- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- มหาวิหารซาน โลเร็นโซ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
มหาวิหารซาน โลเร็นโซ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
- อ่าน (3,647)
- By Webmaster
- 14:24:49 | 24 พ.ย. 2563
มหาวิหารซาน โลเร็นโซ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
Basilica di San Lorenzo, Florence, Italy
มหาวิหารซาน โลเร็นโซ เมืองฟลอเรนซ์
มหาวิหารซาน โลเร็นโซ (Basilica di San Lorenzo) มหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งและเก่าแก่ที่สุดของเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี มีอายุกว่า 300 ปี นักท่องเที่ยวจะได้เห็นสถาปัตยกรรมภายนอกที่แม้ดูเรียบง่ายเนื่องจาก Façade ที่สวยงามไม่ได้ถูกประดับ แต่ภายในเป็นที่ฝังศพของบุคคลสำคัญในตระกูลเมดิซี โดยเฉพาะ Chapel of the Princes ที่ฝังศพแกรนด์ดยุคแห่งทัสคานี Cosimo III de' Medici ที่ตกแต่งด้วยหินอ่อนอย่างหรูหรา รวมถึงสถาปัตยกรรมภายในมหาวิหาร ห้องสมุด ห้องเก็บสมบัติเก่า และห้องเก็บสมบัติใหม่ เป็นดั่งที่รวมผลงานของยอดฝีมือทางสถาปัตยกรรมและจิตรกรรมยุคเรอนาสซองส์ไว้ จึงเป็นอีกสถานที่ไม่ควรพลาดมาชมอีกแห่งหนึ่ง
แผนที่ตั้ง มหาวิหารซาน โลเร็นโซ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
ประวัติ
มหาวิหารซาน โลเร็นโซ (Basilica di San Lorenzo) หรือ Basilica of St. Lawrence ตั้งอยู่บริเวณจัตุรัสซาน โลเร็นโซ เป็นมหาวิหารประจำเมืองมากว่า 393 ปีก่อนที่จะถูกย้ายไปทำพิธียังโบสถ์ Santa Reparata แทน มหาวิหารแห่งนี้เป็นมหาวิหารประจำตระกูลเมดิซี ในปี ค.ศ. 1419 จิโอวานนี ดิ บิชชี (Giovanni di Bicci) บรรพบุรุษของตระกูลได้ให้ฟิลิปโป ดิ แซร์ บรูเนลเลสกี (Fillippo di Ser Brunelleschi) ออกแบบโบสถ์ขึ้นใหม่เป็นศิลปะเรอนาสซองส์แทนโบสถ์เก่าในศตวรรษที่ 11ที่เป็นศิลปะโรมาเนสก์ แล้วสานต่อโดยอันโตนิโอ มาเนตติ (Antonio Manetti) แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1461 ตามพระประสงค์ของสมเด็จพระสันตะปาปาตระกูลเมดิซี ลีโอที่ 10 (Pope Leo X) และในปี ค.ศ. 1518 มหาวิหารเกือบจะสมบูรณ์ด้วย Façade หินอ่อนสีขาวจากเมืองคาร์รารา ผลงานมิเคลันเจโล แต่ขาดเงินทุนเสียก่อนจึงค้างไว้เช่นนั้น
มหาวิหาร, หอระฆัง และโดม Chapel of the Princes ขอบคุณภาพจาก https://www.firenzelodging.it
รูปปั้น Giovanni dalle Bande Nere บิดาของ Cosimo I de' Medici สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16
ภายในมหาวิหารแบ่งเป็นส่วนต่างๆ ดังนี้
1.อาคารทางเดินสองชั้น (Cloister) ขอบระเบียงหลังคาทรงโค้งศิลปะฟลอเรนทีน มีพื้นที่สีเขียวอยู่ตรงกลาง เชื่อมต่อไปยังพิพิธภัณฑ์ชั้นใต้ดินที่ใช้เก็บของมีค่าและเป็นที่ฝังศพของศิลปินเอก โดนาเทลโล (Donatello) และ Cosimo de Medici
