- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- หอสมุดแห่งชาติออสเตรีย เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
หอสมุดแห่งชาติออสเตรีย เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
- อ่าน (5,060)
- By Webmaster
- 15:38:46 | 20 ก.ย. 2562
หอสมุดแห่งชาติออสเตรีย เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
Austrian National Library, Vienna, Austria
หอสมุดแห่งชาติออสเตรีย (Austrian National Library) เป็นหนึ่งในห้องสมุดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยเป็นห้องสมุดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเป็นห้องสมุดสถาปัตยกรรมรูปแบบบาร็อคที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป
ประวัติ
หอสมุดแห่งชาติออสเตรีย (Austrian National Library) เป็นหอสมุดสไตล์บารอคที่งดงามตั้งอยู่ภายในพระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace) สร้างโดยพระเจ้า Charles ที่ 6 แห่งราชวงศ์ฮอฟบวร์กเพื่อใช้เป็นห้องสมุดแห่งราชสำนักเมื่อศตวรรษที่ 18 หอสมุดแห่งนี้เป็นสถานที่ซึ่งเก็บรวบรวมหนังสือไว้มากที่สุดในประเทศออสเตรีย และยังเป็นหอสมุดที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ปัจจุบันหอสมุดที่สวยงามและอลังการแห่งนี้ได้ถูกพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งเช่นเดียวกับพระราชวังใหญ่ๆ ของเวียนนา
ภายในหอสมุดแห่งชาติออสเตรียมีพระเอกคือห้องโถง (State Hall) อันโอ่อ่าที่สร้างด้วยหินอ่อน ความยาวเกือบ 80 เมตร และสูง 20 เมตร ได้รับการประดับประดาอย่างสวยงามด้วยรูปปั้นแกะสลัก เพดานมีลักษณะเป็นโดมโค้งตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามและน่าทึ่งด้วยจิตรกรรมฝาผนัง ฝีมือของจิตรกรคือแดเนียล แกรน (Daniel Gran) โดยภายในหอสมุดแห่งนี้เต็มไปด้วยหนังสือต่างๆ ที่เรียงรายตามชั้นวางมากกว่า 200,000 เล่ม บางเล่มมีอายุเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 รวมทั้งคอลเล็กชันหนังสือ 15,000 เล่มที่ทำด้วยทองคำ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยนำมาจากห้องสมุดเจ้าชายยูจีนแห่งซาวอย (Eugene of Savoy's library) ซึ่งนอกจากหนังสือที่น่าสนใจจำนวนมหาศาลที่มีในหอสมุดแห่งนี้แล้ว ภายในหอสมุดแห่งชาติออสเตรียยังประกอบด้วยพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจถึง 4 แห่ง ได้แก่
พิพิธภัณฑ์ปาปิรัส (Papyrus Museum) จัดแสดงสคริปต์ ม้วนกระดาษโบราณอันน่าทึ่งที่คาดว่ามีอายุมาจากช่วงศตวรรษที่ 15 ก่อนคริสตกาล รวมถึงเครื่องเงิน เครื่องทอง และหินสลักที่มีคำจารึกโบราณอยู่ด้วย พิพิธภัณฑ์ปาปิรัสคือที่อยู่ของสคริปต์โบราณที่ใหญ่ที่สุดของโลกในขณะนี้
พิพิธภัณฑ์ภาษาโลก (Esperanto Museum) ที่นักท่องเที่ยวจะได้ความรู้เกี่ยวกับภาษาที่ใช้ในโลกนี้ ซึ่งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เต็มไปด้วยเอกสารที่น่าสนใจมากมายเกี่ยวกับการทดลองทางภาษาศาสตร์
พิพิธภัณฑ์ลูกโลก (Globe Museum) ที่จัดแสดงลูกโลกกว่าหลายร้อยลูก เช่น ลูกโลกแสดงพื้นที่บนท้องฟ้า ลูกโลกแสดงพื้นที่บนพื้นดิน แบบจำลองดวงจันทร์และดาวเคราะห์ต่างๆ รวมถึงเครื่องมือทำแผนที่ซึ่งส่วนใหญ่ถูกประดิษฐ์ขึ้นก่อนปี ค.ศ. 1850 นักทองเที่ยวจะได้เรียนรู้ถึงวิวัฒนาการของการทำแผนที่ในช่วงระยะเวลาต่างๆ ซึ่งไฮไลต์ของพิพิธภัณฑ์ในส่วนนี้คือลูกโลกแห่งเวนิสทั้งสองลูก ซึ่งแต่ละลูกมีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่าสามฟุตเลยทีเดียว
พิพิธภัณฑ์วรรณกรรม (Literature Museum) ที่จัดแสดงผลงาน รวมถึงเอกสารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจดหมาย ต้นฉบับงานเขียน รวมถึงหนังสือฉบับตีพิมพ์ครั้งแรกของนักเขียนชาวออสเตรียที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก อาทิ Franz Kafka, Friedericke Mayrocker, Johann Nestroy, Ingeborg Bachmann และ Arthur Schnitzler ผู้ที่สนใจด้านวรรณกรรมน่าจะชื่นชอบพิพิธภัณฑ์ในส่วนนี้เป็นพิเศษ
