- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- เมืองโบราณเอฟิซัส จังหวัดอิซเมียร์ ประเทศตุรกี
เมืองโบราณเอฟิซัส จังหวัดอิซเมียร์ ประเทศตุรกี
- อ่าน (8,899)
- By Webmaster
- 17:59:00 | 14 ต.ค. 2562
เมืองโบราณเอฟิซัส จังหวัดอิซเมียร์ ประเทศตุรกี
Ephesus, Izmir, Turkey
เอฟิซัส (Ephesus) เป็นเมืองในสมัยกรีกโบราณซึ่งเคยรุ่งเรืองและใหญ่เป็นอับดับสองของจักรวรรดิโรมันรองจากเมืองหลวงคือโรม โดยในปี ค.ศ. 2015 องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ขึ้นทะเบียนให้เอฟิซัสเป็นมรดกโลก เมืองโบราณแห่งนี้นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ และได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศตุรกี
ประวัติ
เอฟิซัสตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของเมืองเซลจุค (Selçuk) ในจังหวัดอิชเมียร์ ประเทศตุรกี ในอดีตเอฟิซัสเคยเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญที่สุดของยุคโบราณ สถานที่ที่หลงเหลือเพียงซากปรักหักพังแห่งนี้เคยเป็นทั้งเมืองท่าที่สำคัญ เป็นประตูสำหรับการติดต่อค้าขายกับพ่อค้าทั้งจากเอเชีย โรมัน และเป็นศูนย์รวมของนักการเมืองนักปรัชญาในสมัยโบราณ เมืองนี้ยังเป็นบ้านของเฮอร์แรคลิตัส (Heraclitus) นักปรัชญาคนสำคัญยุคก่อนโสกราตีสอีกด้วย
สิ่งก่อสร้างที่หลงเหลือให้เห็นที่ Ephesus ในปัจจุบันส่วนใหญ่มีอายุเก่าแก่ตั้งแต่ประมาณช่วงศตวรรษที่ 11 คือในสมัยจักรพรรดิออกัสตัส (Augustus) เป็นต้นมา ซึ่งสถาปัตยกรรมต่างๆ ล้วนแต่เป็นศิลปะแบบเฮเลนนิสติก (Hellenistic) ซึ่งเป็นศิลปะที่มุ่งเน้นถ่ายทอดความเป็นธรรมชาติของมนุษย์ ศิลปะที่ที่สื่อออกมาจึงแสดงให้เห็นถึงความอ่อนหวานและฝีมือที่ประณีต ไม่ว่าจะเป็นรูปปั้นของเทพเจ้า เทพี และลวดลาย และโครงสร้างของสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่ยังหลงเหลือให้ได้ชม
ภายในบริเวณอันกว้างใหญ่ของเอฟิซัสมีสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่สำคัญหลายอย่าง อาทิ โรงอาบน้ำ (Roman Bath) โรงละครโบราณ (Theatre) ที่จุผู้ชมได้ถึง 25,000 คน หอสมุดเซลซุส (The Library of Celsus) ซึ่งนับเป็นสุดยอดสถาปัตยกรรมในสมัยนั้นและยังเป็นห้องสมุดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากอันดับ 1 คือห้องสมุดที่อเล็กซานเดรียน ประเทศอียิปต์ และอันดับ 2 ที่เมืองเพอร์กามัม (Ruins of Pergamum) ซึ่งอยู่ที่จังหวัดอิซเมียร์ประเทศตุรกีเช่นเดียวกันแต่ปัจจุบันไม่มีอะไรเหลืออยู่แล้ว
เป็นที่น่าเสียดายที่ในปี ค.ศ.262 หอสมุด Celsus ที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ได้ถูกชาวกอท (Goth) ซึ่งเป็นชนเผ่าเจอร์มานิคตะวันออกเผาทำลาย เอกสารต่างๆ และตัวอาคารได้จึงรับความเสียหาย ปัจจุบันเหลือให้เห็นเฉพาะส่วนที่เป็นด้านหน้าของตัวอาคาร นอกจากนี้ยังมีจุดบูชาเทพเจ้าและสิ่งอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมาก
นอกจากนี้ Ephesus ยังเป็นที่ตั้งของวิหารอาร์เทมิส (Temple of Artemis) ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก และเป็นหนึ่งในชุมชนคริสเตียนยุคแรกที่ใหญ่ที่สุดอีกด้วย แม้ว่าปัจจุบันวิหารอาร์เทมีสที่เคยยิ่งใหญ่และงดงามในอดีตจะเหลือซากเสาอยู่เพียง 2 ต้นจากทั้งหมด 127 ต้น ซึ่งปรากฏให้เห็นอยู่บริเวณถนนทางเข้าฝั่ง North Gate แต่ซากเสาทั้งสองต้นและซากปรักหักพังต่างๆ เหล่านี้ก็พอจะแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และความรุ่งเรืองในอดีตของเมืองท่าแห่งอาณาจักรโรมันที่เคยมีผู้คนอาศัยอยู่กว่า 250,000 คนแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี
