพระคลังเก็บสมบัติ และโรงละครคูวิลลีส์ (Residence Museum+Treasury+Cuvilliés Theatre) ราคา 17 Euro
- เด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปีเข้าชมฟรี
- สนามและสวนบริเวณน้ำพุ เข้าชมฟรี
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว พระราชวังมิวนิคเรสซิเดนซ์ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
พระราชวังมิวนิคเรสซิเดนซ์ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
(Munich Residence, Munich, Germany)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : - ตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์พระราชวัง ราคา 9 Euro
- ตั๋วเข้าชมห้องพระคลังเก็บสมบัติ ราคา 9 Euro
- ตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์พระราชวังและตั๋วเข้าชมห้องพระคลังเก็บสมบัติ ราคา 14 Euro
- ตั๋วเข้าชมโรงละครคูวิลลีส์ ราคา 5 Euro
- ตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์พระราชวัง ห้องพระคลังเก็บสมบัติ และโรงละครคูวิลลีส์ ราคา 17 Euro
- เด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปีเข้าชมฟรี
- สนามและสวนบริเวณน้ำพุ เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ยกเว้นวันที่ 1 มกราคม วัน Shrove Tuesday และวันที่ 24-25, 31 ธันวาคม
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
โทรศัพท์ : (+49) 89 29067-1
เว็บไซต์ : https://www.residenz-muenchen.de/englisch/residenc/
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/th/de/germany-weather
เว็บไซต์ทางการของเมืองมิวนิค https://www.muenchen.de
เว็บไซต์ท่องเที่ยวของเมืองมิวนิค https://www.munich.travel/en
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อรวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อ