6 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองนารา ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (4,777)
  • By Webmaster
  • 17:32:08 | 29 ม.ค. 2567

6 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองนารา ประเทศญี่ปุ่น

Top 6 Travel Destinations in Nara, Japan

             นารา (Nara) เขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ติดกับโอซาก้าและเกียวโต เป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน กรุ่นไปด้วยกลิ่นอายแห่งอดีต ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติที่เปี่ยมเสน่ห์ ในอดีตนาราเคยเจริญรุ่งเรืองในฐานะที่เป็นจุดหมายปลายทางของเส้นทางสายไหมและเคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น จึงไม่น่าแปลกใจที่จังหวัดแห่งนี้จะเป็นแหล่งรวมสถาปัตยกรรมสมบัติของชาติมากที่สุดในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปไดบุทสึ รวมถึงวัดและศาลเจ้าที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานอีกหลายแห่ง...Palanla จะพาไปชม 6 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองนาราที่เมื่อใครมาคงไม่อาจพลาดไปได้


แผนที่แสดงตำแหน่งของ 6 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองนารา


1. สวนสาธารณะนารา (Nara Park)

             สวนสาธารณะนารา (Nara Park)  เป็นหนึ่งในสวนสาธารณะเก่าแก่ของประเทศญี่ปุ่น พื้นที่ภายในสวนประกอบไปด้วยสถานที่สำคัญทั้งวัดโทไดจิ วัดโคฟุคุจิ ศาลเจ้าคาสุงะ ไทฉะ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดนารา นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถพบเจอกับฝูงกวางที่ใช้ชีวิตอยู่ตามธรรมชาติ ซึ่งกลายมาเป็นสัญลักษณ์และจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดนาราในปัจจุบัน โดยการพัฒนาพื้นที่สวนสาธารณะนั้นเพิ่งเริ่มทำอย่างจริงจังในช่วงยุคเมจิของญี่ปุ่น มีการเปิดสวนสาธารณะอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1880 จากนั้นจึงมีการนำต้นซากุระ และต้นเมเปิ้ลจำนวนมากมาปลูกในบริเวณสวนเพื่อเพิ่มความสวยงามในฤดูกาลต่างๆ รวมถึงการพัฒนาพื้นที่ด้านอื่นๆเรื่อยมาจนกลายเป็นหนึ่งในสวนสาธารณะที่มีความสวยงามมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบัน

ค่าเข้าชม : นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมสวนสาธารณะนาราได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

เวลาเปิด-ปิด : เนื่องจากสวนสาธารณะนาราเป็นสถานที่สาธารณะ จึงเปิดทำการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 34°41'05.9"N 135°50'34.8"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สวนสาธารณะนารา ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=119


2. ศาลเจ้าคาสุงะ ไทฉะ (Kasuga Taisha)

             ศาลเจ้าคาสุงะ ไทฉะ (Kasuga Taisha) เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต และยังถือเป็นศาลเจ้าประจำตระกูลฟุจิวะระ ซึ่งเป็นกลุ่มขุนนางที่เคยมีอำนาจและอิทธิพลอย่างยิ่งใหญ่ต่อราชสำนักญี่ปุ่นในยุคเฮอัน ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 768 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่เมืองนารากลายมาเป็นศูนย์กลางการเมืองการปกครองของประเทศญี่ปุ่นในขณะนั้น แม้ว่าหลังจากการย้ายเมืองหลวงจากนาราไปยังกรุงเกียวโต จะทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้ถูกลดความสำคัญลงไป แต่ศาลเจ้าแห่งนี้ก็ยังคงความศักดิ์สิทธิ์และมีผู้ศรัทธาเดินทางแวะเวียนมาบูชาจนถึงในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ของเมืองนารา ที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมภายใต้ชื่อ “อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์นาราโบราณ”

ค่าเข้าชม :  บริเวณรอบศาลเจ้าเข้าชมฟรี ส่วนอาคารหลักของศาลเจ้ามีค่าเข้าชม 500 เยน

                  สวนพฤกษศาสตร์ Manyo มีค่าเข้าชม 500 เยน

เวลาเปิด-ปิด : ศาลเจ้าแห่งนี้เปิดทำการทุกวัน

                     ระหว่างเดือนเมษายน – กันยายน เปิดทำการตั้งแต่ 06.00 - 18.00 น.

