- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- จัตุรัสเทียนอันเหมิน เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน
จัตุรัสเทียนอันเหมิน เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน
- อ่าน (5,494)
- By Webmaster
- 13:18:00 | 23 ก.ค. 2561
จัตุรัสเทียนอันเหมิน เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน
天安门 , Tian’anmen Square, Beijing, China
จัตุรัสเทียนอันเหมิน (天安门 / Tian’anmen Square) เป็นหนึ่งในจุดแลนด์มาร์คท่องเที่ยวสำคัญของ เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน
จัตุรัสเทียนอันเหมิน ไม่ได้เป็นเพียงแหล่งท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดเท่านั้น แต่สถานที่แห่งนี้ยังมีบทบาทสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์จีนหลายต่อหลายครั้ง ทั้งการประกาศจัดตั้งสาธารณรัฐ หรือการชุมนุมครั้งใหญ่ๆของประเทศจีนทั้งหมดต่างก็เกิดขึ้นที่นี่ ทำให้จัตุรัสเทียนอันเหมินได้ชื่อว่าเป็น สัญลักษณ์ของประเทศจีนในยุคใหม่
ทั้งนี้ จัตุรัสเทียนอันเหมินได้ชื่อว่า เป็นจัตุรัสที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก และอันดับ 4 ในประเทศจีน (เคยเป็นจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในโลกจนกระทั่งปี 1976 ) สามารถรองรับผู้คนได้มากกว่าล้านคนสำหรับการร่วมงานฉลองความยินดีในวันชาติจีนทุกปี และยังเป็นประตูทางเข้าสู่พระราชวังต้องห้าม อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังของประเทศจีน
มองจากอีกฝั่งถนน จะเห็นแถวของนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือนจัตุรัสเทียนอันเหมินและพระราชวังต้องห้ามจำนวนมากทุกวัน
หากเป็นช่วงเทศกาลวันชาติ ในจัตุรัสจะมีชาวจีนออกมาร่วมฉลองกันที่นี่
มีการประดับธงชาติและตกแต่งสถานที่ด้วยต้นไม้ดอกไม้สีสันสดใสเข้าบรรยากาศการฉลอง
และมีการแสดงไฟประดับในเวลากลางคืนอย่างสวยงาม
ต้นไม้ที่ตกแต่งและคำอวยพรฉลองก็ได้รับการประดับไฟเช่นกัน
แสงไฟประดับตกแต่งที่เห็นได้แต่ไกลในเทศกาลวันชาติเหล่านี้ ถือเป็นหนึ่งในเสน่ห์บรรยากาศของจัตุรัสเทียนอันเหมินที่คู่ควรให้ไปสัมผัสสักครั้ง
ความเป็นมาและบทบาทสำคัญของจัตุรัสเทียนอันเหมิน
ในอดีต จัตุรัสเทียนอันเหมินมีบทบาทในฐานะประตูทางเข้าแห่งหนึ่งของพระราชวังต้องห้าม โดยมีชื่อเดิมว่า เฉิงเทียนเหมิน หรือประตูเฉิงเทียน ถูกสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกในช่วงเวลาประมาณปี 1417 สมัยราชวงศ์หมิง ก่อนจะถูกบูรณะครั้งยิ่งใหญ่ในสมัยจักรพรรดิซุ่ยจื้อแห่งราชวงศ์ชิง หรือประมาณปี 1651 และได้มีการเปลี่ยนชื่อประตูจากเฉิงเทียนเป็นเทียนอันเหมินอีกด้วย (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.tiananmen.org.cn/page.htm?id=AAE00175800EBA904EC3F806E61721C1)
ประตูเทียนอันเหมินที่ยังทำหน้าที่เป็นทางผ่านเข้าสู่พระราชวังต้องห้ามตราบทุกวันนี้
