- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- โบสถ์เซนต์อัลบัน เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
โบสถ์เซนต์อัลบัน เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก

- อ่าน (2,785)
- By Webmaster
- 14:58:45 | 29 พ.ค. 2563
โบสถ์เซนต์อัลบัน เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
St Alban's Anglican Church, Copenhagen, Denmark
โบสถ์เซนต์อัลบัน (St. Alban's Church) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า English Church ตั้งอยู่ข้างๆ กับน้ำพุ Gefion และป้อม Kastellet โบสถ์ St. Alban's Church เป็นโบสถ์ในศาสนาคริสต์นิกาย Anglican แห่งเดียวในกรุงโคเปนเฮเกน
ประวัติ
ชื่อของโบสถ์แห่งนี้ตั้งเพื่ออุทิศแด่ Saint Alban ผู้อุทิศตนเพื่อศาสนาคนแรกของอังกฤษ โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของชุมชนชาวอังกฤษในโคเปนเฮเกนซึ่งประชาชนต้องการศาสนสถานเพื่อการประกอบศาสนกิจ โดยก่อนหน้านั้นชาวคริสต์ในเดนมาร์กต้องเช่าห้องประชุมตามสถานที่ต่างๆ เพื่อทำพิธีทางศาสนา และหลังจากการระดมทุนอยู่นานราว 30 ปีจึงได้มีการก่อสร้างโบสถ์แห่งนี้ขึ้นมาช่วงปีค.ศ.1885 – 1887 โดยมีเซอร์อาร์เธอ บลอมฟิลด์ (Sir Arthur Blomfield) เป็นสถาปนิกผู้ออกแบบโบสถ์แห่งนี้ เซอร์อาร์เธอ บลอมฟิลด์มีผลงานการออกแบบโบสถ์จำนวนมากในอังกฤษและเขายังได้รับรางวัล “Royal Gold Medal” ในปี ค.ศ. 1891 จากสถาบัน Royal Institute of British Architects อีกด้วย
สถาปัตยกรรมด้านนอกอันสวยงามของโบสถ์นั้นเป็นแบบโกธิควิคตอเรียน (Gothic-Victorian) ที่สร้างตามสไตล์ดั้งเดิมของโบสถ์แบบ English parish church แบบยุคแรกๆ ของอังกฤษ ตัวอาคารของโบสถ์นั้นสร้างจากหิน limestone ที่นำมาจากเมือง Faxe ทางใต้ของโคเปนเฮเกน
สำหรับสถาปัตยกรรมภายในของโบสถ์นับตั้งแต่สร้างขึ้นมานั้นมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย นอกจากอนุสรณ์ต่างๆ และหน้าต่างที่สร้างขึ้นภายหลังแล้วก็มีเพียงการติดตั้งระบบแสงสว่างและระบบทำความร้อนในปี ค.ศ. 1930 ผนังด้านในของโบสถ์ก่อและฉาบด้วยหินปูนสีขาวคุณภาพดี แท่นพิธีและฉากหลังของแท่นบูชาเป็นดินเผา ส่วนออร์แกนนั้นสร้างจากลอนดอน ประเทศอังกฤษ รวมแล้วมีท่อออร์แกนทั้งหมดถึง1,480 ท่อ
สิ่งหนึ่งซึ่งเป็นความโดดเด่นของที่นี่คือระฆังบนหอคอยของโบสถ์ที่มีอยู่ทั้งหมด 15 หลังด้วยกัน โดยการตีระฆังนั้นจะตีก่อนและหลังการทำพิธีต่างๆ รวมทั้งมีการตีระฆังทุกๆ 15 นาที และมีการบรรเลงเพลงสวดต่างๆ ทุกๆ ชั่วโมงด้วย กล่าวกันว่าในช่วงแรกของการตีระฆังนั้นต้องใช้วิธีดึงเชือกเอา
ทัศนียภาพอันสวยงามที่มองเห็นโบสถ์ St. Alban's Church ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ
สถาปัตยกรรมของโบสถ์เป็นแบบโกธิควิคตอเรียน (Gothic-Victorian) ที่สร้างตามสไตล์ดั้งเดิมของโบสถ์ในประเทศอังกฤษ
การเดินทางจากสนามบินสู่ตัวเมือง
สนามบินโคเปนเฮเกน (Copenhagen Airport) หรือชื่อทางการคือท่าอากาศยานนานาชาติโคเปนเฮเกน (Copenhagen Kastrup International Airport) ซึ่งมีชื่อเรียกภาษาเดนมาร์กคือ “Københavns Lufthavn” ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองโคเปนเฮเกนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 13 กิโลเมตร จากสนามบินนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าเมืองไปยังสถานีรถไฟหลักคือสถานี Copenhagen Central Station ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางของเมืองโคเปนเฮเกนได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้
- รถยนต์ (Car) การเดินทางโดยรถยนต์จาก Copenhagen Airport ไปยัง Copenhagen Central Station ซึ่งเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของเมืองโคเปนเฮเกน โดยใช้เส้นทางสาย E20 มีระยะทาง 13 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