2. ห้องสมุดตระกูลเมดิซี (The Medicea Laurenziana) ออกแบบโดยมิเคลันเจโล รวบรวมหนังสือไว้กว่า 3,000 เล่ม (มีค่าเข้าชม 3 ยูโร) ไม่ได้เปิดตลอดเวลาแต่จะเปิดเมื่อมีนิทรรศการ
3. ภายในมหาวิหาร เป็นเพดานที่เรียบง่าย มีเสาปิเอตรา เซเรน่า (Pietra Serena) ที่ทำจากหินทรายสีเทาที่นิยมใช้ในสมัยเรอนาสซองส์ ออกแบบโดยฟิลิปโป บรูเนลเลสกี
4. ห้องเก็บสมบัติเก่า (The Old Sacristy) เป็นส่วนเก่าที่สุดของวิหาร อยู่ทางด้านเหนือของวิหาร เป็นห้องสี่เหลี่ยมที่มีเพดานโดม ใช้เป็นที่เก็บสมบัติและฝังศพสมาชิกตระกูลเมดิซี ออกแบบโดยบรูเนลเลสกี นอกจากนี้ยังมีผลงานแกะสลักชิ้นเอกของ Donatello ในช่วงปี ค.ศ. 1428 – 1443 อยู่ด้วย
5. ห้องเก็บสมบัติใหม่ (The New Sacristy หรือ Medici Chapels) อยู่ทางตอนใต้ของวิหาร สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1520 ใช้เป็นที่เก็บศพของคนตระกูลเมดิซี โดยมีรูปปั้นสัญลักษณ์ทั้ง 4 คือ Day, Night อยู่หน้าที่ฝังศพดยุคแห่ง Nemours และ Dawn, Dusk อยู่หน้าที่ฝังศพดยุคแห่ง Urbino นอกจากนี้ยังมีรูปปั้น Madonna with Child ทั้งการออกแบบห้องและประติมากรรมโดยมิเคลันเจโล
6. Chapel of the Princes เป็นส่วนที่หรูหราที่สุดทางด้านทิศตะวันออก สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ความยิ่งใหญ่ของตระกูลเมดิซี โดยเฉพาะที่ฝังศพอันสวยงามอลังการของแกรนด์ดยุคแห่งทัสคานี สร้างในระหว่างปี ค.ศ. 1604 – 1640 เป็นศิลปะแบบบาโรก ตกแต่งด้วยหินอ่อนหลากสี โดยสถาปนิก Matteo Nigetti ออกแบบโดย Don Giovanni de' Medici เพดานโดมแปดเหลี่ยมเป็นภาพ Fresco เรื่องราวพันธะสัญญาเก่าและใหม่ในพระคัมภีร์ ผลงานของ Pietro Benvenuti
ภายในมหาวิหาร ออกแบบโดย Filippo Brunelleschi ขอบคุณภาพจาก http://www.museumsinflorence.com
รูปปั้น Dawn and Dusk บนที่ฝังศพ Lorenzo ดยุคแห่ง Urbino และรูปปั้น Day and Night บนที่ฝังศพ Giuliano ดยุคแห่ง Nemours ผลงาน Michelangelo ภาพจาก http://www.museumsinflorence.com
Madonna with Child ผลงานของ Michelangelo ขอบคุณภาพจาก http://www.museumsinflorence.com
การเดินทางจากสนามบินฟลอเรนซ์ เปเรโตลา ไปยังตัวเมืองฟลอเรนซ์
- รถยนต์ (Car) จากสนามบินฟลอเรนซ์ เมืองเปเรโตลา ไปยังบริเวณสถานีรถไฟกลาง Firenze S.M.N. ระยะทางประมาณ 8.2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร
- รถชัตเติลบัส (Shuttle Bus) จอดบริเวณอาคารผู้โดยสารขาเข้าและขาออกไปส่งยังสถานีรถไฟกลาง Firenze S.M.N. ให้บริการตั้งแต่เวลา 5.30 น. จนถึงเวลา 00.30 น. รถออกทุก 30 นาที ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ค่าโดยสารราคา 6 ยูโร สามารถซื้อตั๋วได้ที่ขายตั๋วภายในสนามบิน และทุกที่ขายตั๋วผู้โดยสารบริษัท ATAF หรือที่คนขับโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (เงินสด)
- รถไฟ (Train) ขึ้นรถรางสาย T2 ที่สถานี Peretola Aeroporto ไปลงที่สถานีรถราง Unita ซึ่งอยู่ติดกับสถานีรถไฟกลาง Firenze S.M.N. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 22 นาที
