6 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองนารา ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (2,881)
  • By Webmaster
  • 05:42:03 | 7 ก.พ. 2566

6 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองนารา ประเทศญี่ปุ่น

Top 6 Travel Destinations in Nara, Japan

             นารา (Nara) เขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ติดกับโอซาก้าและเกียวโต เป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน กรุ่นไปด้วยกลิ่นอายแห่งอดีต ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติที่เปี่ยมเสน่ห์ ในอดีตนาราเคยเจริญรุ่งเรืองในฐานะที่เป็นจุดหมายปลายทางของเส้นทางสายไหมและเคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น จึงไม่น่าแปลกใจที่จังหวัดแห่งนี้จะเป็นแหล่งรวมสถาปัตยกรรมสมบัติของชาติมากที่สุดในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปไดบุทสึ รวมถึงวัดและศาลเจ้าที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานอีกหลายแห่ง...Palanla จะพาไปชม 6 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองนาราที่เมื่อใครมาคงไม่อาจพลาดไปได้


แผนที่แสดงตำแหน่งของ 6 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองนารา


1. สวนสาธารณะนารา (Nara Park)

             สวนสาธารณะนารา  (Nara Park)  เป็นหนึ่งในสวนสาธารณะเก่าแก่ของประเทศญี่ปุ่น พื้นที่ภายในสวนประกอบไปด้วยสถานที่สำคัญทั้งวัดโทไดจิ วัดโคฟุคุจิ ศาลเจ้าคาสุงะ ไทฉะ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดนารา นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถพบเจอกับฝูงกวางที่ใช้ชีวิตอยู่ตามธรรมชาติ ซึ่งกลายมาเป็นสัญลักษณ์และจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดนาราในปัจจุบัน โดยการพัฒนาพื้นที่สวนสาธารณะนั้นเพิ่งเริ่มทำอย่างจริงจังในช่วงยุคเมจิของญี่ปุ่น มีการเปิดสวนสาธารณะอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1880 จากนั้นจึงมีการนำต้นซากุระ และต้นเมเปิ้ลจำนวนมากมาปลูกในบริเวณสวนเพื่อเพิ่มความสวยงามในฤดูกาลต่างๆ รวมถึงการพัฒนาพื้นที่ด้านอื่นๆเรื่อยมาจนกลายเป็นหนึ่งในสวนสาธารณะที่มีความสวยงามมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบัน

ค่าเข้าชม : นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมสวนสาธารณะนาราได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

เวลาเปิด-ปิด : เนื่องจากสวนสาธารณะนาราเป็นสถานที่สาธารณะ จึงเปิดทำการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 34°41'05.9"N 135°50'34.8"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สวนสาธารณะนารา ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=119


2. ศาลเจ้าคาสุงะ ไทฉะ (Kasuga Taisha)

             ศาลเจ้าคาสุงะ ไทฉะ (Kasuga Taisha) เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต และยังถือเป็นศาลเจ้าประจำตระกูลฟุจิวะระ ซึ่งเป็นกลุ่มขุนนางที่เคยมีอำนาจและอิทธิพลอย่างยิ่งใหญ่ต่อราชสำนักญี่ปุ่นในยุคเฮอัน ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 768 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่เมืองนารากลายมาเป็นศูนย์กลางการเมืองการปกครองของประเทศญี่ปุ่นในขณะนั้น แม้ว่าหลังจากการย้ายเมืองหลวงจากนาราไปยังกรุงเกียวโต จะทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้ถูกลดความสำคัญลงไป แต่ศาลเจ้าแห่งนี้ก็ยังคงความศักดิ์สิทธิ์และมีผู้ศรัทธาเดินทางแวะเวียนมาบูชาจนถึงในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ของเมืองนารา ที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมภายใต้ชื่อ “อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์นาราโบราณ”

ค่าเข้าชม :  บริเวณรอบศาลเจ้าเข้าชมฟรี ส่วนอาคารหลักของศาลเจ้ามีค่าเข้าชม 500 เยน

                  สวนพฤกษศาสตร์ Manyo มีค่าเข้าชม 500 เยน

เวลาเปิด-ปิด : ศาลเจ้าแห่งนี้เปิดทำการทุกวัน

                     ระหว่างเดือนเมษายน – กันยายน เปิดทำการตั้งแต่ 06.00 - 18.00 น.

                     ระหว่างเดือนตุลาคม – มีนาคม เปิดทำการตั้งแต่ 06.30 - 17.00 น.