นอกจากนี้ ยังมีส่วนจัดที่แสดงแผ่นเพลงที่มีจำนวนเยอะที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งจัดแสดงกระดาษเขียนโน้ตเพลงแผ่นแรกๆ ของบรรดาคีตกวีเอกแห่งวงการเพลงคลาสสิกของโลกเอาไว้ด้วย
บรรยากาศบริเวณ Josephsplatz รอบนอกตัวอาคาร
รูปปั้นอันเป็นจุดเด่นของ The Prunksaal
The Prunksaal จุดศูนย์กลางของหอสมุด
ส่วนหนึ่งของสิ่งที่จัดแสดงอยู่ภายในหอสมุด
การเดินทางจากสนามบินไปยังตัวเมือง
ท่าอากาศยานนานาชาติเวียนนาหรือสนามบินนานาชาติเวียนนา มีชื่อเป็นทางการว่า Vienna International Airport (Flughafen Wien-Schwechat) นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากสนามบินเข้าสู่ตัวเมืองยังสถานี Stephansplatz station ซึ่งเป็นสถานีหลักที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองใกล้กับมหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น (St. Stephen’s Cathedral) ได้หลากหลายวิธี ดังนี้
- รถยนต์ (Car) การเดินทางโดยรถยนต์จากสนามบินไปยังสถานี Stephansplatz station มีระยะทาง 20 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที โดยจากสนามบินใช้ถนนสาย A4 จากนั้นเดินทางต่อไปบนถนนสาย B227 มุ่งสู่ Schulerstraße
ทั้งนี้ แท็กซี่ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีสัมภาระติดตัวค่อนข้างเยอะ หรือเดินทางแบบเป็นกลุ่มที่ต้องการความสะดวกและเป็นส่วนตัว การเดินทางโดยแท็กซี่จากสนามบินมีค่าบริการประมาณ 30 ยูโร
- รถประจำทาง (Bus) การเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางจากสนามบินไปยังสถานี Stephansplatz station ใช้เวลาประมาณ 35 นาที นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถ Bus VAL 2 ไปลงป้าย Wien Morzinplatz
- รถไฟ (Train) การเดินทางโดยไฟจากสนามบินไปยังสถานี Stephansplatz station ใช้เวลาประมาณ 15 นาที โดยนักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถไฟใต้ดินสาย U4 Wien (Hütteldorf) ไปลงสถานี Wien Mitte จากนั้นต่อรถไฟใต้ดินสาย U3 (Wien Ottakring) ไปลงสถานี Stephansplatz
การเดินทางภายในเวียนนา
เวียนนามีระบบขนส่งมวลชนที่เชื่อมเป็นระบบ ทั้งรถไฟ (S - Bahn) รถไฟใต้ดิน (U - Bahn) รถราง (Tram) และรถเมล์ (Bus) นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างสะดวก โดยตั๋วเดินทางที่เรียกว่า Verkehrsverbund Ost-Region (VOR) สามารถใช้ร่วมกันได้ดังนี้
ตั๋วแบบเที่ยวเดียว 2.40 ยูโร
ตั๋ว 24 ชั่วโมง 8 ยูโร
ตั๋ว 48 ชั่วโมง 14.10 ยูโร
ตั๋ว 72 ชั่วโมง 17.10 ยูโร
นักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วได้จากตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ (เครื่องสีแดง) หรือเคาน์เตอร์ขายตั๋วที่สถานีรถไฟทุกแห่ง เมื่อจะใช้งานก็ให้ Validate กับเครื่องตอกบัตร (เครื่องสีเหลือง) ก่อน โดยตั๋วตั้งแต่ประเภท 24 ชั่วโมงขึ้นไป จะเริ่มนับเวลาจากการตอกบัตรใช้งานครั้งแรกไปจนครบ จำนวนชั่วโมงตามที่กำหนด
แผนที่ระบบขนส่งมวลชนเมืองเวียนนา ภาพจาก https://www.wienerlinien.at
การเดินทางไป Austrian National Library
Austrian National Library ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางกรุงเวียนนาประมาณ 900 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถใช้เดินทางมายังที่นี่ได้อย่างสะดวกโดย
- รถยนต์ (Car) การเดินทางโดยรถยนต์จาก Stephansplatz Station ไปยัง Austrian National Library โดยผ่าน Spiegelgasse มีระยะทาง 900 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 นาที
- เดิน (Footpath) จากสถานี Stephansplatz นักท่องเที่ยวสามารถเดินไป Austrian National Library โดยผ่านถนน Spiegelgasse ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด
หอสมุดแห่งชาติของประเทศออสเตรียตั้งอยู่ในพระราชวังฮอฟบวร์ก เปิดให้เข้าชมจนถึงช่วงเย็นของทุกวัน ตามเวลาดังนี้
วันจันทร์ – วันอาทิตย์ เวลา 10.00 – 18.00 น.
