- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- อาสนวิหารฟลอเรนซ์ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
อาสนวิหารฟลอเรนซ์ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
- อ่าน (4,684)
- By Webmaster
- 16:32:36 | 24 พ.ย. 2563
อาสนวิหารฟลอเรนซ์ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
Florence Cathedral, Florence, Italy
อาสนวิหารฟลอเรนซ์และหอระฆังคัมปานีเล่ เมืองฟลอเรนซ์ อิตาลี
อาสนวิหารฟลอเรนซ์ (Florence Cathedral) อาคารที่สูงที่สุดในเมืองฟลอเรนซ์ที่มีหลังคาโดม (Capola) สีส้มอิฐสวยงาม โดดเด่นด้วยศิลปะเรอเนสซองส์และนีโอโกธิก ตัวอาคารเป็นหินอ่อนสีขาว เขียว และชมพูกุหลาบ ภายในโดมเป็นภาพเขียนสีปูนเปียกขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกและมีพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมผลงานของศิลปินที่มีชื่อเสียงในยุคกลางจนถึงยุคเรอเนสซองส์ รวมถึงเป็นที่เก็บรักษาประตูสวรรค์ของจริงด้วย ด้านข้างวิหารมีหอระฆังคัมปานีเล่ที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดในอิตาลี ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวเมืองฟลอเรนซ์และชมยอดโดมได้อย่างใกล้ชิด
แผนที่ตั้ง อาสนวิหารฟลอเรนซ์ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
ประวัติ
อาสนวิหารฟลอเรนซ์ (Florence Cathedral) มีชื่อเต็มว่า อาสนวิหารซานตา มาเรีย เดล ฟิโอเร (Cattedrale di Santa Maria del Fiore) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฟลอเรนซ์ บริเวณจัตุรัสดูโอโม ส่ร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1296 ออกแบบโดยอาโนลโฟ ดิ คัมปิโล (Anolfo di cambio) สถาปนิกและประติมากรในศตวรรษที่12 แต่ยังไม่ทันแล้วเสร็จเขาก็เสียชีวิตลง ต้องใช้เวลาอีกถึง 150 ปีจึงได้ต่อเติมจนแล้วเสร็จเป็นอาสนวิหารใหญ่อันดับ 4 ของโลกที่มีความกว้าง 38 เมตร ยาว 153 เมตร สร้างทับโบสถ์เดิมคือ ซานตา เรปาราต้า (Santa Reparata)
ยอดโดมเป็นศิลปะแบบโรมันที่เปลี่ยนจากทรงกลมเป็นหกเหลี่ยม ข้างในโปร่งไม่มีเสาหรือโครงค้ำยันซึ่งถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ในสมัยนั้น ตัวอาคารใช้หินอ่อน 3 สีคือ สีขาวจากเมือง Carrara สีเขียวจากเมือง Prato และสีแดงจากเมือง Siena ส่วน Facade ของเดิมได้ถูกรื้อทิ้งแล้วค้างไว้ 300 ปี จนกระทั่ง ค.ศ. 1608 จึงได้สร้างขึ้นใหม่เป็นสถาปัตยกรรมแบบบาโรกลายดอกพลับพลึงหรือดอกลิลลี่อันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองฟลอเรนซ์ ส่วนทิศใต้เป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิก สร้างระหว่างปี ค.ศ. 1418 – 1477 ออกแบบโดยฟีลิปโป บรูเนลเลสกี (Fillippo Brunelleschi) มหาวิหารมีหน้าต่างกระจกสีทั้งหมด 44 บาน สร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 14-15 เป็นเรื่องราวในพระคัมภีร์พันธะสัญญาเก่าและใหม่ที่วาดโดยศิลปินที่มีชื่อเสียงได้แก่ Donatello, Lorenzo Ghiberti, Paolo Uccello และ Andrea del Castagno กลางโดมเป็นภาพเขียนสีปูนเปียกที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ผลงานของ Giorgio Vasari และ Federico Zuccari
