- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- เมืองโบราณเลาดีเซีย จังหวัดเดนิซลี ประเทศตุรกี
เมืองโบราณเลาดีเซีย จังหวัดเดนิซลี ประเทศตุรกี

- อ่าน (3,958)
- By Webmaster
- 16:36:24 | 14 ต.ค. 2562
เมืองโบราณเลาดีเซีย จังหวัดเดนิซลี ประเทศตุรกี
Laodicea on the Lycus, Denizli, Turkey
เมืองโบราณเลาดีเซีย (Laodicea on the Lycus / The ancient city of Laodicea) เมืองในยุคโบราณที่มีอายุเก่าแก่กว่า 7,500 ปี มีความสำคัญคือเป็นเมืองหนึ่งใน 7 คริสตจักร (The seven churches of Revelation) ตามที่ปรากฏในพระคัมภีร์ไบเบิลของศาสนาคริสต์ สำหรับยุคปัจจุบันเมืองโบราณเลาดีเซียนับเป็นสถาบันทางโบราณคดีแห่งแรก และเป็นแหล่งโบราณคดีที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดเดนิซลี ประเทศตุรกี
ประวัติ
เมืองโบราณเลาดีเซีย (Laodicea on the Lycus / The ancient city of Laodicea) ตั้งอยู่ในจังหวัด Denizli เป็นเมืองโบราณในเขตชายแดนของตุรกี เมืองนี้เป็นแหล่งโบราณคดีที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยมีใครรู้จักมาก่อน นักวิจัยคนแรกที่เริ่มสนใจซากปรักหักพังของเลาดีเซียคือ จี เวเบอร์ (G. Weber) โดยเขาได้เริ่มขุดค้นบางส่วนของเลาดีเซียในปี ค.ศ. 1833 และในปี ค.ศ. 1843 ต่อมาในปี ค.ศ. 2002 งานโบราณคดีระบบใหม่เริ่มขึ้น โดยทีมนักโบราณคดีศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยปามุกคาเล่ (Pamukkale University) และพิพิธภัณฑ์เดนิซลี เมืองโบราณแห่งนี้จึงเป็นที่รู้จักมากขึ้น
เมืองเลาดีเซียในอดีตแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ราชินี Laodice ราชินีแห่งกษัตริย์ Seleucid King Antiochus II Theos ในศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสต์ศักราช อย่างไรก็ตามจากหลักฐานการขุดค้นพบว่าประวัติศาสตร์ของเมืองเลาดีเซียนั้นมีอายุย้อนไปถึง 5,500 ปีก่อนคริสตกาลเลยทีเดียว นอกจากนี้เมืองเลาดีเซียยังมีความสำคัญคือเป็นเมืองที่ปรากฏอยู่ในพระคัมภีร์ไบเบิลว่าเป็นหนึ่งใน 7 คริสตจักร โดยเป็นคริสตจักรในยุคสุดท้ายจากคริสตจักรทั้งเจ็ดยุค เมืองโบราณแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกโดยเฉพาะชาวคริสต์ต้องการที่จะไปเที่ยวชมให้ได้สักครั้ง
เมืองเลาดิเซียเคยเจริญรุ่งเรืองสูงสุดในระหว่างช่วงศตวรรษที่ 1 และ 3 ซึ่งจากการคำนวณประชากรของเมืองในช่วงเวลานั้นคาดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 80,000 คน โดยพิจารณาจากขนาดที่ใหญ่เป็นสองเท่าของเมืองโบราณของ Hierapolis และ Tripolis ซึ่งมีประชากรราว 40,000 คน
ในราวปี ค.ศ. 60 ได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทำให้บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างหักพังลงเป็นบริเวณกว้าง หลังจากนั้นเมืองก็สูญเสียความสำคัญและไม่สามารถกลับไปสู่ความรุ่งเรืองเช่นในอดีตได้ ซึ่งหลังจากภัยพิบัติทางธรรมชาติเมืองนี้ก็ไม่เคยได้รับการบูรณะหรือถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ผู้คนในเมืองจึงย้ายไปอยู่ที่เมืองใกล้เคียงเช่น Denizli แทน
แม้ว่าปัจจุบันเมืองโบราณเลาดีเซียจะหลงเหลือเพียงซากปรักหักพัง แต่โครงสร้างและชิ้นส่วนของสิ่งก่อสร้างที่เหลืออยู่บางส่วนเหล่านี้ ก็พอจะบ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีตของเมืองโบราณอันมั่งคั่งที่ตั้งอยู่บนถนนสายการค้าหลัก ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมการทอผ้าขนสัตว์ ทั้งยังมีโรงเรียนแพทย์ในสมัยโบราณมาก่อนได้เป็นอย่างดี