The Marble Street ถนนทั้งสายปูด้วยหินอ่อน
นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางมาเที่ยวชม Ephesus อย่างคึกคัก
ร่องรอยสิ่งก่อสร้างต่างๆ จากอดีตที่ยังหลงเหลือมาถึงปัจจุบัน
กำแพง Guney Duvar
ซากเสาโรมัน
การเดินทางจาก Istanbul ไปยัง Izmir
- เครื่องบิน (Airplane) จากอิสตันบูลไปอิซเมียร์มีระยะทาง 480 กิโลเมตร การเดินทางโดยรถยนต์จะใช้เวลาประมาณ 6 – 8 ชั่วโมง หากนักท่องเที่ยวไม่ได้มีความประสงค์ที่จะเช่ารถขับเพื่อแวะเที่ยวชมที่ต่างๆ ระหว่างทาง การเดินทางโดยเครื่องบินซึ่งใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงจึงเป็นทางเลือกที่สะดวกและประหยัดเวลาไปได้มาก จากอิสตันบูลมีเที่ยวบินตรงออกจากสนามบิน Istanbul International Airport และจากสนามบิน Sabiha Gokcen International Airport ไปยังสนามบิน Izmir Adnan Menderes Airport ของอิซเมียร์ให้บริการมากถึง 39 - 46 เที่ยวต่อวัน นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเที่ยวบิน ราคา และดูข้อมูลเพิ่มเติมและได้ที่ https://www.google.com/flights?hl=th&authuser=0#flt=/m/09949m./m/02s2xy.2019-10-09*/m/02s2xy./m/09949m.2019-10-13;c:THB;e:1;sd:1;t:f
- รถโดยสารประจำทาง (Bus) หากนักท่องเที่ยวไม่ได้มีเงื่อนไขเรื่องเวลาและต้องการประหยัดค่าเดินทาง โดยราคาตั๋วรถโดยสารสำหรับเส้นทางอิสตันบูล – อิซเมียร์นั้นจะเริ่มต้นที่ประมาณ 70 – 115 ลีราตุรกี หรือราวๆ 370 - 610 บาท ทั้งนี้นักท่องเที่ยวควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เปรียบเทียบอัตราค่าโดยสารก่อนซื้อตั๋วเพราะราคาอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับรอบเวลาเดินทาง โดยบริษัทที่ให้บริการเดินรถนั้นมีอยู่หลายบริษัทด้วยกัน ได้แก่ Nilüfer Turizm, Efe Tur, Alaşehir Sarıkız Turizm, Metro Turizm, Pamukkale Turizm แต่รถของบริษัท Pamukkale Turizm จะใช้เวลาในการเดินทางไปถึงอิซเมียร์น้อยที่สุดคือประมาณ 7.5 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.busbud.com/en/bus-schedules-results/sxk96f/swg693?outbound_date=2019-09-30&adults=1
- รถเช่า (Rental Car) สำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนเดินทางท่องเที่ยวในตุรกีโดยการเช่ารถขับเองอยู่แล้ว ก็มีบริษัทเช่ารถยนต์ให้บริการอยู่หลายบริษัท อาทิ Avis, Budget, Enterprise, Europcar, Hertz และ Sixt สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.rentalcars.com/en/city/tr/istanbul/
การเดินทางจากสนามบิน Izmir Adnan Menderes Airport ไป Ephesus
- ชัตเทิลบัส (Shuttle Bus) จากสนามบิน Izmir Adnan Menderes Airport มีชัตเทิลบัสให้บริการไปยัง Ephesus ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเซลจุค (Selcuk) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 35 ลีราตุรกี นักท่องเที่ยวสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://selcukephesus.com
- รถยนต์ (Car) การเดินทางจากสนามบิน Izmir Adnan Menderes Airport ไป Ephesus โดยใช้ถนนเส้น izmir - Aydın Otoyolu/O-31/E87 มีระยะทาง 62 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 45 นาที
ทั้งนี้ การเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในอิซเมียร์นั้น นักท่องเที่ยวนิยมซื้อทัวร์หรือเช่ารถยนต์ขับ เนื่องจากเป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุด
เวลาทำการเปิด – ปิด
เปิดให้เที่ยวชมทุกวัน ระหว่างเวลา 08.00 – 18.30 น.
