- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- สะพานโฮเอินซอลเลิร์น เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
สะพานโฮเอินซอลเลิร์น เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี

- อ่าน (3,363)
- By Webmaster
- 11:31:44 | 14 ธ.ค. 2562
สะพานโฮเอินซอลเลิร์น เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
Hohenzollern Bridge, Cologne, Germany
สะพานโฮเอินซอลเลิร์นทอดข้ามแม่น้ำไรน์ใจกลางเมืองโคโลญ
สะพานโฮเอินซอลเลิร์น (Hohenzollern Bridge / ชื่อภาษาเยอรมันคือ Hohenzollernbrücke) เป็นสะพานข้ามแม่น้ำไรน์ (Rhine River) และเป็นแลนด์มาร์กของเมืองโคโลญเคียงคู่กับมหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) สะพานแห่งนี้นอกจากจะเชื่อมพื้นที่กลางเมืองทั้งสองฝั่งแม่น้ำเข้าไว้ด้วยกัน แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของเหล่าคู่รักที่นิยมมาคล้องกุญแจแห่งความรัก (love locks) บริเวณรั้วบนสะพานแห่งนี้อีกด้วย ปัจจุบันมีแม่กุญแจหลากสีหลายขนาดคล้องไว้บริเวณรั้วบนสะพานโฮเอินซอลเลิร์นหลายพันชิ้น บางชิ้นมีการสลักชื่อ ติดสติ๊กเกอร์ และตกแต่งในแบบที่แตกต่างกันจากนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลก เป็นอีกสีสันหนึ่งของการท่องเที่ยวเมืองโคโลญในปัจจุบัน
แผนที่ตั้ง สะพานโฮเอินซอลเลิร์น (Hohenzollern Bridge) เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
ประวัติ
สะพานโฮเอินซอลเลิร์นถูกสร้างขึ้นในระหว่างปีค.ศ.1907 – ค.ศ.1911 หลังจากที่สะพานโบสถ์ (Cathedral Bridge) ของเดิมนั้นถูกรื้อถอนออกไปเพราะไม่สามารถรองรับการสัญจรที่เพิ่มขึ้นในเมืองโคโลญได้ โดยชื่อสะพาน
โฮเอินซอลเลิร์นนี้ตั้งตามพระนามของพระราชวงศ์โฮเอินซอลเลิร์น กษัตริย์แห่ง
ปรัสเซียและเยอรมนี เพราะในยุคนั้นเมืองโคโลญเป็นส่วนหนึ่งของรัฐปรัสเซีย
ในปีค.ศ. 1906 พอล ฟอน เบริเตนบาค (Paul von Breitenbach) ประธานคณะกรรมการการรถไฟโคโลญได้เริ่มวางแผนการก่อสร้างและส่งมอบงานให้กับผู้สืบทอดตำแหน่งคนถัดไปคือนายรูดอล์ฟ ชมิดท์ (Rudolf Schmidt) จากนั้นโครงการได้เดินหน้าไปภายใต้การดูแลควบคุมของนายฟริทซ์ เบียร์แมน (Fritz Beermann) วิศวกรรถไฟ และภายใต้การออกแบบของนายฟรีดริช เดิร์กเซน (Friedrich Dirksen) สะพานแห่งนี้เปิดทำการในวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 1911 โดยกษัตริย์วิลเฮ็ล์มที่สอง (Kaiser Wilhelm II)
ตัวสะพานมีโครงสร้างสามส่วนเชื่อมต่อกัน โดยด้านบนของแต่ละส่วนมีลักษณะเป็นหลังคาซุ้มโครงเหล็ก และมีพระบรมรูปทรงม้าของกษัตริย์ทั้งสี่พระองค์ในราชวงศ์โฮเอินซอลเลิร์นประดิษฐานอยู่บริเวณเชิงสะพานแต่ละด้าน ดังนี้
- พระบรมรูปทรงม้า กษัตริย์วิลเฮ็ล์มที่หนึ่ง (Wilhelm I) ประดิษฐานอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำไรน์ บริเวณเชิงสะพานทิศใต้ (ฝั่งโรงแรมไฮแอทโคโลญ)
- พระบรมรูปทรงม้า กษัตริย์วิลเฮ็ล์มที่สอง (Wilhelm II) ประดิษฐานอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไรน์ บริเวณเชิงสะพานทิศใต้ (ฝั่งทางเดินสู่มหาวิหารโคโลญ)
- พระบรมรูปทรงม้า กษัตริย์ฟรีดริชที่สาม (Friedrich III) ประดิษฐานอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไรน์ บริเวณเชิงสะพานทิศเหนือ (ฝั่งสถานีรถไฟกลางโคโลญ)