พิกัด GPS : 34°40'52.9"N 135°50'54.4"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ศาลเจ้าคาสุงะ ไทฉะ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=116


3. ศาลเจ้าทานซาน (Tanzan Shrine)

             ศาลเจ้าทานซาน (Tanzan Shrine) แต่เดิมมีชื่อว่า วัดโทโนะมิเนะ(Tonomine Temple) เป็นอีกหนึ่งศาลเจ้าประจำตระกูลฟูจิวาระ เช่นเดียวกับศาลเจ้าคาสุงะ ไทฉะ ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นในยุคอาซุกะ หรือราว ค.ศ. 538-710 โดยพระภิกษุโจเอ ซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของฟุจิวาระ โนะ คามาทาริ ผู้ก่อตั้งตระกูลฟุจิวาระในสมัยที่นาราเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น และกลายมาเป็นวัดที่องค์จักรพรรดิไดโกะ และองค์จักรพรรดิโกะ ฮานาโซโนะ ให้ความนับถือเป็นอย่างมาก ศาลเจ้าทานซานถือเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีขึ้นชื่อในนารา และมีเจดีย์ไม้สิบสามชั้น ซึ่งมีความเก่าแก่ และสามารถพบได้ที่เดียวในญี่ปุ่นเท่านั้น        

ค่าเข้าชม : ศาลเจ้าทานซานมีค่าเข้าชม 600 เยน

เวลาเปิด-ปิด : ศาลเจ้าทานซานเปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.00 น.

พิกัด GPS : 34°27'56.5"N 135°51'42.3"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ศาลเจ้าทานซาน ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=117


4. วัดโทไดจิ (Todaiji Temple) 

             วัดโทไดจิ สร้างขึ้นในยุคเทนเปียว หรือในช่วงปี ค.ศ. 745-752 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เมืองนาราทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางทางการเมืองและการปกครองของประเทศญี่ปุ่น โดยองค์จักรพรรดิโชมุมีความต้องการให้สร้างวัดขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของวัดทั้งหมดในประเทศ วัดแห่งนี้จึงเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปหลวงพ่อโต (ไดบุทสึ) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และอาคารหลักของวัดโทไดจิยังถือเป็นอาคารไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย วัดแห่งนี้ยังถือเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญของเมืองนารา ที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมภายใต้ชื่อ “อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์นาราโบราณ” ตั้งอยู่ที่เมืองนารา ประเทศญี่ปุ่น

ค่าเข้าชม :  วัดโทไดจิมีค่าเข้าชมบริเวณอาคารหลัก 500 เยน และมีบัตรเข้าชมทั้งอาคารหลักรวมถึงพิพิธภัณฑ์วัดโทไดจิ ราคา 800 เยน 

เวลาเปิด-ปิด : วัดโทไดจิเปิดทำการทุกวัน   

                     ระหว่างเดือนเมษายนถึงตุลาคม เปิดทำการตั้งแต่ 07.30 – 17.30 น.

                     ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม เปิดทำการตั้งแต่ 08.00 – 17.00 น.

พิกัด GPS : 34°41'19.9"N 135°50'23.1"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดโทไดจิ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=118


5. พระราชวังเฮโจ (Heijo Palace) 

             พระราชวังเฮโจ เป็นพื้นที่พระราชวังเดิมในสมัยที่นาราเคยเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น (ระหว่างค.ศ. 710-794 ) และเป็นหนึ่งในสถานที่ของเมืองนารา ที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมภายใต้ชื่อ “อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์นาราโบราณ” พระราชวังเฮโจ ครอบคลุมพื้นที่ 1 ตารางกิโลเมตร พระราชวังนี้ถูกสร้างขึ้นภายหลังจากการย้ายเมืองหลวงจาก “ฟูจิวาระเคียว” หรือบริเวณเขตคาชิฮาระ จังหวัดนารา มายังพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งของพระราชวังเฮโจ โดยทั้งการวางผังเมืองและผังพระราชวังนั้นได้รับอิทธิพลมาจากเมืองฉางอัน (ซีอาน) เมืองหลวงเก่าของประเทศจีนในขณะนั้น ภายในเขตพระราชวังมีการสร้างกลุ่มอาคารที่ทำการขึ้นมากมาย รวมถึงอาคาร Audience Hall หรือ Daigokuden ซึ่งเป็นอาคารที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดภายในพระราชวังเเห่งนี้ ใช้เป็นที่ประกอบพิธีกรรมต่างๆ มากมายพร้อมกับเป็นที่ประชุมของเหล่าบรรดาขุนนาง โดยอาคาร Audience Hall ที่เห็นในปัจจุบันนั้นเกิดจากการบูรณะครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 2010  ในโอกาสการเฉลิมฉลองที่นาราครบรอบ 1,300 ปีในการเป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ปราสาทนารา พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เฮโจเคียว และศูนย์จัดแสดงนิทรรศการ   

ค่าเข้าชม : นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมพระราชวังเฮโจได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

