- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- เมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม
เมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม
- อ่าน (4,685)
- By Webmaster
- 17:29:38 | 26 ธ.ค. 2562
เมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม
Antwerp, Belgium
เมืองท่าสำคัญที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเบลเยียมแห่งนี้ คือเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเยี่ยมเยือนกันไม่ขาดสาย เพราะเปี่ยมไปด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรมเก่าแก่ มีสถานที่ท่องเที่ยวระดับแลนด์มาร์กที่โดดเด่นไม่แพ้เมืองบรัสเซลส์หลายแห่ง และด้วยความที่เป็นเมืองท่า ทำให้ต้องมีการติดต่อค้าขายกับคนต่างชาติตลอดเวลา เกิดเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และแอนต์เวิร์ปยังถือตำแหน่งศูนย์กลางการค้าเพชรระดับโลก ควบเมืองไอคอนแฟชั่นสมัยใหม่ที่มีแบรนด์ดีไซเนอร์ระดับโลกมาตั้งหลักแหล่งอยู่ที่นี่มากมาย
แผนที่ตั้งสถานีรถไฟกลางเมืองแอนต์เวิร์ป เมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม
การเดินทางจากสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ไปยังสถานีรถไฟกลางเมืองแอนต์เวิร์ป
ด้วยความที่เบลเยียมเป็นประเทศที่มีขนาดเล็ก ประกอบกับระบบขนส่งสาธารณะที่มีคุณภาพ และทั่วถึง ทำให้จากเมืองบรัสเซลส์ซึ่งเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่นที่สุดในประเทศ สามารถเดินทางไปยัง เมืองแอนต์เวิร์ปได้อย่างรวดเร็ว และสะดวกสบาย
- รถยนต์ จากสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ ไปยังสถานีรถไฟกลางเมืองแอนต์เวิร์ป ระยะทางประมาณ 53 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 42 นาที
- รถไฟ จากสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ ให้ขึ้นรถไฟสาย IC เพื่อไปลงที่สถานีรถไฟกลางเมืองแอนต์เวิร์ปได้เลย (V.Acquanera Station) ระยะทางประมาณ 53 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที
แผนที่สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองแอนต์เวิร์ป
สถานีรถไฟกลางเมืองแอนต์เวิร์ป (Antwerpen Centraal)
เพียงก้าวเท้าออกมาจากตู้โบกี้เพื่อเข้าสู่สถานีรถไฟกลางเมืองแอนต์เวิร์ป เราก็จะได้พบกับสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่า และงดงามที่สุดหลังหนึ่งของเมืองอย่างอาคารที่ตั้งของตัวสถานีรถไฟ โดยถูกสร้างขึ้นมาครั้งแรกในปี 1895 ตัวอาคารทำจากหิน และเสริมความแข็งแรงด้วยเหล็กกับกระจก ลักษณะโดยรวมของอาคารจะเป็นโดมขนาดใหญ่ซึ่งขนาบด้วยโดมเล็กกว่าอีกสองหลังพร้อมปีกอาคารซ้ายขวา ในส่วนของโถงหลักของสถานีได้รับการออกแบบโดย หลุยส์ เดลาเซนเซรี (Louis Delacenserie) ที่เนรมิตให้พื้นที่ภายในดูสวยงามราวกับพระราชวัง จนถูกยกให้เป็นต้นแบบที่นำไปใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสถานีรถไฟอีกหลายแห่งทั่วประเทศเบลเยียม และในปี 2009 นิตยสารอเมริกันชื่อดัง นิวส์วีก (Newsweek) ได้ยกให้สถานีรถไฟกลางเมืองแอนต์เวิร์ป เป็นสถานีรถไฟกลางที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอันดับสี่ของโลก และยังได้รางวัลมรดกทางวัฒนธรรมจากสหพันธรัฐมรดกทางวัฒนธรรมแห่งยุโรป (Europa Nostra) ด้วย
