น้ำตกสโกกาฟอสส์ เมืองวิค ประเทศไอซ์แลนด์

  • อ่าน (5,883)
  • By Webmaster
  • 16:42:35 | 9 ส.ค. 2561

น้ำตกสโกกาฟอสส์ เมืองวิค ประเทศไอซ์แลนด์

Skogarfoss, Vik, Iceland



ประวัติ

             น้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skogafoss) เป็นน้ำตกซึ่งไหลมาจากแม่น้ำสโกก้า (Skoga River) น้ำตกแห่งนี้คือแลนด์มาร์กที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของประเทศไอซ์แลนด์ ที่เมื่อนักท่องเที่ยวมาเที่ยวประเทศที่มีภูมิประเทศอันสวยงามแห่งนี้แล้วไม่พลาดที่จะต้องไปเยือนและเก็บภาพสวยๆ ไว้เป็นที่ระลึก นอกจากสโกกาฟอสส์จะเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดในเขตภาคใต้ของประเทศแล้ว น้ำตกแห่งนี้ยังเป็นน้ำตกที่สูงที่สุด โดยมีความสูงราว 62 เมตร และเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไอซ์แลนด์อีกด้วย

           สโกกาฟอสส์ตั้งอยู่ในภูมิภาคซูทือร์ลันต์ (Suourland) ของประเทศไอซ์แลนด์ ตัวน้ำตกนั้นตั้งอยู่ห่างจากหมู่บ้านสโคการ์ ไปประมาณ 5 กิโลเมตร โดยตั้งอยู่ทางทิศใต้ของธารน้ำแข็งเอยาฟยาตลาเยอคุตล์ (Eyjafjallajokull glacier) ธารน้ำแข็งขนาดเล็กที่ปกคลุมภูเขาไฟสูง 1,666 เมตร ซึ่งเคยปะทุค่อนข้างบ่อย และได้ปะทุขึ้นอีกครั้งในปี ค.ศ. 2010 ซึ่งส่งผลให้น่านฟ้าทั่วยุโรปต้องปิดการใช้งานไปชั่วคราวในขณะนั้น ปัจจุบันฟูเขาไฟแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาถ่ายรูปความสวยงามอยู่ไม่ขาด มุมถ่ายรูปยอดนิยมคือภาพของน้ำตกสโกกาฟอสส์ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟเอยาฟยาตลาเยอคุตล์ (Eyjajallajikull) ดังที่เห็นในภาพ


น้ำตกสโกการ์ฟอสส์แสนอลังการกับไอน้ำที่ฟุ้งกระจายตลอดเวลา

           น้ำตกสโกกาฟอสส์เป็นน้ำตกขนาดใหญ่มีน้ำแรงและไอน้ำฟุ้งกระจายตลอดเวลา หากนักท่องเที่ยวมาถึงที่นี่ในช่วงเวลาที่มีแดดส่องมาทางน้ำตกจะสามารถเห็นรุ้งกินน้ำอยู่ด้านหน้าน้ำตกได้อย่างชัดเจน หรือในบางครั้งหากโชคดีอาจจะได้เห็นรุ้งกินน้ำถึงสองชั้น (Double Rainbow)



การเดินทางจากกรุงเทพไปเมืองเรคยาวิก

           เนื่องจากการเดินทางจากประเทศไทยไปประเทศไอซ์แลนด์ยังไม่มีสายการบินที่ให้บริการเที่ยวบินตรง ฉะนั้น นักท่องเที่ยวจากประเทศไทยที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวประเทศไอซ์แลนด์จะต้องบินไปลงยังเมืองใดเมืองหนึ่งของยุโรปก่อนเพื่อต่อไฟลท์ไปยังประเทศไอซ์แลนด์อีกครั้ง เรคยาวิก (Reykjavik) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์ มีสนามบิน 2 แห่งตั้งอยู่คนละที่ คือ Keflavik International Airport (KEF) ซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติ และ Reykjavik Domestic Airport (RKV) ซึ่งเป็นสนามบินภายในประเทศ

             จากเมืองต่างๆ ของยุโรปเครื่องจะบินไปลงที่สนามบินนานาชาติ Keflavik International Airport (KEF) ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเรคยาวิกไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 50 กิโลเมตร เว้นเสียแต่ว่านักท่องเที่ยวเดินทางมาจากหมู่เกาะแฟโร (Faroe Islands) และ เกาะกรีนแลนด์ (Greenland) ซึ่งจะมีเที่ยวบินระหว่างประเทศที่ให้บริการไปลง Reykjavik Airport (RKV) สนามบินภายในประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเรคยาวิกไปทางทิศใต้ประมาณ 3 กิโลเมตร