- รถประจำทาง (Bus) จาก Copenhagen Airport สามารถนั่งรถประจำทางสาย 5A เพื่อไปยัง Copenhagen Central Station ได้โดยจะใช้เวลาประมาณ 20 นาที รถออกทุก 10 นาที นักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วโดยสารได้ที่ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติบริเวณ Terminal 3 หรือสามารถซื้อตั๋วโดยสารจากพนักงานขับรถ
- รถไฟ (Train) จาก Copenhagen Airport ไปยัง Copenhagen Central Station สามารถนั่งรถไฟ โดยสถานีรถไฟสนามบินตั้งอยู่บริเวณ Terminal 3 หากลงเครื่องที่ Terminal 1 สามารถนั่งรถรับส่งมาที่ Terminal 3 ได้ โดยรถไฟจะออกทุก 10 นาที แต่ช่วงเวลากลางคืนจะออกชั่วโมละละ 1-3 ขบวน โดยจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 13 นาที นักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วโดยสารได้ที่เคาน์เตอร์ DSB (การรถไฟเดนมาร์ก) หรือตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ
- แท็กซี่ (Taxi) นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถแท็กซี่ได้ที่ Terminal 1 และ Terminal 3 จาก Copenhagen Airport ไปยัง Copenhagen Central Station โดยจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ราคาค่าโดยสารตามมิเตอร์ประมาณ 250-200 โครนเดนมาร์ก
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถซื้อ Copenhagen Card ได้ที่เคาน์เตอร์ DSB (การถไฟเดนมาร์ก) บริเวณ Terminal 3 โดยสามารถใช้บัตรนี้ได้กับรถโดยสารทุกประเภท (ยกเว้นรถแท็กซี่) และสามารถใช้เข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้ฟรี หรือใช้เป็นส่วนลดกับร้านอาหาร การเช่ารถ และสิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย
การเดินทางไป St Alban’s Anglian Church
- รถยนต์ (Car) การเดินทางโดยรถยนต์จากสถานี Copenhagen Central Station ไปยัง St Alban’s Anglian Church โดยใช้เส้นทางสาย Øster Voldgade มีระยะทาง 3.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 นาที
- รถไฟ (Train) จากสถานี Copenhagen Central Station ไปยัง St Alban’s Anglian Church นักท่องเที่ยวสามารถนั่งไฟสาย A, B, C, E, H ไปลงที่สถานี Osterport Station ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด
วันจันทร์ – วันเสาร์ เปิดให้เข้าชมเวลา 10.00 - 16.00 น.
วันอาทิตย์ เปิดให้เข้าชมเวลา 13.00 - 16.00 น.
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว St Alban’s Anglian Church
ถัดจากโบสถ์ St Alban’s Anglian Church ไปไม่ไกลกันนัก ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกสามแห่งที่เมื่อมาชมรูปปั้นแห่งนี้นักท่องเที่ยวมักนิยมเดินทางไปเที่ยวในคราวเดียวกัน ได้แก่ ป้อม Kastellet, น้ำพุเกฟิออน (Gefion Fountain) และ รูปปั้น Little Mermaid อันเลื่องชื่อนั่นเอง
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยว St Alban’s Anglian Church ได้ตลอดทั้งปี
พื้นที่ติดประกาศประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่างๆ บริเวณด้านนอกอาคาร St Alban’s Anglian Church
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว St Alban’s Anglian Church สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
โบสถ์เซนต์อัลบัน เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
(St Alban's Anglican, Copenhagen, Denmark)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด – ปิด : วันจันทร์ – วันเสาร์ เปิดให้เข้าชมเวลา 10.00 - 16.00 น.
วันอาทิตย์ เปิดให้เข้าชมเวลา 13.00 - 16.00 น.