                     ระหว่างเดือนตุลาคม – มีนาคม เปิดทำการตั้งแต่ 06.30 - 17.00 น.

พิกัด GPS : 34°40'52.9"N 135°50'54.4"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ศาลเจ้าคาสุงะ ไทฉะ ได้ที่ https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=116


3. ศาลเจ้าทานซาน (Tanzan Shrine)

             ศาลเจ้าทานซาน (Tanzan Shrine) แต่เดิมมีชื่อว่า วัดโทโนะมิเนะ(Tonomine Temple) เป็นอีกหนึ่งศาลเจ้าประจำตระกูลฟูจิวาระ เช่นเดียวกับศาลเจ้าคาสุงะ ไทฉะ ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นในยุคอาซุกะ หรือราว ค.ศ. 538-710 โดยพระภิกษุโจเอ ซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของฟุจิวาระ โนะ คามาทาริ ผู้ก่อตั้งตระกูลฟุจิวาระในสมัยที่นาราเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น และกลายมาเป็นวัดที่องค์จักรพรรดิไดโกะ และองค์จักรพรรดิโกะ ฮานาโซโนะ ให้ความนับถือเป็นอย่างมาก ศาลเจ้าทานซานถือเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีขึ้นชื่อในนารา และมีเจดีย์ไม้สิบสามชั้น ซึ่งมีความเก่าแก่ และสามารถพบได้ที่เดียวในญี่ปุ่นเท่านั้น        

ค่าเข้าชม : ศาลเจ้าทานซานมีค่าเข้าชม 600 เยน

เวลาเปิด-ปิด : ศาลเจ้าทานซานเปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.00 น.

พิกัด GPS : 34°27'56.5"N 135°51'42.3"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ศาลเจ้าทานซาน ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=117


4. วัดโทไดจิ (Todaiji Temple) 

             วัดโทไดจิ สร้างขึ้นในยุคเทนเปียว หรือในช่วงปี ค.ศ. 745-752 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เมืองนาราทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางทางการเมืองและการปกครองของประเทศญี่ปุ่น โดยองค์จักรพรรดิโชมุมีความต้องการให้สร้างวัดขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของวัดทั้งหมดในประเทศ วัดแห่งนี้จึงเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปหลวงพ่อโต (ไดบุทสึ) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และอาคารหลักของวัดโทไดจิยังถือเป็นอาคารไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย วัดแห่งนี้ยังถือเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญของเมืองนารา ที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมภายใต้ชื่อ “อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์นาราโบราณ” ตั้งอยู่ที่เมืองนารา ประเทศญี่ปุ่น

ค่าเข้าชม :  วัดโทไดจิมีค่าเข้าชมบริเวณอาคารหลัก 500 เยน และมีบัตรเข้าชมทั้งอาคารหลักรวมถึงพิพิธภัณฑ์วัดโทไดจิ ราคา 800 เยน 

เวลาเปิด-ปิด : วัดโทไดจิเปิดทำการทุกวัน   

                     ระหว่างเดือนเมษายนถึงตุลาคม เปิดทำการตั้งแต่ 07.30 – 17.30 น.

                     ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม เปิดทำการตั้งแต่ 08.00 – 17.00 น.

พิกัด GPS : 34°41'19.9"N 135°50'23.1"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดโทไดจิ ได้ที่ https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=118


5. พระราชวังเฮโจ (Heijo Palace) 