การเดินทางจากสนามบินเรคยาวิกสู่ตัวเมือง

             การเดินทางจากสนามบินนานาชาติ Keflavik International Airport (KEF) ไปยังตัวเมืองเรคยาวิกจะใช้เวลาประมาณ 40 – 45 นาที นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการ เช่ารถยนต์ ได้จากหลากหลายบริษัท โดยสามารถศึกษาข้อมูลและจองได้ล่วงหน้าก่อนเดินทาง อาทิ บริการของบริษัทต่างๆ บนเว็บไซต์ www.motorhomerepublic.com และ www.rentalcars.com ทั้งนี้ หากนักท่องเที่ยวไม่ได้เช่ารถยนต์ขับจากสนามบินเลยก็สามารถใช้บริการ รถโดยสารสาธารณะ ชื่อ Flybus Airport Transfers เพื่อไปลงที่ BSI Bus Terminal หรือจุดจอดต่างๆ ในตัวเมืองเรคยาวิก โดยรถจะมีให้บริการทุกๆ 30 นาทีหรือ 1 ชั่วโมง ราคาอยู่ที่ 2.950 ISK ต่อคน โดยนักท่องเที่ยวสามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ที่ https://www.re.is/flybus เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีที่นั่งแน่นอนในวันเดินทาง

             การเดินทางจากสนามบินภายในประเทศ Reykjavik Domestic Airport (RKV) ไปยังตัวเมืองเรคยาวิกจะใช้เวลาประมาณ 10 นาที นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองได้โดย ใช้บริการ รถแท็กซี่ หรือ ใช้บริการ รถโดยสารประจำทาง Straeto สาย 15 ของ Reykjavik Excursions เพื่อไปลงที่ BSI Bus Terminal หรือจุดจอดต่างๆ ในตัวเมืองเรคยาวิก โดยนักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบเวลาและเส้นทางการเดินรถรอบๆ เมืองเรคยาวิกได้ที่ https://www.straeto.is/en/timatoflur

การเดินทางจากเมืองเรคยาวิกไปยังสโกการ์ฟอสส์

           นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางท่องเที่ยวในไอซ์แลนด์แบบ Road Trip โดยการใช้เส้นทาง Ring Road หรือ Highway No. 1 ซึ่งเป็นเส้นทางวงแหวนวิ่งรอบประเทศไอซ์แลนด์ จุดเริ่มต้นของการเดินทางบน Ring Road คือ เมืองเรคยาวิก (Reykjavik) เมืองหลวงของประเทศ ซึ่งมีสนามบินนานาชาติที่สายการบินจากประเทศต่างๆ บินไปลงที่นี่ การใช้เส้นทาง Ring Road นั้นเป็นการขับรถแบบวงกลม โดยปลายทางจะวนกลับมายังเมืองเรคยาวิก ระหว่างทางจะมีจุดน่าสนใจต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้แวะชมภูมิประเทศอันงดงามและน่าอัศจรรย์ของไอซ์แลนด์เป็นระยะ การขับรถเที่ยวบน Ring Road จนครบนั้นจะใช้ระยะเวลาประมาณ 10 - 14 วัน หรือมากกว่า

             จากเมืองเรคยาวิกไปยังสโกการ์ฟอสส์ ใช้เส้นทาง Vesturlandsvegur/ถนนหมายเลข 49 ระยะเวลา 3 นาที (1.3 กม.) จากนั้นตาม Þjóðvegur 1, ถนนหมายเลข 1 และ Þjóðvegur ไปทาง Skógar มุ่งไป Suðurland ระระเวลา 1 ชม. 51 นาที (146 กม.) เดินทางต่อไปบน Skógar ขับไปทาง Skógafoss/Skógarfoss ระยะเวลา 4 นาที (1.4 กม.)


บ้านเรือนหลังเล็กๆ น่ารักๆ ระหว่างทาง

เวลาที่หมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

           นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยวสโกการ์ฟอสส์ได้ตลอดทั้งปี ทั้งนี้ ในช่วงฤดูร้อน ระหว่างเดือนกรกฎาคม – สิงหาคมจะเป็นฤดูท่องเที่ยว ทัวร์ส่วนใหญ่จะไปถึงช่วงกลางวัน ดังนั้น เวลาที่ดีที่สุดสำหรับการไปเที่ยวที่นี่คือช่วงเช้า และเย็นๆ ที่นักท่องเที่ยวจะได้ใช้เวลาดื่มด่ำไปกับทัศนียภาพที่สวยงามแบบสบายๆ และนักท่องเที่ยวยังไม่แออัดจนเกินไป


น้ำตกสโกกาฟอสส์มองจากจุดชมวิวด้านบน

เวลาทำการเปิด – ปิด

           นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยวยังสโกการ์ฟอสส์ได้ตลอดเวลา