เวลาเปิด-ปิด : พระราชวังเฮโจเปิดทำการตั้งแต่ 09.00 – 16.30 น. และปิดทำการระหว่างช่วงปีใหม่ 29 ธันวาคม – 3 มกราคม

พิกัด GPS : 34°41'26.3"N 135°47'39.3"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พระราชวังเฮโจ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=120


6. วัดโคฟุคุจิ (Kofukuji Temple) 

             วัดโคฟุคุจิ (Kofukuji Temple) เป็นวัดที่มีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันสามร้อยปี หนึ่งในสถานที่ของเมืองนารา ที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมภายใต้ชื่อ “อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์นาราโบราณ” แห่งนี้ยังถือเป็นวัดประจำตระกูลฟุจิวะระ ซึ่งเป็นกลุ่มขุนนางที่เคยมีอำนาจและอิทธิพลอย่างยิ่งใหญ่ต่อราชสำนักญี่ปุ่นในยุคเฮอันเช่นเดียวกัน วัดโคฟุคุจิสร้างขึ้นในปีค.ศ. 669 โดยภรรยาของฟูจิวาระ โนะ คามาทาริ ด้วยจุดประสงค์เพื่อขอพรให้สามีของนางหายป่วย วัดแห่งนี้เคยถูกรื้อและย้ายไปสร้างใหม่ที่เมืองหลวง “ฟูจิวาระเคียว” หรือบริเวณเขตคาชิฮาระ จังหวัดนารา ก่อนที่จะทำการย้ายอีกครั้งมายังที่ตั้งในปัจจุบันเมื่อปีค.ศ. 710 หรือในช่วงที่นาราเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น วัดแห่งนี้เคยถูกทำลายลงด้วยเหตุการณ์ไฟไหม้และสงครามหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ได้รับการสร้างขึ้นใหม่ตามระยะเวลา ในอดีตบริเวณวัดเคยมีจำนวนอาคารต่างๆ มากกว่า 150 แห่ง แต่ปัจจุบันหลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่อาคารเท่านั้น หนึ่งในนั้นคืออาคารหลัก และเจดีย์ 5 ชั้น ที่มีความสูงเป็นอันดับสองในญี่ปุ่น  

ค่าเข้าชม :  พื้นที่โดยรอบวัดเข้าชมฟรี

                  National Treasure Museum มีค่าเข้าชม 600 เยน   

                  Eastern Golden Hall มีค่าเข้าชม 300 เยน  

                  (มีบัตรเข้าชมทั้งสองแห่งรวมกันจำหน่ายราคา 800 เยน)  

เวลาเปิด-ปิด : พื้นที่โดยรอบวัดเปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนอาคารภายในวัดเปิดทำการตั้งแต่ 09.00 – 17.00 น.  

พิกัด GPS : 34°40'57.7"N 135°49'55.3"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดโคฟุคุจิ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=121


ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/

                            เว็บไซต์การท่องเที่ยวจังหวัดนารา https://www.visitnara.jp/

                            เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวนารา https://narashikanko.or.jp/en/

                            เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/

                            สกุลเงินที่ใช้ : เยน (JPY)

                            ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ https://www.xe.com/currencyconverter/

                            สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย http://www.th.emb-japan.go.jp/itprtop_th/index.html


แอปพลิเคชั่นแนะนำสำหรับเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ในเมืองนารา

                    - Uber สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)

                    - JapanTaxi สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) ลิงค์ และ Play Store (Android)


อัตราค่าบริการ (TAXI FARE)


อัตราค่าครองชีพ (DAILY COST)


สภาพอากาศ (WEATHER)

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

25 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

เกียวโต (Kyoto) มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เพราะเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่นมาก่อน ที่นี่จึงเต็มไปด้วยร่องรอยของความเจริญรุ่งเรืองในอดีต ไม่ว่าจะเป็นวัดและศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีความสวยงามและทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ทั้งยังเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเมืองแห่งศิลปะและวัฒนธรรมของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง Palanla ได้รวบรวม 25 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเกียวโตมาให้ในบทความนี้

อ่านต่อ

15 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น

โอซาก้า เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญทั้งทางด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม การท่องเที่ยว และมีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ทั้งยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมกันหนาแน่น ตลอดปี เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย แลนด์มาร์กสำคัญระดับโลก สถาปัตยกรรมสวยๆ ที่แสดงออกมาผ่านอาคาร บ้านเรือน รวมถึงโอซาก้ายังมีจุดเด่นในเรื่องของอาหาร การกิน ที่ขึ้นชื่อว่าอุดมสมบูรณ์ เพราะมีย่านของกินอร่อยๆ แทรกตัวอยู่แทบทุกพื้นที่ จนถูกยกให้เป็นหนึ่งในจังหวัดที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เฉพาะของตัวเองที่มีเรื่องราว และสถานที่ให้ได้ไปเยี่ยมชมและเรียนรู้มากมาย