บทบาทในฐานะประตูทางเข้าสู่พระราชวังต้องห้ามสิ้นสุดลงในยุคแห่งการปฎิวัติประเทศจีน ขณะเดียวกันลานสี่เหลี่ยมด้านหน้าประตู ก็กลายเป็นเวทีอันยิ่งใหญ่ของการเคลื่อนไหวในการเปลี่ยนแปลงประเทศและทำให้ชื่อเสียงของจัตุรัสเทียนอันเหมินโด่งดังขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการเดินขบวนเคลื่อนไหวต่างๆ หรือเหตุการณ์สำคัญในหน้าประวัติศาสตร์จีนอย่าง การประกาศปฎิรูปสาธารณรัฐประชาชนจีนในวันที่ 1 ตุลาคม 1949 (ซึ่งภายหลังได้กลายเป็นวันชาติจีน)
รูปของเหมาเจ๋อตุง ผู้ประกาศการปฎิรูปฯที่ยังประดับอยู่ที่เทียนอันเหมิน
แม้จนทุกวันนี้ จัตุรัสเทียนอันเหมินก็ยังเป็นสถานที่สำคัญที่ประชาชนชาวจีนจะพร้อมใจกันมาชุมนุมและแสดงความเคารพต่อประธานาธิบดีเหมา เจ๋อตุง ผู้เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของการสร้างประเทศจีนยุคใหม่ ทั้งยังเป็นแลนด์มาร์คแห่งสำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องแวะมาเยือน และบทบาทสุดท้ายที่กลับมาอีกครั้ง คือการเป็นหนึ่งในทางเข้าสู่พระราชวังต้องห้ามที่เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชม
บรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองของชาวจีนในวันชาติที่จัตุรัสเทียนอันเหมินที่ถือเป็นหนึ่งในสีสันของสถานที่แห่งนี้
การเดินทางไปจัตุรัสเทียนอันเหมิน เมืองปักกิ่ง
จัตุรัสเทียนอันเหมิน ตั้งอยู่ภายในเขตเมืองปักกิ่ง (หรือเป่ยจิง /北京 / Beijing) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศจีน และมีท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง หรือ Beijing Capital International Airport (PEK) สนามบินขนาดใหญ่ไว้คอยให้บริการ ทั้งนี้ หลังจากเดินทางมาถึงแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้ามายังเมืองปักกิ่งได้โดย
- ชัตเตอร์บัสจากสนามบิน หลังจากมาถึงสนามบินแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการชัตเตอร์บัสจากสนามบินเข้าสู่ตัวเมืองที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 30 กิโลเมตร และใช้เวลาในการเดินทางเพียง 40 นาทีได้ โดยสามารถดูรายละเอียดเส้นทาง, ตารางเวลา รวมถึงค่าบริการชัตเตอร์บัสไปจุดหมายต่างๆภายในเมืองเพิ่มเติมได้ที่ http://en.bcia.com.cn/traffic/airbus/index.shtml
- รถบัส หรือรถบัสยาวของชาวจีน เป็นหนึ่งในบริการขนส่งสาธารณะที่ได้รับความนิยมในประเทศจีน เนื่องจากเส้นทางและรอบเวลาที่หลากหลาย นักท่องเที่ยวสามารถเข้าสู่เมืองปักกิ่งได้ โดยไม่ต้องเปลี่ยนรถ โดยนักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบรายละเอียดเส้นทาง, ตารางเวลา รวมถึงอัตราค่าบริการเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bjbus.com/home/index.php
- รถไฟฟ้าใต้ดิน นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน Airport Express ซึ่งเป็นบริการรถไฟใต้ดินจากสนามบินสู่ สถานี Dongzhimen ซึ่งอยู่ในตัวเมืองปักกิ่งและเป็นหนึ่งในสถานีเชื่อมต่อการเดินทางกับรถไฟใต้ดินหรือขนส่งสารธารณะอื่นๆ โดยใช้เวลาการเดินทางเพียง 25 นาที ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบรายละเอียดเส้นทาง,รอบเวลาในการวิ่ง และอัตราค่าโดยสารของรถไฟใต้ดินได้ที่ https://www.bjsubway.com/en/