             พระราชวังเฮโจ เป็นพื้นที่พระราชวังเดิมในสมัยที่นาราเคยเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น (ระหว่างค.ศ. 710-794 ) และเป็นหนึ่งในสถานที่ของเมืองนารา ที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมภายใต้ชื่อ “อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์นาราโบราณ” พระราชวังเฮโจ ครอบคลุมพื้นที่ 1 ตารางกิโลเมตร พระราชวังนี้ถูกสร้างขึ้นภายหลังจากการย้ายเมืองหลวงจาก “ฟูจิวาระเคียว” หรือบริเวณเขตคาชิฮาระ จังหวัดนารา มายังพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งของพระราชวังเฮโจ โดยทั้งการวางผังเมืองและผังพระราชวังนั้นได้รับอิทธิพลมาจากเมืองฉางอัน (ซีอาน) เมืองหลวงเก่าของประเทศจีนในขณะนั้น ภายในเขตพระราชวังมีการสร้างกลุ่มอาคารที่ทำการขึ้นมากมาย รวมถึงอาคาร Audience Hall หรือ Daigokuden ซึ่งเป็นอาคารที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดภายในพระราชวังเเห่งนี้ ใช้เป็นที่ประกอบพิธีกรรมต่างๆ มากมายพร้อมกับเป็นที่ประชุมของเหล่าบรรดาขุนนาง โดยอาคาร Audience Hall ที่เห็นในปัจจุบันนั้นเกิดจากการบูรณะครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 2010  ในโอกาสการเฉลิมฉลองที่นาราครบรอบ 1,300 ปีในการเป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ปราสาทนารา พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เฮโจเคียว และศูนย์จัดแสดงนิทรรศการ   

ค่าเข้าชม : นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมพระราชวังเฮโจได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

เวลาเปิด-ปิด : พระราชวังเฮโจเปิดทำการตั้งแต่ 09.00 – 16.30 น. และปิดทำการระหว่างช่วงปีใหม่ 29 ธันวาคม – 3 มกราคม

พิกัด GPS : 34°41'26.3"N 135°47'39.3"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พระราชวังเฮโจ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=120


6. วัดโคฟุคุจิ (Kofukuji Temple) 

             วัดโคฟุคุจิ (Kofukuji Temple) เป็นวัดที่มีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันสามร้อยปี หนึ่งในสถานที่ของเมืองนารา ที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมภายใต้ชื่อ “อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์นาราโบราณ” แห่งนี้ยังถือเป็นวัดประจำตระกูลฟุจิวะระ ซึ่งเป็นกลุ่มขุนนางที่เคยมีอำนาจและอิทธิพลอย่างยิ่งใหญ่ต่อราชสำนักญี่ปุ่นในยุคเฮอันเช่นเดียวกัน วัดโคฟุคุจิสร้างขึ้นในปีค.ศ. 669 โดยภรรยาของฟูจิวาระ โนะ คามาทาริ ด้วยจุดประสงค์เพื่อขอพรให้สามีของนางหายป่วย วัดแห่งนี้เคยถูกรื้อและย้ายไปสร้างใหม่ที่เมืองหลวง “ฟูจิวาระเคียว” หรือบริเวณเขตคาชิฮาระ จังหวัดนารา ก่อนที่จะทำการย้ายอีกครั้งมายังที่ตั้งในปัจจุบันเมื่อปีค.ศ. 710 หรือในช่วงที่นาราเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น วัดแห่งนี้เคยถูกทำลายลงด้วยเหตุการณ์ไฟไหม้และสงครามหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ได้รับการสร้างขึ้นใหม่ตามระยะเวลา ในอดีตบริเวณวัดเคยมีจำนวนอาคารต่างๆ มากกว่า 150 แห่ง แต่ปัจจุบันหลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่อาคารเท่านั้น หนึ่งในนั้นคืออาคารหลัก และเจดีย์ 5 ชั้น ที่มีความสูงเป็นอันดับสองในญี่ปุ่น  

ค่าเข้าชม :  พื้นที่โดยรอบวัดเข้าชมฟรี

                  National Treasure Museum มีค่าเข้าชม 600 เยน   

                  Eastern Golden Hall มีค่าเข้าชม 300 เยน  

                  (มีบัตรเข้าชมทั้งสองแห่งรวมกันจำหน่ายราคา 800 เยน)  

เวลาเปิด-ปิด : พื้นที่โดยรอบวัดเปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนอาคารภายในวัดเปิดทำการตั้งแต่ 09.00 – 17.00 น.  