โครงสร้างของ Agora ทางด้านทิศเหนือของเมืองโบราณเลาดิเซีย
เสาโรมันทำจากหินอ่อนขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านเรียงราย
ซากของสิ่งก่อสร้างซึ่งทำจากหินอ่อน แกะสลักลวดลายอย่างงดงาม
Temple "A" เทวสถานในเมืองโบราณเลาดิเซียมองจากบริเวณ Agora
ซากของโครงสร้างซุ้มประตู
ถนนสายหลัก
การเดินทางจาก Istanbul ไปยัง Denizli
- เครื่องบิน (Airplane) จากอิสตันบูลไปเดินิซลีมีระยะทางประมาณ 580 กิโลเมตร การเดินทางโดยรถยนต์จะใช้เวลาประมาณ 6 - 8 ชั่วโมง หากนักท่องเที่ยวไม่ได้มีความประสงค์ที่จะเช่ารถขับเพื่อแวะเที่ยวชมที่ต่างๆ ระหว่างทาง การเดินทางโดยเครื่องบินซึ่งใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง 15 นาที จึงเป็นทางเลือกที่สะดวกและประหยัดเวลาไปได้มาก จากอิสตันบูลมีเที่ยวบินตรงออกจากสนามบิน Istanbul International Airport และจากสนามบิน Sabiha Gokcen International Airport ไปยังสนามบิน Denizli Airport ของเดนิซลีให้บริการ 4 – 7 เที่ยวต่อวัน นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเที่ยวบิน ราคา และดูข้อมูลเพิ่มเติมและได้ที่ https://www.google.com/flights?hl=th&authuser=0#flt=/m/09949m.DNZ.2019-10-09*DNZ./m/09949m.2019-10-13;c:THB;e:1;sd:1;t:f
- รถโดยสารประจำทาง (Bus) หากนักท่องเที่ยวไม่ได้มีเงื่อนไขเรื่องเวลาและต้องการประหยัดค่าเดินทาง ซึ่งราคาตั๋วรถโดยสารสำหรับเส้นทางอิสตันบูล – เดนิซลี นั้นจะเริ่มต้นที่ประมาณ 120 – 143 ลีราตุรกี หรือราวๆ 640 - 765 บาท โดยจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 9 – 12 ชั่วโมง ทั้งนี้นักท่องเที่ยวควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เปรียบเทียบอัตราค่าโดยสารก่อนซื้อตั๋วเพราะราคาอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับรอบเวลาเดินทาง โดยบริษัทที่ให้บริการเดินรถนั้นมีอยู่หลายบริษัทด้วยกัน ได้แก่ Nilüfer Turizm, Efe Tur, Alaşehir Sarıkız Turizm, Metro Turizm, Pamukkale Turizm นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.busbud.com/en/bus-schedules-results/sxk96f/swswvu?outbound_date=2019-10-03&adults=1
- รถเช่า (Rental Car) สำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนเดินทางท่องเที่ยวในตุรกีโดยการเช่ารถขับเองอยู่แล้ว ก็มีบริษัทเช่ารถยนต์ให้บริการอยู่หลายบริษัท อาทิ Avis, Budget, Enterprise, Europcar, Hertz และ Sixt สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.rentalcars.com/en/city/tr/istanbul/
การเดินทางจากสนามบิน Denizli Airport ไป Laodicea on the Lycus
- รถยนต์ (Car) จากสนามบิน Denizli Airport ไป Laodicea on the Lycus มีระยะทาง 66.8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 55 นาที
จากสนามบิน Denizli Airport จะมีทัวร์ให้บริการจากสนามบินไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ โดยตรง ทั้งนี้ทัวร์ส่วนใหญ่จะเริ่มเดินทางออกจากสนามบินตั้งแต่ช่วงเช้า ดังนั้น เที่ยวบินที่นักท่องเที่ยวนั่งมาลงที่เดนิซลีควรมาถึงระหว่างเวลา 07.00 – 08.00 น.