มาที่หัวใจหลักของสถานีอย่างเส้นทางวิ่งของรถไฟ จะแบ่งออกเป็น 4 ชั้น บนดิน 2 ชั้น ใต้ดิน 2 ชั้น รวมทั้งหมด 24 ชานชาลา โดยมีสายบริการตั้งแต่ระดับท้องถิ่นไปจนถึงรถไฟหัวจรวดที่ทอดยาวไปยังประเทศอื่นๆ ในแถบสหภาพยุโรป ส่วนของพื้นที่เชิงพาณิชย์ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับผู้โดยสารที่เข้ามาใช้บริการหนาแน่นทุกวันได้อย่างครอบคลุม บวกกับสถาปัตยกรรมอันวิจิตรทำให้ผู้โดยสารสามารถใช้เวลาเดินเที่ยวอยู่ในสถานีได้แบบเพลิดเพลิน ไม่ต้องเผชิญกับความเบื่อหน่ายในการรอเที่ยวรถไฟนานๆ แน่นอน เรียกว่าเป็นระบบขนส่งสาธารณะขั้นพื้นฐานที่สะท้อนถึงความเท่าเทียมทางสังคม และการเข้าถึงคุณภาพชีวิตที่ดี ที่ชาวเบลเยียมได้รับมานานนับร้อยปี
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : ตลอดเวลา
ข้อมูลการเดินทาง : จากสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ ให้ขึ้นรถไฟสาย IC เพื่อไปลงที่สถานีรถไฟกลางเมืองแอนต์เวิร์ปได้เลย (V.Acquanera Station) ระยะทางประมาณ 53 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที
พิกัด GPS : 51°13'02.1"N 4°25'17.4"E
จัตุรัสกลางเมืองแอนต์เวิร์ป (Grote Markt)
ศูนย์กลางทางสถาปัตยกรรม การดำเนินงาน วัฒนธรรม ตลอดจนการใช้ชีวิตของคนในเมืองแห่งนี้ คือจัตุรัสทรงสามเหลี่ยมปูด้วยหิน ที่แวดล้อมไปด้วยอาคารสำคัญที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ในสถาปัตยกรรมสไตล์เรอเนซองส์ ที่ผสานไปกับวิธีคิดแบบเฟลมิชได้อย่างลงตัว และเป็นเอกลักษณ์ ทั้งศาลาว่าการเมือง หรือจะเป็นกิลด์ฮอลล์ (Guild Hall) กลุ่มอาคารทอดยาวต่อกัน 7 หลังที่ถูกใช้เป็นพื้นที่หลักในการพบปะสังสรรค์ และดำเนินงานสำคัญของกลุ่มกิลด์ สมาคมช่างฝีมือเก่าแก่ของประเทศ โดยความโดดเด่นของอาคารที่สังเกตได้ชัดเจนจะมีตั้งแต่หน้าจั่วที่ได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตร และบนหลังคาของอาคารหลายหลังยังมีรูปปั้นสีทองประดับเอาไว้อย่างสวยงาม
และบริเวณกลางจัตุรัสเชื่อว่าทุกคนจะต้องสังเกตเห็นประติมากรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดชิ้นหนึ่งของเมืองแอนต์เวิร์ปอย่าง รูปปั้นน้ำพุบราโว่ (Brabo Fountain) ที่สร้างขึ้นมาในปี 1887 โดยประติมากรชาวเบลเยียมนาม เจฟย์ แลมบักซ์ (Jef Lambeaux) โดยมีตำนานเล่าขานว่าชายที่อยู่ในอิริยาบถกำลังขว้างมือที่ถูกตัดนี้ คือแม่ทัพชาวโรมันที่สามารถตัดมือยักษ์ใจร้ายที่คอยลงโทษชาวเดินเรือซึ่งไม่ยอมจ่ายค่าผ่านทางในการล่องแม่น้ำสเกลต์ (Scheldt River) เข้ามายังเมืองแอนต์เวิร์ป นับเป็นประติมากรรมที่สื่อถึงการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง การปกครองของแอนต์เวิร์ปได้เป็นอย่างดี
โดยปัจจุบันจัตุรัสกลางเมืองแห่งนี้ยังเป็นพื้นที่จัดกิจกรรมรื่นเริงต่างๆ หลายงาน ทั้งตลาดคริสต์มาส หรือลานสเก็ตน้ำแข็งในฤดูหนาว และแวดล้อมไปด้วยร้านอาหารท้องถิ่นที่รอให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปหาชิมหลายร้าน นับเป็นย่านที่มีความคึกคัก และเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวาตลอดทั้งวัน จนถูกยกให้เป็นแลนด์มาร์กที่ต้องมาเยือนกันให้ได้สักครั้งเวลามาเมืองแอนต์เวิร์ป
