สะพานบริดจ์ออฟไซส์ เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี

  • อ่าน (2,947)
  • By Webmaster
  • 09:23:32 | 29 เม.ย. 2563

สะพานบริดจ์ออฟไซส์ เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี

Bridge of Sighs, Venice, Italy


สะพานบริดจ์ออฟไซส์เชื่อมจากชั้นบนของอาคารพระราชวังปาลัซโซ่ดูคาเลไปยังอาคารเรือนจำที่อยู่อีกฟากของคลองริโอเดลปาลัซโซ่

           สะพานบริดจ์ออฟไซส์ (Bridge of Sighs / Ponte dei Sospiri) เป็นสะพานประวัติศาสตร์ของเมืองเวนิส สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 16 เป็นสะพานหินโค้งเก่าแก่ที่มีลักษณะปิดทึบรอบด้าน ทอดข้ามคลองข้ามคลองริโอเดลปาลัซโซ่ (Rio del Palazzo)เชื่อมระหว่างพระราชวังปาลัซโซ่ดูคาเล่ (Palazzo Ducale) กับคุกที่อยู่อีกฟากของฝั่งคลอง ชื่อของสะพานมีความหมายว่า สะพานแห่งเสียงถอนหายใจ เพราะเมื่อนักโทษถูกพิจารณาคดีและนำตัวไปยังที่คุมขังจะต้องผ่านสะพานนี้เพื่อข้ามไปยังคุก ซึ่งนักโทษจะมองเห็นอิสรภาพของโลกภายนอกครั้งสุดท้ายได้จากช่องหน้าต่างเล็กๆ บนสะพานแห่งนี้ ซึ่งนำมาสู่ความเศร้าและเสียงถอนใจ จึงกลายเป็นชื่อเรียกของสะพานนับแต่นั้นมา ในปัจจุบัน สะพานบริดจ์ออฟไซส์และคุกกลายส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ในความดูแลของพระราชวัง และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ให้กับคนรุ่นหลังได้เที่ยวชมและศึกษา ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองเวนิสอีกแห่งหนึ่ง 


แผนที่ตั้ง สะพานบริดจ์ออฟไซส์ (Bridge of Sighs) เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี

ประวัติ

           สะพานบริดจ์ออฟไซส์ ออกแบบโดยสถาปนิกอันโตนิโอ คอนติโน (Antonio Contino) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1641 เป็นสะพานหินข้ามคลองริโอเดลปาลัซโซ่ (Rio del Palazzo) มีลักษณะเป็นซุ้มโค้งที่ปิดทึบรอบด้านเหลือเพียงช่องหน้าต่างเล็กๆ เท่านั้น สะพานนี้มีความยาว 11 เมตร สูงประมาณ 9 เมตร เชื่อมต่อจากอาคารพระราชวังปาลัซโซ่ดูคาเล (Palazzo Ducale) ไปยังเรือนจำแห่งใหม่ (New Prision) ชื่อของสะพานหมายถึง สะพานแห่งเสียงถอนหายใจ สะท้อนถึงเสียงทอดถอนใจของบรรดานักโทษที่ผ่านการพิพากษา และส่งตัวข้ามไปคุมขังยังคุกอีกฝั่งผ่านทางสะพานบริดจ์ออฟไซส์แห่งนี้ ซึ่งเป็นที่ที่พวกเขาจะได้มองเห็นทัศนียภาพของอ่าวซานมาร์โค (San Marco Basin) และเกาะซันจิออร์จิโอแม็กจิออเร (San Giorgio Maggiore) ที่อยู่เบื้องหน้าผ่านทางช่องหน้าต่างเล็กๆ บนสะพาน ซึ่งภาพที่เห็นนี้เปรียบได้ดั่งแสงสุดท้ายแห่งอิสรภาพจนก่อให้เกิดความโศกเศร้าและเสียงถอนใจ

           ปัจจุบันที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ที่ผู้ที่มาเที่ยวชมจตุรัสซานมาร์โค และพระราชวังปาลัซโซ่ดูคาเล่ มักจะแวะมาเที่ยวชมเพราะอยู่ในบริเวณเดียวกัน ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองเวนิสอีกแห่งหนึ่ง