ส่วนของห้องต่างๆ ในอดีต
อัตราค่าเข้าชม
ค่าเข้าชม 72 ลีราตุรกี
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว Ephesus
ไฮไลต์สำคัญของซากปรักหักพังและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว Ephesus อาทิ
- The Library of Celsus
หอสมุดเซลซุส (The Library of Celsus) เป็นสุดยอดสถาปัตยกรรมในสมัยโบราณและยังเป็นห้องสมุดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลกอีกด้วย
บริเวณด้านหน้าของหอสมุดเซลซุสเป็นรูปปั้นเทพี 4 องค์ เรียงลำดับจากซ้ายไปขวาได้แก่ เทพีโซเฟีย (Sophia), เทพีอเรเต้ (Arete), เทพียูโนเอีย (Ennoia) และเทพีเอพิสเทเม่ (Epistem)
รูปปั้นเทพีโซเฟีย (Sophia) เทพีแห่งปัญญา (รูปซ้าย) รูปปั้นเทพีอเรเต้ (Arete) เทพีแห่งคุณธรรม (รูปขวา)
รูปปั้นเทพียูโอเนีย (Ennoia) เทพีแห่งความคิด (รูปซ้าย) รูปปั้นเทพเอพิสเทเม่ (Epistem) เทพีแห่งความรู้ (รูปขวา)
ทั้งนี้ รูปปั้นเทพเจ้า เทพีต่างๆ รวมถึงซากสิ่งก่อสร้างบางส่วนจากเอฟิซัสได้ถูกนำไปเก็บรักษาและจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ต่างๆ ทั่วโลก เช่น พิพิธภัณฑ์ Ephesos Museum ที่เวียนนา ประเทศออสเตรีย อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=636
- Hadrian’s Temple
Hadrian’s Temple สร้างขึ้นประมาณสมัย ค.ศ.138 บนวิหารจะมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับการสร้างเมือง
ซากสิ่งก่อสร้างบริเวณ Hadrian’s Temple
- Fountain of Trajan
Fountain of Trajan บริเวณนี้เป็นน้ำพุที่สร้างขึ้นแด่จักรพรรดิ Trajan
- Domitian Square / Temple of Domitian
ในอดีตจัตุรัสโดมิเทียน (Domitian Square) เคยเป็นวิหารซึ่งสร้างถวายแด่จักรพรรดิโรมันโดมิเทียนแห่งโรมัน ปัจจุบันเหลือเสาหินโบราณตั้งตระหง่านอยู่เพียง 2 ต้น
จัตุรัสโดมิเทียน
- Varius Bath of Ephesus
Varius Bath of Ephesus สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 2 โดยสร้างจากหินอ่อนและประกอบด้วยโครงสร้างสามส่วน ห้องทั้งสามส่วนนี้ประกอบด้วย ห้องหนึ่งเป็นน้ำเย็น ห้องหนึ่งเป็นน้ำอุ่น และห้องหนึ่งเป็นน้ำร้อน นอกจากนี้ยังมีห้องนั่งพักผ่อนและอ่านหนังสือที่สร้างเพิ่มเติมขึ้นมาในภายหลัง
- Great Theatre
โรงละครใหญ่ (Great Theatre) สร้างขึ้นในยุคจักรพรรดิคลาวเดียส (41-54 AD) แล้วเสร็จในยุคจักรพรรดิทราจัน (98-117 AD) ในอดีตโรงละครแห่งนี้มีสองชั้น และสามารถจุผู้ชมได้ถึง 25,000 คน
โรงละครถูกออกแบบมาให้คนที่ยืนอยู่ตรงกลางพูดแล้วคนทั้งโรงได้ยินไม่ว่าจะนั่งอยู่ตรงไหนของอัฒจันทร์
- State Agora
บริเวณฝั่งซ้ายมือในภาพคือ State Agora เป็นจัตุรัสหรือลานกว้าง ซึ่งเป็นพื้นที่ชาวเมืองในยุคโบราณใช้เป็นสถานที่สำหรับมาพูดคุย พบปะสังสรรค์กัน
- Memmius Memorial / Monument
