- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- โบสถ์เซนต์ชาร์ลส์ เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
โบสถ์เซนต์ชาร์ลส์ เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
- อ่าน (4,328)
- By Webmaster
- 13:23:02 | 20 ก.ย. 2562
โบสถ์เซนต์ชาร์ลส์ เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
St. Charles Church, Vienna, Austria
โบสถ์เซนต์ชาร์ลส์ (St. Charles's Church) เป็นโบสถ์สถาปัตยกรรมรูปแบบบารอกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเวียนนาที่มีความงดงามทั้งภายนอกและภายใน ควรค่าแก่การมาเยือนและบันทึกภาพสวยๆ
ประวัติ
โบสถ์เซนต์ชาร์ลส์ (St. Charles's Church) หรือที่ภาษาท้องถิ่นเรียกว่า “คาร์ลเคียร์เชอ” (Karlkirche) เป็นโบสถ์บารอกที่ผสมผสานหน้ามุขแบบกรีกและเสาแบบโรมาเนสก์แกะสลักสวยงาม โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่ Saint Charles Borromeo เนื่องจากราวปี ค.ศ. 1713 ได้เกิดโรคระบาดใหญ่ลุกลามไปทั่วยุโรป ส่งผลให้ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก สมเด็จจักรพรรดิชาร์ลส์ที่ 6 แห่งจักรวรรดิโรมันจึงได้ทรงอธิษฐานว่าหากโรคระบาดสงบลงจะสร้างโบสถ์เป็นการอุทิศ ภายหลังจากที่กรุงเวียนนารอดพ้นจากโรคระบาดพระองค์จึงทรงโปรดให้สร้างโบสถ์แห่งนี้จนกระทั่งมาแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1739
สิ่งที่โดดเด่นคืออาคารจะมีเสา Trojan 2 ต้น จำลองต้นแบบมาจากอาคาร Pantheon ของโรมันโบราณในกรุงโรม แกะสลักเป็นเรื่องราวของเซนต์ชาลส์ ที่ช่วยรักษาผู้ป่วยจากโรคระบาดจนได้รับการยกย่องให้เป็นนักบุญ ภายในอาคาร บนโดมเพดานประดับตกตกแต่งด้วยภาพปูนเปียกงดงามมีมิติ บอกเล่าเรื่องราวและดึงดูดชวนให้หลงใหลเมื่อแหงนมองขึ้นไป บริเวณด้านนอกโบสถ์เป็นสวนสาธารณะ สามารถนั่งพักผ่อน หรือปิกนิกบริเวณนี้ได้ด้วย
เสา Trojan 2 ที่จำลองต้นแบบมาจากอาคาร Pantheon ของโรมันโบราณในกรุงโรม
เสา Trojan 2 ต้นอันโดดเด่นขนาบข้างโบสถ์สถาปัตยกรรมแบบบารอกที่ผสมผสานกับหน้ามุขแบบกรีก
การตกแต่งอย่างสวยงามและอลังการด้านในอาคาร
บนโดมเพดานภายในอาคารประดับตกตกแต่งด้วยภาพปูนเปียกงดงามมีมิติ
โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่ Saint Charles Borromeo
การเดินทางจากสนามบินไปยังตัวเมือง
ท่าอากาศยานนานาชาติเวียนนาหรือสนามบินนานาชาติเวียนนา มีชื่อเป็นทางการว่า Vienna International Airport (Flughafen Wien-Schwechat) นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากสนามบินเข้าสู่ตัวเมืองยังสถานี Stephansplatz station ซึ่งเป็นสถานีหลักที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองใกล้กับมหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น (St. Stephen’s Cathedral) ได้หลากหลายวิธี ดังนี้
- รถยนต์ (Car) การเดินทางโดยรถยนต์จากสนามบินไปยังสถานี Stephansplatz station มีระยะทาง 20 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที โดยจากสนามบินใช้ถนนสาย A4 จากนั้นเดินทางต่อไปบนถนนสาย B227 มุ่งสู่ Schulerstraße
ทั้งนี้ แท็กซี่ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีสัมภาระติดตัวค่อนข้างเยอะ หรือเดินทางแบบเป็นกลุ่มที่ต้องการความสะดวกและเป็นส่วนตัว การเดินทางโดยแท็กซี่จากสนามบินมีค่าบริการประมาณ 30 ยูโร
- รถประจำทาง (Bus) การเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางจากสนามบินไปยังสถานี Stephansplatz station ใช้เวลาประมาณ 35 นาที นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถ Bus VAL 2 ไปลงป้าย Wien Morzinplatz
- รถไฟ (Train) การเดินทางโดยไฟจากสนามบินไปยังสถานี Stephansplatz station ใช้เวลาประมาณ 15 นาที โดยนักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถไฟใต้ดินสาย U4 Wien (Hütteldorf) ไปลงสถานี Wien Mitte จากนั้นต่อรถไฟใต้ดินสาย U3 (Wien Ottakring) ไปลงสถานี Stephansplatz
การเดินทางภายในเวียนนา