สะพานบริดจ์ออฟไซส์ทอดตัวอยู่เหนือคลองริโอเดลปาลัซโซ่ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือกอนโดล่าเที่ยวชมบรรยากาศโดยรอบได้อย่างใกล้ชิด


ด้านข้างอาคารพระราชวังปาลัซโซ่ดูคาเล


คลองข้างพระราชวังนี้มีสะพานข้ามคลองอยู่หลายสะพาน


คลองเล็กๆ ที่ลัดเลาะไปออกได้หลายเส้นทาง


ตัวสะพานซุ้มโค้งสีขาวปิดทึบเหลือเพียงแค่ช่องหน้าต่างเล็กๆ สามารถมองออกไปยังอ่าวซานมาร์โคที่อยู่เบื้องหน้า

การเดินทางจากสนามบินเวนิสมาร์โคโปโล (Venice Marco Polo Airport / Aeroporto di Venezia-Marco Polo) ไปยังสถานีรถไฟเวเนเซียซานตาลูเซีย (Stazione di Venezia Santa Lucia)

             - รถยนต์ (Car) จาก Venice Marco Polo Airport ไปยัง Stazione di Venezia Santa Lucia มีระยะทางประมาณ 13.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 35 นาที

             - รถประจำทาง (Bus) จาก Venice Marco Polo Airport ให้เดินมายังท่ารถ Aeroporto Marco Polo เพื่อขึ้นรถบัสสาย Venezia P. Roma (ออกทุก 20 นาที) มุ่งหน้าไปยังเมือง Venice โดยเมื่อไปถึงเมืองเวนิส รถบัสจะจอดให้ลงบริเวณท่ารถ Venezia Piazzale Roma ATVO ที่จัตุรัสโรมา (Piazzale Roma) จากนั้นเดินต่อไปประมาณ 450 เมตร ก็จะถึงยัง Stazione di Venezia Santa Lucia มีระยะทางโดยรวมประมาณ 13.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 35 นาที

หมายเหตุ : Stazione di Venezia Santa Lucia เป็นสถานีรถไฟหลักของเมืองเวนิสที่มีเส้นทางเดินรถเชื่อมต่อกับเมืองต่างๆ ในประเทศอิตาลี รวมถึงเมืองต่างๆ ในประเทศแถบยุโรป แต่ขนส่งสาธารณะหลักภายในเมืองเวนิส จะใช้การเดินทางทางน้ำโดย “เรือประจำทาง” ที่เรียกว่า “Water-bus” ซึ่งมีท่าเรือครอบคลุมทั่วเมือง โดยท่าเรือบริเวณด้านหน้า Stazione di Venezia Santa Lucia มีจำนวน 4 ท่าแยกตามเส้นทางเดินเรือ ได้แก่ Ferrovia “A”, Ferrovia “B”, Ferrovia “C” และ Ferrovia “D”

การเดินทางจากสถานีรถไฟเวเนเซียซานตาลูเซีย (Stazione di Venezia Santa Lucia) ไปยังสะพานบริดจ์ออฟไซส์ (Bridge of Sighs)

 

             - เรือ (Ferry) จาก Stazione di Venezia Santa Lucia เดินไปยังท่าเรือ Ferrovia D เพื่อขึ้น Water-bus สาย 1 จากนั้นลงที่ท่าเรือ San Marco-Zaccaria และเดินต่อไปอีกประมาณ 200 เมตร ก็จะถึงยัง Bridge of Sighs ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 43 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด

           บริเวณด้านนอกเปิดตลอดเวลา



อัตราค่าเข้าชม

           บริเวณด้านนอกไม่เสียค่าเข้าชม



เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

           ตลอดทั้งปี


             นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว Bridge of Sighs สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                          สะพานบริดจ์ออฟไซส์ เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี

                          (Bridge of Sighs, Venice, Italy)

                          ระดับความนิยม : 

                          อัตราค่าเข้าชม : บริเวณด้านนอกไม่เสียค่าเข้าชม

                          เวลาเปิด-ปิด : บริเวณด้านนอกเปิดตลอดเวลา

                          ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                          สถานที่ตั้ง : เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี

                          โทรศัพท์ : (+39) 041 2715911

                          เว็บไซต์ : https://palazzoducale.visitmuve.it/en/the-museum/layout-and-collections/prisons/    

