- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- อาสนวิหารฟลอเรนซ์ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
อาสนวิหารฟลอเรนซ์ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
- อ่าน (4,755)
- By Webmaster
- 16:32:36 | 24 พ.ย. 2563
อาสนวิหารฟลอเรนซ์ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
Florence Cathedral, Florence, Italy
อาสนวิหารฟลอเรนซ์และหอระฆังคัมปานีเล่ เมืองฟลอเรนซ์ อิตาลี
อาสนวิหารฟลอเรนซ์ (Florence Cathedral) อาคารที่สูงที่สุดในเมืองฟลอเรนซ์ที่มีหลังคาโดม (Capola) สีส้มอิฐสวยงาม โดดเด่นด้วยศิลปะเรอเนสซองส์และนีโอโกธิก ตัวอาคารเป็นหินอ่อนสีขาว เขียว และชมพูกุหลาบ ภายในโดมเป็นภาพเขียนสีปูนเปียกขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกและมีพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมผลงานของศิลปินที่มีชื่อเสียงในยุคกลางจนถึงยุคเรอเนสซองส์ รวมถึงเป็นที่เก็บรักษาประตูสวรรค์ของจริงด้วย ด้านข้างวิหารมีหอระฆังคัมปานีเล่ที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดในอิตาลี ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวเมืองฟลอเรนซ์และชมยอดโดมได้อย่างใกล้ชิด
แผนที่ตั้ง อาสนวิหารฟลอเรนซ์ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
ประวัติ
อาสนวิหารฟลอเรนซ์ (Florence Cathedral) มีชื่อเต็มว่า อาสนวิหารซานตา มาเรีย เดล ฟิโอเร (Cattedrale di Santa Maria del Fiore) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฟลอเรนซ์ บริเวณจัตุรัสดูโอโม ส่ร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1296 ออกแบบโดยอาโนลโฟ ดิ คัมปิโล (Anolfo di cambio) สถาปนิกและประติมากรในศตวรรษที่12 แต่ยังไม่ทันแล้วเสร็จเขาก็เสียชีวิตลง ต้องใช้เวลาอีกถึง 150 ปีจึงได้ต่อเติมจนแล้วเสร็จเป็นอาสนวิหารใหญ่อันดับ 4 ของโลกที่มีความกว้าง 38 เมตร ยาว 153 เมตร สร้างทับโบสถ์เดิมคือ ซานตา เรปาราต้า (Santa Reparata)
ยอดโดมเป็นศิลปะแบบโรมันที่เปลี่ยนจากทรงกลมเป็นหกเหลี่ยม ข้างในโปร่งไม่มีเสาหรือโครงค้ำยันซึ่งถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ในสมัยนั้น ตัวอาคารใช้หินอ่อน 3 สีคือ สีขาวจากเมือง Carrara สีเขียวจากเมือง Prato และสีแดงจากเมือง Siena ส่วน Facade ของเดิมได้ถูกรื้อทิ้งแล้วค้างไว้ 300 ปี จนกระทั่ง ค.ศ. 1608 จึงได้สร้างขึ้นใหม่เป็นสถาปัตยกรรมแบบบาโรกลายดอกพลับพลึงหรือดอกลิลลี่อันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองฟลอเรนซ์ ส่วนทิศใต้เป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิก สร้างระหว่างปี ค.ศ. 1418 – 1477 ออกแบบโดยฟีลิปโป บรูเนลเลสกี (Fillippo Brunelleschi) มหาวิหารมีหน้าต่างกระจกสีทั้งหมด 44 บาน สร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 14-15 เป็นเรื่องราวในพระคัมภีร์พันธะสัญญาเก่าและใหม่ที่วาดโดยศิลปินที่มีชื่อเสียงได้แก่ Donatello, Lorenzo Ghiberti, Paolo Uccello และ Andrea del Castagno กลางโดมเป็นภาพเขียนสีปูนเปียกที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ผลงานของ Giorgio Vasari และ Federico Zuccari