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : ตลอดเวลา
ข้อมูลการเดินทาง : จากสถานีรถไฟกลางเมืองแอนต์เวิร์ป ให้ขึ้นรถรางหมายเลข 9 ที่สถานีรถราง Antwerpen Diamant เพื่อไปลงที่สถานี Antwerpen Groenplaats แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 350 เมตรก็จะถึงจัตุรัสกลางเมืองแอนต์เวิร์ป ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 นาที
พิกัด GPS : 51°13'16.0"N 4°24'01.4"E
ศาลาว่าการเมืองแอนต์เวิร์ป (Antwerp City Hall)
ศาลาว่าการเมืองเริ่มสร้างขึ้นมาในปี 1561 และเสร็จในปี 1564 เป็นอาคารยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ (Renaissance) ที่เข้ามาทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการดำเนินงานหลังจากแอนต์เวิร์ปก้าวขึ้นมาเป็นท่าเรือการค้าที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในแถบยุโรปตอนเหนือช่วงศตวรรษที่ 16 โดยตัวอาคารจะมีลักษณะเป็นซุ้มโค้งอิฐแดงที่ขนาบด้วยปีกอาคารสูงใหญ่ซ้ายขวา มีเสาไอโอนิกสองต้นประดับอยู่ด้านบนอาคาร ซึ่งตรงกลางของชายคายังมีประติมากรรมรูปปั้นหญิงที่แสดงถึงความยุติธรรม ส่วนภายในอาคารก็ได้รับการออกแบบอย่างหรูหรา และประกอบไปด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังที่บันทึกเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองแอนต์เวิร์ปได้อย่างสมจริง เป็นที่เก็บมรดกทางวัฒนธรรมชิ้นสำคัญของเมือง มีภาพเขียนผู้ปกครองคนสำคัญของเบลเยียมหลายภาพ และตลอดผนังด้านหน้าของอาคารจะมีธงชาติของประเทศสมาชิกในสหภาพยุโรปเพื่อสื่อถึงสัมพันธภาพอันดีระหว่างกันของแต่ละประเทศ นับเป็นศาลาว่าการเมืองที่สร้างอิทธิพลให้เกิดสถาปัตยกรรมสไตล์เดียวกันเกิดขึ้นอีกหลายแห่งทั่วยุโรป
ค่าเข้าชม : สามารถเข้าชมได้ผ่านการจองทัวร์ที่สำนักงานการท่องเที่ยวเมืองแอนต์เวิร์ป
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08:30 น. – 17:30 น.
ข้อมูลการเดินทาง : จากสถานีรถไฟกลางเมืองแอนต์เวิร์ป ให้ขึ้นรถรางหมายเลข 9 ที่สถานีรถราง Antwerpen Diamant เพื่อไปลงที่สถานี Antwerpen Groenplaats แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 300 เมตรก็จะถึงศาลาว่าการเมืองแอนต์เวิร์ป ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 นาที
พิกัด GPS : 51°13'16.9"N 4°23'57.3"E
โบสถ์อาวร์เลดี้ (Cathedral of Our Lady)
โบสถ์ที่มีขนาดใหญ่ และสูงที่สุดในประเทศเบลเยียมแห่งนี้ เป็นโบสถ์อายุกว่า 169 ปี ซึ่งสร้างขึ้นระหว่างปี 1325-1521 โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตัวโบสถ์ก็ได้รับการบูรณะปรับปรุงหลายครั้ง ในรูปแบบสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกันไปทั้ง กอธิค, ฟื้นฟูศิลปวิทยา, บาร็อค ฯลฯ ทำให้โครงสร้างของโบสถ์มีเอกลักษณ์ และแง่มุมน่าเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมในศาสนาคริสต์หลายจุด โดยผู้อุปถัมภ์ของโบสถ์จะเป็นพระแม่มารีย์ (Blessed Virgin Mary) ทำให้ผู้ชมจะพบว่าการออกแบบพื้นที่ภายใน