                          ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/th/it/italy-weather

                                          เว็บไซต์ทางการของเมืองเวนิส https://www.veneziaunica.it/en

                                          เว็บไซต์ทางการของประเทศอิตาลี http://www.italia.it/en/home.html   

                                          เว็บไซต์การท่องเที่ยวของประเทศอิตาลี https://www.italyguides.it/en

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

15 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

กรุงลอนดอน (London) เป็นเมืองหลวงของประเทศอังกฤษ และสหราชอาณาจักร และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหภาพยุโรป นอกจากมหานครแห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ลอนดอนยังเต็มไปด้วยสีสันแห่งแฟชั่น และศิลปะ ทำให้ที่นี่เป็นเมืองที่มีอิทธิพลไปทั่วโลก และเป็นที่เข้าใจกันว่าปัจจุบันลอนดอนกลายเป็นเมืองสากลหลักของโลก วันนี้ Palanla จะพาไปชม 15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในลอนดอน ประเทศอังกฤษที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

อ่านต่อ

หอนาฬิกาบิ๊กเบน กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)

หอนาฬิกาบิ๊กเบน (Big Ben) เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในลอนดอนที่มีชื่อเสียงก้องโลก และเป็นสมบัติล้ำค่าของประเทศอังกฤษมานานกว่า 160 ปี โดยแต่เดิมนั้นคำว่าบิ๊กเบนเป็นชื่อของระฆังใบที่ใหญ่ที่สุดในหอนาฬิกา เรียกอีกอย่างว่า “มหาระฆัง” หรือ “เดอะเกรทเบลล์” มีน้ำหนักถึง 13 ตัน

อ่านต่อ

ทัวร์รถบัสฮอฟออน ฮอฟออฟ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)

ทัวร์รถบัสฮอฟออน ฮอฟออฟ (Hop-On Hop-Off) ในลอนดอน เป็นวิธีท่องเที่ยวที่จะเปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม และชมแลนด์มาร์กสำคัญต่างๆ ของกรุงลอนดอนได้อย่างเรียกว่าน่าจะครบถ้วนมากที่สุดรูปแบบหนึ่งจากบนรถบัสเปิดประทุน พร้อมหูฟังที่สามารถเลือกเสียงบรรยายได้ถึง 5 ภาษา โดยสามารถขึ้นและลงรถบัสนี้ ณ จุดจอดใดก็ได้ที่กำหนดไว้ กี่ครั้งก็ได้ตามที่ต้องการ

อ่านต่อ

ถนนออกซ์ฟอร์ด กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)

ถนนออกซ์ฟอร์ด (Oxford Street ) หนึ่งในถนนช้อปปิ้งที่คึกคักมากที่สุดของลอนดอน มีร้านขายสินค้าแบรนด์เนมขนาดใหญ่หลายแห่ง และยังมีร้านค้าขนาดใหญ่มากมายบนถนนสายนี้มากกว่า 300 ร้านค้า

อ่านต่อ

จัตุรัสรัฐสภา กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)

จัตุรัสรัฐสภา (Parliament Square) เป็นจัตุรัสที่มีสนามหญ้าขนาดใหญ่ อาคารโดยรอบสวยงาม และมีรูปปั้นของบุคคลสำคัญของอังกฤษอยู่ทั่วจัตุรัส

อ่านต่อ

โซโห กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)

มีคำกล่าวที่ว่า “หากมาลอนดอนเเล้วไม่ได้มาช้อปปิ้งที่ Soho ถือว่ายังเที่ยวไม่ครบ” เพราะย่านนี้รวมไว้ด้วยแหล่งช้อบปิ้งชั้นนำ และยังโดดเด่นด้วยร้านบูติกที่เรียกได้ว่าน่าสนใจที่สุดในลอนดอน