ด้านข้างอาสนวิหารเป็นหอระฆังคัมปานีเล่ (Campanile) ออกแบบโดย Giotto แกะสลักลวดลายโดย Andrea Pisano นับเป็นหอระฆังที่สวยที่สุดในอิตาลี นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวเมืองฟลอเรนซ์โดยขึ้นบันได 463 ขั้นไปยอดโดม (มีค่าขึ้นชม) หรือจะขึ้นบันได 414 ขั้นทางหอระฆังไปชมยอดโดมอย่างใกล้ชิด (มีค่าขึ้นชม) และใต้อาสนวิหารมีโบสถ์เก่า Santa Reparata ที่ถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1965- 1973 เป็นที่ฝังศพของบุคคลสำคัญและมีชื่อเสียง เช่น Giovanni Di Alamanno de' Medici, Fillippo Brunelleschi ด้วย (มีค่าเข้าชม)
นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ Museo dell' Opera del Duomo ที่แบ่งเป็น 3 ชั้น 25 ห้องในพื้นที่ 6,000 ตารางเมตร จัดแสดงประติมากรรมกว่า 750 ชิ้นในระยะเวลา 720 ปี ศิลปะฟลอเรนทีนตั้งแต่ยุคกลางจนถึงยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาที่นิยมใช้หินอ่อนและสีบรอนซ์เงินเป็นหลัก ผลงานของศิลปิน ได้แก่ Arnolfo di Cambio, Andrea Pisano, Lorenzo Ghiberti, Donatello, Luca della Robbia, Antonio Pollaiuolo, Andrea del Verrocchio, Michelangelo Buonarroti ที่โด่งดังคือรูปปั้น Pieta ผลงาน Michelangelo แต่เป็นคนละอิริยาบถกันกับที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในกรุงโรม และที่นี่ยังเป็นที่เก็บประตูสำริดหอศีลจุ่มของจริงด้วย (มีค่าเข้าชม)
สถาปัตยกรรมด้านนอกอาสนวิหารฟลอเรนซ์ยามค่ำคืน
บานประตูอาสนวิหาร (ซ้าย) หอระฆังคัมปานีเล่ (ขวา)
แท่นบูชากลางอาสนวิหารและศิลปะปูนเปียกบนเพดานโดม
แท่นพระเยซูถูกตรึงไม้กางเขนกลางมหาวิหาร
นาฬิกาโบราณออกแบบโดย Paolo Uccello และรูปแกะสลักนักบุญภายในวิหาร
ภายในหลุมฝังศพและโบสถ์เก่า Santa Reparata
พิพิธภัณฑ์ Museo dell’ Opera del Duomo
การเดินทางจากสนามบินฟลอเรนซ์ เมืองเปเรโตลา ไปยังตัวเมืองฟลอเรนซ์
- รถยนต์ (Car) จากสนามบินฟลอเรนซ์ เมืองเปเรโตลา ไปยังบริเวณสถานีรถไฟกลาง Firenze S.M.N. ระยะทางประมาณ 8.2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร
- รถชัตเติลบัส (Shuttle Bus) จอดบริเวณอาคารผู้โดยสารขาเข้าและขาออกไปส่งยังสถานีรถไฟกลาง Firenze S.M.N ให้บริการตั้งแต่เวลา 5.30 น. จนถึงเวลา 00.30 น. รถออกทุก 30 นาที ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ค่าโดยสารราคา 6 ยูโร สามารถซื้อตั๋วได้ที่ขายตั๋วภายในสนามบิน และทุกที่ขายตั๋วผู้โดยสารบริษัท ATAF หรือที่คนขับโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (เงินสด)
- รถไฟ (Train) ขึ้นรถรางสาย T2 ที่สถานี Peretola Aeroporto ไปลงที่สถานีรถราง Unita ซึ่งอยู่ติดกับสถานีรถไฟกลาง Firenze S.M.N. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 22 นาที
- รถแท็กซี่ (Taxi) สามารถขึ้นได้ที่จุดจอดรถแท็กซี่บริเวณอาคารผู้โดยสารขาออก ราคาประมาณ 22 ยูโร / วันอาทิตย์ราคา 24 ยูโร / วันหยุดพิเศษและตั้งแต่เวลา 22.00 น. – 06.00 น. ราคา 25 ยูโร และมีค่าภาษีสนามบิน 2.70 ยูโร หากมีสัมภาระจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มใบละ 1 ยูโร สูงสุด 7 ใบ ใช้เวลาเดินทางไปยังตัวเมืองฟลอเรนซ์ประมาณ 15 นาที โทร. (+39) 055-4242 / 055- 4390 / 055-4798
การเดินทางไปอาสนวิหาร Florence Cathedral