- พระบรมรูปทรงม้า กษัตริย์ฟรีดริช วิลเฮ็ล์มที่สี่ (Friedrich Wilhelm IV) ประดิษฐานอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำไรน์ บริเวณเชิงสะพานทิศเหนือ (ฝั่งอาคารเดอะวิวโคโลญ)
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แม้เมืองโคโลญจะถูกโจมตีทางอากาศแต่สะพานก็ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ แต่ในวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ. 1945 วิศวกรของกองทัพเยอรมนีได้ระเบิดสะพานทิ้งเมื่อกองทัพฝั่งพันธมิตรเริ่มเข้าโจมตีเมืองโคโลญ หลังสงครามโลกครั้งที่สอง สะพานได้รับการสร้างขึ้นใหม่และกลับมาเปิดใช้งานได้อีกครั้งในวันที่ 8 พฤษภาคม ค.ศ. 1948 ต่อมามีการบูรณะซ่อมแซมปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่อีกครั้งในช่วงปีค.ศ. 1980
สะพานโฮเอินซอลเลิร์นในปัจจุบันเป็นทางสัญจรของรถไฟและทางเดินเท้า มีความยาวประมาณ 409.18 เมตร และยังเป็นสถานที่คล้องกุญแจแห่งความรักมานับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2008 โดยนิยมคล้องบริเวณรั้วที่กั้นระหว่างทางเดินเท้าและทางเดินรถไฟ
สะพานโฮเอินซอลเลิร์นเมื่อมองจากริมแม่น้ำไรน์แถวย่านเมืองเก่าโคโลญ
สะพานโฮเอินซอลเลิร์นในตอนกลางคืน
พระบรมรูปทรงม้า กษัตริย์วิลเฮล์มที่หนึ่ง (Wilhelm I) ประดิษฐานอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำไรน์ บริเวณเชิงสะพานทิศใต้
สะพานโฮเอินซอลเลิร์นเมื่อมองจากริมแม่น้ำฝั่งมหาวิหารโคโลญและตึกสูงฝั่งตรงข้ามคือหอชมเมืองโคโลญไทรแองเกิล
นักท่องเที่ยวนิยมมาคล้องกุญแจแห่งความรักบริเวณรั้วบนสะพาน
รั้วกั้นทางเดินกับทางรถไฟเต็มไปด้วยกุญแจแห่งความรักตลอดทาง
แม่กุญแจหลากสีหลายแบบจากคู่รักทั่วทุกมุมโลก
การเดินทางจากสนามบินโคโลญบอนน์ (Cologne Bonn Airport) ไปยังสถานีรถไฟกลางโคโลญ (Cologne Central Station)
- รถยนต์ (Car) จาก Cologne Bonn Airport ไปยัง Cologne Central Station มีระยะทางประมาณ 18.4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 19 นาที
- รถประจำทาง (Bus) จาก Cologne Bonn Airport ให้ขึ้นรถประจำทางสาย 161 ที่สถานีรถประจำทางบริเวณสนามบิน ไปลงยัง Cologne Central Station มีระยะทางประมาณ 18.4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 19 นาที
- รถไฟ (Train) จาก Cologne Bonn Airport ให้ขึ้นรถไฟสายสีเขียวที่สถานี Köln/Bonn Flughafen ภายในสนามบิน จากนั้นลงที่สถานี Cologne Central Station ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที
หมายเหตุ ชื่อสถานีรถไฟกลางโคโลญนั้นมีชื่อเรียกหลากหลาย โดยชื่อที่เป็นทางการและนิยมเรียกกัน ได้แก่
1. Köln Hauptbahnhof เป็นชื่อทางการในภาษาเยอรมัน
2. Cologne Central Station / Cologne Main Railway Station เป็นชื่อทางการในภาษาอังกฤษ
3. Dom Hauptbahnhof หมายถึง สถานีโบสถ์ เพราะสถานีติดกับมหาวิหารโคโลญ
การเดินทางจากสถานีรถไฟกลางโคโลญ (Cologne Central Station)ไปยังสะพานโฮเอินซอลเลิร์น (Hohenzollern Bridge)
- รถยนต์ (Car) จาก Cologne Central Station ไปยัง Hohenzollern Bridge มีระยะทางประมาณ 350 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 นาที
- เดิน (Footpath) จาก Cologne Central Station ไปยัง Hohenzollern Bridge มีระยะทางประมาณ 350 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด
เปิดทุกวัน ตลอดเวลา
ด้านบนของสะพานมีลักษณะเป็นหลังคาซุ้มโครงเหล็กจำนวนสามซุ้ม
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