เวลาทำการเปิด – ปิด
เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00 – 18.45 น.
อัตราค่าเข้าชม
บัตรเข้าชมราคา 18 ลีราตุรกี
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว Laodicea on the Lycus
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว Laodicea on the Lycus ได้แก่
- First Church of Laodicea on the Lycus
โบสถ์แห่งแรกของเมืองเลาดิเซียตามที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ไบเบิล
- Syria Street
ถนนซีเรียในเมืองโบราณเลาดีเซีย (Syria Street in Laodicea on the Lycus)
- Temple "A"
Temple "A" เทวสถานในเมืองโบราณเลาดิเซีย
- Temple of Zeus
“Temple of Zeus” เป็นเทวสถานที่สร้างแด่เทพเจ้าซีอุส
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยว Laodicea of Lycus ได้ตลอดทั้งปี ทั้งนี้ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม - กลางเดือนมิถุนายน) ซึ่งเป็นช่วงที่สภาพอากาศของประเทศตุรกีกำลังดี ไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไปและเป็นช่วงที่กลางวันยาว นักท่องเที่ยวจึงสามารถใช้เวลาเที่ยวชมสถานที่ได้ยาวนานขึ้น
บรรยากาศโดยรอบ มีป้ายให้ข้อมูลความรู้แก่นักท่องเที่ยวกำกับอยู่ตามจุดๆ ที่สำคัญ
ซากสิ่งก่อสร้างบางส่วนของเมืองโบราณเลาดิเซีย
แม้ว่าปัจจุบันเมืองโบราณเลาดีเซียจะหลงเหลือเพียงซากปรักหักพัง แต่โครงสร้างและชิ้นส่วนของสิ่งก่อสร้างที่เหลืออยู่เหล่านี้ ก็พอจะบ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีตได้เป็นอย่างดี
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
การเดินเที่ยวชมรอบๆ Laodicea on the Lycus ใช้เวลาประมาณ 1 – 1.5 ชั่วโมง ภายในเมืองโบราณลูดีเซียไม่มีร้านค้า ดังนั้นหากต้องการใช้เวลาอยู่ที่นี่นานนักท่องเที่ยวควรเตรียมน้ำหรืออาหารมาด้วยเพื่อความสะดวก
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม Laodicea on the Lycus สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
เมืองโบราณเลาดีเซีย จังหวัดเดนิซลี ประเทศตุรกี
(Laodicea on the Lycus, Denizli, Turkey)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : บัตรเข้าชมราคา 18 ลีราตุรกี
เวลาเปิด – ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00 – 18.45 น.
