ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (3,366)
  • By Webmaster
  • 11:41:00 | 13 พ.ย. 2562

ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น

Atsuta Jingu Shrine, Nagoya, Japan


บรรยากาศอันร่มรื่นบริเวณด้านหน้าศาลเจ้าหลัก

             ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู (Atsuta Jingu Shrine) ศาลเจ้าเก่าแก่ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดหลังหนึ่งของศาสนาชินโตแห่งนี้ ถือเป็นศาลเจ้าที่มีความโดดเด่นทั้งด้านประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม วัฒนธรรม และยังแวดล้อมไปด้วยป่าไม้ร่มรื่นของเมืองนาโกย่า ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาสักการะขอพรที่ศาลเจ้ากันหนาแน่นทุกวัน


แผนที่ตั้ง อัตสึตะ จิงกู เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น


ประวัติ


สถาปัตยกรรมของตัวศาลเจ้าหลัก

             ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู (Atsuta Jingu Shrine) ชินโต (Shintoism) เป็นศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดศาสนาหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น โดยความเชื่อ พิธีกรรม ประเพณีที่สืบทอดกันมาจากศาสนาชินโตนั้น ถือเป็นรากเหง้าของวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นที่คงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งจะพบเห็นได้จากการกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเฉลิมฉลองวันปีใหม่ งานรับขวัญเด็กแรกเกิด พิธีศพ ฯลฯ ที่มีพื้นฐานมาจากคำสอน และธรรมเนียมปฎิบัติของศาสนาชินโตทั้งสิ้น โดย ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางพื้นที่ป่าไม้ดูร่มรื่นของเมืองนาโกย่าแห่งนี้ นับเป็นศาสนสถานที่บ่งบอกถึงความรุ่มรวยทางประวัติศาสตร์ของศาสนาชินโต ที่ชาวญี่ปุ่นให้ความนับถือที่สุดแห่งหนึ่งในบรรดาศาลเจ้าประจำศาสนาชินโตที่กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ โดยมีการสันนิษฐานว่าศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาครั้งแรกในสมัยของพระจักรพรรดิเคโกะ (Emperor Keiko) ที่ครองราชย์สมบัติในช่วงปี ค.ศ. 71 – 103 จึงนับเป็นศาลเจ้าที่มีอายุกว่า 1,900 ปีเลยทีเดียว


จุกสักการะขอพรประจำศาลเจ้า


บ่อน้ำล้างมือโบราณของศาลเจ้า


ศาลาเก็บถังสาเกที่ผู้มาสักการะศาลเจ้านำมาบริจาค

           โดยปี ค.ศ. 1893 ช่วงที่ประเทศญี่ปุ่นกำลังอยู่ในยุคสมัย (Meiji Period) ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่อีกครั้ง และมีการเปลี่ยนรูปทรงทางสถาปัตยกรรมของศาลเจ้าเป็นแบบชินเม (Shinmei-Zukuri) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมหลักของศาลเจ้าส่วนใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น โดยสถาปัตยกรรมแนวนี้มีต้นแบบมาจากศาลเจ้าใหญ่แห่งอิเสะ (The Grand Shrine of Ise) ศาลเจ้าที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของศาสนาชินโต ก่อนที่ต่อมาศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู แห่งนี้จะได้รับการบูรณะครั้งใหญ่อีกครั้งในปี ค.ศ. 1955 หลังจากได้รับความเสียหายอย่างหนักในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และนอกจากตัวศาลเจ้าหลักแล้ว ภายในพื้นที่ยังมีโบราณวัตถุน่าสนใจเกี่ยวกับศาสนาชินโตอีกหลายจุด ทั้งเสาโทริอิ (Torii) ไอคอนสำคัญที่เป็นภาพจำเวลานึกถึงศาสนาชินโต หรือจะเป็นรั้วโนบุนากะ (Nobunaga Wall) สิ่งก่อสร้างสำคัญที่เป็นเหมือนบันทึกสำคัญของโชกุนโอดะ โนบูนางะ (Oda Nobunaga) ซึ่งเคยมาขอพรที่ศาลเจ้านี้ก่อนทำศึกและได้ชัยชนะกลับมาในศึกแห่งโอเค ฮาซามะ (Okehazama) สงครามซามูไรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดศึกหนึ่งของประเทศ ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้กลายเป็นจุดสักการะสำคัญที่คนญี่ปุ่นนิยมมาขอพร เวลาจะต้องทำการแข่งขัน หรือเริ่มต้นทำอะไรสำคัญด้วย ทั้งยังมีบ่อน้ำล้างมือโบราณ ศาลาเก็บถังสาเกเก่าแก่ ฯลฯ ให้ได้ไปเดินชมอีกหลายจุด