ทัศนียภาพอันสวยงามของเมืองโคโลญในยามราตรี
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว Hohenzollern Bridge สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
สะพานโฮเอินซอลเลิร์น เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
(Hohenzollern Bridge, Cologne, Germany)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตลอดเวลา
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
โทรศัพท์ : (+49)221 346 43 0 (ศูนย์บริการการท่องเที่ยวเมืองโคโลญ)
เว็บไซต์ : https://www.cologne-tourism.com/see-experience/poi/love-locks/
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/th/de/germany-weather
เว็บไซต์ทางการของเมืองโคโลญ https://www.cologne.de
เว็บไซต์ท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการของเมืองโคโลญ https://www.cologne-tourism.com/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

10 โบสถ์และมหาวิหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก
โบสถ์ และมหาวิหาร อีกหนึ่งสิ่งก่อสร้างที่ตั้งอยู่ทั่วทุกมุมโลก เปรียบเสมือนศูนย์รวมจิตใจของศาสนิกชน ล้วนสร้างขึ้นจากความเชื่อ และความศรัทธา บางสถานที่ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนา บางสถานที่เปรียบเสมือนอนุสรณ์สร้างขึ้นเพื่อรำลึกเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งสถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่สามารถถ่ายทอดผลงานทางสถาปัตยกรรม และประติมากรรมออกมาได้อย่างงดงาม 10 โบสถ์และมหาวิหารที่ PALANLA จะพาไปชมในวันนี้ ถือว่าเป็นศาสนสถานที่ทั่วโลกให้การยอมรับว่ามีชื่อเสียงที่สุด
อ่านต่อ
15 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
กรุงลอนดอน (London) เป็นเมืองหลวงของประเทศอังกฤษ และสหราชอาณาจักร และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหภาพยุโรป นอกจากมหานครแห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ลอนดอนยังเต็มไปด้วยสีสันแห่งแฟชั่น และศิลปะ ทำให้ที่นี่เป็นเมืองที่มีอิทธิพลไปทั่วโลก และเป็นที่เข้าใจกันว่าปัจจุบันลอนดอนกลายเป็นเมืองสากลหลักของโลก วันนี้ Palanla จะพาไปชม 15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในลอนดอน ประเทศอังกฤษที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
อ่านต่อ
หอนาฬิกาบิ๊กเบน กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)
หอนาฬิกาบิ๊กเบน (Big Ben) เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในลอนดอนที่มีชื่อเสียงก้องโลก และเป็นสมบัติล้ำค่าของประเทศอังกฤษมานานกว่า 160 ปี โดยแต่เดิมนั้นคำว่าบิ๊กเบนเป็นชื่อของระฆังใบที่ใหญ่ที่สุดในหอนาฬิกา เรียกอีกอย่างว่า “มหาระฆัง” หรือ “เดอะเกรทเบลล์” มีน้ำหนักถึง 13 ตัน
อ่านต่อ
ทัวร์รถบัสฮอฟออน ฮอฟออฟ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)
ทัวร์รถบัสฮอฟออน ฮอฟออฟ (Hop-On Hop-Off) ในลอนดอน เป็นวิธีท่องเที่ยวที่จะเปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม และชมแลนด์มาร์กสำคัญต่างๆ ของกรุงลอนดอนได้อย่างเรียกว่าน่าจะครบถ้วนมากที่สุดรูปแบบหนึ่งจากบนรถบัสเปิดประทุน พร้อมหูฟังที่สามารถเลือกเสียงบรรยายได้ถึง 5 ภาษา โดยสามารถขึ้นและลงรถบัสนี้ ณ จุดจอดใดก็ได้ที่กำหนดไว้ กี่ครั้งก็ได้ตามที่ต้องการ
อ่านต่อ