ตลอดจนงานศิลป์ทางศาสนาที่ประดับอยู่ที่โบสถ์ จะเน้นไปที่การเคารพพระแม่มารีย์เป็นหลัก ส่วนทางเข้าด้านหน้าจะเป็นประตูไม้ขนาดใหญ่ที่ประดับไปด้วยประติมากรรมแกะสลักอันตระการตา มาที่หอคอยด้านทิศเหนือจะมีความสูงถึง 123 เมตร ทำให้สามารถมองเห็นตัวโบสถ์ได้จากระยะไกล ส่วนหอคอยด้านทิศใต้จะมีความสูง 65.30 เมตร พื้นที่ด้านในโบสถ์จะมีความยาว 118 เมตร ความกว้าง 67 เมตร ตรงกลางจะมีเสาหินอ่อนงดงามจำนวน 48 ต้น ตั้งเรียงต่อไปถึงแท่นบูชาหลักที่ได้รับการรังสรรค์อย่างละเอียดลออ รองรับผู้มาเยี่ยมชมได้ถึง 2,400 ที่นั่ง มีหอระฆังคาริลจำนวน 49 ใบ ที่พร้อมสร้างเสียงอันไพเราะขับกล่อมผู้มาเยือนตลอดเวลา และระหว่างที่เดินชมมรดกทางศาสนาคริสต์ที่สั่งสมกันมานานนับร้อยปี นักท่องเที่ยวยังจะได้สัมผัสความละลานตาจากหน้าต่างกระจกสีซึ่งบอกเล่าเหตุการณ์ที่พระแม่มารีย์เข้าไปมีบทบาทสำคัญทางศาสนาคริสต์ผ่านหน้าต่าง 55 บาน นับเป็นโบสถ์ที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่สุดหลังหนึ่งของประเทศ และเปิดต้อนรับผู้มาเยือนกว่า 360,000 คนต่อปี
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 8 ยูโร / นักเรียน, นักศึกษา, ผู้สูงอายุ 6 ยูโร / อายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-วันศุกร์ เปิดเวลา 10:00 น. – 17:00 น. / วันเสาร์ เปิดเวลา 10:00 น. – 15:00 น. / วันอาทิตย์กับวันหยุดประจำชาติ เปิดเวลา 13:00 น. – 17:00 น.
ข้อมูลการเดินทาง : จากสถานีรถไฟกลางเมืองแอนต์เวิร์ป ให้ขึ้นรถรางหมายเลข 9 ที่สถานีรถราง Antwerpen Diamant เพื่อไปลงที่สถานี Antwerpen Groenplaats แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 300 เมตรก็จะถึงโบสถ์อาวร์เลดี้ ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 นาที
พิกัด GPS : 51°13'13.0"N 4°24'05.6"E
สวนสัตว์แอนต์เวิร์ป (ZOO Antwerp)
ทางเข้าด้านหน้าสวนสัตว์แอนต์เวิร์ป
สวนสัตว์ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 1843 ขึ้นแท่นเป็นสวนสัตว์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศเบลเยียม โดยตั้งแต่เปิดให้บริการสวนสัตว์แห่งนี้ก็มีการส่งเสริมด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่ามาอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับสัตววิทยากับพฤกษศาสตร์ด้วย ซึ่งปัจจุบันมีสัตว์ที่อยู่ในความดูแลของที่นี่กว่า 7,000 สายพันธุ์ และมีสวนที่เต็มไปด้วยพืชอนุรักษ์หลายชนิด ทั้งอาคารต่างๆ ที่ตั้งอยู่ภายในสวนสนุก ยังมีความงดงามทางสถาปัตยกรรม จากการก่อสร้างมานานปี โดยในแต่ละวันทางสวนสัตว์จะมีกิจกรรม, การแสดงโชว์, นิทรรศการ ฯลฯ เกี่ยวกับสัตว์ต่างๆ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้า ตลอดจนความสนุกสนานแก่ผู้เข้ามาใช้บริการที่รับรองว่าจะได้เห็นแง่มุมที่งดงาม และความรู้สึกดีๆ จากเพื่อนร่วมโลกต่างสายพันธุ์กลับไปแบบเต็มเปี่ยมแน่นอน
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 23 ยูโร / นักเรียน-นักศึกษา 20.50 ยูโร / ผู้สูงอายุ 22 ยูโร / อายุต่ำกว่า 3 ปีเข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 10:00 น. - 16:45 น.