- รถแท็กซี่ (Taxi) สามารถขึ้นได้ที่จุดจอดรถแท็กซี่บริเวณอาคารผู้โดยสารขาออก ราคาประมาณ 22 ยูโร / วันอาทิตย์ราคา 24 ยูโร / วันหยุดพิเศษและตั้งแต่เวลา 22.00 น. – 06.00 น. ราคา 25 ยูโร และมีค่าภาษีสนามบิน 2.70 ยูโร หากมีสัมภาระจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มใบละ 1 ยูโร สูงสุด 7 ใบ ใช้เวลาเดินทางไปยังตัวเมืองฟลอเรนซ์ประมาณ 15 นาที โทร. (+39) 055-4242 / 055- 4390 / 055-4798
การเดินทางไปมหาวิหาร San Lorenzo
เมืองฟลอเรนซ์เป็นเมืองขนาดเล็ก สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองอยู่ไม่ห่างกันมากนัก นักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าไปยังสถานที่ต่างๆ ได้สะดวกกว่าการใช้รถ เพราะภายในเขตเมืองเก่าอนุญาตให้คนในพื้นที่เข้าจอดเท่านั้น รถอื่นให้จอดบริเวณจุดจอดรอบนอกและอาจมีค่าผ่านทาง
- การเดิน (Footpath) จากสถานีรถไฟกลาง Firenze S.M.N. ไปยังมหาวิหาร San Lorenzo ระยะทางประมาณ 600 เมตร ใช้เวลาประมาณ 7 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด
เปิดทำการวันจันทร์ – วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 17.00 น. ปิดทำการวันอาทิตย์
อัตราค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ มีค่าเข้าชม 8 ยูโร เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีเข้าชมฟรี
ส่วนของห้องสมุดและส่วนอื่นๆ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปมหาวิหาร San Lorenzo
ชมห้องเก็บสมบัติเก่า ผลงานชิ้นเอกในศตวรรษที่15 ออกแบบโดย Brunelleschi, ห้องเก็บสมบัติใหม่ที่มีรูปปั้น Day, Night , Dawn, Dusk ผลงานของ Michelangelo และ Chapel of the Princes ที่ฝังศพแกรนด์ดยุคแห่งทัสคานีที่ตกแต่งด้วยหินอ่อนหลากสีอย่างหรูหราอลังการ
ข้อมูลที่ควรรู้
การซื้อตั๋วล่วงหน้าสามารถทำได้ก่อนเป็นสัปดาห์ตามพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ในเมืองฟลอเรนซ์ที่เป็นของรัฐ โดยเสียค่าธรรมเนียมประมาณ 3 ยูโร หรือโทรติดต่อที่ฟิเรนเซ่มูเซย์ (Firenze Musei) โทร. (+39) 055-294-883 หรือซื้อตั๋วออนไลน์ได้ที่ www.weekendafirenze.com เสียค่าธรรมเนียมใบละ 6.80 ยูโร จองได้ครั้งละไม่เกิน 3 ใบ ล่วงหน้าได้ 3 วัน แล้วนำสำเนาอีเมลไปยื่นเจ้าหน้าที่
ภายในเมืองฟลอเรนซ์มีพิพิธภัณฑ์หลายแห่งที่จะต้องเสียค่าเข้าชม จึงได้มีการออกบัตร Firenze Card ที่สามารถเข้าชมได้หลายพิพิธภัณฑ์ในราคาที่ถูกกว่าปกติ คือ บัตรราคา 85 ยูโร สามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ในเมืองฟลอเรนซ์ได้ 72 ชั่วโมง ได้แก่ Galleria Palatina, Appartamenti Monomentali, Pallazzo Piti, Museo Nazionale del Bargello, Museo delle Cappelle Medicee รวมถึงหอศิลป์ Uffizi Gallery และพิพิธภัณฑ์ Galleria dell' Accademia