อ่านต่อ

ศาลเจ้าฟูจิซัง ฮอนกู เซนเง็น ไทฉะ จังหวัดชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น

ศาลเจ้าฟูจิซัง ฮอนกู เซนเง็น ไทฉะ (Fujisan Hongu Sengen Taisha) ศาลเจ้าอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปี สร้างขึ้นเพื่อเป็นการบวงสรวงเทพเจ้าของภูเขา เพื่อให้หยุดการปะทุของภูเขาไฟฟูจิในช่วงที่มีการระเบิด ถือเป็นศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดของภูมิภาค

อ่านต่อ

ทะเลสาบทานูกิ จังหวัดชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น

ทะเลสาบทานูกิ (Lake Tanuki) คือส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติฟูจิ ฮาโกเนะ อิซุ (Fuji-Hakone-Izu) ถือเป็นจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่มีความสวยงามอีกแห่งหนึ่ง และมีบรรยากาศโดยรอบที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ ยังคงความเป็นธรรมชาติ

อ่านต่อ

วัดชิเทนโนจิ จังหวัดโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น

วัดชิเทนโนจิ (Shitennoji Temple) วัดชื่อดังเก่าแก่ของโอซาก้า ที่มีอายุกว่า 1,400 ปี กับเอกลักษณ์อันโดดเด่นคือเจดีย์ห้าชั้นที่มีความงดงามตามสไตล์ญี่ปุ่น และยังเป็นต้นแบบของเจดีย์แดงที่มีวิวภูเขาไฟฟูจิที่ปรากฏบ่อยๆ ตามภาพโปรโมทการท่องเที่ยวญี่ปุ่นนั่นเอง

อ่านต่อ

ริงคู พรีเมี่ยมเอ้าท์เล็ต จังหวัดโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น

ริงคู พรีเมี่ยมเอ้าท์เล็ต (Rinku Premiem Outlet) เอ้าท์เล็ตเซ็นเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นตะวันตก ฝั่งอยู่ตรงข้ามท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ

อ่านต่อ

ชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน จังหวัดโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น

ชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน (Tempozan Giant Ferris Wheel) ชิงช้าสวรรค์ขนาดมหึมาริมอ่าวในเมืองโอซาก้าที่เปิดให้บริการมานานกว่า 25 ปี ในอดีตยังเคยเป็นชิงช้าสวรรค์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกด้วย

อ่านต่อ

โกเบ ซันดะ พรีเมียม เอาท์เล็ต จังหวัดเฮียวโงะ ประเทศญี่ปุ่น

โกเบ ซันดะ พรีเมียม เอาท์เล็ต (Kobe Sanda Premium Outlet) เอาท์เล็ตมอลล์บนพื้นที่เปิดโล่ง ที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามทันสมัย แวดล้อมด้วยบรรยากาศดีๆ

อ่านต่อ

9 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในจังหวัดวาคายามะ ประเทศญี่ปุ่น

จังหวัดวาคายามะเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในแถบคันไซใกล้กับเมืองโอซาก้า เป็นจังหวัดติดทะเลอีกแห่งหนึ่งที่เดินทางสะดวกและมีสถานที่ที่น่าสนใจหลายแห่งให้ท่องเที่ยวได้ทั้งครอบครัว อีกทั้งยังขึ้นชื่อในเรื่องอาหารทะเลสดใหม่อีกด้วย วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 9 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดวาคายามะ มาฝากทุกท่านเพื่อเป็นแนวทางในการท่องเที่ยวแถบคันไซกันในบทความนี้

อ่านต่อ

ตลาดโทเระโทเระ จังหวัดวาคายามะ ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดโทเระโทเระ (Toretore Market) เป็นตลาดอาหารทะเลที่มีชื่อเสียงของจังหวัดวาคายามะ ตลาดตั้งอยู่ภายในอาคารขนาดใหญ่ พื้นที่ภายในบริเวณสะอาดกว้างขวาง และจัดแบ่งเป็นโซนต่างๆ อย่างเป็นระเบียบ ง่ายต่อการเดินชมและเลือกซื้อ อาหารทะเลขึ้นชื่อของตลาดแห่งนี้คือปลาทะเลเพราะจังหวัดวาคายามะเป็นจังหวัดชายฝั่งทะเลที่ทำการประมง อาหารทะเลที่นี่จึงสดใหม่และมีคุณภาพ และนอกจากจะมีอาหารทะเลสดๆ ให้เลือกซื้อแล้วยังมีของฝากต่างๆ ที่เป็นสินค้าท้องถิ่นในจังหวัดวาคายามะให้เลือกซื้ออีกด้วย อีกทั้งยังมีโซนของร้านอาหารต่างๆ ให้เลือกทานได้ตามใจชอบ

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