เวียนนามีระบบขนส่งมวลชนที่เชื่อมเป็นระบบ ทั้งรถไฟ (S - Bahn) รถไฟใต้ดิน (U - Bahn) รถราง (Tram) และรถเมล์ (Bus) นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างสะดวก โดยตั๋วเดินทางที่เรียกว่า Verkehrsverbund Ost-Region (VOR) สามารถใช้ร่วมกันได้ดังนี้
ตั๋วแบบเที่ยวเดียว 2.40 ยูโร
ตั๋ว 24 ชั่วโมง 8 ยูโร
ตั๋ว 48 ชั่วโมง 14.10 ยูโร
ตั๋ว 72 ชั่วโมง 17.10 ยูโร
นักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วได้จากตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ (เครื่องสีแดง) หรือเคาน์เตอร์ขายตั๋วที่สถานีรถไฟทุกแห่ง เมื่อจะใช้งานก็ให้ Validate กับเครื่องตอกบัตร (เครื่องสีเหลือง) ก่อน โดยตั๋วตั้งแต่ประเภท 24 ชั่วโมงขึ้นไป จะเริ่มนับเวลาจากการตอกบัตรใช้งานครั้งแรกไปจนครบ จำนวนชั่วโมงตามที่กำหนด
แผนที่ระบบขนส่งมวลชนเมืองเวียนนา ภาพจาก https://www.wienerlinien.at
การเดินทางไป St. Charles Church
- รถยนต์ (Car) การเดินทางโดยรถยนต์จากสถานี Stephansplatz station ไปยัง St.Charles Church โดยใช้ถนนสาย Schwarzenbergpl มีระยะทาง 2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 นาที
- รถไฟ (Train) จากสถานี Stephansplatz station นั่งรถไฟใต้ดินสาย U1 (Wien Alaudagasse) ลงสถานี Karlsplatz ใช้เวลาประมาณ 3 นาที จากนั้นเดินต่ออีก 450 เมตร
- การเดิน (Footpath) จาก Stephansplatz station นักท่องเที่ยวสามารถเดินไป St. Charles Church โดยใช้เส้นทาง Karntner Str. ระยะทาง 1.4 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 17 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด
วันจันทร์ – วันเสาร์ เปิดเวลา 09.00 – 18.00 น.
วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดเวลา 12.00 – 19.00 น.
บรรยากาศอันสงบภายในโบสถ์เซนต์ชาร์ลส์
รายละเอียดอันวิจิตรประณีตที่บ่งบอกถึงศรัทธา
อัตราค่าเข้าชม
8 ยูโร
รูปปั้นนักบุญภายในโบสถ์
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว St. Charles Church
นอกจากจะไปถ่ายภาพสวยๆ ของตัวโบสถ์จากภายนอกแล้ว แนะนำว่าด้านในก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดเป็นอันขาด เพราะมีความงดงาม วิจิตร และอลังการมาก แม้จะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการเข้าชมก็คุ้มค่าเงินที่จ่ายไปอย่างแน่นอน
บนโดมเพดานภายในอาคารประดับตกตกแต่งด้วยภาพปูนเปียกงดงามมีมิติ
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเที่ยว St. Charles Church ได้ตลอดทั้งปี
ภาพเขียนสวยงามบอกเล่าเรื่องราวทางศาสนา
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
บริเวณใกล้เคียงกับ St. Charles Church มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินต่อไปได้ อาทิ Vienna Museum (125 เมตร) Naschmarkt (511 เมตร) Vienna State Opera (586 เมตร) Albertina Museum (759 เมตร) และ Imperial Crypt (845 เมตร)
รูปปั้นที่ตกตกอยู่ด้านนอกของตัวโบสถ์
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม St. Charles Church สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
โบสถ์เซนต์ชาร์ลส์ เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
St. Charles Church, Vienna, Austria)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : 8 ยูโร
เวลาเปิด – ปิด : วันจันทร์ – วันเสาร์ เปิดเวลา 09.00 – 18.00 น. วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดเวลา 12.00 – 19.00 น.
ตั้งอยู่ที่ : 4, Karlsplatz, Vienna
โทรศัพท์ : (+43) 1 505 6294
เว็บไซต์ : http://www.karlskirche.at/
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวเมืองเวียนนา https://www.wien.info
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศออสเตรีย https://www.austria.info
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อรวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อ