- รถยนต์ / แท็กซี่สาธารณะ เป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่ได้รับความนิยมเนื่องจากความสะดวกสบายและความยืดหยุ่นของเส้นทางและเวลาเดินทาง โดยอัตราค่าบริการแท็กซี่ภายในเมืองปักกิ่งจะเริ่มต้นที่ ประมาณ 13 หยวน และอัตราค่าบริการเหมาจากสนามบินไปยังในตัวเมืองปักกิ่งจะอยู่ที่ประมาณ 100 – 140 หยวน
และหลังจากมาถึงเมืองปักกิ่งแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินทางต่อไปยังจัตุรัสเทียนอันเหมิน ซึ่งอยู่ ใจกลางเมืองปักกิ่ง ได้หลายวิธี คือ
- รถโดยสารสาธารณะ จัตุรัสเทียนอันเหมินเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ประกอบกับพื้นที่ของจัตุรัสที่ค่อนข้างกว้างขวาง จึงมีรถโดยสารและจุดจอดให้นักท่องเที่ยวเลือกใช้บริการหลากหลาย อาทิ สาย 2, 5, 120, รถโดยสารท่องเที่ยวสาย 1 (城市观光1线) ที่จอดป้ายจัตุรัสเทียนอันเหมินตะวันออก (天安门广场西) หรือสาย 1, 17, 52, 82, รถโดยสารท่องเที่ยวสาย 2 (城市观光2线) ที่จอดป้ายเทียนอันเหมินตะวันออก (天安门东) โดยมีอัตราค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 2 หยวน/คน
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับหมายเลขรถโดยสารสาธารณะ, รอบเวลาและเส้นทางการวิ่งของรถโดยสารแต่ละเส้นทางได้ที่ http://beijing.8684.cn/
- รถไฟฟ้าใต้ดิน สามารถเลือกใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน สาย 1 ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางที่ให้บริการภายในเมืองปักกิ่ง เลือกลงที่ สถานี Tian’anmen West หรือ สถานี Tian’anmen East ซึ่งอยู่ติดกับจัตุรัสเทียนอันเหมิน โดยนักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบรายละเอียดเส้นทาง,รอบเวลาในการวิ่ง และอัตราค่าโดยสารของรถไฟใต้ดินได้ที่ https://www.bjsubway.com/en/
- รถยนต์ / แท็กซี่สาธารณะ เป็นอีกหนึ่งวิธีการเดินทางที่ได้รับความนิยมเนื่องจากความสะดวกสบาย และความยืดหยุ่นของเส้นทางและเวลาเดินทาง ทั้งนี้ อัตราค่าบริการแท็กซี่ภายในเมืองปักกิ่งจะเริ่มต้นที่ 13 หยวน โดยนักท่องเที่ยวสามารถเลือกดูเส้นทางที่เหมาะสมเพิ่มเติมได้ที่ https://map.baidu.com/
เวลาในการเปิด-ปิดทำการ
นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปเที่ยวชมบรรยากาศของจัตุรัสเทียนอันเหมินได้ทุกวัน และตลอดเวลา
อัตราค่าเข้าชม
ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
จัตุรัสเทียนอันเหมินและสิ่งที่น่าสนใจ
นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสถึงบรรยากาศอันยิ่งใหญ่ของจัตุรัสเทียนอันเหมินได้แทบจะทันทีที่มาถึง เนื่องจากพื้นที่กว่า 440,000 ตารางเมตรของจัตุรัสแห่งนี้ซึ่งเคยเป็นทั้งประตูสู่พระราชวังต้องห้ามที่มีแต่จักรพรรดิและขุนนางจะผ่านได้ และสถานที่ชุมนุมของผู้คนนับล้านท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของประวัติศาสตร์จีน
ผู้คนอันหลากหลายกับการมาร่วมฉลองและรำลึกถึงวันสำคัญที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน
ทั้งเด็กน้อย วัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่ต่างมาเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่แห่งประวัติศาสตร์
หลายคนอยู่ยาวจนถึงตอนค่ำและเลือกที่จะร่วมบันทึกภาพเหล่านี้ไว้เป็นความทรงจำ
