6 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองนารา ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (4,187)
  • By Webmaster
  • 17:32:08 | 29 ม.ค. 2567

6 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองนารา ประเทศญี่ปุ่น

Top 6 Travel Destinations in Nara, Japan

             นารา (Nara) เขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ติดกับโอซาก้าและเกียวโต เป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน กรุ่นไปด้วยกลิ่นอายแห่งอดีต ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติที่เปี่ยมเสน่ห์ ในอดีตนาราเคยเจริญรุ่งเรืองในฐานะที่เป็นจุดหมายปลายทางของเส้นทางสายไหมและเคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น จึงไม่น่าแปลกใจที่จังหวัดแห่งนี้จะเป็นแหล่งรวมสถาปัตยกรรมสมบัติของชาติมากที่สุดในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปไดบุทสึ รวมถึงวัดและศาลเจ้าที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานอีกหลายแห่ง...Palanla จะพาไปชม 6 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองนาราที่เมื่อใครมาคงไม่อาจพลาดไปได้


แผนที่แสดงตำแหน่งของ 6 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองนารา


1. สวนสาธารณะนารา (Nara Park)

             สวนสาธารณะนารา (Nara Park)  เป็นหนึ่งในสวนสาธารณะเก่าแก่ของประเทศญี่ปุ่น พื้นที่ภายในสวนประกอบไปด้วยสถานที่สำคัญทั้งวัดโทไดจิ วัดโคฟุคุจิ ศาลเจ้าคาสุงะ ไทฉะ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดนารา นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถพบเจอกับฝูงกวางที่ใช้ชีวิตอยู่ตามธรรมชาติ ซึ่งกลายมาเป็นสัญลักษณ์และจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดนาราในปัจจุบัน โดยการพัฒนาพื้นที่สวนสาธารณะนั้นเพิ่งเริ่มทำอย่างจริงจังในช่วงยุคเมจิของญี่ปุ่น มีการเปิดสวนสาธารณะอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1880 จากนั้นจึงมีการนำต้นซากุระ และต้นเมเปิ้ลจำนวนมากมาปลูกในบริเวณสวนเพื่อเพิ่มความสวยงามในฤดูกาลต่างๆ รวมถึงการพัฒนาพื้นที่ด้านอื่นๆเรื่อยมาจนกลายเป็นหนึ่งในสวนสาธารณะที่มีความสวยงามมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบัน

ค่าเข้าชม : นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมสวนสาธารณะนาราได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

เวลาเปิด-ปิด : เนื่องจากสวนสาธารณะนาราเป็นสถานที่สาธารณะ จึงเปิดทำการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 34°41'05.9"N 135°50'34.8"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สวนสาธารณะนารา ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=119


2. ศาลเจ้าคาสุงะ ไทฉะ (Kasuga Taisha)

             ศาลเจ้าคาสุงะ ไทฉะ (Kasuga Taisha) เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต และยังถือเป็นศาลเจ้าประจำตระกูลฟุจิวะระ ซึ่งเป็นกลุ่มขุนนางที่เคยมีอำนาจและอิทธิพลอย่างยิ่งใหญ่ต่อราชสำนักญี่ปุ่นในยุคเฮอัน ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 768 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่เมืองนารากลายมาเป็นศูนย์กลางการเมืองการปกครองของประเทศญี่ปุ่นในขณะนั้น แม้ว่าหลังจากการย้ายเมืองหลวงจากนาราไปยังกรุงเกียวโต จะทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้ถูกลดความสำคัญลงไป แต่ศาลเจ้าแห่งนี้ก็ยังคงความศักดิ์สิทธิ์และมีผู้ศรัทธาเดินทางแวะเวียนมาบูชาจนถึงในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ของเมืองนารา ที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมภายใต้ชื่อ “อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์นาราโบราณ”

ค่าเข้าชม :  บริเวณรอบศาลเจ้าเข้าชมฟรี ส่วนอาคารหลักของศาลเจ้ามีค่าเข้าชม 500 เยน

                  สวนพฤกษศาสตร์ Manyo มีค่าเข้าชม 500 เยน

เวลาเปิด-ปิด : ศาลเจ้าแห่งนี้เปิดทำการทุกวัน

                     ระหว่างเดือนเมษายน – กันยายน เปิดทำการตั้งแต่ 06.00 - 18.00 น.