ข้อมูลการเดินทาง : จากสถานีรถไฟกลางเมืองแอนต์เวิร์ป สามารถเดินไปยังสวนสัตว์แอนต์เวิร์ป ได้เลย ระยะทางประมาณ 150 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 3 นาที
พิกัด GPS : 51°12'58.8"N 4°25'24.9"E
ปราสาทหิน (Het Steen Castle)
บริเวณด้านหน้าปราสาทหินเมืองแอนต์เวิร์ป
ปราสาทหินที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสเกลต์ (Scheldt River) นี้ คือด่านหน้าหลักของแนวรบในสมัยอดีต มีป้อมปราการหลักที่ผ่านจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์ของเมืองแอนต์เวิร์ปมาหลากยุคสมัย โดยในปี 1520 ปราสาทแห่งนี้ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ให้กลายมาเป็นปราสาทสำคัญของประเทศ และเคยถูกใช้เป็นคุกสำหรับขังนักโทษในปี 1827 – 1846 ก่อนที่ต่อมาในปี 1890 ปราสาทแห่งนี้จะถูกปรับให้เป็นพิพิธภัณฑ์โบราณคดี และอนุสรณ์สถานจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งจุดเด่นอีกอย่างของปราสาทคืองานประติมากรรมขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าอย่าง แลงค์ แวปเปอร์ (Lange Wapper) ตัวละครยักษ์ในตำนานจากนิทานพื้นบ้านเก่าแก่ของเมืองแอนต์เวิร์ป ซึ่งเป็นมุมถ่ายรูปยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวไม่เคยพลาดเวลามาเยือนปราสาท
ค่าเข้าชม : ปัจจุบันปราสาทหินกำลังปิดปรับปรุงพื้นที่ภายใน แต่นักท่องเที่ยวยังสามารถมาเยี่ยมชมพื้นที่โดยรอบปราสาทได้ฟรี
เวลาเปิด-ปิด : ตลอดเวลา
ข้อมูลการเดินทาง : จากสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ สามารถขึ้นรถรางหมายเลข 3 หรือหมายเลข 5 ที่สถานี Antwerpen Astrid ไปลงที่สถานี Antwerpen Groenplaats แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 500 เมตร ก็จะถึงปราสาทหิน ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 13 นาที
พิกัด GPS : 51°13'21.8"N 4°23'50.6"E
แอนต์เวิร์ป ไชน่าทาวน์ (Antwerp Chinatown)
ซุ้มประตูบอกเขตแดนไชน่าทาวน์ที่ตั้งอยู่ในเมืองแอนต์เวิร์ป
แอนต์เวิร์ป ไชน่าทาวน์ นับเป็นย่านที่มีความเข้มข้นทางวัฒนธรรมของชาวจีนที่สุดของเมือง จุดกำเนิดของไชน่าทาวน์แห่งนี้ เริ่มมาจากธุรกิจร้านอาหารจีนที่เข้ามาเปิดในเมืองก่อนจะพัฒนามาเป็นพื้นที่ทางสังคมของคนจีนที่มีความเก่าแก่ และได้รับสถานะให้เป็นไชน่าทาวน์ในปี 2001
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : ตลอดเวลา
ข้อมูลการเดินทาง : จากสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ สามารถเดินไปยังแอนต์เวิร์ป ไชน่าทาวน์ ได้เลย ระยะทางประมาณ 300 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 3 นาที
พิกัด GPS : 51°13'12.3"N 4°25'14.7"E
สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอื่นๆ ภายในเมืองแอนต์เวิร์ป
นอกจากแลนด์มาร์กต่างๆ ที่นำมาฝากกันในบทความแล้ว ทาง Palanla ยังมีการนำภาพสวยๆ ที่เก็บตกมาจากการตระเวนเที่ยวเมืองแอนต์เวิร์ปมาให้ชมกันเพิ่มเติมด้วย
ร้านอาคารริมแม่น้ำเมืองแอนต์เวิร์ป
อาคารและถนนหนทางภายในเมืองแอนต์เวิร์ป
อาคารและถนนหนทางภายในเมืองแอนต์เวิร์ป
สถาปัตยกรรมของโรงแรมในเมืองแอนต์เวิร์ป
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว เมืองแอนต์เวิร์ป สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
เมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม
(Antwerp, Belgium)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : เมืองแอนต์เวิร์ป, ประเทศเบลเยียม
โทรศัพท์ : (+32) 3-232-01-03
เว็ปไซต์ : https://www.visitantwerpen.be/en/home
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์สำนักงานการท่องเที่ยวประเทศเบลเยียม http://walloniabelgiumtourism.co.uk/
เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองแอนต์เวิร์ป https://www.visitantwerpen.be/en/home
เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อรวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อ