ซึ่งนอกจากจัตุรัสที่เป็นสถานที่แห่งประวัติศาสตร์แล้ว ปัจจุบันบริเวณรอบๆของจัตุรัสเทียนอันเหมินยังมีสถานที่สำคัญอีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น อนุสาวรีย์วีรชน ซึ่งมีลักษณะเป็นเสาสี่เหลี่ยมตั้งอยู่ใจกลางจัตุรัส และบนเสาลายมือของประธานาธิบดีเหมา เจ๋อตุงเขียนสดุดีถึงผู้ที่สละชีพในเหตุการณ์สำคัญ ศาลาประชาคมของประเทศจีน หรือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจีน ซึ่งเก็บรวบรวมประวัติศาสตร์ของประเทศมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงทุกวันนี้ และที่ขาดไม่ได้คือพระราชวังต้องห้าม ที่อยู่ถัดไปจากจัตุรัสเทียนอันเหมินนั่นเอง
อนุเสาวรีย์วีรชนที่อยู่กลางจัตุรัสเทียนอันเหมินและอยู่ด้านหน้าของ
ในวันชาติจีน ด้านข้างของอนุสาวรีย์จะมีการประดับรูปของ ดร.ซุนยัดเซ็น บิดาของชาติจีนยุคใหม่
ศาลาประชาคม อันยิ่งใหญ่ของประเทศจีนที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับจัตุรัสเทียนอันเหมินเช่นเดียวกัน
หากเดินไปอีกนิดจะมองเห็นด้านข้างของศาลาประชาคมซึ่งมีพื้นที่รวมถึง 171,800 ตารางเมตร
และหากนักท่องเที่ยวมาเยือนจัตุรัสเทียนอันเหมิน ในช่วง งานเทศกาลวันชาติจีน (1 ตุลาคมของทุกปี) นักท่องเที่ยวจะสามารถชื่นชมกับการตกแต่งและประดับประดาจัตุรัสเทียนอันเหมินด้วยต้นไม้และดอกไม้อันสวยงาม, การประดับไฟยามค่ำคืน รวมไปถึงความคึกคักของประชาชนชาวจีนที่พร้อมใจกันออกมาร่วมฉลองที่จัตุรัสแห่งนี้ในวันดังกล่าวอีกด้วย
จัตุรัสเทียนอันเหมินในวันชาติจะเต็มไปด้วยการประดับต้นไม้และดอกไม้สีแดงอันเป็นสีประจำชาติจีน
รวมไปถึงการติดธงชาติและไฟประดับตามบริเวณอาคารรอบๆ
ซึ่งในยามค่ำคืนจะมีการเปิดไฟประดับทำให้กลายเป็นภาพที่สวยงามสุดเวลาหนึ่งของจัตุรัสเทียนอันเหมิน
อาคารด้านนอกก็ได้รับการประดับแบบเดียวกันและกลายเป็นหนึ่งในมุมถ่ายภาพที่ห้ามพลาดของจัตุรัสเทียนอันเหมิน
แม้มองจากถนนอีกด้าน ก็ยังคงเห็นความงามและความยิ่งใหญ่ของจัตุรัสเทียนอันเหมินในวันชาติจีน
เวลาที่เหมาะสมในการไปเที่ยว
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเยี่ยมชมความงามและสัมผัสบรรยากาศของจัตุรัสเทียนอันเหมินได้ตลอดทั้งปี ซึ่งหากอ้างอิงตามสภาพอากาศของเมืองปักกิ่ง ฤดูกาลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ เดือนมิถุนายน – เดือนสิงหาคม อันเป็นช่วงฤดูร้อนที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 25 – 32 องศาเซลเซียสและมีแสงแดดสาดส่องมากพอ ทำให้การเดินเที่ยวชมบรรยากาศของจัตุรัสเทียนอันเหมินสามารถทำได้อย่างเต็มที่ หรือหากนักท่องเที่ยวต้องการสัมผัสบรรยากาศในฤดูกาลอื่นๆ อาทิ ฤดูใบไม้ร่วง หรือฤดูหนาวก็สามารถทำได้เช่นกัน
โดยเสน่ห์อย่างหนึ่งของจัตุรัสเทียนอันเหมินที่ขาดไม่ได้ คือ ช่วงเวลาที่มีการทำพิธีเชิญธงชาติขึ้น – ลงเสาธง ที่จะใช้เวลาเพียงครั้งละ 3-4 นาทีเท่านั้น แต่ถือเป็นช่วงจังหวะเวลาอันสวยงามที่เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่ไม่ควรพลาดของจัตุรัสเทียนอันเหมิน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบเวลาในการเชิญธงชาติของแต่ละวันได้ที่ http://www.tiananmen.org.cn/show.htm?id=30750CF177138A63C168DC5495F6CFF7