                     ระหว่างเดือนตุลาคม – มีนาคม เปิดทำการตั้งแต่ 06.30 - 17.00 น.

พิกัด GPS : 34°40'52.9"N 135°50'54.4"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ศาลเจ้าคาสุงะ ไทฉะ ได้ที่ https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=116


3. ศาลเจ้าทานซาน (Tanzan Shrine)

             ศาลเจ้าทานซาน (Tanzan Shrine) แต่เดิมมีชื่อว่า วัดโทโนะมิเนะ(Tonomine Temple) เป็นอีกหนึ่งศาลเจ้าประจำตระกูลฟูจิวาระ เช่นเดียวกับศาลเจ้าคาสุงะ ไทฉะ ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นในยุคอาซุกะ หรือราว ค.ศ. 538-710 โดยพระภิกษุโจเอ ซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของฟุจิวาระ โนะ คามาทาริ ผู้ก่อตั้งตระกูลฟุจิวาระในสมัยที่นาราเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น และกลายมาเป็นวัดที่องค์จักรพรรดิไดโกะ และองค์จักรพรรดิโกะ ฮานาโซโนะ ให้ความนับถือเป็นอย่างมาก ศาลเจ้าทานซานถือเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีขึ้นชื่อในนารา และมีเจดีย์ไม้สิบสามชั้น ซึ่งมีความเก่าแก่ และสามารถพบได้ที่เดียวในญี่ปุ่นเท่านั้น        

ค่าเข้าชม : ศาลเจ้าทานซานมีค่าเข้าชม 600 เยน

เวลาเปิด-ปิด : ศาลเจ้าทานซานเปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.00 น.

พิกัด GPS : 34°27'56.5"N 135°51'42.3"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ศาลเจ้าทานซาน ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=117


4. วัดโทไดจิ (Todaiji Temple) 

             วัดโทไดจิ สร้างขึ้นในยุคเทนเปียว หรือในช่วงปี ค.ศ. 745-752 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เมืองนาราทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางทางการเมืองและการปกครองของประเทศญี่ปุ่น โดยองค์จักรพรรดิโชมุมีความต้องการให้สร้างวัดขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของวัดทั้งหมดในประเทศ วัดแห่งนี้จึงเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปหลวงพ่อโต (ไดบุทสึ) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และอาคารหลักของวัดโทไดจิยังถือเป็นอาคารไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย วัดแห่งนี้ยังถือเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญของเมืองนารา ที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมภายใต้ชื่อ “อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์นาราโบราณ” ตั้งอยู่ที่เมืองนารา ประเทศญี่ปุ่น

ค่าเข้าชม :  วัดโทไดจิมีค่าเข้าชมบริเวณอาคารหลัก 500 เยน และมีบัตรเข้าชมทั้งอาคารหลักรวมถึงพิพิธภัณฑ์วัดโทไดจิ ราคา 800 เยน 

เวลาเปิด-ปิด : วัดโทไดจิเปิดทำการทุกวัน   

                     ระหว่างเดือนเมษายนถึงตุลาคม เปิดทำการตั้งแต่ 07.30 – 17.30 น.

                     ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม เปิดทำการตั้งแต่ 08.00 – 17.00 น.