เมืองฟลอเรนซ์เป็นเมืองขนาดเล็ก สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองอยู่ไม่ห่างกันมากนัก นักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าไปยังสถานที่ต่างๆ ได้สะดวกกว่าการใช้รถ เพราะภายในเขตเมืองเก่าอนุญาตให้คนในพื้นที่เข้าจอดเท่านั้น รถอื่นให้จอดบริเวณจุดจอดรอบนอกและอาจมีค่าผ่านทาง
- การเดิน (Footpath) จากสถานีรถไฟกลาง Firenze S.M.N. ไปยังอาสนวิหาร Florence Cathedral หรือ Cathedral of Santa Maria del Fiore ระยะทางประมาณ 800 เมตร ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
- รถโดยสารประจำทาง (Bus) จากสถานีรถไฟกลาง Firenze S.M.N. นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปขึ้นรถโดยสารประจำทางสาย C2 ที่ป้าย Stazione Orti Oricellari ไปลงที่ป้าย Duomo Firenze ที่อยู่ติดกับอาสนวิหาร Florence Cathedral ได้เลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 นาที (ต้องซื้อตั๋วก่อนขึ้นรถ โดยซื้อได้ที่ร้านขายบุหรี่ (Tabacchi), ร้านกาแฟที่ติดป้าย ATAF, บริษัททัวร์ หรือจากคนขับ ราคา 1.20 ยูโร หลังจากประทับตรา (validate) บนรถแล้วสามารถขึ้นกี่เที่ยวก็ได้ ใช้ได้ 90 นาที)
- รถยนต์ (Car) จากบริเวณสถานีรถไฟกลาง Firenze S.M.N.ไปยังอาสนวิหาร Florence Cathedral ระยะทางประมาณ 800 เมตร ใช้เวลาประมาณ 6 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด
อาสนวิหารฟลอเรนซ์ : วันจันทร์ - พุธ และศุกร์ เปิดเวลา 10.00 น. - 17.00 น. วันพฤหัสบดี เปิดเวลา 10.00 น. – 15.30 น. วันเสาร์ เปิดเวลา 10.00 น. - 16.45 น. (ปิดทำการทุกวันอังคารแรกของเดือน)
โดม Capola : เปิดทุกวัน เวลา 08.30 น. – 19.00 น.
หอระฆังคัมปานีเล่ : เปิดทุกวัน เวลา 08.20 น. – 19. 15 น.
โบสถ์เก่า Santa Reparata และที่ฝังศพใต้มหาวิหาร : เปิดทุกวัน เวลา 10.00 น. – 17.00 น.
Museo dell’ Opera del Duomo : เปิดทุกวัน เวลา 09.00 น. – 19.00 น.
อัตราค่าเข้าชม
บริเวณอาสนวิหารชมฟรี ส่วนอื่นๆ มีค่าเข้าชม
บัตรราคา 18 ยูโร สามารถเข้าชมภายในอาสนวิหารได้ 5 ที่ภายใน 72 ชั่วโมง ได้แก่ 1.หอศีลจุ่ม The Baptistery of St. John 2.ยอดโดม Cupola 3.หอระฆัง Campanile 4. โบสถ์เก่า Santa Reparata 5. พิพิธภัณฑ์ Museo dell’ Opera del Duomo และที่บัตรยังมีโค้ดรหัสให้เล่นไวไฟในอาสนวิหารด้วย
ทางเข้าพิพิธภัณฑ์ Museo dell’ Opera del Duomo
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปอาสนวิหาร Florence Cathedral
ชมภาพเขียนสี Fresco ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกภายในยอดโดม ชมส่วนต่างๆ 5 แห่งของอาสนวิหาร รวมถึงไม่ควรพลาดในการขึ้นชมวิวเมืองฟลอเรนซ์จากบนยอดโดม Capola หรือจะเลือกชมยอดโดมจากทางหอระฆังก็ได้เช่นกัน
ภาพศิลปะปูนเปียก (Fresco) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ข้อมูลที่ควรรู้
การซื้อตั๋วล่วงหน้าสามารถทำได้ก่อนเป็นสัปดาห์ตามพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ในเมืองฟลอเรนซ์ที่เป็นของรัฐ โดยเสียค่าธรรมเนียมประมาณ 3 ยูโร หรือโทรติดต่อที่ฟิเรนเซ่มูเซย์ (Firenze Musei) โทร. (+39) 055-294-883 หรือซื้อตั๋วออนไลน์ได้ที่ www.weekendafirenze.com เสียค่าธรรมเนียมใบละ 6.80 ยูโร จองได้ครั้งละไม่เกิน 3 ใบ ล่วงหน้าได้ 3 วัน แล้วนำสำเนาอีเมลไปยื่นเจ้าหน้าที่