ถนนออกซ์ฟอร์ด กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)
ถนนออกซ์ฟอร์ด (Oxford Street ) หนึ่งในถนนช้อปปิ้งที่คึกคักมากที่สุดของลอนดอน มีร้านขายสินค้าแบรนด์เนมขนาดใหญ่หลายแห่ง และยังมีร้านค้าขนาดใหญ่มากมายบนถนนสายนี้มากกว่า 300 ร้านค้า
อ่านต่อ
จัตุรัสรัฐสภา กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)
จัตุรัสรัฐสภา (Parliament Square) เป็นจัตุรัสที่มีสนามหญ้าขนาดใหญ่ อาคารโดยรอบสวยงาม และมีรูปปั้นของบุคคลสำคัญของอังกฤษอยู่ทั่วจัตุรัส
อ่านต่อ
โซโห กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)
มีคำกล่าวที่ว่า “หากมาลอนดอนเเล้วไม่ได้มาช้อปปิ้งที่ Soho ถือว่ายังเที่ยวไม่ครบ” เพราะย่านนี้รวมไว้ด้วยแหล่งช้อบปิ้งชั้นนำ และยังโดดเด่นด้วยร้านบูติกที่เรียกได้ว่าน่าสนใจที่สุดในลอนดอน
อ่านต่อ
เกล็นฟินแนน เวียดัคท์ เขตอินเวอร์เนส-ไชร์ ประเทศสกอตแลนด์
เกล็นฟินแนน เวียดัคท์ (Glenfinnan Viaduct) เป็นสะพานรถไฟคอนกรีตที่ยาวที่สุดของประเทศสกอตแลนด์ เส้นทางรถไฟนี้วิ่งระหว่างเมืองกลาสโกว์กับเมืองมัลเลก บรรยากาศสองข้างมีความสวยงามเป็นอย่างมากจากทิวทัศน์ของหุบเขา โดยเฉพาะบริเวณสะพานรถไฟที่ผ่านหมู่บ้านเกล็นฟินแนนที่จะมองเห็นทั้งหุบเขาและทะเลสาบน้ำจืดล็อกชิเอลอันกว้างใหญ่ สะพานรถไฟเกล็นฟินแนน เวียดัคท์ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยโด่งดังมากที่สุดในภาพยนตร์เรื่องแฮร์รี่พอตเตอร์ที่ใช้เป็นฉากเส้นทางรถไฟไปฮอกวอตส์ ไฮไลท์การท่องเที่ยวที่นี่จะอยู่ในช่วงฤดูร้อนที่จะมีรถไฟจักรไอน้ำให้บริการตลอดเส้นทาง ซึ่งนอกจากจะได้ชมทิวทัศน์ที่สวยงามแล้วยังได้บรรยากาศคลาสสิกของรถไฟอีกด้วย
อ่านต่อ
ปราสาทสเตอร์ลิง เมืองสเตอร์ลิง ประเทศสกอตแลนด์
ปราสาทสเตอร์ลิง (Stirling Castle) เป็นหนึ่งในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในสกอตแลนด์ และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และทางสถาปัตยกรรมมากที่สุดอีกด้วย ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมยุคเรอเนซองส์กับสถาปัตยกรรมโกธิกตอนปลาย ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในอาคารที่มีสถาปัตยกรรมน่าประทับใจที่สุดในสกอตแลนด์ และควรค่าแก่การเที่ยวชมเป็นอย่างมาก โดยไฮไลท์ของการเที่ยวชมปราสาทแห่งนี้คือการเดินชมบริเวณโดยรอบอาคารต่างๆ บริเวณห้องโถงใหญ่ ชมพรมทอมือเจ็ดผืนบนผนังห้องโถงชั้นใน สำรวจห้องใต้ดินของพระราชวัง และสวนควีนแอนน์ นอกจากนี้ยังมีส่วนของนิทรรศการปราสาท แกลเลอรี และพิพิธภัณฑ์การทหารให้เที่ยวชมอีกด้วย
อ่านต่อ
7 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์
เมืองกลาสโกว์เป็นเมืองท่าริมแม่น้ำไคลด์ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของสกอตแลนด์ เมืองกลาสโกว์มีชื่อเสียงทางด้านสถาปัตยกรรมแบบวิกตอเรียนและศิลปะสไตล์อาร์ตนูโว ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากความรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 18-20 ของเมืองอันเนื่องมาจากการค้าและการต่อเรือ ปัจจุบันเมืองกลาสโกว์เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมแห่งชาติ และเป็นที่ตั้งของสถาบันสำคัญต่างๆ และสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่น่าเที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 7 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองกลาสโกว์มาฝากทุกท่านกันในบทความนี้
อ่านต่อ