ด้านข้างอาสนวิหารเป็นหอระฆังคัมปานีเล่ (Campanile) ออกแบบโดย Giotto แกะสลักลวดลายโดย Andrea Pisano นับเป็นหอระฆังที่สวยที่สุดในอิตาลี นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวเมืองฟลอเรนซ์โดยขึ้นบันได 463 ขั้นไปยอดโดม (มีค่าขึ้นชม) หรือจะขึ้นบันได 414 ขั้นทางหอระฆังไปชมยอดโดมอย่างใกล้ชิด (มีค่าขึ้นชม) และใต้อาสนวิหารมีโบสถ์เก่า Santa Reparata ที่ถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1965- 1973 เป็นที่ฝังศพของบุคคลสำคัญและมีชื่อเสียง เช่น Giovanni Di Alamanno de' Medici, Fillippo Brunelleschi ด้วย (มีค่าเข้าชม)
นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ Museo dell' Opera del Duomo ที่แบ่งเป็น 3 ชั้น 25 ห้องในพื้นที่ 6,000 ตารางเมตร จัดแสดงประติมากรรมกว่า 750 ชิ้นในระยะเวลา 720 ปี ศิลปะฟลอเรนทีนตั้งแต่ยุคกลางจนถึงยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาที่นิยมใช้หินอ่อนและสีบรอนซ์เงินเป็นหลัก ผลงานของศิลปิน ได้แก่ Arnolfo di Cambio, Andrea Pisano, Lorenzo Ghiberti, Donatello, Luca della Robbia, Antonio Pollaiuolo, Andrea del Verrocchio, Michelangelo Buonarroti ที่โด่งดังคือรูปปั้น Pieta ผลงาน Michelangelo แต่เป็นคนละอิริยาบถกันกับที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในกรุงโรม และที่นี่ยังเป็นที่เก็บประตูสำริดหอศีลจุ่มของจริงด้วย (มีค่าเข้าชม)
สถาปัตยกรรมด้านนอกอาสนวิหารฟลอเรนซ์ยามค่ำคืน
บานประตูอาสนวิหาร (ซ้าย) หอระฆังคัมปานีเล่ (ขวา)
แท่นบูชากลางอาสนวิหารและศิลปะปูนเปียกบนเพดานโดม
แท่นพระเยซูถูกตรึงไม้กางเขนกลางมหาวิหาร
นาฬิกาโบราณออกแบบโดย Paolo Uccello และรูปแกะสลักนักบุญภายในวิหาร
ภายในหลุมฝังศพและโบสถ์เก่า Santa Reparata
พิพิธภัณฑ์ Museo dell’ Opera del Duomo
การเดินทางจากสนามบินฟลอเรนซ์ เมืองเปเรโตลา ไปยังตัวเมืองฟลอเรนซ์
- รถยนต์ (Car) จากสนามบินฟลอเรนซ์ เมืองเปเรโตลา ไปยังบริเวณสถานีรถไฟกลาง Firenze S.M.N. ระยะทางประมาณ 8.2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร
- รถชัตเติลบัส (Shuttle Bus) จอดบริเวณอาคารผู้โดยสารขาเข้าและขาออกไปส่งยังสถานีรถไฟกลาง Firenze S.M.N ให้บริการตั้งแต่เวลา 5.30 น. จนถึงเวลา 00.30 น. รถออกทุก 30 นาที ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ค่าโดยสารราคา 6 ยูโร สามารถซื้อตั๋วได้ที่ขายตั๋วภายในสนามบิน และทุกที่ขายตั๋วผู้โดยสารบริษัท ATAF หรือที่คนขับโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (เงินสด)
- รถไฟ (Train) ขึ้นรถรางสาย T2 ที่สถานี Peretola Aeroporto ไปลงที่สถานีรถราง Unita ซึ่งอยู่ติดกับสถานีรถไฟกลาง Firenze S.M.N. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 22 นาที
- รถแท็กซี่ (Taxi) สามารถขึ้นได้ที่จุดจอดรถแท็กซี่บริเวณอาคารผู้โดยสารขาออก ราคาประมาณ 22 ยูโร / วันอาทิตย์ราคา 24 ยูโร / วันหยุดพิเศษและตั้งแต่เวลา 22.00 น. – 06.00 น. ราคา 25 ยูโร และมีค่าภาษีสนามบิน 2.70 ยูโร หากมีสัมภาระจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มใบละ 1 ยูโร สูงสุด 7 ใบ ใช้เวลาเดินทางไปยังตัวเมืองฟลอเรนซ์ประมาณ 15 นาที โทร. (+39) 055-4242 / 055- 4390 / 055-4798
การเดินทางไปอาสนวิหาร Florence Cathedral