อนุสาวรีย์เมมมุส (Memmius Memorial / Monument) สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงนายพลเมมมุส ซึ่งเป็นทหารของกองทัพโรมันที่ไม่เคยพ่ายแพ้สงคราม
- Odeon
โรงละครเล็กหรือ Odeon ใช้สำหรับเป็นที่ประชุมสภา โดยจะมีขนาดเล็กกว่าโรงละครใหญ่หรือ Theatre
โรงละครเล็ก (Odeon) จุคนได้จำนวน 1,400 คน
ทั้งนี้ “โรงละคร” ในตุรกีมี 3 แบบด้วยกัน ได้แก่ 1. แบบกรีก (มีลักษณะเป็นโรงละครที่มีภูเขาอยู่ด้านหลัง คือสร้างตรงทางลาดเขา) 2. แบบโรมัน (สร้างบนที่ราบหรือทางลาดเขาก็ได้ แต่ลักษณะของโรงละครแบบโรมันคือจะมีกำแพงสร้างขึ้นมาค้ำที่นั่งเอาไว้ เช่น โคลอสเซียม (Colosseum) ที่โรม ประเทศอิตาลี 3. แบบกรีกโรมัน (ลักษณะผสมผสานกันระหว่างกรีกและโรมัน) ซึ่งโรงละครที่เอฟิซัสจะเป็นแบบกรีกโรมัน
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยวชม Ephesus ได้ตลอดทั้งปี ทั้งนี้ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมเมือง Ephesus คือฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม - กลางเดือนมิถุนายน) ซึ่งเป็นช่วงที่สภาพอากาศของประเทศตุรกีกำลังดีไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไปและเป็นช่วงที่กลางวันยาว นักท่องเที่ยวจึงสามารถใช้เวลาท่องเที่ยวได้ยาวนานขึ้น
บรรยากาศของนักท่องเที่ยวรอบๆ Ephesus
ทางเดินกว้างขวางที่หลงเหลือเพียงซักปรักหักพังของทิวเสาจากอดีต
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
การเดินเที่ยวชมรอบๆ Ephesus ใช้เวลาประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง ซึ่งที่ Ephesus นั้นจะมีประตูเข้าออก 2 ทาง ระยะทางจากประตูแรกไปประตูที่สองประมาณ 1.3 กิโลเมตร สำหรับสุขามีที่เดียวอยู่บริเวณประตูทางเข้าที่ซื้อตั๋ว และภายใน Ephesus ไม่มีร้านค้า มีเพียงร้านอาหารและร้านขายของฝากเล็กน้อย ดังนั้นหากต้องการใช้เวลาอยู่ที่นี่นานนักท่องเที่ยวควรเตรียมน้ำหรืออาหารมาด้วยเพื่อความสะดวก
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม Ephesus สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
เมืองโบราณเอฟิซัส จังหวัดอิซเมียร์ ประเทศตุรกี
(Ephesus, Izmir, Turkey)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : 72 ลีราตุรกี
เวลาเปิด – ปิด : เปิดให้เที่ยวชมทุกวัน ระหว่างเวลา 08.00 – 18.30 น.
ตั้งอยู่ที่ : Atatürk, Uğur Mumcu Sevgi Yolu, Selçuk, İzmir, Turkey
โทรศัพท์ : (+90) 232 892 60 10
เว็บไซต์ : https://www.ephesus.us/
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวเมืองอิซเมียร์ http://www.visitizmir.org/en
เว็บไซต์การท่องเที่ยวประเทศตุรกี https://www.visitturkey.in/
เว็บไซต์รถชัตเทิลบัสที่อิซเมียร์ http://selcukephesus.com
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อรวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อ