ภายในเมืองฟลอเรนซ์มีพิพิธภัณฑ์หลายแห่งที่จะต้องเสียค่าเข้าชม จึงได้มีการออกบัตร Firenze Card ที่สามารถเข้าชมได้หลายพิพิธภัณฑ์ในราคาที่ถูกกว่าปกติ คือ บัตรราคา 85 ยูโร สามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ในเมืองฟลอเรนซ์ได้ 72 ชั่วโมง ได้แก่ Galleria Palatina, Appartamenti Monomentali, Palazzo Pitti, Museo Nazionale del Bargello, Museo delle Cappelle Medicee รวมถึงหอศิลป์ Uffizi Gallery และพิพิธภัณฑ์ Galleria dell' Accademia ที่มีผู้สนใจเข้าชมเป็นจำนวนมากและต้องเข้าคิวเป็นเวลานานด้วย เหมาะสำหรับผู้ต้องการเที่ยวภายในเมืองฟลอเรนซ์ 3 วันขึ้นไป สนใจประวัติศาสตร์ศิลปะและไม่ต้องการต่อคิว สามารถซื้อได้ที่จุดขายในเมืองฟลอเรนซ์หรือทางออนไลน์ที่ http://www.firenzecard.it/ แล้วโหลดแอพพลิเคชั่น Firenzecard เพื่อเป็นบัตรผ่านดิจิตอลหรือปริ้นท์ออกมาเพื่อไปรับบัตรจริงได้ที่พิพิธภัณฑ์แรกที่เข้าชม แล้วลงทะเบียนยืนยันวันเดือนปีที่เริ่มใช้บัตรก่อนโดยแต่ละพิพิธภัณฑ์อาจมีจุดออกใบเสร็จอยู่ที่ประตูทางเข้า, ร้านหนังสือ หรือเคาน์เตอร์ขายตั๋วปกติ
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
เดือนที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวคือเดือนพฤษภาคม, มิถุนายน, กันยายนและตุลาคม เพราะเป็นช่วงที่อากาศกำลังสบายไม่หนาวหรือร้อนเกินไป นักท่องเที่ยวไม่มากนัก ส่วนเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมจะมีอากาศร้อนและมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเพราะเป็นช่วงหยุดซัมเมอร์ของทางยุโรป และที่พักราคาสูงกว่าปกติ ที่นั่งในรถไฟอาจเต็ม จึงควรจองตั๋วหรือซื้อบัตรล่วงหน้าทางเว็บไซต์มาก่อน
ข้อแนะนำในการเข้าชม
ในการเข้าชมศาสนสถานในเมืองฟลอเรนซ์นั้นนักท่องเที่ยวควรแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย ไม่สวมรองเท้าแตะ ใส่กางเกงขาสั้น เสื้อกล้าม เสื้อสายเดี่ยวหรือเปลือยไหล่เพื่อเป็นการเคารพสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม อาสนวิหารฟลอเรนซ์ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
อาสนวิหารฟลอเรนซ์ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
(Florence Cathedral, Florence, Italy)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : บริเวณอาสนวิหารเข้าชมฟรี หากซื้อตั๋วราคา 18 ยูโร จะสามารถเข้าชมส่วนต่างๆ ของวิหารได้ 5 ที่ภายใน 72 ชั่วโมง
เวลาเปิด-ปิด : อาสนวิหารฟลอเรนซ์ วันจันทร์ - พุธ และศุกร์ เปิดเวลา 10.00 น. - 17.00 น.
วันพฤหัสบดี เปิดเวลา 10.00 น. – 15.30 น. วันเสาร์ เปิดเวลา 10.00 น. - 16.45 น. (ปิดทำการทุกวันอังคารแรกของเดือน)
ตั้งอยู่ที่ : จัตุรัส Piazza del Duomo, เมืองฟลอเรนซ์, ประเทศอิตาลี
โทรศัพท์ : (+39) 055-230-2885
เว็บไซต์ : www.duomofirenze.it
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
การท่องเที่ยวเมืองฟลอเรนซ์ https://www.florence-carhire.net/th/ , https://www.florence.net
พิพิธภัณฑ์ในเมืองฟลอเรนซ์ http://www.museumsinflorence.com
การท่องเที่ยวในแคว้นทัศคานี https://www.visittuscany.com/en/
การท่องเที่ยวในประเทศอิตาลี http://www.italia.it/en/home.html
ระบบขนส่งสาธารณะในประเทศอิตาลี http://www.italia.it/en/useful-info/how-to-arrive.html
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อรวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อ