ตั้งอยู่ที่ : Eskihisar, Denizli, Turkey
โทรศัพท์ : -
เว็บไซต์ : -
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวเมืองเดนิซลี http://www.pamukkale.gov.tr/en
เว็บไซต์การท่องเที่ยวประเทศตุรกี https://www.visitturkey.in/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

14 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดเนฟเชียร์ ประเทศตุรกี
หากเอ่ยถึงการท่องเที่ยวประเทศตุรกี เชื่อว่าหนึ่งในภาพที่หลายๆ คนมักจะนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ คือภาพของบอลลูนลมร้อนหลากสีสันที่ลอยละล่องอยู่เต็มน่านฟ้า เหนือภูมิประเทศแปลกตาด้วยกลุ่มหินรูปทรงต่างๆ และสถานที่ที่ว่านี้ก็คือเนฟเชียร์ จังหวัดทางภาคกลางของตุรกีที่มีเมืองดังอย่างคัปปาโดเชียเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยว ในบทความนี้ Palanla ได้รวบรวมเอา 14 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดเนฟเชียร์มาให้ออกเดินทางสำรวจไปพร้อมๆ กัน
อ่านต่อ
8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดอิซเมียร์ ประเทศตุรกี
อิซเมียร์ (Izmir) เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศตุรกี และเป็นท่าเรือที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากอิสตันบูล ซึ่งไม่เพียงแต่ความเป็นเมืองใหญ่ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจเท่านั้น ทว่าอิซเมียร์ยังรุ่มรวยไปด้วยภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง เชื่อว่า 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในอิซเมียร์ที่ Palanla ได้คัดสรรมาให้ได้ชมในบทความนี้จะทำให้คุณรู้จักอิซเมียร์มากขึ้นกว่าที่เคยอย่างแน่นอน
อ่านต่อ
7 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดเดนิซลี ประเทศตุรกี
เดนิซลี (Denizli) จังหวัดทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกีที่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่งให้สำรวจ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติมรดกโลกชื่อดังอย่างปามุคคาเล่ หรือเมืองโบราณเฮียราโพลิส และเมืองโบราณเลาดิเซียซึ่งเป็นศูนย์กลางที่สำคัญในสมัยโรมันและไบแซนไทน์มาก่อน Palanla ได้รวบรวม 7 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเดนิซลีมาให้ได้ชมกัน
อ่านต่อ
10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในประเทศไอร์แลนด์เหนือ
ประเทศไอร์แลนด์เหนือตั้งอยู่ในทวีปยุโรปและเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์เหนือมีชื่อเสียงทางด้านภูมิประเทศที่สวยงามและทิวทัศน์ทางธรรมชาติอันน่าหลงใหล อีกทั้งยังเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่มีพิพิธภัณฑ์และสถาปัตยกรรมต่างๆ ให้เที่ยวชมมากมายโดยมีสถานที่ท่องเที่ยวกระจายตัวอยู่ตามเมืองต่างๆ อย่างเช่นเมืองเบลฟาสต์ เมืองลอนดอนเดอร์รี่ และเมืองแถบชายฝั่งทะเล ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ก็อย่างเช่น พิพิธภัณฑ์ไททานิกเบลฟาสต์ที่จัดแสดงเรื่องราวของเรือไททานิกอันโด่งดัง และไจแอนท์คอสเวย์ที่ได้รับเลือกให้เป็นแหล่งมรดกโลกแห่งองค์การยูเนสโก นอกจากนี้ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีกมากมาย โดยทาง Palanla ได้รวบรวมมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้
อ่านต่อ
สะพานเชือกคาร์ริก-อะ-รีด เขตอนุรักษ์แห่งชาติ ชายฝั่งคอสเวย์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ
สะพานเชือกคาร์ริก-อะ-รีด เขตอนุรักษ์แห่งชาติ (National Trust Carrick-a-Rede) เป็นสะพานเชือกความยาว 20 เมตรที่เชื่อมระหว่างพื้นที่ชายฝั่งกับเกาะหินคาร์ริก-อะ-รีดที่อยู่ตรงข้ามกัน ที่นี่เป็นจุดชมทิวทัศน์มหาสมุทรแอตแลนติกอันกว้างใหญ่พร้อมกับเส้นทางผจญภัยบนสะพานเชือกที่ทอดข้ามข้ามเหวลึก 30 เมตรไปสำรวจเกาะเบื้องหน้าซึ่งเป็นที่ตั้งของกระท่อมชาวประมงเก่าแก่ที่มีอายุราวสี่ร้อยกว่าปี ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในจุดชมวิวและจุดถ่ายภาพที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ
ปราสาทเบลฟาสต์ เมืองเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ
ปราสาทเบลฟาสต์ (Belfast Castle) เป็นคฤหาสน์เก่าแก่หลังใหญ่ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบสกอตต์บารอนอย่างงดงาม ถือเป็นแลนด์มาร์กขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นบนเนินเขาเคฟฮิลล์ในเมืองเบลฟาสต์ นอกจากปราสาทเบลฟาสต์จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ที่นี่ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญต่างๆ เช่น งานแต่งงานและการประชุมทางธุรกิจ นอกจากนี้ ด้วยพื้นที่เนินเขาที่อยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 120 เมตร จึงทำให้ที่นี่เป็นจุดชมวิวเมืองเบลฟาสต์จากมุมสูงอีกด้วย
อ่านต่อ
ตลาดเซนต์จอร์จ เมืองเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ
ตลาดเซนต์จอร์จ (St George’s Market) เป็นตลาดในร่มสไตล์วิคตอเรียนแห่งสุดท้ายที่ยังเปิดทำการอยู่ในเมืองเบลฟาสต์ ตลาดแห่งนี้เปิดทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ช่วงสายถึงบ่ายสอง โดยมีแผงขายอาหาร สินค้าแฮนด์เมด และสินค้าหลากหลายประเภท ท่ามกลางดนตรีสดและบรรยากาศที่คึกคัก ตลาดแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองในทุกสุดสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดเซนต์จอร์จยังได้รับรางวัลทั้งระดับท้องถิ่นและระดับประเทศทางด้านผลผลิตสดใหม่ในท้องถิ่นและบรรยากาศที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งยังได้รับการเสนอชื่อให้เป็นตลาดในร่มขนาดใหญ่ที่ดีที่สุดของสหราชอาณาจักรประจำปี 2023 จาก NABMA Great British Market Awards อีกด้วย
อ่านต่อ
กำแพงเมืองเดอร์รี เมืองลอนดอนเดอร์รี่ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ
กำแพงเมืองเดอร์รี (The Derry Walls) เป็นอนุสรณ์สถานที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไอร์แลนด์เหนือ และเป็นกำแพงเมืองที่ยาวที่สุดและมีความสมบูรณ์ที่สุดในบรรดาเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบที่เหลืออีก 30 เมืองในไอร์แลนด์อีกด้วย กำแพงเมืองเดอร์รี่อยู่ใกล้กับแม่น้ำฟอยล์ มีประตูเมือง 7 ประตู ภายในกำแพงเมืองเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น ปราสาท ศาลากลาง และโบสถ์ ไฮไลท์ของกำแพงเมืองแห่งนี้คือปืนใหญ่จำนวน 22 กระบอกที่เรียงรายไปตามป้อมปราการของกำแพงเมือง ปืนเหล่านี้เป็นปืนโบราณจากศตวรรษที่ 16, 17 และ 18 โดยมีปืนโรริงเมกอันโด่งดังตั้งอยู่ที่ป้อมปราการที่อยู่ใกล้ประตูบิชอป กำแพงเมืองเดอร์รี่จึงถือเป็นแหล่งมรดกที่มีความสำคัญระดับชาติและเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ควรแวะเที่ยวชม
อ่านต่อ
11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ซูริค (Zurich) หนึ่งในเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของยุโรปที่นักเดินทางทั่วโลกใฝ่ฝัน เพราะนอกจากมนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติอันงดงามบริสุทธิ์แล้ว ยังรุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม Palanla ได้รวบรวมเอา 11 สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในซูริคมาฝากกัน
อ่านต่อ
อลาคาติ จังหวัดอิซเมียร์ ประเทศตุรกี
อลาคาติ (Alacati ) เมืองตากอากาศในบรรยากาศสไตล์กรีก โดดเด่นด้วยถนนแคบๆ กับบ้านหินแบบดั้งเดิมทาสีขาว ฟ้า ตกแต่งด้วยสีสันสดใส และกังหันลม ให้กลิ่นอายของซานโตรินี สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศกรีซ
อ่านต่อ