พิธีเชิญธงชาติลงและนายทหารที่คอยดูแลรอบบริเวณเสาธงเบื้องหน้าจัตุรัสเทียนอันเหมิน
นอกจากนี้ หากนักท่องเที่ยวต้องการชื่นชมความคึกคักที่สุดของจัตุรัสเทียนอันเหมิน สามารถเลือกไปเที่ยวจัตุรัสเทียนอันเหมินได้ในช่วง เทศกาลวันชาติจีน (ต้นเดือนตุลาคม) ซึ่งเป็นวันที่ประชาชนจะพร้อมใจกันไปฉลองที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ซึ่งมีการประดับตกแต่งด้วยต้นไม้ดอกไม้ และแสงไฟในยามค่ำคืนอันสวยงามที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง (แต่มีข้อควรระวังคือในช่วงเวลาดังกล่าว จัตุรัสเทียนอันเหมินและบริเวณรอบๆ จะเนืองแน่นไปด้วยผู้คนจำนวนมาก หากนักท่องเที่ยวไม่ชินกับสถานที่ที่มีคนเยอะๆ ควรหลีกเลี่ยง)
ผู้คนที่เนืองแน่นจัตุรัสเทียนอันเหมินในวันชาติทั้งด้านบนและกลางลานจัตุรัส
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวควรใช้เวลาประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง ในการเยี่ยมชมจัตุรัสเทียนอันเหมิน และควรตรวจสอบพยากรณ์สภาพอากาศล่วงหน้า เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคในการเที่ยวชมได้ที่ https://www.accuweather.com/
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้ในการท่องเที่ยวจัตุรัสเทียนอันเหมิน และเมืองปักกิ่ง
จัตุรัสเทียนอันเหมิน ถือว่าตั้งอยู่ใจกลางเมืองปักกิ่งที่เดินทางไปมาได้สะดวกสบาย อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่ใกล้เคียงอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังต้องห้าม, หอสักการะฟ้าเทียนถาน หรือเดินไปช็อปปิ้งและหาของกินแสนอร่อยที่ถนนหวังฝูจิ่งอันขึ้นชื่อ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นที่ไหนต่างก็มีบรรยากาศและความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์รอให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชม
พระราชวังต้องห้ามแห่งปักกิ่งที่ตั้งอยู่ติดๆกับจัตุรัสเทียนอันเหมิน
ทั้งนี้ การเดินทางภายในปักกิ่งถือว่าสะดวกสบายและครอบคลุมเป็นอย่างมาก อีกทั้งตามระบบคมนาคมขนส่งสาธารณะอาทิ รถไฟ หรือรถไฟใต้ดินยังมีภาษาอังกฤษกำกับบอกซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว แต่อย่างไรก็ดี นอกจากระบบขนส่งสำคัญ และภายในสถานที่ท่องเที่ยวกับโรงแรมแห่งใหญ่ ยังไม่มีการให้บริการและการสื่อสารภาษาอังกฤษมากนัก นักท่องเที่ยวที่ ไม่มีพื้นฐานหรือไม่สันทัดภาษาจีน ควรพกหนังสือรวมคำศัพท์, รวมบทสนทนาพื้นฐานในภาษาจีน หรือแอพพลิเคชั่นเพื่อการแปลภาษา อาทิ Google Translate เผื่อไว้ด้วย
รถโดยสารสาธารณะของเมืองปักกิ่งที่มีให้บริการแม้เป็นเวลาค่ำแล้ว
ป้ายทางเข้าออกบางแห่งรวมถึงป้ายไฟวิ่งบอกรายละเอียดบางที่ก็ยังมีแต่ข้อความภาษาจีนเท่านั้น
และมีข้อควรระวังเพิ่มเติมคือ ประเทศจีนในปัจจุบันมี การบล็อกการเข้าถึงเว็บไซค์ Google (รวมถึงแอพลิเคชั่นต่างๆ เช่น Google Translate หรือการแปลภาษา), Facebook และ Instagram หากนักท่องเที่ยวต้องการใช้งาน ควร ใช้ซิมโทรศัพท์จากประเทศอื่นพร้อมเปิดระบบบริการโรมมิ่งข้ามประเทศ เพื่อให้สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ดังกล่าวได้