เสาโทริอิประจำศาสนาชินโตของศาลเจ้า


ต้นการบูรอายุกว่า 1,000 ปีของศาลเจ้า

           อีกหนึ่งจุดเด่นของศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู คือพื้นที่โดยรอบซึ่งแวดล้อมไปด้วยป่าไม้ดูร่มรื่นเหมาะแก่การมาเดินเล่นที่สุด มีต้นการบูรสูงใหญ่อายุกว่า 1,000 ปี  ซึ่งบริเวณโคนต้นไม้จะมีไข่ที่คนในพื้นที่นำมาถวายตามความเชื่อของคนในพื้นที่ว่าต้นการบูรนี้เป็นที่สิ่งสถิตของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาลเจ้า และมีความเชื่อว่าศาลเจ้าแห่งนี้ยังเป็นสถานที่เก็บ ดาบคุซานางิ (Kusanagi Sward) หนึ่งในสามเครื่องราชกกุธภัณฑ์ระดับตำนานของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น แม้จะยังไม่มีการนำออกมาโชว์ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันก็ตาม แต่ศาลเจ้าก็มีพิพิภัณฑ์ศาลเจ้าอัตสึตะ (Atsuta Shrine Museum) เป็นอาคารที่จัดแสดงวัตถุโบราณทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นกว่า 4,000 ชิ้น ที่ได้รับการดูแลอย่างดี เป็นเหตุทำให้ที่นี่ สมควรต่อการถูกยกให้เป็นศาลเจ้าที่ทรงคุณค่าที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น


โครงสร้างของศาลเจ้าที่ใช้ไม้เป็นวัสดุหลัก


จุดเขียนแผ่นไม้ขอพรของศาลเจ้า


การเดินทางจากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ไปยังศูนย์กลางคมนาคมสาธารณะของเมืองนาโกย่า

           การเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่นจากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์สามารถทำได้อย่างสะดวก เพราะมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วโดยสารระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภทเรียงรายอยู่บริเวณเดียวกับอาคารผู้โดยสารขาเข้า

             - รถยนต์ จากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ ไปยังศูนย์กลางคมนาคมสาธารณะของเมืองนาโกย่า ระยะทางประมาณ 48 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที อ่านบทความเกี่ยวกับการเช่าและใช้รถยนต์ในประเทศญี่ปุ่นได้ที่ https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=602

             - รถบัส จากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ให้เดินไปขึ้นรถบัสที่สถานีรถบัส (Centrair Bus Terminal) ที่ป้ายรอรถบัสหมายเลข 6 ระยะทางประมาณ 48 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1ชั่วโมงกับอีก 15 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.centrair.jp/en/access/bus.html

             - รถไฟ จากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ให้เดินไปขึ้นรถไฟที่บริเวณอาคารผู้โดยสารขาเข้า เพื่อไปลงที่สถานี Nagoya Station ระยะทางประมาณ 48 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.centrair.jp/en/access/train.html 

           อ่านบทความวิธีเดินทางเข้าเมืองนาโกย่าจากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ อย่างละเอียดได้ที่ https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=736