เมืองฟลอเรนซ์เป็นเมืองขนาดเล็ก สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองอยู่ไม่ห่างกันมากนัก นักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าไปยังสถานที่ต่างๆ ได้สะดวกกว่าการใช้รถ เพราะภายในเขตเมืองเก่าอนุญาตให้คนในพื้นที่เข้าจอดเท่านั้น รถอื่นให้จอดบริเวณจุดจอดรอบนอกและอาจมีค่าผ่านทาง
- การเดิน (Footpath) จากสถานีรถไฟกลาง Firenze S.M.N. ไปยังอาสนวิหาร Florence Cathedral หรือ Cathedral of Santa Maria del Fiore ระยะทางประมาณ 800 เมตร ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
- รถโดยสารประจำทาง (Bus) จากสถานีรถไฟกลาง Firenze S.M.N. นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปขึ้นรถโดยสารประจำทางสาย C2 ที่ป้าย Stazione Orti Oricellari ไปลงที่ป้าย Duomo Firenze ที่อยู่ติดกับอาสนวิหาร Florence Cathedral ได้เลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 นาที (ต้องซื้อตั๋วก่อนขึ้นรถ โดยซื้อได้ที่ร้านขายบุหรี่ (Tabacchi), ร้านกาแฟที่ติดป้าย ATAF, บริษัททัวร์ หรือจากคนขับ ราคา 1.20 ยูโร หลังจากประทับตรา (validate) บนรถแล้วสามารถขึ้นกี่เที่ยวก็ได้ ใช้ได้ 90 นาที)
- รถยนต์ (Car) จากบริเวณสถานีรถไฟกลาง Firenze S.M.N.ไปยังอาสนวิหาร Florence Cathedral ระยะทางประมาณ 800 เมตร ใช้เวลาประมาณ 6 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด
อาสนวิหารฟลอเรนซ์ : วันจันทร์ - พุธ และศุกร์ เปิดเวลา 10.00 น. - 17.00 น. วันพฤหัสบดี เปิดเวลา 10.00 น. – 15.30 น. วันเสาร์ เปิดเวลา 10.00 น. - 16.45 น. (ปิดทำการทุกวันอังคารแรกของเดือน)
โดม Capola : เปิดทุกวัน เวลา 08.30 น. – 19.00 น.
หอระฆังคัมปานีเล่ : เปิดทุกวัน เวลา 08.20 น. – 19. 15 น.
โบสถ์เก่า Santa Reparata และที่ฝังศพใต้มหาวิหาร : เปิดทุกวัน เวลา 10.00 น. – 17.00 น.
Museo dell’ Opera del Duomo : เปิดทุกวัน เวลา 09.00 น. – 19.00 น.
อัตราค่าเข้าชม
บริเวณอาสนวิหารชมฟรี ส่วนอื่นๆ มีค่าเข้าชม
บัตรราคา 18 ยูโร สามารถเข้าชมภายในอาสนวิหารได้ 5 ที่ภายใน 72 ชั่วโมง ได้แก่ 1.หอศีลจุ่ม The Baptistery of St. John 2.ยอดโดม Cupola 3.หอระฆัง Campanile 4. โบสถ์เก่า Santa Reparata 5. พิพิธภัณฑ์ Museo dell’ Opera del Duomo และที่บัตรยังมีโค้ดรหัสให้เล่นไวไฟในอาสนวิหารด้วย
ทางเข้าพิพิธภัณฑ์ Museo dell’ Opera del Duomo
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปอาสนวิหาร Florence Cathedral
ชมภาพเขียนสี Fresco ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกภายในยอดโดม ชมส่วนต่างๆ 5 แห่งของอาสนวิหาร รวมถึงไม่ควรพลาดในการขึ้นชมวิวเมืองฟลอเรนซ์จากบนยอดโดม Capola หรือจะเลือกชมยอดโดมจากทางหอระฆังก็ได้เช่นกัน
ภาพศิลปะปูนเปียก (Fresco) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ข้อมูลที่ควรรู้
การซื้อตั๋วล่วงหน้าสามารถทำได้ก่อนเป็นสัปดาห์ตามพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ในเมืองฟลอเรนซ์ที่เป็นของรัฐ โดยเสียค่าธรรมเนียมประมาณ 3 ยูโร หรือโทรติดต่อที่ฟิเรนเซ่มูเซย์ (Firenze Musei) โทร. (+39) 055-294-883 หรือซื้อตั๋วออนไลน์ได้ที่ www.weekendafirenze.com เสียค่าธรรมเนียมใบละ 6.80 ยูโร จองได้ครั้งละไม่เกิน 3 ใบ ล่วงหน้าได้ 3 วัน แล้วนำสำเนาอีเมลไปยื่นเจ้าหน้าที่