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ใช้ อินเตอร์เน็ตจากประเทศจีน หากต้องการสนทนาผ่านโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่นผ่านอินเตอร์เน็ต สามารถ ใช้โปรแกรม WeChat หรือ Weibo ซึ่งเป็นที่นิยมของชาวจีน และสามารถ ค้นหาข้อมูล จากเว็บไซต์ Baidu.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์หาข้อมูลของประเทศจีน แทน Google
หน้าจัตุรัสเทียนอันเหมินกับผู้คนที่พร้อมใจกันไปร่วมเฉลิมฉลองวันชาติจีน
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชมและสัมผัสบรรยากาศของจัตรุรัสเทียนอันเหมิน สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
จัตุรัสเทียนอันเหมิน เมืองปักกิ่ง , ประเทศจีน
(天安门 , Tian’anmen Square, Beijing, China)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน ตลอดเวลา
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ทุกฤดูกาล โดยช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเยอะที่สุดคือช่วงงานเทศกาลสำคัญอย่างวันชาติจีน
(ต้นเดือนตุลาคม) ที่จะได้รับการตกแต่งเป็นพิเศษ
ตั้งอยู่ที่ : เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน
โทร : (+88)0106-5118702 E-mail : webmaster@tiananmen.org.cn
เว็บไซต์ : http://www.tiananmen.org.cn/
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
จองตั๋วรถไฟ(ภาษาจีน) http://www.12306.cn/mormhweb/
จองตั๋วรถไฟ(ภาษาอังกฤษ) https://english.ctrip.com/trains/
บริการข้อมูลท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง http://en.bcia.com.cn/
รถไฟใต้ดินเมืองปักกิ่ง https://www.bjsubway.com/en/
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวเมืองปักกิ่ง http://english.visitbeijing.com.cn/
ภัตตาคารหูต้า เมืองปักกิ่ง http://www.hudafanguan.com/
แนะนำร้านอาหารในเมืองปักกิ่งจาก Palanla
นอกจากกำแพงเมืองจีนปาต๋าหลิ่งที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของเมืองปักกิ่งแล้ว เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเมืองปักกิ่งที่ขาดไม่ได้ ย่อมเป็นเมนูอาหารรสเลิศตามร้านต่างๆ ซึ่ง 1 ในนั้นคือ ภัตตาคารหูต้า (胡大饭馆 / Huda Restaurant)
ภัตตาคารหูต้าแห่งเมืองปักกิ่ง
ภัตตาคารหูต้าเป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงซึ่งเปิดบริการมายาวนาน มีเมนูขึ้นชื่อที่ไม่ควรพลาดอาทิ กุ้งก้ามแดง (Crayfish) หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า กุ้งล็อบสเตอร์น้ำจืด (Freshwater Lobster) นอกจากนี้ยังมีเมนูปูขนซึ่งราคาไม่สูงนัก ที่รอให้นักท่องเที่ยวมาลิ้มลองรสชาติกันได้ที่ถนนตงจื๋อเหมินเน่ย เขตตงเฉิน ของเมืองปักกิ่ง (東直門內大街 , 東城区 / Dongzhimennei Street, Dongcheng Area)
โต๊ะอาหารที่เต็มแน่นทุกโต๊ะกับเมนูอันน่าทานของภัตตาคารหูต้า
กุ้งก้ามแดง (Crayfish) หรือ กุ้งล็อบสเตอร์น้ำจืด (Freshwater Lobster) 1 ในเมนูยอดฮิตของร้าน
ปูขน อาหารจานเด็ดที่ราคาเพียง 200 หยวนแต่ได้ปูถึง 5 ตัว !