อ่านต่อ

เกล็นฟินแนน เวียดัคท์ เขตอินเวอร์เนส-ไชร์ ประเทศสกอตแลนด์

เกล็นฟินแนน เวียดัคท์ (Glenfinnan Viaduct) เป็นสะพานรถไฟคอนกรีตที่ยาวที่สุดของประเทศสกอตแลนด์ เส้นทางรถไฟนี้วิ่งระหว่างเมืองกลาสโกว์กับเมืองมัลเลก บรรยากาศสองข้างมีความสวยงามเป็นอย่างมากจากทิวทัศน์ของหุบเขา โดยเฉพาะบริเวณสะพานรถไฟที่ผ่านหมู่บ้านเกล็นฟินแนนที่จะมองเห็นทั้งหุบเขาและทะเลสาบน้ำจืดล็อกชิเอลอันกว้างใหญ่ สะพานรถไฟเกล็นฟินแนน เวียดัคท์ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยโด่งดังมากที่สุดในภาพยนตร์เรื่องแฮร์รี่พอตเตอร์ที่ใช้เป็นฉากเส้นทางรถไฟไปฮอกวอตส์ ไฮไลท์การท่องเที่ยวที่นี่จะอยู่ในช่วงฤดูร้อนที่จะมีรถไฟจักรไอน้ำให้บริการตลอดเส้นทาง ซึ่งนอกจากจะได้ชมทิวทัศน์ที่สวยงามแล้วยังได้บรรยากาศคลาสสิกของรถไฟอีกด้วย

อ่านต่อ

ปราสาทสเตอร์ลิง เมืองสเตอร์ลิง ประเทศสกอตแลนด์

ปราสาทสเตอร์ลิง (Stirling Castle) เป็นหนึ่งในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในสกอตแลนด์ และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และทางสถาปัตยกรรมมากที่สุดอีกด้วย ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมยุคเรอเนซองส์กับสถาปัตยกรรมโกธิกตอนปลาย ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในอาคารที่มีสถาปัตยกรรมน่าประทับใจที่สุดในสกอตแลนด์ และควรค่าแก่การเที่ยวชมเป็นอย่างมาก โดยไฮไลท์ของการเที่ยวชมปราสาทแห่งนี้คือการเดินชมบริเวณโดยรอบอาคารต่างๆ บริเวณห้องโถงใหญ่ ชมพรมทอมือเจ็ดผืนบนผนังห้องโถงชั้นใน สำรวจห้องใต้ดินของพระราชวัง และสวนควีนแอนน์ นอกจากนี้ยังมีส่วนของนิทรรศการปราสาท แกลเลอรี และพิพิธภัณฑ์การทหารให้เที่ยวชมอีกด้วย

อ่านต่อ

7 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์

เมืองกลาสโกว์เป็นเมืองท่าริมแม่น้ำไคลด์ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของสกอตแลนด์ เมืองกลาสโกว์มีชื่อเสียงทางด้านสถาปัตยกรรมแบบวิกตอเรียนและศิลปะสไตล์อาร์ตนูโว ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากความรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 18-20 ของเมืองอันเนื่องมาจากการค้าและการต่อเรือ ปัจจุบันเมืองกลาสโกว์เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมแห่งชาติ และเป็นที่ตั้งของสถาบันสำคัญต่างๆ และสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่น่าเที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 7 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองกลาสโกว์มาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

สุสานกลาสโกว์ เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์

สุสานกลาสโกว์ (Glasgow Necropolis) เป็นสุสานสไตล์วิกตอเรียนที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ ทางทิศตะวันออกของมหาวิหารกลาสโกว์ สุสานแห่งนี้เป็นที่ฝังศพของคนราวห้าหมื่นคน โดยมีทั้งสุสานธรรมดาไปจนถึงสุสานที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบอนุสรณ์ เช่น อนุสาวรีย์จอห์น เฮนรี อเล็กซานเดอร์ และอนุสาวรีย์ชาร์ลส์ เทนแนนต์ สุสานแห่งนี้เป็นหนึ่งในสุสานไม่กี่แห่งที่เก็บบันทึกข้อมูลผู้เสียชีวิต เช่น อาชีพ อายุ เพศ และสาเหตุการเสียชีวิต ปัจจุบันสุสานกลาสโกว์เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองกลาสโกว์ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากไปเยือนในแต่ละปี เพราะเป็นสุสานเก่าที่มีสถาปัตยกรรมในรูปแบบอนุสรณ์สถานให้เที่ยวชมมากมายซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของสุสานแห่งนี้นั่นเอง

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