พิกัด GPS : 34°41'19.9"N 135°50'23.1"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดโทไดจิ ได้ที่ https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=118


5. พระราชวังเฮโจ (Heijo Palace) 

             พระราชวังเฮโจ เป็นพื้นที่พระราชวังเดิมในสมัยที่นาราเคยเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น (ระหว่างค.ศ. 710-794 ) และเป็นหนึ่งในสถานที่ของเมืองนารา ที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมภายใต้ชื่อ “อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์นาราโบราณ” พระราชวังเฮโจ ครอบคลุมพื้นที่ 1 ตารางกิโลเมตร พระราชวังนี้ถูกสร้างขึ้นภายหลังจากการย้ายเมืองหลวงจาก “ฟูจิวาระเคียว” หรือบริเวณเขตคาชิฮาระ จังหวัดนารา มายังพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งของพระราชวังเฮโจ โดยทั้งการวางผังเมืองและผังพระราชวังนั้นได้รับอิทธิพลมาจากเมืองฉางอัน (ซีอาน) เมืองหลวงเก่าของประเทศจีนในขณะนั้น ภายในเขตพระราชวังมีการสร้างกลุ่มอาคารที่ทำการขึ้นมากมาย รวมถึงอาคาร Audience Hall หรือ Daigokuden ซึ่งเป็นอาคารที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดภายในพระราชวังเเห่งนี้ ใช้เป็นที่ประกอบพิธีกรรมต่างๆ มากมายพร้อมกับเป็นที่ประชุมของเหล่าบรรดาขุนนาง โดยอาคาร Audience Hall ที่เห็นในปัจจุบันนั้นเกิดจากการบูรณะครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 2010  ในโอกาสการเฉลิมฉลองที่นาราครบรอบ 1,300 ปีในการเป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ปราสาทนารา พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เฮโจเคียว และศูนย์จัดแสดงนิทรรศการ   

ค่าเข้าชม : นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมพระราชวังเฮโจได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

เวลาเปิด-ปิด : พระราชวังเฮโจเปิดทำการตั้งแต่ 09.00 – 16.30 น. และปิดทำการระหว่างช่วงปีใหม่ 29 ธันวาคม – 3 มกราคม

พิกัด GPS : 34°41'26.3"N 135°47'39.3"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พระราชวังเฮโจ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=120


6. วัดโคฟุคุจิ (Kofukuji Temple) 

             วัดโคฟุคุจิ (Kofukuji Temple) เป็นวัดที่มีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันสามร้อยปี หนึ่งในสถานที่ของเมืองนารา ที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมภายใต้ชื่อ “อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์นาราโบราณ” แห่งนี้ยังถือเป็นวัดประจำตระกูลฟุจิวะระ ซึ่งเป็นกลุ่มขุนนางที่เคยมีอำนาจและอิทธิพลอย่างยิ่งใหญ่ต่อราชสำนักญี่ปุ่นในยุคเฮอันเช่นเดียวกัน วัดโคฟุคุจิสร้างขึ้นในปีค.ศ. 669 โดยภรรยาของฟูจิวาระ โนะ คามาทาริ ด้วยจุดประสงค์เพื่อขอพรให้สามีของนางหายป่วย วัดแห่งนี้เคยถูกรื้อและย้ายไปสร้างใหม่ที่เมืองหลวง “ฟูจิวาระเคียว” หรือบริเวณเขตคาชิฮาระ จังหวัดนารา ก่อนที่จะทำการย้ายอีกครั้งมายังที่ตั้งในปัจจุบันเมื่อปีค.ศ. 710 หรือในช่วงที่นาราเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น วัดแห่งนี้เคยถูกทำลายลงด้วยเหตุการณ์ไฟไหม้และสงครามหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ได้รับการสร้างขึ้นใหม่ตามระยะเวลา ในอดีตบริเวณวัดเคยมีจำนวนอาคารต่างๆ มากกว่า 150 แห่ง แต่ปัจจุบันหลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่อาคารเท่านั้น หนึ่งในนั้นคืออาคารหลัก และเจดีย์ 5 ชั้น ที่มีความสูงเป็นอันดับสองในญี่ปุ่น  

ค่าเข้าชม :  พื้นที่โดยรอบวัดเข้าชมฟรี

                  National Treasure Museum มีค่าเข้าชม 600 เยน   

                  Eastern Golden Hall มีค่าเข้าชม 300 เยน  

                  (มีบัตรเข้าชมทั้งสองแห่งรวมกันจำหน่ายราคา 800 เยน)  

เวลาเปิด-ปิด : พื้นที่โดยรอบวัดเปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนอาคารภายในวัดเปิดทำการตั้งแต่ 09.00 – 17.00 น.  