และเนื่องจากภัตตาคารหูต้าเป็นภัตตาคารอาหารชื่อดัง จึงมีลูกค้ามาคอยรับบริการเป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวจึงควรเผื่อเวลาในการรอคิวรับประทานอาหารประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง – 2 ชั่วโมง โดยสามารถเลือกนั่งรอคิวได้ในบริเวณที่ทางร้านจัดให้ (พร้อมบริการ Free wifi) หรือเดินแวะไปรองท้องก่อนเล็กน้อยกับร้านค้าอื่นๆ ซึ่งตั้งเรียงรายตลอดถนนสายนี้ได้
แถวลูกค้าที่มานั่งรอรับประทานอาหารของภัตตาคารใต้ป้ายชื่อตึกฮวาเจียหลิงหยวน
เต๊ณท์สำหรับลูกค้าที่มานั่งคอยคิวรับประทานอาหาร
คะแนนของร้านจาก www.palanla.com
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
อ่านต่อพระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ
อ่านต่อตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด
อ่านต่อรูปปั้นโมอาย ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
รูปปั้นโมอาย (Moai) เป็นรูปปั้นหินซึ่งมีรูปร่างคล้ายมนุษย์และส่วนศีรษะมีขนาดใหญ่เด่นชัด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงาม และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร
อ่านต่อตลาดปลานิโจ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
ตลาดปลานิโจ (Nijo Fish Market) เป็นตลาดปลาขนาดใหญ่ในเมืองซัปโปโรที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 100 ปี ตลาดแห่งนี้โด่งดังจากอาหารทะเลสดใหม่หลากหลายชนิด ร้านอาหาร และบรรยากาศที่คึกคัก เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวสำคัญของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวซัปโปโรจะต้องไม่พลาด
อ่านต่อชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
ชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ (Chitose Outlet Mall Rera) หนึ่งในเอาท์เล็ตมอลล์ขนาดใหญ่และได้รับความนิยมมากที่สุดบนเกาะฮอกไกโด ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบิน New Chitose Airport เพียง 10 นาที
อ่านต่อคลองโอตารุ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
คลองโอตารุ (Otaru Canal) เคยเป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลที่สำคัญของฮอกไกโดในอดีต ปัจจุบันยังคงมีอาคารเก่าแก่เรียงรายริมคลอง สะท้อนภาพวิถีชีวิตในอดีตให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส
อ่านต่อเนินแห่งพระพุทธเจ้า ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
เนินแห่งพระพุทธเจ้า (Hill of the Buddha) สถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของซัปโปโร โดดเด่นด้วยเศียรของพระรูปที่โผล่พ้นเนินเขาขึ้นมา ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณเดียวกันกับรูปปั้นหินโมอาย (Moai Statue) ฉายา “สโตนเฮนจ์แห่งฮอกไกโด”
อ่านต่ออามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
อามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค (Amanohashidate Park) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสันทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน และมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ภายในอามาโนะฮาชิดาเตะเรียงรายไปด้วยทิวของต้นสน ทางเดินทอดยาว มีสะพานอันเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ ตลอดจนศาลเจ้าให้แวะสักการบูชา
อ่านต่อวัดซันจูซันเก็นโด จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดซันจูซันเก็นโด (Sanjusanjen-do Temple) เป็นวัดพุทธนิกายเท็นได ที่ตั้งอยู่ในย่านฮิกาชิยามะ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ตัววัดมีชื่อเสียงโดดเด่นด้วยองค์เจ้าแม่กวนอิมปางค์ประทานพร (Senju Kannon) จำนวน 1,001 องค์ ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารไม้ยาว 120 เมตร ซึ่งถือเป็นวิหารไม้ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น
อ่านต่อ