ภายในเมืองฟลอเรนซ์มีพิพิธภัณฑ์หลายแห่งที่จะต้องเสียค่าเข้าชม จึงได้มีการออกบัตร Firenze Card ที่สามารถเข้าชมได้หลายพิพิธภัณฑ์ในราคาที่ถูกกว่าปกติ คือ บัตรราคา 85 ยูโร สามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ในเมืองฟลอเรนซ์ได้ 72 ชั่วโมง ได้แก่ Galleria Palatina, Appartamenti Monomentali, Palazzo Pitti, Museo Nazionale del Bargello, Museo delle Cappelle Medicee รวมถึงหอศิลป์ Uffizi Gallery และพิพิธภัณฑ์ Galleria dell' Accademia ที่มีผู้สนใจเข้าชมเป็นจำนวนมากและต้องเข้าคิวเป็นเวลานานด้วย เหมาะสำหรับผู้ต้องการเที่ยวภายในเมืองฟลอเรนซ์ 3 วันขึ้นไป สนใจประวัติศาสตร์ศิลปะและไม่ต้องการต่อคิว สามารถซื้อได้ที่จุดขายในเมืองฟลอเรนซ์หรือทางออนไลน์ที่ http://www.firenzecard.it/ แล้วโหลดแอพพลิเคชั่น Firenzecard เพื่อเป็นบัตรผ่านดิจิตอลหรือปริ้นท์ออกมาเพื่อไปรับบัตรจริงได้ที่พิพิธภัณฑ์แรกที่เข้าชม แล้วลงทะเบียนยืนยันวันเดือนปีที่เริ่มใช้บัตรก่อนโดยแต่ละพิพิธภัณฑ์อาจมีจุดออกใบเสร็จอยู่ที่ประตูทางเข้า, ร้านหนังสือ หรือเคาน์เตอร์ขายตั๋วปกติ
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
เดือนที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวคือเดือนพฤษภาคม, มิถุนายน, กันยายนและตุลาคม เพราะเป็นช่วงที่อากาศกำลังสบายไม่หนาวหรือร้อนเกินไป นักท่องเที่ยวไม่มากนัก ส่วนเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมจะมีอากาศร้อนและมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเพราะเป็นช่วงหยุดซัมเมอร์ของทางยุโรป และที่พักราคาสูงกว่าปกติ ที่นั่งในรถไฟอาจเต็ม จึงควรจองตั๋วหรือซื้อบัตรล่วงหน้าทางเว็บไซต์มาก่อน
ข้อแนะนำในการเข้าชม
ในการเข้าชมศาสนสถานในเมืองฟลอเรนซ์นั้นนักท่องเที่ยวควรแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย ไม่สวมรองเท้าแตะ ใส่กางเกงขาสั้น เสื้อกล้าม เสื้อสายเดี่ยวหรือเปลือยไหล่เพื่อเป็นการเคารพสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม อาสนวิหารฟลอเรนซ์ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
อาสนวิหารฟลอเรนซ์ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
(Florence Cathedral, Florence, Italy)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : บริเวณอาสนวิหารเข้าชมฟรี หากซื้อตั๋วราคา 18 ยูโร จะสามารถเข้าชมส่วนต่างๆ ของวิหารได้ 5 ที่ภายใน 72 ชั่วโมง
เวลาเปิด-ปิด : อาสนวิหารฟลอเรนซ์ วันจันทร์ - พุธ และศุกร์ เปิดเวลา 10.00 น. - 17.00 น.
วันพฤหัสบดี เปิดเวลา 10.00 น. – 15.30 น. วันเสาร์ เปิดเวลา 10.00 น. - 16.45 น. (ปิดทำการทุกวันอังคารแรกของเดือน)
ตั้งอยู่ที่ : จัตุรัส Piazza del Duomo, เมืองฟลอเรนซ์, ประเทศอิตาลี
โทรศัพท์ : (+39) 055-230-2885
เว็บไซต์ : www.duomofirenze.it
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
การท่องเที่ยวเมืองฟลอเรนซ์ https://www.florence-carhire.net/th/ , https://www.florence.net
พิพิธภัณฑ์ในเมืองฟลอเรนซ์ http://www.museumsinflorence.com
การท่องเที่ยวในแคว้นทัศคานี https://www.visittuscany.com/en/
การท่องเที่ยวในประเทศอิตาลี http://www.italia.it/en/home.html
ระบบขนส่งสาธารณะในประเทศอิตาลี http://www.italia.it/en/useful-info/how-to-arrive.html
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย
หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!