พิกัด GPS : 34°40'57.7"N 135°49'55.3"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดโคฟุคุจิ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=121
 

ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ :

- เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ
  
 https://www.accuweather.com/

- เว็บไซต์การท่องเที่ยวจังหวัดนารา 
   https://www.visitnara.jp/

- สกุลเงินที่ใช้ : เยน (JPY)     


แอปพลิเคชัน "บริการรถแท็กซี่" ในประเทศญี่ปุ่น

- Uber สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)

- JapanTaxi สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
 

แอปพลิเคชัน "แผนที่ในการนำทาง" ในประเทศญี่ปุ่น

- Google Map สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
 

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น

จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa) เป็นเขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ใน ภูมิภาคคันโต ของประเทศญี่ปุ่น จังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายเมืองด้วยกัน อาทิ คามาคุระ (Kamakura) โยโกฮาม่า (Yokohama) และฮาโกเน่ (Hakone)…Palanla ได้รวบรวมเอา 11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ตั้งแต่ชายหาด พระใหญ่ วัดเก่าแก่ ศาลเจ้า ไชน่าทาวน์ สวนสนุก อควาเรียม ทะเลสาบ ไปจนถึงกระเช้าลอยฟ้าและจุดชมภูเขาไฟฟูจิ มาไว้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

สวนหลิวหยวน เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนหลิวหยวน หรือ สวนสิงโต (Lion Forest Garden) เป็นสวนจีนโบราณที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน สวนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของและชื่อหลายครั้งตลอดหลายศตวรรษ สวนหลิวหยวน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสวนคลาสสิกที่สำคัญที่สุดของซูโจว และเป็นส่วนหนึ่งของ "สวนคลาสสิกของซูโจว" ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ.2000

อ่านต่อ

สวนจัวเจิ้ง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนจัวเจิ้ง (Humble Administrator’s Garden) เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในซูโจวและได้ชื่อว่าเป็นสวนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีนตอนใต้ สวนแห่งนี้ถูกใช้เป็นฉากหลังของภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์จีนหลายเรื่องด้วยกัน และได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1997

อ่านต่อ

เนินเขาเสือ เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

เนินเขาเสือ หรือเนินหู่ชิว (Tiger Hill) ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในซูโจว นักท่องเที่ยวนิยมปีนขึ้นไปชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่มีเสน่ห์และโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าของซูโจว ไม่ว่าจะเป็นหลุมศพโบราณ บ่อน้ำ เจดีย์ และห้องสมบัติ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสความสวยงามของทิวทัศน์ในวรรณคดีจีนโบราณ โดยที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย

อ่านต่อ

ทะเลสาบจินจี เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ทะเลสาบจินจี (Jinji Lake) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในซูโจว ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสวนสาธารณะริมทะเลสาบ ศูนย์จัดแสดงสินค้า พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ฯลฯ ถือเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

ถนนซานถัง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ถนนซานถัง (Shantang Street) ถนนโบราณที่มีความเก่าแก่เกือบ 1,200 ปี ครั้งหนึ่งถนนสายนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ปัจจุบันซานถังยังคงเป็นถนนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยได้รับการยกย่องว่าเป็น “ภาพย่อของซูโจวเก่า” และยังถูกจัดอันดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAA ของประเทศ

อ่านต่อ

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น (Grand Canal National Culture Park) เป็นส่วนหนึ่งของคลองต้ายุ่นซึ่งทอดตัวยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร และเป็นแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรมสำคัญในประเทศจีนมานานกว่า 2,500 ปี ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

อ่านต่อ

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ

อ่านต่อ

ตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