ตั้งอยู่ที่ : Churchillparken 11, 1263 København K, Denmark
โทรศัพท์ : (+45) 33 11 85 18
เว็บไซต์ : https://www.st-albans.dk
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวเมืองโคเปนเฮเกน https://www.visitcopenhagen.com
เว็บไซต์การท่องเที่ยวประเทศเดนมาร์ก www.denmark.dk
เว็บไซต์ขนส่งสาธารณะเมืองโคเปนเฮเกน https://www.visitcopenhagen.com/copenhagen/planning/tickets-prices
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

7 วันขับรถเที่ยวตะลุยแลปแลนด์
แลปแลนด์ (Lapland) ภูมิภาคซึ่งตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศฟินแลนด์ (Finland) นับเป็นจุดหมายหลักสำหรับนั่งท่องเที่ยวจากทั่วโลกรวมถึงพวกเราด้วยที่อยากจะเดินทางไปสัมผัสกับประสบการณ์ท่องเที่ยวฤดูหนาวแบบขั้วโลกเหนือ ไม่ว่าจะเป็นการพักอยู่ในที่พักแบบกระท่อมหลังคากระจกใสท่ามกลางบรรยากาศแวดล้อมของป่าสนและทุ่งหิมะขาวโพลนกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา เฝ้ารอชมปรากฏการณ์แสงเหนือวาดลีลาอันสวยงามเหนือท้องฟ้าในยามค่ำคืน และทำกิจกรรมฤดูหนาวสนุกๆ อย่างการนั่งเลื่อนที่วิ่งลากโดยสุนัขฮัสกี้จอมพลัง ขับสโนวโมบิลออกไปตะลุยตกปลาน้ำแข็ง รวมถึงนั่งเลื่อนกวางเรนเดียร์ เที่ยวปราสาทหิมะ ไปเที่ยวหมู่บ้านซานต้าและชมเส้นวงกลมละติจูดอาร์กติก (Arctic Circle) ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าเส้นสำคัญของโลกที่ลากผ่านเมืองโรวาเนียมี
อ่านต่อ
14 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดเนฟเชียร์ ประเทศตุรกี
หากเอ่ยถึงการท่องเที่ยวประเทศตุรกี เชื่อว่าหนึ่งในภาพที่หลายๆ คนมักจะนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ คือภาพของบอลลูนลมร้อนหลากสีสันที่ลอยละล่องอยู่เต็มน่านฟ้า เหนือภูมิประเทศแปลกตาด้วยกลุ่มหินรูปทรงต่างๆ และสถานที่ที่ว่านี้ก็คือเนฟเชียร์ จังหวัดทางภาคกลางของตุรกีที่มีเมืองดังอย่างคัปปาโดเชียเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยว ในบทความนี้ Palanla ได้รวบรวมเอา 14 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดเนฟเชียร์มาให้ออกเดินทางสำรวจไปพร้อมๆ กัน
อ่านต่อ
8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดอิซเมียร์ ประเทศตุรกี
อิซเมียร์ (Izmir) เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศตุรกี และเป็นท่าเรือที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากอิสตันบูล ซึ่งไม่เพียงแต่ความเป็นเมืองใหญ่ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจเท่านั้น ทว่าอิซเมียร์ยังรุ่มรวยไปด้วยภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง เชื่อว่า 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในอิซเมียร์ที่ Palanla ได้คัดสรรมาให้ได้ชมในบทความนี้จะทำให้คุณรู้จักอิซเมียร์มากขึ้นกว่าที่เคยอย่างแน่นอน
อ่านต่อ
7 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดเดนิซลี ประเทศตุรกี
เดนิซลี (Denizli) จังหวัดทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกีที่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่งให้สำรวจ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติมรดกโลกชื่อดังอย่างปามุคคาเล่ หรือเมืองโบราณเฮียราโพลิส และเมืองโบราณเลาดิเซียซึ่งเป็นศูนย์กลางที่สำคัญในสมัยโรมันและไบแซนไทน์มาก่อน Palanla ได้รวบรวม 7 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเดนิซลีมาให้ได้ชมกัน
อ่านต่อ
10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในประเทศไอร์แลนด์เหนือ
ประเทศไอร์แลนด์เหนือตั้งอยู่ในทวีปยุโรปและเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์เหนือมีชื่อเสียงทางด้านภูมิประเทศที่สวยงามและทิวทัศน์ทางธรรมชาติอันน่าหลงใหล อีกทั้งยังเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่มีพิพิธภัณฑ์และสถาปัตยกรรมต่างๆ ให้เที่ยวชมมากมายโดยมีสถานที่ท่องเที่ยวกระจายตัวอยู่ตามเมืองต่างๆ อย่างเช่นเมืองเบลฟาสต์ เมืองลอนดอนเดอร์รี่ และเมืองแถบชายฝั่งทะเล ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ก็อย่างเช่น พิพิธภัณฑ์ไททานิกเบลฟาสต์ที่จัดแสดงเรื่องราวของเรือไททานิกอันโด่งดัง และไจแอนท์คอสเวย์ที่ได้รับเลือกให้เป็นแหล่งมรดกโลกแห่งองค์การยูเนสโก นอกจากนี้ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีกมากมาย โดยทาง Palanla ได้รวบรวมมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้