บริเวณจุดชมวิวเหนือน้ำตก

อัตราค่าเข้าชม
           ไม่เสียค่าเข้าชม


สายรุ้งที่ปรากฏให้เห็นเป็นปกติ หากโชคดีนักท่องเที่ยวอาจได้เห็นรุ้งคู่หรือ Double Rainbow


บรรยากาศรอบๆ ก่อนที่จะเข้าไปถึงตัวน้ำตก


ป้ายสัญลักษณ์บอกทาง


แลนด์มาร์กที่งดงามอีกแห่งหนึ่งของประเทศไอซ์แลนด์

สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวสโกการ์ฟอสส์

             พิพิธภัณฑ์สโคการ์ (Skogar Museum) ตั้งอยู่ในหมู่บ้านสโกการ์ อยู่ห่างจากตัวน้ำตกไปราว 5 กม. เป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นที่ถูกก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1949 ภายในมีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของไอซ์แลนด์ตอนใต้ รวมไปถึงเครื่องมือที่ใช้สำหรับการตกปลา เลี้ยงสัตว์ การหัตถกรรม เสื้อผ้า และอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกเป็นจำนวนมาก

             น้ำตกเซลจาลันต์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเมืองเซลฟอส (Selfoss) และอยู่ห่างจากสโคคาร์ฟอสส์ (Skogafoss) ไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 28 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์ โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินไปด้านหลังน้ำตกได้ด้วย 


น้ำตกเซลจาลันต์ฟอสส์ (Seljalandsfoss)

ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้

             วีซ่า ในประเทศไทยยังไม่มีสถานทูตไอซ์แลนด์ ฉะนั้น ผู้ที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวประเทศไอซ์แลนด์จึงต้องไปขอที่สถานทูตเดนมาร์ก

             สกุลเงิน สกุลเงินของไอซ์แลนด์ คือ เงินโครน (Icelandic Krona) แต่นักท่องเที่ยวสามารถใช้เงินยูโยได้ ทั้งนี้ การชำระราคาสินค้าและบริการต่างๆ ด้วยเงินโครน หรือบัตรเครดิตจะสะดวกกว่า

             ภาษา อักษรภาษาไอซ์แลนดิกจะแตกต่างจากภาษาอังกฤษ คือ Á (ออ), Ð ð (dh หรือ ด, ท), É (เย), Í (อี), Ó (อุ), Ú (อู), Ý (อี), Þ þ (th หรือ ธ), Æ (เอ) และ Ö (เออ) และในภาษาภาษาไอซ์แลนดิกจะไม่มีอักษร C, Q, W และ Z ยกเว้นเวลาสะกดคำทับศัพท์ภาษาต่างประเทศเช่นคำว่า pizza

             สภาพอากาศ สภาพอากาศของไอซ์แลนด์แปรปรวนค่อนข้างบ่อยและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นักท่องเที่ยวจึงควรตระเตรียมความพร้อมของเครื่องแต่งกายเมื่อเดินทาง

             การเดินทาง การเดินทางท่องเที่ยวรอบๆ ประเทศไอซ์แลนด์นั้นไม่เหมาะกับการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ ทางเลือกที่ดีที่สุด คือ การเช่ารถขับเอง โดยนักท่องเที่ยวต้องเช่ารถจากสนามบิน

             การขับรถในประเทศเทศไอซ์แลนด์ หากเป็นฤดูหนาวต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้นเนื่องจากถนนจะลื่น เป็นน้ำแข็ง การจำกัดความเร็วการขับรถในประเทศไอซ์แลนด์นั้น ความเร็วทั่วไปในพื้นที่เขตเมืองจำกัดที่ 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง, พื้นที่นอกเมือง (ถนนไม่ได้ลาดยาง) จำกัดที่ 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง, พื้นที่นอกเมือง (ถนนลาดยาง) จำกัดที่ 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง และการขับรถในประเทศไอซ์แลนด์ นอกจากห้ามโทรศัพท์และต้องคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลาแล้ว กฎหมายยังบังคับว่าต้องเปิดไฟหน้ารถตลอดเวลา ไม่ว่าจะเช้าหรือกลางคืน


ล้อรถมีลักษณะเหมือนหัวตะปูติดอยู่ เพื่อให้ล้อยึดกับถนนในฤดูหนาวที่มีหิมะและถนนลื่น

           พฤติกรรมอย่างหนึ่งของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คือการหยุดรถกลางถนน เพราะต้องการถ่ายรูปวิว รูปม้า หรือ แกะ ซึ่งการกระทำเช่นนี้สามารถเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ ฉะนั้น เมื่อต้องการจอดรถระหว่างทางนักท่องเที่ยวจึงควรเลือกจุดจอดอย่างระมัดระวังและคำนึงถึงเพื่อนร่วมท้องถนนคนอื่นๆ ด้วย