ที่มีผู้สนใจเข้าชมเป็นจำนวนมาก ต้องเข้าคิวเป็นเวลานานด้วย เหมาะสำหรับผู้ต้องการเที่ยวภายในเมืองฟลอเรนซ์ 3 วันขึ้นไป สนใจประวัติศาสตร์ศิลปะและไม่ต้องการต่อคิว สามารถซื้อได้ที่จุดขายในเมืองฟลอเรนซ์หรือทางออนไลน์ที่ http://www.firenzecard.it/ แล้วโหลดแอพพลิเคชั่น Firenzecard เพื่อเป็นบัตรผ่านดิจิตอลหรือปริ้นท์ออกมาเพื่อไปรับบัตรจริงได้ที่พิพิธภัณฑ์แรกที่เข้าชม แล้วลงทะเบียนยืนยันวันเดือนปีที่เริ่มใช้บัตรก่อนโดยแต่ละพิพิธภัณฑ์อาจมีจุดออกใบเสร็จอยู่ที่ประตูทางเข้า, ร้านหนังสือ หรือเคาน์เตอร์ขายตั๋วปกติ
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
เดือนที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวคือเดือนพฤษภาคม, มิถุนายน, กันยายนและตุลาคม เพราะเป็นช่วงที่อากาศกำลังสบายไม่หนาวหรือร้อนเกินไป นักท่องเที่ยวไม่มากนัก ส่วนเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมจะมีอากาศร้อนและมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเพราะเป็นช่วงหยุดซัมเมอร์ของทางยุโรป และที่พักราคาสูงกว่าปกติ ที่นั่งในรถไฟอาจเต็ม จึงควรจองตั๋วหรือซื้อบัตรล่วงหน้าทางเว็บไซต์มาก่อน
ข้อแนะนำในการเข้าชม
ในการเข้าชมศาสนสถานในเมืองฟลอเรนซ์นั้นนักท่องเที่ยวควรแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย ไม่สวมรองเท้าแตะ ใส่กางเกงขาสั้น เสื้อกล้าม เสื้อสายเดี่ยวหรือเปลือยไหล่เพื่อเป็นการเคารพสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์
ความสวยงามของ Chapel of the Princes ขอบคุณภาพจาก http://www.museumsinflorence.com
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม บาซิลิกา ดิ ซาน โลเร็นโซ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
มหาวิหารซาน โลเร็นโซ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
(Basilica di San Lorenzo, Florence, Italy)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ราคา 8 ยูโร เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์ – วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 17.00 น. ปิดทำการวันอาทิตย์
ตั้งอยู่ที่ : Piazza di San Lorenzo, เมืองฟลอเรนซ์, ประเทศอิตาลี
โทรศัพท์ : (+39) 055-216-634
เว็บไซต์ : http://www.museumsinflorence.com
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
การท่องเที่ยวเมืองฟลอเรนซ์ https://www.florence-carhire.net/th/ , https://www.florence.net
พิพิธภัณฑ์ในเมืองฟลอเรนซ์ http://www.museumsinflorence.com
การท่องเที่ยวในแคว้นทัศคานี https://www.visittuscany.com/en/
การท่องเที่ยวในประเทศอิตาลี http://www.italia.it/en/home.html
ระบบขนส่งสาธารณะในประเทศอิตาลี http://www.italia.it/en/useful-info/how-to-arrive.html
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อรวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อ