พิกัด GPS : 34°40'57.7"N 135°49'55.3"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดโคฟุคุจิ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=121
 

ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ :

- เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ
  
 https://www.accuweather.com/

- เว็บไซต์การท่องเที่ยวจังหวัดนารา 
   https://www.visitnara.jp/

- สกุลเงินที่ใช้ : เยน (JPY)     


แอปพลิเคชัน "บริการรถแท็กซี่" ในประเทศญี่ปุ่น

- Uber สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)

- JapanTaxi สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
 

แอปพลิเคชัน "แผนที่ในการนำทาง" ในประเทศญี่ปุ่น

- Google Map สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
 

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจาง – ดาลัด ประเทศเวียดนาม

หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองชายทะเลสุดคึกคักอากาศอบอุ่น แล้วไปผ่อนคลายในเมืองแห่งภูเขาอากาศเย็นสบายที่เวียดนามใต้ ญาจางและดาลัดคือคำตอบ! สองเมืองนี้จะพาคุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมที่หลากหลาย Palanla ได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจางและดาลัดมาให้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

อาสนวิหารญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

อาสนวิหารญาจาง (Christ the King Cathedral Nha Trang) หรือ โบสถ์หินญาจาง สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม อายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง ด้วยผนังหินสีน้ำตาลเข้มที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง และหลังคาสูงชะลูดที่ดูอลังการ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว

อ่านต่อ

หาดญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

หาดญาจาง (Nha Trang Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศเวียดนาม ด้วยชายรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ความยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่โอบล้อมอ่าวญาจาง ในจังหวัดหวัดคั้ญฮวา ท่ามกลางภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญๆ มากมาย

อ่านต่อ

หอคอยแตร่มเฮือง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

หอคอยแตร่มเฮือง (Tram Huong Tower) สัญลักษณ์และจุดเช็กอินยอดนิยมของหาดญาจางในปัจจุบัน

อ่านต่อ

วินเพิร์ลแลนด์ เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

วินเพิร์ลแลนด์ (Vinpearl Land) เป็นสวนสนุกและรีสอร์ตหรูครบวงจรระดับโลกที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่สวยงามติดทะเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของการไปเที่ยวที่นี่คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก

อ่านต่อ

วัดลองเซิน เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระใหญ่” เป็นวัดพุทธมหายานเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม นอกจากความสวยงามอลังการของตัววัดแล้ว จากยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของเมืองญาจางและทะเลได้อย่างสวยงาม

อ่านต่อ

วัดตั๊กลัม เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม

วัดตั๊กลัม (Truc Lam Monastery of Da Lat) เป็นวัดพุทธในนิกายเซนบนยอดเขาเฟืองฮว่าง นอกจากภายในบริเวณวัดจะมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม ยังมีการจัดตกแต่งภูมิทัศน์โดยรอบด้วยสวนดอกไม้สดสวย ถือเป็นวัดที่งดงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในดาลัด

อ่านต่อ

น้ำตกดาตันลา เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม

น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) ไม่เพียงแต่เป็นน้ำตกที่สวยงาม แต่ยังซ่อนเรื่องราวตำนานพื้นเมืองของดาลัดที่น่าสนใจเอาไว้ นอกจากสัมผัสความเย็นฉ่ำของละอองน้ำที่กระเซ็นจากม่านน้ำตกแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ คือการนั่งรถรางลัดเลาะไปตามเส้นทางที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันเขียวขจี

อ่านต่อ

เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม

เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก (Linh Phuoc Pagoda) วัดศาสนาพุทธนิกายเซนในดาลัด โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ตัวอาคารทำจากเศษกระเบื้องเคลือบงดงามวิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่ที่พันรอบองค์พระเจดีย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัด

อ่านต่อ

ฮาจิ เลน ประเทศสิงคโปร์

ตรอกฮาจิ หรือ ฮาจิ เลน (Haji Lane) ถนนสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาในย่านกัมปง กลาม (Kampong Glam) ของสิงคโปร์ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นในฐานะแหล่งรวมร้านค้าบูติก ร้านอาหาร คาเฟ่ และศิลปะบนท้องถนนที่น่าสนใจ ฮาจิ เลน ไม่เพียงแค่เป็นถนนสายช้อปปิ้ง แต่ยังเป็นเหมือนแกลเลอรี่กลางแจ้งที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของสิงคโปร์อีกด้วย

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