วันพฤหัสบดี 10.00 – 21.00 น.
อัตราค่าเข้าชม
ผู้ที่มีอายุมากกว่า 19 ปี จะต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าชมหอสมุดแห่งชาติ โดย
บัตรเข้าชม State Hall ราคา 8 ยูโร
บัตรเข้าชม Literature Museum ราคา 7 ยูโร
บัตรแบบ Combi Ticket เข้าชม Globe, Papyrus และ Esperanto Museum ราคา 4 ยูโร
นักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อบัตรเข้าชมรวมแบบ Combi Ticket เพื่อเข้าชมหอสมุดแห่งชาติของประเทศออสเตรีย พิพิธภัณฑ์ลูกโลก พิพิธภัณฑ์ภาษาโลก และพิพิธภัณฑ์ปาปิรัส พร้อมกันก็ได้เพื่อส่วนลดในการเข้าชม โดยสามารถซื้อบัตรเข้าชมได้ที่เคาน์เตอร์ให้บริการจุดใดก็ได้ในทั้งสี่จุด คือที่ State Hall, Library at Heldenplatz, Palais Mollard และ Literature Museum หรือซื้อออนไลน์ได้ที่ https://eticket.onb.ac.at/eticket_files/onb/index_en.html
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว Austrian National Library
นอกจากเดินทางไปเที่ยวชมความสวยงามและยิ่งใหญ่ของหอสมุดแห่งชาติออสเตรียแล้ว นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดที่จะชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหอสมุดแห่งนี้ด้วย ทั้งนี้มีโปรแกรมนำเที่ยวเพื่อนำชมส่วนจัดแสดงและอาคารให้เลือกมากมาย แต่นักท่องเที่ยวจะต้องเสียค่าธรรมเนียมเล็กน้อยหากต้องการเข้าร่วม
โถงอาคารบริเวณนี้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปมากที่สุด
หนังสือสำคัญที่จัดแสดง
ภายในหอสมุดแห่งนี้เต็มไปด้วยหนังสือต่างๆ ที่เรียงรายอยู่ตามชั้นวางมากกว่า 200,000 เล่ม
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยวชม Austrian National Library ได้ตลอดทั้งปี
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
รอบๆ หอสมุดแห่งชาติออสเตรียยังมีสถาปัตยกรรมอื่นๆ ที่สวยงามและเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ อาทิ พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงศิลปะและของที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์จำนวนมากของประเทศออสเตรีย และอาคารพฤกษชาติในเรือนกระจกขนาดใหญ่ที่สวยงามซึ่งมีร้านอาหารบรรยากาศน่านั่งก็อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม Austrian National Library สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
หอสมุดแห่งชาติออสเตรีย เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
(Austrian National Library, Vienna, Austria)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : บัตรเข้าชมราคาเริ่มต้นที่ 4 – 8 ยูโร
เวลาเปิด – ปิด : วันจันทร์ – วันอาทิตย์ เวลา 10.00 – 18.00 น.
วันพฤหัสบดี 10.00 – 21.00 น.
ตั้งอยู่ที่ : 1 Josefsplatz, Wien
โทรศัพท์ : (+43) 1 534 10
เว็บไซต์ : https://www.onb.ac.at
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวเมืองเวียนนา https://www.wien.info
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศออสเตรีย https://www.austria.info
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อรวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อ