อ่านต่อ
สะพานเชือกคาร์ริก-อะ-รีด เขตอนุรักษ์แห่งชาติ ชายฝั่งคอสเวย์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ
สะพานเชือกคาร์ริก-อะ-รีด เขตอนุรักษ์แห่งชาติ (National Trust Carrick-a-Rede) เป็นสะพานเชือกความยาว 20 เมตรที่เชื่อมระหว่างพื้นที่ชายฝั่งกับเกาะหินคาร์ริก-อะ-รีดที่อยู่ตรงข้ามกัน ที่นี่เป็นจุดชมทิวทัศน์มหาสมุทรแอตแลนติกอันกว้างใหญ่พร้อมกับเส้นทางผจญภัยบนสะพานเชือกที่ทอดข้ามข้ามเหวลึก 30 เมตรไปสำรวจเกาะเบื้องหน้าซึ่งเป็นที่ตั้งของกระท่อมชาวประมงเก่าแก่ที่มีอายุราวสี่ร้อยกว่าปี ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในจุดชมวิวและจุดถ่ายภาพที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ
ปราสาทเบลฟาสต์ เมืองเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ
ปราสาทเบลฟาสต์ (Belfast Castle) เป็นคฤหาสน์เก่าแก่หลังใหญ่ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบสกอตต์บารอนอย่างงดงาม ถือเป็นแลนด์มาร์กขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นบนเนินเขาเคฟฮิลล์ในเมืองเบลฟาสต์ นอกจากปราสาทเบลฟาสต์จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ที่นี่ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญต่างๆ เช่น งานแต่งงานและการประชุมทางธุรกิจ นอกจากนี้ ด้วยพื้นที่เนินเขาที่อยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 120 เมตร จึงทำให้ที่นี่เป็นจุดชมวิวเมืองเบลฟาสต์จากมุมสูงอีกด้วย
อ่านต่อ
ตลาดเซนต์จอร์จ เมืองเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ
ตลาดเซนต์จอร์จ (St George’s Market) เป็นตลาดในร่มสไตล์วิคตอเรียนแห่งสุดท้ายที่ยังเปิดทำการอยู่ในเมืองเบลฟาสต์ ตลาดแห่งนี้เปิดทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ช่วงสายถึงบ่ายสอง โดยมีแผงขายอาหาร สินค้าแฮนด์เมด และสินค้าหลากหลายประเภท ท่ามกลางดนตรีสดและบรรยากาศที่คึกคัก ตลาดแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองในทุกสุดสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดเซนต์จอร์จยังได้รับรางวัลทั้งระดับท้องถิ่นและระดับประเทศทางด้านผลผลิตสดใหม่ในท้องถิ่นและบรรยากาศที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งยังได้รับการเสนอชื่อให้เป็นตลาดในร่มขนาดใหญ่ที่ดีที่สุดของสหราชอาณาจักรประจำปี 2023 จาก NABMA Great British Market Awards อีกด้วย
อ่านต่อ
กำแพงเมืองเดอร์รี เมืองลอนดอนเดอร์รี่ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ
กำแพงเมืองเดอร์รี (The Derry Walls) เป็นอนุสรณ์สถานที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไอร์แลนด์เหนือ และเป็นกำแพงเมืองที่ยาวที่สุดและมีความสมบูรณ์ที่สุดในบรรดาเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบที่เหลืออีก 30 เมืองในไอร์แลนด์อีกด้วย กำแพงเมืองเดอร์รี่อยู่ใกล้กับแม่น้ำฟอยล์ มีประตูเมือง 7 ประตู ภายในกำแพงเมืองเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น ปราสาท ศาลากลาง และโบสถ์ ไฮไลท์ของกำแพงเมืองแห่งนี้คือปืนใหญ่จำนวน 22 กระบอกที่เรียงรายไปตามป้อมปราการของกำแพงเมือง ปืนเหล่านี้เป็นปืนโบราณจากศตวรรษที่ 16, 17 และ 18 โดยมีปืนโรริงเมกอันโด่งดังตั้งอยู่ที่ป้อมปราการที่อยู่ใกล้ประตูบิชอป กำแพงเมืองเดอร์รี่จึงถือเป็นแหล่งมรดกที่มีความสำคัญระดับชาติและเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ควรแวะเที่ยวชม
อ่านต่อ
11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ซูริค (Zurich) หนึ่งในเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของยุโรปที่นักเดินทางทั่วโลกใฝ่ฝัน เพราะนอกจากมนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติอันงดงามบริสุทธิ์แล้ว ยังรุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม Palanla ได้รวบรวมเอา 11 สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในซูริคมาฝากกัน
อ่านต่อ