           เมื่อขับรถเที่ยวในประเทศไอซ์แลนด์นอกฤดูกาล นักท่องเที่ยวจะต้องเผื่อใจสำหรับความล่าช้าในการเดินทาง เนื่องจากถนนที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะและลื่น สำคัญมากที่นักท่องเที่ยวจะต้องทราบและคอยเช็กและอัพเดทสภาพอากาศของไอซ์แลนด์อยู่ตลอด  โดยเฉพาะนอกฤดูกาลที่สภาพอากาศค่อนข้างแปรปรวนมาก และสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว หากหิมะตกในขณะขับรถท่องเที่ยวในประเทศไอซ์แลนด์ นักท่องเที่ยวควรแจ้งให้ทางโรงแรมที่พักทราบว่ากำลังจะเดินทางไปที่ไหน ใช้ถนนเส้นไหน และคาดว่าจะเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางต่อไปเมื่อไร  เพราะหากเกิดปัญหาฉุกเฉินขึ้น อย่างน้อยๆ ทางโรงแรมก็สามารถที่จะประสานงานให้ความช่วยเหลือได้

             เครื่องหมายจราจรในประเทศไอซ์แลนด์ โดยทั่วไปเป็นตามแบบมาตรฐานสากล แต่อาจมีสัญลักษณ์บางอย่างที่นักท่องเที่ยวไม่คุ้นเคย เช่น Single - lane Bridge หรือสะพานเลนเดียว ที่นักท่องเที่ยวสามารถพบได้บ่อยๆ เมื่อพบสัญลักษณ์นี้ ผู้ขับจะต้องชะลอรถให้อีกฝ่ายที่มาถึงก่อนเป็นฝ่ายไปก่อน เนื่องจากรถจะไม่สามารถแล่นสวนกันได้ ฉะนั้นนักท่องเที่ยวจึงต้องใช้ความระมัดระวัง และมีน้ำใจแก่เพื่อนร่วมถนน และเนื่องจากถนนในไอซ์แลนด์นั้นไม่ได้กว้างและไม่มีไหล่ถนนเหมือนถนนตามต่างประเทศ ฉะนั้น นักท่องเที่ยวต้องมั่นใจว่าเวลาจอดรถไม่ได้จอดกินเลนถนนมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้


Single - lane Bridge หรือสะพานเลนเดียว

            ถนนอีกประเภทหนึ่งที่ค่อนข้างพบได้บ่อยในไอซ์แลนด์ แต่อาจจะไม่ค่อยพบในต่างประเทศคือ ถนนที่เรียกว่า Blindhaed หรือ Blind Rise ที่ค่อนข้างพบได้เป็นปกติบนถนนสายที่เล็กกว่าถนนสายวงแหวน จะมีลักษณะคือเป็นเนินแหลมชนกัน นั่นหมายความว่านักท่องเที่ยวจะไม่สามารถมองเห็นรถที่กำลังวิ่งขึ้นเนินสวนมาจากอีกฝั่ง ผู้ขับจึงจำเป็นที่จะต้องลดความเร็วลง และขับรถด้วยความระมัดระวัง

 

            นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม น้ำตกสโกการ์ฟอสส์ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                        น้ำตกสโกกาฟอสส์ เมืองวิค ประเทศไอซ์แลนด์

                        (Skogarfoss, Vik, Iceland)

                        ระดับความนิยม              

                        อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

                        เวลาเปิด-ปิด : นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยวที่สโกการ์ฟอสส์ได้ตลอดเวลา

                        ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อน

                        สถานที่ตั้ง : ตั้งอยู่ที่เมืองวิก ทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ และอยู่ห่างจากเมืองเรคยาวิกประมาณ 148 กม.

                        โทรศัพท์ : (+354)4834601

                        เว็บไซต์ : https://www.south.is/en/moya/toy/index/place/skogafoss-waterfall

                        ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com    

                                        ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการขับรถเที่ยว https://safetravel.is/

                                        แท็กซี่เมืองเรคยาวิก http://www.taxireykjavik.is/

                                        ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไอซ์แลนด์ https://www.iceland.is

                                        ศูนย์บริการยื่นขอวีซ่าประเทศไอซ์แลนด์ http://vfsglobal-denmark.com

                                        สถานเอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำประเทศไทย http://thailand.um.dk

                                        เบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉิน 112

                                        เบอร์โทรศัพท์สำหรับช่วยเหลือทางการแพทย์ 1770

                                        เบอร์โทรศัพท์ตำรวจ 444 – 1000

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