อ่านต่อเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)
สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อิสตันบูล (Istanbul) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นนคร 2 ทวีป ซึ่งมีช่องแคบบอสฟอรัสเป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรปและเอเชียแห่งนี้ คือเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมานับพันๆ ปี จึงไม่น่าแปลกใจหากอิสตันบลูจะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่และงดงามทรงคุณค่ามากมายที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นยุโรปและเอเชียจากอดีตจนถึงปัจจุบัน Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูลที่หากมีโอกาสไปเยือนประเทศตุรกีไม่ควรพลาด
อ่านต่อล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ช่องแคบบอสฟอรัส เป็นช่องแคบเล็กๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของตุรกี เคยเป็นทั้งเส้นทางการค้าที่สำคัญ และยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาจนถึงปัจจุบัน การล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) จึงเป็นวิธีที่ดีที่จะได้สัมผัสบรรยากาศ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมที่หลากหลายของอิสตันบูล
อ่านต่ออุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Sarnici) คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของตุรกี ดินแดนที่เต็มไปด้วยประวัติความเป็นมามากกว่าพันปี อุโมงค์เก่าแก่ขนาดใหญ่แห่งนี้คือสถานที่เก็บน้ำในสมัยโบราณที่ยังคงความยิ่งใหญ่และงดงาม กับเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างเสากรีกที่ค้ำเรียงรายมากถึง 336 ต้น และเสาเมดูซ่าพร้อมตำนานที่เล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคน รวมถึงซากโบราณของพระราชวังใต้ดินแห่งกรุงคอนสแตนติโนเปิลสมัยไบเซนไทน์อีกด้วย
อ่านต่อตลาดเครื่องเทศ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ตลาดเครื่องเทศ (Historical Spice Bazaar / Egyptıan Spıce Bazaar) ในอิสตันบูล เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก ตลาดแห่งนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ในสมัยจักรวรรดิออตโตมัน เดิมทีเป็นจุดแลกเปลี่ยนเครื่องเทศ ผ้าไหม และสินค้าอื่นๆ จากเอเชียมาสู่ยุโรป
อ่านต่อ10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
บูดาเปสต์ (Budapest) เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี ตัวเมืองถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งด้วยแม่น้ำดานูบที่ไหลผ่านกลางเมือง ทำให้ในเมืองเต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกจากสถาปัตยกรรมอันสวยงามเปี่ยมเสน่ห์ที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือน Palanla ได้รวบรวมเอา 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์มาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่อ12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
ปราก (Prague) เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลนี้ ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปยุโรป ในอดีต เมืองปรากเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองอันยิ่งใหญ่ของทวีปยุโรป ซึ่งอารยธรรมแห่งความยิ่งใหญ่ และเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานนั้น ก็ยังคงสะท้อนอยู่ในวิถีชีวิตของชาวเมือง วัฒนธรรมประเพณี สถาปัตยกรรม ฯลฯ ราวกับมรดกที่สืบทอด และรักษากันมาอย่างดี จนถูกยกให้เป็นเมืองที่มีความน่าหลงใหล ควรค่าแก่การไปสัมผัสความเป็นยุโรปมากที่สุด โดยเมืองปรากยังได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย ปัจจุบันเมืองนี้นับเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญ ของบรรดานักท่องเที่ยวที่มาเยือนทวีปยุโรป ไปชม 12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปรากพร้อมๆ กันกับ Palanla!
อ่านต่อถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ (Fashion Street Budapest) เป็นถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงในใจกลางเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ถนนสายนี้เป็นที่รู้จักในด้านร้านค้าแฟชั่นชั้นนำจากแบรนด์ระดับโลก อาทิ Gucci, Louis Vuitton, Dior, Armani, Prada และ Chanel ถนนสายนี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่มากมาย จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองบุดาเปสต์เองด้วย
อ่านต่อล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ (Dinner Cruise Budapest) เป็นวิธียอดเยี่ยมในการชมความสวยงามของเมืองบูดาเปสต์ โดยขณะที่เรือล่องไปตามแม่น้ำดานูบ (Danube River) นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงามของสะพาน พระราชวัง และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ รวมทั้งอิ่มอร่อยกับอาหารรสเลิศและเครื่องดื่มแสนอร่อย
อ่านต่อ