การเดินทางจากศูนย์กลางคมนาคมสาธารณะของเมืองนาโกย่าไปยังศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู

             - รถยนต์ จาก Nagoya Station ไปยังศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 17 นาที

             - รถไฟ จาก Nagoya Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Tokaido Line เพื่อไปลงที่สถานี Atsuta Station ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 300 เมตรก็จะถึง ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู ใช้เวลาเดินทางประมาณ 16 นาที


เวลาเปิด-ปิดทำการ

           เปิดตลอดเวลา / พิพิภัณฑ์ศาลเจ้าอัตสึตะ เปิดเวลา 09:00 น. – 16:30 น.


ทางเดินปูหินที่กว้างขวางและขนาบไปด้วยพื้นที่สีเขียวของศาลเจ้า


อัตราค่าเข้าชม

           เข้าชมฟรี แต่ส่วนพิพิภัณฑ์ศาลเจ้าอัตสึตะ ต้องเสียค่าเข้าชม คนละ 300 เยน


ป้ายแสดงข้อมูลน่าสนใจต่างๆ ของศาลเจ้า


เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว

           ตลอดทั้งปี


ต้นการบูรที่ปลูกอยู่ภายในศาลเจ้า


             นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น

                         (Atsuta Jingu Shrine, Nagoya, Japan)

                         ระดับความนิยม

                         อัตราค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี แต่จะมี พิพิภัณฑ์ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู ที่ต้องเสียค่าเข้าชม คนละ 300 เยน

                         เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา / พิพิภัณฑ์ศาลเจ้าอัตสึตะ จิงกู เปิดเวลา 09:00 น. – 16:30 น.

                         ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                         สถานที่ตั้ง : เมืองนาโกย่า, ประเทศญี่ปุ่น

                         โทรศัพท์ : (+81) 52-671-0010

                         เว็ปไซต์ : http://www.atsutajingu.or.jp/

                         ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/

                                          เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองนาโกย่า https://www.nagoya-info.jp/th/information/

                                          เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/

                                          เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนของประเทศญี่ปุ่น http://www.hyperdia.com/

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

9 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในมณฑลกานซู ประเทศจีน

มณฑลกานซูตั้งอยู่ทางภาคเหนือตอนกลางของประเทศจีน พื้นที่แถบนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งซึ่งกระจายตัวอยู่ตามเมืองดังต่างๆ เช่น เมืองตุนหวง และ เมืองจางเย่ อีกทั้งการเดินทางมาเที่ยวที่พื้นที่บริเวณนี้ก็มีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก เพราะมณฑลกานซูมีสนามบินหลันโจวจงฉวนซึ่งเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่สามารถนั่งเครื่องบินจากไทยมาลงได้โดยตรง และยังสามารถต่อเที่ยวบินท้องถิ่นเพื่อไปมาระหว่างเมืองอื่นในจีนได้ตามต้องการอีกด้วย

อ่านต่อ

วัดลาบรัง วัดทิเบตโบราณ มณฑลกานซู ประเทศจีน

วัดลาบรัง (Labrang Monastery) เป็นวัดและมหาวิทยาลัยสงฆ์ในพุทธศาสนานิกายทิเบตที่มีความเก่าแก่เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีอาณาบริเวณกว้างใหญ่เทียบเท่าได้กับเมืองขนาดย่อมใจกลางหุบเขา หมู่อารามต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุโบสถ ศาลา หอสวดมนต์ หอพระสูตร อาคารเรียน เจดีย์ และที่พำนักสงฆ์ ล้วนถูกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตกรรมวิหารทิเบตอย่างงดงาม นักท่องเที่ยวสามารถซื้อบริการทัวร์เที่ยวชมภายในวัด หรือจะซื้อตั๋วเข้าชมภายในวัดด้วยตนเองตามอัธยาศัยก็ได้ โดยการเที่ยวชมภายในวัดลาบรังจะยกเว้นบริเวณที่พำนักสงฆ์ และห้ามภ่ายภาพภายในสถานที่สำคัญบางแห่งที่มีป้ายถ่ายภาพ ไฮไลท์ของการเที่ยวชมวัดลาบรังได้แก่บริเวณหอสามชั้นซึ่งสร้างขึ้นแบบทิเบตดั้งเดิม บริเวณห้องโถงฮายากริวาที่มีจิตรกรรมฝาผนังอันวิจิตรงดงาม และบริเวณเจดีย์สีทอง รวมถึงบริเวณจุดชมวิวต่างๆ ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันน่าทึ่งของหมู่อารามทั้งหมดที่โอบล้อมด้วยภูเขา วัดลาบรังได้รับการยกย่องให้เป็น "สถาบันทิเบตศาสตร์แห่งโลก" และถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนมณฑลกานซูเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม

โฮจิมินห์ (Ho Chi Minh) หรือที่รู้จักกันในชื่อไซ่ง่อน เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนานของเวียดนาม ทั้งยังคึกคักและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา Palanla ขอนำเสนอ 15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโฮจิมินห์ที่มัดรวมเข้าด้วยกันแล้วรับรองว่าจะสามารถบอกเล่าเรื่องราวของความเป็น “ไซ่ง่อน” ได้อย่างดีเยี่ยม

อ่านต่อ

8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม

เว้ (Thua Thien Hue) เป็นหนึ่งในเมืองอันดับต้นๆ ของเวียดนามที่รวบรวมเอาสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเป็นชาติเวียดนามเอาไว้มากมาย ผ่านสถาปัตยกรรมที่สวยงามและมีนัยยะสำคัญทางความหมาย ทั้งจากอดีตและในปัจจุบัน หากต้องการรู้จักเวียดนาม แน่นอนว่าเราจึงไม่อาจปฏิเสธการมาเยี่ยมชมเมืองเว้ไปได้ Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเว้ ประเทศเวียดนามพร้อมๆ กัน

อ่านต่อ

10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม

จังหวัดหล่าวกายเป็นจังหวัดในพื้นที่ภูเขาทางตะวันตกเฉียงเหนือของเวียดนาม พื้นที่บริเวณนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะในเมืองซาปาอันโด่งดังที่โอบล้อมด้วยภูเขา และมีทิวทัศน์ของท้องนาขั้นบันไดอันงดงามท่ามกลางป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ วันนี้ทาง Palanla จึงได้คัดสรรสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดหล่าวกายมาฝากทุกท่าน โดยมีทั้งจุดชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจไปจนถึงแลนด์มาร์กสำคัญที่ต้องไปเช็คอินให้ได้ โดยรวบรวมสถานที่สำคัญทั้งหมดสิบแห่งไว้ในบทความนี้เพื่อเป็นแนวทางท่องเที่ยวหล่าวกายในช่วงวันหยุดที่กำลังจะมาถึงนี้

อ่านต่อ

หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม

หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) เป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากทิวทัศน์ของภูเขาและนาขั้นบันได นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวม้ง เที่ยวชมบ้านเรือนที่สร้างด้วยไม้แบบดั้งเดิม และตื่นตาตื่นใจไปกับทัศนียภาพอันน่าทึ่งของหมู่บ้านที่จะสวยงามแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาล รวมทั้งได้เที่ยวชมตลาดท้องถิ่นที่มีสินค้าแฮนด์เมดสวยๆ และอาหารท้องถิ่นที่น่าลิ้มลอง นอกจากนี้ อีกหนึ่งโซนที่พลาดไม่ได้ภายในหมู่บ้านคือบริเวณน้ำตกกั๊ตกั๊ตที่มีความสวยงามและร่มเย็นเป็นอย่างมาก ซึ่งน้ำจะไหลตลอดทั้งปี และจะไหลแรงที่สุดในช่วงฤดูฝนประมาณเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน

อ่านต่อ

หมู่บ้านเมืองฮัว จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม

หมู่บ้านเมืองฮัว (Muong Hoa Village) เป็นหมู่บ้านชาวม้งที่ตั้งอยู่ในหุบเขาเมืองฮัวของเมืองซาปา ไฮไลท์ของที่นี่คือทิวทัศน์ทางธรรมชาติอันสวยงามของนาข้าวขั้นบันไดท่ามกลางภูเขาและป่าไม้ โดยจะมีความสวยงามที่สุดในช่วงเดือนกันยายนซึ่งเป็นช่วงที่รวงข้าวสุกงอมเป็นสีทองอร่ามไปทั้งไหล่เขาท่ามกลางภูเขาที่โอบล้อม และในบางช่วงเวลาจะมีสายหมอกปกคลุม เป็นจุดชมวิวธรรมชาติที่สวยงามและมีบรรยากาศที่เงียบสงบ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีร้านอาหารท้องถิ่นและที่พักแบบโฮมสเตย์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย

อ่านต่อ

สะพานแก้วมังกรเมฆ จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม

สะพานแก้วมังกรเมฆ (Glass Bridge Rong May) เป็นสะพานกระจกแก้วแห่งแรกของเวียดนามที่สร้างขึ้นบนเทือกเขาฮว่างเลียนเซิน ไฮไลท์ของสะพานกระจกแก้วนี้คือความสูงราวสองพันเมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นจุดชมวิวที่น่าตื่นเต้นจากการได้เดินชมวิวบนสะพานพื้นกระจกใส ท่ามกลางสายหมอกและเมฆที่ลอยอยู่ ซึ่งมองไปจะเห็นวิวอันน่าทึ่งภูเขานับพันลูก ทุ่งนาขั้นบันได และถนนคดเคี้ยวด้านล่าง โดยการเดินทางขึ้นมายังสะพานแก้วมังกรเมฆนี้มีความสะดวกสบายเป็นอย่างมากจากบริการลิฟต์แก้วที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการขึ้นไปถึงสะพานแก้วบนยอดเขา

อ่านต่อ

วัดตรักลัมไดเกียกเซน จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม

วัดตรักลัมไดเกียกเซน (Truc Lam Dai Giac Zen Monastery) เป็นวัดพุทธแห่งแรกที่สร้างขึ้นในเมืองซาปา ภายในวัดประกอบด้วยหมู่อารามหลายหลังที่สร้างขึ้นอย่างงดงาม สามารถเดินชมสถาปัตยกรรมของวัดและทิวทัศน์จากด้านบนเนินเขาได้อย่างเพลิดเพลิน รวมทั้งแวะสักการะพระพุทธรูปปางต่างๆ ภายในวัดเพื่อความเป็นสิริมงคลได้อีกด้วย ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางในเส้นทางท่องเที่ยวเมืองซาปาและจังหวัดหล่าวกายที่ไม่ควรพลาด

อ่านต่อ

ภูเขาฮามรอง จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม

ภูเขาฮามรอง (Ham Rong Mountain) เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่กลางเมืองซาปา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีทุ่งดอกไม้สีสันสดใสนานาพันธุ์ให้เที่ยวชม และมีจุดชมวิวที่น่าประทับใจอยู่หลายแห่ง โดยจุดชมวิวที่เป็นไฮไลท์คือจุดชมวิวที่สถานีโทรคมนาคมซาปาที่สามารถชมวิวของภูเขาฟานซีปันซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี และจุดชมวิวคลาวด์ยาร์ดที่สามารถเห็นกลุ่มมวลเมฆและสายหมอกล่องลอยอยู่เหนือเมืองซาปา และมองเห็นหุบเขาเมืองฮัว หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต และทุ่งนาขั้นบันได ภูเขาฮามรองจึงเป็นจุดท่องเที่ยวและจุดถ่ายภาพยอดนิยมของเมืองซาปาที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